เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ความจริงเรื่องโหราศาสตร์เนี่ยผมก็เคยมาเรียนรวมทั้งฮวงจุ้ยด้วย ถึงขนาดไปอบรมกับเขาเหมือนกัน แต่พอมาศึกษาของอาจารย์อนาลัยแล้วตอนนี้ตำราต่างๆฝุ่นเกาะแล้ว ซึ่งเรื่องนี้มีคำกล่าวของอาจารย์ท่านหนึ่งที่เป็นอาจารย์ผมทางด้านนี้กล่าวไว้ว่า
ฟ้าประทาน ดินบันดาล ประสานบุคคล
ฟ้าประทาน ก็คือกรรม(ความเชื่อ)ที่เราเคยทำไว้ในอดีตชาติ แล้วส่งผลให้มาเกิดในเวลาที่ตัวเองได้ทำไว้คือตามดวงดาวที่โคจรในขณะนั้น
ดินบันดาล ก็คือทำเลหรือสิ่งแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่ซึ่งมีผลต่อความเป็นอยู่ของเรา
ประสานบุคคลก็คือความประพฤติปฏิบัติ ไปในทางที่ตนเองเชื่อ ซึ่งถ้าดวงตัวเองไม่ดี หรืออยู่ในกลุ่มคนไม่ดี แต่ตัวเองปฏิบัติดีก็สามารถฝืนดวงชะตาได้
ซึ่งโหราศาสตร์นี่ก็เหมาะสำหรับกับบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้ศึกษาทางด้านจิตวิญญาณอย่างเรา และศาสตร์ต่างๆเมื่อสรุปรวบยอดแล้วก็ เกิดจากความเชื่อนั่นเอง
จิตวิญญาณจดจ่ออยู่กับภาวะใด จิตวิญญาณมีชีวิตอยู่ ดำเนินไปเป็นภาวะนั้นๆ

 

พี่เฉลย ทำการบ้านปรับสายตา 21 วัน ผมขอเอาใจช่วยครับ
ขนาดใส่แว่นนี่ผมยังตาลายเลยโดนน้องนกทักถึงได้รู้ อิอิ
รายงานผลการทดลองด้วยนะครับ ได้ผลดีแล้วจะถอดแว่นดูบ้างครับ

"ฟ้าประทาน ดินบันดาล ประสานบุคคล"
พี่เฉลยถอดรหัสความเชื่อวิชาโหราศาสตร์ออกมาได้แล้ว
ดีครับ ศึกษาไว้แล้วเอามาใช้อย่างเข้าใจน่าจะเป็นผลดีกว่า

ส่วนคุณแก้วทิพย์ พวกเราลองส่งโทรจิตตามกันดูครับ คงงานเยอะมาก
พรุ่งนี้ผมอาจจะต้องไปเพชรบูรณ์ ถ้าจะไม่อยู่วันนึงครับ

 

นึกว่าอุ้มโจรสลัดมาหมดแล้วซะอีก สงสัยจะไปๆมาๆระหว่างพี่นักเขียนกับคุณ Mead นี่แหละ ร้องเพลง Elvis มาแลกเรื่อยๆแล้วกันนะคะ พี่นักเขียนจะได้ไปรวม Album ออกวางตลาด US ซะเลย (555)

 

ตอนนี้งานที่ทำรู้สึกว่ามันสับสนและยากแฮะ
มาคิดว่าจะคิดว่ายากไม่ได้ ต้องคิดว่าทำได้ และจะลองจินตนาการถึงเหตุการณ์ตอนที่ทำได้

โดยส่วนตัวและจะนึกว่ายากไว้ก่อนซะด้วย พอนึกอย่างงั้นแล้ว งานที่จะทำมันก็จะดูยาก ดูมึนไปหมด

ต่อไปจะลองคิดว่าทำได้ๆๆๆ ลองนึกว่า มันก็ทำแค่นี้เองก็ได้แล้ว

ความเชื่อที่ว่าเราจะทำได้ จะสร้างเหตุที่ทำให้ทำได้

วันนี้ตอนกลับบ้านนั่งฟังเพลงๆ นึงในรถแล้วรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาเลย (ใช้คำเวอร์ไปมั๊ยเนี่ย) เหมือนนั่งชาร์ตแบตในรถ นั่งฟัง 10 กว่ารอบได้มั๊ง บางเพลง ฟังบางช่วง มันก็ให้ความรู้สึกที่ต่างไปจากเดิมแฮะ

