ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แผ่นดินไหว 5.0 ริกเตอร์ภาคเหนือชายแดนไทย-ลาว </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 ตุลาคม 2550 16:31 น</TD></TR></TBODY></TABLE>

บรรยากาศในตลาดเชียงรายยังสงบนิ่งหลังมีแผ่นดินไหว​

เชียงราย- เกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาดความแรง 5.0 ริกเตอร์ มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่พรมแดนไทย-ลาว ห่างจากตัว อ.เมือง จ.เชียงรายไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะทาง 150 กิโลเมตร โดยแผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้ประชาชนในเขตเทศบาลเชียงราย สามารถรับรู้ความรู้สึกสั่นสะเทือนได้นานประมาณ 3-5 วินาที และมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาด้วย แต่ไม่มีความเสียหาย​

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า วันนี้ (16 ต.ค.) เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดความแรง 5.0 ริกเตอร์ เมื่อเวลา 13.46 น.ตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทย มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่พรมแดนไทย-ลาว ละติจูดที่ 20.8 องศาเหนือ ลองจิจูดที่ 100.9 องศาตะวันออก ห่างจากตัว อ.เมือง จ.เชียงราย ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะทาง 150 กิโลเมตร​

แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้ประชาชนในเขตเทศบาลนครเชียงราย อ.เมืองเชียงราย ที่อยู่ทั้งในอาคารชั้นเดียว หรืออาคารสูง ย่านการค้า ห้างสรรพสินค้าชื่อดังหลายแห่ง สามารถรับความรู้สึกสั่นสะเทือนได้นานประมาณ 3-5 วินาที และมีอาฟเตอร์ช็อกตามมา​

ขณะที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางการสั่นไหว พบว่า ประชาชนในเขตเทศบาล ต.เวียงเชียงของ ขณะขับรถสัญจรไปมาบนถนนสายหลักหน้าที่ว่าการอำเภอ สถานีตำรวจ และที่อาศัยอยู่ตามบ้านพักร้านค้า ธนาคาร ต่างรับรู้ความรู้สึกแผ่นดินไหวได้เช่นกัน โดย นายนวพล อุ่ยอุทัย นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.เวียงเชียงของ ได้ออกสำรวจตรวจสอบสภาพบ้านเรือน ร้านค้า ในเขตเทศบาลทันที​

จากการตรวจสอบไปยังประชาชนในฝั่งเมืองห้วยทรายแขวงบ่อแก้ว ประเทศ ส.ป.ป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียวของ จ.เชียงราย ก็พบว่าเกิดความแตกตื่นในเมืองห้วยทรายพอสมควร ประชาชนที่อยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำโขงสามารถรับทราบถึงแรงสั่นสะเทือนได้ ทำให้ร้านค้าที่ยกพื้นสูงใกล้ริมฝั่งเกิดการสั่นคลอนไปมาราว 5 วินาที นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่นั่งในเรือหางยาว ชมวิวทิวทัศน์ประเทศลาว ต่างรีบนำเรือเข้าจอดเทียบฝั่งหลายลำ เกรงว่า จะไม่ได้รับความปลอดภัย และอยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหายบริเวณเมืองห้วยทรายด้วย​

นายสมพล สุปการ หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.เชียงราย กล่าวว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ในแนวเขตเดิมบริเวณพรมแดนไทย-ลาว ที่เกิดขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง เมื่อช่วงกลางปี 2550 ที่ผ่านมา เชื่อว่าการสั่นสะเทือนครั้งนี้มาจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกใต้พิภพ ซึ่งมีรอยเลื่อนพาดผ่านในเขต จ.เชียงราย เข้าไปยังประเทศลาว​

ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9500000122670​

 

*** สัญญาณเตือนกรรม ****

ดินฟ้าอากาศ...คอยเตือนมนุษย์ สัตว์ ต้นไม้
แผ่นดินไหว....แห่งใด
คำเตือนถึง...แห่งนั้น
คนที่นั้น....ตั้งใจทำความดีอย่างจริงจัง ดัวย "สัจจะ" หรือยัง !!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ภัยสงครามกำลังคืบคลานเข้ามา ****

ต่อไป...อีกไม่นาน
สงครามจะเกิดขึ้น
หลายประเทศ...ต้องการทรัพยากร
จึงหาวิธีเข้าครอบครองดินแดน...โดยใช้ นอมินี ตัวแทนที่เป็นกลุ่มคน เป็นประเทศ
การบุกเข้ายึดดินแดน...แสนสุดโหดร้าย ไม่มีความปราณี

อดีต...คือ บทเรียน
เราพ่ายแพ้ เพราะ... เราอ่อนแอ
เราพ่ายแพ้ เพราะ....แตกความสามัคคี ประชาชนไม่เป็นหนึ่งเดียว
เราแตกความสามัคคี เพราะ... พวกผู้นำแตกความสามัคคี และยุแหย่ให้ประชาชนแตกความสามัคคี
เราสูญเสีย เพราะ... เราตี เราทะเลาะกันเอง ทำลายกันเอง
เราสูญเสีย เพราะ .... คนของเรา ทรยศ หักหลัง ทำลาย ขายชาติ
เราสูญเสีย เพราะ ... เราเห็นแก่ได้ เห็นแก่ความสุขจากเงินที่เขาโยนมาให้
เราสูญเสีย เพราะ .... เราหลงทำงานให้ คนไม่รักชาติบ้านเมือง คนทรยศ
เราสูญเสีย เพราะ ... เราไม่เคารพสัจจะ พูดแล้วไม่ทำจริง ถวายสัตย์ปฏิญาณแล้วไม่ทำตามที่พูด

