ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** จุดชนวน ชะตาลิขิต ****

    เขาพระวิหาร...จะถูกจุดเป็นประเด็น
    ประวัติศาสตร์เก่าของเขา....จะถูกนำมาอ้าง
    ประชาชนเพื่อนบ้าน...จะถูกยุแย่ให้ชังคนบ้านเรา
    มหาอำนาจไม่หวังดี....จะคอยหนุนหลัง เพื่อนบ้านคนที่มีอำนาจอิทธิพล

    หนทางเลี่ยงชะตากรรม...ไม่ใช่เรื่องทหาร
    แต่คือ "สัจจะ" ของคนไทยทั้งชาติ
    ผลของการกระทำจาก ... "สัจจะ ของประชาชนชาวไทย"
    คือ "บารมีของแผ่นดินไทย"
    บารมีครั้งนี้...จะหักเหกรรมออกไปอย่างปฏิหาริย์
    หากช้า...หมดเวลาไม่ทันกาล ไม่ทันกรรม

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    สัจจะ...ทำความดี วันละข้อ
     
  3. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    ตอนนี้ที่บ้านน้ำท่วมหนักมาก ครึ่งขาแระ ยังไม่มีวี่แวว่ลดเลย เนี่ยถ้าฝนตกลงมาอีก เสร็จแน่ๆ

    เมื่อวานนี้ขับรถกลับมาบน ทางยกระดับ เจอพายุ โหหหหหหหหห ไม่คิดเลยว่าพายุโหดมากๆ นึกว่ารถจะปลิวตกมาจากทางแล้ว ไฟก็ดับ ทั้งบนทาง ทั้งข้างล่าง งมหาทาง ยังคิดว่าตอนโลกมืดคงขนาดนี้ ฝนแรงมาก ขับได้ 20-30 km/hr เอง โหดสุดๆ
    (b-uh)
     
  4. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    เอาใจช่วยจ้า ขวัญเอ๊ย ขวัญมา

    แบบนี้ต้องเร่งปฏิบัติกันหน่อยแล้วคุณอ๋อ
     
  5. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    [​IMG]

    Solar wind warming up Earth


    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="maintime">16:56</td> <td class="maindatedelim" width="1">|</td> <td class="maindate">28/ 09/ 2007</td></tr></tbody></table>
    Yury Leonov, director of the Institute of Geology at the Russian Academy of Sciences, thinks that the human impact on nature is so small that it can be dismissed as a statistical mistake.

    "There are two channels of energy transfer from the Sun - electromagnetic and corpuscular radiation," he explains. "The bulk of it - about 1.37 kW per square meter of the Earth's surface - which equals the power of an electric kettle - comes via the electromagnetic channel. This flow of energy primarily fits into the visible and infrared range of the spectrum and its amount is virtually immune to change - it alters by no more than a few fractions of a percent. It is called the 'solar constant.' The flow of energy reaches the Earth in eight minutes and is largely absorbed by its atmosphere and surface. It has decisive influence on the shaping of our climate."

    (b-wow)เราจะหยุดโลกร้อนได้อย่างไร

    คงต้องยอมรับสภาพ และ ปรับตัว
     
  6. คุณ 4

    คุณ 4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    733
    ค่าพลัง:
    +5,159
    วันหลังคุณ Falkman รอฝนซาแล้วค่อยขับต่อดีกว่า
    ฝนตกหนัก ขับรถกลางคืน อันตรายมาก ๆ
     
  7. HS4OFL

    HS4OFL เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +1,382
    ความสุขของในหลวง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 23.jpg
      23.jpg
      ขนาดไฟล์:
      12.9 KB
      เปิดดู:
      97
  8. HS4OFL

    HS4OFL เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +1,382
    ความสุขของพระมหากษัตริย์<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <TT>หนึ่งปีที่ผ่านมา...... เราใส่เสื้อเหลือง เราใส่สายรัดข้อมือสีเหลือง </TT>
    <TT>คนนับแสนไปนั่งรอเป็นชั่วโมงๆ หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคมเพื่อจะได้เห็นพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพียงไม่กี่นาที </TT>
    <TT>วันนั้น ในขณะที่ทั้งโลกเริ่มเสื่อมศรัทธาในระบบการปกครองโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เราได้แสดงให้โลกได้เห็นว่ามีประเทศเล็กๆ ประเทศหนึ่งที่คนทั้งชาติยังซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรี และพระมหากษัตริย์อันทรงเป็นที่รักยิ่งของคนไทย </TT>
    <TT>...สิบสองปีที่ผ่านมา...... </TT>
    <TT>พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรหนักด้วยโรคหัวใจเพราะทรงงานหนักเกินไป </TT>
    <TT>ในขณะเดียวกัน สมเด็จพระราชชนนีก็ทรงพระประชวรหนักอยู่ ณ โรงพยาบาลศิริราชเช่นกัน </TT>
    <TT>เรายังจำรูปในหนังสือพิมพ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมพระราชนนีไม่กี่วันหลังจากการผ่าตัดใหญ่ถวาย พระหัตถ์ข้างหนึ่งกุมอยู่ที่พระอุระ และในพระหัตถ์อีกข้างหนึ่งทรงถือม้วนแผนที่กรุงเทพฯ เพราะน้ำกำลังท่วมกรุงอยู่ ยังจำกันได้ไหม</TT><TT>? </TT>
    <TT>..... 34 ปีที่ผ่านมา..... </TT>
    <TT>วันที่ </TT><TT>14 ตุลาคม พ.ศ.2516 เป็นครั้งแรกในรัชกาลที่เกิดวิกฤติด้านการเมืองรุนแรงที่สุด </TT>
    <TT>วันนั้น นิสิตนักศึกษาและประชาชนนับหมื่นนับแสนเดินขบวนประท้วงรัฐบาล เหตุการณ์ร้ายแรงยิ่งขึ้น ตำรวจทหารยิงประชาชน ในขณะที่นิสิตนักศึกษาก็เผาสถานที่ราชการ เกิดกลียุคทุกหย่อมหญ้า คนไทยฆ่าคนไทยด้วยกันเอง </TT> <TT>คืนนั้น สถานีโทรทัศน์ทุกช่องถ่ายทอดสดจากพระราชวังสวนจิตรลดา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสกันคนไทยทุกคนว่า</TT><TT> “คนไทยจะฆ่าคนไทยด้วยกันไม่ได้ ทุกอย่างต้องสงบโดยฉับพลัน” และทุกอย่างก็สงบโดยฉับพลัน </TT>
    <TT>หลังจากนั้นไม่นาน มีฝรั่งคนหนึ่งมาถามผมว่า </TT><TT>“เป็นไปได้อย่างไร ที่คนๆ เดียวจะมีอำนาจเหนือคนทั้งประเทศได้อย่างนั้น?” </TT> <TT>ผมไม่ได้ตอบ แต่ตอนนั้นใจผมคิดถึงประโยคที่ มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมชฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ </TT><TT>BBC ว่า </TT>
    <TT>พระองค์ทรงเป็น </TT><TT>'SOUL OF THE NATION' หรือ “จิตวิญญาณของคนไทยทั้งชาติ” </TT>
    <TT>ยังจำกันได้ไหม</TT><TT>? แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่? เราสร้างค่านิยมผิดๆ ว่าคนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่มีเงินมากที่สุด เราโกงทุกครั้งที่มีโอกาส </TT>
    <TT>เราเรียกร้องประชาธิปไตยโดยคิดถึงแต่ </TT><TT>“สิทธิ” แต่ลืมคำว่า “หน้าที่” </TT>
    <TT>เรากำลังฆ่ากันเองทุกวันในภาคใต้ เราสร้าง </TT><TT>“กฎหมู่” ให้เหนือ “กฎหมาย” เราเดินขบวนประท้วงในทุกอย่างที่เราไม่เห็นด้วย เราก้าวร้าวต่อกัน เราแตกแยกกัน </TT>
    <TT>และทั้งโลกกำลังจับตามองเราอยู่ เราเคยหยุดคิดกันบ้างไหมว่า </TT>
    <TT>พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา จะทรงเสียพระทัยเพียงใด</TT><TT>? </TT>
    <TT>80 ชันษาของพระองค์ท่าน หากเปรียบกับคนธรรมดาก็สมควรที่จะได้พักเต็มที่ ได้รับการดูแลและระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่สมควรที่จะตรากตรำทำงานหนัก หรือกระทบกระเทือนใจแต่อย่างใด </TT>
    <TT>แต่กลับเป็นว่า ในปีที่ครบ </TT><TT>80 ชันษาของพระองค์ท่านยังต้องทรงงานอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ทรงต้องอยู่ภายใต้การถวายการดูแลของคณะแพทย์ พระองค์ต้องรับทุกข์ของคนไทยทั้งชาติ </TT>
    <TT>ความสุขของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้ ไม่ใช่จะประทับอยู่ในพระราชวังใหญ่โตสวยงาม แห่ล้อมด้วยข้าราชบริพาร หากแต่ความสุขของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้คือ เมื่อประชาชนของพระองค์ท่านรักสามัคคีกัน รู้จักความพอเพียง และมีสติ-เพียงเท่านี้เอง </TT>
    <TT>แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่</TT><TT>? หรือนี่คือการแสดงความกตเวทีต่อพระมหากษัตริย์ของเรา?</TT>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    ใบขับขี่เป็นทรัพย์สิน ตำรวจไม่สามารถยึดได้