งานที่ทำก็ล่าช้า ไม่ได้แล้วมันบีบมาหมด ต้องตั้งสมาธิและมุ่งมั่นกับการทำงานให้มาก สู้ๆ

(วันนี้มาแนวบ่นๆ เล็กน้อย ขอโทษด้วย)

 

พี่นักเขียนขอคัดลอกบทความจากหนังสือ อิสระแห่งความปรารถนา มาเพิ่มเติมอีกนิด จากหน้า 30-33 ซึ่งท่านอาจารย์อนาลัยได้ให้คำอธิบายว่า อารมณ์ความรู้สึกนึกคิดอันลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ของการเป็นบุคคลตัวตน หมายถึงอะไร

แม้ว่าอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดจะเป็นสิ่งที่ผันแปรไปในแต่ละวัน อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดบางอย่างเกิดขึ้นและดับไป แต่ภายใต้อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดของเธอจะมีเอกลักษณ์คงที่-ที่เป็นคุณสมบัติจำเพาะของเธอ เสมือนเสียงดนตรีอันล้ำลึกที่เป็นของเธอแต่ผู้เดียว

บางครั้งอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอผุดขึ้นมาสู่พื้นผิวด้วยจังหวะจะโคนที่ยาวนาน เธอไม่อาจเรียกอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดอันเป็นเอกลักษณ์นี้ว่า เป็นอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดที่เป็นไปในทางลบหรือทางบวก มันเป็นอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดอันลุ่มลึกที่แสดงออกถึงตัวตนและประสบการณ์ภายในของเธอ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า มันเป็นสิ่งที่ซ่อนเร้นสำหรับเธอหรือมันจะต้องเป็นไปเช่นนั้น แต่มันหมายความว่า อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์นี้เป็นแก่นแท้ของเธอที่สร้างสรรค์ประสบการณ์ชีวิตทั้งหมดของเธอขึ้น

หากเธอเกรงกลัวการแสดงออกซึ่งอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดอันลุ่มลึก เพราะเธอถูกอบรมว่าอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดในส่วนลึกของมนุษย์เป็นสิ่งที่ไร้อารยธรรม-ต่ำช้าใกล้สัตว์เดียรัจฉาน เธอมักจะมีนิสัยที่จะปฏิเสธอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดอันลุ่มลึกดังกล่าวนี้ เธอมักจะทำเสมือนว่า อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดดังกล่าวนี้ไม่มีอยู่จริง หรือปฏิเสธมัน แต่อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์นี้ เป็นตัวแทนของแรงบันดาลใจอันสร้างสรรค์ที่สุดของเธอ การต่อต้านอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดดังกล่าวเปรียบเสมือนการพยายามว่ายน้ำทวนกระแสอันเชี่ยวกราก

อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์นี้ครอบคลุมการมีชีวิตอยู่เป็นตัวตนของเธอ มันเป็นแบบแผนที่จิตวิญญาณของเธอนำมาประสานกับร่างกายเนื้อหนัง มันเป็นแก่นแท้ที่ร่างกายเนื้อหนังของเธออุบัติขึ้น

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเผชิญล้วนมีจิตวิญญาณ จิตวิญญาณแต่ละหน่วยได้รับมอบอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดอันเป็นเอกลักษณ์นี้ โลกที่เธออาศัยอยู่นี้เกิดจากการร่วมมือกันสร้างสรรค์ โครงสร้างอันเป็นหน่วยย่อยของโลกอุบัติขึ้นจากอารมณ์และความรู้

 

หัวหน้า-ตาทิพย์

คุณ Mead นี่สุดยอดจริงๆ จำแลงรูปกายเป็นมดนักปราชญ์มาด้อมๆมองๆอยู่บน Dance floor ที่ Kansas นี่แล้ว !

