** ฉันทะ ** วัตถุมงคล หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา **

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ตุ้ย ฉันทะ, 16 พฤษภาคม 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. อิฐมอญ

    อิฐมอญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,385
    ค่าพลัง:
    +1,444
    ขออนุญาติตอบแทน พี่โจ แบบคร่าวๆนะครับ

    8:00-8:30 - รวมพลที่ปั๊ม ปตท. (ที่สอง) ตอนเข้าสายเอเซีย
    8:30-10:00 - ออกเดินทางสูงจังหวัดสิงห์บุรี (รวมแวะทานอาหาร)
    10:30-13:00 - อยู่ที่วัดกลางชูศรี กราบหลวงพ่อทอง สนธนาธรรม (ตามอัธยาสัย)
    13:00-14:30 - เดินทางมาวัดสะแก
    14:30-16:00 - กราบหลวงปู่ดู่ ชมพิพิธภัณฑ์ (ตามอัธยาสัย)
    16:00......... - ทานอาหารเย็น เดินทางกลับ

    แบบคร่าวๆนะครับ อาจเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม น่าจึงกรุงเทพฯ ประมาณ 20:00 โดยประมาณ
     
  2. hmg

    hmg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,504
    ค่าพลัง:
    +4,322
    สวัสดีครับ ขอร่วมศึกษาด้วยคนนะครับ
     
  3. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    ความจริงในใจลึกๆ..ก็อยากบอกเจ้าปืนมันหยังนั่นล่ะครับ แต่ไม่ค่อยกล้าพูด ความที่ออกจะคุ้นเคยกับตำรวจมากอยู่พอสมควร ได้รับเชิญเป็น กก.ตร.ของบางสถานีก็หลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยให้ความสนใจ จะว่าไปแล้วอาชีพตำรวจก็ดีอยู่หรอก แต่ผมว่าดูไปยังออกจะไม่ค่อยเข้ากับคนที่เป็นสมาชิกเวบพลังจิตเท่าไรหรอกครับ

    เรียนก็อย่างหนึ่ง ความตั้งใจดีแต่แรกเริ่มก็อย่างหนึ่ง แต่เมื่อเริ่มทำงานแล้ว ระบบมันเป็นตัวควบคุม เรียกว่าอย่าพูดอะไรมากเลย เอาว่ามัน " เหนื่อย / กดดัน" และก็ "เครียด" ก็แล้วกัน ที่สุดแล้วเห็นเพื่อนๆคนดีๆ โดยเฉพาะคนสายธรรมอยู่ไม่ได้หรอกครับ หากพอมีช่องทางไปได้ ออกกันหมด

    เจ้าปืนเรียนเก่ง ถึงขนาดสอบได้เป็นอันดับ 1 และอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของอนาคตทั้งชีวิต ความที่หัวดีอยู่แล้วอยากสนันสนุนให้เสี่ยงในระดับที่สูงกว่าต่อไป หากชอบเรื่องการปกครอง อาจเลือกสายรัฐศาสตร์ พยายามฟิตหนักๆ สอบบรรจุให้ได้ อยู่สายปกครองมหาดไทย ถึงแม้บางเรื่องอาจจำเป็นต้องกั๊กๆอยู่บ้าง แต่ก็เบากว่าตำรวจแยะ..แต่หากเลือกสายนิติ ความที่หัวดีอยูแล้วฟิตให้หนักจริงๆ เอาให้ถึงอัยการ หรือผู้พิพากษาเลย นั่นล่ะที่สุดของตัวเองและของวงศ์ตระกูลแล้ว จบปั๊บ..พี่โจยังต้องเรียกว่า "ท่าน" เลยตั้งแต่ยังหนุ่มๆ และก็ยังต้องเป็น "ท่าน" ไปจนตลอดชีวิต

    และหากไม่ทั้งสองสายยังมีโอกาส มีเวลาเลือกเรียนสาขาต่างๆอีกเยอะ ค่อยๆค้นหาตัวเอง หาความชอบของตัวเองให้ได้อย่างแท้จริง ซึ่งความชอบอาจเปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อยๆ ตามแต่ประสบการ์ณชีวิตและวัยวุฒิที่เพิ่มขึ้น

    ปล.ไม่ทราบปืนเรียนอยู่ชั้นไร อายุเท่าไร ลองๆเข้าไปดูที่ รร.การบินพลเรือน ซิ..น่าสนใจมาก จบปุ๊บไม่มีตกงาน แถมเงินเดือนสูงมากที่เดียว แต่ต้องฟิตภาษาอังกฤษมากๆหน่อยน่ะ หลานคนหนึ่งเพิ่งจบไม่กี่ปี ตอนนี้ทำงานอยู่บริษัทขุดเจาะน้ำมัน เงินเดือนรู้สึกจะแสนกว่าบาทแล้ว ยังไม่รวมสวัสดิการอื่นๆเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2012
  4. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    ยินดีครับ หากมีอะไรติติง แนะนำอะไร เชิญได้เลยน่ะครับ..กระทู้ว่างๆ เข้ามาพูดคุยกันครับ
     
  5. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    มีน้องๆ Pm. มาถามความคิดเห็นผมว่า ผมมีความคิดเห็นอยางไรกับเรื่องความศักดิ์สิทธิ์แห่งวัตถุมงคลว่ามีจริงหรือไม่ และถ้ามีแล้วทำไมพระทางสายอีสาน สายพระปาท่านจึงไม่ค่อยสนับสนุนล่ะครับ ?

