เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. TK the Naka

    TK the Naka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,190
    ดีครับพี่นก พี่มีด ทีหลังไม่ต้องเรียกคุณก็ได้ครับ คนกันเอง
    น้องกุมารนี่สงสัยอยากกินขนมไหว้พระจันทร์แน่ๆเลยกำลังฮิตในช่วงนี้
    ขอบคุณพี่ๆที่อวยพรนะครับ
    พี่ๆท่านใดมีวิธีฝึกฝนจิตให้จำตำราจำสูตรแม่นๆก็ไม่ต้องเกรงใจนะครับ บอกมาโลดครับ

    TK the Naka
     
  2. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    เรื่องอะไรเราจะอ้วนคนเดียว เอาเร็วๆเร่เข้ามา แบ่งๆกันกินจะได้อ้วนเหมือนกัน 555
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • berry12.jpg
      berry12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.8 KB
      เปิดดู:
      51
    • berry08.jpg
      berry08.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.3 KB
      เปิดดู:
      42
    • ic7.jpg
      ic7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.7 KB
      เปิดดู:
      43
    • 1998.jpg
      1998.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.1 KB
      เปิดดู:
      38
    • ic4.jpg
      ic4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.1 KB
      เปิดดู:
      38
  3. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    พี่ก็อยากจะพักผ่อนอยู่เหมือนกันค่ะน้องนก แต่ก็อย่างที่เล่าให้ฟังว่าพี่ทำงานแทบจะไม่มีวันหยุดเลย และก็ไม่ต้องการเอ่ยชื่อของสถานที่ทำงานเพราะพี่อาจตายได้ค๊า.. อิอิ.. พี่เคยบอกไปแล้วว่าที่นี่ถือว่าเป็นโรงเรียนสอนจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของพี่ แต่ไม่เป็นไรค่ะ.. สู้ตาย.. เราเป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์อนาลัยแล้ว ปัญหาทุกเรื่องจิ๊บจ้อยจริงมั้ยจ๊ะ..

    ขอเล่าเรื่องของตัวเองต่อจากเมื่อบ่ายนี้นะจ๊ะ หลังจากศึกษาหนังสือของอาจารย์ปริญญามาร่วม 20 กว่าเล่มแล้ว ก็มีเหตุให้ต้องมาอ่านหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัยต่อและวิเคราะห์มวลความรู้ของท่านอาจารย์มาหลายตลบแล้ว ก็ฟันธงได้เลยว่าความรู้ของท่านอาจาย์สอดคล้องกับอาจารย์ของพี่ที่สั่งสอนมาทุกท่าน ซึ่งอาจจะมีบางเรื่องที่ขัดแย้งกันบ้างเราก็สามารถวิเคราะห์ได้ว่าควรจะเชื่อสิ่งไหนดี ถ้าจะสังเกตุง่าย ๆ ก็คืออาจารย์ทุกท่านสอนให้เรามีความรักความเมตตา อดทน อดกลั้น ให้อภัย และเสียสละ ซึ่งก็คือให้เรารักผู้อื่นโดยปราศจากเงื่อนไข หรือก็คือรักโดยไม่หวังผลตอบแทนนั่นเอง

    มีสิ่งที่น่ามหัศจรรย์สำหรับพี่ก็คือ คำถามที่พี่ถามพี่นักเขียนเรื่องเกี่ยวกับการพุ่งไปของจิตวิญญาณของพี่ ซึ่งพี่เตรียมไว้เพื่อจะถามอาจารย์ใหญ่ของพี่ที่สอนวิชาพลังจักรวาล แต่ก็ปรากฏว่าอาจารย์ของพี่ได้เสียชีวิตไปในช่วงกลางเดือนสิงหาคมทีผ่านมา เมื่อรู้ข่าวว่าท่านเสียชีวิตนั้น พี่ก็เหมือนคนเห็นแก่ตัวเพราะถามตัวเองว่าเราจะทำยังไงต่อไป เราจะไปเรียนกับใครต่อเพราะเรายังกระหายความรู้ทางจิตวิญญาณอยู่ เหมือนเรียนเท่าไหร่ก็ไม่พอ ก็มาเจอพี่นักเขียนและพยายามถามเรื่องอืน ๆ ก่อน เพื่อความแน่ใจ เมื่อแน่ใจแล้วจึงถามคำถามนี้ออกมา และพี่นักเขียนก็ตามคำถามของพี่ได้ครอบคลุมทุกคำถามที่พี่ยังค้างคาใจ แม้กระทั่งเรื่องที่ว่าอาจารย์ที่แท้จริงท่านยังอยู่กับเราเสมอทั้งยามตืน ยามหลับ ยามฝัน และพี่ก็รู้สึกอย่างงั้นจริง ๆ เชื่อมั้ยว่าในเช้าของวันที่พี่นักเขียนตอบคำถามของพี่ในเช้าของวันนั้นพี่รับรู้ความคิดจากท่านอาจารย์ใหญ่ของพี่ว่า ยินดีด้วยนะเราพบอาจารย์คนต่อไปแล้ว เพียงแค่นั้นน้ำตาของเราก็ไหลออกมาและไม่สามารถหยุดได้ ความรู้สึกเหมือนกับว่าท่านกำลังจะจากเราไปหรือเหมือนส่งมอบเราให้กับอาจารย์คนใหม่ยังงัยยังงั้น เมื่อมาทำงานตาก็บวมตุ่ย น้องที่ทำงานก็ไม่มีใครกล้าถามเราสักคนว่าเป็นอะไร และยิ่งมาอ่านข้อความของพี่นักเขียนแล้วก็ซึมไปเลย แต่ความรู้สึกลึก ๆ กลับมีความสุขที่เราได้เจอคนที่จะมาต่อยอดความรู้ทางจิตวิญญาณของเราแล้ว..

    ที่เล่ามาให้ฟังยืดยาวนี้ ก็อยากจะให้ทุก ๆ คน รวมทั้งคุณ Yut ได้ลองเอาไปคิดพิจารณาดูนะคะ ว่าเราเจอกับอาจารย์ที่แท้จริงรึยัง เป็นความจริงที่อาจารย์ปริญญากล่าวไว้ที่ว่าก่อนที่เราจะเชื่อเรื่องอะไรก็แล้วแต่ถ้าฟังแล้วเชื่อเลยก็ถือว่างมงาย ถ้าฟังแล้วปฏิเสธเลยก็งมงาย ฟังแล้วไม่รู้ว่าจะเชื่อดีไม่เชื่อดีก็ถือว่างมงายเหมือนกัน ค่อย ๆ พิจารณาค่ะ เพราะตัวขจรวรรณเองก็มีปัญหาเวลาคุยกับเพื่อนแต่ละศาสตร์แต่ละสายมักจะรับกันไม่ได้ จึงต้องเลือกคุยว่าจะคุยเรื่องอะไร แต่ก็บอกเพื่อนไว้ว่าถ้าหากเห็นว่าเราเพี้ยนเมื่อไหร่ก็อนุญาติให้จับเข้าโรงบาลประสาทได้เลยค๊า.. อิอิ..
    (b-hmm) (b-hmm) (b-hmm)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2007
  4. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765

    ยินดีต้อนรับคุณJINTAWADEEค่ะ มีเพื่อนร่วมห้องวิทย์อีกคนแล้ว เข้ามาคุยกันบ่อยๆนะคะ แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน:d

    น้องTK the Naka ลองทำดูก็ได้นะ วิธีอ่านตำราให้จำได้ จะว่าไปจะเรียกว่าอ่านไหมหนออ่านทางลัดล่ะกัน ปกติเวลาพี่สอบจะไม่ค่อยอ่านหนังสือหรอก เรียกว่าขี้เกียจมั้งน่ะ 55 แต่ว่าจะเปิดผ่านๆเลือกอ่านแต่หัวข้อหลักสำคัญว่ามีเรื่องอะไรบ้าง จากนั้นก็นอนแล้วเอาหนังสือมาหนุน เช้ามาก็ตักบาตร ไปสอบอย่างมั่นใจ พอไปสอบเวลาเห็นข้อสอบมันจะนึกขึ้นมาได้เอง
    ทดลองแล้วได้ผล99% ไม่เคยตกเลย แต่อีก1%ที่ว่าไม่ได้ผลก็คือเลข แงๆนึกไม่ออกมึนตึ๊บ
     
  5. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    อ่านเรื่องของพี่ขจรวรรณก็ขนลุกตามเลยค่ะ อาจารย์ท่านยังอยู่กับเราตลอดเวลาจริงๆไม่ว่าหลับหรือตื่น
    ใครกล้ามาจับพี่ไปโรงพยาบาลประสาท เดี๋ยวนกจะไปจัดการให้เลย อิอิ
    ส่วนเรื่องเกี่ยวกับจิตวิญญาณนี้นกเริ่มคุย ศึกษา เข้าใจมากขึ้นก็ตอนรู้จักกับพี่เฉลยนี่แหล่ะค่ะ เพราะว่าคุยเรื่องแบบนี้ไม่ว่าจะเพื่อนซักกี่คนก็หายากที่จะเข้าใจจริงๆ คือถ้าคุยแค่เบื้องต้นเค้ายังพอเข้าใจรับได้ แต่พอเริ่มลึกลงไปมากๆเค้าจะงงล่ะแล้วว่าเราคิดอะไรแปลกๆ ส่วนตอนนี้มีพี่ที่ทำงานคนนึงคุยกับเค้าแล้วเข้าใจ นกก็พยายามแนะนำถึงคำสอนของอาจารย์อนาลัยให้ฟัง ที่คุยกันมากๆก็เรื่องความฝัน พยายามบอกเค้าว่าให้จดจำความฝันเพราะมันมีความหมาย ก็เลยมีเรื่องฝันมาเล่าให้กันฟังบ่อยๆแล้วก็ตีความกันไป เสียดายพี่เค้าใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็นก็เลยไม่ได้เข้ามาคุยกับพวกเราในบอร์ดนี้
    ว่าจะนอนก่อนสักงีบก่อนไปทำความสะอาดโต๊ะหมู่บูชา เวลานั่งดูพระ ดูเครื่องรางอะไรต่างๆนี่มีความสุขดีนะ จำได้ว่าตั้งแต่เด็กๆแล้ว เวลาแม่เอาพระที่ใส่ไว้ในกล่องลงมา จะชอบมานั่งดูทุกๆองค์เลย พอองค์ไหนสวยถูกใจก็เอาไปห้อย ปีๆนึงนี่ก็เปลี่ยนพระที่ห้อยคอไปหลายองค์เหมือนกัน
     
