ไสยศาสตร์ฉบับชาวบ้าน..มี.สาระ แบบกันเอง

น้อมกราบท่านครูบาบุญชุ่มครับ ผมเองได้เคยไปกราบท่านในงานครบรอบวันเกิดท่าน คนมหาศาลเยอะมากจนน่าตกใจ ทั้งคนพม่า คนไทย ท่านเทศน์ให้คำสอน แล้วก็แจกประคำ ท่านดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆครับ ผู้คนมากมายทั่วทุกสารทิศต่างหลั่งไหลมาด้วยความเคารพและศรัทธาต่อท่านมากจริงๆ

 

ที่ผมต้องการลงชีวะประวัติของท่านครูบาบุญชุ่มฯ นั้น ผมอยากจะให้หลายๆ ท่านที่สนใจในวิชาเร้นลับ หรือ ต้องการแสวงหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายไว้คุุ้มครองรักษาตัว..จะได้รู้ว่า สิ่งของเหล่านั้น ไม่ว่าจะ วิชาไสยศาสตร์ วัตถุมลคล ใดๆก็แล้วแต่..ถ้าถึงที่สุดแห่งคำว่า กรรม แล้วทุกคนก็ต้องชดใช้สิ่งเหล่านั้น
ไม่เว้นแม้แต่ครูบาฯ ท่าน ที่ท่านสามารถเข้า นิโรจสมาบัติ หรือ ฌาน ได้แค่ชั่วพริบตา ท่านก็ต้องโดนเหล่าผู้ไม่มีศาสนา ทุบตี ทารุณ ท่าน ขังท่านไว้ในเล้าหมู ดั่งเป็นหมูเป็นหมา..แต่ท่านก็อุตส่าห์เขียนมาเล่าให้พวกเราได้รับรู้ คงคิดว่าเพื่อเป็น ข้อธรรมะข้อหนึ่งที่สามารถสอนใจ คนเราให้เข้าใจใน กรรม ของบุคคลได้อย่างถ่องแท้..ซึ่งเดิมที่ผมได้รู้จักกับท่าน ได้กราบ ขอรับทราบข้อธรรมะจากท่าน ผมก็ไม่ได้รับรู้เรื่องราวสิ่งเหล่านั้นมาก่อนเลย.รู้ต่อเมื่อได้รับหนังสือเล่มนี้ที่ท่านเขียนไว้ภายหลัง.เมื่อนำมาอ่านแล้วจึงเข้าใจในสภาวะของกฏธรรมชาติมากขึ้น..
จึงอยากให้ทุกท่านได้อ่าน และลองพิจารณาในทุกแง่มุมที่ท่านได้ บรรจงเขียนด้วยลายมือของท่านเอง...เผื่อทุกท่านอาจจะมีความเข้าใจในสิ่งเหล่านั้นยิ่งกว่าผม แล้วเก็บนำไปเป็นข้อคิด ข้อปฏิบัติได้อีกทางหนึ่งก็ได้..

 

ด้วยความยินดีมากครับ ที่ได้เจอสายทางธรรมเดียวกัน

ใครที่ได้ประสบพบเจอมาเองแต่ละท่าน ผมคงคิดว่าจะรู้และเข้าใจเอง ครับ

ผมถึงแม้ได้ มีโอกาส พูดคุยขอรับทราบแนวทางปฏิบัติ และข้อธรรมะเป็นการส่วนตัวในห้องของท่านแค่ ครั้ง สองครั้งก็นับว่าเป็นบุญอย่างมาก..ส่วนตัวผมเองนั้นคิดว่าหาผู้ใดเสมอเหมือนท่านคงไม่มีอีกแล้ว ที่มีเมตตาในเรื่องการไขข้อข้องใจในธรรมะได้แบบนี้..
.และมีความชัดเจน ดั่งครูตั้งคำถามเอง-ตอบเอง ไม่ต้องรอให้ต้องถาม..เหมือนดั่งหยั่งรู้ในปัญหาผู้ถามมาปรากฏ.บนฝ่ามือ.ท่านก็ปาน

 

