การนับถือ เทพ พรหม ทั้งหลาย

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย jate2029, 3 กรกฎาคม 2012.

  1. jate2029

    jate2029 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2008
    โพสต์:
    391
    ค่าพลัง:
    +729
    ปกติ มนุษย์เรา นับถือ บูชา เทพ พรหม กันแบบไหน จึงได้เกิดการหลง
    งมงาย ก็จนกลายเป็นพวก ไม่มี สติ ไม่มี ปัญญา มาพิจารณา ถือสิ่งต่างๆ
    หากแต่ว่า พวกเรา ลองมา พิจารณา ว่า คุณงาม ความดี อันใด คุณธรรม
    ข้อไหนที่ทำ ให้บุคคลทั้งหลาย ได้เป็น เสวยสุข ตามสวรรค์ และพรหม ชั้น
    ต่าง ๆ จนถึงปัจจุบัน และ อนาคตกาล เบื้องหน้านี้แล้ว น่าจะมีประโยชน์มาก
    กว่า ที่จะมานั่ง อ้อนวอน เอาแต่ร้อง ขอความช่วยเหลือ ต่าง ๆ จาก
    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลาย จนทำให้ เทพ เทวดา หรือ พรหม บางกลุ่ม บางพวก
    เกิด ความ ผยอง เย่อหยิ่ง ถือตัวว่า มีคุณวิเศษ จนพวก มนุษย์ ต้องมาคอย
    กราบไหว้ตนเอง จนทำให้ เกิด สักกายะทิฐิ ขึ้น จนทำให้ เกิดการมองข้าม
    ผู้ที่มีคุณธรรม สูงกว่า แต่ไม่แสดงตนออกมา จนเทพหรือ เทวดา เหล่านั้น
    ต้อง พลาดท่า ตกนรก ตกสวรรค์ กันมากมาย
    และเพื่อให้ เกิดประโยชน์ จึงอยากให้ มนุษย์ เราทั้งหลาย จงนับถือ บูชา
    สรรเสริญ เทพ เทวดา พรหม ทั้งหลายที่การ ปฏิบัติ การสร้าง ความดี ต่างๆ
    จนได้ เสวยสุข กัน ตามที่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทรงสอนกัน
    จะดีกว่าไหมครับ เพราะพระองค์เอง ก็ไม่เคย สอน หรือ บังคับให้ผู้ใด เชื่อ
    หรือ ทำตาม พระองค์ อย่าง งมงาย เพียงแต่ เสนอ ชี้แนะ แนะนำ ให้ลอง
    กระทำดูก็เพียงเท่านั้น ถ้าพระองค์ แนะนำแล้วทำได้จริง ก็จึงค่อยเชื่อ แต่ถ้า
    นำไปทำแล้ว ไม่ได้ แล้วไม่เชื่อ พระองค์ ก็ไม่ได้ว่าอะไร นั่นเองครับ
    ผู้ใด มีความเห็นอื่น เข้ามาแลกเปลี่ยนได้เต็มที่เลยครับ เปิดรับ ความรู้ เต็มที่
     
  2. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ลองศึกษาเรื่อง เทวตานุสสติกรรมฐานดูนะครับ

    เทพ พรหม ท่านจะรู้สึกอะไรอย่างไรเรื่องของท่าน
    เรารู้สึกอะไรอย่างไรกับเทพ พรหมเป็นสิ่งที่ต้องศึกษา
     
  3. โลน้อย

    โลน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +695
    เทพ พรหม ที่ยังมีมิจฉาทิจฐิก็มีมาก ที่ดีก็มีเยอะ ค่อยๆเลือกละกันจะเชียร์
     
  4. jate2029

    jate2029 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2008
    โพสต์:
    391
    ค่าพลัง:
    +729
    ก็ถูกของ คุณ ผมเพียงแค่ อยากเตือน เหล่าพวกที่ คลั่งไคล้เทพเทวดา
    ทั้งหลาย ให้มีสติคิด ขึ้นมาบ้าง แต่โดย ส่วนตัวผม เองยึดเอา พระรัตนตรัย
    เป็น สรณะ จึงใช้ พุทธานุสติ เป็นหลัก น่ะครับ ไม่ได้ สนใจเรื่อง เทพ เทวดา
    สักเท่าไหร่ เพราะไม่ใช่ จุดหมายของผม น่ะ ผมปราถนา แต่นิพพานเท่านั้น
    ผมเคยเอา นิพพาน ไปถาม พ่อแก่ที่เป็นร่างทรง เปรียบเสมือน ครูบาอาจารย์
    ที่นับถือที่สุดในตอนนั้น แต่ผลกลับออกมาคือ ท่านบอกไม่ได้ ภายหลังผม
    เก็บเรื่อง นี้มาพิจารณา แล้วจึงเห็นได้ว่า หากอยากบำเพ็ญตบะแบบ ฤาษี ก็
    ต้อง ถาม ฤาษี หากต้องการ นิพพาน ก็ต้องถาม พระอรหันต์ หรือ พระพุทธเจ้า
    นั่นเอง จนถึง ปัจจุบัน ผมก็นับถือ เพียงแต่ พระรัตนตรัย เป็น บรมครู ในการ
    ไปสู่ จุดหมายนั่น เอง
     
  5. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,500
    อนุโมทนาครับที่แบ่งบันสิ่งดี ๆ มาให้อ่านนะครับ แต่ก็สุดแท้แต่จริต แต่ล่ะท่านเนอะครับ จริงมั้ย

    ตอนเด็กผมเคยเรียนกับพี่ ๆที่มาสอน คริสต์ศาสนา ตามบ้านได้ปีกว่า ๆ ก็ได้เรียนรู้จัก พระเจ้าของเค้า อาเมน....