ช่วงนี้พี่นักเขียนกำลังร่วมกิจกรรม Ballroom Dancing ทุกสุดสัปดาห์ กำลังเรียน Ballroom ทุกจังหวะ เพื่อพัฒนาการแสดงออกและสรัางสรรค์อีกแนวหนึ่งที่ยังไม่เคยทำ ได้แก่การเต้นรำ ด้วยการสนับสนุนทางใจของคุณครูสอนเปียโนในวัยเด็ก ที่กลายเป็นนักเต้นระดับโลกไปแล้ว

Analai Virtual University เปิดเมื่อไรจะได้มีกิจกรรมหลากหลาย ต้ังแต่ วาดภาพระบายสี ร้องเพลง เล่นดนตรี แต่งเพลง animation comedian ทำขนม ทำอาหาร ชกมวย แล้วก็เต้นรำเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างนึง

คำชมที่ว่าสวยเหมือนดวงจันทร์ ทำให้พี่นักเขียนนึกถึงสมัยเรียนอยู่ถาปัตย์ - ศิลปากรปีสุดท้ายแล้วไปฝึกงาน มีเพื่อนมาจากจุฬา ฯ มาฝึกงานด้วย แล้วกลายเป็นเพี่อนรักกัน เขาชอบชมพี่นักเขียนว่า สวยเหมือนนางในวรรณคดี เป็นปลื้มอยู่หลายวันกว่าเขาจะพูดต่อว่า
....นางผีเสื้อสมุทร...แป่ว....แหว่ว(cry)

 

ตัวตนในอดีตกำลังสนับสนุนคุณ zip และตัวตนในอนาคตกำลังให้กำลังใจคุณ zip อยู่เสมอค่ะ

พี่นักเขียนเป็นจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ของคุณ zip จากห้องวิทย์ฯ ขอส่งกำลังใจมาให้อย่างท่วมท้น

คุณ zip นึิกคิดถึงกาลเวลาที่เราผ่านพ้นอุปสรรคทั้งหมดและกำลังฉลองกับความสำเร็จ และเอาจิตไปจดจ่อกับจุดนั้น ให้อารมณ์ของเรานำพาเราไปสู่ภาวะนั้น อย่ายอมแพ้หรือจมอยู่กับภาวะที่เป็นทุกข์ เพราะหากเราจดจ่อกับทุกข์ ทุกข์จะอยู่กับเรานาน และเหนี่ยวนำทุกข์อื่นๆมาร่วมวงด้วย ทำได้นะคะ อำนาจของเราอยู่ที่ป้จจุบัน จดจ่อสิ่งใด-ได้สิ่งนั้น

คุณน้องขจรวรรณแนะนำพวกเราว่า
ยิ้มไว้ ไม่ทุกข์ สนุกดี

พี่นักเขียนจะไปตามพวกเรามาให้กำลังใจคุณ zip
ทาน ice cream แล้วอ่านหนังสือคอยแป๊บนึงค่ะ เดี๋ยวมา (rose)

 

คับ ขอบคุณคับที่อุสส่าห์นึกถึงคับ และต้องขอโทษคับที่ไม่มีเวลาเข้ามาเลยคับ ผมขอเรียกพี่นักเขียนว่า อาจารย์ ก็แล้วกันนะคับเพราะสั้นกว่าและมีความหมายกว่าคับ อันนี้เป็นประสบการ์ณของผมเองที่เกิดขึ้นอยู่ในระหว่างบทเรียนของจิตวิญญาณบทเรียนแรกๆและเพิ่งจบคับ (เข้าใจเอง ว่าจบคับ) สาเหตุที่ผมลบข้อความออกเป็นเพราะ ผมคิดว่าอาจจะเป็นข้อมูลที่ซับซ้อนจนเกินไปสำหรับหลายๆคนจนอาจจะทำให้ข้อความของผมไปรบกวนจิตวิญญาณของใครหลายๆคนคับ จนอาจจะไม่พอใจคับ ก็หลายลบออกคับ แต่ถ้าอาจารย์ขอ ผมก็ยินดีเล่าเพื่อเป็นนิทานก่อนนอนสำหรับใครหลายๆคน หรือ อาจจะพอมีประโยชน์กับใครอยู่บ้างคับ