ผมเองได้แค่เพียงกราบท่านอยู่ไกลๆเท่านั้นครับ แค่นี้ก็ถือว่าเป็นบุญแล้วครับ ยังไงผมขอติดตามเรื่องราวจากพี่tang2536 ด้วยนะครับ ที่ผมได้กราบท่านเพราะแฟนผมเป็นคนเชียงราย อยู่อ.แม่จัน ท่าข้าวเปลือก ครับ ซึ่งอยู่ใกล้ละแวกนั้นพอดีครับ

 

เสธ.ครับ ครูบาบุญชุ่ม ท่านมีสหธรรมมิกองค์สำคัญอยู่ 1 รูป องค์นี้ประวัติไม่เคยได้ยินเลยเคยแต่รู้ว่าเป็นคู่ธรรมกับครูบาบุญชุ่ม และน่าจะทำบารมีเช่นเดียวกันคือจะเป็นเป็นโพธิสัตว์ ท่านคือครูบาเทือง เสธ.พอจะทราบประวัติบ้างไหมครับ

วัดถ้ำคูหาภิมุข ชื่อยังกับวังเก่านะครับเสธ.

 

ครูบาเทือง ผมได้มีโอกาสเจอท่านตอนท่านมาร่วมงานวันเกิด ครูบาบุญชุ่มฯแต่ไม่ได้มีโอกาสพบท่าน
ต่อมาในโอกาสอื่นเคยได้กราบท่านใกล้ชิดครั้งหนึ่ง ผมบอกว่าผมเป็นลูกศิษย์ ครูบาบุญชุ่มฯ ท่านหวัเราะชอบใจ มอบพระกริ่งให้ องค์หนึ่ง
สำหรับประวัติ นั้นผมไม่มีในรายละเอียด..มีคนเคยถามครูบาบุญชุ่มฯ ท่านเปรยว่า ครูบาเทืองฯ ทิ้งเฮา(ท่าน)ไปแล้ว..ทำนองว่า สำเร็จอรหันต์ สละพุทธภูมิแล้ว อันนี้เป็นแค่คำบอกเล่านะครับ..เดวจะมีคนนำไปกล่าวอ้าง บาปไปกันใหญ่

อ้อ วัดถ้ำนี้มีประวัติมานานมากเรียกว่าน่าจะพันกว่าปี..เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งทางศาสนาพุทธที่เคยเจริญรุ่งเรืองในอดีตก่อน อิสลามจะเข้ามา

 

คาถานางกวัก ลพ.เดิม

ใครที่มีนางกวักไว้บูชาแล้วไม่มีคาถาบูชาก็นำคาถาบูชานางกวักของ ลพ.เดิม ไปใช้ได้ครับ
โอม มหาประสิทธิโชคอันอุดม
โอม ปู่่เจ้าเขาเขียวมีลูกสาวคนเดียวชื่อนางกวัก ชายเห็นชายรัก หญิงเห็นหญิงรัก รู้จักทุกตำบล คนรักทุกถ้วนหน้า พวกพาณิชชา
กูไปค้าเมืองแมน กูค้าหัวแหวนก็ได้แสนทะนาน ค้าสารพัดก็ได้คล่องๆ
กูค้าเงินก็ได้เต็มกล่อง กูค้าทองก็ได้เต็มหาบ (เพี้ยง..เป่า)
วันนี้สารพัดกูได้เต็มหาบมาเรือน สามเดือนก็เป็นเศรษฐี สามปีสารพัดสำเร็จ โอมปู่เจ้าเขาเขียว ประสิทธิ์ให้แก่กูคนเดียว สวาหะฯ

 

หลายท่านสนใจถามเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์ศิทธิ์ที่จะใช้กับอาชีพการค้าขาย ทำมาหากิน.