    <o:p></o:p>

    <TABLE class=MsoNormalTable style="mso-cellspacing: 1.5pt" cellPadding=0 border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; BACKGROUND: #a0c6e5; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 7.2pt; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8" width=10> <o:p></o:p>
    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 7.2pt; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" width=10> <o:p></o:p>
    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent">ใบขับขี่เป็นทรัพย์สิน ตำรวจไม่สามารถยึดได้ มีประโยชน์สำหรับผู้ขับขี่ เมื่อเช้านี้ได้ฟังรายการ บันทึกสถานะการณ์ทางวิทยุแห่งประเทศไทย ตอน 8.00น. วันนี้มีการสัมภาษณ์ คุณ<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:smarttags" /><st1:personName w:st="on" ProductID="จาตุรงค์ ฉายแสง">จาตุรงค์ ฉายแสง</st1:personName> รองนายกรัฐมนครี เรื่องมาตรการความปลอดภัยใน
    ช่วงเทศกาล
    มีตอนหนึ่งที่ท่านพูดว่า ใบขับขี่เป็นทรัพย์สิน ตำรวจไม่สามารถยึดได้ ตำรวจออกใบสั่งให้ไปเสียค่า
    ปรับ ถ้าหากยึดใบขับขี่
    ถือเป็นการลักทรัพย์ แต่ความเป็นจริงทั้งในอดีตและในปัจจุบันนี้ เวลาตำรวจทางหลวง หรือตำรวจ
    จราจร และแม้แต่ตำรวจสายตรวจ
    หรือตามด่านต่างๆ เวลาเรียกรถเพื่อตรวจ มักจะขอดูใบขับขี่ และยึดเอาไปแล้วหาข้อหาให้ บางทีก็ยึด
    แล้วเดินเข้าป้อมเพื่อให้คนขับรถเข้าไปเจรจา
    บางทีก็ยึดโดยไม่ให้ใบสั่งแต่บอกให้ไปเอาที่สถานี บางทีก็ยึดไปพร้อมออกใบสั่ง เพื่อให้ไปเสียค่าปรับ
    ประชาชนส่วนใหญ่งง
    วิธีการปฏิบัติของตำรวจ ผมคิดว่าต่อไปถ้าตำรวจจะยึดใบขับขี่ ต้องไม่ยอมให้ไป ถ้าตำรวจเอาไป
    จริงๆ ต้องแจ้งความข้อหาลักทรัพย์ เวลาทำผิดกฏจราจร
    ตำรวจก็ให้ใบสั่งได้อยู่ แล้วและใบสั่งมีความสำคัญมาก ผู้รับต้องไปเสียค่าปรับ ถ้าไม่ไป ทางราช
    การก็มีมาตรการที่จัดการอยู่แล้ว
    เช่นไม่ต่อทะเบียนตัดคะแนน ให้ไปอบรมกฏจราจรใหม่ จนถึงมีคำสั่งทางศาลให้ยึดใบขับขี่ได้

    ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ต้องระมัดระวัง อย่าถือแต่อำนาจอย่าลืมว่าโลกไปไกลแล้ว แต่พวกท่านยังทำ
    งานอย่างเดิมๆไม่ได้แล้วนะครับ
    อย่าคิดแต่ว่าประชาชนโง่ ไม่รู้กฏหมาย จะต้มยำยังไงก็ได้ ประชาชนเจ็บช้ำน้ำใจมามากแล้ว อย่า
    แกล้งกันมากเกินไป
    เข้าใจว่าประชาชนจำนวนมากเจอมาตรการ ถอดกุญแจ ยึดใบขับขี่ เดินเข้าป้อมกันมามากแล้ว (ถาม
    ว่าจับข้อหาอะไร หาว่าหัวหมอ
    ให้ไปคุยกันในป้อม)

    เมื่อได้อ่าน และรู้เช่นนั้นแล้ว กรุณาส่งต่อเพื่อเป็นความรู้เท่าทันไอ้พวกตำรวจเฮงซวยที่ชอบรีดไถ
    ประชาชน
    ใช้อำนาจเกินขอบเขต แล้วเราและเพื่อนๆคนอื่นๆ ก็จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อพวกกระสือในเครื่องแบบ
    ขอบคุณมากๆครับ

    สำหรับทุกความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน กับทุกๆคนเลย<o:p></o:p>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    เรื่องขำๆ ของในหลวง แล้วเราจะรักท่าน<o:p></o:p>
    เรื่องขำๆ ของในหลวง
    แล้วเราจะรักท่าน
    เรื่องที่จะเล่าให้ฟังอยู่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็น เรื่องจริง
    เหตุการณ์เกิดที่จังหวัดตาก
    เมื่อพระเทพทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฏรตามที่
    ต่างๆและได้ทรง
    เสด็จไปเยี่ยมประชาชนในตลาด
    สดและ ถามความเป็นอยู่กับบรรดาแม่ค้า ในตลาดแต่ก็มา
    ถึงแม่ค้าปลาซึ่งพระองค์ทรงตรัสถามว่า
    "ปลาพวกนี้ขายอย่างไงจ๊ะ"
    แม่ค้าตอบ
    >> >>>>>>>ว่า "ที่สวรรคตแล้ว กิโล
    >> >>>>>>>ละ 40
    >> >>>>>>>บาท
    >> >>>>>>> และที่
    >> >>>>>>>เสด็จไปเสด็จมากิโลละ 80 บาท
    >> >>>>>>>จ๊ะ"
    >> >>>>>>>
    >>เหตุการณ์
    >> >>>>>>>นี้ ทำให้ข้าราชบริพาลที่ตามเสด็จหัวเราะกัน ทุก
    >> >>>>>>>คน
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>
    >>------------ ------
    >> >>>>>>>----------------------------- ----------
    >> >>>>>>>-
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>> เช้าวัน
    >> >>>>>>>หนึ่ง เวลา ประมาณ 7
    >> >>>>>>>โมง เช้า
    >> >>>>>>> นาง<st1:personName w:st="on" ProductID="สนอง พระ">สนอง พระ</st1:personName>
    >> >>>>>>>โอษฐ์ ของฟ้าหญิง องค์
    >> >>>>>>>เล็ก
    >> >>>>>>> ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียง
    >> >>>>>>>ผู้ชาย ขอพูดสายกับฟ้า
    >> >>>>>>>หญิง
    >> >>>>>>> ทางนางสนองพระ
    >> >>>>>>>โอษฐ์ ก็สอบถามว่าใครจะพูดสาย
    >> >>>>>>>ด้วย
    >> >>>>>>> ก็มีเสียงตอบกลับมา
    >> >>>>>
    >> >>ว่า คนที่
    >> >>>>>>>แบงค์
    >> >>>>>>> นางสนองพระโอฐ
    >> >>>>>>>ก็ งง...
    >> >>>>>>>งง
    >> >>>>>>> ว่าคนที่แบงค์ทำไมโทรมา แต่
    >> >>>>>>>เช้า แบงค์ก็ยังไม่เปิด นี่
    >> >>>>>>>หว่า
    >> >>>>>>>แต่
    >> >>>>>>>พอฟ้าหญิงรับโทรศัพท์แล้วถึงได้รู้ว่า คนที่ แบงค์
    >> >>>>>>>น่ะ
    >> >>>>>>> ก็ที่แบงค์จริงๆ
    >> >>>>>>>นะ ไม่เชื่อเปิดกระเป๋า
    >> >>>>>>>ตังค์
    >> >>>>>>> แล้วหยิบแบงค์มาดู
    >> >>>>>>>สิ ... ขนลุก
    >> >>>>>>>เลย
    >> >>>>>>> (ทรงตัสกับในหลวงท่านอยู่ นั่น<
    >>BR>>>>>>>>เอง)
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>> ---------------------- -
    >> >>>>>>>---------------------------------- --------------------------
    >> >>>>>>>-
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>> อีกครั้ง
    >> >>>>>>>หนึ่งที่ภาคอีสานเมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้าน ของราษฎรผู้
    >> >>>>>>>หนึ่ง
    >> >>>>>>> ที่คณะผู้
    >> >>>>>>>ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการกราบ บังคม
    >> >>>>>>>ทูล
    >> >>>>>>> ที่คล่อง
    >> >>>>>>>แคล่วและใช้ราชาศัพท์ได้อย่างน่า
    >> >>>>>>>ฉงน
    >> >>>>>>>
    >> เมื่อ
    >> >>>>>>>ในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการ ใช้ราชาศัพท์ได้ดี
    >> >>>>>>>นี้
    >> >>>>>>> จึงมีคำ
    >> >>>>>>>กราบทูลว่า "ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผ ลิเก
    >> >>>>>>>เก่า
    >> >>>>>>> บัดนี้มี
    >> >>>>>>>อายุมากจึงเลิกรามาทำนาทำสวนพระ พุทธเจ้า
    >> >>>>>>>ข้า.."
    >> >>>>>>> มาถึงตอน
    >> >>>>>>>สำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ที่ ชาน
    >> >>>>>>>เรือน
    >> >>>>>>> ก็ทรงตรัส
    >> >>>>>>>ถามว่า เป็นนกอะไรและมีกี่
    >> >>>>>>>ตัว..
    >> >>>>>>>
    >>พ่อ ลิเก
    >> >>>>>>>เก่ากราบบังคมทูล ว่า
    >> >>>>>>> "มี ทั้ง
    >> >>>>>>>หมดสามตัว พระมเหสีมันบิน หนี
    >> >>>>>>>ไป
    >> >>>>>>> ทิ้งพระ
    >> >>>>>>>โอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ยัง
    >> >>>>>>>เล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่
    >> >>>>>>>เลย
    >> >>>>>>> และทิ้ง
    >> >>>>>>>ให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้
    >> >>>>>>>เดียว"
    >> >>>>>>> &n
    >> >>>>>>>bsp; เรื่อง
    >> >>>>>>>นี้ ดร.
    >> >>>>>>>สุเมธ
    >> >>>>>>>
    >>
    >> >>>>>>>เล่าว่าเป็นที่ต้องสะกดกลั้นหัวเราะกันทั้งคณะไม่ ยกเว้นแม้
    >> >>>>>>>ในหลวง
    >> >>>>>>> ---------------------- -
    >> >>>>>>>--------------------------------- -
    >> >>>>>>>-
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>> เมื่อ
    >> >>>>>>>ครั้งท่านพระชนม์มายุ 72
    >> >>>>>>>พรรษา
    >> >>>>>>> มีการผลิต
    >> >>>>>>>เหรียญที่ระลึกออกมาหลาย
    >> >>>>>>>รุ่น
    >> >>>>>>>
    >>เจ้า ของ
    >> >>>>>>>กิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่งได้ยื่น เรื่องขอ
    >> >>>>>>>อนุญาต
    >> >>>>>>> นำพระบรม
    >> >>>>>>>ฉายาลักษณ์ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกาเป็น รุ่น
    >> >>>>>>>พิเศษ
    >> >>>>>>> ท่านทราบ
    >> >>>>>>>เรื่องแล้วตรัสกับเจ้าหน้าที่
    >> >>>>>>>ว่า
    >> >>>>>>> "ไปบอก
    >> >>>>>>>เค้านะเราไม่ใช่มิกกี้
    >> >>>>>>>เมาส์"
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>> &n
    >> >>>>>>>bsp;
    >>------ --------------------------------
    >> >>>>>>>-
    >> >>>>>>> &n
    >> >>>>>>>bsp;
    >> >>>>>>> เรื่องการใช้ราชาศัพท์
    >> >>>>>>>กับในหลวง
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>> ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้งแผ่น
    >> >>>>>>>ดิน
    >> >>>>>>> และไม่เว้นแม้กระทั่งข้า ราชการ
    >> >>>>>>>ชั้นผู้ใหญ่ที่ได้เข้า เฝ้า
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>ทูลละอองธุลีพระบาทถวาย
    >> >>>>>>>รายงาน
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>> ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนมีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่ง
    >> >>>>>>>กราบบังคมทูลรายงาน
    >> >>>&g
    >>t;>>>
    >> >>>>>>>ว่า "ขอ
    >> >>>>>>>เดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท
    >> >>>>>>>ปกเกล้าปกกระหม่อม
    >> >>>>>>> ข้าพระพุทธเจ้าพล ตรีภูมิ
    >> >>>>>>>พลอดุลยเดช
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>> ขอพระราชทานพระบรมราชานุ
    >> >>>>>>> ญาต
    >> >>>>>>>
    >>กราบบังคม ทูล
    >> >>>>>>>รายงาน
    >> >>>>>>>ฯลฯ"
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>> ข้าพระพุทธเจ้าพลตรีภูมิพลอดุลย
    >> >>>>>>> เดช
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>ขอพระราชทานพระบรมราชานุ
    >> >>>>>>>ญาต
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>> กราบบังคมทูลรายงาน
    >> >>>>>>> ฯลฯ"
    >> >>>>>>> เมื่อสิ้นคำกราบ บังคมทูลชื่อ
    >> >>>>>>>ในหลวงทรงแย้มพระ สรวล
    >> >>>>>>> อย่างมีพระอารมณ์ดี และไม่ถือสา
    >> >>>>>>>ว่า
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>" เออ ดี เราชื่อเดียว
    >> >>>>>>> กัน..."
    >> >>>>>>> ข่าวว่าวันนั้น ผู้เข้าเฝ้าต้อง<
    >>BR>>>>>>>>ซ่อนหัวเราะ ขำขันกันทั้งศาลาดุสิดา
    >> >>>>>>> ลัย
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>เพราะผู้รายงานตื่นเต้นจนจำชื่อตนเอง ไม่
    >> >>>>>>>ได้
