เรื่องเด่น ตามรอยหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ (กลุ่มหลวงพ่อเงิน)

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย เจ๊ตุ้ม, 16 มกราคม 2013.

  1. อ้วน44

    อ้วน44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    602
    ค่าพลัง:
    +3,571
    .........


    [​IMG]
     
  2. เจ๊ตุ้ม

    เจ๊ตุ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,417
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,607
    [​IMG]
    ๑๐๐ ปีหลวงพ่อเงิน
    วัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน เดิมมีชื่อว่า “วัดวังตะโก” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่านเก่า ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ปัจจุบันมีพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ ฉายา ปิยทสฺโส อายุ ๕๔ พรรษาที่ ๓๒ รองเจ้าคณะตำบลท่าขมิ้น เป็นเจ้าอาวาส
    ตำนานการสร้างวัด กล่าวกันว่า เดิมที่หลวงพ่อเงินจากวัดคงคารามไปแล้ว ก็มาปลูกกุฏิด้วยไม้ไผ่มุงหลังคาด้วยแฝกอยู่องค์เดียว และพร้อมกันนั้นได้นำกิ่งโพธิ์มาปักไว้ที่ริมตลิ่ง (หน้าอุโบสถ) แล้วอธิษฐานว่าถ้าท้องถิ่นนี้จะเจริญรุ่งเรืองเป็นอารามต่อไป ก็ขอให้โพธิ์ต้นนี้งอกงามแผ่กิ่งก้านสาขาเป็นนิมิตดีต่อไปด้วย และเหตุการณ์ก็เป็นจริงดังอธิษฐานไว้ ซึ่งต่อมาพื้นที่แถบนั้นก็ได้ปรากฏเป็น "วัดวังตะโก" เกิดขึ้น พระอารามแห่งนี้ "หลวงพ่อเงิน" ได้เป็นผู้สร้างไว้เมื่อประมาณพ.ศ.๒๓๗๗

    พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ บอกว่า เมื่อครั้งที่มีชีวิตอยู่หลวงพ่อเงิน ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมากในสมัยนั้น มีผู้คนมาให้ท่านช่วยรดน้ำมนต์ให้ไม่ขาดสาย ลูกศิษย์ของหลวงพ่อเงินวัดบางคลานที่มีชื่อเสียงโด่งดังต่อมาก็มีหลายท่าน เช่น หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง ที่มีชื่อเสียงในด้านตะกรุดคู่ชีวิต หลวงพ่อน้อย วัดคงคาราม ผู้สร้างตะกรุดหนังปลากระเบน และตะกรุดหนังอีเก้ง ปลัดชุ่ม วัดท้ายน้ำ หลวงพ่อหอม วัดหลวง หลวงพ่อนวล วัดหาดมูลกระบือ หลวงพ่อฟุ้ง วัดปากน้ำ หลวงพ่อขำ วัดโพธิ์เตี้ย หลวงพ่อไป๋ วัดท่าหลวงพล ผู้สร้างเหรียญหล่อหลวงพ่อเพชรจำลอง หลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ เป็นต้น นอกจากนี้ศิษย์ฆราวาสก็คือเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
    แต่โอกาสนี้จะขอกล่าวถึง "เมื่อเสด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เสด็จไป ทรงพบกับหลวงพ่อเงิน บางคลาน โพธิ์ทะเล จ.พิจิตร" ตามบันทึกความด้วยสมองของผู้ตามเสด็จไปในครั้งนั้น คือคนสนิทของพระองค์ที่มีชื่อว่า "นายหลิ่ม"

    ครั้นเมื่อ...กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เสด็จไปยังวัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท อยู่เสมอๆ ด้วยความศรัทธามั่นต่อหลวงพ่อศุข เกจิอาจารย์ ผู้ปราดเปรื่องเรื่องเวทมนตร์คาถาอาคมนั้น พระองค์ได้พบกับความมหัศจรรย์ทางพุทธเวทย์เป็นที่ประจักษ์แก่สายตานับครั้งไม่ถ้วน จึงยกให้หลวงพ่อศุข เป็นอาจารย์ของพระองค์ ได้รับการถ่ายทอดวิชานานัปการ