    <O:p</O:p
    ครับ..จากคำถามนี้..ความจริงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ผมจะพยายามค่อยๆไล่เรียงคำตอบให้เข้าใจง่ายๆ (ตามความคิดเห็นผม ซึ่งอาจจะผิดก็ได้ ) แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเขียนได้ดีเท่าไหน เพราะอย่างที่บอก เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่เดียว ต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจกันที่ละขั้นที่ละตอน

    <O:p</O:p
    และก่อนที่จะเขียน ผมเองต้องขอออกตัวก่อนเลยครับว่า ผมถือว่าผมเป็นผู้หนึ่งที่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็น "ศิษย์พระป่า" เต็มตัว เป็นสิบปีไม่เคยไม่ห้อยวัตถุใดเลยทั้งสิ้น เอาแต่เพียรปฏิบัติอย่างเดียวซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังคงยอมรับว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้องที่สุด และก็ยังคิดว่าตนเองคงความเป็นศิษย์พระป่าอย่างเหนียวแน่นที่สุดคนหนึ่งจนตลอดชีวิต และทุกกาลทุกชาติไป.... <O:p</O:pอย่างไรก็ดี เมื่อปฏิบัติไปแล้วช่วงหนึ่ง เราจะเริ่มค้นหาคำตอบให้แก่ตนเอง..

    ผมเคยเวียนถามตัวเองหลายๆครั้ง หลายๆร้อยครั้งกับคำถามซ้ำๆในจิตว่า ที่แท้ความศักดิ์สิทธิ์แห่งสิ่งที่เรียกว่า "วัตถุมงคล"นั้นมีจริงหรือไม่ ?..<O:p</O:pคำตอบที่ได้แก่ตนเองก็คือ แบ่งเป็นหลายมิติ

    <O:p</O:p1. ถ้าเราจะเอาการปฏิบัติอย่างเดียว ก็ควรมุ่งหน้าไปเลยไม่ต้องสนใจใดๆทั้งสิ้นกับวัตถุมงคล ฟาดฟันมันไปเลยกับอาสวะทั้งหลายเอาชนะให้ได้ในชาตินี้นั่นแหละ ไม่ต้องรอไปชาติไหน เอามันให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์กันไปเลย แต่กรณีเช่นนี้ควรพิจารณาในธรรมส่วนลึกว่า ที่แท้แล้ว นิพพานนั้นเหมาะกับสภาวะเพศใด แม้ตำราพระไตรปิฏกจะมิได้ห่วงห้ามไว้กับเพศบรรชิตเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแห่งสังคมปัจจุบันเล่า เพศแห่งฆราวาส เพศแห่งการครองเรือน รวมถึงสิ่งแวดล้อมปัจจัยต่างๆ นั้นเหมาะแล้ว มีกำลังเพียงพอแล้ว เอื้อต่อการเอาชนะกิเลสทั้งหลวงทั้งปวงได้หมดสิ้นจริงหรือ ?

    <O:p</O:p2. หากเราจำเป็นต้องอยู่ในเพศแห่งฆราวาสเพศแห่งการครองเรือนแล้ว นั้นจึงต้องมาพิจารณาธรรมแห่งความเหมาะสมแก่สภาวะเพศของตนเองว่า " เหยียบเรือสองแคม " คือ ทางโลกไม่ให้ช้ำ ทางธรรมไม่ให้ขุ่น " นั่นคือ ต้องหาความพอเหมาะพอควรให้กับตัวเอง ซึ่งแต่ละคนต่างมีความพอเหมาะ หรือคำว่าที่ว่า พอ ให้แก่ตนเองที่แตกต่างกัน

    <O:p</O:p3. การที่ครูบาอาจารย์สายพระป่าท่านไม่ค่อยส่งเสริมให้ข้องแวะกับเรื่องวัตถุมงคลใดๆ รวมถึงวิธีการนั่งสมาธิแล้วส่งเสริมให้จิตออกนอกไปยังสถานที่ต่างๆ จุดประสงค์ที่แท้จริงของแต่ละองค์ท่านก็คือ ท่านห่วงว่าเราจะหลงทาง จะไปยึดติด เสี่ยงต่อการออกนอกลู่นอกทาง ท่านก็เลยตัดเสียแต่ต้นทาง เพื่อให้หมดปัญหาไป มุ่งไปแต่ทางเดียวเลย คือ ทางแห่งการปฏิบัติทางจิต ดูจิต ชำระจิต เอาชนะจิต เข้าสู่เส้นทางแห่งพระนิพพานโดยตรง ไม่ข้องแวะลดเลี้ยวไปกับสิ่งภายนอกใดๆให้เนิ่นช้าเสียเวลา แต่ก็ใช่ว่าการที่ท่านจะไม่สนับสนุนซึ่งวัตถุมงคลทุกประเภท จะหมายความถึงท่านปฏิเสธเสียซึ่ง " ความศักดิ์สิทธิ์แห่งวัตถุมงคลนั้นๆ "ซึ่งทุกองค์สำหรับท่าน ถ้าจะทำให้วัตถุชิ้นหนึ่งๆให้คงความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา พระระดับอริยะสงฆ์อรหันต์เช่นนี้แล้ว ถือเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ต้องใช้คาถงคาถาใดๆทั้งสิ้น เพียงจิตล้วนๆของท่านเท่านั้นล่ะ

