บุคคล 4 ประเภทในโลก

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ballbeamboy2, 24 มิถุนายน 2012.

แท็ก: แก้ไข
  1. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    บุคคล 4 ประเภทในโลก

    พระผู้มีพระภาคได้ตรัสแก่พระเจ้าปเสนทิโกศลว่า
    มหาราช ! บุคคล 4 จำพวกนี้มีปรากฏอยู่ในโลก บุคคล4จำพวกเป็นไฉน ? บุคคล4จำพวกคือ

    บุคคลผู้มืดแล้วมืดต่อไปจำพวกหนึ่ง
    บุคคลผู้มืดแล้วกลับสว่างต่อไปจำพวกหนึ่ง
    บุคคลผู้สว่างแล้วกลับมืดต่อไปจำพวกหนึ่ง
    บุคคลผู้สว่างแล้วคงสว่างต่อไปจำพวกหนึ่ง

    --------------------------------------------------------------------------------

    (1)
    มหาราช ! ก็อย่างไร บุคคลชื่อว่ามืดแล้วคงมืดต่อไป ?
    มหาราช ! บุคคลบางคนในโลกนี้ เกิดมาภายหลังในตระกูลอันต่ำ
    คือในตระกูลจัณฑาล ตระกูลพราน ตระกูลจักสาน ตระกูลทำรถ หรือตระกูลเทหยากเยื่อ
    ซึ่งเป็นคนยากจน มีข้าวและน้ำน้อย เป็นอยู่ฝืดเคือง มีอาหารและเครื่องนุ่งห่มหาได้โดยยาก
    เขาเป็นผู้มีผิวพรรณทราม ไม่น่าดู เตี้ยค่อม ขี้โรค ตาบอด ง่อยกระจอก มีตัวตะแคงข้าง
    ไม่ค่อยจะมีข้าว น้ำ เครื่องนุ่งห่ม ยานพาหนะ ดอกไม้ ของหอม
    เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อยู่ และประทีปโคมไฟ

    เขาซ้ำประพฤติทุจริตด้วยกาย วาจา ใจ
    ครั้นเขาประพฤติทุจริตด้วยกาย วาจา ใจแล้ว
    ครั้นตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก.

    มหาราช ! บุรุษพึงไปจากความมืดทึบสู่ความมืดทึบ
    หรือพึงไปจากความมืดมัวสู่ความมืดมัว
    หรือพึงไปจากโลหิตอันมีมลทินสู่โลหิตอันมีมลทิน ฉันใด

    มหาราช ! ตถาคตกล่าวว่าบุคคลนี้ มีอุปไมยฉันนั้น
    มหาราช ! อย่างนี้แล บุคคลชื่อว่าเป็นผู้มืดแล้วคงมืดต่อไป.

    --------------------------------------------------------------------------------

    (2)
    มหาราช ! ก็อย่างไร บุคคลชื่อว่าเป็นผู้มืดแล้วกลับสว่างต่อไป
    มหาราช ! บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นคนเกิดมาภายหลังในตระกูลอันต่ำทราม
    คือในตระกูลจัณฑาล ตระกูลพราน ตระกูลจักสาน ตระกูลทำรถ หรือตระกูลเทหยากเยื่อ
    ซึ่งเป็นคนยากจน มีข้าวและน้ำน้อย เป็นอยู่ฝืดเคือง มีอาหารและเครื่องนุ่งห่มหาได้โดยยาก
    เขาเป็นผู้มีผิวพรรณทราม ไม่น่าดู เตี้ยค่อม ขี้โรค ตาบอด ง่อยกระจอกมีตัวตะแคงข้าง
    ไม่ค่อยจะมีข้าว น้ำ เครื่องนุ่งห่ม ยานพาหนะ ดอกไม้ ของหอม
    เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อยู่ และประทีปโคมไฟ

    แม้กระนั้น เขาก็ประพฤติสุจริตด้วยกาย วาจา ใจ
    ครั้นเขา ประพฤติสุจริตด้วยกาย วาจา ใจแล้ว
    ครั้นตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์

    มหาราช ! บุรุษพึงขึ้นจากแผ่นดิน สู่บัลลังก์
    หรือพึงขึ้นจากบัลลังก์ สู่หลังม้า
    หรือพึงขึ้นจากหลังม้า สู่คอช้าง
    หรือพึงขึ้นจากคอช้าง สู่ปราสาท แม้ฉันใด

    มหาราช ! ตถาคตย่อมกล่าวว่า บุคคลนี้มีอุปไมยฉันนั้น
    มหาราช ! อย่างนี้ แล บุคคลชื่อว่าเป็นผู้มืดแล้วกลับสว่างต่อไป.

