เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ฟอกแมน ตอนนี้ย้ายกลับมาเมืองไทย กำลังปรับตัวกับที่ทำงานใหม่ครับ ต้องขยันหน่อยเดี๋ยวถูกเพ่งเล็ง
พูดถึง น้องมายด์ ตอนนี้คงอ่านหนังสือหัวฟูอยู่ เดี่ยวเข้ามาแน่ครับพูดถึงแบบนี้
ช่วงนี้ไม่มีตับให้กินแล้วคับ (ลืมเอามาจากบ้าน)
ไปกินตับท่านที่เข้ามาอ่านแล้วกัน เลือกเอา..อิอิอิ

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 6 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ]​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>mead, Electrik_dream, khajornwan, leogirlw99, punnapa, บ้านไม้... zipper*</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

กว่าจะเลิกเรียนตั้ง4โมงเย็นแน่ะ สงสัยนกคงไม่ต้องแอบแล้วล่ะ จะนั่งหลับในแบบตาเปิดล่ะ 555 คร่อก..ฟี้ จะทำไงให้ไม่ง่วงได้ล่ะเนี้ย เจอเรื่องวิชาการทีไร เป็นอันว่าง่วงนอนทุกที ถ้าได้ฟังเพลงคงจะตาสว่างเลยนะเนี่ย

 

อยากจะเล่าประสบการณ์ส่วนตัวที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย แม้กระทั่งเพื่อนสนิท.. เพราะถ้าเล่าให้ฟังเค้าฟังไม่ถึงครึ่งทางก็จะโดนเบรกทันทีว่าเธอจะเลือกปฏิบัติสายไหนก็เอาสักอย่างเถอะ แต่เค้าก็ไม่รู้หรอกว่าเวลาที่เค้ามีปัญหามาปรึกษาเราเกี่ยวกับชีวิตของเค้าเราก็ได้หยิบความรู้ของอาจารย์หลาย ๆ ท่านมาพูดคุยและมักจะได้รับคำตอบว่าเป็นคำตอบที่ตรงประเด็นกับปัญหาของเค้าพอดีเลย..

โดยส่วนตัวแล้วขจรวรรณถือว่าเป็นคนที่ใช้อาจารย์ทางจิตวิญญาณเปลืองที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่เราก็ให้ความเคารพนับถือท่านเหล่านั้นเสมอมาไม่เคยลืมเพราะความรู้ของท่านก็เปรียบเสมือนพื้นฐานความรู้ทางจิตวิญญาณของเรา เหมือนกับเราเรียนหนังสือตั้งแต่เรียนอนุบาลจนจบปริญญาตรีมานั้น เราก็นับจำนวนอาจารย์แทบจะไม่หวาดไม่ไหวว่าเรียนกับใครมาบ้าง

เมื่อครั้งยังเด็กมีโอกาสได้สัมผัสกับพระในแนวสายวัดป่าคือ ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติปฏิบัติธรรม ใช้ชีวิตอยู่อย่างสมถะ กินอยู่อย่างง่าย ๆ และมีเพื่อนบางคนชอบที่จะฝึกโดยวิธีนี้ และมักจะมาชวนให้เราไปหาพระเกจิดัง ๆ ในป่าต่าง ๆ ทางภาคอีสานอยู่บ่อย ๆ แต่เนื่องจากตัวเรายังมีภาระหน้าที่การงานต้องทำอยู่ ไม่ค่อยมีเวลาพอ โดยเฉพาะทำงานอยู่ในสถานที่ปัจจุบันนั้นแทบจะไม่มีวันหยุดแม้แต่วันเสาร - อาทิตย์ ก็จะต้องทำงานด้วยจะไม่สามารถจะศึกษาธรรมะในสายนี้ได้ และก็เข้าใจแนวความคิดของคุณกังขา ณ ปลาย เช่นกันเพราะความรู้สึกนี้ก็คล้าย ๆ เพื่อนของเราเอง