    <O:p</O:p4. ความศักดิ์สิทธิ์แห่งวัตถุมงคลมีจริง วัตถุมงคลนั้นมีความเหนียวจริง คงกระพันจริง เมตตาแคล้วคลาดจริง ทั้งหมดแม้จะไม่ใช่เส้นทางแท้แห่งพระนิพพาน แต่ก็เป็นสิ่งหนึ่งเป็นหลักยึดที่ดีเหมาะกับโลกแห่งการเหยียบเรือสองแคม แต่กระนั้นความศักดิ์สิทธิ์นั้นๆก็ใช่จะเกิดขึ้นโดยตลอดเวลากับใครก็ได้ ความจริงยังต้องเชื่อมโยงระหว่างกันและกันคือ ต้องอาศัยจิตผู้ใช้ อาศัยความดีงาม ความสะอาดแห่งจิตใจด้วย พุทธคุณนั้นๆจึงจะสำแดงบังเกิดผลได้ ซึ่งเราจะเรียกในหลายๆแง่ก็ได้ เช่นเทวดาที่รักษาพระองค์นั้นองค์นี่ท่านสื่อถึงเราได้ เป็นต้น

    <O:p</O:p5. นอกจากทางด้านสายพระป่ากรรมฐานแล้ว ผมยังอาจกล่าวได้ว่า ได้มีโอกาสฝากตัวเป็นศิษย์กับพระอาจารย์แห่งสาย โลกอุดร พระอภิญญา ได้รู้ได้เห็นรู้อะไรหลายๆอย่าง จากความที่มีนิสัยออกจะดื้อด้านไม่ค่อยเชื่ออะไรง่ายๆ ที่งมๆงายๆ ต้องเป็นวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้เท่านั้น (อย่างที่เคยเขียนสันดานตัวเองไปแล้วในกระทู้เก่าๆ) ดังนั้นครูอาจารย์บางท่าน ท่านอาจเบื่อขี้หน้าเรา จึงดลอะไรหลายๆอย่าง ให้เราได้เห็นได้รู้จากตาเนื้อเป็นๆนี่แหละ จึงไม่อาจปฏิเสธได้เลย ถึงโลกอันลี้ลับ และความศักดิ์สิทธิ์แห่งวัตถุมงคลนั้นๆว่า มีจริงแท้แน่นอนพันเปอร์เซ็นต์ รวมถึงครูบาอาจารย์สายพระป่าเอง (บางองค์ที่มีโอกาสได้เห็น เห็นจริงๆ ไม่ได้เห็นจากหนังสือ) จะให้ท่านพิมพ์ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เป็นอันโดนท่านถองกระเด็นแน่ แค่เอาเศษผ้าจีวรเก่าๆของท่าน ไปตัดเป็นแผ่นเล็กๆ วางเรียงทับกันได้สักความหนาเท่ากระดาษรีมหนึ่ง..นิมนต์ให้ท่านใช้แป้งดินสอพองธรรมดาๆนี่ล่ะ กดเจิมพอเป็นพิธีให้หน่อย..เริ่มต้นท่านก็เจิมที่ละแผ่นที่ละแผ่นนั่นแหละ ไปสัก 6-7 แผ่น ท่านว่าช้าแท้ เอาเร็วๆดีกว่า คราวนี้กดที่เดียวทะลุถึงผืนสุดท้ายเลย..นี่เล่าแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆที่เคยเห็นเท่านั้น ถามท่าน บางองค์บางหลวงปู่ท่านก็ไม่ตอบอะไร ยิ้มๆแล้วก็หัวเราะๆ..บางองค์สนิทสนมก็ว่าของกล้วยๆ เราก็ทำเป็นเหมือนกัน..ตอบเสร็จแล้วก็หยุด ไม่เห็นตื่นเต้นอะไร บางองค์ก็ตอบว่า วิชาทางโลกแค่สมาธิระดับอุปจารสมาธิก็ทำได้แล้ว..นี่แค่ตัวอย่างเท่าที่เคยได้เห็นมา ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะพูดว่าอะไร นี่ถ้าเป็นปัจจุบันสงสัยพระเกจิองค์นั้นคงดังระเบิด สงสัยศิษย์แย่งกันส่งข่าวลงหนังสือพิมพ์ หนังสือพระกันให้วุ่น โปรโมชั่นสักหน่อย วัดกับกรรมการวัดรวยเละทีเดียว แต่สำหรับพระป่าท่านเป็นเรื่องง่ายๆ ทำกันเงียบๆ แจกจ่ายกันเฉพาะหมู่ศิษย์ใกล้ชิดเท่านั้น ไม่เคยเผยแพร่ออกไปสู่วงการพระ หรือตลาดพระแต่อย่างใด