    --------------------------------------------------------------------------------

    (3)
    มหาราช ! ก็อย่างไร บุคคลชื่อว่าเป็นผู้สว่างแล้วกลับมืดต่อไป
    มหาราช ! บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้เกิดมาภายหลังในตระกูลสูง คือ
    ในสกุลกษัตริย์มหาศาล สกุลพราหมณ์มหาศาล หรือสกุลคหบดีมหาศาล อันมั่งคั่ง มีทรัพย์มาก
    มีโภคะมาก มีทองและเงินพอตัว มีอุปกรณ์แห่งทรัพย์พอตัว มีทรัพย์และข้าวเปลือกพอตัว
    เขามีรูปงาม น่าดู น่าเลื่อมใส ประกอบด้วยความเกลี้ยงเกลาแห่งผิวพรรณอย่างยิ่ง
    ร่ำรวยด้วยข้าว ด้วยน้ำ เครื่องนุ่งห่ม ยานพาหนะ ดอกไม้ของหอม
    เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อยู่ และประทีปโคมไฟ

    แต่เขากลับประพฤติทุจริตด้วยกาย วาจา ใจ
    ครั้นเขาประพฤติทุจริตด้วยกาย วาจา ใจแล้ว
    ครั้นตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก.

    มหาราช ! บุรุษลงจากปราสาท สู่คอช้าง
    หรือลงจากคอช้าง สู่หลังม้า
    หรือลงจากหลังม้า สู่บัลลังก์
    หรือลงจากบัลลังก์ สู่พื้นดิน
    หรือจากพื้นดินเข้าไป สู่ที่มืด แม้ฉันใด

    มหาราช! ตถาคตกล่าวว่า บุคคลนี้มีอุปไมยฉันนั้น.
    มหาราช ! อย่างนี้แล บุคคลชื่อว่าเป็นผู้สว่างแล้วกลับมืดต่อไป .

    --------------------------------------------------------------------------------

    (4)
    มหาราช ! ก็อย่างไร บุคคลชื่อว่าเป็นผู้สว่างแล้วคงสว่างต่อไป
    มหาราช ! บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นคนเกิดมาภายหลังในตระกูลสูง คือ
    ในสกุลกษัตริย์มหาศาล สกุลพราหมณ์มหาศาล หรือสกุลคหบดีมหาศาล อันมั่งคั่ง มีทรัพย์มาก
    มีโภคะมาก มีทองและเงินพอตัว มีอุปกรณ์แห่งทรัพย์พอตัว มีทรัพย์และข้าวเปลือกพอตัว
    เขามีรูปงาม น่าดู น่าเลื่อมใส ประกอบด้วยความเกลี้ยงเกลาแห่งผิวพรรณอย่างยิ่ง
    ร่ำรวยด้วยข้าว ด้วยน้ำ เครื่องนุ่งห่ม ยานพาหนะ ดอกไม้ของหอม
    เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อยู่ และประทีปโคมไฟ

    เขาย่อมประพฤติสุจริตด้วยกาย วาจา ใจ
    ครั้นเขาประพฤติ สุจริตด้วยกาย วาจา ใจแล้ว
    ครั้นตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์

    มหาราช ! บุรุษพึงก้าวไปด้วยดีจากบัลลังก์ สู่บัลลังก์
    หรือพึงก้าวไปด้วยดีจากหลังม้า สู่หลังม้า
    หรือพึงก้าวไปด้วยดีจากคอช้าง สู่คอช้าง
    หรือพึงก้าวไปด้วยดีจากปราสาท สู่ปราสาท แม้ฉันใด

    มหาราช ! ตถาคตย่อมกล่าวว่า บุคคลนี้มี อุปไมยฉันนั้น
    มหาราช ! อย่างนี้แล บุคคลชื่อว่าเป็นผู้สว่างแล้วคงสว่างต่อไป.

    มหาราช ! บุคคล 4 จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก ดังนี้ .