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>
    >>------------ ------
    >> >>>>>>>-------------------- -
    >> >>>>>>> &n
    >> >>>>>>>bsp;
    >> >>>>>>> มีอยู่ครั้งหนึ่ง
    >> >>>>>>>ทรงเสด็จไปพระราชทานปริญญา
    >> >>>>>>>บัตร
    >> >>>>>>> ให้กับนักศึกษา ของมหาวิทยาลัย
    >> >>>>>>>แห่ง หนึ่ง
    >> >>>>>>> ในระหว่างที่ทรง เปลี่ยนใน
    >> >>>>>>>ครุย ทรงโปรดสูบมวน พระ
    >> >>>>>>>โอสถ
    >> >>>>>>> แต่ว่าทรงหาที่จุดไม่
    >> >>>>>>>ได้
    >> >>>>>>> ทางอธิการบดีซึ่งเฝ้า
    >> >>>>>>>อยู่ก็จุดไฟให้พร้อมทูลว่า
    >> >>>>>>>
    >>"ถวายพระเพลิงพระ เจ้า
    >> >>>>>>>ข้า"
    >> >>>>>>> ในหลวงทรง
    >> >>>>>>>ชะงัก ก่อนจะแย้มสรวลน้อยๆ กับอธิการบดี ว่า
    >> >>>>>>> "เรายังไม่ตายถวาย พระ
    >> >>>>>>>เพลิงไม่ได้หรอก"
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>
    &g t;> >>>>>>> ---------------------------------- ----
    >> >>>>>>>-
    >> >>>>>>> &n
    >> >>>>>>>bsp;
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>> เคยมีเรื่องเล่า ให้ฟัง
    >> >>>>>>>ว่า
    >> >>>>>>>
    >> ในหลวง
    >> >>>>>>>เสด็จไปในถิ่นทุรกันดารเเพื่อ เยี่ยมเยียน
    >> >>>>>>>ราษฎร
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>> มีอยู่ ครั้ง
    >> >>>>>>>หนึ่งพระองค์ท่านทรงแจกพระ เครื่องให้กับราษฎรจนหมด
    >> >>>>>>> แล้ว
    >> >>>>>>> แต่ ราษฎร
    >> >>>>>>>ผู้หนึ่งกราบบังคมทูลขอรับพระ ราชทานพระเครื่อง
    >> >>>>>>>ว่า
    >> >>>>>>> "ขอ
    >> >>>>>>>เดชะ ขอพระหนึ่ง
    >> >>>>>>>องค์"
    >> >>>>>>>
    >>ในหลวง ทรง
    >> >>>>>>>ตรัสว่า "ขอเดชะ พระ หมด
    >> >>>>>>>แล้ว"
    >> >>>>>>> &n
    >> >>>>>>>bsp;
    >> >>>>>>> --------------------------------------
    >> >>>>>>>-
    >> >>>>>>> &n
    >> >>>>>>>bsp;
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>> วัน
    >> >>>>>>>หนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่าน ตามปกติที่ต่าง
    >> >>>>>>>จังหวัด
    >> >>>>>>>
    >> ก็
    >> >>>>>>>มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวง มาก
    >> >>>>>>>มาย
    >> >>>>>>> พระองค์ท่านเสด็จ พระราชดำเนินมาตามลาดพระ
    >> >>>>>>> บาท
    >> >>>>>>> ที่ แถว
    >> >>>>>>>หน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้ม ลงกราบแทบพระ
    >> >>>>>>>บาท
    >> >>>>>>> แล้วก็เอา
    >> >>>>>>>มือของแกมาจับ พระหัตถ์ของ
    >> >>>>>>>ในหลวง
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>แล้วก็พูดว่า ยายดีใจเหลือเกินที่ได้ เจอ
    >> >>>>>>>ในหลวง
    >> >>>>>>>
    >> แล้ว
    >> >>>>>>>ก็พูดว่า ยายอย่าง โน้น
    >> >>>>>>>ยายอย่างนี้
    >> >>>>>>> อีก
    >> >>>>>>>ตั้งมากมายแต่ในหลวงก็ทรง
    >> >>>>>>>เฉยๆ
    >> >>>>>>> มิได้ตรัสรับสั่ง ตอบว่า
    >> >>>>>>>กระไร
    >> >>>>>>> แต่พวกข้าราชบริ ภารก็มองหน้ากัน
    >> >>>>>>>ใหญ่
    >> >>>>>>> กลัวว่าพระองค์จะ ทรงพอพระราชหฤหัย หรือ
    >> >>>>>>> ไม่
    >> >>>>>>> แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบว่ากับหญิงชราคน
    >> >>>>>>>นั้น
    >> >>>>>>>
    >>ทำให้ เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว เพราะ
    >> >>>>>>>พระองค์ทรงตรัสว่า
    >> >>>>>>> "
    >> >>>>>>>เรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อนกว่าแม่ฉัน ตั้ง
    >> >>>>>>>เยอะ
    >> >>>>>>> ต้องเรียกน้าซิถึง จะ
    >> >>>>>>>ถูก"
    >> >>>>>>> ต้องเรียกน้าซิถึง จะ
    >> >>>>>>>ถูก"
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>> ----------------- -
    >> >>>>>>>------------------------------- -
    >> >>>>>>> &n
    >> >>>>>>>bsp;
    >>
    > > >>>>>>>
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>ครั้งหนึ่งหลายๆ ปีมา
    >> >>>>>>>แล้ว
    >> >>>>>>> พระเจ้า
    >> >>>>>>>อยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับพระฉวีมีพระ อาการ
    >> >>>>>>>คัน
    >> >>>>>>> มีหมอโรค
    >> >>>>>>>ผิวหนังคณะหนึ่งไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวาย การ
    >> >>>>>>>รักษา
    >> >>>>>>> คุณหมอ
    >> >>>>>>>เป็นผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนังแต่ไม่ได้เชี่ยวชาญ ทางราชา
    >> >>>>>>>ศัพท์
    >> >>>>>>> ก็กราบ
    >> >>>>>>>บังคมทูลว่า "เอ้อ - ทรง...
    >> >>>>>>>
    >>อ้า-ทรง
    >> >>>>>>>พระคันมา นานแล้วหรือยังพะยะ
    >> >>>>>>>ค่ะ"
    >> >>>>>>> อ้า-ทรง
    >> >>>>>>>พระคันมานานแล้วหรือยังพะยะ
    >> >>>>>>>ค่ะ"
    >> >>>>>>> พระ
    >> >>>>>>>เจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล ตรัส
    >> >>>>>>>ว่า
    >> >>>>>>> "
    >> >>>>>>>ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนี่จะท้องได้ยัง
    >> >>>>>>>ไง"
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>แล้วคงจะทรงพระกรุณาว่า
    >> >>>>>>> หมอคงจะ
    >> >>>>>>>ไม่รู้ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกาย
    >> >>>>>>>จริงๆ
    >> >>>>>>>
    >>ก็พระ ราช
    >> >>>>>>>ทานพระบรมราชานุญาตว่า เอ้า พูดภาษาอังกฤษกัน
    >> >>>>>>>เถอะ
    >> >>>>>>> เป็นอัน
    >> >>>>>>>ว่าก็กราบบังคมทูลซักพระอาการกันเป็นภาษา อังกฤษ
    >> >>>>>>>ไป
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>> ------------------------------
    >> >>>>>>>---------
    >> >>>>>>> &n
    >> >>>>>>>bsp;
    >> >>>>>>> &n
    >> >>>>>>>bsp; เรื่องนี้ รุ่นพี่ที่จุฬาฯเล่าให้ฟัง
    >> >>>>>>> ว่า
    >> >>>>>>>
    >> มีอยู่ปี
    >> >>>>>>>นึงที่ในหลวงทรงเสด็จพระราช ทานปริญญา
    >> >>>>>>>บัตร
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>อธิการบดีอ่านรายชื่อบัณฑิตแล้ว บังเอิญ
    >> >>>>>>>ว่า
    >> >>>>>>> มีเหตุขัด
    >> >>>>>>>ข้องบางประการ ทำให้อ่านขาด
    >> >>>>>>>ตอน
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>> ก็ต้องรีบหาว่าอ่านรายชื่อไปถึง ไหน
    >> >>>>>>>แล้ว
    >> >>>>>>> ปรากฏว่า
    >> >>>>>>>ในหลวงท่านทรงจำได้ ท่านเลยตรัสกับอธิการ ไป
    >> >>>>>>>ว่า
    >> >>>>>>>
    >>"
    >> ; >>>>>>>เมื่อกี้นี้ (ชื่อ....)
    >> >>>>>>>เค้ารับไปแล้ว"
    >> >>>>>>> และ
    >> >>>>>>>มีอีกปีนึงขณะที่พระราชทานปริญญาบัตร อยู่
    >> >>>>>>>ดีๆ
    >> >>>>>>> ไฟ
    >> >>>>>>>ดับไปชั่วขณะ...
    >> >>>>>>> ทำให้บัณฑิตคน หนึ่งพลาดโอกาสครั้งสำคัญในการถ่าย
    >> >>>>>>> รูป
    >> >>>>>>> พอในหลวงทรงพระราชทานปริญญาบัตรเรียบร้อย
    >> >>>>>>>แล้ว
    >> >>>>>>> ก่อน
    >> >>>>>>>ที่จะให้พระบรมราโชวาท
    >> >>>>>>>
    >>ท่าน ทรง
    >> >>>>>>>ให้อธิการบดีเรียกบัณฑิตคนนั้นมา รับพระราชทานอีก
    >> >>>>>>>ครั้ง
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>เพื่อจะได้มีรูปไว้เป็นที่
    >> >>>>>>>ระลึก
    >> >>>>>>>
    >> ตื้นตันกันถ้วนทั่วทั้งหอ
    >> >>>>>>> ประชุม
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>> &nbs
    >> >>>>>>>p; &nbs p; &n
    >> >>>>>>>bsp; &n bsp;
    >> >>>>>>> &nbs
    >> >>>>>>>p; ********
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>>
    >> >>>>>>> &nbs
    >> >>>>>>>p; &nbs p;
    >> &n
    >> >>>>>>>bsp; &n bsp;
    >> >>>>>>>ขอจงทรง พระเจริญยิ่งยืน
    >> >>>>>>>นาน<o:p></o:p>