    อันประมาณมิได้จากหลวงพ่อเป็นถ้วนทั่ว ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ มีปรีชาสามารถ ปรากฏตามเรื่องราวของพระองค์กับหลวงพ่อศุข ดังที่ได้เคยมีผู้รจนาไว้จำนวนมาก เป็นที่ทราบความกันดีแล้วๆ นั้น จึงมิขอกล่าวถึงอีก แต่จะกล่าวถึงครั้งหนึ่งที่หลวงพ่อศุขได้ทูลเสด็จในกรมมีความว่า

    "ถ้าจะดูของดีๆ แปลกๆ นอกเหนือจากของฉันแล้ว ก็เห็นจะมีเกลอกันกับฉันอีกองค์หนึ่ง เคยศึกษามาจากอาจารย์เดียวกัน คือท่านเงิน อยู่บางคลาน โพธิ์ทะเล เมืองพิจิตร หากจะไปหาก็จงบอกว่า ฉันแนะทางมาเถิด"
    เมื่อเสด็จในกรมได้ทราบดังนั้นแล้ว จึงมีความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเดินทางไปยังเมืองพิจิตร เพราะพระองค์ชอบ ในการแสวงหาบรรดาเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาอาคมขลังอยู่เป็นทุนแล้ว และเมื่อสบโอกาสอันเหมาะควรแล้ว จึงได้ชวนกันกับนายหลิ่มคนสนิท เดินทางไปเมืองพิจิตรทันที

    พิจิตร สมัยนั้นเส้นทางไม่สะดวกเหมือนสมัยนี้ พิจิตรเป็นเพียงเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง ซึ่งรายรอบไปด้วยป่าทึบโดยทั่วไป ระยะทางจากเมือง ไปยังหมู่บ้านรอบๆ พิจิตร กางกั้นด้วยป่าทึบบ้างป่าโปร่งบ้าง ห้วยละหานลำธารคุ้งคดเลาะลัดอยู่ทั่วๆ ไป การเดินทางจึงลำบาก ส่วนใหญ่นิยมใช้ช้างเดินทางเป็นหลัก เพราะจะต้องอาศัยความแข็งแกร่งของช้างเท่านั้น ที่จะผ่านไพรแบบนั้นไปได้

    โพธิ์ทะเล เป็นตำบลที่ห่างเมืองพิจิตรไปทางทิศใต้ใกล้เขตชุมแสง นครสวรรค์ จึงถูกปกคลุมไปด้วยป่าไม้เป็นส่วนใหญ่ สำหรับ บางคลาน อันเป็นที่ตั้งของวัดบางคลานก็เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ริมแม่น้ำยม ชิดเขตชุมแสง ซึ่งเต็มไปด้วยป่าโปร่งพันธุ์ใหญ่ๆ เกือบทั้งสิ้น รายรอบไว้ทุกด้าน

    เสด็จในกรมฯ กับคนสนิทคือ นายหลิ่ม ใช้ช้างเป็นพาหนะเดินทางจากเมืองนครสวรรค์ ขึ้นไปในฤดูแล้งของปีหนึ่ง ผ่านออกไปทางป่าทึบเมืองชุมแสง ลัดเลาะไปปากเกยชัยแหล่งชุกชุมด้วยจระเข้ ป่าเปลี่ยว เข้าเขตป่าลึกของชุมแสง
    ขณะที่กำลังเดินทางอยู่ วันหนึ่งตอนพระอาทิตย์กำลังพลบค่ำ และถึงเวลาพักช้าง เสด็จกรมหลวงฯ และนายหลิ่มได้ทำเลค้างแรมได้แล้วจึงเตรียมจะจัดทำอาหารนั้นเอง

    ก็ปรากฏร่างชายแก่ในชุดห่มขาว แต่คล่ำไปด้วย ความเก่าและขาดวิ่น หนวดเครายาวรุงรังนั่งสงบนิ่ง อยู่ในซุ้มไม้ใกล้กันนั้น
    ดวงตาหลับสนิท ริมฝีปากขมุบขมิบ บริกรรมพระเวทอยู่ตลอดเวลา เสด็จในกรม จึงตรงเข้าไปหา พร้อมกับนายหลิ่มคนสนิท ทันทีที่เดินเข้าไปใกล้ซุ้มไม้ อันร่มครึ้มนั้นชายแก่ก็ลืมตาขึ้น