  6. TK the Naka

    TK the Naka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,190

    ดีครับพี่ขจรวรรณ
    ดีใจที่ได้คุยกับพี่อีก ได้ฟังเรื่องเล่าของพี่ก็รู้สึกถึงพลังจิตวิญญาณของพี่ขจรวรรณ และรู้สึกดีใจแทนพี่ขจรวรรณที่ได้พบกับพี่นักเขียนนะครับ
    ขอให้การศึกษาจิตวิญญาณของพี่จงผ่านฉลุย ได้ทราบทุกๆข้อสงสัยที่พี่ต้องการ ผมคิดว่าพี่ขจรวรรณเป็นคนที่ตั้งใจศึกษาเรื่องของจิตวิญญาณมากๆ และเชื่อมั่นว่าพี่นักเขียนจะให้ความรู้พวกเราได้ในทุกๆเรื่องเป็นอย่างแน่นอนครับ
    ใครว่าพี่เพี้ยนหรือบ้าก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราไปเป็นเพื่อนกันก็ได้ อิอิ[​IMG]

    เคารพ
    TK the Naka
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2007
  7. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    ตอนที่ส่ง pm พยายามเรียบเรียงคำถามส่งให้พี่เลขา(ร่างในกระดาษก่อนค่ะ) เพราะตนเองเป็นคนที่สื่อสารแล้วบางท่านไม่เข้าใจ เป็นคนที่พูดเร็วแล้วบางครั้งเอาประโยคท้ายมาอยู่หน้า ประโยคหน้าอยู่หลัง บางท่านก็ไม่ชินเค้าก็
    จะงง บางครั้งไปร้านหนังสือยังเปิดจากข้างหลังมาก่อน ประมาณว่าเหมือนอ่านคัมภีร์จีน และที่ตนเองต้องระมัดระวังเพราะเวบนี้สามารถสื่อสารได้ทั่วโลกถ้าเขาเหล่านั้นรู้จักเวบพลังจิต และรู้สึกชอบก็เลยเซฟเอาไว้ ปกติอ่านแล้ว
    จะลบทิ้งเลยค่ะ
    **ความฝันนี้เกิดขึ้นก่อนที่พี่ ๆ จะเอารูปโพสในกระทู้ แต่ไม่แน่ใจเพราะยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นสมาชิกห้องวิทย์หรือเปล่า หลังจากได้ดูรูปของพี่ ๆ คิดว่า
    50% แต่ไม่ฟันธงเพราะไม่เม่นเหมือนกับบางเคสค่ะ
    ***ในตอนนี้บางครั้งตนเองเหมือนมีกระแสคลื่นไหลเข้ามาหา มันเหมือนตัวเรามีคลื่นผ่านได้ แต่ในบางครั้งตัวจะรู้สึกร้อนมาก ไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับพลังงานเหล่านี้และบริเวณใกล้เคียงก็ไม่มีค่ะ
    แล้วน้าเหลยมีจินตภาพเกี่ยวกับจิตต์บ้างหรือเปล่าคะ

    (แสงสีขาวและแสงสีทอง ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีค่ะ)
     
  8. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    ในจินตภาพเป็นบุคคลที่มีความไหวหวั่น อารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมา
    เพื่อปลดความทุกข์เศร้าหมองใจ แต่เสมือนหนึ่งโดดรัดตรึงบริเวณข้อมือ
    ไม่สามารถทำในสิ่งที่ปรารถนาได้เต็มที่สักเท่าไร (พลังยังไม่เต็ม)
    ในขณะนี้ที่ได้อ่านกระทู้ที่คุณเขียนขึ้น ก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกผ่อนคลายและเริ่มเป็นปกติ เพราะทุกข์ได้ออกจากใจบ้างแล้ว
    (ต้องขออภัยนะคะถ้าไม่ตรงซะทีเดียว ความรู้สึกในขณะนั้นต้องการเพียงให้คุณมีกำลังใจที่ฝ่าฝันอุปสรรค คุณท้อได้แต่อย่าถอยและมิใช่คุณคนเดียวที่พบเจอกับอุปสรรค และขอให้คุณทำหน้าที่ให้สำเร็จ ถ้าบุญจัดสรรแล้วคงได้เจอจิตต์แบบเป็น ๆ นะคะ)
    รูปที่คุณแทนตนเองก็เป็นสิ่งยืนยัน ว่าคุณต้องได้พบพระพุทธศาสนา เพราะดวงแก้วที่ลอยขึ้นจากใต้ท้องน้ำ นั่นคือพุทธานุภาพจากพระบรมธาตุในเมืองบาดาล

    "ฟากฟ้าฝั่งฝันอันยาวไกล
    ฝากส่งใจไปตามลม
    กุศลกรรม......พลันนำส่ง
    เนื่องจำนงมิคลาดแคล้วจากพี่ยา(ใจ)........."

    ฝากไว้อ่านเวลาเหงา ๆ นะคะ ชอบก็ดีใจค่ะ ถ้าไม่ชอบจะได้แก้ไขให้ดีขึ้น
    (b-glass)
     
  9. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    คุยกันสนุกสนานเลย ตอนนี้ก็กินทั้งยาสมุนไพร ทั้งยาฝรั่ง กะเอาให้หายดีในเร็ววัน แต่วันนี้อาการที่มีแค่เจ็บคอ กลับเป็นว่า มีน้ำมูกไหลหน่อยๆ มีไอบ้างบางครั้ง แต่ก็กินยาไปแล้ว เดี๋ยวดูว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง

    ขอบคุณครับ หนังสือ สนทนากับพระเจ้า ตอนที่อ่านตอนแรกนั้น รู้สึกว่าได้ตอบคำถามบางอย่างในใจเรา และก็พึ่งรู้ว่าเล่มสอง(ที่เป็นภาษาไทย)ได้ออกมาแล้ว เดี๋ยวก็คงตามซื้ออีก แต่แหม หนังสือของโนวาอนาลัย ก็ยังอ่านไม่จบเลย นี่ก็จะซื้อมาอีก คงต้องจัดสรรเวลาดีๆ หน่อยแล้วเรา
     
  10. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    พอดีพี่นักเขียนช่วยตอบคำถามให้แล้วครับ
    แต่ยังไม่ตรงใจผมสักเท่าไหร่ครับ

    เพราะ..ผมไม่ได้สงสัยว่า
    ท่านอาจารย์อนาลัยท่านสอนไว้ว่าอย่างไร ?
    แต่สงสัยว่าทำไมมันถึงแย้งกับความเชื่อทางพุทธศาสนา ?
    ถ้าคำตอบที่ผมได้รับ เป็นคำตอบเดียวกับที่อยู่ในใจของผม
    และท่านอื่นๆอยู่แล้ว ว่า..

    คำสอนทางศาสนาอาจมีการบิดเบือนไปบ้างตามกาลเวลา
    และการตีความหมายของผู้แปล-ผู้ถ่ายทอดในแต่ละภูมิภาค
    และในแต่ละยุกต์สมัยหละก็..

    อันนี้ก็ยังน้อยไปที่จะทำให้ผมกระจ่างได้ครับ

    ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี...
    แต่ผมเองเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบศึกษาหาความรู้
    และจะต้องขุดค้น ซอกแซกจนกระจ่างให้จงได้

    อะไรแบบนั้นหละครับ

    ดังนั้น..คำถาม หรือข้อสงสัยอะไรที่เกิดขึ้น
    ผมไม่ค่อยลังเลที่จะค้นต่อไป หรือถามออกมา
    ไม่ว่าคำถามนั้นมันจะดูโง่เขลาในสายตาคนอื่นเพียงใดก็ตาม
    และไม่ว่าคำถามนั้น มันอาจจะกระเทือนใครบ้างก็ตาม
    (อย่างที่ผมได้ถามไปแล้วนั้น-ผมก็คิดอยู่ว่า
    จะมาทำให้เขาวงแตกหรือเปล่าเนี่ย..
    เขาจ๊ะจ๋า กุ๊กกิ๊ก กันอยู่ดีๆ ไอ้นี่มาจากไหน มาฉอดๆเอาซะหูดับเลย)

    เป็นอย่างที่อาจารย์ปริญญาว่าครับ ผมเห็นด้วยว่า
    รับฟังมาแล้วเชื่อเลย-ปฏิเสธทันที ก็เข้าข่ายงมงายหมด
    แต่ก็ไอ้เพราะรับมาใคร่ครวญไตร่ตรองที่ทำอยู่นี่แหละครับ
    จึงทำเอาว้าวุ่นนัก..