ความพร้อมของกองทัพ กำลังทหาร อาวุธ...
คือ สิ่งที่จะป้องปราม ป้องกัน... การใช้ความรุนแรงของข้าศึกศัตรู
อาวุธของไทย...ไม่ได้มีไว้ทำลายกันเอง
อาวุธของไทย....ใช้เพื่อ ทำให้สงครามยุติเร็วที่สุด
อาวุธของไทย...ใช้เพื่อ ทำให้สูญเสียน้อยที่สุด
อาวุธของไทย....ทำหน้าที่ปกป้องความดีงามของชาติ
อาวุธของไทย...ไม่พอเพียง คือ หายนะของประเทศ

ผู้เป็นทหาร...ยอมตายแทนได้เมื่อถึงเวลา
อาวุธ....จะช่วยเราเมื่อถึงเวลา
เราควรที่จะสนับสนุนกองทัพ...เพื่อชาติบ้านเมืองในอนาคต

-

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=527 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ปัดฝุ่น "เพลงปลุกใจ"ปลูกอุดมการณ์รักชาติ</TD></TR><TR><TD vAlign=top>18 เมษายน 2550 14:05 น.
</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- "สนธิ"ความคิดบรรเจิด จัด"คอนเสิร์ตรักชาติ" ใช้"เพลงปลุกใจ"ปลูกอุดมการณ์รักชาติ 11 บทเพลง 8 นักร้องอมตะ ตระเวนแสดงทั่วประเทศ เน้นเหนือ-อีสาน หวังสร้างสมานฉันท์

ภาวะการ "เผชิญหน้า" ของคนไทยที่มีความคิดแบ่งเป็นสองฝักสองฝ่าย ยังไม่อาจจะหาจุดร่วมเพื่อ "สมานฉันท์" กันโดยง่าย ทั้งที่ในปี 2550 นี้ เป็นปีมหามงคล เนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ทางกองทัพจึงพยายามหาแนวทางเพื่อยุติความขัดแย้งโดยเร็ว
นอกจาก "ไม้แข็ง" อย่างการงัด "กฎอัยการศึก" และ "พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" ขึ้นมาป้องปรามแล้ว พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (ประธาน คมช.) จึงพยายามหาแนวทางทางจิตวิทยา โดยกำหนดวาระของปี 2550 ให้เป็น "ปีแห่งการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ" เพื่อกระตุ้นเตือนกำลังพลของกองทัพบกให้ยึดมั่นในอุดมการณ์รักชาติ
พล.อ.สนธิ ขยายแนวความคิดของโครงการนี้ว่า เป็นเสมือนเข็มทิศในการทำงาน และดำรงชีวิตเพื่อให้คนในประเทศมีความสุข ประเทศชาติจะได้มีการพัฒนาได้อย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน
การดำเนินตามโครงการนี้ จะมีการรณรงค์สร้างกระแสความรัก ความสามัคคี และอุดมการณ์ความรักชาติ ทั้งในหน่วยทหาร ชุมชนรอบค่าย และขยายผลการดำเนินการไปสู่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ

นอกจากนี้ จะมีการจัด "โครงการคอนเสิร์ตรักชาติ" ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้คนไทยทั้งชาติหันหน้าเข้าหากัน เพราะขณะนี้ประเทศกำลังเผชิญกับภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ ทั้งเรื่องการก่อการร้าย ภัยพิบัติ ปัญหายาเสพติด และปัญหาต่างๆ อีกมากมายที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
พล.อ.สนธิ กล่าวถึงที่มาของแนวคิดการจัดคอนเสิร์ตนี้ว่า "เกิดขึ้นหลังจากที่ผมได้ไปดูคอนเสิร์ตเพลงปลุกแผ่นดิน ที่กรมประชาสัมพันธ์จัดขึ้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งพอผมไปนั่งฟังดูแล้วมันก็ดีเหมือนกัน มันเป็นเครื่องปลุกใจให้คนมีความรักชาติ" แนวคิดของ พล.อ.สนธิ ที่จะนำเพลงปลุกใจ ซึ่งเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงของหลวงวิจิตรวาทการ เพลงของกรมประชาสัมพันธ์ หรือวงสุนทรภรณ์ เอามาแสดงคอนเสิร์ตให้ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ได้ฟัง
พล.อ.สนธิ ขยายความแนวคิดนี้ว่า จะเชิญผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นต่างๆ มาฟังเพลง ซึ่งจะเป็นเพลงปลุกใจสมัยเก่าๆ ให้ประชาชนฟัง จะได้มีจิตสำนึกในความรักชาติ ถ้ารักชาติ คนเราก็จะทำทุกอย่างเพื่อชาติแผ่นดิน กตัญญูกับแผ่นดิน อะไรที่จะทำให้บ้านเมืองเสียหายก็จะไม่ทำ และจะหันกลับมาทำแต่ความดี

