การกินเนื้อสัตว์...บาปมั้ย???

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย yutkanlaya, 11 ตุลาคม 2007.

  1. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    การกินเนื้อสัตว์ ที่ซื้อจากตลาดไม่ฆ่าเอง เป็นบาปทางอ้อม?ทางตรง?

    มีค่าเท่ากับรับซื้อของโจร หรือเปล่า?????
    เพราะเท่ากับ ส่งเสริมให้พ่อค้า ไปฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต มาเพื่อเรา????
    พ่อค้าต้องฆ่า เพื่อ เงิน เรียกว่า อาชีพสุจริต???
    แต่...ส่งเสริมให้ผู้อื่น...ทำบาป????

    ถ้าบาป จะมีโปรตีนกินอย่างไร????????
    ใช้สินค้าทดแทนได้มั้ย?? โปรตีนจากพืช??ดีที่สุด เพราะมีไขมันน้อย และไขมันที่มีคุณภาพ กว่าไขมันจากสัตว์ ลดปัญหาไขมันในเลือดสูงและโรคอื่นๆที่ตามมา
    ผลการวิจัยในต่างประเทศพบว่า เด็กอัจฉริยะ มักกินพืชมากกว่า
    การรักษามะเร็ง โดยธรรมชาติบำบัด ให้กินพืชเป็นหลัก ดังสโลแกนว่า
    "กินผักสด ลดไขมัน ป้องกันรักษามะเร็ง"
    [b-nurse] [b-nurse] [b-nurse] (deejai) (deejai) (deejai)

    <!-- / message -->
     
  2. MegaFM

    MegaFM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,446
    บาปป่าวนั้นผมไม่สามารถที่จะรู้ได้
    แต่เท่าที่รู้มาพระอริยเจ้าท่านก็ยังฉันเนื้อสัตว์อยู่
    ทางที่ดีสวดมนต์ไหว้พระอุทิศส่สวนบุญให้กับสัตว์ที่อุทิศเนื้อมาให้เรากินในแต่ล่ะวันก็จะเป็นการกระทำที่ดีมากๆๆ
     
  3. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,786
    ค่าพลัง:
    +7,482
    เรารู้มาว่าพระพุทธองค์บัญญัติไว้ว่าภิกษุไม่ควรฉันเนื้อ ๑๐อย่างอันได้แก่
    ๑.เนื้อมนุษย์
    ๒.เนื้อช้าง
    ๓.เนื้อม้า
    ๔.เนื้อสุนัข
    ๕.เนื้องู
    ๖.เนื้อราชสีห์
    ๗.เนื้อหมี
    ๘.เนื้อเสือโคร่ง
    ๙.เนื้อเสือดาว
    ๑๐.เนื้อเสือเหลือง

    ก็แสดงว่าเนื้อสัตว์อย่างอื่นก็กินได้ หากจะถามว่าบาปหรือไม่ เราคิดว่าคงจะมีเศษกรรมบ้างเหมือนกันแต่ไม่หนักเท่ากับ ๑๐ อย่างข้างต้นนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นย่อมขึ้นอยู่กับเจตนาว่า อยากกิน หรือว่า กินเพื่อประทังชีวิตให้รอดพ้นจากความทุกข์ ความทุกข์ที่ว่านี้ก็คือ "โรคหิว" ซึ่งน่าจะจัดเป็นโรคชนิดหนึ่ง ที่เหล่าสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนที่ได้ทั้งหลายต้องประสบพบพาน นับตั้งแต่ลืมตามามองดูโลกเลย จนกระทั่งหลับตาลาโลก ไปเลยทีเดียวก็ว่าได้...