    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
     
  9. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    หยุดไม่ได้จ้า อยู่บน โทลล์เวย์ หยุดยิ่งอันตราย รถหลังมามาองไม่เห็น [​IMG]
     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,895
    หุ้นไทยปิดนิวไฮรอบ 11 ปี ดัชนีจ่อ 900 จุด - เงินนอกทะลักหมื่นล.เหรียญ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">12 ตุลาคม 2550 02:00 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> หุ้นไทยสุดแรงพุ่ง 14 จุด ปิดทำสถิติสูงสุดในรอบ 11 ปี จ่อทะลุ 900 จุด วอลุ่มทะลัก 3.4 หมื่นล้าน สศค.ชี้ 9 เดือนเงินนอกเข้าไทย 9 พันล้านเหรียญ คาดทั้งปีไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านเหรียญ โบรกเกอร์ชี้เงินนอกโยกจากตลาดเงินเข้าตลาดทุนหลังได้ผลตอบแทนต่ำ เผยกองทุนตปท.หันกู้เงินแบงก์ญี่ปุ่นเพื่อลงทุนหุ้นตลาดเกิดใหม่ ลุ้นเฟดลดดอกเบี้ยรอบใหม่ดันเงินนอกทะลักเข้ามาลงทุนหุ้นทั่วเอเชีย

    ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ (11 ต.ค.) ยังคงได้รับอานิสงส์จากแรงซื้อที่เข้ามาอย่างหนาแน่นในหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากสัญญาณที่ชัดเจนของเม็ดเงินต่างชาติที่กลับเข้ามาซื้อหุ้นทั่วเอเชียอีกครั้งจนส่งผลทำให้ตลาดหุ้นหลายแห่งทำสถิติดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดได้อีกครั้ง ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยเองปิดในระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี

    โดยดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมาปิดที่ 889.06 จุด เพิ่มขึ้น 13.96 จุด หรือ 1.60% มีจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 891.27 จุดและจุดต่ำสุดอยู่ที่ 876.12 จุด มูลค่าการซื้อขายสูงถึง 33,915.76 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,835.74 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 63.39 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 2,772.35 ล้านบาท ทำให้ยอดซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่วันที่ 1 - 11 ต.ค. รวมทั้งสิ้น 8,317 ล้านบาท

    นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ UOBKH เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 5 โดยได้รับแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ เช่น พลังงาน ธนาคาร ขนส่ง ปิโตรเคมี ฯลฯ เนื่องจาก เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศยังคงไหลเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่องจากหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ย และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้มีการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.5% ต่อไป จึงทำให้เม็ดเงินลงทุนในตลาดเงินไหลมาลงทุนในตลาดหุ้นเพราะมีผลตอบแทนที่สูงกว่า ซึ่งเชื่อว่ากองทุนต่างๆได้มีการกู้เงินจาก BOJ เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นต่างๆมากขึ้น

    "เม็ดเงินลงทุนต่างประเทศมีแนวโน้มที่จะไหลเข้ามาลงทุนตลาดหุ้นในภูมิภาคอย่างต่อเนื่องจากคาดว่าเฟดจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ส่งผลให้ผลตอบแทนจากพันธบัตร ตราสารหนี้ ลดลงไม่คุ้มกับต้นทุนนักลงทุนจึงหันนำเงินออกมาลงทุนในตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่สูง"นายโกสินทร์ กล่าว

    สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ เชื่อว่าจะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ จากเม็ดเงินต่างชาติที่ยังคงไหลเข้ามาลงทุน จึงทำให้ดัชนีมีโอกาสที่จะทดสอบแนวต้านที่ 895-900 จุด แนวรับที่ระดับ 880 จุด ซึงบริษัทแนะนำให้นักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นขนาดใหญ่

    นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศยังคงไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ผลตอบแทนในตลาดเงินในต่างประเทศปรับตัวลดลง ประกอบกับนักลงทุนคลายความกังวลในเรื่องซับไพรม์ ซึ่งเม็ดเงินที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยในหุ้นขนาดใหญ่โดยจะเลือกลงทุนเป็นรายบริษัทที่มีกำไรที่ดี เช่น ธุรกิจถ่านหิน เดินเรือ

    "ตอนนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยไร้ปัจจัยพื้นฐาน แต่เกิดจากเม็ดเงินลงทุนในตลาดเงินไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศปรับตัวลดลง"นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า

    ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยกำลังจะถึงจุดเปลี่ยนภายใน 3 วันนี้ ซึ่งหากดัชนียังสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่า 895 จุดได้ มีแนวโน้มที่จะสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ถึง 910-920 จุด แต่หากไม่สามารถผ่าน 895 จุดได้ จะมีแรงขายหุ้นออกมา ซึ่งนักลงทุนควรที่จะเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี

    **คาดเงินนอกลงทุนหมื่นล.
    นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ ผู้อำนวยการส่วนนโยบายการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า ภายในปีนี้น่าจะมีเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทยประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ไหลเข้ามา 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาพบมีเงินไหลเข้ามาลงทุนแล้วกว่า 9 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ

    ทั้งนี้ การไหลเข้ามาลงทุนในช่วงที่ผ่านมาสะท้อนถึงความมั่นใจในภูมิภาคเอเชีย ในขณะเดียวกันนักลงทุนยังไม่มั่นใจต่อค่าเงินดอลลาร์เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ดีเท่าที่ควรต้องหาตลาดใหม่ที่จะเข้ามาลงทุนแทน

    นอกจากนี้ หากพิจารณาตามพื้นฐานของตลาดในภูมิภาคเอเชียแล้วยังพบว่ามีความน่าสนใจที่จะลงทุนอีกมากเพราะภาคส่งออกในหลายประเทศถึงว่าค่อนข้างแข็งแกร่ง ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจก็ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทำให้ค่าเงินในภูมิภาคเอเชียมีเสถียรภาพมากกว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ

    อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีหน้าเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติที่จะไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทยรวมถึงในประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียน่าจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าปีนี้

    **เฟดลดด/บเงินลุยหุ้นเพิ่ม
    นายวิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล รองกรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนิตี้ กล่าวว่า ในช่วง 2-3 สัปดาห์ต่อจากนี้เชื่อว่าดัชนีมีโอกาสะปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 900-940 จุด เนื่องจากมีเม็ดเงินต่างชาติที่เข้ามาลงทุนก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 31 ต.ค.นี้ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกหรือไม่

    ทั้งนี้ หากมีเฟดมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งก็จะทำให้มีเม็ดเงินจากต่างประเทศหันกลับเข้ามาลงทุนในตลาดเกิดขึ้นซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทย เพราะผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่หากเฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.75% ก็อาจจะทำให้เม็ดเงินลงทุนอาจจะโยกกลับไปตลาดหุ้นสหรัฐฯแทน