    พอโตมา ก็เข้ากลุ่มเพื่อน ไปตามตำหนักต่าง ๆ บูชาองค์เทพ เรียนรู้เรื่อง เสริมบารมี ถือศีลต่าง ๆ โอม.....

    ได้เรียนรู้จัก พระเจ้าของคนมุสลิม ศรัทธาในความตั้งใจ(เพราะพี่สาวเป็นมุสลิม) อันนี้ไม่รู้เค้าเรียกว่าไร......

    สุดท้าย ทุกข์หนัก มาตาสว่างเห็นธรรม เห็นความจริง และได้เห็นจุดมุ่งหมายในชีวิต สาธุ.....

    แต่ไม่ว่าศาสนาใด ล้วนแต่สอนในเรื่องทำดี ละชั่ว ทั้งนั้น ทุกอย่างอยู่ที่เราจะปฏิบัติตาม ศรัทธา หรือแค่ยึดเหนี่ยว หรือแค่ไปตามกระแส หรือแค่สักแต่ว่า

    ความคิดเห็นส่วนตัว ไม่มีเจตนาว่าร้ายใด ๆ นะคร๊าบบ

     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,427
    ค่าพลัง:
    +35,048
    เห็นด้วยกับคุณ jate2009
    นะครับว่า''จงนับถือ บูชาสรรเสริญ เทพ เทวดา พรหม ทั้งหลายที่การ ปฏิบัติ การสร้าง ความดี ต่างๆ
    จนได้เสวยสุข"​
    เหมือนสมัยพุทธกาลที่พระพุทธเจ้าเคยตอบ ปริพาชิก ที่เพียรถามถึงหนทางของผู้มีอาชีพแสดงระบำฟ้อน..ในที่สุดพระองค์ตอบว่า....หนทางของระบำรำฟ้อนคือ นรกภูมิอย่างเดียวเลยหรือ?​

    เหตุเพราะว่า ..คนที่ถามพระองค์ท่าน..ยังไม่มีอานิสงส์..ไม่มีบารมีพอ.ถึงตอบไปก็ไม่เข้าใจเพราะเขายังหลงอยู่ ยังไม่มีอานิสงส์พอที่เข้าใจเรื่องสภาวะจิต..คือเขาทำอย่างงั้นเขาก็ยังหลงอยู่..​

    ใครจะเป็นอย่างไรก็ตามหน้าที่การงานของเขา แต่จิตใจของเขาก็ยังมีกองบุญกองกุศลอยู่อย่างนั้น..​
    เขาถึงได้มีเทพฝ่ายบุญและเทพฝ่ายมาร เพราะอะไรถึงเป็นเทพฝ่ายมาร..เพราะตอนที่เป็นมนุษย์เขาสร้างบุญสร้างกุศล..เขาได้รับอานิสงค์ตรงนั้น..เขาถึงเป็นเทพได้..แต่จิตเขายังเป็นมิจฉาทิฏฐิ..คือความเห็นผิด..
    แต่คนที่ไปนับถือเทพ ไปถามเรื่องการเป็นเทพ..ยังไม่ได้สนใจเรื่องสภาวะจิตนี้.อานิสงส์ผลบุญผลทานก็ไม่ได้ที่สนใจจะทำ..ถึงบอกไป..ชักชวนไปเขาก็ไม่คิดจะทำและไม่มีโอกาสที่จะได้รับอานิสงค์ส่วนนี้.. ​

    ประมาณนี้ครับ..
     
  7. jate2029

    jate2029 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2008
    โพสต์:
    391
    ค่าพลัง:
    +729
    ครับผม ยินดี ที่คุณ นพรัฐ และคุณ Nopphakan เข้ามาร่วม แชร์ ความคิดเห็นครับ
    ทุกอย่างคือ การเรียนรู้ ก่อนจะเจอ หนทางสู่ เป้าหมายจริงใน ชีวิต ที่ต้องการ ครับ
     