"คอนเสิร์ตแบบนี้จะทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุของบ้านเมืองได้หวนระลึกถึงความหลังเก่าๆ ที่ได้เคยเผชิญกับภัยคุกคามต่างๆ ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จนมาถึงสงครามเย็น รวมทั้งปัญหาต่างๆ ของบ้านเมือง จะได้ระลึกถึงตรงนั้น จะได้หันมาช่วยสั่งสอนบุตรหลานให้มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ต่อไป" ประธาน คมช.เล็งผลเลิศไม่น้อย พล.อ.สนธิ มั่นใจว่า การแสดงคอนเสิร์ตรักชาติครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ โดยใช้ดนตรีเป็นสื่อเพื่อรณรงค์ปลุกกระแสให้คนไทยมีความรักชาติ มีสำนึกถึงความเป็นคนไทย มีความหวงแหนแผ่นดิน และรำลึกถึงบรรพชนที่ได้ประกอบวีรกรรมอันกล้าหาญในอดีต จนสามารถปกป้องรักษาแผ่นดินไทยผืนนี้ไว้ให้ลูกหลานได้อยู่อาศัยกันอย่างร่มเย็น
"หากคนไทยทุกคนมีอุดมการณ์ รักชาติ รักแผ่นดิน อย่างแน่วแน่ และมั่นคงแล้ว ประเทศไทยของเราจะมีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับนานาอารยประเทศอย่างแน่นอน เพราะเพลงปลุกใจ และเพลงเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งที่มีคุณค่า"
คอนเสิร์ตรักชาติ หรือ "คอนเสิร์ตเพลงปลุกใจ" ตามโครงการนี้ จะมีการสัญจรไปในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งจะมีการจัดคอนเสิร์ตสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อให้ดนตรีเป็นสื่อที่จะทำให้เกิดความรักชาติในความสามัคคีและสมานฉันท์
ส่วนคอนเสิร์ตครั้งแรกเพิ่งจัดไปเมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา บริเวณสะพานพระราม 8 กรุงเทพฯ และวันที่ 22 เมษายนนี้ จะจัดขึ้นอีกครั้งที่ จ.นครนายก จากนั้นจะเริ่มทัวร์ในพื้นที่ภาคอีสาน 2 จังหวัด คือ จ.อุบลราชธานี และ จ.บุรีรัมย์ จากนั้นจะจัดต่อไปในพื้นที่ภาคเหนืออีก 2 จังหวัด

เมื่อถามถึงสถานการณ์บ้านเมืองในตอนนี้ ประธาน คมช.เชื่อว่า "ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ยังสามารถรับสถานการณ์บ้านเมืองได้อยู่แล้ว เพราะวิถีประชาธิปไตยสามารถเรียกร้องกันได้ แต่ว่าจริงๆ แล้วไม่ควรจะโจมตีอะไรมากมายในข้อเท็จจนเกินไป เอาข้อจริงมาว่ากันก็ไม่เป็นไร" ขณะที่ พล.ต.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก ซึ่งรับผิดชอบโครงการนี้ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการแสดงคอนเสิร์ตจะนำเพลงปลุกใจ ซึ่งขับร้องโดยนักร้องปลุกใจตามต้นฉบับดั้งเดิม
ในส่วนของบทเพลงปลุกใจ ได้แก่ ความฝันอันสูงสุด หนักแผ่นดิน ทหารเสือพระนเรศวร เราสู้ ต้นตระกูลไทย สี่เหล่าทัพ เลือดทาแผ่นดิน ถามคนไทย รักเมืองไทย บ้านเกิดเมืองนอน และ รักเธอประเทศไทย

ส่วนนักร้องผู้ร่วมขับร้อง ได้แก่ สมศรี ม่วงเขียว, หรั่ง ร็อคเคสตร้า, สันติ ลุนเผ่, วีระ บำรุงศรี, สุเทพ วงศ์กำแหง, พยงค์ มุกดา, มาริษา อมาตยกุล และ โฉมฉาย อรุณฉาน พล.ต.สุรศักดิ์ บอกว่า จุดขายของคอนเสิร์ตรักชาติ คือ การสื่อถึงความรักชาติ ซึ่งสืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเหล่าบรรพชน บรรพบุรุษ ได้สละชีวิตเลือดเนื้อเพื่อต่อสู้กับศัตรู เอาเลือดทาแผ่นดิน แผ่นดินนี้บรรพบุรุษเรารักษาเอาไว้ เพื่อกระตุ้นความรู้สึกระลึกถึงความสำคัญของชาติบ้านเมือง "สิ่งที่ได้ดำเนินการไป เราไม่ได้หวังผล 100% แต่ก็หวังให้ประชาชนเกิดจิตสำนึกในความรักชาติ ซึ่งกำลังอยู่ในกระแส ทั้งเรื่องสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือแม้แต่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก็ได้รับความสนใจจากประชาชน ซึ่งแสดงว่าสิ่งเหล่านี้ประชาชนเริ่มตอบรับกระแสดังกล่าวมากขึ้น" เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก กล่าวด้วยความเชื่อมั่น
อย่างไรก็ตาม โครงดังกล่าวจะต้องทำอย่างต่อเนื่องควบคู่กับโครงการอื่นๆ เช่น โครงการคุณธรรมนำไทย ซึ่งต้องการให้คนไทยมีคุณธรรม ซื่อสัตย์สุจริต กตัญญูรู้คุณต่อผืนแผ่นดินเกิด
เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก กล่าวทิ้งท้ายว่า "สถานการณ์บ้านเมืองเป็นแบบนี้ เมื่อฟังเพลงปลุกใจก็อาจจะทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกรักชาติบ้านเมือง ไม่อยากให้มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน ถ้าเห็นผลประโยชน์ชาติ ก็จะไม่ตีกัน เราจะต้องรักกันเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ"
ก็คงต้องตามดูกันต่อไปว่า เพลงปลุกใจ จะปลุกกระแส "รักชาติ" และจะซาบซึ้งไปถึงก้นบึ้งแห่งหัวใจของบรรดา "ม็อบต้าน คมช." สักแค่ไหน !?!?
ปัญญา ทิ้วสังวาลย์
panya@saithaharn.net

-->
"สนธิ"ความคิดบรรเจิด จัด"คอนเสิร์ตรักชาติ" ใช้"เพลงปลุกใจ"ปลูกอุดมการณ์รักชาติ 11 บทเพลง 8 นักร้องอมตะ ตระเวนแสดงทั่วประเทศ เน้นเหนือ-อีสาน หวังสร้างสมานฉันท์
ภาวะการ "เผชิญหน้า" ของคนไทยที่มีความคิดแบ่งเป็นสองฝักสองฝ่าย ยังไม่อาจจะหาจุดร่วมเพื่อ "สมานฉันท์" กันโดยง่าย ทั้งที่ในปี 2550 นี้ เป็นปีมหามงคล เนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ทางกองทัพจึงพยายามหาแนวทางเพื่อยุติความขัดแย้งโดยเร็ว