ก็คือตอนเป็นเด็กผมอยู่กับย่า ปู่ และอีกหลายๆคน เป็นครอบครับใหญ่คับ ผมติดย่ามากๆ มีเวลาจะอยู่กับย่าตลอด ย่าชอบดูหมอดูมากๆคับ ผมก็เลยได้ดูไปด้วย หมอดูทุกๆคนจะทำนายมาแนวเดียวกัน เหมือนกับ ก็อปปี้กันออกมา เขาเหล่านั้นทำนายไว้ว่า ผมจะมีอายุไม่ยืน และมีอายุสั้นคือประมาณว่าไม่น่าจะอยู่เกิน 20 ปี ประมาณนี้คับเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถมอเตอร์ไซ และผมมีความสามารถทางด้านอิเลคทรอนิคมากๆ น่าจะมีร้านซ่อมแซมอิเลคทรอนิค ในอนาคต เมื่อตอนเป็นเด็กผมได้ยินแล้วจิตก็วูบเหมือนกันคับ ตกใจและกลัว แต่จิตภายในผมต่อต้านและคัดค้านอย่างแข็งขันว่าจะไม่มีทางเป็นอย่างนั้นเป็นอันขาด เมื่อเริ่มโตขึ้น ผมก็ค่อยๆลืมเรื่องเหล่านั้นไป จนกระทั่งผมเริ่มสัมผัสข้อมูลบางอย่างซึ่งบังเกิดขึ้นในจิตของผม อันนี้ขอข้ามนะคับเพราะที่มาละเอียดอ่อนมากๆคับ และเรื่องยาวคับ ข้อมูลนี้ได้เริ่มสอนและเปลี่ยนวิธีคิดของผมทีละนิด โดยชีวิตในแต่ละวันของมนุษย์คือบทเรียนที่สามารถนำมาประยุกวิธีคิด หาคำตอบในแต่ละเรื่องที่เล็กๆ แต่เรื่องเล็กๆเหล่านี้เมื่อนำมาจับวางต่อเนื่องกันแล้วเราจะเห็นว่าเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด ผมเริ่มเข้าถึงตัวตนที่แท้จิงของตัวเองได้มากขึ้น ทีละนิด ตอนนั้นผมอายุได้ประมาณ 20 - 21 ปี ไม่แน่ใจคับ ผมรู้ทันทีว่ามีบางอย่างที่คนเหล่านั้นทำนายไว้ได้เปลี่ยนไปแล้ว เนื่องจากความเชื่อและแนวความคิดของผมเปลี่ยนไปจากแนวคิดของคนปกติทั่วๆไป หลังจากนั้นได้ไม่นาน น้องชายของผมซึ่งตอนนั้นมีอายุประมาณ 16 ปีได้คับ ก็เกิดอุบัติเหตุทางรถมอเตอร์ไซเสียชีวิตทันที ซึ่งผมเองก็ตกใจและเสียใจแต่แปลกมากที่จิตภายในผมรู้สึกสงบอย่างประหลาด ผมพยายามหาคำตอบว่าทำไม ผมไม่เสียใจอย่างไร้เหตุผลเนื่องด้วยความเชื่อและแนวคิดผมเปลี่ยนไป ผมได้มีโอกาสกลับไปงานศพของน้องชาย ปกติแล้วผมจะสัมผัสพลังงานอื่นๆได้ค่อนข้างเร็ว แต่ผมไม่รู้สึกถึงน้องชายเลย นั่นเป็นเพราะน้องชายผม Cross over ภาษาไทยทางพุทธผมไม่รู้ว่าเรียกยังไงคับ หรือสู่สุขคติ ประมาณนี้คับ ซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจว่า เรื่องแย่ๆที่เกิดขึ้นมันจะเกิดขึ้นจากความเชื่อและแนวคิดของเราเปลี่ยนไปหรือปล่าว จนเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างจนเป็นแบบนี้ ผมเองก็ไม่ทราบนะคับจนถึงเดี๋ยวนี้ว่า ทำไม แต่เมื่อผมเดินมาจบบทเรียนเรื่องอนาคตกับความเชื่อแล้วและดวงชะตา ผมก็ข้อสรุปท้ายบทว่า อนาคตอยู่ในมือของเจ้าของชีวิตเอง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพลังงานของจิตแห่งความเชื่อมั่นในตัวตนของตัวเอง และ แนวคิดที่ละเอียดอ่อนหลายๆอย่าง ที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดสรรค์พลังงานจิตและวิญญาณของตัวเองใหม่ ที่จะทำการเปลี่ยนแปลงพลังงานบางอย่าง ที่จิตเก่าแก่ของเราได้กำหนดไว้ให้เป็นมาก่อนที่เราจะมาเกิด เราสามารถกำหนดทุกอย่างได้ด้วยจิตวิญญาณของเราเอง พลังที่แท้จิงอยู่กับทุกคน และผมก็ได้เข้าใจว่า ทำไมเขาถึงทำนายอย่างนั้น เนื่องจากผมเคยเป็นบุคคลกรเก่าแก่ที่มีความสามารถเรื่องของอิเลคทรอนิกมาก่อนเมื่อนานมากๆๆแล้ว เขาเลยอ่านจากบุคลิกเก่าที่ผมเคยมีหรือเป็นนั่นเอง เพราะมันจะแสดงออกมาตามจิตเก่าที่เคยเป้น แต่ข้อนี้ผมไม่เถียงว่าผมมีความสามารถทางด้านการใช้งานเครื่องมืออิเลคทรอนิกจิงๆ เพราะผมเป็นกราฟฟิก ดีไซเนอร์ มานับ 10 ปี ทั้งๆที่ผมไม่เคยได้เรียนมาทางสายนี้ หรือแม้แต่หนังสือสอนวิธีใช้ผมก็ไม่เคยอ่าน เพราะอ่านแล้วจะงง ผมใช้จิตของผมเนี่ยวนำความรู้สึกเบื้องลึกให้แสดงออกมาทางงานที่ต้องการ ผมไม่ได้เก่งนะคับ เพียงแค่รู้วิธีใช้จิตบางอย่าง และเมื่อความเชื่อสามัญของเราเปลี่ยน จิตภายในเราก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเหมือนกันและเมื่อจิตเราเชื่อมเข้ากับเส้นทางการเรียนรู้ของจิตที่ถูกต้องแล้ว จิตเราก็เดินไปเองตามบทเรียนใหม่ๆที่จะเข้ามาหาเราทุกๆวัน ต้องหัดฟังเสียงจิตภายในของเราเอง และทุกวันนี้ผมทำธุระกิจเกี่ยวกับความงาม ซึ่งทุกอย่างที่เค้าทำนายไว้ไม่เป็นจิง และไม่มีวันเป็นจิงอีกต่อไป

