นิพพาน... เป็นสภาวะที่จิต และรูปร่างของจิต คือกาย ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ และไม่ตาย เป็นอมตะ นิพพานแบบมีกาย+จิต และมีกาลเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องสมบูรณ์ มีอนาคต อดีต ปัจจุบัน คือ สัมโภคกาย(พระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือกายทิพย์บริสุทธิ์) มีเมืองนิพพาน ซึ่งเรียกว่า "พุทธเกษตร" นิพพาน...แบบพุทธภูมิ เป็นที่อยู่ของกาย+จิต ที่เรียกว่า "กายธรรม หรือธรรมกาย" ธรรมคือตัวจิตมหาบริสุทธิ์ ส่วนกายจะทำสมาธินิโรธ นิพพานแบบ "กายธรรม หรือธรรมกาย" เถรวาทยอมรับ แต่ไม่ยอมรับนิพพานของสัมโภคกาย ที่มีเมืองนิพพาน หรือ พุทธเกษตร เพราะไม่เชื่อว่า ผู้ที่เป็นอรหันต์แล้วจะเป็นโพธิสัตว์ช่วยสรรพจิตอีกได้ สัมโภคกาย(พระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือกายทิพย์บริสุทธิ์) นี้คือ โพธิสัตว์อรหันต์ ที่ยังต้องการช่วยสรรพจิตให้ออกจากสังสารวัฎฎ์ จึงต้องมีเมืองนิพพาน ซึ่งเรียกว่า "พุทธเกษตร" เอาไว้สำหรับพวกเท่าน นิพพาน ที่เป็นจิตล้วน หรือเป็นมหาสุญญตา จิตว่างอยู่ในนิโรธตลอด นั้นเป็นเป้าหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา แต่พวกมารและพญามาร แต่เดิมบิดเบือนแค่ไม่มีสัมโภคกาย ต่อมาก็บิดเบือนอีกว่า ไม่มีธรรมกายด้วย สุดท้ายยุคนี้ พวกมารเรืองอำนาจอยู่ในเว็บศาสนาต่างๆ (ไม่ใช่เรืองอำนาจอยู่แต่ในวัดนะครับ) พวกนี้เลยบิดเบือนพุทธศาสนาแบบเบ็ดเสร็จไปเลย แม้แต่นิพพานก็ไม่ให้มีด้วย สูญหมด แล้วเราจะเข้านิพพานกันเพื่ออะไร อยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆไม่ดีหรือ นี่ไงเป็นเหตุที่พระรัตนตรัยคัดเลือกผมมา เพื่อเผยแพร่พระสัจธธรรมสูงสุด ก่อนที่ศาสนาพุทธของเราจะถูกมารกลืนกินจนหมดไม่เหลือซาก ข้อความนี้จริงหรือไม่ครับ ^^
ใกล้มาก พุทธเกษตร คือ สถานที่บำเพ็ญของ อรหัน เพื่อ ปรับภาวะให้เป็นพุทธะ การจะเป็นพุทธะ ต้อง มี บารมี เพิ่ม ใคร จะเรียกว่า โพธิสัตว์อรหัน หรือ อรหันโพธิสัตว์ ก่ สุด แล้วแต่ ใคร จะปฏิเสธ คำว่า อรหัน จะเป็น โพธิสัตว์ ไม่ ได้ ก่ สุด แล้วแต่ ความหมายของ โพธิสัตว์ คือ ผู้ที่เตรียมการเป็น องค์พุทธะ ดังนั้น เรียก โพธิสัตว์ ก่ เรียกได้ ก่ แค่ คำเรียกแทน ผมจะเรียก ว่า โพธิสัตโต เอาไหม? จะได้ ไม่เหมือน โพธิสัตว์ จะ ได้ไม่ต้องยุ่ง ปนกัน ดีไหม?
