*** หลักสัจจะธรรม...หมายถึง ? ****

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย หนุมาน ผู้นำสาร, 28 กุมภาพันธ์ 2007.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,706
    ค่าพลัง:
    +51,935
    *** หลักสัจจะธรรม...หมายถึงอะไร ****

    "หลักสัจจะธรรม"...เป็นสิ่งที่ทุกคนพยายามค้นหา...กันทุกยุคทุกสมัย

    หลังจากที่พระพุทธเจ้า เพียรพยายามด้วยวิธีการต่างๆ มากมาย...จนสุดท้าย
    จึงพบความจริงบางอย่างว่า....มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ตาย ไม่สูญสลาย คงอยู่ชั่วกัปชั่วกัลป์

    พระพุทธองค์...กล่าวว่า
    " ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน "

    ประโยคนี้...เพียงประโยคเดียว....ครอบคลุมทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้น ทั่วทั้งจักรวาล
    เพราะ....ประโยคนี้ คือ "หลักเดียวที่สูงสุด" ... ปักไว้มั่นคง นิ่ง ไม่กระดุกกระดิก
    นั่นคือ... "หลักสัจจะธรรม"
    สิ่งที่มนุษย์มุ่งค้นหากัน...และ คือ เหตุผลเรื่อง กฎแห่งกรรม...ทำไมทำดีจึงได้ดี ...ทำไมทำชั่วจึงได้ชั่ว
    ซึ่ง พระพุทธเจ้าค้นพบมานานแล้ว ... แต่เมื่อถึงยุคปัจจุบัน กลับสูญหายไป
    ไม่มีผู้ใดอธิบายได้ว่า "หลักสัจจะธรรม" คือ อะไร หมายถึงอะไร

    ดังนั้น...ผลจากการกระทำ ที่เกิดขึ้นจาก "สัจจะ"...จึงเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ประมาณค่ามิได้ !!!
    ผลที่เกิดขึ้น คือ "ตัวกระทำ"....ที่จะติดตัวไปกับจิตวิญญาณของเรา ตลอดไป
    และ นี้คือ หนทางเดียวเท่านั้น...ที่จะช่วยให้ มนุษย์สามารถเดินทางหลุดพ้นจากความทุกข์ ...เพื่อไปพบกับพระผู้เป็นเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในจักรวาลได้

    อย่า...มัวหลงการปฏิบัติที่ขัดกับ "หลักสัจจะธรรม" อยู่อีกเลย
    เวลา...ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอดีตที่ผิดพลาดได้
    วันนี้...และวันต่อๆ ไป...ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท
    ดำเนินชีวิตด้วย "สัจจะ"....กำหนดสิ่งที่ดี ตั้งใจทำ วันละข้อ วันละหนึ่งชั่วโมง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,706
    ค่าพลัง:
    +51,935
    *** หลักสัจจะธรรม...หมายถึงอะไร ****

    พระพุทธองค์...จึงกล่าวสรุปไว้สั้นๆ สามารถทำความเข้าใจง่าย...ว่า

    "หลักสัจจะธรรม คือ...ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน "

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2007
  3. K.Sancha

    K.Sancha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +238
    สัจจะธรรม
    บุคคลที่มีสัจจะ คือ บุคคลที่เชื่อได้
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,706
    ค่าพลัง:
    +51,935
    *** ตัวกระทำ ****

    ตัวกระทำ....คือ สิ่งที่เกิดขึ้นทุกครั้ง เมื่อเกิดการกระทำขึ้นมา
    ตัวกระทำ...เปรียบเสมือน รูปถ่าย...เหมือนถ่ายวีดีโอไว้
    ภาพ เหล่านี้....จะไม่สูญสลาย จะติดตัว คือ ติดกับดวงวิญญาณของเราตลอดไป
    ตัวกระทำ เหล่านี้....เหมือนเก็บไว้ในย่ามประจำตัวของเรา
    ไม่ว่า การกระทำ นั้น...จะดี หรือ ไม่ดี... จะตั้งใจทำ หรือ ไม่ตั้งใจทำ...ก็จะถูกเก็บสะสมติดตัวไว้