เมื่อศึกษาธรรมะและปฏิบัติในแนวสติปัฏฐาน 4 ก็สัมผัสกับอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด และรับรู้ว่าตัวเรามีอยู่ 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นกายหยาบและส่วนที่เป็นพลังงานมีความรู้สึก นึกคิด มีอารมณ์ และเมื่อเกิดอารมณ์ขึ้นแล้วก็จะทำให้กายของเรามีปฏิกิริยาตามอารมณ์ที่มันเกิดขึ้น ในขณะนั้นด้วยความที่ชอบไปเดินในร้านหนังสือก็เจอหนังสือของ อ.ปริญญา ชื่อหนังสือ " คนสองมิติ " ความรู้สึกในขณะนั้นอยากจะอ่านมาก แต่พอหยิบขึ้นมาอ่านแล้วปรากฏว่าเราอ่านไม่เข้าใจเลยจึงวางหนังสือไว้ที่เดิม

เวลาผ่านไป เมื่ออาจารย์ที่สอบอารมณ์ได้เสียชีวิตไป ก็มีอาจารย์โหราศาสตร์ท่านนึงซึ่งก่อนหน้านั้นท่านก็ชวนเชิญให้เราไปเรียนโหราศาสตร์แต่ก็ไม่เคยไปเรียนด้วย ซึ่งอาจารย์ท่านนี้ท่านเรียนรู้มาหลายวิชามาก จริง ๆ แล้ว ท่านเป็นนักธุรกิจ แต่ด้วยความที่ท่านชอบแนวนี้จึงไปเรียนมาบอกว่าเผื่อจะช่วยเหลือผู้อื่นได้ จนวันหนึ่งอาจารย์ก็พูดถึงวิชาพลังจักรวาลแต่ไม่ได้คุยรายละเอียดอะไร ก็เกิดอยากจะเรียนวิชานี้ขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าเค้าเรียนเกี่ยวกับอะไร เพื่ออะไร รู้แต่เพียงว่าเราอยากจะฝึกจิต จนได้ไปเรียนในปี 2546 ในระดับแรก ๆ ก็เรียนแต่เรื่องการรักษาโรค พอระดับสูงก็เริ่มเข้าบทเรียนเกี่ยวกับจิตวิญญาณ ซึ่งก็คิดว่าตรงกับที่เราต้องการแล้ว และอาจารย์ให้เหตุผลว่าที่ให้เรียนเกี่ยวกับการรักษาโรคนั้นก็เพื่อให้จิตของเรามีความเมตตา ปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นจากความเจ็บป่วยโดยใช้ความสามารถทางจิตวิญญาณที่รักและปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นจากความทุกข์นั่นเอง