  8. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ผมเองก็เคยมีความรู้สึกอยากจะบอกอยากจะเตือน เหมือนกันครับคุณjate2029
    แต่ลองพิจารณาดูแล้ว
    ต้องถามตัวเองก่อนว่า เรารู้มั้ยว่าคนที่จะไปเตือนนับถือพระพุทธเจ้าแค่ไหน
    ถ้าเขานับถือพระพุทธเจ้ามาก เราไปเตือนได้ผลแน่นอน
    แต่ถ้าเขาไม่มีไตรสรณาคมณ์ ก็เสียเวลาเปล่า แถมยังผิดใจกันอีกด้วย
    บารมีต้น เขายังไม่ได้ เราไปเตือนไม่สำเร็จแน่นอน

    เทวตานุสสติกรรมฐาน เป็นกรรมฐานที่พระพุทธเจ้าแนะนำให้เป็นอนุสติ
    กล่าวโดยย่อคือนึกถึงคุณธรรมที่ทำให้เป็นเทวดาและธรรมที่เทวดามี
    การนับถือเทวดาก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการนับถือบุคคลผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
    แน่นอนว่าเทวดาร้ายๆก็มี แต่ก็เหมือนกับคนเหมือนพระสงฆ์นี่แหละ ร้ายๆก็มีเหมือนกัน
    อันนี้ต้องระวัง เทวดาร้ายๆมี เทวดาที่เป็นพระอริยะก็มี ต้องระวัง
    ถ้าไม่แน่ใจเฉยไว้ดีกว่าครับ

    พุทธานุสสตินั้นแน่นอนว่าเป็นหลัก ผมเองก็ระลึกถึงเสมอ
    แม้จะใช้เทวตานุสสติก็เป็นอนุสติที่เนื่องกับพระพุทธเจ้าเสมอ
    เพราะเป็นพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์

    ส่วนใครจะบนบานสานกล่าว ผมว่าก็ไม่ได้ผิดอะไร
    เขาเดือดร้อนย่อมอยากได้ที่พึ่ง เทวดาช่วยได้ก็ช่วย ช่วยไม่ได้เป็นกฏแห่งกรรมก็ช่วยไม่ได้
    เหมือนกับมีคนมาขอให้เราช่วย ช่วยได้ เราก็ช่วย ช่วยไม่ได้ก็ปล่อย ผมคิดแบบนี้นะ
    บารมีกำลังใจของคนไม่เสมอกัน ถ้าจะเตือนต้องดูกำลังใจเขาว่าแค่ไหน
    ถ้าศีล ๕ เขายังไม่คิดจะมี ไตรสรณาคมน์ยังไม่ได้.. เหนื่อยฟรีครับ
     
  9. jate2029

    jate2029 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2008
    โพสต์:
    391
    ค่าพลัง:
    +729
    ยินดีที่ได้ แชร์กัน อันนี้ เราเองก็ไปบังคับ ใครไม่ได้ ก็ทำได้เพียงวางเฉยเท่านั้น
    บอกแล้ว ก็คือ บอก เชื่อไม่เชื่อ ก็ชั่งเขา ทำไม่ทำ ก็ชั่งเขา จะพอใจ ไม่พอใจ
    ก็ชั่งเขา เพราะ ธรรมะ เป็น สิ่งที่สวนกระแสโลก สมัยพุทธกาล เอง
    องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เองซึ่ง เป็นองค์ ศาสดาเอก เป็นบรมครู ผู้ให้
    ขนาดนั้น เหล่าพระสงฆ์ สาวก ทั้งหลาย ยังมีที่ พอใจ และไม่ พอใจ ในคำสั่ง
    สอนของ องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เลย แล้วเราเองเป็นใคร จะหนีพ้นไป
    ได้อย่างไร พระองค์ จึงสอนให้ เราทั้งหลายตั้งอยู่ใน พรหมวิหาร 4 นั่นเองครับ
    เหมือนคำที่ว่า ตถาคต เป็นแต่เพียง ผู้บอกเท่านั้น
    อีกประการ ช่วงนี้เป็น ยุคปลายของ ศาสนาแล้ว มีความเสื่อมถอยลงมา
    การจะทำให้ ผู้คนทั่วไป หันมาเชื่อ หรือเห็นอย่าง เรา ๆ ได้นั้น ย่อมยากเป็น
    ธรรมดา ฉะนั้น ก็วาง อุเบกขา เสีย ใครช่วยได้ ก็ช่วย ช่วยไม่ได้ ก็แล้วแต่
    กรรมของแต่ละคน เพราะมนุษย์ อยู่กับ กิเลส มาจนเคยชิน เมื่อได้ยินความ
    จริงบางอย่างที่ สวนกับกระแส ย่อมเหมือนกับ ปลาที่ว่ายทวนน้ำ ขึ้นไปย่อม
    ลำบาก ซึ่งผิดกับ ปลาที่ว่ายตามกระแสน้ำคือ กิเลส ทั้งหลาย ซึ่งสบายกว่า
    จริงป่าว เอาแค่นี้ก่อน ไม่งั้นยาว รอท่านอื่น มาแชร์ เพิ่มเติม
     