    ระหว่าง ที่มีชีวิต....ผลของตัวกระทำ จะส่งผลย้อนกลับมาตอบแทน ถึงตัวเราอยู่ตลอดเวลา
    เช่น โชคดี โชคร้าย มีลาภ มีอุบัติเหตุ มีสุข มีทุกข์ มีอุปสรรค ....
    การย้อนกลับมา "ตัวกระทำ"....ก็คือ "กรรม" นั้นเอง
    ตัวกระทำ....จึงเป็นเหตุผลใน กฎแห่งกรรม

    เมื่อ...เราตายไป..."ตัวกระทำที่ทำได้
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,706
    ค่าพลัง:
    +51,935
    *** กระทู้นี้ สำคัญยิ่ง ****

    เพราะ.......กระทู้นี้ คือ "หลักสัจจะธรรม"
    เป็นกระทู้ที่อธิบายความจริง ความหมายของ ....... "หลักสัจจะธรรม"

    กระทู้นี้...พยายามอธิบายให้เข้าใจในสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในจักรวาล
    เพื่อให้ "หลักสัจจะธรรม"....... ปรากฏออกไปทั่วโลก

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2007
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,706
    ค่าพลัง:
    +51,935
    *** หาก จะเปลี่ยนแปลงชะตาลิขิต ****

    ชะตาลิขิต...เป็นผลมาจาก การกระทำในอดีต
    นิสันสันดาน...ส่งผลให้เกิดการกระทำ เดิมๆ ซ้ำๆ
    คนๆ นั้น...จึงต้องรับ กรรม ในรูปแบบเดิมๆ ...เพราะ เป็นผลจากการกระทำเดิมๆ จากนิสัยสันดานตัวเดิม
    การที่เราจะเปลี่ยนแปลง...ชะตาลิขิตได้
    จะต้องเปลี่ยนแปลง....นิสัยสันดานเดิมที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด....ต้องทำให้มันค่อยๆลดลง ...และดีที่สุด คือ นิสัยสันดานตัวนั้นหมดไปจากจิตใจในที่สุด

    ทางตรงที่สุด ที่จะลดนิสัยสันดานลงได้....คือ "สัจจะ"
    เพราะ สัจจะ คือ การกำหนดสิ่งที่ดีให้ตัวเองได้ปฏิบัติ....กำหนดไม่ทำในสิ่งที่ไม่ดี ที่ตัวเองชอบทำ...เป็นการให้ความชัดเจนกับตนเอง...ว่าจะมีกำหนดทำถึงเมื่อไหร่
    เมื่อ เราทำได้จริงตาม "สัจจะ" ....ย่อมมีผลตอบแทนแน่นอน
    เมื่อ ปฏิบัติบ่อยๆ สุดท้ายนิสัยไม่ดีจะหมดไปในที่สุด

    ผลของการกระทำ...ไม่ตาย ไม่สูญสลาย ติดตัวเราไปตลอดกาล ...เรียกว่า "ตัวกระทำ"
    ตัวกระทำ...จะส่งผลให้ กรรม เบี่ยงเบนไปได้
    จึงเกิดเป็นเหตุการณ์โชคดี....แคล้วคลาด ปฏิหาริย์.......

    "สัจจะ" ...จึงเปลี่ยนแปลง ชะตาลิขิต ได้จริง !!!!!!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,706
    ค่าพลัง:
    +51,935
    ท่านเข้าใจ..."หลักสัจจะธรรม" อย่างไร หนอ !!!!!!!
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,706
    ค่าพลัง:
    +51,935
    *** กรรม กำลังมา จะทำอย่างไรดี ? ****

    กรรม กำลังปรากฏชัดขึ้นเรื่อย
    ณ เวลานี้
    "การกระทำ" ....เป็นสิ่งสำคัญที่สุด มีคุณค่าประเมินค่ามิได้
    เราจะหลบหลีกจากกรรม ที่จะมาถึงได้....ต้องอาศัย ..."ผลจากการกระทำ"

    การกระทำที่ดีที่สุด...คือ "การกระทำที่สร้าง กรรมเที่ยง"
    คือ "การกระทำที่เกิดจาก สัจจะ" ... และเป็นสัมมาทิฐิ
    การปลด ปลิด ละ เลิก ...สิ่งไม่ดีในชีวิต
    กิเลส นิสัย.... ที่ยังคงมีอยู่ในจิตใจของเรา