    จริงอย่างที่ท่านอื่นๆว่า ว่าอ่านของท่านอาจารย์อนาลัยแล้ว
    โดยเฉพาะ "ธรรมชาติของชาติภพ" ยิ่งรู้สึกว่า
    เออ..ดีนะ เป็นอะไรที่ไม่อิงศาสนาเลย เป็นธรรมชาติมากๆ
    และก็เห็นด้วยอย่างมากครับ..แถมได้ประโยชน์จากเล่มอื่นๆอีกเพียบ

    หมายเหตุ : ที่ผมอ่านมาแล้ว คือ

    1. ขยายความธรรมชาติของชาติภพ
    2. ชีวิตนอกเหนือชาติภพ
    3. ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ
    4. ประวัติศาสตร์ของจิตวิญญาณ
    5. อมตะแห่งจิตวิญญาณ-ภาคต้น
    6. อมตะแห่งจิตวิญญาณ-ภาคปลาย (กำลังอ่านอยู่)

    ที่ถามมาทั้งหมด ไม่ได้จะอะไรทั้งนั้น มีเพียงวัตถุประสงค์เดียว
    คืออยากรู้ ข้อมูลที่เป็น "ความรู้" ซึ่งเป็น "ความจริง"
    เบื้องหลังทุกสิ่งทุกอย่างอย่างแท้จริงเท่านั้นครับ
    ดังนั้น ก่อนอื่นผมก็เลยต้องหาคนที่น่าเชื่อถือมาช่วยยืนยัน
    ว่าท่านอาจารย์อนาลัยผู้นี้ ท่านมาดีอย่างที่ท่านกล่าวต่อเราจริงๆ

    และอีกประเด็นหนึ่งที่พี่นักเขียน และหลายๆท่าน
    ในกระทู้นี้ยังเข้าใจผมผิดอยู่คือ
    ผมไม่ได้เพิ่งเข้ามาในห้องวิทย์นี้หรอกนะครับ
    ผมต่างหากหละที่จะสมควรกล่าวว่า

    "ยินดีต้อนรับสู่ห้องวิทยาศาสตร์ทางจิต แห่งเวปพลังจิตแห่งนี้"

    ดูวันที่สมัครเป็นสมาชิกของผมสิครับ...

    (b-flower)
     
  11. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    มีอีกประเด็นหนึ่ง ที่อยากขออนุญาตคุณ mead อีกแล้วครับ
    ขออนุญาตพูดถึงหน่อยเถอะนะครับ..

    คือเรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับโลกเราในอนาคตอันใกล้นี้

    ถ้าตามนัยของท่าน "จิตจักรวาล" แล้ว
    แปลว่า..ไม่ว่าจะ "เชื่อ" หรือ "ไม่" ก็ตาม "มันก็ต้องเกิดขึ้น"
    เพราะ "มันได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว"
    เพราะเหตุที่ ฯลฯ
    (ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ สำหรับผม - คุณ mead และ
    ท่านอื่นๆที่ได้อ่านหนังสือของอาจารย์ปริญญาครบแล้วนะครับ
    ไม่อยากให้ยืดยาว)

    นี่จะแย้งกับท่านอาจารย์อนาลัยอยู่นะครับ
    เพราะ..ท่านว่า

    ถ้าเราไปจดจ่ออยู่กับมันว่ามันจะเกิดเหตุไม่ดีขึ้น
    มันก็จะเป็นการเหนี่ยวนำให้มันเกิดขึ้น
    เพราะความคิด-อารมณ์ และจินตนาการของเราเองนั่นแหละ
    ที่เป็นตัวการสร้างเหตุการณ์-วัตถุธาตุ และสิ่งต่างๆขึ้นมาเอง

    และอีกอย่าง ก็จะแย้งตรงที่ว่า
    "จิตจักรวาล" กล่าวว่า เหตุที่จะเกิดก็เพราะ "มีพลังงานกรรม"
    หรือพลังงาน "ลบ" ซึ่งเกิดจากมนุษย์สร้างขึ้นมากมายเกินไปแล้ว
    โลก จึงจำเป็นต้องได้รับการชำระล้างเสียที

    แต่ท่านอาจารย์อนาลัยบอกว่า - ไม่มีกรรมเก่าใดๆ
    จะมากำหนดชีวิตของใครได้ทั้งสิ้น..

    แล้วนี่ใครพูดถูกกันแน่หนอ หรือ ถูกทั้ง ก. และ ข.

    และระหว่างท่าน "จิตจักรวาล" หรือ "พระผู้สร้าง"
    ที่ท่านสื่อสาร "ความจริงที่จริงแท้" นี้มาสู่เรา
    กับท่านอาจารย์ "โนวา อนาลัย" ซึ่งเป็นผู้นำ "ความรู้"
    มาเปลี่ยน "ความเชื่อ" ของเรา ให้เป็น "ความรู้" นี่

    ..ใครยิ่งใหญ่กว่ากัน..
    ..ใครพูดถูกกว่ากัน..
    ..ใครรู้มาก หรือ รู้จริงกว่ากัน..

    ปล.
    โปรดสังเกตสไตล์ผมนะครับ ถ้าท่านเข้าใจ
    ท่านจะไม่เคืองผม (ที่กำลังจะเคือง หรือเคืองแล้ว
    ก็อาจจะเปลี่ยนใจ) เพราะผมไม่ได้ต่อต้านใครเลย
    ผมไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อใครเลย..

    แต่เป็นความสงสัยล้วนๆ จริงๆครับ
    เวลาผมได้รับข้อมูลอะไรมา ถ้าเป็นข้อมูลเรื่องเดียวกัน
    ผมจะนำมาปะติด ปะต่อ เป็นจิ๊กซอ และประมวลออกมา
    เป็นเรื่องราว หรือเก็บเข้า Folder เดียวกันไว้ในความคิดของผม
    แต่ถ้ามันมีข้อขัดแย้งกันขึ้น เหมือนป้อนสูตรผิดไปใน Excel
    เวลากด Enter ให้มันประมวลผลลัพธ์ออกมา มันก็จะขึ้น "N/A"
    หรือ "ERR" อะไรแบบนั้นแหละครับ..

    แล้วผมก็จะไปต่อในเรื่องนั้นๆไม่ได้..!!! จนกว่าผมจะได้ข้อมูล
    มาป้อนลงในสูตรนี้ให้สมบูรณ์ ถูกต้องเสียก่อนครับ

    ดังนั้นก็ต้องข้ามเรื่องนี้ ไปคิดเรื่องอื่นๆอยู่เรื่อยๆ เพราะ "N/A" นี่เอง

    แม้แต่ในคำสอนทางพระพุทธศาสนาเอง
    อย่าคิดว่าผมจะไม่สงสัยนะครับ..ตรึมเลยครับ..
    โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับ "อจินไตย" ต่างๆ
    ซึ่ง 1 ในนั้นคือเรื่องของโลก และจักรวาล
    จนกระทั่งทุกวันนี้ ผมยังหาผู้ที่จะมาทำให้ผมกระจ่าง
    ไม่ได้เลยว่า

    1. ทำไมในพระไตรปิฎกจึงกล่าวถึง "จักรวาล" และขนาด Dimension
    ต่างๆของแผ่นดิน แผ่นน้ำ ลม ภูเขาสิเนรุ ฯลฯ ไว้เช่นนั้น
    (ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจอีกเช่นกันครับ หากท่านใดยังไม่ทราบ
    ว่ากล่าวไว้เช่นใด ก็ลองค้นดูเอาเองนะครับ)
    ประเด็นคือ ระยะ หรือ Dimension เหล่านั้น ทำไมถึงแตกต่าง
    จากระยะที่นักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันคำนวณได้อยากมากมายนัก
    ฯลฯ

    2. ทำไมนิพพาน ของ แต่ละครูบาอาจรย์ - แต่ละสายปฏิบัติ
    จึงไม่แนบสนิทกันได้พอดี ทั้งๆที่เป็นพุทธ นิกายเดียวกัน (เถรวาท)

    ฯลฯ

    ผมเชื่อว่า "ผล ย่อมเกิดมาแต่เหตุ" ดังนั้น
    ผมจะไม่มีวันเชื่อเลยว่า

    ท่านครูบาอาจารย์ทั้งหลายเหล่านั้น
    ท่านจะเจตนามาโกหกพวกเรา
    เพียงเพื่ออะไรบางอย่าง

    แต่ต้องเป็นเพราะ ท่านพูดตามที่ท่านเห็นเช่นนั้นซะมากกว่า

    หรือเปล่า ?