    ปล. แต่ข้อที่ ๑.เนื้อมนุษย์ นี่น่าสงสัยเหมือนกัน เห็นร่ำลือกันว่าอร่อยนักอร่อยหนา ใครเคยกินมั่ง?
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ถ้าจำไม่ผิดนะ หลวงปู่ดุลย์กล่าวไว้ว่า ถ้ากินแต่ผักพืชแล้วดี ป่านนี้วัวควายมันก็บรรลุธรรมกันหมดแล้วสิ

    ทีนี้ การบริโภคเนื้อสัตว์ มากเกินไป เอาแต่เอร็ดอร่อยอย่างเดียวมันก็ไม่ดี
    หรือ ตั้งหน้าตั้งตาเอาแต่ กินผักพืชอย่างเดียวมันก็ไม่ดี
    มันก็ต้องเดินทางสายกลาง คือ มีอะไรก็กินอย่างนั้น แต่สำคัญคือ ไม่ได้กินไปเพื่อความอร่อย เพื่อสนองตัณหา
    กินอย่างมีสติ ก็เท่านั้น ไม่เห็นต้องวุ่นวายอะไรมาก
     
  5. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,786
    ค่าพลัง:
    +7,482
    ช่วงนี้เข้าเทศกาลกินเจ ทดลองงดเนื้อสัตว์สักระยะหนึ่งก็ดีเหมือนกัน ถือว่าเป็นการล้างท้อง ล้างกลิ่นคาวเนื้อ คาวเลือดของเหล่าบรรดาสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ทั้งหลายที่มาอยู่ในพุงของเรา

    ว่าแต่ว่า ช่วงนี้เจ้าของกระทู้กินเจรึ?
     
  6. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ถ้าไม่ได้สั่งฆ่าหรือฆ่าเองก็ไม่บาปหรอก สะดวกอะไรก็กินอันนั้น มีเนื้อกินเนื้อ มีผักกินผัก ปนๆ กันไป ถ้าคิดว่ากินเนื้อแล้วบาปก็จะบาป ถ้าไม่ได้คิดอะไร ก็ไม่บาป
     
  7. phuttham

    phuttham เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +165
    บาปหรือไม่บาปนั้นอยู่ที่เจตนา ............
    ....เรานั้นก็ควรที่จะบริโภคแค่พอเพียง...ไม่ใช่เพื่อสนองความอยากที่เกินพอดี....ในเมื่อสัตว์ทั้งหลายนั้นมีคุณต่อเรา.....เราก็ควรที่จะรู้คุณค่าและอุทิศบุญกุศลให้กับพวกเขาทั้งหลายที่ได้ให้เนื้อหนังเรามาบริโภคกัน
    ****เอาใจเขามาใส่ใจเรา**** แล้วเราก็จะเข้าใจถึงจิตของผู้อื่น
    ถ้าเราเป็นผู้ถูกฆ่าจะรู้สึก...........
    ขอบคุณครับที่อ่าน ..........สาธุ สาธุ สาธุ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  8. นืเฟร

    นืเฟร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +433
    ส่วนตัวเห็นด้วยกับการกินมังสวิรัติ เพราะผมก็กิน แต่ไม่เห็นด้วยกับคนที่ไม่ได้กินมังสวิรัติแล้วชอบมาพูดทับถม
    คนที่เค้าละเว้นการกินเนื้อสัตว์ อย่างเช่นนำไปเปรียบเทียบกับวัวควาย
     