    เสด็จในกรม ทราบได้ดีว่าเป็นผู้ทรงศีล จึงทำความเคารพและ ถามว่าเป็นใคร ก็ได้รับคำตอบว่าชื่อ เหมือน เที่ยวหาความสงบอยู่ตามป่าเขตนี้ เพื่อบำเพ็ญสมาธิ หลบหนีจากผู้คนหาความวิเวกอยู่ตามลำพัง


    หลังจากสนทนากันจนเป็นที่พอใจแล้ว นายหลิ่ม จึงชวนเสด็จในกรมให้กลับไปจัดการเรื่องที่พักและอาหารเสียก่อน สักครู่ เสด็จในกรมได้หันไปมองทางชายแก่นั้น น่าประหลาดใจ ไม่พบชายแก่ชื่อเหมือนคนนั้นเสียแล้ว จึงให้นายหลิ่มเดินตามหาในละแวกนั้นก็ไม่พบ เป็นที่แปลกมากในเวลาเพียงไม่นานนักที่ชายแก่ขนาดนั้น จะหลบเร้นหายไปได้อย่างรวดเร็ว นับเป็นเรื่องปาฏิหาริย์โดยแท้
    ลัดเลาะตามไพรทึบ จนถึงชายฝั่งแม่น้ำยม คนนำทางพาเลียบชายฝั่งแม่น้ำยมขึ้นไปทางเหนือ ฤดูแล้งน้ำในแม่น้ำยมขอดแห้ง สักครู่ก็พบวัดเก่าแก่อยู่ฝั่งตรงข้าม คนนำทางบอกว่า นั่นคือ วัดบางคลาน

    ที่ต้องการมาพบ หลวงพ่อเงิน
    เสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ ได้ข้ามแม่น้ำยม ซึ่งมีน้ำไม่มากนัก ช้างเดินข้ามสบาย สอบถามหา หลวงพ่อเงิน ได้ความว่า ออกป่าไปได้สองวันแล้ว ไม่ทราบว่าจะกลับมาเมื่อใด บางทีก็เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆ บางทีก็เจ็ดวัน พระในวัดรูปหนึ่งได้บอกกับเสด็จในกรมว่า ก่อนหน้าที่หลวงพ่อเงินจะออกไปป่าได้พูดเปรยขึ้นกับพระหลายรูปว่า

    "อีกสองวันจะมีคนดี เขามาหาฉัน เห็นทีจะอยู่ไม่ได้แน่ ต้องออกป่าสักพัก" แล้วท่านก็ออกป่าในเย็นวันนั้น
    เสด็จในกรมทรงแปลกพระทัยมาก ครั้นจะคอยอยู่ก็เกรงว่าจะไม่พบ และไม่ทราบว่านานเท่าใดหลวงพ่อจึงจะออกจากป่า จึงตัดสินพระทัยคอยอยู่สองคืน แล้วจึงกลับไปยังนครสวรรค์

    ขณะเดินมาถึงกลางทาง ได้พบกับชายแก่ที่ชื่อเหมือนอีก เสด็จในกรมอยู่บนหลังช้างได้เห็น ชายแก่ผู้นั้นเดินอยู่กลางทุ่งหญ้าไกลๆ จำได้ถนัด เพราะหลังคุ้มและใส่ชุดขาวเก่าคร่ำคร่าขาดวิ่น จึงเร่งช้างให้เข้าไปใกล้โดยเร็ว และทันใดนั้นเอง ชายแก่ก็ลับหายไปในทุ่งหญ้าอย่างรวดเร็ว ถึงแม้เสด็จในกรมจะนั่งช้าง เดินหาจนทั่วบริเวณก็หาพบไม่ ได้ทอดพระทัยและตรัสกับนายหลิ่มว่า เป็นเรื่องแปลกเหลือเกิน มาพิจิตรคราวนี้ต้องการ พบใครก็ไม่พบ