ที่นิยมกันทั่วไป
พระสิวลี...พระอรหันต์ที่เลิศทางด้านลาภสักการะ
พระอุปคุต พระอรหันต์ผู้มีฤทธิ์ สามารถปราบพญามารได้ และให้โชคลาภสักการะด้านการค้า เนื่องจาก อาชีพเดิมของครอบครัวท่านคือค้าขาย
นางกวัก เชื่อว่านางมีบุญฤทธิ์มากด้านการค้าขาย ตามตำนานโบราณ

วัตถุอาถรรพ์อื่นๆ เช่น กาฝากรัก กาฝากมระรุม กาฝากขนุน รัก-ยม
กุมารทอง..และอื่นๆ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอให้มีศรัทธาต่อวัตถุมงคลนั้นๆ..และควรบูชามาจาก ท่านที่ปลุกเสกแนว พุทธคุณ...เพื่อความเป้นมงคลและยั่งยืน

เคล็ดของการใช้วัตถุมงคลประเภทนี้อยู่ที่ การบริจาค ทาน ขอให้แบ่งเงินที่ได้จากการค้าขาย จะเท่าไหร่ก็ได้ หมั่น บริจาคทาน อุทิศส่วนกุศลนั้นไปถึง เจ้ากรรมและนายเวร ทั้งครูอาจารย์ที่ปลุกเสกวัตถุมงคลที่เราเคารพอยู่.. .

 

มาแชร์ประสบการณ์ เรื่องไสยเวทย์กันต่อละกันครับ..ในห้วงนี้ทางใต้ก็ค่อนข้างหนักหน่อย.เพราะนับวันระเบิดมันจะลูกใหญ่มากขึ้นทุกวันๆ..ยังไงทุกท่านก็พยายามเอาใจช่วย เหล่าทหารหาญ ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทุกๆนาย ด้วยละกันครับ

ทุกคนที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ล้วนแต่ เสี่ยงอยู่ทุกฝีก้าวจริงๆ..เว้นเสียแต่ อยู่ในค่าย ในฐานฯ ขนาดเดินไปซื้อของกินของใช้ในตลาด ไม่ว่าจะไปคนน้อยคนมาก หากไม่ระวังตัว ฝ่ายนั้นสังเกตุออกว่าเราคือ จนท.(กรณีแต่งนอกเครื่องแบบ) จะมีการส่งสัญญานกันทันที..ดั่งพยัคเห็นเหยื่อ.จึงไม่แปลกใจหากใครก็แล้วแต่ที่เผลอไปเดินชมตลาดนัดแบบไม่ระวังตัว ก็จะตกเป็นเป้าทันที ฝ่ายตรงข้ามแค่ชักปืนที่ขึ้นนกแล้วเข้าประชิดยิงในท่าฮิป(ท่ายกระดับศอกตั้งฉากลำตัวจ่อเข้าชายโครงด้านซ้า-ขวา เพื่อหวังทะลุเสื้อเกราะ)มันง่ายมาก แล้ววิ่งฉากปะปนฝูงชน คนนับร้อย..เราก็ตามไม่ได้แล้ว..
ผมไปใหม่ๆนั้นไม่ค่อยสันทัดประสบการณ์แบบนี้เท่าไหร่..ไปเดินซื้อของในตลาดสด(แต่งนอกเครื่องแบบพกแค่ ปพ.มิดชิด..เพราะที่ใต้นั้นใครขีนไปพกปืนหราก๋ากั๋น โชว์ยี่ห้อปืนดังๆ มันคือเหยื่อล่อชั้นดี) ไปกับลูกน้องรวม ๔ คนเราอยู่กลาง.เดินไปไม่ถึง ๑๐ นาที รู้สึกได้ว่ามีคนสะกดรอยตาม..ขนที่แขนลุกชันแปลกๆ..จนต้องหยุดเดินสะกิดพรรคพวกให้รวมตัว แบบวงกลม รีบถอยจากพื้นที่ชุมชน..ปลอดภัยมาได้.แล้วมาพิจารณาว่า จริงหรือไม่จริง..ทุกคนให้ความเห็นว่า จริง..
สิ่งเหล่านี้มันแค่ เกิดจากสิ่งที่เรามองไม่เห็นครับ..ถ้าลางสังหรณ์ก็ใช่ จะว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ใช่..ผมจึงหมั่นบอกลูกน้องเสมอว่า..เมื่อก้าวเท้าออกจากประตูค่าย...ต้องภาวนาในใจตลอดเวลา..จะบทใดก็แล้วแต่ อย่าปล่อยจิต ปล่อยใจ เหม่อลอย..เพราะเมื่อใดขาดสติ..ถ้าภัยมา จิตจะตั้งมั่นไม่ทัน.

