อิหร่านออกมาตรการยึด “พระพุทธรูป” จากร้านค้า อ้างเหตุผลเป็นการ “รุกรานทางวัฒนธรรม

อิหร่านออกมาตรการยึด “พระพุทธรูป” จากร้านค้า อ้างเหตุผลเป็นการ “รุกรานทางวัฒนธรรม”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 กุมภาพันธ์ 2556 14:15 น.

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - หนังสือพิมพ์รายวัน “อาร์มัน” ของกลุ่มนักเคลื่อนไหวอิสระในอิหร่านรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (17) โดยระบุว่ารัฐบาลอิหร่านออกคำสั่งให้ยึดพระพุทธรูปตามร้านค้าต่างๆ ทั่วกรุงเตหะราน เมืองหลวงของประเทศ ตามแผนสกัดกั้นมิให้พระพุทธศาสนาถูกเผยแผ่ในประเทศของตนซึ่งถูกสถาปนาเป็นสาธารณรัฐอิสลามตั้งแต่ปี 1979

รายงานของหนังสือพิมพ์ดังกล่าวซึ่งอ้าง ซาอีด จาเบรี อันซารี เจ้าหน้าที่จากสำนักงานปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติของอิหร่าน ระบุว่า รัฐบาลอิหร่านไม่อนุญาตให้มีการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการเผยแพร่ความเชื่อที่เฉพาะเจาะจงอื่นใดผ่านทางรูปเคารพต่างๆ ซึ่งรวมถึงพระพุทธรูป โดยอันซารีชี้ว่า พระพุทธรูปถือเป็นสัญลักษณ์ของการ “รุกรานทางวัฒนธรรม” ต่ออิหร่าน

เจ้าหน้าที่จากสำนักงานปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติของอิหร่านรายนี้ มิได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ เกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว และไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดว่าทางการอิหร่านจะดำเนินการอย่างไรกับพระพุทธรูปที่ยึดไป แต่ยอมรับว่าอาจมีการเดินหน้ายึดพระพุทธรูปจากร้านค้าต่างๆ เพิ่มมากขึ้นนับจากนี้

ก่อนหน้านี้ ทางการอิหร่านเคยประกาศแบนตุ๊กตา “บาร์บี้” และตัวการ์ตูน “เดอะ ซิมป์สัน” ของสหรัฐฯ มาแล้ว โดยให้เหตุผลว่าเป็นการป้องกันภัยคุกคามจากอิทธิพลของโลกตะวันตก แต่การออกมาตรการยึดพระพุทธรูปล่าสุด ถือเป็นครั้งแรกที่ทางการอิหร่านแสดงออกถึงจุดยืนที่ต่อต้านสัญลักษณ์ทางศาสนาจากโลกตะวันออก





อยาตอลเลาะห์ อาลี ฮอสเซนี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน

 

โดยอันซารีชี้ว่า พระพุทธรูปถือเป็นสัญลักษณ์ของการ “รุกรานทางวัฒนธรรม” ต่ออิหร่าน

ถ้ามองในแง่ที่จะปกป้องศาสนาของเขา ก็ต้องยอมรับ เพราะเป็นประเทศของเขา
เมื่อไหร่ มหาเถระสมาคม องค์กรพุทธศาสนา พระเถระที่เป็นกรรมการ จะรู้จักออกมาปกป้องศาสนาพุทธกันบ้าง
เห็นแล้ว เศร้าใจ มีแต่ นิ่งกับเฉย

ให้นิ่งขณะปฏิบัติธรรม ให้เฉยไม่ยินดียินร้ายกับ ลาภ ยศ สรรเสริญ ต่างหากเล่า

 

อยาตอลเลาะห์ อาลี ฮอสเซนี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวว่า พระพุทธรูปถือเป็นสัญลักษณ์ของการ “รุกรานทางวัฒนธรรม” ต่ออิหร่าน นั้น

คำกล่าวดังกล่าวพิจารณาดูแล้ว บิดเบือน และแฝงไปด้วยความหวาดกลัว ของผู้กล่าว เพราะว่าผู้กล่าวก็รู้อยู่แก่ใจว่าพระพุทธรูปมิได้เป็นสัญญลักษณ์ทางวัฒนธรรม แต่เป็นสัญญลักษณ์ทางศาสนา เช่นเดียวกันกับไม้ กางเขน หรือเสี้ยวดวงเดืือน ดาว ของอิสลาม

ประเด็นอยู่ที่ว่า ผู้นำอิหร่าน หวาดกลัวอะไร กับศาสนาพุทธ

 

ผู้นำคนนี้ ช่าง มืดบอด และ โง่เขลา จริงๆ

ความสงบสุขในชาติ ไม่ได้เกี่ยวว่า พลเมืองต้องนับถือศาสนาใด
หากแต่ อยู่ที่ศีลธรรมของพลเมืองในชาติต่างหาก