    เสด็จในกรมพักอยู่ที่นครสวรรค์ได้ ๑๐ วัน ตั้งใจจะกลับกรุงเทพฯ แต่ลังเลพระทัย จึงชวนนายหลิ่มว่า ลองขึ้นไปพิจิตรใหม่อีกครั้ง ก่อนออกเดินทางเสด็จในกรมให้นายหลิ่มหาซื้อ เสื้อคอจีนหนึ่งตัว ไม้คานหนึ่งอัน กางเกงจีนหนึ่งตัว สาแหรกและเข่งสองชุด หมวกกุ้ยเล้ยหนึ่งใบ แล้วจึงออกเดินทางด้วยช้างกับคนนำทาง ตรงไป วัดบางคลาน อีกครั้งหนึ่ง

    ระหว่างทางได้ไปพบ จระเข้เผือกขนาดใหญ่ นอนขวางลำน้ำอยู่ที่ปากเกยชัย เสด็จในกรมให้นายหลิ่มเอาขันตักน้ำมาทำน้ำมนต์ แล้วทรงปลุกเสกร่ายพระเวทย์บริกรรมทำน้ำมนต์อยู่เป็นเวลานาน แล้วเทน้ำมนต์ลงไปในน้ำ ซึ่งจระเข้นอนขวางทางอยู่ ทันทีที่น้ำมนต์เทออกจากขัน กระทบผิวน้ำ จระเข้เผือก ที่นอนสงบนิ่งอยู่ ก็ฟาดหางไปมา แล้วดำน้ำหายไปทันที เหลือแต่พรายน้ำวนเป็นวงกลมอยู่เบื้องหน้าเสด็จในกรม

    จากนั้นเสด็จในกรม จึงได้เดินทางต่อไป จนลุถึงริมฝั่งแม่น้ำยม ขณะนั่งพักช้างปล่อยช้างกินหญ้ากินน้ำอยู่นั่นเอง ก็เหลือบไปที่โคนต้นไม้ใหญ่ ใกล้กันนั้นเห็นชายแก่ชื่อเหมือนที่พบกันครั้งก่อนนั่งหลับตาสงบนิ่งอยู่ เสด็จในกรมจึงรีบตรงเข้าไปแสดงความเคารพ

    ผู้เฒ่าเหมือนลืมตาขึ้น แล้วบอกว่า "พรุ่งนี้เข้าไปหาท่านจึงจะพบ"
    เสด็จในกรมนั่งฟังโดยไม่ได้กล่าวอะไร ผู้เฒ่าเหมือนก็เอ่ยขึ้นอีกว่า "หลวงพ่อท่านไม่ชอบเจ้าชอบนาย"

    เสด็จในกรมนั่งเงียบฟังเฉยอยู่ ผู้เฒ่าเหมือนได้ล้วงลงไปในย่าม แล้วหยิบแหวนทองเหลืองออกมาจากย่าม แล้วส่งให้เสด็จในกรมแล้วพูดว่า
    "เก็บไว้ให้จงดี ฉันทำเตรียมไว้แต่ครั้งก่อน แต่ยังเป็นยามไม่เหมาะ จึงให้ไม่ได้"
    เสด็จในกรมรับแหวนจากมือผู้เฒ่า แล้วก้มลงพิจารณาแหวนนั้น เป็นแหวนทองเหลืองอมดำออกสีคล้ำๆ ตรงกลางแหวนมีเหล็กแร่สีดำ เป็นมันฝังอยู่เม็ดเล็กๆ หนึ่งเม็ด แล้วมีอักขระขอมลงด้วยเหล็กจารรอบๆ วง เสด็จในกรมตรัสว่า คงจะเป็น เหล็กไหล แล้วเงยหน้าขึ้นไปมองทางผู้เฒ่าเหมือน ปาฏิหาริย์ ผู้เฒ่าเหมือนหายไปจากตรงนั้นแล้ว รวดเร็วอย่างไม่คาดฝัน เสด็จในกรมถึงกับอุทานออกมา แล้วหันมามองทางนายหลิ่ม ซึ่งนั่งอ้าปากค้างอยู่