  9. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ก็ เพราะว่า คนที่กินมังสวิรัติ ไม่รู้นะสิ ว่ากินไปทำไม ในสมัยพุทธกาล เทวทัต มาทูลบอกพระพุทธองค์ว่า ขอให้พระพุทธองค์บัญญัติว่า ห้ามภิกษุ ฉันเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต พระพุทธองค์กล่าวว่า อย่าเลยเทวทัต ภิกษุนี้ต้องอาศัยฆราวาส เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง
    ถ้าจะกินแต่ผักแล้ว ก็จะเดือดร้อนฆราวาส เดือดร้อนตัวเอง เพราะการเห็นธรรม นั้นไม่ได้อยู่ที่ เนื้อหรือผัก
    แต่อยู่ที่ใจ คนกินมังสวิรัต ก็คิดไปว่า ตนถือศีลดีกว่าผู้อื่น เพราะว่า ตนไม่เบียดเบียนสัตว์ อันนี้เป็นที่มาของ มานะอย่างสูง คิดว่าตนทำถูก แต่จริงๆ แล้วไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย มีแต่โทษ แต่ถ้าหากว่าจะกินเพื่อ ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ ก็ว่าไปอย่าง
    ทีนี้ การกินเพื่อป้องกันโรคภัย ก็ให้ดูการกินอย่างพระ คือ มื้อเช้า และ ก่อนเที่ยง ระบบก็จะทำงานได้ดี ไม่ต้องไปสรรหา กินแต่ผัก แต่พืช แบบนี้เขาเรียกว่า สีลพตรปรามาส คือ ถือไปอย่างนั้น คิดว่าดี แต่ที่คิดนั้นมันไม่ถูกต้อง ก็หลวงปู่ดุลย์ถึงบอกไงว่า วัวควายกินแต่หญ้าไม่เห็นมันบรรลุธรรม ก็มันก็ไม่ได้เบียดเบียนสัตว์อื่นทำไมมันยังมีกรรมหละ
    เราอย่ามองอะไรแคบๆ คิดอะไรแคบๆ พวกกินมังสวิรัต นี่แหละตัวดี อวดตัวนักเชียว แล้วก็ไปว่าคนอื่นว่า เบียดเบียนสัตว์ โลกนี้เขาเป็นแบบนี้มานานแล้ว มันเป็นธรรมชาติ เช่นเสือ ก็กินสัตว์ แมวก็กินสัตว์ มันเป็นวัฏจักรนะ อย่าไปเอาตามแบบ มหาจำลอง ทำตัวเป็นพวกมือถือสากปากถือศีล มันพาคนไปตายเป็นร้อยเป็นพันนั่น แต่มันกินมังสวิรัต มันพาคนไปฝึกสมาธิ แต่ตัวมัน ยุ่งกับชาวบ้านไปทั่ว
    ขอโทษทีที่เอาการเมืองมาเรื่อยเปื่อย แต่ยกตัวอย่างให้เห็นนะ

    ก็ สำคัญ ที่มีสติในการกินอย่างเดียวพอ กินอะไร ก็กินไปเถอะ
     
  10. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    เพราะมิจฉาทิฐิ ความคิด
    ปัญญา จึงหยุด อยู่ที่ตน
    วนไป เวียนมา หาทางโผล่จากตม ไม่เจอ
    (deejai) (deejai) (deejai) (deejai) (deejai) (deejai) (deejai) (deejai)
    ศีล สมาธิ ปัญญา ปัญญา และปัญญา
     
  11. hnokpisit

    hnokpisit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2007
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +267
    ...

    การมังสวิรัส
    กับการกินเนื้อสัตว์ เหมือนกันนั่นแหล่ะ
    อยู่ที่คนเชื่อ คนนับถือ

    เรากินเพื่ออยู่ ไม่ใช่กินเพื่ออยาก

    การที่คนเรากินเนื้อสัตว์นั้น
    เราทำกันมาหลายยุคหลายสมัย

    ใช่ว่าเรากินแต่ผักแล้วจะบรรลุ

    อยู่ที่การกระทำความคิด ของเราเองว่าจะดีแค่ไหน

    มีอะไรกินไปเถอะครับ ไม่ต้องกังวล

    ยึดสายกลางเข้าไว้
     
  12. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    นี่คือ หัวใจ Concept สุดยอด ของ
    ธรรม
    ธรรมชาติ
    ธรรมดา........
    (b-2love) (b-2love) (b-2love)
     
  13. Xiaobao

    Xiaobao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +472
    มาอ่านกระทู้นี้แล้วแอบท้อนิดหน่อย-*-

    อุตส่าเป็นปีแรกที่กินเจ ที่ตั้งปณิธานอันแนวแน่ ไว้ว่าจะลองงดทานเนื้อสัตว์ดูว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร ว่าจะทานได้หรือไม่

    ไม่ชอบพวกเพื่อนหรือคนอื่นที่แบบว่าเราว่า จะกินทำไมกินเจ คงกินตามแฟชั่น กินตามกระแสใช่มั้ย ..