    เราจึงต้องพึ่ง "สัจจะ"...เป็นผู้นำให้กับเรา
    นำให้เกิด ...."การกระทำใหม่"
    นำให้เกิด...สิ่งที่ยังไม่เคยทำ สิ่งที่ยังไม่ได้ทำ และสิ่งที่ดีที่ยังทำไม่ได้

    เราจึงควรระลึกอยู่เสมอว่า...
    "สัจจะ เป็นที่พึ่งตลอดชีวิต"

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,706
    ค่าพลัง:
    +51,935
    ศึกษา "หลักสัจจะธรรม"...
    ไม่เสียชาติ ที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ !!!!!!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,706
    ค่าพลัง:
    +51,935
    ยากยิ่งนัก....ที่ หลักสัจจะธรรม...ปรากฏเป็นอักษร อธิบายเด่นชัด อ่านเองได้
    ท่านเคยเห็นบ้างไหม !!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,706
    ค่าพลัง:
    +51,935
    *** ยังพบไม่หมด ไม่ถึงที่สุด ****

    ทุกวันนี้...นักวิทยาศาสตร์ พบว่า ....พลังงานไม่มีวันสูญสลาย
    แต่ ... นักวิทยาศาสตร์ ยังไม่พบว่า....ทุกการกระทำ สร้างพลังงานขึ้นมา
    โลกุตตระ (พระไตรปิฎก) เรียกว่า..."ตัวกระทำ"

    ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้า...ก็เรียก "ตัวกระทำ" เช่นกัน...แต่ขาดการบันทึกไว้
    "หลักสัจจะธรรม" ที่พระพุทธเจ้า ทรงค้นพบ โดยตรัสสรุปไว้สั้นๆ คือ...
    ...
     
  12. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,706
    ค่าพลัง:
    +51,935
    หลักสัจจะธรรม...คือ เหตุผลทั้งมวล

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,706
    ค่าพลัง:
    +51,935
    *** ลองพิจารณา...ความจริงในธรรมชาติ ****

    จิตวิญญาณของเรา...มีตัวตน ไม่ตาย ไม่สูญสลาย
    สิ่งที่เราทำได้จริง....ก็มีตัวตน ไม่ตาย ไม่สูญสลาย...ส่งผลย้อนกลับมาเป็นกรรม
    การกระทำดีที่ทำได้....ก็ไม่ตาย ไม่สูญสลาย มีตัวตน...เป็นบารมี ติดตัวเราไปตลอดกาล
    ผลการกระทำ... ก็ไม่ตาย ไม่สูญสลาย....พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เรียกว่า "ตัวกระทำ"

    รูปสังขาร บนโลก...มีก่อเกิด มีผุผัง มีเปลี่ยนแปลง
    แต่....ก็ไม่สลายไปจากโลก...เป็นละอองธาตุต่างๆ

    การกำเนิดทุกสิ่ง
    เป็นผลมาจาก "ตัวกระทำ" จัดสรร
    การเกิดของเราในชาตินี้...เป็นใคร เป็นอะไร เพศอะไร สมบูรณ์หรือไม่ อยู่ในครอบครัวใด มีพ่อแม่เป็นอย่างไร อยู่ในถิ่นฐานแห่งใด ความเป็นอยู่เรื่องปากท้องเป็นอย่างไร
    ทั้งหมด...ล้วนเป็นการจัดสรรจาก "ตัวกระทำ" ของตัวเราเอง

    การเกิดใหม่...ในแต่ละครั้ง แต่ละชาติ
    จึงเหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่
    .......หาก... " เกิดเป็นสัตว์ หรือ ต้นไม้ " ....ก็คือ การชดใช้กรรม
    ต้องยอมรับ...ผลการกระทำที่เคยทำมาในอดีต
    .......หาก.... "เกิดเป็นมนุษย์"...คือ โชคดีที่สุด
    สามารถเลือกทางเดินตัวเองได้...ว่าจะทำดี ทำในสิ่งไม่ดี....ทำบุญทำกุศลได้
    แต่ สิ่งสำคัญ....ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ....คือ " นิสัยสันดาน "

