แนะนำตัวตน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย oatthidet, 19 เมษายน 2013.

  1. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผมเป็นปุถุชนคนธรรมดา

    ไม่ได้เป็นอริยะมาจากไหน

    และไม่สนว่านิพพานเป็นอย่างไร

    ไม่ใส่ใจเรื่องอริยะและนิพพาน

    แค่จะเป็นคนดีก็ยากแล้ว

    ไม่อยากแห้วใฝ่ฝันความสวยหรู

    เมื่อเส้นทางที่เห็นเป็นประตู

    ขอมุ่งสู่ความไม่เกิด แก่ เจ็บ ตาย

    ผมเป็นปุถุชนคนธรรมดาที่ไม่ได้มีความเป็นอริยะตรงไหน

    ไม่ได้เลิสหรูแต่อย่างใด และ ไม่สนใจเรื่องนิพพาน

    แค่เป็นปุถุชนที่ดีก็เป็นได้ยากแล้ว จะให้เป็นสิ่งที่อยู่สูงคงทำไม่ได้

    ความเพ้อฝันไม่ได้ช่วยให้มีความสุข ซ้ำยังนำความทุกข์มาให้อีก

    ผมปราถนาไม่มาเกิดอีกแล้ว ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไรก็ตาม หากเป็นไปได้

    ฉนั้น ผมขอร้องว่า อย่ามาคุยเรื่อง นิพพาน อริยะ อิทฤิทธิ์ สวรรค์ ชั้นพรหม

    หากจะคุยกับผม ขอเป็นเรื่อง จิตใจ ที่สัมผัสได้จริงๆ เห็นจริงๆ รู้จริงๆ

    เพราะสิ่งที่ต้องนึกคิด ผมไม่สนใจครับ ขอบคุณที่เข้าใจครับ

    สาธุครับ
     
  2. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ขอให้ปากกับใจตรงกันนะครับ ไอ้ที่ปราถนาไม่มาเกิดนั้นแหละ่ครับ คือเรื่องราวที่ท่านกล่าวว่าไม่อยากจะเห็นไม่อยากจะเป็น คุณสับสนอะไรหรือเปล่าครับโอ๊ต
     
  3. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    เขาก็ไม่ได้สับสนนี้ ตั้งแต่ เข้ามาในเว็บ ก็ ประกาศสิ่งนี้เอาไว้ แต่ต้น

    คือเข้ามาปฏิเสธ " การมีศาสดา นิพพานที่ต้องอาศัยการมีศาสดา "

    เรียกว่า มาปฏิเสธ ความรู้ วิชชา บรรดามี ที่มีอยู่ก่อนหน้าทั้งหมด

    แล้ว สิ่งที่ตนค้นพบนั้น เป็นสิ่งที่ตน เห็นเอง ตรัสรู้โดยชอบโดยปราศ
    จากคนชี้ทาง คนกล่าวให้รู้จัก นิพพานที่เราๆได้ยิน เขาไม่รับว่า เขา
    ได้ยินมาเหมือนกับเรา แต่ เขาเห็น สภาพธรรมบางอย่างนั้นด้วยตนเอง

    มาประกาศความเป็น " จ้าวศาสดาใหม่ " "คำสอนใหม่" ทั้งหมด

    ซึ่ง สิ่งที่เขาประกาศ ก็ไม่ใช่อะไรอื่น เป็นเรื่อง "การหลงการทำกาละ"
    เห็น " โลกขาดสูญ " อย่างหนึ่งเท่านั้น

    ภาษาบรรพบุรุษเรียกว่า " ตัดช่องน้อยแต่พอตัว "
     
  4. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ไม่ได้ สับสน อะไร แต่เพราะไม่เห็นอะไร

    คุณไม่เข้าใจเอง อธิบายไปคุณก็ไม่เข้าใจ

    ผมมีพระศาสดา เป้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    แต่ผมไม่รู้จัก นิพพาน ผมรู้แต่ว่าทำไมถึงมาเกิด

    และก็ จะต้องทำอย่างไร ระยะเวลา เท่านั้นที่เป็นปัจจัย

    สาธุครับ
     
  5. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    คุณ ถูกแค่ครึ่งเดียว อีกครึ่งไม่ถูก

    ผมไม่สนใจเรื่องการเป็นศาสดาใหม่อะไรนั่นเลย

    ผมศัทธา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงสั่งสอนวิถีแห่งการหลุดพ้น

    การตัดช่องน้อยแต่พอตัว เป็นเรื่องปกติ เพราะมาคนเดียวก็ไปคนเดียว

    สนทนากันมาก็นานแล้ว น่าจะเข้าใจได้บ้างนะครับ

    สาธุครับ
     
  6. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    แค่การมีชีวิต ก็ลำบากแล้ว