    และถ้าเป็นนัย อย่างที่ท่านอาจารย์อนาลัยว่า
    ก็แปลว่า "ท่านจะเห็น อย่างที่ท่านเชื่อ" แล้วท่านก็มาสอนเรา
    อย่างนั้นหรือไม่ ??
    ซึ่งก็เลย ไม่น่าแปลกอะไร ที่จะมีคำสอนที่แตกต่างกันมากมาย

    และก็ไม่ใช่ว่าสิ่งที่ท่านสอนนั้นๆ จะไม่มีอยู่จริงนะ
    ทั้งหมดนั้น มีอยู่จริงซะด้วย สามารถพิสูจน์ และสัมผัสได้
    ด้วยอายตะพิเศษระดับต่างๆ

    เพราะ ถ้าตามนัยของท่านอาจารย์อนาลัยว่าไว้จริงๆ (อีกแล้ว)
    ก็แปลว่า..ทุกความคิด-อารมณ์ และจินตนาการของเรา
    (โดยเฉพาะท่านครูบา อาจารย์ที่ฝึกจิตมาดีแล้ว
    อารมณ์-ความคิด และจินตนาการของท่านจะคมชัดมากๆ)
    ก็จะสร้างวัตถุธาตุ-เหตุการณ์ และสิ่งนั้นๆขึ้นมาจริงๆ
    ในมิติใดมิติหนึ่งเสมอ ไม่มีความคิดใด ที่ไม่มีผลต่อ
    มิติใดๆเลย อะไรทำนองนั้นครับ

    ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆก็...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2007
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ขอนำท่านออกนอกเรื่อง "ความฝัน" ซึ่งเป็นหัวข้อของกระทู้นี้
    อีกสักเล็กน้อยนะครับ..ต้องขออนุญาตคุณ mead อีกแล้วครับ

    (คุณ mead กับผมนี่ ก็รู้จักกันในเวปนี้มาตั้งหลายปีแล้วครับ
    เรียกได้ว่าผมเป็นแฟนงานเขียนของคุณ mead คนหนึ่ง
    และเราก็เป็นสมาชิกของ "กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ"ด้วยกัน
    เจอกันอยู่บ่อยครั้งในทริปต่างๆของกลุ่ม และของเวปครับ

    ดังนั้น..ท่านไม่ต้องห่วงนะครับว่าคุณ mead จะเคืองผม
    เพราะผมรู้สึกว่าเราเป็น
    "จิตวิญญาณต่างร่าง แต่ร่วมวัตถุประสงค์กัน" ด้วยซ้ำไป)

    พอดีมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่ผมสงสัย ที่กล่าวถึงในโพสต์ข้างบนนี้
    มาให้ผู้ที่ยังไม่เคยรู้อ่านหนะครับ ซึ่งลอกของคุณ Vicha
    แห่งเวปลานธรรมเสวนามาครับ..ดังนี้..
    .................................................

    1 จักรวาล ทางพุทธ คือ มีกำหนดเท่ากับโอกาสที่พระจันทร์ พระอาทิตย์
    โคจร ทั่วทิศสว่างไสวรุ่งโรจน์ นั้นประกอบไปด้วย
    พระจันทร์หนึ่งดวง มีอาทิตย์หนึ่งดวง มีขุนเขาสิเนรุหนึ่ง
    มีชมพูทวีปหนึ่ง มีอปรโคยานทวีปหนึ่ง มีอุตตรกุรุทวีปหนึ่ง
    มีปุพพวิเทหทวีปหนึ่ง มีมหาสมุทรสี่ มีท้าวมหาราชสี่
    มีเทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาหนึ่ง มีเทวโลกชั้นดาวดึงส์หนึ่ง
    มีเทวโลกชั้นยามาหนึ่ง มีเทวโลกชั้นดุสิตหนึ่ง
    มีเทวโลกชั้นนิมมานรดีหนึ่ง มีเทวโลกชั้นปรนิมมิตวสวัสตีหนึ่ง มีพรหมโลกหนึ่ง

    1 สุริยะจักรวาลทางวิทยาศาสตร์ มีดวงอาทิตย์ 1 ดวง
    และมีดาวเคราะห์หลายดวงเป็นบริวาร โคจรรอบดวงอาทิตย์
    ส่วนดาวเคราะห์นั้นมีดวงจันทร์เป็นบริวารอาจจะมี 1 ดวงหรือมากกว่าหนึ่งดวงก็ได้

    เมื่อแยกมาเปรียบเทียบก็ได้ดังนั้น จักรวาลทางพุทธ
    มีกำหนดเท่ากับโอกาสที่พระจันทร์พระอาทิตย์โคจร
    ทั่วทิศสว่างไสวรุ่งโรจน์ กับสุริยะจักรวาลทางวิทยาศาสตร์
    ในเชิงเป็นวัตถุที่มนุษย์เห็นได้ก็มีความเข้ากันได้
    เพี่ยงแต่ในทางพุทธนั้นเป็นการนำเสนอที่มนุษย์ในสมัยนั้นพอเข้าใจได้

    จากที่แยกเปรียบเทียบด้านบน ก็จะได้
    1 จักรวาลทางพุทธ ก็คืออาณาบริเวณที่คลุม
    ระบบสุริยะจักรวาลหนึ่งๆ ทางวิทยาศาสตร์นี้เอง

    ต่อไปก็ต้องพิจารณาว่าอาณาบริเวณจักรวาลทางพุทธนั้น
    มากกว่า ระบบสุริยะจักรวาลมากแค่ไหน

    ทางวิทยาศาสตร์นั้น ดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้กับสุริยะจักรวาลของเรา
    อยู่ห่างไปประมาณ 4.3 ปีแสง ต้องอาศัยการวัดระยะทาง
    และขนาดของโลก ขนาดของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์เข้ามาช่วยแล้ว

    1 ปีแสง = 5.88 X 10**12 = 5,880,000,000,000 ไมล์ ( 1 ไมล์ = 1.6 กิโลเมตร)
    โลกมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 7,900 ไมล์
    โลกห่างจากดวงจันทร์ ประมาณ 238,400 ไมล์
    ดวงจันทร์มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 2,163 ไมล์
    โลกห่างจากดวงอาทิตย์ ประมาณ 93,000,000 ไมล์
    ดวงอาทิตย์มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 864,000 ไมล์
    ดวงอาทิตย์ห่างจากดาวฤกษ์ที่ใกล้ประมาณ 25,284,000,000,000 ไมล์

    คราวนี้ต้องมาเทียบอัตราส่วนของมนุษย์กับโลกก่อนว่าเท่าใด
    จึงพอที่จะประมาณโลกเทวดาได้

    ผมกำหนดเพื่อคำนวณได้ง่ายให้มนุษย์มีความกว้าง 1 เมตร
    ก็คือ 1/1600 ไมล์ = 0.000625 ไมล์
    ได้อัตราส่วนความกว้างของมนุษย์กับโลก
    ประมาณ 0.000625/7900 หรือ 1 / 12,640,000 ส่วน

    ที่ได้จากการสนทนากับเทวดา โลกมนุษย์ เท่ากับ กำปั้น ของเขา
    เมื่อเทียบรูปร่างของเทวดามีลักษณ์เหมือนมนุษย์
    จากวัดกำปั้น(ตัวเอง)ของคนเรามีขนาน 10 เชนติเมตร
    ในเมือกำหนความกว้างของมนุษย์ประมาณ 1 เมตร
    จึงมีขนาด 100/10 ประมาณ 10 กำปั้น

    ก็จะได้ขนาดความกว้างของเทวดา 10 เท่าของเส้นผ่าศูนย์กลางโลก
    คือ 10 x 7,900 = 79,000 ไมล์
    เมื่อประมาณให้โลกเทวดา เป็นอัตราส่วนเดียวกับโลกมนุษย์

    ก็สามารถประมาณความกว้างของโลกเทวดาได้ ดังนี้

    ขนาดกว้างของตัวเทวดา / อัตราส่วนกว้างของมนุษย์กับโลก
    ประมาณ 79,000 X 12,640,000 = 998,560,000,000 ไมล์

    ก็จะได้ความกว้างเชิงเปรียบเทียบโดยประมาณของโลกเทวดา
    ชั้นจาตุมหาราชิ = 998,560,000,000 ไมล์
    ซึ่งยังห่างจากจุดกึงกลางระหว่างดาวฤกษ์ที่ใกล้กับดวงอาทิตย์อยู่มากๆ
    ประมาณ 12 เท่า หรือมีความกว้างประมาณ 1/12 ของจุดกึงกลาง
    ระหว่างดาวฤกษ์ที่ใกล้กับดวงอาทิตย์
    และภพของเทวดาและพรหมนั้นสูงขึ้นไปเป็นชั้นๆ ขึ้นไป
    ซึ่งก็คือสูงจากโลกมนุษย์นี้ไป

    และภพของเทวดาดาวดึงส์นั้นต้องกว้างกว่าภพของเทวดาชั้นจาตุมาราชิกา
    เพราะรูปร่างใหญ่กว่า แต่ทับซ้อนกันอยู่เบื้องบน
    ดังนั้นถ้าภพดาวดึงส์มีความกว้างกว่าเพียงครึ่งเท่าหรือ
    หนึ่งเท่าของภพชั้นจาตุมาราชิกา
    ก็จะมีพื้นที่มากกว่าภพจาตุมหาราชิกา ถึง 2 หรือ 3 เท่าที่เดียว

    หมายเหตุ ขอให้ทำความเข้าใจด้วยว่า โลกเทวดา กับโลกมนุษย์

    ดาวเคราะห์ ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์นั้นคนละมิติ
    รือรูปหยาบและละเอียดต่างกัน

    ดังนั้นแสงที่เทวดาเห็นในภพของเขาไม่ได้อาศัยแสงของดวงอาทิตย์เหมือนมนุษย์

    ดังนั้นโดยกะประมาณ ภพของเทวดาทั้ง 6 ชั้น

    ระยะของความกว้างก็ยังไม่ถึง 1ใน 4 (1/4)
    ของระยะทางจากดวงอาทิตย์ ไปถึงดาวฤกษ์ที่ใกล้ที่สุดเลย(ยังไม่ถึงครึ่งเลย)
    ดังนั้นเมื่อรวมรูปพรหม อีก 9 ชั้น (พรหมฌาน 1 ถึง ฌาน 3)
    ก็คงเกือบกึ่งหนึ่งของระยะทางจากดวงอาทิตย์ไปยังดาวฤกษ์ที่ใกล้ที่สุด

    ส่วนพรหมฌาน 4 คงอยู่ด้านสูงสุดของขอบบนของจักรวาล
    (ดังนั้นเมื่อจักรวาลทังหมดทั้งมวลโดนทำลายตอนสิ้นกัป
    อย่างรุนแรงที่สุด ภพของพรหมฌาน 4 ก็หาได้โดนทำลายไปด้วย)
    ส่วนสุทาวาสพรหม(พระพรหมอนาคามี) และอรูปพรหมนั้นอยู่เขต
    นอกเหนือออกไปแล้ว ดังที่สนทนากับพระพรหมอนาคามี
    ท่านกล่าวว่า โลกของท่านที่เห็นเป็นโลกธาตุเดียว
    ก็เพราะหลุดออกไปจากจักรวาลไปแล้ว ไม่แบ่งขอบเขตแล้ว
    คือคลอบคลุมกาแลกชี่ทั้งหลายทั้งหมดทั้งสิ้น