    "นิสัยสันดาน" ...ส่งผลให้เกิด.... การกระทำแบบเดิมๆ
    ผลการกระทำ...จึงซ้ำๆ เหมือนเดิม เหมือนในชาติก่อน ๆ
    กรรม...จึงเป็นเป็นแบบเดิมๆ....วนเวียนซ้ำๆ อยู่บนโลกแห่งนี้

    หาก...ปรารถนาที่จะพ้นทุกข์อย่างแท้จริง
    คือ...การไม่กลับมาเกิดใหม่
    คือ....การหลุดพ้น
    หลุดพ้นไปจากโลก
    หลุดพ้นสู่นิพพาน...ที่มีอยู่จริงในธรรมชาติ

    การจะหลุดพ้นได้...เราจึงต้อง.... "ขจัดกิเลศนิสัย" ให้หมดสิ้นไปจากจิตใจ
    การจะทำให้หมดไปได้...ต้องฝึกตนเอง
    "นิสัยขี้โมโห"...จะหมดไปได้จริง
    เราจะต้อง.... "ฝึก ไม่โกรธ ไม่โมโห" ...ทุกๆ วัน
    เราฝึกตนเองทุกวัน...นิสัย อารมณ์โกรธโมโห จะลดลง เหลือน้อยลง
    พอรู้ตัว ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้
    จนในที่สุด...นิสัย อารมณ์โกรธโมโห....จะหมดไปจากจิตใจเราเอง
    ในช่วงเวลาที่...ตัวเรา ไม่มีอารมณ์โกรธโมโห...การกระทำของเราก็จะดีขึ้น

    พระพุทธเจ้าทุกพระองค์....จึงสอนให้ ตั้งใจทำความดี
    ตั้งใจละเว้นความชั่ว...ตั้งใจทำจิตใจอารมณ์ไม่ขุ่นมัว
    ด้วย "สัจจะ"
    โดยกำหนด ..."สัจจะเป็นหัวข้อปฏิบัติ" ให้กับตนเองทุกวัน

    เมื่อ...เราอยู่ในความสงบ ทำ "สติว่าง"
    เราพิจารณาตนเอง...เราจะรู้ว่านิสัยไม่ดีของตัวเรา คืออะไร
    แล้วเราจึงนำมากำหนดเป็น "สัจจะหัวข้อปฏิบัติของตนเอง"

    ฝึกทุกวัน...กิเลส นิสัย จะหมดไปได้จริง
    เราต้องพิสูจน์ด้วยตนเอง
    เราจึงจะพบว่า...สิ่งที่กล่าวมา คือ ความจริง
    คือ "สัจจะธรรม"
    ผลการกระทำที่ทำได้ จะเป็นบารมีติดตัวเราไป
    ....... ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน .......
    สิ่งนี้คือ................หลักสัจจะธรรม................

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,706
    ค่าพลัง:
    +51,935
    *** ลองพิจารณาทบทวน ****

    เหตุหนึ่งที่พระไตรปิฎกมาปรากฏ
    เพราะ... "หลักสัจจะธรรม" ความจริงในธรรมชาติถูกบดบังด้วยความเห็น
    คนไม่เห็นคุณค่าของ "สัจจะ"

    โลกุตตระ กล่าวไว้ว่า....ทำดีก็เป็นตน ทำชั่วก็เป็นตน ทำโดยเจตนาก็เป็นตน ทำโดยไม่เจตนาก็เป็นตน

    แต่ทุกวันนี้....ไปสอนตามความคิดเห็น ไม่ตรงกับความจริง
    สอนว่า ....ไม่มีตัว ไม่มีตน ไม่มีเขา ไม่มีเรา
    จึงตรงข้ามกับ "ความจริง"...ตรงข้ามกับ "หลักสัจจะธรรม"

    เพราะ
    หลักสัจจะธรรม... เป็นเรื่องของผลการกระทำที่ไม่ตาย ไม่สูญสลาย ติดตัวเราไป และมีผลตอบแทน
    ผลการกระทำ จากสิ่งที่เราได้ทำไปแล้ว ...เรียกว่า "ตัวกระทำ"
    จึงเป็นเรื่องของตัวตนทั้งสิ้น