    จะคอยสนใจสิ่งที่มองไม่เห็นไปเพื่ออะไร

    สนใจแต่สิ่งที่มองเห็น สัมผัสได้จริงดีกว่า

    สาธุครับ
     
  7. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    เอาหน่า คุณ ก็พอใจอยู่แล้ว ที่ผมไม่เห็นตัวตนอันแท้ ของคุณ
    การที่ ตีเข่าคุยกันแล้วมันพลาดไปโดนกล่องดวงใจบ้าง มันก็
    เรื่องปรกติของผม ที่ตาบอดถือตะเกียงตีเข่า ป๊าปปป เข้าไป

    คนไม่มีตาอย่างผม คุณก็ไม่ได้ถือสา อยู่แล้วเนาะ

    แต่ จริงละหรือ ที่ว่า มี พระสมณะโคดม เป็นพระศาสดา

    ถ้ามีจริง ไหนยกพระสูตร พุทธวัจนะ มาแสดงแทน คำพูด
    ของตนสักสองสามเดือน

    มีแสงธรรมฉายออกมาบ้าง ตาบบอดอย่างผมคงพอเห็นเป้า
    ได้บ้าง จะได้ไม่ตีพลาดไง

    ************

    อ้อ แล้วอย่าลืม สิครับ คุณเกิดมาเนี่ยะ เหตุของการเกิด
    เนี่ยะก็คือ " การมาเป็นเผ่าพันธ์ " เกิดมาเป็นสัตว์ชื่อ
    มนุษย์ สัตว์สังคม ถ้าทราบเหตุของการเกิดจริง ก็ต้อง
    ยอมรับสิว่า เกิดมาเพื่อเป็นสัตว์สังคม ไม่ใช่ เกิดมาเป็น อมยิ้ม !!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2013
  8. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ไม่มีใครปราถนาอะไรโดยไม่คิดอะไร มันเป็นเพียงวาทะที่ดูดีเท่านั้นผู้ที่จะทำได้นั้นคืออรหันต์เท่านั้นท่านก็บอกว่าเป็นปุถุชน จะกล่าวคำนี้นั้นขัดแยงกันเองอย่างมากเลยสับสนๆ โอ๊ด
     
  9. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผมเข้าใจ เจตานอันดี ของคุณครับ

    ผมเคยลองศึกษาดูแล้ว พระไตรปิฎก

    ผมอ่านแล้ว ก็ต้องหยุดอ่าน

    อย่างที่ผมเคยบอกคุณ แพททิก ว่า

    มีการเปลี่ยนแปลง มีการหยิบยกออกไป

    คนตาบอดถือตะเกียง นั้น เป็นสิ่งที่ดี เป้นอุทาหรณ์อย่างดี

    ขอบคุณในน้ำใจ ที่หวังดีต่อผม

    สิ่งที่ผมเห้นจากคำสอนของพระพุทธองค์

    คือการเอาชนะความเคยชินที่มีอยู่ในตนเอง

    เพราะเป้นสัตว์สังคม เลยต้องมาเกิดไม่รู้จักจบสิ้น

    สาธุครับ
     
  10. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ปราถนา เพราะเห็นทุกข์

    หากจะหยุด ก็หมั่นปฎิบัติธรรมนั่งกรรมฐาน

    หนทางมีสั่งสอนไว้ดีแล้ว

    สิ่งที่ต้องจินตนาการ ผมไม่สนใจครับ

    สาธุครับ
     
  11. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    กล่าวอย่างนี้ค่อยน่าฟังหน่อยโอ๊ต
     
  12. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    คนที่เป็น ศิษยตถาคตเนี่ยะ ไม่ทำอะไร สวนกับ จรณะของ พระพุทธองค์หรอก

    ถ้ายังมีปฏิปทา ไม่ลงรอยกัน ก็ยังไม่ชื่อว่า สาวก โอกาสจะเป็น ก็อาจจะไม่มีไปด้วย

    " จินตนาการ " ฟังแล้ว ดูน่ากลัว น่าครั้นคร้าม สะดุ้ง หวั่นไหว

    แต่ถ้าเป็น ศิษย์ตถาคต ก็จะพิจารณาไปเลยว่า มีคุณอย่างไร ใช้ตอนไหน
    มีโทษอย่างไร ละตอนไหน

    แต่ถ้าต้องใช้ หรือ ต้องคอยละ เขาก็เรียกว่า ผู้ข้อง ผู้เกี่ยว ขนหัวแสตนด์อัพ จริงไหม