    6. โดยสรุปถ้าเรามั่นใจตัวเองว่าเดินสู่เส้นทางปฏิบัติ เอากันฟากตาย เอากันให้ถึงพระนิพพานจริงๆ ก็ไม่ต้องสนใจหรอกครับเรื่องของวัตถุมงคลทุกประเภท แต่ถ้ายังคงกล่ำๆกลึงๆ โลกครึ่งหนึ่ง ธรรมครึ่งหนึ่ง ก็เอาไว้บ้างเถอะครับ กลางๆสบายๆ อย่าไปถือตนเป็นผู้ปฏิบัติคร่ำเคร่ง เป็นผู้เดินสู่เส้นทางแห่งธรรมแท้อันถูกต้องสูงสุดแล้ว จนไม่ต้องยึดติดกับอะไรทั้งปวง เพราะหากถึงระดับนี้ที่แท้จริงยังต้องพิจารณาให้ลึกลงไปอีกว่า "เป็นการไม่ยึดติดจริง" หรือ ไปยึดที่ตัว "ติดดี " แทน ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนทางจิตมากๆ..จนปัจจุบันผมยอมรับในความจริงแห่งระดับภูมิจิตตนเองว่าที่แท้ยังไปไม่ถึงไหน อย่างไรก็แค่ระดับอนุบาล และหันมาสวมใส่พระเครื่องบ้างในปัจจุบัน<O:p</O:p<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2012
  6. purn05