นอกจาก "ไม้แข็ง" อย่างการงัด "กฎอัยการศึก" และ "พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" ขึ้นมาป้องปรามแล้ว พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (ประธาน คมช.) จึงพยายามหาแนวทางทางจิตวิทยา โดยกำหนดวาระของปี 2550 ให้เป็น "ปีแห่งการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ" เพื่อกระตุ้นเตือนกำลังพลของกองทัพบกให้ยึดมั่นในอุดมการณ์รักชาติ

พล.อ.สนธิ ขยายแนวความคิดของโครงการนี้ว่า เป็นเสมือนเข็มทิศในการทำงาน และดำรงชีวิตเพื่อให้คนในประเทศมีความสุข ประเทศชาติจะได้มีการพัฒนาได้อย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน

การดำเนินตามโครงการนี้ จะมีการรณรงค์สร้างกระแสความรัก ความสามัคคี และอุดมการณ์ความรักชาติ ทั้งในหน่วยทหาร ชุมชนรอบค่าย และขยายผลการดำเนินการไปสู่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ
นอกจากนี้ จะมีการจัด "โครงการคอนเสิร์ตรักชาติ" ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้คนไทยทั้งชาติหันหน้าเข้าหากัน เพราะขณะนี้ประเทศกำลังเผชิญกับภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ ทั้งเรื่องการก่อการร้าย ภัยพิบัติ ปัญหายาเสพติด และปัญหาต่างๆ อีกมากมายที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน


พล.อ.สนธิ กล่าวถึงที่มาของแนวคิดการจัดคอนเสิร์ตนี้ว่า "เกิดขึ้นหลังจากที่ผมได้ไปดูคอนเสิร์ตเพลงปลุกแผ่นดิน ที่กรมประชาสัมพันธ์จัดขึ้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งพอผมไปนั่งฟังดูแล้วมันก็ดีเหมือนกัน มันเป็นเครื่องปลุกใจให้คนมีความรักชาติ"

แนวคิดของ พล.อ.สนธิ ที่จะนำเพลงปลุกใจ ซึ่งเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงของหลวงวิจิตรวาทการ เพลงของกรมประชาสัมพันธ์ หรือวงสุนทรภรณ์ เอามาแสดงคอนเสิร์ตให้ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ได้ฟัง

พล.อ.สนธิ ขยายความแนวคิดนี้ว่า จะเชิญผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นต่างๆ มาฟังเพลง ซึ่งจะเป็นเพลงปลุกใจสมัยเก่าๆ ให้ประชาชนฟัง จะได้มีจิตสำนึกในความรักชาติ ถ้ารักชาติ คนเราก็จะทำทุกอย่างเพื่อชาติแผ่นดิน กตัญญูกับแผ่นดิน อะไรที่จะทำให้บ้านเมืองเสียหายก็จะไม่ทำ และจะหันกลับมาทำแต่ความดี

"คอนเสิร์ตแบบนี้จะทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุของบ้านเมืองได้หวนระลึกถึงความหลังเก่าๆ ที่ได้เคยเผชิญกับภัยคุกคามต่างๆ ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จนมาถึงสงครามเย็น รวมทั้งปัญหาต่างๆ ของบ้านเมือง จะได้ระลึกถึงตรงนั้น จะได้หันมาช่วยสั่งสอนบุตรหลานให้มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ต่อไป" ประธาน คมช.เล็งผลเลิศไม่น้อย

พล.อ.สนธิ มั่นใจว่า การแสดงคอนเสิร์ตรักชาติครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ โดยใช้ดนตรีเป็นสื่อเพื่อรณรงค์ปลุกกระแสให้คนไทยมีความรักชาติ มีสำนึกถึงความเป็นคนไทย มีความหวงแหนแผ่นดิน และรำลึกถึงบรรพชนที่ได้ประกอบวีรกรรมอันกล้าหาญในอดีต จนสามารถปกป้องรักษาแผ่นดินไทยผืนนี้ไว้ให้ลูกหลานได้อยู่อาศัยกันอย่างร่มเย็น

"หากคนไทยทุกคนมีอุดมการณ์ รักชาติ รักแผ่นดิน อย่างแน่วแน่ และมั่นคงแล้ว ประเทศไทยของเราจะมีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับนานาอารยประเทศอย่างแน่นอน เพราะเพลงปลุกใจ และเพลงเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งที่มีคุณค่า" คอนเสิร์ตรักชาติ หรือ "คอนเสิร์ตเพลงปลุกใจ" ตามโครงการนี้ จะมีการสัญจรไปในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งจะมีการจัดคอนเสิร์ตสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อให้ดนตรีเป็นสื่อที่จะทำให้เกิดความรักชาติในความสามัคคีและสมานฉันท์
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ที่มา หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/2007/04/mili/u001_107664.php?news_id=107664



เพลงหนักแผ่นดิน <SUP>ฟังเสียง</SUP> เป็นเพลงที่แต่งเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๑๘ ใช้เปิดออกอากาศทางสถานีวิทยุ จ.ส. กรมการสื่อสารทหารบก กองทัพบก ในการต่อสู้ทางการเมืองกับขบวนการคอมมิวนิสต์ ในช่วง พ.ศ. ๒๕๑๘-๒๕๒๓ ประพันธ์คำร้องโดย พ.อ.บุญส่ง หักฤทธิ์ศึก และขับร้องโดย สันติ ลุนเผ่