ในขณะที่เรียนพลังจักรวาลอยู่นั้นในปี 2546 ก็เกิดเหตุการณ์ซึนามิที่จังหวัดภูเก็ต ก็ได้เดินไปร้านหนังสือที่ จ.อยุธยา พอเดินเข้าไปในร้านสิ่งแรกที่สดุดตาตัวเองก็คือหนังสือ รหัส 11:11 วันหายนะโลก ของ อ.ปริญญา พอดี ก็หยิบขึ้นมาดูเห็นมีขยายความเกี่ยวกับพุทธทำนายก็สนใจ แต่ก็ยังวางไว้เหมือนเดิมแล้วก็เดินเข้าไปดูในร้านทั้งร้านปรากฏว่าหนังสือของ อ.ปริญญา มีอยู่เล่มเดียวที่วางอยู่ข้างหน้าจึงตัดสินใจซื้อมาอ่าน พออ่านแล้วเรารู้สึกว่าอ่านแล้วรู้เรื่องไม่เหมือนเมื่อก่อน ( พึ่งมาทราบที่หลังว่าจักระของเราเปิดแล้วจะทำให้สามารถอ่านหนังสือหรือรับข้อมูลความรู้จากเบื้องบนที่ส่งมาให้ได้ ซึ่งตรงกับที่อาจารย์กล่าวว่ามิติของเราเปิดแล้วจึงสามารถรับพลังจากพระบิดาเพื่อรักษาตัวเองได้ ) หลังจากนั้นก็ไปที่โรงพิมพ์จิตจักรวาลเพื่อหาซื้อหนังสือที่ไม่สามารถหาได้ในร้านหนังสือทั่วไปได้และเริ่มตั้งหน้าตั้งตาอ่านจนครบ 17 เล่มที่ในขณะนั้น อ.ท่านได้เขียนไว้ แต่ก็ยังไม่เคยไปฟังบรรยายเพราะเราไม่ต้องการที่จะไปเพราะถูกโน้มน้าว หรือไปเพราะว่างมงาย ซึ่งก็ใช้เวลาเป็นปีกว่าจะไปฟังบรรยายของท่านได้ เมื่อไปฟังก็ไม่ได้ฟังปล่าวได้ถามคำถามกับอาจารย์อยู่เสมอจนพี่ ๆ ที่เค้าไปกันอยู่บ่อย ๆ เค้าบอกว่าน้องนี่เหมือนทาซานเลยนะ มาถึงก็ใส่ ๆ คำถามกับอาจารย์จนอาจารย์ตั้งตัวไม่ติดแล้ว ก่อนหน้านี้ได้เข้าเรียนกับวิชาพลังจักรวาลในระดับจิตวิญญาณพอเข้าไปอาจารย์ก็บอกว่าให้เราตั้งคำถามกับอาจารย์ว่าจะถามอะไรแต่ไม่ต้องถามออกมาเป็นคำพูด ให้เขียนลงในกระดาษปล่าวก่อนและดูว่าสิ่งที่เราถามนั้นอาจารย์จะตอบมาหรือปล่าว แล้วอาจารย์ก็พูด ๆ ไป ปรากฏว่าอาจารย์ตอบคำถามของเราว่าอาจารย์ของเราไม่ได้มีคนเดียว ทุก ๆ คน ทุก ๆ ชีวิต ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเราเป็นอาจารย์ของเราทั้งหมด

เอ่อ.. ขอจบแค่นี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวจะกลับมาเล่าให้ฟังใหม่ พอดีต้องไปทำงานก่อนน่ะค่ะ..

 

พี่ขจรวรรณจ๋า วันอาทิตย์แล้วยังทำงานอีกเหรอ หาเวลาพักผ่อนเยอะๆนะ
นกจะนั่ง(หลับ)เป็นเพื่อน ตะกี้ก็หลับไปแล้วงีบนึง เคลิ้มๆแต่ยังได้ยินเสียงอาจารย์สอนอยู่ หาววววว

 

ไปนั่งสมาธิ และนอนสมาธิต่อ ประมาณ ชั่วโมงหนึ่งไม่หลับหรอก สดชื่นจังคงอย่างที่คุณ mead บอก
และสนามแม่เหล็กโลกที่ว่าปรับตัวขึ้นๆลงๆ เนี่ยเป็นยังไงครับ? ที่รู้ตอนนี้คือขั้วแม่เหล็กโลกกำลังเปลี่ยนองศาหันเข้าหาดวงอาทิตย์ ซึ่งมีผลให้น้ำแข็งขั้วโลกกำลังละลาย ต่อไปชายทะเลบ้านเราจะอยู่แถวนครสวรรค์ บ้านผมอยู่กำแพงเพชร คงขับรถมาเที่ยวทะเลแป็บเดียว แต่ว่า...จะมีชีวิตอยู่ถึงตอนนั้นหรือเปล่าน๊า..

 

เรียนท่านอาจารย์โนวา อนาลัย

ผมได้ติดตามอ่านหนังสือในชุดของท่าน แต่ยังอ่านได้ไม่หมดทุกเล่ม ผมเข้ามาอ่านเนื้อหาต่างๆใน Website นี้อย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ค่อยได้ตอบหรือตั้งคำถามใดๆ แต่ครั้งนี้มีคำถามที่อยากจะเรียนถามเพื่อคลายความสงสัยดังนี้