    purn05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +406
    _/\_ขอบคุณค๊าบพี่โจ+พี่watcharapasที่ให้แง่คิดดีๆค๊าบ ปืนเองตั้งแต่ขึ้นมัธยมมาก็แอบปลื้มอาชีพตำรวจเป็นการส่วนตัวแล้วครับพี่ ไม่รุ้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกันครับผม คิดว่าสักวันต้องเป็นให้ได้อาชีพนี้ พอจบม.3 ก็ไปสอบเตรียมทหาร ซึ่งตอนนั้นไม่ความจิงจังกับชีวิตเลยพี่ ชอบก็ชอบอยู่นะครับแต่ยังเป็นช่วงยังอยากเล่น อยากอยู่กับเพื่อน ก็ไปสอบคิดในใจไม่ติดไม่เป็นไรเดี๋ยวค่อยสอบใหม่ปีหน้า สุดท้ายปีนั้นกินแห้วครับ พอปืนขึ้นม.4กะว่าปีนี้ต้องเอาจริงหล่ะพอต้นปีก็เริ่มอ่านหนังสือ(อย่างหนัก)ยิ่งเห็นเหตุการที่พี่แคนกับพี่ตี้ (ร.ต.อ.ธรณิศ ศรีสุขและร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ)เลือดในตัวสูบฉีดคิดในใจต้องสานต่องานของพวกพี่เขา กะว่าถ้าสอบติด เรียนจบยังไงก็จะเลือกลงที่3จังหวัด ปีนั้นประมาทมากครับคิดว่ายังไงก็ติดอยู่แล้ว เรียนไปๆเริ่มเจอเนื้อหาม.ปลาย ได้เจอเพื่อนๆ คิดในใจอีกนานกว่าจะสอบค่อยอ่านก็ได้เริ่มอ่านน้อยลงวันละนิดๆ จนกลางๆเทอมแทบไม่อ่านเลย เริ่มทิ้งเนื้อหาม.ต้น ไปเรียนเนื้อหาม.ปลายมากขึ้น พอถึงช่วงใกล้สอบก็เอาหนังสือเกี่ยวกับเนื้อหาม.ต้นมาอ่าน อ่านไม่ทันครับพี่ToT จะหยิบเรื่องนุ้นมาทำโจทย์ก็ลืมเรื่องนี้มาอ่านก็ลืม(ลืมเนื้อหา) สุดท้ายไปสอบพร้อมความรู้ที่ไม่เต็ม100 สุดท้ายแห้วครับ อายุก็เกินอิกToT ผมเลยเจออีกเส้นทางนึงคือเรียนป.ตรีแล้วไปสมัครสอบประทวนแล้วค่อยเอาวุฒิไปปรับยศทีหลัง ก็เลยเริ่มลงเรียนรามคำแหง( Pre-degree) ตอนนั้นตำรวจชั้นประทวนยังใช้วุฒิป.ตรีในการสอบครับ กะว่าเรียนสัก2ปีครึ่งคงจบ อายุคงประมาน21-22คงได้สอบตำรวจแน่ๆช่วงก่อนเรียนจบม.6 เพื่อนๆเขาก็ไปเอ็นกันผมก็อยู่ว่างๆเพื่อนไปสอบที่ไหนก็ไปกับเขา(ได้ขอเงินแม่ไปเท่วด้วย 55+) เลยไปสอบธุรกิจการบินของม.ราบภัฏสวนดุสิดดูเล่นๆ (ผมโง่อังกฤษมากๆ55+)ดันฟลุ๊คสอบติดตอนแรกกะไปเรียนอยู่ครับเห็นเงินเดือนแล้วล่อตาล่อใจ แต่คิดไปคิดมางานมันดูเหนี๊ยมๆไม่เหมาะกับผมเลย คราวนี้เพื่อนชวนมาสอบโควตารับตรงวิศวะ มอ.ผมก็เลยลองไปสอบดู เข้าไปจำได้ว่ามั่นใจไม่ถึงครึ่ง พอวันประกาศผลผมกลับสอบผ่าน55+ ตอนนั้นแม่รู้ว่าผมอยากได้ตำรวจมากกว่า ท่านบอกอย่าเอาเลยเอาวิศวะดีกว่า ด้วยเสียงทัดทานจากแม่เริ่มเบี่ยงเบนตัวเองหันมาจิงจังกับวิศวะมากขึ้น ช่วงนั้นประมานเดือนกันยายน 2554 ผมมีที่เรียนเป็นกลุ่มแรกๆของโรงเรียน มีเวลาว่างเยอะมากเล่นเกมส์จนเบื่อจนไม่อยากเล่นเลยครับพี่55+ ผมเห็นป้ายติดประกาศรับสมัครของโรงเรียนชุมพลทหารเรือเริ่มจุดประกายให้ผมสนใจทางนี้ขึ้นมาอีกครั้งผมเลยลองสมัครกะสอบเล่น ถ้าติดตำรวจน้ำก็เอา แต่ถ้าติดเหล่าอื่นไม่เอา(ในชุมพลทหารเรือแยกอีกหลายเหล่าหลายพรรคครับผม) ช่วงนี้ว่างๆเลยได้อ่านหนังสือบ้างครับอ่านเรื่อยๆไม่กดดัน พอถึงวันประกาศผล "ผมสอบติด"ToT หนักใจเลยครับว่าจะเรียนวิศวะหรือจะเอาตำรวจน้ำดีไหนจะต้องเรียนรามอิก แต่คิดไปคิดมาตำรวจน้ำเรียน2ปีครึ่ง ซึ่งผมถือว่านานพอสมควรเลยและมีข่าวแว่วๆว่าตำรวจรับวุฒิม.6
    เลยสละสิทธิ์ตำรวจน้ำมาเรียนวิศวะ มาเรียนแรกๆก็แฮ็ปปี้ครับเจอเพื่อนฝูงไปเที่ยวนุ้นเที่ยวนี่แต่ก็ยอมรับว่าเรียนหนักพอสมควรเลยครับผม แต่พอไปได้โดยส่วนตัวผมชอบวิชาฟิสิกส์กับคณิตศาสตร์เป็นการส่วนตัว เลยไม่ค่อยมีปัญหากับเรื่องเรียนแต่มาสะดุดตรงที่รุ่นพี่แนะแนวให้เลือกลงสาขา ไม่มีสาขาไหนที่ผมอยากเรียนเลยครับ พี่เขาที่จบไปแล้วก็มาแนะแนวว่าการทำงานของวิศวะเป็นอย่างไร ทำหน้าที่อะไร ดูแล้วมันไม่ใช่ตัวผมเอาซะเลย ช่วงนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติประกาศรับนายตำรวจชั้นประทวนวุฒิม.6หลังจากที่รับวุฒิป.ตรีมา5ปี ผมเลยตัดสินใจสมัครสอบและก็ไม่พลาดที่จะเลือกลง"ศชต."55+ วันนั้นเดินไปบอกแม่ไม่เรียนและวิศวะ ไม่ใช่ตัวผมเลย ท่านก็ไม่ว่าอะไร ช่วงนั้นผมเลยว่างเพราะไม่ได้เรียนที่ไหนเลย เลยมีเวลาอ่านหนังสือนิดหน่อย ก็อ่านบ้าง+เล่นเป็นบางเวลา สุดท้ายก็สอบตำรวจติด ตอนวันประกาศผลลุ้นจนไม่ได้กินข้าวเลยครับพี่โจ ถ้าประกาศผลมาผมสอบไม่ติดยุ่งเลยครับต้องเรียนซ้ำปี1วิศวะใหม่ และปีหน้าได้ข่าวเขาจะไปรับป.ตรีเหมือนเดิม แต่โชคดีสอบติด ต้องขอบคุณท่านพี่หมีมานะโอกาสนี้ด้วยครับ ช่วงนั้นเครียดจัดเลยครับหัวผมกับวิชาภาษาอังกฤษไปกันไม่ได้เลย ท่านพี่หมีบอก"แกไปขอพรพระเยซูสิ" 55+ ผมขอจิงๆ สุดท้ายคะแนนออกมาไม่ขี้เหล่ เต็ม25 ได้18 555+ เดามากกว่าทำอิกมั่นใจอยู่ไม่เกิน10ข้อครับ ตอนนี้ปืนเรียนรามรัฐศาสตร์ไว้1ใบด้วยครับ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเหลืออีก2ปีจบค๊าบ กะว่าพอจบป.ตรีไม่แน่ก็โยกไปสายมหาไทยแต่ทำงานแล้วโอเคความแน่วแน่ยังไม่เปลี่ยนก็จะใช้ป.ตรีปรับยศเป็นสัญญาบัติค๊าบบบบ
    ปล.การบินพลเรือนภาษาอังกฤษทั้งนั้นเลยอ่ะพี่โจ หัวผมไม่ไปเอาซะเลย:'(
    ตอนนี้อายุ 18ขวบ ค๊าบ :cool:
     
  7. max_thonglor

    max_thonglor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    317
    ค่าพลัง:
    +704
    คุณโจ.....ประสบการณ์เยอะนะเนี่ย


    (มีน้องๆ Pm. มา ถามความคิดเห็นผมว่า ผมมีความคิดเห็นอยางไรกับเรื่องความศักดิ์สิทธิ์แห่งวัตถุมงคลว่ามีจริงหรือ ไม่ และถ้ามีแล้วทำไมพระทางสายอีสาน สายพระปาท่านจึงไม่ค่อยสนับสนุนล่ะครับ ?)
     