    หาก...สิ่งนี้ไม่ตรงกับความคิดท่าน
    ขอให้ท่านลองพิจารณาถึงเหตุและผล
    หาก...ทำไปแล้วไม่มีตัว ไม่มีตน....แล้วผลตอบแทนจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
    แล้ว คนจะสะสมบารมี เป็นพระพุทธเจ้าได้อย่างไร

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,706
    ค่าพลัง:
    +51,935
    *** อภิญญาใหญ่ ****

    สมัยโบราณเรียก "ปริญญา"
    อภิญญาหก...ก็คือ ปริญญาหก

    อภิญญาใหญ่...ที่รอกัน คือ "สัจจะ"
    มนุษย์ทุกคน ทุกศาสนา....สามารถปฏิบัติได้หมดทั้งโลก

    ใครทำ...ใครได้....ใครสำเร็จ
    ผู้ที่เชื่อ....ผู้ที่ทำได้...จะสำเร็จ จะบรรลุ จะหลุดพ้น

    เชื่อ ไม่เชื่อ...อยู่ที่ตัวของเรา
    ท่านจะเลือกเป็น ดอกบัวแบบไหน ???

    ข้าพระพุทธเจ้าบอกแล้วนะ
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๐
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,706
    ค่าพลัง:
    +51,935
    *** ความจริง ****

    ธรรมชาติ
    เที่ยงแท้
    สัจจธรรม

    ตัวกระทำ...ตัวตนของการกระทำ
    เป็นพลัง เป็นสิ่งยิ่งใหญ่ เป็นอมตะ ไม่สูญสลายหายไป
    แต่มองไม่เห็นด้วยตา

    ตัวกระทำ....ตัวตนของการกระทำ
    ส่งผลตอบแทน ปรากฏขึ้นเป็น กรรม
    ผลตอบแทน ย้อนกลับมา เป็นอย่างไร เมื่อไหร่ ไม่อาจรู้ได้

    สัญญาใจ...สัจจะ การกระทำ
    ก่อให้เกิดตัวกระทำ ตัวตนของพลังาน สิ่งยิ่งใหญ่ติดตัวไป
    ส่งผลตอบแทน ที่มิอาจประมาณค่าได้ เป็นปฏิหาริย์ในวันที่กรรมปรากฏ

    ตัวกระทำการสอนสัจธรรม... ของศาสดาทุกพระองค์
    เป็นสิ่งยิ่งใหญ่คู่โลก รวมเป็นพระไตรปิฎก เพื่อนำพาให้หลุดพ้น

    ตัวตนของพระไตรปิฎก...คือ โลกุตตระ
    นำพาให้ชีวิตผู้หนึ่งที่กำหนดไว้ กลายเป็นพระพุทธเจ้า
    เพื่อประกาศสัจจะธรรม และ สัจจะหนทางหลุดพ้น

    โลก...อายุยาวนาน
    สิ่งมีชีวิต เวียนว่ายตายเกิด...ไม่หลุดพ้นเพราะมีนิสัยติดตัว
    ศาสนศาสตร์ นำพาสัตว์ให้หลุดพ้นจากการเกิด มีหนึ่งเดียว
    ความเจริญ และ ความเสื่อมสลาย ...เป็นวัฐจักรเวียนหลายรอบ
    ศาสดา ผู้เคยประกาศสัจจะธรรม และ สัจจะปฏิบัติ มีมากมายเป็นแถว
    ถ่ายทอดหนทางหลุดพ้น จากโลกุตตระ มาทุกยุค
    ซากอารยธรรมเก่าแก่ โบราณ บนพื้นดิน และใต้ดิน คือหลักฐานที่ยิ่งใหญ่

    วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ที่เรียนรู้กัน
    แสนสั้นเหลือเกิน !!!!!!!

    -
     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,706
    ค่าพลัง:
    +51,935
    *** สัจจะธรรม ****

    ทุกวันนี้...มักพูดกันแต่
    นี่คือ สัจจธรรม ....
    มันคือ สัจจธรรม ...
    เป็นไปตาม สัจจธรรม ....

