ภัยธรรมชาติ เล้นงาน สหรัฐอย่างหนัก อีกไม่นานก็จะถึงทุกทวีป

สหรัฐฯเผชิญภัยธรรมชาติ ทั้งไฟป่า คลื่นความร้อน แห้งแล้ง น้ำท่วม และพายุ ชี้เป็นผลพวงจากภาวะโลกร้อน ซึ่งทุกภูมิภาคทั่วโลกต้องเกิดขึ้นแน่ เพียงแต่ละอย่างจะเกิดรุนแรงและไม่เหมือนกัน...

สหรัฐฯยังอยู่ระหว่างเผชิญภัยธรรมชาติรุนแรง เหตุพายุฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง จากอิทธิพลของคลื่นความร้อนถล่มพื้นที่ 9 รัฐ แถบชายฝั่งภาคตะวันออกของสหรัฐฯ รวมทั้งกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตั้งแต่ 29 มิ.ย. ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งถึง 22 ศพ รวมถึงผู้ประสบเหตุเสียชีวิตเพราะต้นไม้ใหญ่ล้มทับบ้าน ป่วยและจมน้ำตาย ภัยธรรมชาติครั้งนี้ยังทำให้กระแสไฟฟ้าถูกตัดขาดเป็นบริเวณกว้าง ผู้คนกว่า 3 ล้านได้รับผลกระทบไม่มีไฟฟ้าใช้ สัญญาณไฟจราจรใช้การไม่ได้ อาหารในตู้เย็นชาวบ้านเน่าเสีย คาดว่าต้องใช้เวลาหลายวันกอบกู้สถานการณ์สู่ภาวะปกติ ขณะเดียวกัน ชาวบ้านยังต้องเผชิญสภาพอากาศร้อนจัด อุณหภูมิเฉลี่ยยังอยู่ที่ 32-37.7 องศาเซลเซียส หลายเมืองอุณหภูมิสูงทุบสถิติรอบใหม่ ทำให้ผู้คนล้มป่วยกันระนาวโดยเฉพาะผู้สูงอายุ

 

ส่วนความคืบหน้าไฟไหม้ป่าครั้งรุนแรงในรัฐโคโลราโด ซึ่งไฟปะทุมาตั้งแต่ 23 มิ.ย. ชาวบ้านต้องอพยพหนีจากพื้นที่อันตรายจำนวนมาก แต่บางส่วนได้รับอนุญาตกลับเข้าพื้นที่อยู่อาศัยได้แล้ว ทางการสหรัฐฯระบุพื้นที่ป่าในรัฐเซาธ์ ดาโกตา ถูกไฟเผากินพื้นที่กว้างราว 17 ตารางกิโลเมตร ทั้งยังเกิดเหตุเครื่องบินขนส่งทางทหาร ซี-130 ซึ่งร่วมภารกิจช่วยทิ้งน้ำดับไฟป่าตกระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในรัฐเซาธ์ ดาโกตาเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้ลูกเรือเสียชีวิตอย่างน้อย 1 หรือ 2 ศพ บาดเจ็บอีกหลายคน เครื่องบินร่วมภารกิจดับไฟป่าอีกหลายลำได้รับคำสั่งหยุดปฏิบัติการชั่วคราว เพื่อรอคำตอบการสืบสวนสาเหตุของเครื่องบินตก ซึ่งว่ากันว่าปีกเครื่องบินอาจเปราะแตก เพราะเป็นเครื่องบินรุ่นเก่าแต่ต้องบรรทุกน้ำปริมาณมากเพื่อนำไปทิ้งดับไฟไหม้ป่า

ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในสหรัฐช่วงปีนี้ ซึ่งมีทั้งไฟไหม้ป่า คลื่นความร้อน ความแห้งแล้ง น้ำท่วม และเกิดพายุรุนแรง ทำให้เหล่านักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า นี่คือผลกระทบรุนแรงที่สุดของภาวะโลกร้อน โดยภัยธรรมชาติแต่ละอย่างจะเกิดรุนแรงและไม่เหมือนกันในแต่ละภูมิภาคของโลก แต่ทุกภูมิภาคจะต้องเผชิญภัยธรรมชาติรุนแรงในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ทั้งยุโรป แอฟริกา และเอเชีย.