    แต่เรากลับคิดว่า เออทำไมอ่ะ เรามุ่งมั่นไว้แล้วว่าเรากินเพื่ออะไร เพื่อจะงดทานเนื้อสัตว์ไม่อยากเบียดเบียนสัตว์ จะลองดูสิตัวเองจะทนได้ไหม ไม่ชอบพวกที่ไม่กินแล้วมาว่าคนอื่นแบบ กินเอาหน้าละสิไรเงี้ย เฮ้อ เหนื่อยจัยๆ
     
  14. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    เหตุผลทางการแพทย์
    การกินเจ งดเนื้อสัตว์
    เท่ากับ การ Format
    ลำไส้ ไต ตับ ทั้งระบบ
    ... อย่าใส่ใจ มารผจญ:p
    (b-ping) (b-ping)
    อย่าท้อถอย คอยสร้าง สิ่งที่ควร
    อย่าเรรวน พะว้าพะวัง คิดกังขา
     
  15. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    อย่าไปสนใจว่าบาปหรือไม่บาปเลย

    ถึงเวลาก็กินจำเป็นก็กิน เลี่ยงได้ก็เลี่ยง เลี่ยงไม่ได้ก็กินอย่ายึดติดน่า
     
  16. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    พระเณรท่านไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่กินพืชผักเช่นกัน แต่ท่านฉันธาตุ 4 ก่อนฉันท่านต้องสวดบทพิจารณาอาหารก่อน คือให้พิจารณาอาหารโดยความเป็นธาตุ พิจารณาความเป็นปฏิกูล พิจารณาในความเป็นปัจจัยให้ดำรงชีวิต ซึ่งก้าวข้ามพ้นภาวะความเป็นสัตว์เป็นพืชแล้วอันเป็นแค่สมมติ ถ้าก่อนฉันๆไม่พิจารณาก่อนก็ถือว่าต้องอาบัติ
    เราก็ทำตามอย่างที่พระทำคือกินโดยพิจารณาความเป็นธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ของอาหาร
     
  17. intah

    intah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    284
    ค่าพลัง:
    +562
    บาปที่คนฆ่า

    เราผู้บริโภคบาปทางอ้อม
    อย่างที่ Rep. บนบอก สวดมนต์ อุทิศส่วนกุศลครับ
     
  18. ปานโสม

    ปานโสม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +18,151


    ฮั่นแน่ แสดงว่าพี่ ชอบดู ฮันนิบาล เลคเตอร์ อ่ะสิ


    เดี๋ยวจะเสียมารยาทกับเจ้าของกระทู้
    ก็แวะทักเสียหน่อย
    กินเจ นี่อนิสงค์ เร็วดีนะ ปฏิบัติก็ไปได้ไว

    แต่พี่ไม่ค่อยได้กิน กินประทังชีวิตไปวันๆ
    ก่อนกินก็แผ่บุญ ...

    ใครที่รักษาศีลกินเจอยู่ ก็ขออนุโมทนาสาธุ ด้วยนะคะ
     
  19. yai_93

    yai_93 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +3,354
    หลวงปู่ดูลย์สอนพิจารณาเรื่องกิน

    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->มีพระมาถามหลวงปู่เกี่ยวกับการฉันเนื้อสัตว์
    กระผมได้ปฏิบัติทางจิตมานานแล้ว ก็มีความสงบอยู่บ้าง
    แต่มีปัญหาทางอาหารบริโภคเนื้อสัตว์ คือเพียงแต่เห็นก็นึกเวทนาไปถึงเจ้าของเนื้อนั้น ว่าเขาต้องสูญเสียชีวิตเพื่อเราผู้บริโภคแท้ๆ คล้ายกับว่าเราผู้ปฏิบัติจะขาดเมตตาไปมาก เมื่อเกิดความกังวลใจเช่นนี้ ก็ทำความสงบใจได้ยาก
    หลวงปู่ว่า