ความเชื่อหลายๆอย่างที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น เป็นการกำหนดทางเดินนั้นๆในตัวโดยอัติโนมัติ เมื่อมนุษย์ไม่ยอมมองออกนอกกรอบนั้นออกมา ทุกอย่างก็เป็นไปตามมวลจิตความเชื่อนั้นๆ ตลอดไป

ความสามารถที่แท้จิงของจิตมนุษย์นั้นสูงส่งมากๆ เมื่อนำมาใช้ให้เป็นอย่างถูกต้องก็จะสามารถทำหลายๆอย่างที่ มนุษย์เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ ได้อย่างง่ายดาย แต่นั่นหมายถึงเราต้องปรับความเชื่อและแนวคิดอันละเอียดออ่นในจิตวิญญาณเราด้วย

มนุษย์สามารถกำหนดทุกอย่างได้ด้วยจิตตัวเอง แม้แต่ชะตากรรมของโลกมนุษย์ก็สามารถทำให้ดีขึ้นได้ด้วยจิตของมนุษย์เอง

ซึ่งความเชื่อนี้ยังเข้าไปเกี่ยวพันกับวิถีของจิตวิญญาณมนุษย์อย่างจัง และเกี่ยวพันกับพลังงานรอบตัวมนุษย์เรา ยังมีรายละเอียดอีกมากคับ มันจะเกี่ยวพันกันหมดเลยถ้าพูดเรื่องนี้ อีกแป๊บนึงก็จะเป็นอีกเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกันคับ แต่มีอย่างนึงที่ผมเพิ่งเรียนรู้ คือ เรียนรู้และยอมรับวิถีการดำเนินชีวิตของการเป้นมนุษย์บนโลก แต่กำหนดชะตาชีวิตด้วยจิตของตัวเอง คับ จบแล้วคับอาจารย์คับ

 

ขอบคุณพี่นักเขียนที่มาให้กำลังใจ ตอนนี้งานโปรเจคเก่ายังไม่เสร็จดี โปรเจคใหม่ก็มีเข้ามา แถมยากซะด้วย(ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า)

แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ตัวเองมักจะนึกว่ายากไว้ก่อน ทำให้ติดๆ ขัดๆ ในการทำงานหัวไม่แล่น