 

สถานะการณ์ อย่าเข้าใจว่าโลกแตก ขอร้องนะครับ ข่าว มีไว้ให้เราตระหนัก ว่าตอนนี้ เริ่มแล้ว ธรรมชาติ ลงโทษมนุษย์ ที่ทำลาย จนไม่เหลือที่ให้ยืน และหากเกิดขึ้นที่บ้านเรา คงจะหนัก และไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้มาก ขอให้ เข้าใจ ถึงภัยธรรมชาติ และอยู่อย่างมีสติ

 

ประเทศเขากว้างใหญ่ ตรงนี้โดนพายุ ตรงนั้นแผ่นดินไหว อีกที่น้ำท่วม ไปทางโน้นไฟป่า ไปๆมาๆหิมะถล่ม เป็นปรกติของเขาอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องผิดปรกติอย่างไร

ไม่ต้องตื่นเต้น พื้นที่มันกว้างน่ะ

 

ครับ ปกติ แต่ถ้าประเทศใหน ที่กว้างใหญ่ โดนแบบนี้ ทุกปี ก็คงไม่ไหวเหมือนกันนะครับ โลกไม่แตก แต่สติสตังแตก เพราะ หนีน้ำ หนีพายุ หนีดินถล่ม หนีไฟป่า หนีแผ่นดินไหว จะหนีกันไหวหรือเปล่าครับ เราคงต้องกลับมามองดูธรรมชาติ และหยุดการทำลายล้าง จะได้ไม่หนักไปกว่านี้
ข่าว ก็เขียนเองครับไทยรัฐ เปนียบเปรยว่า ทุกทวีป คงไม่พ้นเช่นกัน กับภัยธรรมชาติ

 

อเมริกาโดนบ่อยครับ ผมก็ว่าไม่แปลก เพราะพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลเลย แต่โน้มโน้ม ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ก็เหมือนๆ กันทุกที่ เพราะสภาพอากาศโลกเปลี่ยนแปลง ยังไงก็อย่าตืนมากครับ

 

เป็นบุญของชาวไทยแล้วที่ได้เกิดในพืนแผ่นดินไทย
มีองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ที่ทรงทศพิธราชธรรม
ประเทศไทยประสบภัยพิบัติน้อยที่สุดแล้ว
ถ้าคนไทยเรารู้รัก สามัคคี
ผลประโยชน์ของประเทศชาติ ผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง
ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้อง
ยุคศิวิไลซ์เกิดขึ้นนานแล้วครับ
ประเทศพัฒนาแล้วอยู่แค่เอื้อม

​

 

วันนี้โทรไปเช็ค ญาติ ที่ USA เขาว่า ร้อนตับแล็บ

ประมาณ 100 ถึง 110 องศา F

เขาว่าอยู่มา 20กว่าปี ไม่เคยเจอ !!

 

คอยติดตามข่าวสาร ความเปลี่ยนแปลงของโลกเราครับ จะได้ปรับเปลี่ยนชีวิตอยู่กับเขาให้ได้ต่อไป

 

ครับ ..เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนคู่ชีวิตให้อยู่กับเราได้ต่อไป(deejai)

 

เมืองไทยเราก็ประสบภัยไม่น้อยหน้าที่อื่นๆน่ะผมว่า แต่เรามักมองข้ามไป เช่น

ภัยจากโรคภัยต่างๆ ที่กินอย่างขาดสุขลักษณะ เช่นโรคพยาธิ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ตายกันปีหนึ่งๆ เป็นแสนเลย

ภัยจากอุบัติเหตุทางถนน ส่วนมากเกิดจากมีสำนึกเรื่องความปลอดภัยน้อย และถนนบ้านเรามาตรฐานต่ำมาก ตายกันปีละหลายหมื่นเลยทีเดียว

ภัยจากฝนแล้ง น้ำท่วม ซึ่งบ้านเราประหลาดมาก ฤดูฝนน้ำก็มากมายมหาศาล พอถัดไปสักสี่ห้าเดือน ก็พากันประกาศภัยแล้งกันแล้ว นำมาซึ่งความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล สาเหตุหลักมาจาก โครงสร้างพื้นฐานไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบ

ภัยทางการปลุกปั่น ยุยง ให้แตกแยกทางความคิดของประชาชนจากฝ่ายการเมืองผู้มีอำนาจ ภัยนี้เกาะกินหัวใจผู้คนให้เกิดความทุกข์ ทุกข์จากความแค้นใจ ความไม่พอใจ ความเกลียดชังที่เกิดจากทัศนคติการเมืองที่แตกต่าง ผสมด้วยการปลุกเร้ามวลชนด้วยวิธีทีไร้คุณธรรม อาจนำไปสู่เหตุการคล้ายๆประเทศระวันด้า

ผมคิดว่า ภัยจาก ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่มันมากเกินหรือน้อยเกิน แม้ดูน่ากลัว แต่มันก็จะผ่านไป และเรา(ถ้ารอด) ก็จะปรับตัวอยู่กับธรรมชาติให้ได้เอง แต่ภัยอื่นๆ ยากจะผ่านพ้นไปด้วยดี