    "ภิกษุจะบริโภคปัจจัย 4 ต้องพิจารณาเสียก่อน เมื่อพิจารณาเห็นแล้วว่า การกินเนื้อสัตว์ คล้ายเป็นการเบียดเบียนและขาดเมตตาต่อสัตว์ ก็ให้งดเว้นการฉันเนื้อเสีย พากันฉันอาหารเจต่อไป"

    ต่อมาประมาณ 4 เดือน ภิกษุกลุ่มนั้นมาเรียนหลวงปู่อีกหลังจากออกพรรษาแล้ว บอกว่าพวกกระผมฉันเจมาตลอดพรรษาด้วยความยากลำบากยิ่ง เพราะญาติโยมแถวบ้านโคกกลาง อ.ปราสาทนั้นไม่มีใครรู้เรื่องอาหารเจเลย ลำบากด้วยการแสวงหา และลำบากแก่ญาติโยมอุปัฏฐาก การทำความเพียรก็ไม่เต็มที่เท่าที่ควร
    หลวงปู่ว่า
    "ภิกษุเมื่อจะบริโภคปัจจัย 4 ต้องพิจารณาเสียก่อน ครั้นเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าอาหารที่ตั้งอยู่เฉพาะหน้านี้แม้จะมีผักบ้าง เนื้อบ้าง ปลาบ้าง ข้าวสุกบ้าง แต่เป็นของบริสุทธิ์โดยส่วนสาม คือ ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน และเขาไม่ได้ฆ่าเพื่อเจาะจงเรา และเราก็แสวงหามาโดยชอบธรรมแล้ว ญาติโยมเขาก็ถวายด้วยความศรัทธาเลื่อมใสแล้ว ก็พึงบริโภคอาหารนั้น ครูบาอาจารย์ของเรา ท่านก็ปฏิบัติอย่างนี้มาแล้วเหมือนกัน"

    ในปี 2522 หลวงปู่พักอยู่ท่วัดป่าประโคนชัย มีภิกษุกลุ่มหนึ่ง ชอบเดินธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ ได้แวะเข้าไปพักที่วัดนั้นด้วย ได้กล่าวว่า จุดเด่นที่เขายึดถือเป็นหลักปฏิบัติ คือผู้บริโภคเนื้อสัตว์คือผู้สนับสนุนให้คนฆ่าสัตว์ ผู้บริโภคผักมีจิตเมตตาสูง สามารถพิสูจน์ได้ว่า เมื่อหันไปบริโภคผักแล้ว จิตใจก็สงบเย็นดีขึ้น
    หลวงปู่ว่า

    "ดีทีเดียวแหละ ท่านผู้ใดสามารถฉันมังสวิรัติได้ก็เป็นการดีมาก ขออนุโมทนาสาธุด้วย ส่วนท่านท่ยังฉันมังสะอยู่ หากมังสะเหล่านั้นเป็นของบริสุทธิ์โดยส่วนสาม คือไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่สงสัยว่าเขาเจาะจง ได้มาด้วยความบริสุทธิ์แล้ว ก็ไม่ผิดธรรมผิดวินัยแต่ประการใด อนึ่ง ที่ว่าจิตสงบเยือกเย็ยดีนั้น ก็เป็นผลเกิดขึ้นจากพลังการตั้งใจปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย ไม่เกี่ยวกับอาหารใหม่ อาหารเก่า ที่อยู่ในท้องเลย"

    จากหนังสือ "หลวงปู่ฝากไว้" รวบรวมโดยพระโพธินันทมุนี
    <!-- / message -->
     
  20. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,786
    ค่าพลัง:
    +7,482
    เปล่าเลยจ้ะ บังเอิญว่าไปอ่านประวัติของนักโทษประหารที่ชื่อว่า "ซีอุย"

    เค้าว่ากันว่า เนื้อมนุษย์นี่สุดยอดกว่าเนื้อใดๆในโลก โดยเฉพาะเนื้อเด็กๆ

    ว่าอย่างนั้น แต่เราก็ไม่คิดอยากจะกินคนหรอกนะ กินผัก กินผลไม้ดีกว่า!
    (b-flower)
     

แชร์หน้านี้

Loading...