ก่อนหน้านี้เคยเจองานที่คิดว่ามันทำไม่ได้แน่ ก็คิดว่าเลิกที่จะค้นหาวิธีแล้ว แต่ไปๆ มาๆ ก็มีคนนำเอาวิธีแก้ปัญหามาให้ ก็คิดว่า เออ ถ้าเราคิดว่ามันต้องมีซักวิธีที่ได้ แล้วก็ลองหาวิธีอื่นไป มันก็น่าจะได้ แต่นี่เราไปติดกับคำว่าทำไม่ได้ ก็เลยติดอยู่ตรงนั้นเลย

บางครั้งเรื่องบางเรื่อง มันอาจจะเส้นผมบังภูเขาเอง แต่ตัวเองคิดว่ายากหรือเป็นไปไม่ได้ซะก่อน ก็เลยติดอยู่อย่างนั้น ไม่คิดหาวิธีอื่น

แล้วก็ตอนนี้ได้รู้จากพี่นักเขียนด้วยว่า อนาคตถ้าเรามุ่งมั่นไปทางไหน มันก็จะเป็นอย่างนั้น เหมือนอย่างแบบฝึกหัดที่พี่นักเขียนให้ทำ ก็เลยต้องมาคิดจินตนาการถึงว่ามันสำเร็จแล้ว

บางทีปัญหาอะไรที่คิดว่าซับซ้อนมาก เมื่อผ่านมันไปแล้วและมองกลับมา ก็จะคิดว่า มันก็แค่นี้เอง

พุธ(เย็น) พฤหัส ศุกร์ จะต้องออกไปต่างจังหวัด คงไม่ได้เข้าเนตซักพัก กลับมาสงสัยกระทู้วิ่งฉิววว ไปไกลแน่เลย

(จ๊ากกก ยังไม่ได้เก็บเสื้อผ้าเลย)

 

อ่านตอนนี้แล้วนึกถึงนิทานเซนเรื่องนึง ว่ามันมีความหมายคล้ายๆ ประมาณนี้ (แต่เมื่อเอามาอ่านอีกทีก็รู้สึกว่ามันก็ไม่ตรงซะทีเดียวแฮะ หรือความรู้สึกบอกว่าใช่ แต่เหตุผลบอกว่าไม่ตรงซะทีเดียว?) ก็เลยเอามาให้พิจารณากัน


พระอาจารย์ว้อหลุนหลังจากบำเพ็ญเพียรอยู่หลายปี ก็นึกว่า ตนเองรู้แจ้งแล้ว จึงไปหาท่านเว่ยหล่างเพื่อทดสอบภูมิธรรม พร้อมกับเขียนโศลกว่า

ว้อหลุนมีเทคนิคและวิธี ที่จะสามารถดับร้อยความคิดได้
สิ่งที่มากระทบจิตไม่เกิด ต้นโพธิ์เติบโตขึ้นทุกวัน
卧 轮 有 伎 俩 能 断 百 思 想
对 境 心 不 起 菩 提 日 日 长


(โศลกบทนี้ต้องกำกับภาษาจีนด้วยเพราะแตกต่างจากที่ท่านพุทธทาสแปลไว้เล็กน้อย)

ท่านเว่ยหล่างเมื่ออ่านแล้วได้พูดกับลูกศิษย์ว่า ว้อหลุนยังไม่ได้เข้าถึงหลักธรรมอย่างแท้จริง หากปฏิบัติธรรมลักษณะนี้ต้องตายแน่ คิดว่าสิ่งที่มากระทบจิตไม่เกิดเป็นความสามารถอย่างสูง เป็นความเข้าใจที่ผิด เราปฏิบัติธรรมเพื่อเป็นพุทธะที่มีชีวิต ไม่ใช่เป็นพุทธะที่ตายแล้ว กลายเป็น ทองไม้ดินหรือหิน แล้วจะเป็นพุทธะอย่างไร ไม่สามารถฉุดช่วยผู้คน แล้วจะมีประโยชน์อะไร

ท่านเว่ยหล่างจึงแต่งโศลกตอบไปว่า

เว่ยหล่างไม่มีเทคนิคและวิธี ร้อยความคิดก่อเกิดไม่มีหยุด
สิ่งที่มากระทบจิตย่อมเกิด แล้วต้นโพธิ์จะเติบโตได้อย่างไร
慧 能 沒 伎 俩 不 断 百 思 想
对 境 心 数 起 菩 提 作 麼 长