    --------------------------------------------------------------------------------

    พระผู้มีพระภาคผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้ จบลงแล้ว
    จึงได้ตรัสพระคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า

    มหาราช ! บุรุษเข็ญใจไม่มีศรัทธา เป็นคนตระหนี่เหนียวแน่น มีความดำริชั่ว เป็นมิจฉาทิฐิ
    ไม่มีความเอื้อเฟื้อย่อมด่า ย่อมบริภาษสมณะหรือพราหมณ์หรือวณิพกอื่นๆ
    เขาเป็นคนไม่มีประโยชน์ เป็นคนมักขึ้งเคียด ย่อมห้ามคนที่กำลังจะให้โภชนาหารแก่คนที่ขอ.
    มหาราช ผู้เป็นใหญ่ยิ่งของประชาราษฎร์ !
    คนเช่นนั้น เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงนรกอันร้ายแรง นี่ชื่อว่า ผู้มืดแล้ว คงมืดต่อไป.

    มหาราช ! บุรุษเป็นคนเข็ญใจ เป็นคนมีศรัทธา ไม่มีความตระหนี่ เขามีความดำริประเสริฐ
    มีใจไม่ฟุ้งซ่าน ย่อมให้ทาน ย่อมลุกรับสมณะหรือพราหมณ์ หรือวณิพกอื่นๆ
    ย่อมสำเหนียกในจรรยาอันเรียบร้อย ไม่ห้ามคนที่กำลังจะให้โภชนาหารแก่คนที่ขอ.
    มหาราช ผู้เป็นใหญ่ยิ่งของประชาราษฎร์ !
    คนเช่นนั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงไตรทิพสถาน นี่ชื่อว่า ผู้มืดแล้วกลับสว่างต่อไป.

    มหาราช ! บุรุษ ถึงหากจะมั่งมี ไม่มีศรัทธา เป็นคนมีความตระหนี่เหนียวแน่น มีความดำริชั่ว
    เป็นมิจฉาทิฐิ ไม่มีความเอื้อเฟื้อ ย่อมด่าย่อมบริภาษสมณะหรือพราหมณ์หรือวณิพกอื่นๆ
    เขาเป็นคนไม่มีประโยชน์ เป็นคนมักขึ้งเคียด ย่อมห้ามคนที่กำลังจะให้โภชนาหารแก่คนที่ขอ.
    มหาราช ผู้เป็นใหญ่ยิ่งของประชาราษฎร์ !
    คนเช่นนั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงนรกอันร้ายแรง นี่ชื่อว่า ผู้สว่างแล้วกลับมืดต่อไป.

    มหาราช ! บุรุษ ถึงหากจะมั่งมี ก็เป็นคนมีศรัทธา ไม่มีความตระหนี่ เขามีความดำริประเสริฐ
    มีใจไม่ฟุ้งซ่าน ย่อมให้ทาน ย่อมลุกรับสมณะ หรือพราหมณ์ หรือแม้วณิพกอื่นๆ
    ย่อมสำเหนียกในจรรยาอันเรียบร้อย ไม่ห้ามคนที่กำลังจะให้โภชนาหารแก่ผู้ที่ขอ
    มหาราช ผู้เป็นใหญ่ยิ่งของประชาราษฎร์ !
    คนเช่นนั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงไตรทิพสถาน นี่ชื่อว่าผู้สว่างแล้วคงสว่างต่อไป ดังนี้ .