    เลียบฝั่งแม่น้ำยม อันแห้งขอดขึ้นไปทางเหนือเหมือนครั้งที่แล้ว มุ่งหน้าตรงเข้า วัดบางคลาน ทันที พบพระอยู่หน้าวัด เสด็จในกรมถามว่า หลวงพ่ออยู่หรือเปล่า ก็ได้รับคำตอบว่า อยู่ที่กุฏิพลางชี้มือไปที่กุฏิ เสด็จในกรมจึงมุ่งหน้าตรงไปที่กุฏิทันที แต่ก็พบกับความว่างเปล่า ไม่มีหลวงพ่อเงินบนกุฏิ ไม่มีหลวงพ่อเงินในบริเวณวัด พระเณรช่วยกันหาเป็นเวลานานก็ไม่พบหลวงพ่อ
    เสด็จในกรมนั่งคอยอยู่ที่กุฏิ จนเย็นเห็นว่าไม่พบแน่ จึงสั่งคนนำทางและนายหลิ่มให้เดินทางกลับในวันนั้น ข้ามแม่น้ำยมมายังฝั่งชุมแสง พักแรมอยู่ในละเมาะไม้ใกล้ชายฝั่ง แล้วตรัสกับนายหลิ่มว่า "พรุ่งนี้เช้ากลับแน่ พักนครสวรรค์สักสองคืนแล้วเข้ากรุง"

    เช้าวันรุ่งขึ้นในตอนสาย เสด็จในกรมถามหาสิ่งของที่ให้นายหลิ่มซื้อมาจากนครสวรรค์ เมื่อได้ของครบแล้ว บอกให้นายหลิ่มไปคอยที่ริมฝั่งแม่น้ำ แล้วเสด็จในกรมหายเข้าไปในป่าสักครู่ ก็ออกมาที่ริมฝั่งแม่น้ำยม ฝั่งตรงข้ามหน้าวัดในชุดชาวจีนหาบของสวมหมวกกุ้ยเล้ย บอกให้นายหลิ่มเดินตามหลังไปห่างๆ แล้วเสด็จข้ามแม่น้ำยม มุ่งไปยังวัดบางคลานทันที ถึงศาลาหน้าวัดเห็นพระแก่รูปร่างใหญ่โต ลักษณะท่าทางน่าจะเป็น หลวงพ่อเงิน นั่งหันหลังออกมาฝั่งที่ขึ้นไป ตัดสินพระทัยแน่นอนว่า ต้องเป็น หลวงพ่อเงิน แน่ จึงรีบวางหาบของแล้ววิ่งเข้าไปทางข้างหลัง เมื่อถึงจึงโอบมือรัดเอวเอาไว้แน่น พลางตรัสขึ้นด้วยเสียงอันดังว่า

    "ได้หลวงพ่อแล้ว ได้หลวงพ่อแล้ว"
    หลวงพ่อหันหน้ามามอง แล้วเอ่ยขึ้นด้วยเสียงอันดังเช่นกันว่า

    "เสียท่าเขาแล้ว เสียท่าเขาเข้าแล้ว"
    เสด็จในกรมก้มเข้ากราบหลวงพ่อเงิน พอเงยหน้าขึ้นมาหลวงพ่อเงินได้พูดว่า
    "วันนี้เป็นยามดี ที่เราจะได้พบกับลูกศิษย์ท่านศุข นี่พยายามดีเหลือเกิน"

    จากนั้นหลวงพ่อเงินได้เดินนำเสด็จในกรมขึ้นไปบนกุฏิ เมื่อถึงบนกุฏิได้นั่งสนทนาถามถึงทุกข์สุขของหลวงพ่อศุขว่าเป็นอย่างไรบ้าง อยู่พอสมควร หลวงพ่อเงินก็เอ่ยขึ้นกับเสด็จในกรมว่า