  8. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    เห็นผมอย่างเนี่ย..ถ้าสมัยวัยรุ่นจริงๆ ไม่เอาเลยน่ะครับคุณ Max ไม่เหมือนเจ้าปืน และน้องๆสมาชิกเราหลายๆคนในห้องนี้ ผมนี้ถือว่าแย่สุดกรู่เลย..ขนาดบางที่เห็นพระมาเดินกระป๋องเรี่ยไร่ หรือนั่งท้ายรถกระบะ เอาลูกนิมิตรมาวาง สาดน้ำที่เรียกว่าน้ำมนต์มาโดนตัวเรา ยังเอาพวกเตะกระจายเลย เหี้ยวพอสมควรทีเดียวล่ะ และที่เกๆกับพระปลอมๆนี่ ก็ไม่ใช่ไรหรอกครับ ความที่เราคุ้นอยู่กับวัดตั้งแต่เด็กๆ เรียนก็เรียนโรงเรียนวัด พูดจริงๆ เห็นอะไรลึกๆมามากกับพระในเมือง ใจมันก็เลยไม่ค่อยจะศรัทธาสักเท่าไรหรอกครับ จริงๆตอนนั้นยังอยากเข้าศาสนาคริสมากว่าเลย เพราะไม่ศรัทธาในพระที่เห็นๆกันโดยทั่วไปเลยสักนิด

    มาดีขึ้นหน่อยก็ตรงได้คุณแม่แฟน ท่านเป็นนักปฏิบัติ เป็นศิษย์สายพระป่า ก็เลยค่อยๆโน้มน้าวผม ให้เข้ามาในเส้นทางสายนี้..

    องค์แรกที่ได้เห็นจำได้แม่นยำที่สุดเลยก็คือ องค์หลวงตามหาบัว ในสมัยที่ท่านยังไม่ค่อยเปิดตัวเหมือนสมัยนี้ ตอนนั้นกิตติศัพท์ท่านได้ยินว่าดุมากๆ (ดุกิเลส) ความประทับใจครั้งแรกก็คือ ได้เห็นพระเดินแถวตอนเช้า รับบิณฑบาตรด้วยอาการอันสงบ งามตา ต่อมาได้เห็นพระนั่งเป็นระเบียบ เรียบร้อย ฉันข้าวในบาตร ด้วยอาการอันเงียบสงบ สำรวม ไม่มีการพูดคุยกัน ไอ้เราก็งง มีอย่างนี้ด้วยเหรอ เกิดมาไม่เคยเห็น ก็อยู่แต่กรุงเทพ เกิดกรุงเทพ เห็นแต่พระบ้านพระเมือง แย่งเส้นทางกันบิณฯบ้าง บางองค์ก็บิณฯ บางองค์ก็ไม่ต้องบิณฯ สั่งมากินเอา เวลากินก็นั่งล้อมวงกิน พูดคุยกันปกติ หรือจะกินเดี่ยวๆเบริดๆก็ได้ ก็เหมือนเราๆท่านๆกินกันนั้นแหละ เห็นความแปลกแตกต่างเช่นนี้ ก็เลยเริ่มติดใจ

    แรกๆตอนยังทำงานประจำ ยังเป็นลูกจ้างบริษัทอยู่ ก็หาโอกาสไปกับคณะทัวร์ธรรมะต่างๆ คิดว่าคุณแม็กซ์ยังพอน่าจะจำได้ ในสมัยนั้นก็มี คณะของคุณอาคม ทันนิเทศ ทอ. 01 , คณะของคุณณรงค์ แห่งธรรมยาตราทัวร์, คณะธรรมจารี, คณะของคุณหญิงสุรีพันธ์ บ้าง, แล้วก็คณะของที่อื่นๆอีกเยอะแยะจำชื่อไม่ค่อยได้แระ..ประมาณๆนี้..หรือลุยเดียวขึ้นรถทัวร์ไปหาเองก็มีมากมายหลายครั้ง

    แก่วัดเข้าพอรู้เส้นทาง คราวนี้ก็ไปเอง ออกไปกับเพื่อนสนิทที่สุดเพียงสองคนเรากะมัน (ตอนนี้ตายแล้ว) เรียกว่าออกกันทุกอาทิตย์ เอารถออกตอน 2 ทุ่มวันศุกร์ ถึงอีสาน หรือ เหนือตอนเช้ามืด หรือไม่ก็ตีสี่ตีห้า วันเสาร์ แปรงฟันที่ปั้มน้ำมัน แล้วก็ลุยเลย วัดป่าต่างๆทั่วอีสาน ออกจากอีสานก็ตอนดึกวันอาทิตย์ ถึงกรุงเทพฯวันจันทร์ตี 4 เข้าบ้านอาบน้ำทำงานเลย เป็นอย่างนี้อยู่หลายๆปี