คำถามเกี่ยวกับความเป็นจริงทางคณิตศาสตร์

จากเรื่องอื่นๆซึ่งเป็นความเชื่อดั้งเดิมนั้น เช่นนรก, สวรรค์, กรรม หรือความเชื่ออื่นๆทางศาสนาซึ่งอาจมีการตีความหมายคลาดเคลื่อนจนทำให้เกิดความเชื่อผิดๆต่างๆกัน หรือความเชื่อทางวิทยาศาสตร์ เช่น กฎเกณฑ์ทางฟิสิกส์หรือกฎเกณฑ์ทางชีววิทยา ซึ่งก่อให้เกิดความเชื่อซึ่งปิดกั้นความรู้ที่แท้จริงนั้น เมื่อได้อ่านหนังสือในชุดของท่านโนวา อนาลัยแล้วนั้น ผมไม่มีความสงสัยที่จะเปลี่ยนความเชื่อไปในทิศทางอื่นๆซึ่งท่านอาจารย์ได้กล่าวไว้ในหนังสือแล้ว เนื่องจากผมได้ตระนักถึงขอบเขตของความรู้เหล่านั้นเช่น ความรู้ทางภาษาในการตีความพระคัมภีร์ หรือความรู้ที่ได้มาในทางวิทยาศาสตร์ตามขอบเขตของการทดลองและการวัดซึ่งอาศัยเพียงประสาทสัมผ้สทั้ง 5 ในการระบุความเป็นจริง ขอบเขตของความรู้เหล่านั้นในความเชื่อของผมจึงเป็นเพียงภาษาที่ถ่ายทอดกันมาซึ่งอาจมีการปรุงแต่งขยายความ, ลดทอน หรือเป็นเพียงความจริงตามประสาทสัมผัสเท่านั้น จึงอาจคลาดเคลื่อน หรือไม่ครอบคลุมความเป็นจริงทั้งหมดได้

แต่มีความเป็นจริงอย่างหนึ่งซึ่งเป็นคำถามวนเวียนตลอดการอ่าน และเป็นคำถามที่ผมสงสัยมานานแล้วได้แก่ ความเป็นจริงทางคณิตศาสตร์ ในความคิดของผมมีความเชื่อว่าความเป็นจริงทางคณิตศาสตร์เป็นสิ่งเดียวที่ไม่สั่นคลอน มีความมั่นคงแข็งแรงที่สุดในบรรดาความรู้ทั้งหมดที่มนุษย์มีในปัจจุบัน ความรู้ทางฟิสิกส์หรือกฎเกณฑ์ทางฟิสิกส์นั้นอาจไม่มั่นคงทั่วทั้งจักรวารหรือเอกภพนี้
เราไม่สามารถบอกได้ว่าในมิติอื่นๆจะยังมีหลักเกณฑ์ทางฟิสิกส์เดียวกันหรือไม่เนื่องจากเราไม่มีหลักฐานใดๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับมิติของเรา หรือแม้แต่ในมิติซึ่งเราสามารถสัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสของเราก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่ากฎเกณฑ์ทางฟิสิกส์จะยังคงเดิมหรือไม่ เช่นในเรื่องของหลุมดำเป็นต้น หรือกฎเกณฑ์ทางชีววิทยาหรือวิชาอื่นๆซึ่งมีขอบเขตที่แคบกว่ากฎเกณฑ์ทาง
ฟิสิกส์ยิ่งไม่สามารถบอกได้เลยว่า ในสถานที่อื่นๆในเวลาอื่นๆจะมีกฎเกณฑ์ทางชีววิทยาเดียวกันหรือไม่ ซึ่งแตกต่างจากคณิตศาสตร์ซึ่งดูเหมือนว่าไม่ว่า ณ.สถานที่ใดๆ หรือเวลาใดๆ กฎเกณฑ์ทางคณิตศาสตร์ก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง คล้ายกับว่า เมื่อแรกเริ่มที่จิตกำเกิดขึ้น หรือแรกเริ่มที่กำเนิด"สิ่งรู้" (ผมหมายความถึงอะไรก็ได้ซึ่งกำเนิดขึ้นพร้อมความรับรู้ได้) ดูเหมือนว่าคณิตศาสตร์จะกำเนิดขึ้นพร้อมกัน และดำเนินไปเป็นจริงอย่างไม่มีเสื่อมคลาย