    และจากที่สนทนากับเทวดาชั้นจาตุกล่าวว่า
    ท่านจะไปยังดวงดวงดวงไหนก็ได้ที่มนุษย์มองเห็น ก็คงเป็นความจริงได้
    ในเมื่อโลกเรานี้มีขนาดเพียงแค่กำปั้นของท่าน
    และเทวดาก็มีฤทธิ์ไปไหนได้อย่างรวดเร็วดังใจนึก(ก็คงเร็วกว่าแสง)
    แต่การที่จะข้ามจากชั้นจาตุมหาราชิกาของจักรวาลหนึ่ง
    ไปยังอีกจาตุมหาราชิกาอีกจักรวาลหนึ่ง คงใช้เวลาเป็นวันหรือ
    หลายวันของโลกมนุษย์ และต้องผ่านอาณาบริเวณอันเวิ่งว้าง
    (เทวาดาก็ยังมีความกลัวอยู่ เพราะเทวดาหมู่มารก็มีที่จะทำให้เกิดความกลัว)
    เพราะเทวดาเบื้องต่ำไม่สามารถมองเห็นภพเทวดาเบื้องสูง
    เหมือนคนละมิติ เนื่องจากรูปของเทวดาเบื้องต่ำจะหยาบกว่าเทวดาเบื้องสูง
    ดังนั้นไม่จำเป็นจริงเทวดาจึงไม่คอยเดินทางข้ามจักรวาล

    ก็มีแต่ในกรณีที่พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นและยังมีพระชนชีพอยู่เท่านั้น
    ที่จะมีเทวดา10 ถึง 10,000 โลกธาตุ(อธิบายเรื่องโลกธาตุภายหลัง)
    มาประชุมรวมกันในจักรวาลนี้ เพื่อทัศนาและฟังคำสั่งสอนจากพระโอฐของพระพุทธเจ้า

    และจากที่ได้สนทนากับเทวดาบวกกับพระไตรปิฎก กล่าวว่า
    ภูเขาสิเนรุเป็นภูเขาทิพย์ทีใหญ่มาก ๆ
    ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของภพจาตุมาราชิกา
    ก็สามารถมองเห็นภูเขาสิเนรุนี้

    และจากที่ได้สนทนากับเทวดา ภูเขาสิเนรุนั้น
    หาได้อยู่ตรงตำแหน่งเดียวกับดวงอาทิตย์
    แต่จะอยู่เยื่องด้านบนไปทางซ้ายของดวงอาทิตย์
    ซึ่งก็หมายความว่าอยู่ใต้ตีนเขาสิเนรุ(เขาสิเนรุอยู่เยื่องด้านบนขวามือ)
    และภพของเทวดาชั้นดาวดึงส์ก็จะอยู่บนยอดเขาสิเนรุขึ้นไป ถัดกันไปเป็นชั้นๆ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2007
  13. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    เปิดดูไฟล์ Enya - Enigma - Adiemus.zip

    เปิดดูไฟล์ 068. ฤดูที่ฉันเหงา-Flure.zip

    เปิดดูไฟล์ 009. คิดถึง อยากเจอเธอ-Mardi มาร์ดี้.zip

    เปิดดูไฟล์ 04-Boyd บอย-Live And Learn.zip


    วันนี้ฝนตกเย็นๆ ใครทานขนม นม ชา แล้ว ก้มาฝังเพลงกันต่อน่ะ
    เรียนไป อิ่มไป สมองก้อิ่ม ท้องก้อิ่ม หูก้อิ่มน่ะ
     
  14. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ความพิเศษของห้องวิทย์ฯ

    ผู้ที่ใหม่ที่สุดสำหรับ web นี้ก็น่าจะเป็นพี่นักเขียน เพราะเพิ่งจะมาตามคำชวนของหัวหน้าห้องได้เพียงเดือนเศษเท่านั้น พูดได้ว่าเข้ามาห้องวิทย์ฯนี้ทีหลังเพื่อน ใครๆทานส้มตำกันไปจนนอนหลับไปหมดแล้ว พี่นักเขียนจึงได้มาถึง

    ก่อนหน้านี้ไม่รู้จัก website นี้เลยด้วยซ้ำไป ต้องขอขอบคุณ คุณ Mead หัวหน้าห้องอีกครั้งนะคะ ที่นอกจากจะนำพาให้ได้มาสู่ห้องวิทย์ฯและ website นี้ ซึ่งเปรียบเสมือน Convention ทางจิตวิญญาณ-ภาคภาษาไทย และทำให้ได้รู้จักกับญาติมิตรชาวไทยมากมาย ซึ่งหากพี่นักเขียนจะกล่าวว่า ยินดีที่ได้รูัจักก็คงเป็นคำพูดที่น้อยเกินไป เพราะตามความรู้สึกที่แท้จริง จากการใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกนานและแวดล้อมไปด้วยคนต่างชาติต่างศาสนาที่มีความสนใจใฝ่รู้เหมือนกัน แม้จะอบอุ่นเพียงใดก็ไม่ใช่คนชาติภาษาเดียวกันซึ่งชอบส้มตำเหมือนกัน เรียกกันว่าพี่-ป้า-น้า-อาตามขนมธรรมเนียมไทยๆ

    ฉะนั้นความรู้สึกที่ได้รับจากสมาชิกห้องวิทย์ฯ เป็นความรู้สึกที่หาคำพูดมาพูดบรรยายแทบจะไม่ได้ นอกจากจะเปรียบได้ว่ารู้สึกเสมือนว่าได้กลับมาบ้านตากอากาศแห่งจิตวิญญาณ ที่เต็มไปด้วยญาติมิตร-พี่นัอง ทีนอกจากจะไม่เคยลืมกันแลัว ยังรู้ใจอีกว่าของชอบคืออะไร เพลงโปรดคือเพลงใด นักร้องโปรดคือคนใดอีกด้วย

    ทุกคนในห้องวิทย์ฯ ล้วนเป็นญาติมิตรทางจิตวิญญาณซึ่งยังเป็นร่างกายเนื้อหนังที่เดินทางไกล ไปเผชิญกับข้อมูลความรู้ใหม่ๆมากมายในต่างแดน ไม่ว่าดินแดนนั้นๆจะเรียกว่า ดินแดนแห่งพุทธศาสนา ดินแดนแห่งคริสต์ศาสนา ดินแดนแห่งศาสนาอิสลาม ฯลฯ อาจมีคนบางกลุ่มไปท่องดินแดนที่ดูเสมือนจะเป็นแห่งเดียวกัน เช่น ดินแดนแห่งพุทธศาสนา แต่ก็ไม่มีผู้ใดได้ไปยังจุดเดียวกัน ไม่ต่างไปจากการเดินทางทางโลก เช่น คนกลุ่มหนึ่งเดินทางมายังสหรัฐอเมริกา แต่คนบางกลุ่มก็ไปใช้ชีวิตอยู่ใน Los Angeles 30 กว่าปี แม้แต่เมืองอื่นๆในรัฐ California พวกเขาก็ไม่เคยรู้เห็น ไม่รู้จัก Kansas ไม่เคยไป New York ไม่เคยไปรัฐไหน นอกจากใช้ชีวิตอยู่แต่ใน LA แต่เขาก็คงรู้จัก LA ทุกซอกมุม พวกเขาอาจชอบอากาศอุ่น ไม่ชอบหนาว กลัวทอร์นาโด กลัวพายุ Hurricane แต่บางคนก็เคยอยู่หลายเมือง หลายรัฐ แต่ก็ไม่ใช่จะรู้จักสหรัฐได้ทั้งประเทศหรือทุกซอกมุมอยู่ดี และอาจจะไม่รู้จัก LA เลย และอาจจะกลัว Earthquake ไม่อยากเผชิญกับมัน แม้แต่คนกลุ่มที่ใช้ชีวิต 30 กว่าปีใน LA ก็ใช่ว่าจะเผชิญกับประสบการณ์ชีวิตที่เสมอเหมือนกัน ต่างคนต่างก็ประสพกับประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไปไม่มากก็น้อย

    ทั้งนี้ยังไม่ได้กล่าวถึงคนกลุ่มอื่นๆ ที่เดินทางไปยังดินแดนอื่นๆ จุดอื่นๆ ที่แตกต่างกันไปในโลกกว้าง ต่างก็เผชิญกับประสบการณ์อันหลากหลายเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำแบบกัน ด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด ที่เป็นไปตามความเชื่อส่วนตัวของเราแต่ละคน

    เมื่อพวกเราทั้งหมดมาชุมนุมกัน ณ ห้องวิทย์ฯแห่งนี้ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านพักตากอากาศริมทะเล ของจิตวิญญาณซึ่งยังเป็นร่างกายเนื้อหนัง หลังจากการเดินทางไปยังดินแดนอื่นๆอันยาวนาน เราปรารถนาที่จะทราบถึงสารทุกข์สุขดิบ ประสบการณ์ที่แตกต่าง และความแปลกใหม่ในดินแดนที่เราแต่ละคนยังไม่เคยไปถึง ไม่ว่าจะเป็นบนแผ่นดินใหญ่ บนเกาะ กลางมหาสมุทร ใต้บาดาล หรือแม้แต่ในห้วงจักรวาล เรากลับมาชุมนุมกันด้วยเป้าหมายที่จะนำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ที่เราแต่ละคนไม่อาจครอบคลุมทั้งหมดได้ด้วยตนเอง