    แต่
    ขาด...ความรู้ที่แท้จริง เกี่ยวกับ "สัจจะธรรม"
    ขาด....วิธี ที่จะนำ "หลักสัจจะธรรม" มาใช้ในชีวิตประจำวัน
    ....... นำมาใช้เป็นเครื่องนำทางหลุดพ้น จากความทุกข์ การเกิด การตาย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,706
    ค่าพลัง:
    +51,935
    *** หลักปฏิบัติสัจจธรรม ****

    พระโลกุตตระเขตะมารัจจะ ท่านกล่าวสอนไว้ว่า......

    สาธุชนทั้งหลาย ควรตั้งอยู่ในศีลในธรรม และมีสัจจธรรม โดยมีหลัก 3 ประการ คือ ต้องมี"ใจ"อันสัจจธรรม มี"ปาก"อันสัจจธรรม และ"ปฏิบัติ"อันสัจจธรรม.....

    1.ใจอันสัจจธรรม-เมื่อใจนึกในสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว ก็ต้องปฏิบัติตามใจที่เป็นสัจจธรรม อย่าให้ออกนอกลู่นอกทาง คือ ไม่ให้เกิดกิเลส โลภ-หลง และไม่ให้ถืออาฆาตพยาบาทกับผู้ใด เมื่อผู้อื่นทำให้เราไม่พอใจ เราก็ถือใจสัจจธรรมว่า ไม่โต้ตอบ จะได้บรรลุศีลอันบริสุทธิ์ถึงขั้นอรหันต์ แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามใจสัจจธรรม ที่ได้มุ่งมั่นไว้ ก็จะทำให้เราลดบารมีศีลไป

    2.ปากอันสัจจธรรม-เมื่อเราลั่นวาจาออกมาแล้วในวาจาระหว่างนี้ เป็นวาจาสัจจธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อพูดว่า"ไป"ก็ต้องไป ถ้าเราพูดว่า"ไม่" ก็ต้องไม่ อย่าพูดออกมาโดยไม่ตรงกับใจ ซึ่งเป็นการผิดไปจากสัจจธรรม เช่น เมื่อเราตั้งใจว่า วันนี้จะขอสุขกายสุขใจ แต่เมื่อพบสิ่งไม่พอใจเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้ปากไม่สงบ คือ ผิดไปจากปากอันเป็นสัจจธรรม จะหลั่งวาจาอันไม่สมควรฟังออกมาแก่ผู้อื่น ถ้าเราถือใจสัจจธรรมและปากสัจจธรรมแล้ว จะต้องตั้งอยู่ในสมาธิ ให้ถือขันติ มีมานะอดทน มีมุทิตา มีอุเบกขา จะได้เป็นการคล้องจองกับการถือใจสัจจธรรม ปากสัจจธรรม และปฏิบัติสัจจธรรม.....

    3.ปฏิบัติอันสัจจธรรม-ต้องให้คล้องจองกับปากและใจ เช่น เมื่อใจคิดว่าสวดมนต์หนึ่งเล่มธูป ปากก็ได้สวดมนต์ ในการกระทำ ก็ต้องกระทำให้ครบเล่มธูป เป็นการคล้องจองไป จะได้มีบุญบารมีสะสมไว้ใจสัจจธรรม ปากสัจจธรรม และปฏิบัติสัจจธรรม ถ้าสามสิ่งนี้ ขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป ก็ถือว่า"ขาดศีล"ในชีวิตครอบครัว ภรรยาเป็นหลักหนึ่งที่ช่วยค้ำจุนองค์สัจจธรรม เมื่อสามีปฏิบัติสิ่งใด ภรรยาควรใช้สายตาตรวจชี้ในสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าสามีจะออกนอกลู่นอกทาง ภรรยาก็ควรช่วยเตือนสติปัญญา ให้เขากลับมา แต่ภรรยาจะต้องถือใจปฏิบัติสัจจธรรม ปากถือปฏิบัติสัจจธรรม และตัวปฏิบัติถือสัจจธรรม จึงจะได้ผล อย่าโมโหโกรธา หน้าบึ้งหน้าบูดหน้าเบี้ยว เป็นกิริยาที่ไม่น่าดูไม่น่าชม แทนที่จะเป็นหลักช่วยกระตุ้นเตือนให้สามี กลับเป็นน้ำมันราดในกองเพลิงให้มันลุกช่วงโชติขึ้นมา เป็นการผิดนอกลู่นอกทางของสามี มิได้เป็นการเสริมสร้างบารมี แต่เป็นการทำลายบารมีของภรรยาเอง ผู้ใดปฏิบัติสามประการนี้ได้ ก็จะเป็นศรีภรรยาตามหลักขององค์สัจจธรรม ลูกหลานจะได้เจริญรุ่งเรือง อุปมาเหมือนปากกับท้อง ดังนี้ คือ :-