ผมพยายามอธิบายความเชื่อของผมซึ่งมีต่อคณิตศาสตร์ซึ่งอาจสับสนบ้าง แต่ในความหมายคือ ผมพยายามจะจินตนาการถึงขอบเขตของคณิตศาสตร์ซึ่งทำให้หลักเกณฑ์ทางคณิตศาสตร์ไม่เป็นจริง แต่ไม่ว่าผมจะจินตนาการอย่างไร ก็ไม่สามารถหาขอบเขตนั้นได้ หรือยิ่งจินตนาการก็ยิ่งพบแต่ความเป็นจริงทางคณิตศาสตร์ซึ่งตอกย้ำความมั่นคงของหลักเกณฑ์ทางคณิตศาสตร์ยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งนั่นก็เป็นการตอกย้ำความเชื่อของผมซึ่งมีต่อคณิตศาสตร์ให้มั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้นไปอีกเช่นกัน แม้หลักเกณฑ์ทางฟิสิกส์ยุคเก่าของนิวตั้นถูกทำลายลงด้วยการค้นพบทางฟิสิกส์ใหม่ของไอน์สไตน์ แต่แคลคูลัสของนิวตัน ยังคงความเป็นจริงทางคณิตศาสตร์ไม่เปลี่ยนแปลง และเนื่องจากความมั่นคงของคณิตศาสตร์ ในฟิสิกส์ยุคใหม่จึงอาศัยคณิตศาสตร์ในการอธิบายและค้นหาหลักเกณฑ์ต่างๆแทนการทดลองซึ่งอาศัยเพียงประสาทสัมผัส

ผมจึงมีความสงสัยและอยากถามท่านอาจารย์เกี่ยวกับความเป็นจริงทางคณิตศาสตร์ว่าเป็นจริงในทุกที่ทุกมิติทุกกาลเวลาหรือไม่ ในที่นี้คงไม่รวมถึงที่ที่ไม่มีสถานที่-ระยะทางและกาลเวลา แต่หากจะรวมถึงที่ซึ่งไม่มีสถานที่-ระยะทางและเวลาด้วยแล้ว หลักเกณฑ์ทางคณิตศาสตร์จะยังคงใช้ได้หรือเป็นอย่างไรครับ และความเป็นจริงทางคณิตศาสตร์เป็นสิ่งที่ "จิต" สร้างขึ้น หรือเป็นความเป็นจริงที่มีอยู่แล้ว เป็นธรรมชาติ เป็นอยู่เองไม่ว่าจะอยู่ในสถาวะใดๆก็ตาม

ขอบคุณครับ

 

ยินดีต้อนรับคุณLittle Raccoonค่ะ
เข้ามาเรียนรู้ร่วมกัน ดึกๆพี่นักเขียนคงมาตอบคำถามให้ค่ะ
ดูคุณLittle Raccoonจะมีความรู้ความสนใจในเรื่องคณิตศาสตร์มากๆ
นกเจอคำนี้ทีไร ปวดหัวทุกที อิอิ

 

(ping) อ่านคำตอบของพี่นักเขียนต่อคำถามที่คุณ ชยุตถามแล้วมันทำผมรู้สึกว่าหนังสือชุดนี้ของท่าน โนวาอนาลัย มีคำตอบอยู่ก่อนที่เราจะถามอีกเพียงแต่ยังอ่านไม่ถึงหรือตีความไม่เหมือนกันโดยใช้ความเชื่อเดิมของแต่ละคนที่ต่างกัน แต่เมื่อผมอ่านเล่มแรกผมคิดว่ามันเป็นความรู้ที่บอกถึงธาตุแท้ของจิตวิญญาณ คิดไม่ผิดครับที่ซื้อทั้งชุดมาอ่าน ค่อยๆอ่านไปช้าๆแต่มั่นใจว่าถูกทางดูพี่นักเขียนตอบคำถามพี่ๆทางจิตวิญญาณที่ถามทุกวันมีประโยชน์มากครับขอบคุณมากครับ

 

แสดงว่าไม่ได้กินชาเขียวที่ให้ไป ระวังอาจารย์เอาช็อคขว้างใส่ปากล่ะ จะแนะวิธีหลับให้ คือให้หลับตาทีละข้าง อย่าหลับทีเดียวสองข้าง ลองดูซิเผื่อเป็นคนแรกที่หลับได้