    คุณ Mead พกเอาประสบการณ์ความรู้จาก Egypt จาก Atlantis จากดาวดาวหลายดวงมาฝาก

    คุณ zip พกเอา วจนะของพระเยซู -"สนทนากับพระเจ้า" ของ นีล โดนัลด์ วอลช์ และคงจะมีหนังสือของอาจารย์เซนโคโช อูจิยาม่า ของ Einstein ฯลฯ อยู่ใน back pack อีกหลายเล่ม

    คุณนัองขจรวรรณ พกเอาหนังสือของ อ.ปริญญา 17 เล่ม และอาจารย์ทางจิตวิญญาณ มาฝาก

    คุณประสงค์พกหนังสืออื่นๆมาและบอกพวกเราว่ามีสาระคล้ายกันกับหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัย

    คุณ Chayutt พกเอาหนังสือของมนุษย์ต่างดาวกับจิตจักรวาล หรือพระไตรปิฎกมาฝาก

    คุณ เฉลย มีหนังสือทุกประเภทที่อิงชีวิตจริงและประสบการณ์จริงมากมาย

    น้องๆบางคนก็มีหนังสือใน back pack แต่ติดใจมานั่งฟังพี่ๆเล่านิทานเพลินจนลืมเอาหนังสือของตัวเองออกมาอวดก็มี

    พี่นักเขียนพกเอาหนังสือติดมือมาเพียงเล่มเดียวคือของท่านอาจารย์อนาลัย แต่ต้องนำมาแยกออกเป็น 10 เล่ม เพราะคิดว่าตัวเองเป็นพี่ แต่มีน้องหลายคน แบ่งแล้วจะได้ดูได้พร้อมกันหลายคน ซึ่งในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าพี่แก่วิชา เพราะน้องๆต่างก็เอาหนังสืออื่นๆมามากมายกว่าพี่ด้วยซ้ำไป

    เราทุกคนไม่ได้กลับมารวมญาติมิตรทางจิตวิญญาณ หรือมาสู่ห้องวิทย์ฯในฐานะผู้รู้ผู้ตอบคำถาม แต่มาคุยกันฉันท์นักเรียนผู้แสวงหาความรู้ร่วมกัน เมื่อเป็นนักเรียนด้วยกัน ทุกคนล้วนมีคำถามและทุกคนก็ล้วนมีคำตอบ เพราะห้องวิทย์ฯเป็นห้องเรียนที่ไม่มีใครอยู่บนแท่นหน้าห้อง จะมีอยู่บนเก้าอี้บ้างก็ตามคำขอให้ร้องเพลงบ้าง แสดงความคิดเห็นบ้าง ป่วยบ้าง ทุกข์บ้าง แลัวก็ถูกญาติมิตรพี่ๆน้องๆหามมาไว้กลางห้้อง ช่วยกันพัดวี ให้น้ำ ให้ขนม ให้กำลังใจ

    ห้องวิทย์ฯเป็นบ้านพักตากอากาศทางจินตภาพของจิตวิญญาณ ไม่ว่าใครจะโผล่หน้าเข้ามาเมื่อไร ก็ไม่มีใครใหม่-เก่าไปกว่ากัน เพราะเราไม่ได้วัดกันด้วยเวลาที่ใครมาถึงบ้านแห่งนี้ก่อนหลัง เราต่างก็นำประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนกัน น้อง TK_the_Naka หน้าใหม่ที่เพิ่งจะโผล่หน้าเข้ามาและมาถึงบ้านได้ไม่กี่วันนี้ อาจจะเป็นผู้ที่ได้เดินทางไปไกลกว่าใครเพื่อน ไปถึงดินแดนบาดาลอันลี้ลับที่พวกเราพี่ๆนึกไม่ถึงด้วยซ้ำไปว่า มันอยู่แห่งหนใดในแผนที่โลกนี้ หรือโลกใดในจักรวาล

    มุมเล็กๆหลังบ้านมุมนี้ที่พี่นักเขียนกำลังนั่งอยู่ เป็นมุมที่พวกเราเอาหนังสือของพี่นักเขียนไปอ่านและนำมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ซึ่งพี่นักเขียนก็คงจะทำได้อย่างมากที่สุดก็คือ ช่วยขยายความที่เกี่ยวกับหนังสือชุดที่ตนเองได้มาจากการเดินทางส่วนตัวเท่านั้น ในขณะเดียวกันพี่นักเขียนก็หยิบหนังสืออื่นๆของน้องๆขึ้นมาอ่าน เพื่อหาความรู้เพิ่มเติมด้วยเช่นกัน ใครเอ่ยถึง Esther Hicks ใครเอ่ยถึงอ.ปริญญา ใครเปิดพระคัมภีร์ Bible หรือพระไตรปิฏก พี่นักเขียนก็ขออ่านด้วย เป็นต้น

    หากว่าเราแต่ละคนเข้าใจในความเป็นไปของการมาพบปะรวมตัวกันในห้องวิทย์ฯนี้ พี่นักเขียนเชื่อว่าเราคงจะตระหนักได้ว่า มันเป็นการเปล่าประโยชน์ที่เราจะนำหนังสือหรือข้อมูลที่เราแต่ละคนพกพามานั้น มาเปรียบเทียบหาความเหมือนและความแตกต่าง เพื่อจะตัดสินว่าของใครดีหรือถูกต้องกว่า ของใครเหมือนกันกับของใคร แต่ถ้าหากเรารู้จักชืนชมในความหลากหลาย ความแปลก ความแตกต่างเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องคิดว่า หากของเขาคล้ายของฉัน แต่มันแตกต่างไปบางส่วน ของเขาคือของไม่ดีและเป็นอันตราย แทนที่เราจะใช้เวลากับการแสวงหาความรู้เพื่อให้เกิดปัญญา เราคงจะหมดเวลาไปกับการโต้แย้งที่ไม่มีวันจบสิ้น

    พี่นักเขียนก้าวมาสู่ห้องวิทย์ฯด้วยความรู้สึกที่เสมือนว่า ได้เข้ามาอยู่ในห้อมล้อมของญาติมิตรพี่น้อง จะนั่งนอนตรงไหนก็สะดวกใจ เพราะห้อมล้อมไปด้วยผู้ที่มีเจตนาและวัตถุประสงค์ร่วมกันในทิศทางที่มีปรารถนาดีต่อกัน หากเราวางใจของเราไว้ในจุดนี้ได้ พี่นักเขียนเชื่อว่าการพบปะของเราจะเกิดประโยชน์ได้มากกว่าให้โทษ เพราะพี่นักเขียนเชื่อว่า ปัญญาเกิดได้ด้วยการสนทนา

    แม้ว่าเราแต่ละคนจะมีคำถามมากมาย เพราะหนังสือจาก back pack ของพี่ๆน้องๆแต่ละคนอาจเป็นข้อมูลความรู้ที่มีสาระแปลกแยกไปจากสาระที่เราได้ไปเผชิญมาจากดินแดนที่เราได้ประสพมา ความรู้ใดๆในโลกจะมีโทษหรือมีประโยชน์ ไม่ได้อยู่ที่ตัวข้อมูลความรู้นั้นๆ แต่อยู่ที่เจตนาของบุคคลผู้นำข้อมูลความรู้นั้นๆไปใช้ ตัวอย่างที่เราเห็นได้ง่ายที่สุดคือ พลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งให้คุณอย่างมหาศาลแก่โลกในการให้พลังงานแสงสว่าง ความร้อน ไฟฟ้า ฯลฯ แก่โลก แต่หากเจตนาของผู้ที่นำข้อมูลความรู้เกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์เป็นไปเพื่อการทำลายล้างหรือสงคราม ข้อมูลความรู้เดียวกันนี้ก็ให้โทษ? ในทางกลับกัน ข้อมูลความรู้ที่ดูเสมือนจะเป็นแง่ลบ หากผู้มีเจตนาดีนำไปใช้ในทางสร้างสรรค์ ก็อาจจะกลายเป็นสิ่งที่ให้คุณได้มหาศาล เช่น การนำเอาปลิงดูดเลือด ซึ่งมักจะเป็นอันตรายต่อผู้ที่ไปเล่นน้ำตามลำคลอง ไปใช้ในการแพทย์เพื่อช่วยดูดเลือดจากส่วนต่างๆของร่างกายผู้ป่วยที่มีอาการเลือดคั่ง ให้ทุเลาลงได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องใช้ยา เป็นต้น

    มันจึงเป็นการเปล่าประโยชน์ที่เราจะเสียเวลากับการพิสูจน์ข้อมูลความรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยการนำมันไปเปรียบเทียบกัน
    คุณค่าของข้อมูลความรู้ทั้งหลายจะเป็นประโยชน์ต่อเราได้ด้วยการศึกษาและทำความเข้าใจ เพื่อขยายความรู้และปัญญาของเราออกไป เพื่อครอบคลุมสาระจากดินแดนอื่นๆที่เรายังไปไม่ถึง และจะมีประโยชน์ที่สุดก็ต่อเมื่อเรานำมันไปใช้ด้วยเจตนาอันดีต่อผู้อื่นในทิศทางที่สร้างสรรค์

