เพื่อการกุศล *★.• เปิดตำนาน มนต์เสน่ห์เขมรสูงโบราณ สายวิชา "กรูเปรี๊ยะออง" *♡ มนต์พญาลิ้นทอง ♡* อ.โอม •.★*

พรุ่งนี้ผมไปทำบุญหลวงพ่อโตวัดบางพลีครับ

 

อนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

พรุ่งนี้ ผมคงไปทำบุญวัดแถวบ้านครับ ติดภารกิจ โฉบไปได้ไม่ไกล..

catt2

 

​

โอวาทปาติโมกข์ คอลัมน์ รื่นร่มรมเยศ โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

ขณะทรงประทับอยู่ ณ วัดพระเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ ในคืนวันเพ็ญเดือน 3 (หรือ 4 ในปีที่มีอธิกมาส), พระอรหันต์ 1,250 รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย, ท่านเหล่านั้นล้วนเป็นเอหิภิกขุ (พระพุทธเจ้าบวชให้เอง), และท่านเหล่านั้นเป็นผู้ทรงอภิญญา

เมื่อทรงเห็นปรากฏการณ์พิเศษเช่นนั้น ซึ่งประกอบด้วยองค์ 4 ดังกล่าวมา พระพุทธองค์จึงทรงแสดง "โอวาทปาติโมกข์" มีเนื้อความดังนี้

ขันติคือความอดทนเป็นตบะอย่างยิ่ง

พระนิพพาน พระพุทธเจ้าทั้งหลายกล่าวว่าสูงสุด

ผู้ยังทำร้ายผู้อื่นอยู่ไม่นับว่าเป็นบรรพชิต

ผู้ยังเบียดเบียนผู้อื่นอยู่ไม่นับว่าเป็นสมณะ

การไม่ว่าร้ายเขา การไม่เบียดเบียนเขา

การเคร่งครัดในระเบียบวินัย

การรู้จักประมาณในการบริโภค

การอยู่ในสถานสงบสงัด

และการฝึกจิตให้มีสมาธิอย่างสูงเสมอ

นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

"การไม่ทำชั่วทั้งปวง การทำความดีให้พร้อม

การทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย"

การประชุมใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์นี้เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต (การประชุมใหญ่อันประกอบด้วยองค์ 4) มีขึ้นในวันเพ็ญเดือนสาม ต่อมาถูกกำหนดให้เป็นวันสำคัญวันหนึ่งในพระพุทธศาสนาเรียกว่า "วันมาฆบูชา"

คงต้องเท้าความสักเล็กน้อย หลังจากบวชให้ปัญจวัคคีย์ ทรงแสดงพระธรรมเทศนาโปรดให้บรรลุพระอรหัตทุกรูปแล้ว ทรงบวชให้ยสกุมารและสหายอีก 55 ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์หมดทุกรูป เป็นอันว่าได้เกิดมีพระอรหันต์สาวกจำนวน 60 รูปในเวลาอันรวดเร็ว พระพุทธองค์ทรงเห็นว่ามีจำนวนพอสมควรแล้ว จึงทรงส่งให้แยกย้ายกันไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังแคว้นต่างๆ

พระองค์เองเสด็จมุ่งหน้าไปยังเมืองราชคฤห์ เพื่อโปรดพระเจ้าพิมพิสาร ระหว่างทางได้โปรดภัททวัคคีย์ให้ได้ดวงตาเห็นธรรม ประทานอุปสมบทให้ แล้วส่งไปเผยแพร่พระศาสนายังแว่นแคว้นต่างๆ ประทานอุปสมบทให้แก่ชฎิลสามพี่น้องพร้อมบริวารหนึ่งพันและทรงแสดงธรรมให้ฟังจนได้บรรลุพระอรหัตแล้ว ประทับยับยั้งอยู่ที่เวฬุวันที่พระเจ้าพิมพิสารสร้างถวาย

ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว พระสาวกที่ไปประกาศพระศาสนายังถิ่นต่างๆ คงพากันมาเพื่อเฝ้าพระพุทธองค์ ทำนองมารายงานผลการปฏิบัติงาน ประมาณนั้น กระจายอยู่รอบเมืองราชคฤห์ พระอัสสชิน้องสุดท้องของปัญจวัคคีย์ก็เช่นกัน ได้เดินทางมายังเมืองราชคฤห์เพื่อเฝ้าพระพุทธเจ้า

วันหนึ่งขณะท่านเดินบิณฑบาตอยู่ อุปติสสมาณพ เห็นเข้าประทับใจในบุคลิกอันงามสง่า สงบสำรวมของท่าน จึงเกิดความเลื่อมใส ใคร่จะสนทนาธรรมด้วย รอจนได้โอกาสแล้วจึงเข้าไปไต่ถาม รู้ว่าท่านเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า จึงขอให้ท่านแสดงธรรมให้ฟัง พระอัสสชิกล่าว "หัวใจ" ของพระพุทธศาสนาคือคาถา เยธัมมาฯ สรุปใจความของอริยสัจสี่

อุปติสสะได้ดวงตาเห็นธรรม ไปบอกโกลิตะสหายรักทราบ โกลิตะก็ได้ดวงตาเห็นธรรมเช่นกัน ทั้งสองคนจึงพากันไปบวชเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า อุปติสสะปรากฏนามภายหลังว่า พระสารีบุตร โกลิตะปรากฏนามว่า พระโมคคัลลานะ

คืนวันนั้นเป็นวันเพ็ญเดือนสาม วันที่พระสารีบุตรบรรลุพระอรหัตพอดี เกิดเหตุการณ์พิเศษขึ้น 4 ประการในวันเดียวกันคือ

1.พระภิกษุจำนวน 1,250 รูปมาประชุมกันที่วัดพระเวฬุวันโดยมิได้นัดหมาย

2.ท่านเหล่านั้นเป็นเอหิภิกขุล้วน (พระพุทธเจ้าทรงบวชให้เอง)

3.ท่านเหล่านั้นล้วนเป็นพระอรหันต์ทรงอภิญญา

4.วันนั้นเป็นวันพระจันทร์เสวยฤกษ์มาฆะ ตรงกับวันเพ็ญเดือนสาม

พระพุทธเจ้าทรงเห็นเหตุการณ์ทั้ง 4 อย่างปรากฏในวันเดียวกัน เห็นเป็นโอกาสเหมาะจึงทรงแสดง โอวาทปาติโมกข์ มีทั้งหมด 13 หัวข้อ สรุปได้ 4 ประเด็นคือ

1.กล่าวถึงอุดมการณ์ของพระพุทธศาสนา คือพระนิพพาน

2.กล่าวถึงหลักการทั่วไป คือไม่ทำชั่วทั้งปวง ทำดีให้พร้อม และทำจิตให้ผ่องแผ้ว

3.กล่าวถึงคุณสมบัติของผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนา คือจะต้องมีความเป็นอยู่เรียบง่าย ไม่เห็นแก่กิน อยู่ในสถานสงบสงัด ฝึกจิตอยู่เสมอ

4.กล่าวถึงเทคนิควิธีการเผยแพร่ศาสนาคือ ไม่ว่าร้ายผู้อื่น ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ใช้สันติวิธีในการเผยแผ่ รู้จักประสานประโยชน์

ดูตามเนื้อหาของโอวาทปาติโมกข์ น่าจะเป็นการปัจฉิมนิเทศแก่พระธรรมทูตรุ่นแรก และปฐมนิเทศแก่ชุดใหม่ที่จะส่งไปเผยแผ่พระพุทธศาสนามากกว่าอย่างอื่น

นี่คือความเป็นมาของวันมาฆบูชาครับ


โอวาทปาติโมกข์ หลักธรรมวันมาฆบูชา ที่คนรุ่นใหม่ ไม่รู้จัก ??? : มติชนออนไลน์

 

<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/pOCPEuAEPEY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

วันนี้ได้เจอพี่เค้ามาฟังหลวงพ่อเทศน์และได้ฝากบอกกับพี่เค้าไปแล้วครับ พี่เค้าดีใจมากเลย