 

มีครั้งหนึ่งที่เห็นอัศจรรย์..พลทหารคนหนึ่งที่นั่งรถยนต์ระวังป้องกันอยุ่ท้ายกะบะ เดินทางมาจาก อ.ธารโต มุ่งหน้า เข้าเมืองยะลา ถูกโจร ดักยิงด้วยปืนยาวไม่ทราบชนิด(น่าจะเอ็ม๑๖/อาก้า) โดนตัวปืนด้านบนที่ถืออยู่อย่างจังปืนพังเลย..เฉี่ยวหน้าไปแบบเฉียดฉิว...สอบถามขอดูของขลังก็ หลายองค์.พระใหม่ๆรอยตัดขอบยังไม่ลบเลย..ส่วนใหญ่ไม่รู้จัก ที่รู้จักมีเพียง ลป.ทวด รุ่นใหม่ๆนี่แหละ..แต่ก็น่าจะการันตีได้..

 

ผมจะบอกหลายๆคนที่มาขอข้อแนะนำการใช้ วิชาคาถาอาคม รวมไปถึง วัตถุมงคล..ว่าต้องฝึกจิตใจ ดั่งคนนั่งฝนมีดเราจะต้องการความคมนานต้องบรรจงฝนด้วยใจที่จดจ่อฝนนาน ถ้าต้องการคมน้อยมันก็ฝนน้อย..

จิตคนเราก็เหมือนกันต้องเชื่อมโยงกับ วิชาอาคม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นๆ ความขลังพุทธคุณจะคุ้มครองตัวเรา มิใช่อยู่ที่การมีไว้ครอบครอง..แต่อยู่ที่วิธีใช้ การบูชาศรัทธาเชื่อมั่น..และศีลธรรม ของผู้ใช้..เหมือนดั่งมีคำพูดที่ว่า อาวุธถ้าขาดคุณธรรมยิ่งใช้ก็ยิ่งหมด..หมายถึงหมดความน่ากลัวนั่นเอง..

เราจะใช้ของขลังให้มีประสิทธิภาพ.ก็ต้องหมั่นกราบไหว้บูชาอย่างถูกต้องวิธีการ ระลึกนึกถึงพระรัตนตรัย สม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าอยู่ในสภาพหน้าสิ่วหน้าขวาน ต้องระลึกนึกถึงแทบจะทุกลมหายใจ..ในขณะทำงานด้วยความเสี่ยง.เป็นเสี่ยงตาย..

 

ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร

 

บทนี้เท่าที่ดู ก็ดีมากแล้วครับ..ส่วนของผมนั้น ขออภัยที่ลงไม่ได้ครับ.

 

ขอกด Like ให้กับคำคมของพี่คำรณที่ว่า "ความขลังพุทธคุณจะคุ้มครองตัวเรา มิใช่อยู่ที่การมีไว้ครอบครอง..แต่อยู่ที่วิธีใช้ การบูชาศรัทธาเชื่อมั่น..และศีลธรรม ของผู้ใช้"

 

ตามมาดูบทจินดามณีครับ อิอิ

ขอขอบคุณ พี่บัวขวัญ และ พี่คำรณอีกครั้งครับ^^

 

เรื่อง 3-4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่รู้ว่าเป็นพวกแบ่งแยกดินแดนหรือพวกเสียผลประโยชน์ค้าของเถื่อนครับ
หลานผมร้อยโทก็ข้อเท้าขาดที่ยะลาเหมือนกันเมื่อปี 53 ต้องใส่ขาเทียม... ตอนนี้ไปประจำที่เหนือแล้ว
เรื่องภาคใต้นี่เหนื่อยใจนะครับ

 

ขอบคุณครับพี่ที่ชี้แนะ แล้วถ้าคาถาเดิมเราจะว่ากี่จบก็ตั้งนะโมแค่ครั้งเดียวใช่ไหมครับ

 

จินดามณีนั้นมีเป็นร้อยๆบทครับ
แต่บทข้างบนนี้ให้ระวังหน่อย
ใช้เรียกคนเรียกบริวารนะครับ