    สามีทั้งหลาย ให้ถือว่าเป็น"ปากเป็นเสียง" ภรรยา ให้ถือว่าเป็น"ท้อง" เมื่อสามีใช้ปากดำเนินกิจการต่างๆ ปฏิบัติงานต่างๆ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงชีพเลี้ยงครอบครัว ภรรยาก็เป็นท้องสำหรับรองรับ เมื่อสามีปฏิบัติตามในหลักธรรมที่ถูกต้อง คือ หาเลี้ยงชีพอย่างสุจริตชน ไม่โกงเขา ไม่โลภหลง เงินทองที่ทำมาหามาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย สร้างความภูมิใจ เท่ากับว่า เป็นอาหารอันโอชา เมื่อเงินทองที่ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ ก็เป็นอาหารทิพย์ เมื่อเอามาเลี้ยงท้อง ท้องก็จะอยู่ดี รับด้วยความสบาย มีพลังเข้าถึงหลักธรรมได้ ปากกับท้องนี้ ต้องอยู่คู่กันไปตลอดชาติ เมื่อท้องแข็งแรง ปากก็ดี ก็พลอยให้จิตใจของเราดีไปด้วย เมื่อจิตใจเราดี ผู้นั้นย่อมเจริญรุ่งเรืองไม่มีวันสิ้นสุด

    เมื่อปากที่ให้สมมุติฐานว่าเป็นสามี ได้เงินได้ทองมาในสิ่งที่ผิดๆ เมื่อเอามาเลี้ยงท้องแล้ว ก็จะเกิดเป็นพิษ เมื่อท้องปวดท้องเจ็บ ก็ต้องอุทธรณ์ให้สามีเลิกปฏิบัติการในสิ่งที่ผิด เมื่อปากปฏิบัติถูกต้องแล้ว ท้องก็จะอยู่เย็นเป็นสุข ปากก็จะอยู่เป็นสุข ไม่เป็นพิษไม่เป็นภัยถ้าภรรยาซึ่งเป็นท้อง กินทุกสิ่งทุกอย่าง โลภไม่มีวันหยุด หลงไม่มีวันหยุด ก็พลอยให้ปากผิดไปด้วย ถ้าสามียึดมั่นอยู่ในธรรมะ ก็จะไม่ปฏิบัติตามท้อง ท้องก็จะอาละวาด ทำให้ครอบครัวไม่มีความร่มเย็นเป็นสุข แต่ถ้าสามีที่เป็นปากนี้ เกิดไปหลงผิดตามท้อง หาในสิ่งที่ไม่ดีไม่งามมาป้อนให้ท้องได้สบอารมณ์หมาย แต่ในบั้นปลายผลรับจะเป็นอย่างไร ผลรับนี้ ก็จะทำให้เสียทั้งปากทั้งท้อง

    การปฏิบัติใดๆ ถ้ามีธรรมะ เมื่อเกิดหลงผิดแล้ว ก็ยังมีทางที่จะชำระได้
    บุญ- หมายถึง สิ่งอันบริสุทธิ์สดใส
    กรรมชั่ว-หมายถึง สิ่งที่ดำมืด ไม่มีให้ความสว่าง