  10. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    เรื่องจริงมีอยู่ว่า

    เมื่อประมาณ9ปีก่อน ผมได้ไปฝึกนั่งกรรมฐานและวิปัสนาในถ้ำแห่งหนึ่งในหลายๆถ้ำที่จังหวัดลพบุรี ผมมีความศรัทธาในพระพุทธเจ้ามาก จึงขอมอบกายถวายชีวิตให้พระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์ ซึ่งรวมทั้งหลวงปู่ทวดและสมเด็จโต
    ผ่านมาได้ประมาณ1ปี ผมนั่งสมาธิสงบมาก ในครั้งนั้น มีนิมิตเห็นเป็นแสงทองสว่างจ้า สักครู่ก็เห็นเป็นท่านท้าวมหาพรหม รัศมีสว่างมาก ท่านบอกว่า ท่านปราถนาจะร่วมสร้างบารมีโดยให้ผมเป็นสื่อกลาง ผมตกใจมากและออกจากสมาธิ แต่ในจิตผมไม่ยอมรับเพราะผมเองเคยปวารณาตัวมอบกายถวายชีวิตให้พระพุทธศาสนาไว้แล้ว เเมื่อปีก่อน ผ่านมาได้1เดือน ผมล้มป่วยลงและเป็นหนักมากจนเกือบเอาตัวไม่รอด ต้องเข้่าโรงพยาบาล

    แต่ก็หายป่วยได้เป็นเพราะว่า ในคืนนั้นผมตัวร้อนมากและปวดหัวมาก นอนหลับไม่สนิม ครึ่งหลับครึ่งตื่น ฝันเห็นท้าวมหาพรหมองค์ดังกล่าว มายืนประทับหน้าอก ผมแน่นหายใจไม่ออก ผมคิดว่าเราคงต้องตายแน่ๆ ในจิตตอนนั้นพยายามสวดมนต์ ขับไล่ต่อสู้ทุกอย่าง แต่ก็สู้ท่านท้าวมหาพรหมไม่ได้ ท่านพูดด้วยน้ำเสียงก้องกังวาลว่า เจ้าต้องเป็นสื่อกลางให้กับท่าน ท่านเลือกผมแล้ว พอกล่าวจบ ผมเริ่มแน่นหน้าอกเป็นทวีคูณ

    หลังจากกนั้นเหมือนฟ้ามีตาผมเห็นชายแก่เป็นพระลอยเคลื่อนมาในอากาศเข้ามาที่ตัวผม ท่านถือไม้เท้าเป็นพระอริยะสงฆ์ ท่านก็คือหลวงปู่ทวด ท่านกล่าวสั้นๆว่า อาตมาขอบิณฑ์บาตรเถอะ สิ้นเสียง ผมก็สะดุ้งตื่น พร้อมด้วยเหงือโชกเปียกไปทั้งตัวครับ

    ผมหายป่วยดีขึ้นโดยเร็ว ในวันถัดๆมาผมนั่งสมาธิก็สบายใจดีมาก แต่แล้วผมก็พิจารณาว่า ทำไมเราถึงไม่รับเป็นสื่อกลาง มันไม่ดีตรงไหน เราน่าจะรับและจะได้สร้างประโยชน์ สร้างความดี แนะนำบอกกล่าว สิ่งที่เป็นประโยชน์ อนึ่ง เราอาจจะได้เรียนรู้เรื่องพิธีกรรมต่างๆของเทพพราหม พุทธซึ่งเกี่ยวพันธุ์กันอยู่ยังความรู้ปัญารอบรู้แก่เราและผู้อื่น จากการพิจารณาเห็นว่ามีเอนกอนันต์ประโยชน์ จึงตัดสินใจรับและยกท่านท้าวมหาพรหมเป็นครูอาจารย์ผม เป็นองค์ปฐมฝ่านเทพพรหม ครับ ซึ่งก่อนรับก็ทำการขออนุญาตุพระรัตนตรัยก่อน แล้วอธิฐานให้ท่านมานำพาเราทุกอย่างด้วย

    ซึ่งเราต้องมีสัจจะต่อท่านด้วย ต้องทำให้ได้นะครับ
    เช่น ต้องไม่ผิดลูกเมียเขาไม่ผิดศีลข้อกามเม ต้องไม่ด่าพ่อแม่ ต้องไม่ลักขโมย ต้องทานมังสวิรัติตามเวลาที่กำหนด ต้องไม่ฆ่าสัตว์โดยเจตนา ต้องเรียกค่าครูตามที่ท่านบอกไว้คือ39บาททุกพิธีกรรม ห้ามเกิน ห้ามเรียกร้องเงินโดยเด็จขาดค่าร่างไม่มีเพราะเราต้องการบุญบารมีต้องไม่มีค่าร่าง ถ้าเขาไม่มีเงินให้เขาไปสวดมนต์แทนค่าครูหรือไปใส่บาตรก็ได้ เป็นต้นครับ ตั้งแต่ผมอธิฐานจิตรับท่านแล้ว ท่านก็มาผ่านผมตลอดและนำพาผมสร้างบุญสร้างกุศล รวมทั้งปู่ฤาษีตาไฟ ตาวัว นารอด นาราย อื่นๆก็ช่วยเหลือผมดีมากจนทุกวันนี้ผมคิดว่าผมมีสติดีพอและรู้ทันกิเลสตัวเองพอสมควรแต่ก็ยังอีกห่างไกลกับพระอริยะครูบาอาจารย์ที่ท่านเมตตาต่อผมครับ