 

พี่ประสงค์ค่ะ ส่งการบ้านยังเอ่ย อิอิ แซวเฉยๆนะ

 

วันไหนมาเรียนไม่ได้ชงมากินด้วยอ่ะพี่เฉลย
เรียนในห้องคอมไม่มีชอล์กไม่กลัวหรอก หึหึ
แต่ให้หลับตาทีละข้างอ่ะ ลองแล้วไม่ได้ ทำไมทำมาจะกลายเป็นตากลิ้งจนเหลือกเลย
เฮ้อ ใกล้4โมงล่ะ ใกล้จะหายง่วงล่ะ คิดอยู่จะไปพาต้าดีหรือจะกลับไปนอนที่บ้านดี งึมๆ ใช้ความคิด

 

ช่วงนี้พวกเรามีคำถามที่น่าสนใจทั้งนั้นเลยครับ..
ยินดีต้อนรับคุณ Little Raccoon เป็นคำถามที่ดีครับ เรื่องความเป็นจริงทางคณิตศาสตร์ นิ้วมือของเราอาจไขความลับบางอย่างได้ครับ ธรรมชาติให้นิ้วมือเรามา 10 นิ้ว (เป็นเลขฐาน 10) ส่วนเลขศาสตร์ของจักรวาลที่รู้มาเป็นเลขฐาน 12 (กรณีที่มนุษย์ต่างดาวบางกลุ่มมี 3 นิ้ว จะใช้เลขฐาน 12คำนวณ) เลขฐาน 12 จะเพิ่มมิติและเข้าถึงศาสตร์พิเศษได้ละเอียดกว่ารึเปล่า? อันนี้น่าสนใจเหมือนกันครับกับความเป็นไปได้อันหลากหลาย
แค่การนับเลขถอยหลังเพื่ออะไรก็แล้วแต่ [10-9-8-7-6-5-4-3-2-1-0] ในมิติของเรายังสั่นสะเทือนจิตใจเราได้มากทีเดียวครับ

 

อิอิ พี่meadผู้รู้จริงเรื่องมนุษย์ต่างดาว นกเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเค้ามีกัน3นิ้วอ่ะ งึมๆ

 

สดชื่นแล้วนะครับพี่เฉลย
เรื่องนั้นคือว่า..โลกจะปรับสมดุลอย่างที่พี่เฉลยรู้น่ะครับ..เพราะบอบช้ำจากจิตสำนึกมนุษย์บนโลกมามากแล้ว โลกถึงเวลาย้ายไปสู่พิกัดใหม่ ระหว่างการปรับเปลื่ยนสภาวะไปเป็นระบบใหม่นั้น ธรรมชาติก็จะปั่นป่วนรุนแรงสนามแม่เหล็กโลกก็ขยับไปอีก 2-3 องศาจากแกนกลาง เพื่อย้ายความเข้มสนามแม่เหล็กโลกมาทางตะวันออกเฉียงใต้นี่ล่ะ จึงกระเพื่อมขึ้นๆลงๆไม่สม่ำเสมอ เพื่อปรับตัวให้เกิดสมดุลมากขึ้น และช่วยให้มนุษย์ทางซีกโลกนี้ได้เฉลียวฉลาดขึ้น..อีกหน่อยน้ำทะเลมาถึงแน่ครับ ผมอยู่อุทัยฯ มีเพื่อนๆในเวปก็เตรียมการกันอยู่แถวนี้เหมือนกันครับ (คงเหมือนผังมังกรยุค 8 ตามอ้วงจุ้ยที่ว่าเอเชียจะรุ่งเรืองขึ้นมาแทนที่ซีกตะวันตก เช่น จีน เวียดนาม ไทย ตามลำดับครับ)

 