การขัดขวางการนับถือศาสนา นอกจากจะเป็นการเบียดเบียนพลเมืองของตนแล้ว
ยังเป็นการตัดทางช่วยการขัดเกลาจิตใจพลเมืองตนเองอีกด้วย

มีแม่น้ำเพิ่มมาอีกสาย แต่ดันไปกั้นทางน้ำไม่ให้ไหล ซะนี้

อย่างงี้ ถ้าไม่เรียก มืดบอด และ โง่เขลา แล้วจะให้เรียกอะไร

 

ไม่แปลกที่อิหร่านออกมาต่อต้านเพราะศาสนาแะวัฒนธรรมของเขาถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันในทุกเรื่อง แม้แต่กฏหมายที่ใช้ก็เป็นกฏหมายศาสนา เรื่องการแบนด์ห้ามขายพระพุทธรูปนี้ ยังจัดว่าน้อยไป เพราะถ้าใครเคยอยู่อิหร่านจะรู้ว่ามีอะไรที่หนักกว่านั้น
เช่น

1.) ผู้หญิงห้ามซื้อซีดี,วีดีโอ หนังด้วยตัวเอง ถ้าอยากดูต้องให้ พ่อ พี่ชาย สามี หรือ ผู้ชายไปซื้อ เพราะห้ามผู้หญิงเข้าร้านขายวีดีโอ


2.) มีการจัดตำรวจฮิญาบ คอยตรวจสอบ การแต่งกายของสตรีตามถนน โดย จะมีตำรวจชาย2คนในเครื่องแบบ มากับ หญิงชราคอยดักจับเด็กสาววัยรุ่นที่ คลุมผ้าฮิญาบผิดระเบียบ หรือ ใ่กางเกงยีน หรือ สวมผ้าคลุมผมที่มีการประดับตกแต่ง อนุญาตให้สวมได้เฉพาะในงานเลี้ยง


3.) ในงานเลี้ยงสังสรรค์ ทุกประเภท แม้แต่ งานแต่งงาน จะมีห้องจัดเลี้ยงแยกฉพาะ แยก หญิงชาย ชุดสวยงามสามารถใส่ได้ในห้องจัดงานเลี้ยงเท่านั้น พอเสร็จงานก็เปลี่ยนชุดกลับ


4.) ผู้หญิงที่ถูกข่มขื่นโดนตัดสินให้ประหารชีวิต เพราะถูกกล่าวว่า ถ้า ไม่เป็นฝ่ายที่ไปยั่วผู้ชายก่อนก็จะไม่ถูกข่มขืน


5.) เจ้าบ่าวสามารถฟ้องหย่า และให้กฏหมายลงโทษ และ ครอบครัวของ เจ้าสาว ได้ หาก ในคืนแต่งงานเขาพบว่า ฝ่ายหญิงมิใช่สาวพรหมจรรย์

 

นี่แหละ สาเหตุที่พระพุทธองค์ไม่ทรงอยากสอนสัตว์ทั้งหลาย เมื่อครั้งตรัสรู้ใหม่ ๆ
แต่พระองค์ก็ทรงมีพระบรมพรหมวิหาร จนกว่าพรหม มากราบทูลขอให้ทรงเทศนาโปรดสัตว์โลกบ้าง พระองค์จึงทรงโปรดเทศนาเพื่ออนุเคราห์สัตว์โลก

เอาเป็นว่า บุญ วาสนา ของใคร ของเขาก็แล้วกัน
ครับผม

 

พระพุทธศาสนาเคยรุ่งเรืองในประเทศอิหร่านมาก่อนที่อิสลามจะเกิดซะอีก การทำเช่นนี้ก็เหมือนกับเกรงกลัวบาปกรรมที่เคยทำกับพระพุทธศาสนาไว้จะย้อนกลับมาหาพวกอิสลาม

ในขณะเดียวกันในประเทศไทย มีพระพุทธศาสนาแต่กลับละเลยไม่เคยปกป้อง กลับไปสนับสนุนพวกอิสลาม ระวังเถอะครับ จะสูญไปแล้วจะกลับคืนมาลำบาก อย่าหาทางแก้ตัวอะไรเลยจะดีกว่าจะครับ พวกที่ทำผิดต่อพระพุทธศาสนา กลับตัวกลับใจซะ....