    ขออภัยที่ขอนำมาเล่าให้ฟัง ขัดเคืองอย่างไรก็ขออโหสิกรรมให้ผมด้วยครับ ยินดีรับคำติชม ว่ากล่าวตักเตือนกันได้ครับ สาธุครับ
    อีกนิดลืมไป ปู่บอกว่าหลักง่ายๆคือถือตามคำสอนพระพุทธเจ้า
    1ไม่ทำบาบนะลูกและอย่าไปชวนกันหรือแอบพากันไปทำบาบ อย่าไปเบียดเบียนกันนะลูก
    2ตั้งใจทำความดีนะลูกอะไรที่ดีทำไปเลยไม่ต้องรอ
    3ทำสมาธิ จิตให้บริสุทธิ์ฝึกทำให้มากๆนะลูก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2012
  11. jate2029

    jate2029 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2008
    โพสต์:
    391
    ค่าพลัง:
    +729
    ยินดีครับ คุณ TPC
    ผมขอ แชร์ ประสบการณ์ บ้างนะครับ
    ผมเอง ก็เป็น คนสักยันต์ (ลูกศิษย์) พ่อแก่ มา 11 ปี เข้า ออก ตำหนักทาง ศรีราชา ก็
    หลายตำหนัก และเคยฝัน ว่ามี เทพ ที่มีร่างเป็น สีทอง ลงมาทับร่างผมเลย ด้วยซ้ำ และ
    บอกว่า กูจะมาช่วยมนุษย์ และวันนึง ที่ตำหนักฝากซื้อ น้ำมันจันทร์ ผมก็ไปซื้อให้ และเห็น
    รูปลอยองค์ ของ ปู่พรหมเมศ ก็รู้สึกว่า อยากได้ทันที ก็เลยซื้อมา แล้วมาถาม พ่อแก่ที่เป็น
    ร่างทรง ก็เล่าให้พ่อท่าน ว่าผมฝัน ว่ามีเทพมาลงร่างผม เป็นองค์นี้ รึเปล่า
    พ่อท่านก็บอกว่า ใช่ แต่ท่านก็บอกว่า เบิกเนตรแล้ว เอาไว้ตำหนักดีกว่า เพราะองค์นี้ท่าน
    แรงมาก ผมก็ทำหน้าเสียดาย ท่านก็บอกว่า ถ้างั้น ก็เอากลับไปบ้าน ดูก่อน ถ้าไม่เกิดอะไร
    ขึ้นก็ ดีมากถือว่าพ่อท่าน ต้องการอยู่กับเรา หลังจากนั้น ก็เอากลับมา แต่ก็ไม่มีอะไร ร้ายๆ
    เกิดขึ้นเลย แถมยัง ให้โชค พี่ชายผม ถูกหวย อีกตะหาก แต่ช่วงที่เป็น ศิษย์ ก็มัก จะถูกทัก
    ว่า พ่อท่านจะ ครอบเป็น ร่างทรงหลายครั้ง แต่ผมก็ยืนกราน ว่าไม่เอา มาโดยตลอด
    จนมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมก็ไปช่วยงาน ไหว้ครู ตามปกติ ทุกปี และก็ได้ สนทนา กับเหล่า
    ร่างทรงพ่อแก่ หลายๆคนที่มาช่วยกัน ก็จะชักชวน ให้ผมยอมให้พ่อท่านครอบเป็นร่างทรง
    ผมก็ ปฏิเสธ และก็เลย งั้นเอา ธรรม ที่เราได้รู้ได้เห็นมา สนทนากัน ก็เกือบทั้งคืน โดย
    ในกลุ่มก็ มีร่าง พ่อแก่ ท่านนึงเป็นร่างพ่อแก่ ที่มีนามว่า ฤาษีโคตบุตร ท่านก็นั่ง ฟังด้วย
    หลังจากที่ สนทนากัน จนร่างทรงพ่อแก่ อีกท่านนึงที่พยายามดึงผมไปเป็นร่างทรง นั้นยอม
    แพ้ไป เพราะหาเหตุผล ที่ให้ผมรับเป็น ร่างทรงไม่ได้ ก็จบกัน ต่างคนต่างนอน และเมื่องาน
    อีกวันนึงเริ่ม เมื่อ ร่างทรงทั้งหลายได้ เชิญพ่อแก่ เข้าทรงแล้วหลังจากที่ ศิษย์หลายๆคนได้
    ครอบกันไปตามปกติ เมื่อคนว่าง ผมก็เข้าไป ครอบบ้าง ตามปกติ ท่านพ่อโคตบุตร ก็ทักผม
    แล้วบอกว่า ไอ๋หนู ที่คุยกัน เมื่อคืนพ่อ เข้าใจแล้ว ว่า สุข ทุกข์ ทั้งหลาย เกิดที่ใจ การดับ
    เหตุทั้งหลายก็ต้อง ดับที่ใจ ผมก็เลย อนุโมทนาสาธุ กับท่าน และก็ตั้งใจ อุทิศอานิสง
    ผลบุญทั้งหลาย ที่ผมได้ ปฏิบัติมา และการกระทำ ทานสร้างพระ และมหาวิหาร ต่าง ๆ ทั้ง
    หลายมาให้แก่ท่าน เมื่อท่าน อนุโมทนาสาธุ แล้วสักครู่ ท่านก็ หันมาบอก ผมและทุกคนว่า
    ในพุทธกาลนี้ พ่อจะ ยังไม่เข้านิพพาน พ่อต้องการช่วย ศาสนาก่อน แต่จะไปเข้า นิพพาน
    ในยุคของพระศรีอาน แล้วท่านก็กล่าวหยอกว่า พ่อบำเพ็ญมา เป็น พันๆปี ไอ้หนู นี่จะชิงไป
    ก่อน พ่อซะแล้ว ท่านก็หัวเราะ และเมื่อผมจะครอบครู ท่านก็บอกว่า ไอ้หนู เอ็งไม่จำเป็น
    ต้องครอบแล้ว เพราะสิ่งที่ปกปัก รักษา เอ็งนั้น สูงที่สุดแล้ว แต่ถ้าเอ็งต้องการ พ่อก็จะ
    ครอบให้ ผมจึงต้องทำการครอบไป ตามปกติ เพื่อไม่ให้เป็น การเกินหน้าเกินตา ศิษย์อื่นๆ
    ครับ และ ก็ ถูกทดสอบ จากพ่อแก่ องค์ อื่นๆ อีกหลายองค์ โดยเฉพาะ องค์ที่ต้องการ
    ครอบผม ให้เป็น ร่างทรง ในสายของท่าน ก็ทดสอบ และ เอ่ย ว่าเอ็ง มีจิตใจดี มั่นคง
    ดีมาก ขอให้เจริญ ต่อไป แล้วก็ไม่มี ใครพูดกับผมเรื่อง ครอบเป็นร่างทรงอีกเลย จนปัจจุบัน
    อันนี้ เล่าประสบการณ์ แชร์ กันนะครับ
     