    --------------------------------------------------------------------------------

    - สคา. สํ 15/136/393


    เครดิตครับ 36-บุคคล 4 ประเภทในโลก
     
  2. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๓ อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต หน้าที่ ๘๔/๒๔๐
    [๘๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก ๔จำพวกเป็นไฉน คือ
    ผู้มืดมาแล้ว มีมืดต่อไปจำพวก ๑
    ผู้มืดมาแล้ว มีสว่างต่อไปจำพวก ๑
    ผู้สว่างมาแล้ว มีมืดต่อไปจำพวก ๑
    ผู้สว่างมาแล้ว มีสว่างต่อไปจำพวก ๑
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลผู้มืดมาแล้วมีมืดต่อไปเป็นอย่างไร
    บุคคลบางคนในโลกนี้ เกิดมาในตระกูลต่ำ คือ ตระกูลจัณฑาล ตระกูล
    ช่างสานตระกูลนายพราน ตระกูลช่างเย็บหนัง หรือในตระกูลคนเทหยากเยื่อ อันเป็นตระกูล
    เข็ญใจ มีข้าว น้ำและโภชนะน้อย เป็นอยู่โดยฝืดเคือง หาของบริโภคและผ้านุ่งห่มได้โดยฝืดเคือง
    อนึ่ง เขามีผิวพรรณทราม ไม่น่าดู เป็นคนแคระ มีโรคมาก เป็นคนตาบอด เป็นคนง่อย
    เป็นคนกระจอก หรือพิการไปแถบหนึ่ง ไม่ได้ข้าว น้ำ ผ้านุ่งห่ม ยานพาหนะ ระเบียบดอกไม้
    ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อยู่อาศัย และประทีป ตามสมควร เขาซ้ำประพฤติทุจริตด้วย
    กาย วาจาและด้วยใจ ครั้นประพฤติทุจริตด้วยกาย วาจา ใจแล้ว เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงอบาย
    ทุคติ วินิบาต นรก บุคคลเป็นผู้มืดมาแล้ว มีมืดต่อไปอย่างนี้แล ฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้มืดมาแล้ว มีสว่างต่อไปเป็นอย่างไร บุคคลบางคนใน
    โลกนี้ เกิดมาในตระกูลต่ำ คือ ตระกูลจัณฑาล ตระกูลช่างสานตระกูลนายพราน ตระกูลช่าง
    เย็บหนัง หรือตระกูลคนเทหยากเยื่อ อันเป็นตระกูลเข็ญใจ มีข้าว น้ำและโภชนะน้อย เป็นอยู่
    โดยฝืดเคือง หาของบริโภคและผ้านุ่งห่มได้โดยฝืดเคือง อนึ่ง เขามีผิวพรรณทราม ไม่น่าดู
    เป็นคนแคระมีโรคมาก เป็นคนตาบอด เป็นคนง่อย เป็นคนกระจอก หรือเป็นคนพิการไป
    แถบหนึ่ง ไม่ได้ข้าว น้ำ ผ้านุ่งห่ม ยานพาหนะ ระเบียบดอกไม้ ของหอมเครื่องลูบไล้ ที่นอน
    ที่อยู่อาศัย และประทีป ตามสมควร แต่เขาประพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วยวาจาและด้วยใจ ครั้น
    ประพฤติสุจริตด้วยกาย วาจา ใจแล้วเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ บุคคลเป็นผู้มืด
    มาแล้ว มีสว่างต่อไปอย่างนี้แล ฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลผู้สว่างมาแล้ว มีมืดต่อไปเป็นอย่างไร บุคคลบางคนใน
    โลกนี้ เกิดมาในตระกูลสูง คือ ตระกูลกษัตริย์มหาศาล ตระกูลพราหมณ์มหาศาล หรือตระกูล
    คหบดีมหาศาล อันเป็นตระกูลมั่งคั่งมีทรัพย์มากมีโภคะมาก มีทองและเงินมาก มีเครื่องใช้ที่น่า
    ปลื้มใจมากมาย มีทรัพย์สินเหลือล้นอนึ่ง เขามีรูปงาม น่าดู น่าเลื่อมใส ประกอบด้วยความเป็นผู้มี
    ผิวพรรณงามยิ่งนัก เป็นผู้มีปรกติได้ข้าว น้ำ ผ้านุ่งห่ม ยานพาหนะ ระเบียบดอกไม้ ของหอม
    เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อยู่อาศัย และประทีป แต่เขาประพฤติทุจริตด้วยกาย วาจา และด้วยใจ
    ครั้นประพฤติทุจริตด้วยกาย วาจา และใจแล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
    บุคคลเป็นผู้สว่างมาแล้ว มีมืดต่อไปอย่างนี้แล ฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลผู้สว่างมาแล้ว มีสว่างต่อไปเป็นอย่างไรบุคคลบางคน
    ในโลก เกิดมาในตระกูลสูง คือ ตระกูลกษัตริย์มหาศาล ตระกูลพราหมณ์มหาศาล หรือตระกูล
    คหบดีมหาศาล อันเป็นตระกูลมั่งคั่ง มีทรัพย์มากมีโภคะมาก มีทองและเงินมาก มีเครื่องใช้ที่น่า
    ปลื้มใจมากมาย มีทรัพย์สินเหลือล้น อนึ่ง เขามีรูปงาม น่าดู น่าเลื่อมใส ประกอบด้วยความเป็น
    ผู้มีผิวพรรณงามยิ่งนัก มีปรกติได้ข้าว น้ำ ผ้านุ่งห่ม ยานพาหนะ ระเบียบดอกไม้ของหอม เครื่อง
    ลูบไล้ ที่นอน ที่อยู่อาศัย และประทีป เขาย่อมประพฤติสุจริตด้วยกาย วาจา และด้วยใจ
    ครั้นประพฤติสุจริตด้วยกาย วาจา และใจแล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ บุคคล
    เป็นผู้สว่างมาแล้ว มีสว่างต่อไปอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้แล มีปรากฏ
    อยู่ในโลก ฯ
     

แชร์หน้านี้

Loading...