จริงๆ ผมมีการตัดพ้อกับพี่เค้าเล็กน้อยที่ไม่เก็บน้ำมันพรายจันทร์รุ่นแรกให้น้องคนนี้เลย 555+
เพราะตอนพี่เค้าจะสละ พี่เค้าก็ยกหุ่นนางจันทร์ก้นโหลให้ แล้วผมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาดันใจให้พูดอะไรซักอย่าง แต่ไม่รู้อะไรก็เลยไม่ได้พูด

พอตัดพ้อ พี่เค้าก็ว่าแล้วทำไมไม่บอกก่อน แหม ก็ใครจะไปรู้ล่ะ
มารู้ทีหลังว่าพี่เค้ายกให้สำหรับงานบุญหมดเลย :'(



ไปปฏิบัติที่วัดคราวนี้ ได้เข้าใจอะไรเพิ่มขึ้นอีกเยอะ แม้จะเป็นแค่เพียงเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นเวลาสั้นๆ ที่มีค่าและมีความหมายมากๆๆๆๆๆ
ทำให้ใจฮึกเฮิม ตั้งใจจะปฏิบัติภาวนาในระหว่างชีวิตประจำวันไปด้วย
ขอให้พี่ๆ น้องๆ และเพื่อนๆ ในกระทู้งานบุญนี้ โปรดจงอนุโมทนาและมีส่วนในบุญนี้ด้วยกันทุกท่านเทอญ _/|\_

 

วันนี้วันพระ ทำบุญตักบาตร ลดละอบายมุข​

​

 

​

 

​

 

กล้องใหม่ ถ่ายสวยนะครับ อ หนุ่ย(แฟนเด็ก)

 

สวัสดีครับ วันนี้ไปทำบุญ เวียนเทียนที่ไหนกันมาบ้างครับ ..

ผมได้ไปทำบุญ และเวียนเทียนที่พุทธมณฑลมาครับ เดี๋ยวจะเก็บภาพมาฝากนะคร้าบ

 

เวียนเทียน ณ พุทธมณฑล

ในงาน มีการประกวดโคมแขวน จากน้องๆนักศึกษาด้วยครับ สวยๆทั้งนั้น









โคมเวียนเทียน..








พุทธศาสนิกชนมาร่วมกันเวียนเทียนเยอะมาก

 

เวียนเทียน ณ พุทธมณฑล ( Part 2)







เวียนเทียนเสร็จแล้ว ก็มาแวะทำบุญอีกโซนของงาน









จากนั้นก็แวะชมนิทรรศการครับ




การ์ตูนทศชาติชาดก..


















จบทริปนี้ ด้วยรอยยิ้ม อิ่มบุญ + อิ่มใจ

แดดไม่สามารถทำลายความรู้สึกนี้ได้เลยครับ..

อนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

เปิดประมูล ผ้ายันต์พระสีสะแร่งแง่ง (ผ้าห่อ...) หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม นครปฐม ​

คุณ กะจะสัก มอบมาร่วมบุญ​

คุณ thongeak ประมูลสูงสุดในขณะนี้ 599 บาท​

ปิดประมูลวันที่ 26/02/56 เวลา 22.22 น.​

​

รายได้ทั้งหมดเพื่อสมทบทุนสร้างพระพุทธโพธิ์ศรีมหาเจดีย์ โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น จัดส่งฟรี​

โดยโอนเข้าบัญชีกลาง...

ธนาคารกรุงไทย สาขาแม็คโคร จรัญสนิทวงศ์ บัญชีออมทรัพย์
ชื่อบัญชี นายพลกฤษณ์ แข่งขัน
เลขที่บัญชี 864-0-09569-8​

 

ขอแวบไปเติมพลังก่อนคร้าบ...

 

ภาพนี้ให้ความรู้สึกดีมากครับ

 

อรุณสวัสดิ์ทุกท่านกับเช้าวันทำงาน

 

ขอร่วมประมูล ผ้ายันต์พระสีสะแร่งแง่ง (ผ้าห่อ...) หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม นครปฐม

666 บาท...

 

อนุโมทนาด้วยครับ _/\_