  12. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    มันอยู่ที่เหตุผล และมุมมองของเรา การทำความดีเลือกได้หลายวิธี ผมดีใจที่เจอคนประเภทเดียวกันกับผมแต่ เราอาจจะมองต่างกันบ้างเล็กน้อย ครับแต่ก็ไม่แปลกและยินดี
    มากๆครับ
    อนึ่งผมอยากเสริมว่า เรื่องครูอาจารย์นี่เป็นเรื่องแปลกอย่างหนึ่งคือ ถ้าท่านเป็นครูอาจารย์เรา แม้ไม่ครอบไม่รับขันธ์ นี่บางองค์ท่านก็ไม่สนใจนะ ท่านก็สอนเราช่วยเราตลอด

    อย่างที่ผมสักการะบูชา การรับขันธ์ไหว้ครูครอบครู ครูอาจารย์ผมแนะนำแผมเองทุกอย่าง
    ตอนแรกผมทุกข์ใจเรื่องนี้มากไปหาอาจารย์ที่อื่นไม่ได้ ปู่ท่านบอกว่าท่านเลือกผมเป็นร่างแรก ก็ต้องมานำทำเอง ต้องครอบเศียรเองไปครอบกับร่างอื่นไม่ได้ ก็ทำเองทุกปี แต่เน้นว่าทำให้ถูกต้องตามพิธี แบบประหยัดครับ ไม่ได้จัดงานอะไรครับ เน้นประหยัดและไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่เบียดเบียดกันครับ
    ผมคิดว่าการที่เราเป็นคนกตัญญุตาเป็นสิ่งที่ประเสริฐ เราจึงต้องรู้จักตอบแทนคุณด้วยนานาวิธีครับ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ควรครับ ขอให้คุณประสบความเจริญและสำเร็จตามปราถนาครับ
    ของผมยังอีนานต้องช่วยเขาไปเรื่อยๆครับแต่ก็มีความสุขครับ
     
  13. jate2029

    jate2029 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2008
    โพสต์:
    391
    ค่าพลัง:
    +729
    เช่นกันครับ ยินดีที่ได้ รู้จัก กับคุณ TPC ครับ
    ความจริง ตอนนั้น ก็แอบปลื้มเล็กน้อย ว่า เราทำให้ พ่อท่าน ได้ขนาดนี้เลย
    เหรอ แสดงว่า คุณธรรมเราที่ทำมาก็ไม่เสีย เปล่าเลยจริง ๆ อิอิ
     