ยินดีต้อนรับคุณ L. Raccoon เข้าสู่ห้องวิทย์ ที่มีทั้ง gas ทั้งหุ่น ทั้งควัน ฯตอนนี้มีตัวเลข เพิ่มมาอีก ว้าว อบอุ่นๆ
คำถามคุณ L. Raccoon น่าสนใจฮะ ผมเรียนเคมีก็รู้ว่าในมิติอื่น เค้าไม่ได้มีพื้นฐานโครงสร้างทางกายภาพไม่เหมือนเรา เรามี คาร์บอนเป็นโครงสร้าง ในมิติอื่นมีธาตุอื่นที่ไม่เหมือนเรา
เอ..แล้วมิติอื่น เค้า 1+1 เป็น 2 เหมือนเรารึเปล่านะสนใจๆ เดี๋ยวอาจารย์คงตอบให้เราได้อิ่มความรู้อีกแล้ว

 

ชงชามาให้แก้ง่วง..
ถ้าไม่ไหวก็เอาไม้ถ่างตาไว้ครับ อิอิ

 

หิวจังครับ ทีหลังเอาพวกของหวานด้วยนะ พี่ mead

ตอนนี้กำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบแอดฯนะครับเลยไม่ค่อยว่างเข้ามาดูพี่ๆคุยกัน
ยังไงก็ขอกำลังใจจากท่านพี่ๆด้วยละกัน บายครับ
คิดถึงมาก...


TK the Naka

 

เรียนถาม อาจารย์ อนาลัย
มีหนังสืออยู่ชุดนี้อยู่ประมาณ 5 เล่ม ได้ศึกษาพร้อมทำแบบฝึกฝนบ้าง ได้ผลลัพธ์ ทีช่วยให้คำอธิบายในเนื้อหาเด่นชัดขึ้น มีปัญหาคือ ความกลัว เพราะบางครั้งทำให้ได้ยินเสียงที่คนอื่นไม่ได้ยิน แต่สัตว์กลับรับรู้ได้ ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่อธิบายไม่ได้ อยากทราบว่า สิ่งที่กำลังศึกษาอยุ่นี่ คือพุทธ ในนิกาย มหายานใช่หรือไม่ เพราะ จุดมุ่งหมาย หรือแนวทางเหมือนกัน แม้จะต่างในวิธีฝึกฝนไปบ้างก็ตาม

 

หวานพอมั๊ยครับ หิวเหมือนกัน อิอิ
ตั้งใจสอบนะครับน้องนาคา ช่วงนี้หลายคนสอบกันเยอะ
ว่างๆก็มาทักทายกันครับ

 

ว้าว ชาของพี่meadน่ากินจังแต่ว่านกขอน้ำแข็งด้วยได้ม่ะ แบบว่าไม่ชอบของร้อนจ้า ชอบเย็นๆ อิอิ
ตอนนี้กลับมาถึงบ้านเรียบร้อยล่ะ ตอนแรกว่าจะไปซื้อแผ่นcdที่พาต้าซะหน่อย พอดีอาจารย์ปล่อยเร็ว แล้วเพื่อนก็นั่งTAXIกลับผ่านทางบ้านนกพอดี ฝนก็จะตกแล้วด้วย เป็นอันว่ากลับมาบ้านดีกว่า แว้บเข้ามาก่อนแป๊บนึง อากาศดูร่มๆดีว่าจะไปนั่งเช็ดโต๊ะหมู่บูชาซะหน่อย ว่าจะทำตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พอดีเมื่อวานแงะคอมออกมาเช็ดซะก่อนมัวแต่ย้ายนู่นจัดนี่เลยยาวเลย
เมื่อคืนฝันถึงน้องกุมารที่ศาลหน้าบ้านอีกแล้ว ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกรักและผูกพันมาก กุมารหน้าตาน่ารักมากๆเลย นกก็บอกว่าพรุ่งนี้พี่จะไปห้างนะอยากได้อะไรไหม กุมารก็บอกว่าอยากได้...............แงๆจำไม่ได้อ่ะ เหมือนจะเป็นของกิน ของเล่น คืนนี้เลยบอกว่าให้มาบอกใหม่ล่ะกันนะพี่จำไม่ได้แล้ว

คุณTK the Nakaเตรียมตัวสอบเอ็นท์หรือเปล่าค่ะ ถ้ายังไงก็สู้ๆนะผ่านฉลุย ^_^

พี่meadเห็นเค้กแล้วน้ำลายไหล อยากเพิ่มน้ำหนัก หึหึ