    ต่อมาเลิกจากงานประจำ มาเป็นเถ้าแก่เอง โชคดีงานการดี เลยพอมีกะตังค์กับเขาบ้าง แล้วก็พอมีเวลาว่างเยอะ คราวนี้ออกรถตู้เลย เรียกว่าออกกันแทบทุกอาทิตย์ แทบไม่มีวันเว้น จำได้คันแรกคือ โตโยต้าหัวจรวดรุ่นแรก คราวนี้ก็จัดทัวร์เลย รวบรวมเพื่อนๆที่มีความชอบเหมือนๆกัน ไปด้วยกัน ลุยด้วยกัน กลับมาก็แชร์ค่าใช้จ่ายเท่าๆกัน สนุกมากๆครับชีวิตช่วงนั้น ในเส้นทางสายนี้ข่าวคราวมีเข้ามาตลอด องค์นั้นดี องค์นั้นงาม องค์นั้นเก่ง ไอ้เราก็ตามติดตลอด ป่าลึกๆต้องเอารถจอดทิ้งไว้ ต่อรถอีแต๋นชาวบ้านก็เอา เดินเท้าก็เอา มุดเข้าถ้ำดิบที่ยังไม่มีการพัฒนามีแต่เทียนไขก็เอา (น้ำตาเทียนนี่เล่นเอามือพองเลย) หลงทางก็บ่อย เจอของปลอมบ้าง ของแท้บ้าง สลับกันไป สนุกมากๆ แล้วก็มีเรื่องแปลกๆเยอะเหลือเกิน ไม่รู้จะเล่ายังไง

    สิบกว่าปี..ก็เลยมีโอกาสได้กราบครูบาอาจารย์ฝากตัวเป็นศิษย์มากอยู่เหมือนกันครับ เสียดายแต่ปัจจุบันเกือบทุกองค์ก็พากันมาละสังขารเสียเกือบหมดแล้ว..

    สาธุ..สาธุ..สาธุ...ระลึกซึ่งพระคุณอาจารย์ อยู่เหนือเศียรเกล้าฯ

    [​IMG]

    หลายๆท่านอาจจะงง..โดยเฉพาะเพื่อนสมาชิกใหม่ๆ...นี่ภาพอะไร ?

    เป็นปู่ทวดของเต่าปัจจุบันครับ เรียกว่าเต่ากลายเป็นหิน หรือ เต่าฟอสซิลอายุเกินกว่าล้านปี อนุสรณ์ครั้งลุยๆช่วงนั้น ได้มาจากถ้ำแห่งหนึ่ง จำชื่อก็ไม่ได้ซะแระ

    ได้เคยแจกเพื่อนสมาชิกเก่าๆกันแล้ว เก็บเอาไว้ดูเล่น

    ตอนได้มาใหม่ๆ เก็บกันมาเป็นกระสอบน้อยๆ มากๆแบกไม่ไหว หนัก ทางทุรกันดานมาก

    ส่วนหนึ่งนำไปถวายให้พระที่ประเทศลาว ท่านลงจารทุกตัวพร้อมปลุกเสก ดิ้นแด่วๆในบาตรให้เห็นกันจะๆ ขอท่านกลับคืนมาเพียง 3 ตัว ไม่รู้ให้ใครไปหมด หรือเก็บไว้ที่ไหนเสีย หาไม่เจอเลย..สงสัยไม่บูชา จะหนีกลับถ้ำเสียแล้วก็ไม่รู้..

    ที่เหลือมีแต่ตัวไม่ค่อยสวย ไม่สมบูรณ์ และมีเหลือน้อยแค่นี้เอง หมดจริงๆแล้ว

    จะนำไปฝากไว้ที่ร้านคุณตุ้ยทั้งหมด ใครอยากได้เก็บไว้เล่นๆ ผ่านๆก็ไปเอาครับ (แต่อย่าให้ส่งเลย สงสารคุณตุ้ย)

    ปล.ใครมีครูบาอาจารย์ลองนำไปให้ท่านลงให้ดูซิครับ เขาว่ามีความศักดิ์สิทธิในตัวเอง ไม่แน่อาจขลังกว่าเต่าหลวงพ่อหลิวอีกหนา..นั่นเต่าโลหะ แต่นี่เต่าแท้ๆน่ะครับ..แถมเป็นปู่ทวด ของปู่ทวดเต่าอีก..+55555


    [​IMG]

    อันนี้..ด้านใต้ท้อง ครับ



    [​IMG]

    ส่วนภาพนี้..ด้านบนกระดอง พร้อมปากกระดองเขาครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2012
  9. bearkery

    bearkery เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,668
    ค่าพลัง:
    +6,383
    ขอบคุณครับสำหรับกำหนดการคร่าว ๆ ครับพี่อิฐมอญ
     
  10. hmg

    hmg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,504
    ค่าพลัง:
    +4,322
    อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับ ผมเป็นคนใหม่ในความรู้ในด้านนี้ัอยู่ครับ ก็เลยมาหาตามกระทู้นี่แหละครับ อ่านไป ตรึกตรองไป ที่เข้าใจก็ดีไป ที่ไม่เข้าใจก็ถามครับ ถ้าผมมีข้อสงสัยอะไรผมขอสอบถามด้วยนะครับ