  14. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    ผมคิดว่าพวกเราโดยมากจะรู้ที่มาของเราเอง และอย่าลืมว่าคุณครูอาจารย์ เทพพรหมต่างๆ เขาตามดูเราอยู่ การจากมาขอเราเพื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ ส่วนมากทุกคนก็รับหน้าที่ ตั้งใจมากันทำหน้าที่ ก็ขอให้ภูมิใจ และตั้งใจ ทำหน้าที่ของเรา กาลเวลาของเราแต่ละช่วงก็อาจจะมีอะไรเปลี่ยนไปพร้อมกับหน้าที่ๆยิ่งใหญ่ก็คืบคลานเข้ามา ขอให้่ทำทุกๆช่วงเวลาของเราให้ดีครับ ขอนุโมทนาด้วยเช่นกันครับ
     
  15. jate2029

    jate2029 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2008
    โพสต์:
    391
    ค่าพลัง:
    +729
    ครับ คุณ TPC แต่เดิม
    ผมเองก็ชอบนั่งสมาธิ ตั้งแต่ เด็กๆ โดยไม่มีใครสอน แต่หยิบ หนังสือนั่งสมาธิ มาอ่าน
    ตั้งแต่เริ่มอ่านได้ คำไหนไม่ได้ก็จะ ถามจากพี่ชาย ว่าคือ อะไร หมายความยังไง
    และก็ ชอบนั่งสมาธิตั้งแต่เด็ก เพราะรู้สึกว่า นั่งแล้วสบาย มีความสุข และผมเคย บอกกับ
    พี่ชาย ที่บ้านว่า ผมจะมาเกิดชาติ นี้เป็นชาติ สุดท้าย จะไม่กลับมาเกิดอีก แต่ไม่มีใคร
    สนใจนัก คงเป็นเพราะเด็ก พูด น่ะครับ
     
  16. Phuttalokudorn

    Phuttalokudorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +243
    การที่บางคนเป็นร่างทรงได้นั้น เป็นบารมีเก่าของเขาอดีตชาติเคยเป็นร่างทรง มาชาตินี้ก็เป็นร่างทรง แต่ถ้าเขาช่วยเหลือมนุษย์ที่มีความทุกข์โดยใจเมตตาผมก็ขออนุโมทนาบุญ แต่ถ้าร่างทรงเขาช่วยเหลือมนุษย์โดยหวังเอาเงินเอาทองผมว่า พวกนี้ไม่ใช้ร่างทรงแท้ อาจจะทำให้คนอื่นทุกข์เข้าไปอีก เทพพรหมเทวดาเขามาประทับร่างเขาก็อยากให้ร่างทรงคนนั้นปฏิบัติธรรม ถือศีล เพราะเทพพรหมเทวดาเหล่านั้นก็จะได้บุญด้วย ผมว่าแล้วแต่ความเชื่อของใครของมัน ดูจากนิ้วมือของเรายังยาวไม่เท่ากัน
     
  17. jate2029

    jate2029 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2008
    โพสต์:
    391
    ค่าพลัง:
    +729
    คุณบุญค้ำชู กล่าวได้ถูกต้อง การที่ เทพ พรหม ทั้งหลาย ต้องอาศัยร่างกาย
    มนุษย์มาเป็นร่างทรงนั้น ก็จะเลือกเอาจาก ผู้ที่เคยมี กรรมสัมพันธ์กันมา เช่น
    เคยเป็น ลูกหลานในตระกูล หรือ เคยเป็นศิษย์ เป็น อาจารย์ กันมาแต่ชาติก่อน
    และที่ท่านทั้งหลายต้องมา สร้างบารมีโดย อาศัย ร่างมนุษย์นั้น ด้วยเหตุที่ว่า
    ท่านยังไม่หมดอายุขัย ในสวรรค์ ชั้นที่ท่านเหล่านั้น เสวยบุญ อยู่ แต่เพื่อต้อง
    การต่อบุญ หรือ เพิ่มให้ดีกว่าเดิมนั้น จึงต้องอาศัยร่างมนุษย์ นั่นเอง แต่หากว่า
    เทพ พรหม บางองค์ ที่มีความต้องการ เข้มข้น ก็จะขออนุญาติ ต่อ ผู้นำเหล่านั้น
    เพื่อขอ จุติ ก่อนหมดอายุขัย เพื่อลงมาบำเพ็ญบารมี อย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องได้รับ
    การรับรอง ก่อนจาก ผู้นำของท่านเหล่านั้น อย่างเช่น พรหม ก็ต้องขอต่อ ท่าน
    ท้าวสหัมบดีพรหม เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อประกันความเสี่ยง ท่านจะต้องรับรองว่า
    ผู้นี้ แม้หากว่า ลงมาจุติ ก่อนอายุขัยแล้ว จะต้องกลับมา ได้เท่าเดิม หรือ
    ได้ดีกว่าเดิม เพราะท่านจะต้องคอยดูแล ไม่ให้พลาด ไปเป็นอย่างนั้น แต่หาก
    การช่วยมนุษย์ โดยไม่ได้ คิดทรัพย์สิน หรือ เรียกร้องใด ๆ ทั้งสิ้นแล้วนั้น ก็ถือ
    เป็นการสร้างบารมีจริงๆ แต่หากว่า มนุษย์ที่เป็น ร่างทรงนั้น ยังต้อง กิน ต้อง
    ใช้จ่าย อันเป็น ภาระทางโลก แล้วก็จะมีการเรียก ค่าครูบ้าง แต่พอควร
    แต่กระนั้น ก็มีบางจำพวกเช่น พวกวิณญาณ สัมภเวสี ที่มาเข้าทรง แล้วอ้างนาม
    ของเทพชั้นผู้ใหญ่ เพื่อให้ มนุษย์ เชื่อถือ ศรัทธา ก็มีมาก จึงต้องสังเกตุ ให้ดี
    และ ผู้ที่ แอบอ้างเอง โดยที่ไม่ได้มี เทพ ใดมาทรง แม้แต่น้อย ก็มี แต่การที่
    เทพ พรหม เหล่านั้น ท่านมาทรง ก็ไม่ได้มาทำการ ลงทั้งร่าง แบบเต็ม ๆ อยู่
    แล้ว เนื่องด้วย อินทรีย์ธาตุ ของมนุษย์ บางคนอาจรับไม่ไหว ก็มี ส่วนมาก
    แล้วท่านเหล่านั้นจะ ทำการเหยียบผ่าน หรือมาเพียง แบ่งญาณ เท่านั้น จะไม่
    ได้มาเต็มๆแน่นอน ครับ
    หากท่านใด ที่ปฎิบัติ จนสามารถ รับกระแส ได้ก็ลอง ใจจิต นั้นสัมผัสดูก็จะ
    ทราบได้ ว่าของจริง หรือ ของเลียนแบบ นะครับ
     