เหล่าลูกศิษย์ไม่เข้าใจ ท่านเว่ยหล่างจึงอธิบายให้ฟังว่า ทุกสิ่งที่ต้องใช้เทคนิคและวิธีล้วนแต่ต้องใช้ความสามารถ จิตย่อมจดจ่ออยู่กับความสามารถในการกระทำนั้น ยังเป็นการยึดติดอยู่กับการกระทำ ยังใช้ไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องไปดับความคิด ไม่มีความคิดแล้วจะไปทำอะไรได้ หากไม่มีความคิดก็เหมือนกับก้อนหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง เหมือนกับเวลาที่เราแสดงธรรมหรือฟังธรรมต้องใช้ความคิดร่วมด้วย แม้มีความคิดแต่ไม่ยึดติดกับรูปลักษณ์นั้น ก็เหมือนกับไม่มีความคิด ส่วนต้นโพธิ์นั้นแสดงถึงจิตเดิมแท้ของพุทธะ ไม่เพิ่มไม่ลด ไม่เกิดไม่ดับ แม้จะปฏิบัติธรรมจนเป็นพุทธะแล้ว ก็ไม่ได้เพิ่มอะไรแม้แต่นิดเดียว แล้วจะมีอะไรเติบโตได้อย่างไร

 

คุณ bassate ดูท่าจะเจออะไรที่ลึกซึ้งมาเยอะแฮะ

 

พี่นักเขียนอ่านข้อความเดิมของคุณ basette แล้วผ่านไปโดยไม่เอ่ยถึงอีกไม่ได้ เพราะเห็นว่ามีความสำคัญและเป็นประโยชน์กับทุกคนค่ะ

ต้องขอขอบคุณ คุณ bassett ที่แวะกลับมาเล่าให้พวกเราฟัง ห้องวิทย์ฯของเราเป็นห้องเปิดใจนะคะ ไม่ต้องกังวลว่า ข้อมูลที่มา post จะรบกวนจิตวิญญาณใด เพราะเรากำลังช่วยกันเรียนรู้

ประสบการณ์ของคุณ bassett เป็นประสบการณ์ที่คนจำนวนมากเผชิญแล้วมักจะหวั่นไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหมอดูมาทำนายทายทักเรื่องอายุขัย ทั้งที่คุณ bassett ยังเป็นวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ แม้แต่วัยอื่นๆ หากถูหมอดูทำนายทายทักเช่นนั้นก็หวั่นไหวไม่น้อยด้วยกันทุกคน แต่คุณ bassett ก็มีความรู้ภายในที่เอาชนะคำวินิจฉัยในแง่ลบเหล่านั้นไปได้ และเลือกที่จะกุมบังเหียนชีวิตของตนเอง

พี่นักเขียนเห็นว่าประสบการณ์ของคุณ bassett เป็นกรณีตัวอย่างที่ค่อนข้าง extreme จึงอยากให้มาเล่าให้พวกเราฟัง เพราะเห็นว่าสาระนี้เป็นตัวอย่างที่สนับสนุนข้อมูลความรู้ที่ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวถึง และทำให้พวกเรามองเห็นความเป็นจริงได้ชัดเจน

ขอบคุณและขอเชิญมาเที่ยวห้องวิทย์ฯบ่อยๆนะคะถ้ามีเวลา (rose)

 

ความเชื่อของเธอ เป็นตัวกำหนดว่า สิ่งใดคือสิ่งที่เป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้-สำหรับเธอ
จาก โนวา อนาลัย ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพ

มาช่วยเก็บเสื้อผ้าค่ะ เอาไปแยะๆจะได้หล่อได้ทั้งวัน (rose)

 

ขอบคุณครับพี่นักเขียน ที่มาช่วยเก็บเสื้อผ้า แต่แหม เยอะขนาดนั้นอยู่ได้เป็นปีๆ เลยนะนั่น

เรื่องหมอดู เรื่องดวงชะตาเนี่ย ส่วนตัวแล้วก็เชื่อว่า สิ่งที่ทำนายได้นั้น เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ภายใต้สภาพแวดล้อมและเงื่อนไขที่เราเป็นอยู่ ถ้าเราเปลี่ยนสภาพแวดล้อมหรือเงื่อนไข อนาคตก็เปลี่ยนได้

การดูหมอก็เหมือนกับการเป็นการดูว่าเส้นทางที่เราจะไปเป็นยังไง ถ้าไม่ดีก็เปลี่ยน ถ้าดีแล้วตามความตั้งใจเรา ก็ทำต่อไป