    หากเราตระหนักได้ว่าห้องวิทย์ฯแห่งนี้มีที่นั่งที่ไม่จำกัดจำนวน ไม่มีการลงทะเบียนตามลำดับ และขยายตัวต่อไปได้โดยปราศขีดจำกัด คำว่า-วงแตก-ย่อมปราศจากความหมาย เพราะวงแตกจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อวงกลมนั้นมีเส้นรอบวง-ความยาวของรัศมีและพื้นที่ภายในอันจำกัด ทำให้การบรรจุสิ่งต่างๆ เช่น บุคคลหรือข้อมูลความรู้ ต้องถูกเลือกประเภทเสียก่อนจึงจะนำมาบรรจุได้ เนื่องด้วยมีพื้นที่จำกัด ไม่อาจรับทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่่างเสมอเหมือนกัน นอกจากนั้นยังอาจจะต้องคัดเลือกลำดับความสำคัญอีกด้วย อะไรสำคัญก็รับมาบรรจุไว้ก่อน อะไรไม่สำคัญ แม้จะเป็นสิ่งที่เข้าประเภท ก็อาจจะถูกคัดออกในที่สุด

    พี่นักเขียนได้เล่าถึงความพิเศษของห้องวิทย์ฯให้เพื่อนฝูงและนักเรียนสมาธิทุกท่านฟัง พวกเขามานั่งอยู่หน้าจอและแปลให้พวกเขาฟังว่า เราสนทนาอะไรกัน พวกเขาเรียนรู้จากคำถามและคำตอบของพวกเรา และพวกเขาก็ตั้งคำถามและมีคำตอบเกิดขึ้นอีกมากมาย พวกเขาฝ้าดูพวกเราด้วยความอิจฉาบ่อยๆ หลายคนบอกกับพี่นักเขียนว่า I wish I were Thai or at least I can read Thai. เขาอยากจะเป็นหนึ่งในพวกเรา ที่สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับจิตวิญญาณได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องคำนึงถึงพื้นฐานทางการศึกษา สังคม ศาสนา ฯลฯ

    ห้องวิทย์ฯของเราเป็นสถานที่อันเป็นจินตภาพที่พิเศษที่สุดแห่งหนึ่งที่เราทั้งหลายจะหาได้ในโลก
    เรามีสมาชิกที่นับถือต่างศาสนา ต่างความเชื่อ ต่างอายุ เพศ วัย ต่างท้องที่ ต่างประเทศ เราไม่เคยตั้งคำถามกันว่า คุณเป็นใคร เรียนหนังสือจบชั้นไหน ทำงานอะไร มีพื้นฐานความรู้อย่างไร นับถือศาสนาอะไร และคุณมีความเชื่อหรือไม่เชื่อในสิ่งใด ใครแต่งกายเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม แล้วพิจารณาจากสิ่งเหล่านั้นเพื่อตัดสินว่า ใครดีกว่าใคร หรือใครคิือบุคคลที่พวกเราจะต้อนรับเข้าวงสนทนา

    ห้องวิทย์ของเราจึงเป็นสถานที่พบปะที่ก้าวข้ามข้อจำกัดทางกายภาพทั้งหมดไปโดยสิ้นเชิง แต่ความพิเศษอันนี้จะคงสภาพต่อไปได้ก็ต่อเมื่อ เราตระหนักได้ในความพิเศษและคุณค่าของมัน และรักษาสัมพันธภาพระหว่างพวกเราไว้ด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่บวกที่เรามีต่อกัน เพราะมันเป็นปัจจัยสร้างสรรค์และทำลายล้างได้พอๆกัน

    ห้องวิทย์ฯของเราปราศจากสัณฐาน เราจึงมีทั้งมนุษย์โลกปัจจุบัน มนุษย์ต่างดาว มนุษย์ใต้บาดาล มนุษย์จากอดีตและอนาคต ฯลฯ ความพิเศษสุดของห้องวิทย์ฯ เกิดขึ้นได้ก็เพราะพวกเราทุกคนที่อยู่ในที่นี้ พี่นักเขียนขอขอบคุณอีกครั้ง และจะขอบคุณอีกหลายๆครั้ง สำหรับบ้านตากอากาศทางจิตวิญญาณที่แสนพิเศษแห่งนี้ (rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2007
  15. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ยินดีครับคุณชยุต ยิ่งถามก็ยิ่งกระจ่างยิ่งเข้าใจ
    ผมกับคุณชยุตเข้าใจกันดีครับ นั่งอ่านไปยิ้มไปสบายใจครับ
    ผมออกทริปกับคุณชยุตก็บ่อย เห็นเป็นคนที่แสวงหาความรู้ อัทยาศัยดี จริงใจ และชอบซักถาม (แต่มีข้อสงสัยมากกว่าปกติ) เพราะว่าหลายๆความรู้หลายๆแห่งมักไม่เข้าล็อคเหมือนกันเสมอ อยู่ที่ว่าเรากำลังศึกษามองดูความรู้จากมุมไหนมากกว่า ยิ่งข้อมูลความรู้ของ"อาจารย์อนาลัย"มีหลากหลายมิติแบบนี้ ยิ่งต้องมองทะลุเข้าไปหลายชั้นหลายมุมตามไปด้วย ยุคสมัยนี้ที่วิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้า ความรู้ทางธรรมและความจริงจำเป็นต้องอธิบายยกขึ้นมาให้เท่าทันกับความรู้ในสมัยใหม่ด้วย..(Update ความรู้ให้เหมาะสมกับสนามแม่เหล็กโลกที่กำลังยกตัวสูงขึ้นในยุคพลังงานใหม่นี้ครับ) ศึกษาไปเถิดครับสงสัยอะไรจะได้ช่วยกันตอบ เอาให้กระจ่างไปพร้อมๆกันนี่ล่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2007
  16. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    (verygood) (bb-flower
     
  17. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ความเป็นจริงทางคณิตศาสตร์ กับ จิตวิญญาณ

    (f) ก่อนอื่น พี่นักเขียนขอต้อนรับคุณ Little Raccoon สู่ห้องวิทย์ฯค่ะ (bb-flower

    พี่นักเขียน-เป็นนักเขียนที่ทำหน้าที่ล่ามและเลขา โดยเขียนหนังสือชุด 10 เล่มให้กับท่านอาจารย์อนาลัย ผู้ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ผู้ปราศจากร่างกายเนื้อหนัง ที่มาเข้าฝันและถ่ายทอดข้อมูลความรู้ทั้งหมด ซึ่งพี่นักเขียนได้ถอดรหัสมาเป็นหนังสือ พี่นักเขียนมาสู่ห้องวิทย์ฯนี้เพราะถูกคุณ Mead หัวหน้าห้องชักชวนมา แล้วหาประตูทางออกไม่พบค่ะ เลยมาทำหน้าที่เลขาผู้ตอบคำถามให้ท่านอาจารย์นะคะ

    พี่นักเขียนก็ไม่เก่งเลขเสียด้วยซึ เป็นสถาปนิกที่ไม่ชอบคำนวณ ชอบแต่วาดรูปกับใช้จินตนาการ แต่ถ้าหากคุณ Little Raccoon หมายถึงคณิตศาสตร์ในนัยที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวถึงในหนังสือว่า เราไม่อาจใช้หลักการทางคณิตศาสตร์ได้กับจิตวิญญาณ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า ความเป็นจริงทางคณิตศาสตร์ไม่อาจครอบคลุมความเป็นจริงเกี่ยวกับจิตวิญญาณได้ พี่นักเขียนก็พอจะขยายความในส่วนนี้ได้
    ตามที่ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า :

    จิตวิญญาณหมายถึงข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพ ซึ่งถ่ายทอดได้ด้วยอารมณ์?-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด และ ไม่มีความรู้ใดสถิตย์อยู่นอกจิตวิญญาณ ซึ่งหมายความว่า ไม่ว่าเราจะเรียนรู้สิ่งใด หากมันคือความรู้ที่แท้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงความเชื่อ มันจะเป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณ เพราะ จิตวิญญาณคือความรู้ และ ความรู้คือจิตวิญญาณ

    หากคิดเป็นตัวเลขอุปมาอุปมัย อาจกล่าวได้ว่า ความรู้หนึ่งหน่วย + ความรู้อีกหนึ่งหน่วย ไม่เท่ากับ ความรู้สองหน่วย
    ดังคำกล่าวที่ว่า :
    The whole is greater than the sum of its parts.
    ผลรวมทั้งหมดมากมายกว่าผลบวกของส่วนย่อย

    เพราะความรู้ปราศจากปริมาตร ปราศจากปริมาณและหน่วยนับ เช่นเดียวกันก็กล่าวได้ว่า จิตวิญญาณปราศจากปริมาตร ปริมาณและหน่วยนับ

    เมื่อความรู้หนึ่งรวมกันกับอีกความรู้หนึ่ง บางส่วนของความรู้เดิมอาจคงสภาพอยู่เช่นเดิม และบางส่วนของมันก็แปลงสภาวะไปโดยสิ้นเชิง และหากความรู้ถูกถ่ายทอดจากจิตวิญญาณหนึ่งๆไปสู่อีกจิตวิญญาณหนึ่ง หรือจากบุคคลหนึ่งไปสู่อีกบุคคลหนึ่งคือกลุ่มหนึ่ง ความรู้ของบุคคลแรกผู้เป็นผู้ถ่ายทอดให้ก็ไม่ได้พร่องหรือลดลง แต่ผู้รับย่อมได้รับความรู้มากขึ้น ซึ่งความเป็นไปทั้งหมดเป็นสิ่งที่ทดแทนหรือคำนวณเป็นตัวเลขไม่ได้ ท่านอาจารย์อนาลัยจึงกล่าวว่า เราจะใช้หลักการทางคณิตศาสตร์ใดๆกับจิตวิญญาณไม่ได้

    ในนัยนี้ก็น่าจะกล่าวได้ว่า ความเป็นจริงทางคณิตศาสตร์ไม่สามารถครอบคลุมความเป็นจริงเกี่ยวกับจิตวิญญาณได้ (rose)
     