 

^
^^
^^^
อันที่จริงเป็นธรรมเนียมของพรหมครับที่จะมาอาราธณาพระพุทธเจ้าให้สั่งสอนสัตว์ให้รู้ตาม ไม่ว่าพรหมจะมาหรือไม่ พระพุทธเจ้าก็จะเมตตาส่วนสัตว์อยู่ดี

ส่วนเรื่องอื่นต้องเข้าใจครับ เขาสร้างขึ้นมาเป็นอาณาจักรก่อนแล้วค่อยแผ่ไปไม่ใช่เดินไปสอนใครต่อใครแบบของเรา ออกแนวเข้าใจยากและจะไม่ยอมรับคนอื่นเลย ถ้าคนๆนั้นไม่มีอำนาจที่เหนือกว่า ส่วนเรื่องที่ต้องออกมาปกป้องผมว่าควรทำ แต่!ไม่ควรทำแบบ โอไอซี ที่ไม่รู้ต้นเค้าปลายเหตุเหมือนเหตุการณ์ในภาคใต้อยู่ๆก็มาว่ากล่าวกันด้วยความรุนแรง มันเลยแก้ไขปัญหายาก เราควรรู้ปัญหาต้นดีๆก่อน

ถ้าเราอยากเป็นฮีโร่ต้องเข้าใจทุกอย่างดีๆ และไม่ควรคิดว่าเขา(มุส..)ทำเราก่อน มันจะคล้ายๆเราเป็นอันเดียวกันใครห้ามแตะต้อง ถ้าเกิดเราคิดแแบบนี้เดือดร้อนแน่เพราะลักษณะของโลกมีแต่ความวุ่นวาย คงจะไม่มีใครมากระทำร้ายชาวพุทธแบบที่คิดหรอก มันต้องมีเป็นธรรมดาตามลักษณะแห่งโลกอยู่แล้ว ของให้ใจเย็นๆ

 

นับว่าคุณมีแนวคิดที่ดี แต่ปัญหาก็คือเราไม่สามารถจะรู้ต้นสายปลายที่แท้จริงได้นะสิครับ ทุกวันนี้มีแต่การคาดเดาทั้งนั้น แล้วก็บอกว่าทำอย่างนั้น ในกรณีภาคใต้ของใต้ของไทย คนที่มีอำนาจก็บอกว่าทำอย่างนี้ ในใจลึก ๆ มีอะไรแฝงรึเปล่าก็ยังไม่รู้นะครับ ผมมีสายมาบอกให้ฟังให้รู้เรื่องราว รู้บางอย่างที่มิอาจจะเอื่อ และรู้ภัยเกี่ยวกับพรระพุทธศาสนาในบ้านเรา ประเทศเราดี จึงไม่หลงกลใครง่าย ๆ

ในส่วนที่บอกว่าเขา (อิสลาม) เป็นอาณาจักรแล้วแผ่ทางสงคราม ก็อาจจะใช่ แต่การเป็นอาณาจักรแล้วแสดงแสนยานุภาพอันโหดร้ายทำลายล้างคนอื่นนะถูกแล้วหรือครับ ยังมีอะไร ๆ ที่คุณยังไม่ทราบอีกเยอะ และอย่าลืมว่า "พุทธ" เรามาก่อนนับเป็นพันปี และแม้จะมีการเดินทางมาเผยแพร่คำสอนไม่ได้ใช้สงคราม แต่ "พุทธ" เราก็มีอาณาจักรใหญ่เป็นจักรวรรดิด้วยเช่นกัน ก็คือ อาณาจักรอโศกมหาราชนะครับ

 

ผมมีมุมมองอันนึงนะ อาจจะฟังดูแปลกๆหน่อย

อย่างประเทศ อัฟกานิสสถาน ที่เคยทำลายพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่จนพัง (องค์เล็กๆ คงไม่ต้องพูดถึง มันคงทำลายเรียบ)
ผลก็คือทุกวันนี้ อัฟกานิสสถาน มีแต่สงคราม หาความสงบมิได้ มีแต่ความเดือดร้อนไปทั่ว

และตอนนี้เราก็รู้ๆกันอยู่ว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่าง อิหร่าน กับ อิสราเอล มีความเป็นไปได้สูงมาก

การที่อิหร่าน ออกกฏยึดพระพุทธรูปออกจากร้านค้าทั้งหมด นั่นอาจจะเป็น "สัญญาณ" ว่า
ประเทศอิหร่านกำลังจะมีความวิบัติรุนแรงเกิดขึ้น (ภัยจากสงครามนิวเคลียร์) ที่ตรงนั้นมันกำลังจะเป็นแดนมิคสัญญี
สิ่งมงคลทั้งหลาย จึงต้องออกจากที่นั่น หรือ มีกรรมบันดาลให้มีเหตุต้องออกจากที่นั่น เพราะที่ตรงนั้นมันจะอิ๊บอ๋ายแล้ว

และรวมถึง....

คนที่ยังพอมีบุญญาธิการที่ยังไม่ถึงฆาต จำต้องระเหจออกจากพื้นที่โดยมีเหตุและปัจจัยมาแสกนคนที่ยังพอมีบุญเหล่านี้ออกจากพื้นที่

ไม่รู้ผมกินมากไป เลยคิดมากไปหรือเปล่านะ

 

ที่ผมรู้สึกได้คือ ไม่มีประเทศที่ชื่อ อิหร่าน อยู่ในแผนที่โลกใหม่ ครับ