 

​

จิตวิญญาณที่ถือกำเนิดเป็นชีวิตในแต่ละชาติภพของเธอเปรียบเสมือนเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น และจิตวิญญาณจากทั้งสามแหล่งความรู้รวมกันทั้งหมดเป็นวงมโหรี ชีวิตในแต่ละชาติภพของเธอไม่ใช่อุปกรณ์ดนตรีที่ถูกบรรเลง แต่จิตวิญญาณของเธอเป็นผู้แต่งเพลงและบรรเลงดนตรีชีวิตในแต่ละชาติภพ ดนตรีเป็นศิลปะที่ไร้ขีดจำกัด ดนตรีอาจบรรเลงเพลงซึ่งแสดงออกถึงชัยชนะ ความพ่ายแพ้ ความรัก ความเกลียด ความสุข ความทุกข์ ความเศร้าโศก แต่ทั้งหมดก็คือดนตรีที่แสดงออกซึ่งอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดที่แตกต่างกัน เธอไม่อาจจะพูดได้ว่า ดนตรีแห่งความรักเป็นดนตรีที่ดีกว่าดนตรีแห่งความเศร้าโศก ศิลปะอยู่เหนือความดีหรือความชั่วร้าย แต่ละชาติภพเป็นศิลปะแห่งการดำเนินชีวิต ในวิถีทางเลือกของเธอ ซึ่งเธอเป็นผู้มีอำนาจในการเลือกอย่างแท้จริง ทั้งเลือกเกิด เลือกวิถีทางดำเนินชีวิต เลือกตาย และเลือกวิถีทางดำเนินชีวิตหลังความตาย ซึ่งฉันได้อธิบายรายละเอียดไว้ใน

 

สวัสดีครับคุณศิโรตม์ มาร่วมวงสนทนากันครับ
ตอนนี้มีเป็นไฟล์เสียง อยู่ประมาณ 5 บทครับ พี่นักเขียนกำลังทำ
ตามไปฟังและอ่านรายละเอียดที่น่าสนใจอื่นๆได้ที่นี่นะครับ


http://www.novaanalai.com/novaanalai/Podcast/Podcast.html

 

ทางโน้นกิจกรรมเยอะเลยนะครับ
จริงๆตาทิพย์ผมไม่มีหรอกครับ แค่รู้สึกว่าพี่กำลังเคลื่อนไหวตัวตนอย่างมีความสุขเท่านั้นเองเลยจิตนาการไปเรื่อง Ballroom Dancing แต่ทางนี้ก็มีเรื่องนึงครับ เรื่องมด (จะเล่าให้ฟังดีมั๊ยเนี่ย..)
เมื่อวานพูดถึงมดนักปราชญ์อยู่แหมบๆ (คงไปกระทบอารมณ์เค้ารึเปล่า?) เมื่อคืนจะอาบน้ำโดนดีครับ มดเต็มผ้าเช็ดตัวเลยครับ เมื่อวานอากาศร้อนมาก มดแอบยกขบวนหนีร้อนมาซุกในผ้าเช็ดตัวเย็นๆนับได้กว่า 100 ตัว..ดีว่าไหวตัวทันไม่งั้นโดนกัดคันทั้งตัวแน่ มีผืนเดียวที่โดนด้วยแล้วทำไมต้องเป็นเมื่อวานนี้ด้วยล่ะ? พี่ส่งกองทัพมดมาแถวนี้รึเปล่า? ไม่น่าเชื่อว่าความคิดเรื่องมดนักปราชญ์จะชักจูงให้เป็นเรื่องจริงได้ไวขนาดนี้นะครับ แปลกแต่จริง!!!

เดี่ยวบ่ายวันนี้จะออกเดินทางไปเพชรบูรณ์แล้วครับ ตามคุณ Ziper ไปติดๆ พรุ่งนี้กลับครับ ขอบคุณคุณ Bassate ด้วยครับที่เอาประสบการณ์ตัวอย่างมาเล่าให้ฟังครับ ว่างๆเล่าอีกนะครับเป็น case ที่น่าสนใจที่เดียวครับ

 

ผมไปโคราชครับ แถมต้องนอนโรงพยาบาลตลอดด้วย (ไปทำงานที่โรงบาล) ไม่รู้จะเจออะไรแปลกๆ หรือเปล่าเนี่ย