เนื้อเพลง

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD>(สร้อย) หนักแผ่นดิน หนักแผ่นดิน คนเช่นนี้เป็นคนหนักแผ่นดิน</TD></TR><TR><TD>
คนใดใช้ชื่อไทยอยู่ กายก็ดูเหมือนไทยด้วยกัน
</TD></TR><TR><TD>ได้อาศัยโพธิ์ทองแผ่นดินของราชันย์ แต่ใจมันยังเฝ้าคิดทำลาย</TD></TR><TR><TD>
คนใดเห็นไทยเป็นทาส ดูถูกชาติเชื้อชนถิ่นไทย
</TD></TR><TR><TD>แต่ยังฝังทำกินกอบโกยสินไทยไป เหยียดคนไทยเช่นทาสของมัน</TD></TR><TR><TD><CENTER> </CENTER></TD></TR><TR><TD>คนใดยุยงปลุกปั่น ไทยด้วยกันหวังให้แตกกระจาย
</TD></TR><TR><TD>ปลุกระดมมวลชนให้สับสนวุ่นวาย เพื่อคนไทยแบ่งฝ่ายรบกันเอง</TD></TR><TR><TD>
คนใดหลงชมชาติอื่น ชาติเดียวกันเขายืนข่มเหง
</TD></TR><TR><TD>ได้สินทรัพย์เจือจานก็ประหารไทยกันเอง ที่ชาติอื่นเกรงดังญาติของมัน</TD></TR><TR><TD><CENTER> </CENTER></TD></TR><TR><TD>คนใดขายตนขายชาติ ได้โอกาสชี้ทางให้ศัตรู
</TD></TR><TR><TD>เข้าทลายพลังไทยให้สลายทางสู้ เมื่อศัตรูโจมจู่เสียทีมัน

</TD></TR><TR><TD>คนใดคิดร้ายราวี ประเพณีของไทยไม่ต้องการ</TD></TR><TR><TD>เกื้อหนุนอคติเชื่อลัทธิอันธพาล แพร่นำมันมาบ้านเมืองเรา</TD></TR><TR><TD><CENTER> </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

http://www.komchadluek.net/2007/04/mili/u001_107664.php?

 

อินโดนีเซียยกระดับเตือนภัยภูเขาไฟเคลัดขึ้นสูงสุด

 

สังเกตุนะ ภัยพิบัติที่ชำระความเอาชีวิตมนุษย์
มักกระทำการตอนหลับ

 

"ไสยศาสตร์"ในยุคนี้ใครว่าไม่มีจริง?
(คัดลอกมาจากเว็บคนเมืองบัว)​

​

<TABLE width=600 border=0><TBODY><TR align=middle><TD>

อยากได้ตะกรุดเม(ตะกรุดมหาสะท้อน)มาบูชา สู้ราคาจนสุดใจ​

</TD></TR><TR align=right><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle><TD class=row1 bgColor=#ffffff><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>

เป็นสมาชิกใหม่ พึ่งเจอเวปนี้ครับ

มีความจำเป็นต้องไช้ตะกรุดมหาสะท้อนเพื่อรักษาแฟน ถ้าพี่พี่สมาชิกฯ ท่านไดมีความประสงค์จะปล่อย รบกวนช่วยฝากเบอร์ใว้ รึว่ายิงมาที่เบอร์ 091080015 แล้วผมจะติดต่อกลับไปครับ

หมายเหตุ ราคาผมสู้สุดใจครับ

ขอบคุณครับ​

</TD></TR><TR align=right><TD>จากคุณ กบ-เกโร๊ะ เมื่อวันที่ 6/5/2549 10:18:35 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>



<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>

ข้อความที่ 1


ถ้าคุณหาตะกรุดมหาสะท้อนไม่ได้จริง ๆ ก็หาเหรียญของขวัญวันเกิดของหลวงพ่อฤษี ฯ ก็ได้ครับ อานุภาพเหมือนกันเลย และยังนำเข้าห้องคลอดก็ได้ด้วยครับ เหรียญนี้ยังมีจำหน่ายที่บ้านสายลมครับ ถ้าจำไม่ผิดเหรียญนี้บูชาอยู่ที่ 300 กว่าบาทครับ ​

​

</TD></TR><TR align=right><TD>

จากคุณ เทพ เทวา เมื่อวันที่ 6/5/2549 12:30:17
​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>




<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>

ข้อความที่ 2​

ใช่ครับ
เหรียญของขวัญวันเกิด

สุดยอดครับ ​

​

</TD></TR><TR align=right><TD>

จากคุณ กสิณ 10 รวม 1 เมื่อวันที่ 6/5/2549 12:38:38
​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>




<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>

ข้อความที่ 3​

เมื่อครู่มีพี่จากในเวปโทรมาบอกผมเรื่องเหรียญของขวัญวันเกิดหลวงพ่อ.. แต่ลืมเรียนถามว่าชื่อพี่เขาชื่ออะไร ขอบคุณมากๆนะครับ

จริงๆแล้วแฟนผม(คนโดนของ) ที่แขวนวัตถุมงคลอยู่ปัจจุบันมีดังนี้

1. สมเด็จองค์ปฐม รุ่น2
2. เหรีญของขวัญวันเกิดหลวงพ่อ
3. มีดหมอ(อีโต้เล็ก)
4. ยันมหาพิชัยสงคราม
5. แหวนหลวงปู่ดู่วัดสะแก

อาราธนาทุกวันตื่นนอนเช้า และก่อนนอน อาบ-กินน้ำมนต์หลวงพ่อทุกวัน และเที่ยวตระเวนรักษารดน้ำมนต์มาหลายที่แต่อาการก็ยังทรงๆ อยู่ไม่ดีขึ้น ยิ่งเป็นวันพระ-วันโกน จะทรมาณมาก