  18. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    อันนี้เอามาฝากคุณชยุต อาจลดข้อสงสัยลงได้บ้างไม่รู้ว่าเคยอ่านยังครับ?
    จากท่านอนุตรจารย์ชิงไห่ ก็อธิบายได้ชัดที่เดียวครับกับข้อสงสัยในศาสนาต่างๆ
    ตามไปอ่านเพิ่มเอาครับมีหลายหัวข้อ


    [​IMG]


    ความลี้ลับของโลกเหนือโลก


    ตลอดทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมามนุษยชาติได้รับการมาเยือนจากบุคคลผู้มีความประเสริฐอยู่เสมอ วัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียวของบุคคลเหล่านี้ก็คือการยกระดับจิตวิญญาณของมนุษย์ให้สูงขึ้นนั่นเองผู้มาเยือนเหล่านี้ ได้แก่ พระเยซูคริสต์ พระศายมุนีพุทธเจ้า และพระโมฮัมเหม็ด บุคคลทั้ง 3 นี้เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่พวกเรา แต่ก็ยังมีบุคคลอื่นๆ อีกจำนวนมากซึ่งเราไม่รู้จักชื่อ บางท่านก็เทศน์สอนในที่สาธารณะและมีผู้คนรู้จักบ้าง ในขณะที่บางคนแทบจะไม่มีผู้ใดรู้จักเลย ท่านเหล่านี้ได้รับการขนานนามแตกต่างกันไปตามยุคสมัย และในดินแดนต่างๆ กัน อาจจะมีผู้เรียกท่านว่า อาจารย์, ผู้อวตารลงมา,ผู้รู้แจ้ง,ผู้ช่วยให้รอด,พระเมสิอาห์,พระแม่ผู้ศักดิ์สิทธิ์, ผู้นำข่าวสาร, กูรู, นักบุญผู้มีชีวิต หรืออะไรทำนองนี้ ท่านเหล่านี้มาก็เพื่อนำสิ่งที่เรียกว่า การรู้แจ้งการช่วยให้รอดการตระหนักรู้การหลุดพ้น หรือการตื่นขึ้น มามอบให้แก่เรา คำพูดที่ใช้อาจจะแตกต่างกันแต่แก่นแท้ล้วนหมายถึงสิ่งเดียวกันทั้งสิ้น ปัจจุบันนี้ ผู้มาเยือนจากเบื้องบน ซึ่งมีความยิ่งใหญ่ทางจิตวิญญาณมีความบริสุทธิ์ทางศีลธรรม และมีพลังที่จะยกระดับมนุษยชาติเช่นเดียวกับผู้มาเยือนที่ศักดิ์สิทธิ์สูงส่งในอดีต ก็ได้มาอยู่กับพวกเราแล้ว


    วิธีไปถึงดินแดนแห่งพุทธะ
    หนทางสู่ปัญญาไม่มีที่สิ้นสุด

    <TABLE height=1 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="65%" colSpan=3 height=15>เรามักจะคิดกันว่า พระพุทธเจ้าเสียชีวิตไปแล้ว พระเยซูตายจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ไม่ใช่เช่นนั้น ทั้งพระเยซูและพระพุทธเจ้ายังคงมีชีวิตอยู่ เพียงแต่พระองค์อยู่ในสถานที่ที่ต่างไปได้มีการวิวัฒนาการไปตามเวลารวมทั้งหน้าที่การงาน และการเรียนรู้ของพระองค์เราไม่มีวันที่จะเรียนรู้ได้หมด อย่าคิดว่าหลังจากเราเป็นพุทธะหรือเป็นเหมือนพระคริสต์แล้วเราจะหยุดเรียนรู้ ไม่ใช่ ถ้าเป็นอย่างนั้นเราก็ตีบตันอยู่แค่นั้นหนทางแห่งปัญญานั้นไม่มีที่สิ้นสุด

    เพราะฉะนั้น เธอคงจำได้ว่าในคัมภีร์ไบเบิลพระเยซูได้ตรัสอะไรบางอย่างที่แปลกประหลาดไว้ ท่านกล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นมหัศจรรย์หรือความยิ่งใหญ่อะไรซึ่งเราทำไว้ในวันนี้ พวกท่านสามารถจะทำได้ดียิ่งกว่านี้อีกในวันข้างหน้า พระองค์พูดอย่างนั้นไม่ใช่หรือ? ใช่ ใช่! การพูดเช่นนี้แปลกไหม? เราจะทำได้ดีกว่าพระเยซูได้อย่างไร? ใครทราบบ้าง? กรุณายกมือขึ้น บางทีฉันอาจจะให้แอปเปิ้ลเป็นรางวัล ใช่ มีใครทราบบ้างว่าทำไมพระเยซูจึงตรัสอะไรแปลกๆ แบบนั้น? ทำไมพระองค์จึงกล่าวว่า เราสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าที่ท่านเคยทำมาแล้ว? ทำไม? ทำไมพระองค์จึงถ่อมตัวแบบนี้ ใช่ แต่ว่าทำไมจึงต้องยิ่งใหญ่กว่าพระเยซูด้วย? พระองค์ไม่ใช่เป็นบุตรคนเดียวของพระเจ้าดอกหรือ? (ผู้ฟัง: พวกเราก็เหมือนๆ กับพระองค์) แล้วทำไมเราจึงควรจะยิ่งใหญ่กว่าพระองค์ล่ะ? ท่านควรจะพูดว่า พวกเธอก็สามารถทำได้เหมือนๆ กับพระองค์ ทำไมพระองค์จึงกล่าวว่า : พวกเธออาจจะทำได้ดีกว่าตัวพระองค์อีก?

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="65%" colSpan=3 height=15></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="65%" colSpan=3 height=15>สิ่งที่พวกเธอพูดมานี้ถูกต้องหมด ทุกคนพูดถูกเฉพาะบางส่วนทีนี้ฉันจะเพิ่มเติมให้อีกบางส่วน ผู้ชายที่ตอบคนสุดท้ายนั้นพูดได้ถูกต้องกว่าคนอื่นๆ นิดหน่อย ยกตัวอย่างเช่น ในตอนที่เธอได้พบกับครูของเธอหรือที่เราเรียกว่าได้รับการประทับจิตนั้น เธอเพิ่งจะได้ลิ้มรสสวรรค์เพียงนิดหน่อยเท่านั้น เข้าใจไหม? เพียงแค่ส่วนเล็กน้อยจากพลังภายในตัวของเธอทั้งหมดเพราะฉะนั้นเธอก็จะยกย่องพระเยซู หรือคนที่เป็นครูของเธออย่างมาก เธอจะพูดว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2007
  19. TK the Naka

    TK the Naka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,190
    ถึงแม้พวกเราจะมาจากหลายๆที่ที่แตกต่างกันและไม่เคยรู้จักกันด้วยซ้ำไป
    เราก็เหมือนนักเรียนแลกเปลี่ยนจากต่างแดนที่มาเข้าแคมป์ในบ้านจิตวิทยาศาสตร์แห่งนี้ พวกเราก็ได้พักอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน บ้านที่มีความรู้จากที่ต่างถิ่นมากมาย พวกเรานำความรู้มาแลกเปลี่ยนกันจากที่ที่ตนเองได้ไปพบประสบมาก่อนที่จะมาที่บ้านวิทย์หลังนี้ เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างในบางบทเรียนตามประสา แต่รู้สึกผูกพันและคุ้นเคย สนุกสนานและมีความสุขทุกครั้งเมื่อได้คุยกับพี่ๆและได้อ่านบทความของพี่นักเขียน รู้สึกมีความสุขเหมือนที่บาดาลไม่มีผิดเลย
    ได้เจอพี่มีด เป็นหัวหน้าห้อง ได้พบผู้มีความรู้อย่าง พี่นักเขียน ผู้เชี่ยวชาญ
    เจอพี่ขจรวรรณ พี่จิตต์ผู้บุญจัดสรร พี่นกleogirl พี่เฉลย พี่เมาท์ พี่ชยุทธ ดีเจแอกซอน และท่านผู้มีความรู้อื่นๆ มีพี่ซิปเปอร์เป็นผู้ดูแลบ้าน

    วันหนึ่งเราก็คงต้องจากบ้านวิทย์ไปยังที่ที่พวกเราจากมา แต่ความทรงจำในบ้านวิทย์ก็จะเป็นความทรงจำที่มีค่ามากของผมเสมอ

    ดังนั้นผมจึงรับฟังข้อติเตียนและความรู้จากพี่ๆได้ทุกๆเรื่องเสมอ เพราะผมเองก็ตั้งใจจะมาหาความรู้จากพี่ๆด้วยเหมือนกัน

    ขอกล่าวอรุณสวัสดิ์ทุกคนครับ และ ขอกล่าวราตรีสวัสดิ์ล่วงหน้าต่อพี่นักเขียน

    ปล.พี่มีดวันนี้ขออาหารคาวมั่งนะครับ

    เคารพทุกท่าน

    TK
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2007
  20. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441

    (bb-flower(bb-flower(bb-flower

    ขอบคุณพี่นักเขียนเช่นกันครับ ที่ทำให้บ้านพักหลังนี้ชุ่มชื่นสดใสเป็นพิเศษ
    เห็นนักเรียนสมาธิของพี่เค้าอยากอ่านภาษาไทยกัน ด้วย น่าปลื้มใจจริงๆครับ
    ให้เค้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นภาษาอังกฤษบ้างก็ได้ครับ..
    เราจะได้แลกเปลื่ยนความรู้กันแบบไม่มีขอบเขตครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2007

แชร์หน้านี้

Loading...