    บุญรักษาครับ
     
  11. fulfill

    fulfill Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +93
    à¸«à¸§à¸±à¸”à¸”à¸µï¿ น้องปืน...พี่อ่านประวัติน้องปืนแล้วทึ่งมาก ๆ น้องเป็นคนเรียนเก่งมาก ๆ สอบอะไรก็ติดหมดช่วงที่สอบไม่ติดก็คืออ่านน้อยไปหน่อยแต่ที่ผ่านมาน้องปืนเก่งมาก ๆ ขอให้น้องปืนสอบตำรวจติดดั่งใจที่น้องปรารถนา
    ตำรวจตระเวรชายแดนน่าสงสารมาก ๆ และเสียสละอย่างที่น้องบอก เช่นหมวดแคนและหมวดตี้ฯ หรือคนดี ๆ ที่เรารู้จักกัน พี่ดีใจนะที่มีคนดี ๆ อย่างน้องปืนหรือคนรุ่นหลังที่มีความคิดที่ดี ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าค่ะ....พี่ลี
     
  12. sun2555

    sun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +6,619
    ผมได้โอนเงินบูชาพระแก้วหยดน้ำวัดตะไกรแล้ว วันที่ 24 สิงหาคม 2555 เวลา 16.46 น. สถานที่ K01349 จากธนาคารกรุงไทย เข้าธนาคารกรุงไทย จำนวนเงิน 347 บาท
    กรุณาจัดส่งที่
    นายธีรพจน์ พรหมดี
    สำนักงานสรรพากรพื้นที่นครราชสีมา 2
    129/2 ถ.มิตรภาพ ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30130
    ขอขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2012
  13. max_thonglor

    max_thonglor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    317
    ค่าพลัง:
    +704
    ยอดมากครับคุณโจขยันมาก..เสาะแสวงหาครูบาอาจารย์ดั้นด้นไปทุกที่...แม้สมัยวัยวุ่นจะไม่เอาอ่าว(ไม่ได้ว่านะครับ!!!สำนวนๆ)มันก็เป็นช่วงของวัยสะรุ่น แต่ตอนนี้รู้สึกจะคุมหมดอ่าวแล้ว55...คนเราก็แปลกนะ!! ถ้ามีภูมิจิตภูมิธรรมเดิม(ของเก่า)อยู่แล้วครับ ยังไงๆก็จะกลับมาเดินอยู่บนทางสายเอกอยู่ดีหละครับ...ตัวผมเองเทียบกับคุณโจแล้วไม่เห็นฝุ่นเลย...ที่คุณโจเอ่ยมาคณะต่างๆผมยังเคยไปเลย...ตัวผมเองมาเริ่มสนใจปฏิบัติภาวนาก็เมื่อปี2545...สาเหตุเพราะมีทุกข์ภายในใจเยอะ(แหม!..เหมือนอริยสัจ๔เลยนะเนี่ย..ที่เริ่มจากทุกข์) ครูบาอาจารย์ของผมก็อยู่ตามสื่อต่างๆหละครับ สมัยนั้นก็เริ่มจากวิทยุ...ศึกษามาเรื่อยครับ...องค์ไหนเทศน์ตรงจริตของเราผมจะบันทึกเทปเอาไว้ เพราะจริตเป็นคนชอบฟังมากๆกว่าการอ่าน...แล้วก็นำมาใช้(ดูจิต)ในชีวิตประจำวันเลยครับ...ผมชอบคำพูดของท่านพุทธทาสที่มีคนมาถามท่านว่า "ถ้าผมอ่านหนังสือของท่านพุทธทาสจนหมด ผมจะรู้ธรรม(สำเร็จ)ได้มั๊ย? ท่านพุทธทาสตอบว่า "ไม่ได้ ต้องปฏิบัติ"........เจริญพร
     
  14. ยุทธhotline

    ยุทธhotline Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2012
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +94
    ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับพี่ ผมเป็นสมาชิกใหม่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับผม(k)
     
  15. purn05

    purn05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +406
    โห...อันนี้คมอ่ะครับพี่แม็ก:cool: ถ้าเป็นเฟชบุ๊คผมกดให้10ไลด์เลยครับผม อิอิๆ
     
  16. purn05

    purn05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +406
    _/\_ ขอบคุณค๊าบ พี่ลี :cool::cool: สาธุๆๆ
     
  17. อิฐมอญ

    อิฐมอญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,385
    ค่าพลัง:
    +1,444
    กำลังใจเพียบเลยนะเจ้าปืน ^___^
    เห็นเพื่อนสมาชิกเรามีน้ำจิตน้ำใจกันเสมอ รู้สึกดีจริงๆ
     
  18. sylvenus

    sylvenus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2010
    โพสต์:
    697
    ค่าพลัง:
    +3,283
    ปืน สู้ๆนะน้อง กำลังใจเพียบ.....


    พี่ภูมิ...
     
  19. 9mm

    9mm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +165
    น้อง ปืน เรียนเก่งดีครับ แต่ที่ผมว่าที่ดียิ่งกว่าก็คือ คนอายุ 18 เนี่ยได้เจอกับพี่ ๆ ในนี้ ที่มีอะไรคอยดูแลและแนะนำอย่าพี่ โจ หรือพี่คนอื่น ๆ เนี่ยโชคดีมากครับ ตอนผม 18 เอาแต่หนีเรียนไปเที่ยวอยู่เลย
     
  20. bearkery

    bearkery เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,668
    ค่าพลัง:
    +6,383
    พี่โจครับปู่ทวด ของปู่ทวด ของเต่านี้ มีวรรณะเป็นหินรึเปล่าครับ ??
    แต่ดูแล้วคล้่ายไปทางดินมาก ๆ เลยครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...