    ดังนั้น

    ศิษย์ตถาคตทุกคน จะเรียก คุณ และ โทษ รู้ถ้วนใน คุณ และ โทษ ของ
    ธรรมที่ทำให้สะดุ้ง ไม่มั่นคง แล้วก็ยังรู้ เห็น " อุบายนำออกที่ถูกวิธี "

    พอ รู้เห็น "อุบายนำออกที่ถูกวิธี" ก็จะประกาศความเป็น ศิษย์ตถาคต

    แต่ตราบใดที่ ไม่รู้ อุบายนำออกที่ถูกวิธี ก็จะ ขนหัวลุก กลัว "จินตนาการ"
    เสียจนออกอาการวิกลจริต เป็นธรรมดา ศรัทธาพระศาสดาได้แต่ปาก
     
  13. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    เมื่อรู้แล้ว จะยังสนใจอยู่ไหมครับ

    สาธุครับ
     
  14. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    มาถามผมไม่ได้หรอก

    หากเห็น "อุบายนำออกจริง" รู้แล้ว ละวาง ได้จริง

    คุณก็ต้องตรวจสอบของคุณเอง

    อย่าง เห็นแสงเท่าหัวไม่ขีด เห็นแล้ว กล้าขยายมันไหม

    ขยายมันแล้ว ยังต้องสะดุ้งกับ จินตาการ ที่เกิดขึ้น หรือเปล่า
    หรือว่า ต้องหวั่นไหวเพราะเกรงโดนมันครอบงำไปอย่างเคยๆ
    ไหม ซึ่งเมื่อไหร่โดนมันครอบงำ เราก็จะใช้คำพูดที่เราจินตนาการ
    ขึ้นมาเอง

    แต่ถ้าเราไม่โดน จินตนการครอบงำ "มีอิสระแท้จริง" โอ้ยสบายเลย
    จะหยิบจับคำตถาคต พระสูตรไหนก็ได้ เอามากล่าว

    แม้จะเกิด ความไม่เข้าใจ แล่นไปเป็น จินตนาการ แม้จากตน
    หรือ จากคนที่ฟัง ก็หาได้หวั่นไหวไม่
     
  15. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    หากรู้เช่นนั้น คุณก็ไม่มีความจำเป็น

    ที่จะต้องมาแนะนำผมครับ

    ต้องเป็นผมแนะนำตัวผมเอง

    ถูกไหมครับ

    สาธุครับ
     
  16. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ก็นั่นแหละ

    ตราบใดที่คุณยังต้อง ออกปาก เอ่นเอื้อน ถามคนอื่นว่า " ถูกไหมครับ "

    หรือแม้กระทั่ง " สาธุครับ " ตรงนี้มันก็บอกในตัวอยู่แล้วว่า คุณต้อง
    อาศัยคนอื่น คอยชี้ และ แนะนำอยู่

    คนที่ยังต้องถาม " ถูกไหมครับ " หรือ ต้องคอย "สาธุครับ" ไม่ใช่
    ลักษณะคนที่ พึ่งพาปัญญาของตนได้ ยังต้องคอยการตอบรับ
    และ อาศัยการแสดงการตอบรับ ยังต้องคอยก๊อปปี้ หรือ แบมือรับ
    " สิ่งดีๆ " ที่จะผ่านเข้ามา

    " หิว " และ " พร่อง" " มันไม่เต็ม "
     
  17. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    อันนี้ ไม่สมควรสนทนาเลยครับ

    การเล่นลิ้นแบบนี้ ผมขอผ่านครับ

    เมื่อเห็นเป็นเรื่องสนุก อย่าคุยกันเลยครับ


    สาธุครับ
     
  18. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ศิลปินแต่ละคน ถึงแม้จะวาดภาพเดียวกัน ดูเผินๆ โดยรวม ออกมาคล้ายกัน
    แต่ถ้าดูให้ละเอียด ถึงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ จะเห็นถึงนิสัยของศิลปินคนนั้น แสดงออกมาในลายเส้น ในการลงน้ำหนัก

    รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละ บอกถึงกลไกการทำงานของจิต ที่ทำงานอยู่โดยที่ผู้ที่จิตยังไม่ละเอียด จะไม่สังเกตเห็นในตนเอง
     
  19. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    คุณก็ได้แต่มองความผิดของผมทุกครั้งที่เข้ามา

    คุณไม่หันไปมองความผิดของคุณเองบ้างครับ

    คุณเอาเวลามาสนใจผมอย่างนี้ได้ประโยชน์อะไรครับ

    รู้จักคิดบ้างนะครับ ไม่ต้องให้ผมคอยบอกครับ

    สาธุครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...