    นอกจากนี้ จากการติดตามข้อมูลการซื้อขายหุ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง 1 เดือนตั้งแต่ปี 39 พบว่าหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูง คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ให้ผลตอบแทน 9.2% กลุ่มสถาบันการเงิน 8.5% กลุ่มสื่อสาร 7.7% สูงกว่าผลตอบแทนของดัชนีที่ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 5.9%

    "รอบนี้เฟดน่าจะคงอัตราดอกเบี้ย เพราะภาคธุรกิจนอกเหนือจากอสังหาริมทรัพย์ยังไม่มีปัญหา แต่คงต้องรอการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อที่จะประกาศวันที่ 17 ต.ค.ก่อนว่าอยู่ที่ระดับใด โดยการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นในรอบนี้หากไม่มีปัจจัยลบอะไรเข้ามากระทบก็ม๊โอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวไปถึง 1,000 จุดได้"นายวิศิษฐ์กล่าว

    **โยกเงินจากพันธบัตรลงหุ้น
    นายเผดิมภพ สงเคราะห์ รองกรรมการผู้จัดการ บล.บัวหลวง หรือ BLS กล่าวว่า เม็ดเงินที่ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นเป็นเงินที่โยกมาจากเงินที่ลงทุนในพันธบัตร เนื่องจากตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนสูงกว่าเมื่อเทียบกับพันธบัตรจากช่วงที่ผ่านมาที่การลงทุนในพันธบัตรให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นประมาณ 1% โดยในตอนนี้แนะนำให้นักลงทุนถือหุ้นในพอร์ตเพิ่มมากขึ้นจากเดิม 60% ของพอร์ตการลงทุนเป็น 70%

    สำหรับความกังวลในเรื่องการเลือกตั้ง เชื่อว่าแม้ว่าจะอาจจะต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปแต่ก็ไม่เกิน 7 ม.ค. 51 ตามที่กฎหมายระบุซึ่งยังถือว่าเรื่องดังกล่าวไม่น่าเป็นห่วง

    นางสาวปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังราคาหุ้นในกลุ่มพลังานและปิโตรเคมี โดยเป็นการเข้ามาซื้อของนักลงทุนต่างชาติหลังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะยังชะลอตัวไปอีกระยะทำให้ต้องมีการกระจายการลงทุนไปยังตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นเอเชีย

    ส่วนแนวโน้มในวันนี้ คาดว่า ดัชนีฯน่าจะยังคงสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อจากวันนี้แม้ว่าจะไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ากระตุ้น แต่เชื่อว่ากระแสเงินทุนจากต่างชาติจะยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะผลักดันให้หุ้นที่มีมาร์เกตแคปใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งอาจทำให้ดัชนีทะลุแนวต้านที่ 900 จุดได้

    </td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table> [​IMG]
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ปภ.เตือนเที่ยวน้ำตก 267 แห่งเสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 11 ต.ค.-นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวตามน้ำตกในช่วงฤดูฝน เสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่าไหลหลาก จากการสำรวจสภาพความเสี่ยงของน้ำตกทั่วประเทศพบมีน้ำตกต้องเฝ้าระวังเกิดน้ำป่าไหลหลากเป็นพิเศษจำนวน 267 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ วนอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งมีพื้นที่ลาดชันจากเชิงเขาและหุบเขา เมื่อมีฝนตกบริเวณดังกล่าว ทำให้น้ำที่ไหลลงมามีกำลังแรง

    ถ้าจะไปเที่ยวช่วงปิดภาคเรียนต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ก่อนเดินทางควรตรวจสอบรายการการท่องเที่ยวและข้อมูลอย่างละเอียด เลือกเที่ยวน้ำตกที่มีสภาพปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัยและระบบแจ้งเตือนภัยได้มาตรฐาน ผู้ที่ไปท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลน้ำตกอย่างเคร่งครัด เล่นพักผ่อนบนตลิ่ง หรือจุดที่ปลอดภัย ไม่ลงเล่นในจุดที่เป็นโขดหินบริเวณที่กระแสน้ำไหลเชี่ยวหรือกลางลำน้ำที่เป็นจุดอันตราย หมั่นสังเกตและรับฟังระบบเตือนภัย.- สำนักข่าวไทย

    [ 2007-10-11 : 19:37:52 ]

    พิษน้ำท่วม จ.เลย เสียหาย 50 ล้าน พิษณุโลกนาข้าวจมน้ำนับแสนไร่

    [​IMG]

    ภูมิภาค 11 ต.ค.-ปภ.เลย สรุปสถานการณ์อุทกภัยจากพิษพายุเลกีมา ทำให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 516 หมู่บ้าน ใน 14 อำเภอ รวมกว่า 1 แสนคน ความเสียหายทั้งจังหวัดประมาณ 50 ล้านบาท ขณะที่ จ.พิษณุโลก ชาวบ้านเดือดร้อน 15,000 ครอบครัว พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 1.8 แสนไร่ มีคนจมน้ำเสียชีวิต 4 ราย

    นายสุเทพ มณีโชติ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเลย เปิดเผยความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ จ.เลย ซึ่งเป็นผลมาจากพายุเลกีมา เบื้องต้นพบว่า มีราษฎรได้รับความเดือดร้อนใน 14 อำเภอ 60 ตำบล 516 หมู่บ้าน รวม 112,208 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 31,875 ไร่ ถนน 860 สาย ท่อระบายน้ำ 700 แห่ง และจะมีการสำรวจความเสียหายอื่น ๆ ภายหลังน้ำลด ประเมินความเสียหายทั้งจังหวัดจากน้ำท่วมครั้งนี้ประมาณ 50 ล้านบาท

    ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก รายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดพิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. มีพื้นที่ประสบภัย 7 อำเภอ 42 ตำบล 192 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อนกว่า 15,000 ครอบครัว พื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะนาข้าว พืชไร่ พืชสวน เสียหายกว่า 180,000 ไร่ และมีประชาชนจมน้ำเสียชีวิต 4 ราย

    ส่วนที่ จ.ร้อยเอ็ด นายสุนทร ทินบุตร ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 บ้านมะบ้า ต.บึงงาม อ.ทุ่งเขาหลวง เปิดเผยว่า จากการออกสำรวจพนังกั้นน้ำ ช่วงวัดคุ้งคงคา บริเวณบ้านมะบ้า พบว่าตลิ่งริมฝั่งแห่งนี้พังทรุดลงทุกวัน พนังกั้นน้ำมีรอยร้าว ด้านล่างเป็นโพรง หากระดับน้ำสูงขึ้น เกรงว่าพนังจะพังลงมา ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับนาข้าวกว่า 5,000 ไร่ และบ้านเรือนประชาชน 5 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านมะบ้า บ้านนางาม บ้านวังทอง บ้านหนองไชยวาน และบ้านดอนแก้ว จึงอยากให้หน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยเหลือโดยด่วน.-สำนักข่าวไทย

    [ 2007-10-11 : 12:13:38 ]

    อุบลฯ แม่น้ำมูลเอ่อล้นชาวบ้านอพยพหนีร่วม 100 ครัวเรือน

    [​IMG]

    อุบลราชธานี, กาฬสินธุ์ 11 ต.ค.- ชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำมูลในจังหวัดอุบลราชธานี เริ่มอพยพหนีน้ำท่วมแล้วกว่า 80 ครัวเรือน เพราะแม่น้ำมูลสูงขึ้นรวดเร็ว และฝนยังตกไม่หยุด ขณะที่ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ ห่วงราษฎรรับผลกระทบเขื่อนลำปาวน้ำไหลล้น รุดตรวจพื้นที่ใกล้ชิด

    ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะน้ำท่วมจังหวัดอุบลราชธานี น่าเป็นห่วง เนื่องจากแม่น้ำมูลน้ำขึ้นสูงอย่างรวดเร็วช่วง 2 วันที่ผ่านมา เฉลี่ยวันละ 2- 3 เซนติเมตร วัดระดับน้ำสูงสุดได้ที่สะพานเสรีประชาธิปไตย 7.04 เมตร และไหลท่วมชุมชนท่าบังมั่ง ชุมชนหาดสวนยา ชุมชนบ่อบำบัดน้ำเสีย เขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ ชาวบ้านที่เดือดร้อนเริ่มย้ายมาอยู่ชั่วคราวจุดที่เทศบาลฯ จัดไว้ให้ คือ ด้านหลังสำนักงานที่ดินอำเภอ จำนวน 82 ครอบครัว ซึ่งเทศบาลฯ นำเต็นท์มากางให้ประชาชนเป็นที่พักสองข้างถนน พร้อมตั้งกองอำนวยการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้อพยพ ซึ่งขณะนี้จังหวัดอุบลราชธานี ยังคงมีฝนตกลงมาตลอดตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และยังไม่มีท่าทีจะหยุด

    ด้านนายประชา จิตสุทธิผล ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ยังคงติดตามสถานการณ์แหล่งกักเก็บน้ำ โดยวันนี้ (11 ต.ค.) เข้าตรวจสอบความแข็งแรงของพนังกั้นลำน้ำชี บริเวณบ้านเหมือดแอ ตำบลเจ้าท่า อำเภอกมลาไสย เขตติดกับอำเภอฆ้องชัย หลังจากชลประทานจังหวัดกาฬสินธุ์ นำเครื่องสูบน้ำ 50 เครื่อง เข้าสูบน้ำในนาข้าว ที่ถูกน้ำเอ่อล้นจากเขื่อนลำปาว ซึ่งพบว่าพื้นที่ทางการเกษตรระดับน้ำท่วมขังเพิ่มขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา เขื่อนลำปาวมีน้ำไหลเข้าเกินระดับกักเก็บมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด อยู่ที่ 1,703 ล้านลูกบาศก์เมตร จากระดับกักเก็บ 1,400 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยแต่ละวันมีน้ำล้นมากกว่า 30 ล้านลูกบาศก์เมตร เกรงว่าเกษตรกรจะเดือดร้อน เพราะนาข้าวเริ่มออกรวงอาจได้รับความเสียหาย จึงต้องการให้เขื่อนลำปาวยกฝายยาง เพื่อชะลอการไหลของน้ำลำปาว และจะทำให้ลำน้ำชีลดปริมาณลง

    สำหรับผลกระทบจากน้ำล้นเขื่อนมีบ้านเรือนเดือดร้อนแล้วกว่า 1,000 ครอบครัว ที่บ้านคำคา ตำบลโนนศิลา อำเภอสหัสขันธ์ ทางจังหวัดนำถุงยังชีพและเวชภัณฑ์ไปช่วยบรรเทาโรคที่มากับน้ำ.-สำนักข่าวไทย

    [ 2007-10-11 : 12:03:21 ]

    อุตุฯ เตือน 12 จังหวัดออก-กลาง-ใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 11 ต.ค.- กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย "หย่อมความกดอากาศต่ำ" ฉบับที่ 3 ว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และอ่าวไทยตอนบน โดยมีแนวโน้มเคลื่อนตัวทางตะวันตกอย่างช้า ๆ ทำให้ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 11-13 ตุลาคม 2550

    ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะจังหวัดระยอง ชลบุรี จันทบุรี ตราด สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลัน และบริเวณที่มีเทือกเขาระมัดระวังน้ำป่าไหลหลากสำหรับพื้นที่ลุ่มใกล้ริมน้ำของภาคกลางควรระมัดระวังน้ำท่วมจากน้ำล้นตลิ่ง และระบายไม่ทัน อนึ่ง บริเวณอ่าวไทยที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะนี้.- สำนักข่าวไทย

    [ 2007-10-11 : 18:29:15 ]

    ที่มา http://tna.mcot.net/search.php?type=1#
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SD01.jpg
      SD01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.5 KB
      เปิดดู:
      8,594
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2007
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** ผู้ตามต้องตามผู้นำ ****

    ประชาชน... คือ ผู้ตาม
    ผู้นำ.... คือ ผู้พาเดินตามชะตากรรม

    ดินแดนแห่งใด...มีผู้นำที่มี "สัจจะ"
    ผู้ตามจะปลอดภัย...ดินแดนจะพบทางดั่งสวรรค์

    ดินแดนแห่งใด....มีผู้นำ "ไร้สัจจะ"
    ผู้ตามจะประสบเคราะห์กรรมมากมาย....ดินแดนจะวิปโยค

    ถึงเวลาที่ต้องเลือกทางเดิน...เลือกผู้นำ....เลือก "ผู้มีสัจจะ"

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    นอสตราดามุส...เป็นห่วงประเทศไทย
     
  14. DDS3334

    DDS3334 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    165
    ค่าพลัง:
    +398
    คำทำนายเป็นเครื่องมือชี้แนวทางเพียงส่วนหนึงเท่านั้น อย่าพึงตระนกตกใจ ถ้าแม้จะเกิดเรื่องร้ายๆก็จะต้องมีสิ่งบอกเหตุล่วงหน้า แต่ก็ใช่ว่าจะให้กระทำตัวโดยประมาท พึงเตรียมตัวตายไว้ทุกเมื่อ และเตรียมตัวรับมือเอาไว้บ้างตามสมควรแก่เหตุพร้อมสติ
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ข้อความจากคุณ Bassate...
    โดยคุณ mead<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_612160", true); </SCRIPT>​

    [​IMG]

    คุณแม๊ค (Bassate) บอกว่าได้รับข่าวนี้จากเบื้องบน (พระคริสต์)
    ได้รับข่าวมาเป็นระยะ ไม่อาจระบุจังหวัดได้ แค่เตือนมาไม่ให้ประมาท

    เพราะภัยนี้จะมาเร็วแบบไม่ทันตั้งตัวเหมือนแมวขโมย หลังเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงมาก เปลือกโลกบริเวณนั้นจะขยับเคลื่อนตัวแยกออกจากกันเป็นร่องลึกเหมือนแกรนด์แคนยอน น้ำจะไหลเข้ามาแทนที่ ความกว้างไม่แพ้"ฮวงโห"ของจีนที่เรียกว่ากว้างที่สุดในโลก บ้านเรือนแถบนั้นถูกกระแสน้ำพัดพา ผู้คนจะถูกกระแสน้ำพัดพาไปด้วยหลายชิวิต

    เคยเกิดเหตุขึ้นเช่นนี้มาแล้วหลายครั้งในอดีต ซึ่งครั้งนี้จะถือว่ารุนแรงที่สุด ควรระวังปลายปี 50 นี้อาจมีเหตุใหญ่อีกครั้งหนึ่งแถบอ่าวไทย จุดที่ทางการไม่ค่อยระวัง แม๊คบอกว่าจริงๆ แล้วทุกอย่างสามารถแก้ไขเปลื่ยนแปลงได้..ขึ้นอยู่กับมนุษย์ถ้าเปลื่ยน จิตสำนึกไปในทางบวกกันได้ทั้งโลก แต่ขณะนี้โอกาสแทบจะเหลือน้อยมากเกือบ 0 % ที่ภัยใหญ่ไม่เกิด..เบื้องบนปล่อยมือจากการช่วยเหลือแล้ว..ตามแรงผลกรรมของโลกเอง..ยังไงที่สุดแล้วไม่เกินปฎิทินปีของชาวมายัน..ซึ่งใช้การสื่อทางจิตแจ้งไว้แล้ว หรืออาจเร็วกว่านั้น..โดยเฉพาะปี 2551 ต้องระวังเป็นพิเศษ

    ข้อความจากคุณ Bassate...