ปัญหาที่เจอคือเราถอนของออก บางครั้งเห็นเป็นหุ่นถูกฝังเข็ม(เรียกวิชาฝังรูปฝังรอย)หลุดออกมาเลยนะครับ แต่มันออกยังไม่หมดยังมีเชื้อเหลือคนที่ส่งของมาก็ยังสามารถ ส่งของมาได้อีก(เรียกว่าเติมได้อีก รีฟิล) สู้กันแบบนี้มานานมาก ทรมาณมาก

ที่ผมรู้จากพี่ที่ช่วยถอนของให้กันแฟนผม(เป็นศิษย์หลวงพ่อ และเคยบวชที่วัดหลวงพี่เล็ก) พี่เขาบอกว่าถ้ามีตะกรุดมหาสะท้อนแล้วคนทำของมาจะเติมไม่ได้ ... ยังไงผมยังฝากความหวังใว้ที่ตะกรุดมหาสะท้อนครับ เพราะถ้าเขาเติมไม่ได้เราก็ล้างออกได้เรื่อยๆ

ขอความกรุณาจากพี่ๆ ที่มีตะกรุดด้วยนะครับ เรื่องราคาผมสู้ขาดใจ

ขอบคุณครับ ​

​

​

</TD></TR><TR align=right><TD>

จากคุณ กบ-เกโร๊ะ เมื่อวันที่ 6/5/2549 13:18:28
​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>

ข้อความที่ 4​

ทำไมอำนาจพระรัตนตรัย มีไม่ใช้ล่ะครับ


ลองศึกษาที่ www.larnwat.com นะครับ ขอให้โชคดี ​

​

</TD></TR><TR align=right><TD>

จากคุณ กก เมื่อวันที่ 6/5/2549 13:32:14
​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>




<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>

ข้อความที่ 5​

ให้แฟนคุณ สวดมนต์เช้า-เย็น คาถายันต์เกราะเพชร คาถามหาสท้อน อารธณาบารมีพระท่านคุ้มครองเอาครับ แต่ถ้าเป็นวิบากกรรมเก่า อันนี้ช่วยยากครับ

ถ้าจะเล่นก็ต้องไปเล่นที่หมอแล้วละครับ เขาจะได้ไม่กล้าเอาอีก เพราะเราถอนของออก แล้วเราไม่เล่นกลับ หมอจะได้ใจครับว่าแน่จริง ต้อง เอาให้หมอดิ้นชักกระตุก น้ำลายออกจากปาก ก็ไม่กล้าแล้วละครับ

ถ้ายังไม่มีตะกรุดมหาสะท้อนก็ เอาคาถาไปก่อนก็ได้ เหมือนกัน

"เมสักมุขขา สัพพะหะระติ เตสักมุขขา"

ให้สวดบ่อยๆ แล้วอธิษฐานเอาของอะไรที่ทำมาขอให้กลับไปสู่คนทำครับ

จุดอ่อนที่ส่วนใหญ่จะพลาดกันก็คือมักจะถอดวัตถุมงคลออกตอนอาบน้ำ หรือเข้าห้องน้ำ ตอนที่ถอดวัตถุมงคลออก เหมือนกับถอดเกราะป้องกันออก พอไม่มีเกราะแล้วหรือพลาดเมื่อไหร่โดนเมื่อนั้นเพราะมันจ้องจะเข้าอยู่แล้ว ให้ใส่วัตถุมงคลไว้ตลอดเวลาครับ อาราธนา เช้าเย็นก่อนนอน ขอบารมีพระคุ้มครองครับ ​

​

​

</TD></TR><TR align=right><TD>

จากคุณ witt สมาชิก 470570 เมื่อวันที่ 6/5/2549 14:22:51
​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>

ข้อความที่ 6


การระลึกถึงคุณ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสิ่งที่ดี แต่ยังไงๆ ก็อย่าลืมเรื่องกฎแห่งกรรม ต้องคิด พูด ทำ ในสิ่งที่ดีๆด้วยครับ _/\_ ​

​

</TD></TR><TR align=right><TD>

จากคุณ wit เมื่อวันที่ 6/5/2549 22:43:39
​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>




<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>

ข้อความที่ 7​

ท่องคาถาที่หลวงพ่อท่านให้ไว้สิครับ

สัมปะจิตฉามิ เป็นคาถาเอาไว้สะท้อนกลับคนที่ส่งสิ่งไม่ดีเข้าหาตัวเรา ภาวนาไปเรื่อยๆครับ จะมีผลส่งคืนสิ่งไม่ดีกลับคืนไป อยากแนะนำให้ภาวนาอย่าได้ขาดเพราะถ้าสติหลุดจากภาวนาแล้วของก็จะสามารถเข้าหาตัวเราได้ทันที ภาวนาจนเป็นฌาณ 4 ได้ยิ่งดีครับ หรือไม่ก็อีกวิธีคือ เอาน้ำมันชาตรีของหลวงพ่อมากิน ถ้าอาการไม่ดีขึ้นอยากแนะนำให้ไปหาอาจารย์ไก่เลยครับ หรือว่าหลวงพี่เล็กท่านโดนตรงเลย ผมคิดว่าท่านสามารถช่วยได้ครับ

อีกอย่างครับผมคิดว่าสมเด็จองค์ปฐมนั้นดีอยู่แล้วครับมีพุทธคุณครอบทุกด้าน อาราธณาบารมีท่านให้คลุมเราทั้งวันน่าจะอยู่น่ะครับ ​

​

​

</TD></TR><TR align=right><TD>

จากคุณ 77777777 เมื่อวันที่ 7/5/2549 4:46:43
​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 align=left border=0><TBODY><TR><TD>