  18. romanof3

    romanof3 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +68
    ทำไม ถึง ต้องไปศรัทธา พรหม เทพ เทวดาเหล่านั้น ง่ายๆ ครับ
    1. พรหมเทพเทวดา เหล่านั้นต้องการสร้างบารมี ( ปรารถนาโพธิสัตว์ ) เพื่อ... ให้บุญเพิ่มขึ้น หรือ ต้องการจะเป็น ผู้รู้ผู้นำ ( พุทธเจ้า หรือ ปัจกพุทธ ) จึงไปหาสาวก หรือ คนสนับสนุน เพื่อก้าวไปด้วยกัน และไปกันอีกไกลลลลล
    2. เพราะความไม่รู้ของ พรหมเทพเทวดา คิดว่าตนเอง อมตะ คงอยู่ไม่เปลี่ยน นิรันดร์ ( ทำไมพวกท่านจึงคิดเช่นนั้น เพราะ อายุท่านนาน , รอบเกิดไม่ทัน คือ เพิ่งจะพัฒนาเป็นเทวดาใหม่ๆ เลย ไม่รู้จักพระพุทธเ้จ้า ไม่รู้จักศาสนาพุทธ เกิดไม่ทัน หรือ นอกศาสนา )

    3. ทำอย่างไรกับคนเหล่านั้น มี 2 ทาง

    3.1 ชักชวนตักเตือน อธิบายให้เข้าใจว่า กลไกลคืออะไรกันแน่ๆ เผื่อ เค้าจะฟังเข้าใจ
    3.2 ปล่อยไปตามสบาย ไม่ยุ่ง เพราะ การที่จะเชื่อที่เราพูด เป็นไปได้ยาก ถ้าไม่ใช่ ผู้ปฏิบัติรักษาศีล หรือ พระสงฆ์ ไปตักเตือน เค้าก็ไม่สนใจ เนื่องจากตัวศรัทธา ของเค้าไม่ได้อยู่กับเราอยู่แล้ว ไปบอกก็เท่านั้น เหนื่อย ซะเปล่า ดังนั้น บางเรื่องถ้าอย่างให้เค้าฉลาด ต้องปล่อยให้โง่เสียก่อน ถ้าไม่เจอไม่โดนกับตัวเอง ( ทุกข์ ) บอกให้ตายเค้าก็ไม่เชื่อเราหรอก ครับ
     
  19. romanof3

    romanof3 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +68
    ลืม อีกข้อครับ

    4. ถ้าพรหมเทพเทวดา ท่านมีความเกี่ยวเนื่องกับ พระศาสนา เราเคารพท่าน เพราะเราโมทนาความดีท่าน ที่ท่านดูแลพระศาสนา อันนี้ เป็น เทวดานุสติกรรมฐาน คือ ดูที่ความดีท่าน คิดง่าย ๆ ทำไม่ท่านถึงมาดูแลรักษาศาสนา เพราะท่านศรัทธา ในพระพุทธเจ้า ถ้าท่านศรัทธาในพระพุทธเจ้าแสดงว่าท่าน ก็ต้องปฏิบัติแล้วเห็นว่า ผลที่เกิดนั้นถูกต้อง จึงเกิดศรัทธา ดังนั้น เราเคารพนับถือ ท่า ก็คือเคารพในความดีที่ท่าน ทำ และมี ต่อศาสนาพุทธนั้นเอง ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...