    ท่านบอกว่าคนที่เบื้องบนเลือกไว<WBR>้จะได้รับสัญญาณสังหรณ์บางอย<WBR>่างให้เอาตัวรอด มันไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์แต่เป็นวิทยาศาสตร์ทางพล<WBR>ังงานและจิต เนื่องจากจิตบวกเป็นพลังงานที<WBR>่โลกต้องการในการดำรงอยู่และหล<WBR>่อเลี้ยงระบบทั้งจักรวาล คนที่มีจิตที่เป็นบวกจะถูกพล<WBR>ังานย่านนี้ชักนำให้ผ่านวิกฤต<WBR>ิไปได้ครับ

    ทุกอย่างมีคำตอบที่ชัดเจนครับ การทำลายล้างระบบครั้งนี้อย่าโทษพระเจ้าเลยเป็นเพราะการทำงานของระบบเอง ที่เป็นไปตามวิถีทางแห่งพล<WBR>ังงานสากล มีคนถามผมว่า ถ้าการฆ่าคนเป็นบาปมหันต์แล้วพระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้<WBR>้นมาทำไม แล้วพระเจ้าไม่บาปเหรอ แค่นี้คนเรายังไม่เข้าใจเลยครับ จะเอาความหวังที่ไหนมาให<WBR>้รอดจากภัยใหญ่ครั้งนี้ได้ครับ

    จะมีศาสดาท่านหนึ่งจะมาดับทุกข์เข็ญ วงการเก<WBR>็บเกี่ยวครั้งใหญ่ตามจิตของมนุษย์ที่ตกต่ำลง เนื่<WBR>องด้วยภัยนานาประการเป็นหลักธรรมเก่าที่คนเราเข้าไม<WBR>่ถึงซะทีครับ แต่มีการนำมารีคับเวอร์ใหม่เพราะสัจธรรมมีเพียงหนึ่งเดียวครั<WBR>บ แต่ท้ายที่สุดแล้วทุกศาสนาจะกลายเป็นหนึ่งเดียวครับ โลกเราจะถอยกลับไปเมื่อ 30,000 กว่าปีีก่อนอีกครั้งครับ

    เมื่อครั้งที่โลกเรามีเพ<WBR>ียงความเชื่อหลักเพียงอย่างเดียวคือจิตที่เที่ยงแท้ภายในของต<WBR>ัวเอง จิตมนุษย์จะถูกยกระดับขึ้น ม่านแห่งกรรมจะยกสูงมากขึ้นจนม<WBR>ิติโลกอื่นๆ เปิดออก มีการติดต่อข้ามจักรวาล ข้ามภพเกิดขึ้นเนื่องจากจิตมนุษย์สูงขึ้น ทุกอย่างที่ถูกกดไว้เนื่องจากพล<WBR>ังงานกรรม กรรมเก่าๆ ถูกยกเลิกหมด มิติที่ซ้อนทับโลกเราอยู่จะเป<WBR>ิดออกคนจะเข้าสู่ฌาณสมาบัติได้ง<WBR>่ายและเร็วขึ้นจนเป็นสาธารณะในที่สุด การกลับของมหายุคทองจะคืนมาครับ เทคโนโลยีทางจิตชั้นสูงเมื่<WBR>่อนานมากแล้วที่หายไปจะกลับมา

    แต่กว่าจะถึงตอนนั้นเอาตัวเองให้รอดจากพิษของเถ้าธ<WBR>ุลีภูเขาไฟ แผ่นดินแยกให้ได้ซะก่อนนะครับ ทั้งอาหารเป็นพิษ จิตเครียดจนสมองตายไปเลย คนที่จิตใจพร้อมเท่านั้นครับที<WBR>่จะรอดไปได้ นี่เป็นการคัดสรรที่ชาญฉลาด

    เกิดเมื่อไหร่บอกไม่ได้ เพราะมันเป็นกฏ ถึงรู้ก็บอกไม่ได้ บอกได้ก็เลื่อนได้ครับ อยากตายเมื่อไหร่ก็ช่วยก<WBR>ันเลวมากๆ ทำลายธรรมชาติมากๆ เหมือนคำทำนายของนอสตราดามุส ท่านบอกว่าถูกต้องทุกประการ แต่ทุกอย่างเลื่อนหมด เพราะไม่มีใครกำหนดได้ครับ แม้แต่จิตต้นกำเนิดอย่างท<WBR>่านเองก็ตาม เพราะเป็นไปตามวัฎจักรของพล<WBR>ังงานสากล

    <!-- / message --><!-- sig -->

    ที่มา http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=3906&page=150
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2007
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Falkman [​IMG]

    คุณ Bassate เล่าว่า เค้าได้ข่าวสารมาว่า

    ภาคเหนือจะเกิดแผ่นดินไหวแรง แล้วจะเกิดแผ่นดินแยก กินเนื้อที่ 4 จังหวัด รอยแยกนี้จะกว้างเท่าแม่น้ำฮวงโห คนจะตายมหาศาล แล้วรอยแยกนี้จะเป็นแม่น้ำต่อไปในอนาคต

    หลังเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงมาก เปลือกโลกบริเวณนั้นจะขยับเคลื่อนตัวแยกออกจากกัน เป็นร่องลึกเหมือนแกรนด์แคนยอน น้ำจะไหลเข้ามาแทนที่ ความกว้างไม่แพ้"ฮวงโห"ของจีนที่เรียกว่ากว้างที่สุดในโลก บ้านเรือนแถบนั้นถูกกระแสน้ำพัดพา ผู้คนจะถูกกระแสน้ำพัดพาไปด้วยหลายชิวิต

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2007
  17. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    China's Three Gorges Dam Under Fire

    Friday, Oct. 12, 2007 By LIN YANG
    <!-- Begin Article Main --><!-- Begin Tout1 -->[​IMG]
    The Three Gorges Dam in China's central Hubei province, June 19, 2007
    Xinhua / Lando

    หายนะจากเขื่อนยักษ์เริ่มแล้ว

    Still, it is a sign of just how grave the problems are facing the world's largest dam that criticism is now coming from top government officials in Beijing, who previously had studiously avoided saying anything derogatory about the $180 billion project. In June, Chinese Premier Wen Jiabao told a meeting of the State Council, convened to discuss the Three Gorges project, that solving environmental problems surrounding the controversial dam project should be a priority for the country. On Sept. 25, a group of senior government officials and scholars announced at a work meeting in Wuhan that the project had the potential to cause a "huge disaster ... if steps are not taken promptly." And on Oct. 9, the Chongqing municipal government announced it would have to relocate an additional four million people in at-risk areas due to environmental damange caused by the dam.

    Pan Yue, Deputy Director of the State Environmental Protection Administration said earlier this year that "environmental problems are posing a serious threat to the building of a harmonious society, and have become a significant economic, social and political issue".

    โครงการ สำเร็จปี 2009 (อีก 2 ปี) อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง??

    ?(b-inlove)
     
  18. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    น้ำท่วมที่บ้านยังไม่วี่แววว่าจะลดลงเลย เริ่มเน่าแล้ว เพื่อนบ้านโทรไปหน่วยงานราชการ หน่วยงานเอกชน หนังสือพิมพ์ ทีวี หรือ สื่อต่างๆ ไม่มีใครมาช่วย เห็นเพื่อนบ้านคนหนึ่ง โทรไปหา ส.ก. (สภากรุงเทพมหานคร) เค้าก็บอกว่า หูย ไม่ได้หรอก เดี๋ยวคนหาว่าไปหาเสียง ดูพูดดิ

    เมื่อก่อนนะ มีคนมาขุดลอกคลองตลอด ตอนนี้ไม่มี น้ำมันก็ระบายไม่ได้ ดูสิ เตือนๆ ชาวบ้านมา เห็นก่อนเลยว่าน้ำท่วมลำบากไง ยังดีที่ยังไม่เข้าบ้านนะ เดี๋ยววันนี้ต้องจัดเตรียม กระเป๋าฉุกเฉินก่อนแระ กลับมาของยังไม่เข้าที่ยังไม่ได้ทำอะไร ดูไม่จืดนะ ถ้าเขื่อนแตกมาตอนนี้อีก

    ดีนะที่ในหลวงเราท่านทรงออกมาช่วยเหลือก่อนหน้านี้ ไม่งั้นป่านนี้ยิ่งกว่านี้อีก
     
  19. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,895
    เป็นกำลังใจให้พี่อ๋อสู้ ๆๆๆๆ นะครับ พญามารมีอยู่ทั่วไปครับ
     
  20. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    นี่แหละหนา...กรรมของประชาชน
     

แชร์หน้านี้

Loading...