ข้อความที่ 8​

​

1.ไปทำสังฆทาน ปล่อยปลาอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร.... อย่างอื่นอธิษฐานเอา

2.ห้ามเอาพระออกจากตัว อาราธนาไว้ตลอด

3. หมั่นภาวนาขออำนาจพุทธคุณช่วย...ใช้คาถาเงินล้านป้องกันก็ได้

4. ศีล 5 รักษาให้ได้ตลอด

5. รด/อาบน้ำมนต์ กินนำมนต์ ตลอด

6. บนกรมหลวงหายแล้วถือศีล 8 กี่วันก็ว่าไป​

..................ไม่เชื่อว่าสู้ไม่ได้..............
​

</TD></TR><TR align=right><TD>

จากคุณ k เมื่อวันที่ 7/5/2549 12:17:06 ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

ที่มา http://72.14.209.104/search?q=cacheK1ccetD87cJ:www.konmeungbua.com/webboard/aspboard_Question.asp%3FGID%3D13653+%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99&hl=th&ct=clnk&cd=1&gl=th​

 

คืนก่อนสึนามิ แม่บ้านคนหนึ่งตื่นมาบอกสามีว่า "เมื่อคืนฝันว่ามีรถบรรทุกโลงศพมาหน้าบ้านเขาเอาโลงมาลงบ้านเราห้าโลง แต่พี่(พ่อบ้าน)ไม่อยู่บ้านเขาก้เลยเอาของพี่ขึ้นรถกลับไปก่อน เขามาแจกทุกบ้านใน(บ้าน)น้ำเค็มเลยนะ"
วันนั้นพ่อบ้านไม่รุ้เป็นอะไรจะรีบไปวัดตอนเก้าโมง ทุกทีไป สิบโมง เมียและลูกสาว ลูกเขย หลานเล็กจะตามไปสิบโมงปรกติวัดเป็นที่สูงพ่อบ้านเลยรอด พวกออกจากบ้านสิบโมงก็ไปลงโลง 4 ใบจริงๆ
พ่อบ้านเล่าให้ฟังหกเดือนให้หลัง "ไม่รู้ว่าทำไมเขาไม่เอาผมไปด้วย"

 

*** ไม่ประมาท ****

เตรียมตัวกันได้แล้ว
ไม่ประมาท...คือ พร้อมเผชิญ
ไม่ใช่ ...ไม่เชื่อ...เฉยๆ สนุกไปวันๆ
ก็ไม่มีใครช่วยได้
เพราะ...คนทุกคนต้องพึ่งผลการกระทำเก่าๆ ที่ทำไปแล้ว

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** อภิญญาใหญ่ ****

สมัยโบราณเรียก "ปริญญา"
อภิญญาหก...ก็คือ ปริญญาหก

อภิญญาใหญ่...ที่รอกัน คือ "สัจจะ"
มนุษย์ทุกคน ทุกศาสนา....สามารถปฏิบัติได้หมดทั้งโลก

ใครทำ...ใครได้....ใครสำเร็จ
ผู้ที่เชื่อ....ผู้ที่ทำได้...จะสำเร็จ จะบรรลุ จะหลุดพ้น

เชื่อ ไม่เชื่อ...อยู่ที่ตัวของเรา
ท่านจะเลือกเป็น ดอกบัวแบบไหน ???

ข้าพระพุทธเจ้าบอกแล้วนะ
- " หนุมาน ผู้นำสาร "
วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๐

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>บุชเตือน สงครามโลกครั้งที่ 3 อาจจะปะทุ หากอิหร่านเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>18 ตุลาคม 2550 14:48 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเจนซี​

 

อีกไม่นาน...ความหายนะ...จะเกิดขึ้น...ที่นี่...ประเทศไทยคอยดูต่อไป
โปรดอย่าถาม...ผมไม่ตอบ...ปล่อยให้งง...
แต่ต้องเกิดล้านเปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน
จาก
http://www.mornid.com/home.php

 

ฮือฮา! เปลวเพลิงคล้าย "โป๊ป" องค์ก่อน​

​

ฮือฮา สุด ๆ กับ ข่าว ต่างประเทศ ที่รายงานว่า ที่ ประเทศ อิตาลี มี ข่าว ว่า การ เผยแพร่ ภาพ เปลวเพลิง ที่ ลุกไหม้ จนมี ลักษณะ เหมือนกับ ท่าทาง ของ สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ประมุขคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก หรือ โป๊ป องค์ก่อน
​

<CENTER></CENTER>

เมื่อ 16 ต.ค. สถานีโทรทัศน์ข่าววาติกันในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เผยแพร่ภาพเปลวเพลิงที่ลุกไหม้จนมีลักษณะเหมือนกับท่าทางขณะสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ประมุขคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกผู้ล่วงลับ กำลังโบกพระหัตถ์ทักทายคริสตศาสนิกชนเหมือนสมัยที่พระองค์ยังมีชีวิตอยู่ ขณะที่สถานีโทรทัศน์ในอิตาลีต่างนำภาพนี้มาออกอากาศและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
​

<CENTER></CENTER>

บาทหลวงยาเร็ก เซียเลกกี ผู้อำนวยการสถานีวาติกันกล่าวว่า มีผู้บันทึกภาพเปลวไฟดังกล่าวได้ในขณะที่คนโปแลนด์ในเมืองเบสคิด ไซเวียกี ทำพิธีรำลึกครบรอบ 2 ปี การสิ้นพระชนม์ของโป๊ปเมื่อวันที่ 2 เม.ย. เชื่อกันว่ากองไฟนี้เกิดจากปาฏิหาริย์ ทำให้นักบวชจากวาติกันและพระสหายสนิทของโป๊ปเดินทางไปโปแลนด์เพื่อพิสูจน์ภาพดังกล่าว
​

<CENTER></CENTER>

ข้อมูลและภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด

ที่มา http://hilight.kapook.com/view/16457​

<CENTER></CENTER>

 

ว๊าว คล้ายจริงๆ
เราตั้งกระทู้ใหม่ เรื่อง เรื่องเหลือเชื่อ/สิ่งมหัศจรรย์ในโลกยุคภัยพิบัติดีไหมคะ คงมีคนช่วยส่งอะไรๆมาเยอะเลยค่ะ

 

รัสเซียประสบความสำเร็จยิงขีปนาวุธข้ามทวีป

​

มอสโก 18 ต.ค.