    "คอยสักครู่เถอะ ฉันจะสรงน้ำก่อน"
    หลวงพ่อเงินพูดแล้วลุกขึ้นจากที่นั่งเดินหายเข้าไปในกุฏิ เป็นเวลาไม่กี่อึดใจ ก็ปรากฏเสียงดัง "กริ๊ก กริ๊กๆๆ" ขึ้นที่กาน้ำซึ่งวางอยู่ข้างเสากลางกุฏิ ทั้งเสด็จในกรมและนายหลิ่มหันไปที่กาน้ำนั้นทันที เสียง "กริ๊ก กริ๊ก กริ๊ก" ยังดังอยู่ต่อไป ทำความแปลกใจให้เสด็จในกรมอย่างยิ่ง จึงอดทนต่อความสงสัยต่อไปไม่ได้ ตรงเข้าไปที่กาน้ำนั้นทันที พลางเปิดฝาออกดูว่ามีสิ่งใดอยู่ภายใน ทันทีที่เสด็จในกรมเปิดฝาออกก็ถึงกับพรึงเพริดพระทัยแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง ร้องเรียกว่า

    "ไอ้หลิ่มมาดูอะไรนี่ซิ" นายหลิ่ม(ต่อมาเมื่อกรมหลวงชุมพรทิวงคต นายหลิ่มก็ออกบวชที่วัดโรงช้างจ.พิจิตร หรือก็คือหลวงตาหลิ่ม)รีบตรงเข้าไปก้มมองดูในกา ถึงกับอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ถูก เพราะว่าภาพที่ปรากฏในกาน้ำใบนั้นคือ
    ร่างของหลวงพ่อเงินขนาดเล็กเท่าปลายนิ้วก้อย มือกำลังสรงน้ำถูเนื้อถูตัวอยู่อย่างขะมักเขม้น น้ำในกากระเพื่อมไปมา จนกระฉอกกระเด็นออกมานอกกาน้ำ
    เสด็จในกรมค่อยๆ ปิดฝากาลงอย่างฉงนพระทัยเป็นอย่างยิ่ง พลางตรัสกับนายหลิ่มว่า

    "ไม่เสียเที่ยวที่มาเมืองพิจิตร หลวงพ่อท่านพูดไว้ถูกทีเดียวว่า จะได้ดูของแปลกๆ นอกเหนือจากท่านก็ให้มาที่นี่"
    หลวงพ่อเงิน สามารถรู้วาระจิตผู้มาเยือนด้วยญาณวิเศษได้อย่างมหัศจรรย์ และยังเป็นหมอเชี่ยวชาญในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้แก่ชาวบ้านได้อย่างชะงัดอีกด้วย เคยมีผู้ไปลองดีกับท่าน ท่านก็แอ่นอกให้ยิง แต่กระสุนไม่ยอมออกจากลำกล้อง ความศักดิ์สิทธิ์เยี่ยงอัจฉริยะของ หลวงพ่อเงิน บางคลาน นับว่าร่ำลือกันไปไกลมาก จนถึงขนาดเสด็จในกรม "กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์" ก็ยังเสด็จไปฝากตัวเป็นศิษย์ด้วย

    “หลวงพ่อเงินเกิดเมื่อวันศุกร์ เดือน ๑๐ ปีฉลู ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ.๒๓๔๘ ท่านได้มรณภาพ ด้วยโรคชรา เมื่อวันศุกร์เดือน ๑๐ แรม ๑๑ ตรงกับวันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ.๒๔๖๒ รวมอายุได้ ๑๑๑ ปี พรรษาที่ ๙๐ รวมระยะเวลากว่า ๒๐๐ ปี แต่บารมีของท่านยังคงอยู่ ยังคงเป็นที่พึ่งทางใจของพุทธศาสนิกชนเหมือนเมื่อครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่ และสิ่งหนึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดี คือ ช้างแก้บนที่มีผู้นำมาถวายทุกวัน ส่วนคำร่ำลือเรื่องพุทธคุณพระหลวงพ่อเงินนั้นมีเรื่องเล่าไม่รู้จบ”
    และเราก็ได้ศึกษาและตามหาไม่รู้จบเช่นกัน
    [​IMG]

    พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
    กล่าวนามท่านโดยทั่วไป ว่า เสด็จเตี่ย หลายคน กล่าวพระนามท่านไป โดยไม่ทราบว่า มาจากอะไร เหตุใดจึงกล่าวพระนาม กรมหลวงชุมพรฯว่า เสด็จเตี่ย มีคำตอบเหล่านั้นมาให้ท่านได้ทราบครับ
    การที่ มีคนขนานนาม กรมหลวงชุมพร ว่า เสด็จเตี่ย นั้น เริ่มจาก ได้มีบันทึกไว้ในปูมของทหารเรือตอนหนึ่งว่า " เสด็จในกรมฯ มีพระเมตตาต่อนักเรียนนายเรือยุคแรกๆ ที่จำนวนหนึ่งมีอายุไล่เลี่ยกับพระองค์ ที่ลำบากใจในการใช้ราชาศัพท์ และอีกจำนวนหนึ่งก็เยาว์วัย ซึ่งพระองค์ทรงรักและเมตตาดั่งลูกหลาน จึงทรงใช้คำแทนพระองค์ว่า " เตี่ย " หรือ " สีเตี่ย " ย้ำ-สีเตี่ย-ถูกต้อง)”
    นอกจากนั้น สมัยที่ กรมหลวงชุมพร ออกไปรักษา ชาวบ้าน ทรงวางพระองค์เป็นหมอชาวบ้านธรรมดาว่า “หมอพร” ไม่ประสงค์ให้ใครเรียกพระองค์ว่ากรมหลวงชุมพร ชาวจีนย่านสำเพ็งมีความรักและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ และเรียกขานพระองค์ว่า " เตี่ย " ซึ่งหมายถึง พ่อ หรือ หมอพร ที่ชาวบ้านรักใคร่บูชา ในด้านของความรัก และระลึกในพระกรุณาธิคุณ ซึงเป็นที่มาอีกทางหนึ่ง แต่แท้จริงแล้ว กรมหลวงชุมพร มี ความประสงค์ของพระองค์ท่านที่มักจะเรียกแทนพระนามว่าเตี่ย เพราะเป็นคำที่เรียกแล้วใกล้ชิดกับชาวบ้าน ที่พระองค์รักนั้นเอง ความรักชาติ รักแผ่นดิน และประชาชน มีให้เราลูกหลานได้ระลึกปฎิบัติ ตามบันทึก ของ กรมหลวงชุมพร ที่ว่า

    "กูกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักด์" ผู้เป็นโอรสของพระปิยมหาราช
    ขอประกาศให้รับรู้ไว้ว่า
    แผ่นดินสยามนี้ บรรพบุรุษ ได้เอาเลือดเอาเนื้อเอาชีวิตแลกไว้
    ไอ้อีมันผู้ใด คิดชั่วร้ายทำลายแผ่นดิน ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
    ฤา กระทำการทุจริต ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อส่วนรวม จงหยุดการกระทำนั้นเสียโดยเร็ว
    ก่อนที่ที่กูจะสั่งทหารผลาญสิ้นทั้งโคตรให้หมดเสนียดของแผ่นดินสยามอันเป็นที่รักของกู
    ตราบใดที่คำว่า "อาภากร"ยังยืนหยัดอยู่ในโลก กูจะรักษาผืนแผ่นดินสยามของกู
    ลูกหลานทั้งหลาย แผ่นดินใดให้เรากำเนิดมา มิให้อนาทรร้อนใจ จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น
    แผ่นดินใดที่ให้ซุกหัวนอน ให้ความร่มเย็นเป็นสุข มิให้อนาทรร้อนใจ จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • news_1329733120.jpg
      news_1329733120.jpg
      ขนาดไฟล์:
      134.3 KB
      เปิดดู:
      695
    • zz.jpg
      zz.jpg
      ขนาดไฟล์:
      210.4 KB
      เปิดดู:
      1,590
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2013
  3. พีร

    พีร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2012
    โพสต์:
    2,423
    ค่าพลัง:
    +7,409
    :cool::cool::cool:ขอบคุณข้อมูลดีๆครับเจ๊:cool::cool:
     