    ขอให้สาธุชนทั้งหลาย ค่อยๆศึกษา ค่อยๆปฏิบัติกันไป ให้บรรลุถึงใจสัจจธรรม ปากสัจจธรรม และปฏิบัติสัจจธรรม ให้ครบสามประการ สิ่งใดที่เห็นว่าไม่ถูกต้อง จงใช้อารมณ์เย็นเข้าลูบ เมื่ออารมณ์เย็นเข้าสู่ร่างกายของเราแล้ว ก็จะเกิดสติปัญญาขึ้น และจะมีความสดใสชั่วกาลนาน.........

    http://www.oknation.net/blog/print.php?id=89717

    -
     
  20. newhatyai

    newhatyai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +6,204
    ขออนุโมทนา...สาธุ....สาธุ....สาธุ ให้ตราบเข้าถึงพระนิพพาน
    ขออนุโมทนา...สาธุ....สาธุ....สาธุ ให้ตราบเข้าถึงพระนิพพาน
    ขออนุโมทนา...สาธุ....สาธุ....สาธุ ให้ตราบเข้าถึงพระนิพพาน
    ข้าจะขอยึดหน่วงเอาซึ่งพระพุทธเจ้า พระปริยัติธรรมเจ้า พระอริยสงฆ์เจ้า แลคุณพระพุทธเจ้า แลคุณพระนวโลกุตรธรรมเจ้า แลคุณพระอริยสงฆ์เจ้าในอดีตอนาคตปัจจุบัน จงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าตราบเข้าสู่พระนิพพาน แลข้าจะขอนมัสการกราบไหว้ พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสงฆ์เจ้า อันเป็นอดีตอนาคตปัจจุบันสิ้นกาลนานทุกเมื่อ แลข้าพเจ้าจะข้อเป็นข้าแห่งพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสงฆ์เจ้า ขอพระพุทธเจ้าจงมาเป็นเจ้าเป็นใหญ่แก่ข้า ขอพระบาทาของพระพุทธเจ้า จงมาประดิษฐานอยู่เหนือเศียรเกล้าแห่งข้าสิ้นกาลทุกเมื่อ ขออาราธนาพระธรรเจ้าทั้งมวลนั้นจงมาประดิษฐานอยู่เหนือเศียรเกล้าแห่งข้าสิ้นกาลทุกเมื่อ ขอพระอริยสงฆ์เจ้าจงมาเป็นเจ้าเป็นหใหญ่ ข้าขอาราธนาคุรแห่งพระอริยสงฆ์
    จงประดิษฐาน อยู่เหนือเศียรเกล้าแห่งข้าสิ้นกาลทุกเมื่อ สิ่งอันอื่นที่จะได้เป็นที่พึ่งแก่ข้าหามิได้ ถ้าเว้นแต่พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสงฆ์เจ้าเป็นที่พึ่งแก่ข้าพเจ้าเที่ยงแท้นักหนา ข้าไหว้ละอองธุลีบาททั้งหลายพระลายลักษณ์สุริยฉาย มงคลทั้งหลายจงมาบังเกิดแก่ข้าด้วยคำสัจนี้เถิด อนึ่งโทษอันใดข้าได้ประมาทพลาดพลั้งไว้ในพระพุทธเจ้าอันเป็นอดีจอนาคตปัจจุบัน ขอพระพุทธเจ้าขอมาอดโทษทั้งปวงนั้นให้แก่ข้าพระพุทธเจ้านี้เถิด ข้าขอกราบไหว้พระธรรมเจ้าทั้ง 2 ประการอันประเสริฐ โทษอันใดข้าได้ประมาทพลาดพลั้งไว้ในพระธรรมเจ้าทั้ง 2 ประการ ขอพระธรรมเจ้าทั้ง 2 ประการจงมาอดโทษทั้งปวงนั้นให้แก่ข้าพระพุทธเจ้านี้เถิด ข้าขอกราบไหว้พระอริยสงฆ์เจ้าทั้ง 2 ประการอันประเสริฐ โทษอันใดข้าได้ประมาทพลาดพลั้งไว้ในพระอริยสงฆ์เจ้าทั้ง 2 ประการ ขอพระอริยสงฆ์เจ้าทั้ง 2 ประการจงมาอดโทษทั้งปวงนั้นให้แก่ข้าพระพุทธเจ้านี้เถิด
     

แชร์หน้านี้

Loading...