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หญิงชราวัย 109 ปีเมืองเลยสวดมนต์ถวายในหลวงหายประชวร</TD><TD vAlign=baseline align=right width=85></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 ตุลาคม 2550 11:15 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>ชาวไทยทุกเพศทุกวัยต่างวิตกกังวลกับอาการพระประชวรของในหลวงครั้งนี้เป็นอย่างมาก</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>

เลย - ชาวเลยเฝ้าติดตามอาการพระประชวรในหลวงใกล้ชิด หญิงเฒ่าอายุ 109 ปียุค ร.5 สวดมนต์ขอพรให้ในหลวงทรงหายจากพระประชวรไวไว เผยสอบถามพระอาการจากลูกหลานทุกวัน ขณะที่ผู้ป่วยในโรงพยาบาลเลยต่างวิตกในอาการของพ่อหลวง แม้ตัวเองจะป่วยอยู่ก็ตาม

หลังจากทราบข่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระประชวร พสกนิกร ทุกหมู่เหล่า ทั่วประเทศไทยต่างเป็นห่วงในพระอาการประชวรของพระองค์ เช่นเดียวกับที่บ้านหนองเอี่ยน ต.หนองคัน อ.ภูหลวง จ.เลย นางแห่ว สอนแสง ราษฎรบ้านเลขที่ 39 ม.4 ต.หนองคัน อ.ภูหลวง จ.เลย เกิดวันที่ 14 ตุลาคม 2441 ซึ่งเกิดในรัชกาลที่ 5 มีอายุถึง 109 ปีก็เป็นห่วงในพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่นกัน โดยกราบไหว้ขอพรให้พระองค์ท่านทรงหายจากอาการพระประชวรโดยเร็ว

นายประพันธ์ ขันตี ผู้ใหญ่บ้านและเป็นลูกชายยายแห่ว กล่าวว่า ตนได้เห็นภาพแบบนี้มานับสิบๆ ปีแล้ว คุณแม่ คือนางแห่ว ก่อนนอนของทุกวันจะไหว้พระ สวดมนต์และกราบไหว้รูปของในหลวงที่แขวนไว้บริเวณเสาบ้านก่อนนอนทุกครั้ง ซึ่งปฏิบัติมาเป็นระยะเวลานานมากหลายสิบปี เท่าที่ตนจำได้

หลังจากลูกหลานบอกว่าในหลวงทรงพระประชวร เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา นางแห่ว ก็มักจะถามช่วงก่อนนอนว่าตอนนี้ในหลวงหายไข้หรือยัง ถามข่าวคราวถึงในหลวงบ่อยมาก เมื่อทราบข่าวว่ายังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลก็ไม่สบายใจ บอกกับลูกหลานว่า อยากให้ในหลวงนั้นหายไข้ หายไวไว อย่าเจ็บอย่าไข้อีกเลย ให้หยุดไข้เสีย

นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้นางแห่วเองก็ไม่สบายอยู่เช่นกัน ขาเจ็บ เนื่องจากในช่วงฤดูหนาวของปีที่ผ่านมายายแห่ว ได้นิ่งผิงไฟและเกิดหกล้มทำให้ขาด้านขวานั้นหัก เดินไม่ได้ ปัจจุบันต้องพยุงเดินลูกหลานต้องพยุงนำไปนอนทุกวัน

ขณะที่บรรดาผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยที่มาเฝ้าไข้ในโรงพยาบาลเลยเองก็ได้ติดตามข่าวพระอาการประชวรของในหลวงอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะข่าวทีวีในช่วงเวลาข่าวต่างๆ
​

​

ด.ช.ธีรศิลป์ สรรพช่าง อายุ 13 ปี บ้านเลขที่ 15 ม.1 ต.ท่าลี่ อ.ท่าลี่ จ.เลย ซึ่งเป็นผู้ป่วยคนหนึ่ง กล่าวว่า ตนไม่สบาย เป็นไข้เหยื่อหุ้มสมองอักเสพ เข้ามาอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว 2 วัน หลังทราบข่าวว่าในหลวงว่าไม่สบายก็ติดตามข่าวตลอด โดยทางโรงพยาบาล มีทีวีที่ห้องรวม ตนก็มีโอกาสได้ดูด้วย ร่วมกับญาติที่มาเยี่ยมไข้ โดยรอติดตามข่าวพระราชสำนัก เวลา 20.00 น.ซึ่งทราบข่าวเมื่อคืนว่าพระอาการของในหลวงท่าน ดีขึ้นก็ดีใจ อยากให้ในหลวงหายป่วยเร็วๆ

ด้านนางกนกพร ฤทธิ์มนตรี พยาบาลวิชาชีพ 7 ตึกเด็ก โรงพยาบาลเลย กล่าวว่า ขณะทำงานก็มีโอกาสได้ดูข่าวทางทีวี ติดตามข่าวอาการประชวร ของในหลวง แล้วมีความรู้สึกว่ามันเหมือนกับพ่อแม่เราไม่สบาย อยากให้ท่านหายไวไวเช่นกัน


ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9500000122409​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​