  4. THEKOP1988

    THEKOP1988 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +3,037
    หลวงพ่อเงิน พิมพ์ชาวบ้านวัดโรงช้างครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    แจ้งให้สมช.ทราบครับอิอิ:cool::cool::cool:
    ถือว่าในสายกลางอย่างเราๆนั้นเป็นพิมพ์วาระสาม ซึ่งจัดสร้างอยู่ในช่วงปลายขององค์หลวงปู่ครับ แต่จะเก็บให้ละมัดระวังกันนะครับ มีเก๊ออกมามานะครับ แต่ความเก่าจะไม่ถึง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2013
  5. พีร

    พีร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2012
    โพสต์:
    2,423
    ค่าพลัง:
    +7,409
    พอดีจะเช่าต่อน้องครับดูให้ทีครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • _12E1A~1.JPG
      _12E1A~1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      158.8 KB
      เปิดดู:
      191
    • _19B7A~1.JPG
      _19B7A~1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      175.8 KB
      เปิดดู:
      108
  6. THEKOP1988

    THEKOP1988 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +3,037
    ผมว่าดีนะครับ :cool::cool::cool:
     
  7. หลวงพี่ทัต

    หลวงพี่ทัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +1,975
    สวยยย

    เนื้อหาจัดจ้านดีจ๊ะ
     
  8. THEKOP1988

    THEKOP1988 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +3,037
    ขอบคุณพี่เจ๊ครับที่คอยเติมความรู้ให้กับสมช.ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ครับ(f)(f)(f)
     
  9. หลวงพี่ทัต

    หลวงพี่ทัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +1,975
    สวยย

    ดูเข้มขลังดีจังจ๊ะ
     
  10. THEKOP1988

    THEKOP1988 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +3,037
    เดินทางปลอดภัยครับพี่

    : Z8: Z8: Z8: Z8
     
  11. THEKOP1988

    THEKOP1988 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +3,037
    ขอบพระคุณครับ พระคุณเจ้า
     
  12. weetak

    weetak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2013
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +232
    ซาบซึ้งใจจริง ๆ
     
  13. smurf1

    smurf1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    459
    ค่าพลัง:
    +1,067
    สวัสดียามบ่ายๆครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Clip.jpg
      Clip.jpg
      ขนาดไฟล์:
      115.1 KB
      เปิดดู:
      109
  14. พีร

    พีร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2012
    โพสต์:
    2,423
    ค่าพลัง:
    +7,409
    :cool:
    :cool::cool::cool::cool:สวยครับ:cool::cool::cool:
     
  15. THEKOP1988

    THEKOP1988 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +3,037
    สวยครับป๋าเมิร์พ:cool:
     
  16. smurf1

    smurf1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    459
    ค่าพลัง:
    +1,067
    ********************************************
    กำลังหัดจัดรูปภาพครับ
     
  17. smurf1

    smurf1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    459
    ค่าพลัง:
    +1,067
    อีกองค์นึงครับ....ยังไม่ค่อยเป็น...ถ้าดูดีเดี๋ยวจะลองไปจ้างเขาถ่ายดีกว่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Clip_2.jpg
      Clip_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.8 KB
      เปิดดู:
      98
  18. smurf1

    smurf1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    459
    ค่าพลัง:
    +1,067
    อีกองค์ครับ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิมพ์นิยม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • clip_3.jpg
      clip_3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      262.3 KB
      เปิดดู:
      110
  19. พีร

    พีร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2012
    โพสต์:
    2,423
    ค่าพลัง:
    +7,409
    ชอบครับองค์นีดูดีจริงๆ:cool::cool:
     
  20. เจ๊ตุ้ม

    เจ๊ตุ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,417
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,607
    เดี๋ยวว่างๆ จะคุยเรื่องการถ่ายรูปหลวงปู่ เอาแบบตามมีตามเกิดนะครับหรือท่านใดมีเทคนิคอะไรแชร์ได้นะครับจะได้เป็นประโยชนแก่เพื่อนสมาชิคครับรวมถึงการแต่งรูปแบบง๊ายง่าย
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 85965695.jpg
      85965695.jpg
      ขนาดไฟล์:
      118.6 KB
      เปิดดู:
      1,112

แชร์หน้านี้

Loading...