ขอโทษนะครับ บางท่านผมถามว่าข้อความนี้จริงหรือไม่ครับ ไม่ได้ให้ต้องการกลับมาถามผมกลับช่วยตอบให้ตรงประเด็นกันหน่อยนะครับ อย่ามาป่วนมาบ่น มันบาปนะขวางคนอยากรู้อ่ะ
ครับ ผมขอโทษครับ ที่คุณอาจจะเข้าใจผิด ผิดอยากไม่ให้คุณไปฟังในบางสิ่งที่คนเขาพูด ๆ กันมา ถ้าคุณค้นข้อมูลผม จะรู้ว่าผมเป็นอย่างไร ตอบแบบไหน ด่าตรงไปตรงมาขนาดไหน คุณไม่ค้นหาข้อมูล ไม่ลองเอาธรรมมาเปรียบเทียบกัน ถ้าแค่คนคนเดียว หลายชื่อ หรือหลายคนก็ตาม แต่ไม่ได้สอนธรรมตามประเด็น ชี้ความส่วนเดียวเอาตามความคิด ที่ไม่ได้มีส่วนของกุศลจิตใด ๆ เลย คุณคิดว่าควรเชื่อได้หรือไม่ ผมไม่บังอาจไปบอกหรอกครับว่าผมคิดถูก หรือผมคิดผิด เพราะผมได้แต่ปฏิบัติไปจนกว่าจะสุดกำลังก่อนว่า สิ่งที่ผมรับรู้มาถูกหรือผิด แต่ผมยอมรับครับว่าผมเชื่อก่อนแล้วส่วนหนึ่ง เพราะไม่ได้มีปัญญาขนาดไปตรวจสอบพระธรรมของพระองค์ได้ ว่า สิ่งที่ท่าน ๆ เหล่านั้นสอนมาถูกต้องหรือไม่ หรือกว่าจะวิเคราะห์ได้ ก็อาจจะตกนรกหมกไหม้ไปก่อน หรือไม่ก็มิจฉาทิฐิไปเสียทั้งหมด ถ้าคุณยังมีส่วนของกุศลจิตเหลืออยู่ ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจว่าธรรมของพระพุทธเจ้าที่แท้จริง เป็นอย่างไร ข้อความข้างบนที่คุณตั้ง ผมก็คิดว่ามีส่วนที่ถูกและผิด ตามความคิดของผม แต่อย่างไรนั้นผมคงไม่อธิบาย และคนที่เอาข้อความนี้มาบอกคุณ บิดเบือนได้อย่างร้ายกาจครับ ที่ผมบอกว่าเอือมเพราะเอือมคนที่เอาข้อความาบอกคุณ ท้าทายโลกันต์มาก ๆ และส่วนที่บอกว่าเชื่อหรือไม่นั่นอยู่ที่คุณเอง ขอโทษอีกครั้งที่อาจทำให้เข้าใจผิดครับ
คนที่เอือม เพราะ อะไร ครับลองไปดูที่ภาวะของเขา ดูสิครับ ความรู้สึกเกิดขึ้นอย่างไร เขาจึงได้เอือม นี่ล่ะ ว่า ความรู้ในตนยังไม่เห็นชัด ก๋ เที่ยวไปว่าคนโน้นคนนี่ แสดงธรรมไม่ถูกต้อง ความรู้สึกเอือม เกิดขึ้นเพราะ???
การเข้าถึงอริยทรัพย์ ก็คือทรัพย์ที่ไม่เสื่อม ตาม พุทธวจน ลองนึกดูคำว่าทรัพย์ ผู้เข้าถึง ความเป็นพระอริยเจ้า พระพุทธเจ้า พระองค์ทรงตรัสว่า ท่านผู้นั้น เข้าถึง อริยะทรัพย์ พุทธองค์ ไม่ว่า พระไตรปิฏกเล่มไหน วรรคไหน ตอนที่เท่าไหร่ พระองค์ไม่เคยมีบอกไว้ว่า ท่านทั้งหลาย ผู้ที่เข้าถึงความเป็นอรหันต์ พระอรหันต์ได้เข้าถึง อริยะสูญแล้ว !!!ทำความดีมา ทำความดีมา ทำทาน ถือศีล ทำมาสารพัด พอตายไป เหตุที่ทำแบบนี้ พระพุทธเจ้าตรัสว่า มีสวรรค์ เป็นที่ไป แต่พอทำความดี ขั้นสูงสุด ไล่ตั้งแต่ ทาน ศีล ภาวนา ทำความดีมหาศาล ทั้งทางกาย และจิตใจ สุดท้าย สิ่งที่ได้รับคือ ความสิ้นเนื้อประดาตัว ชีวิตไม่หลงเหลืออะไรเลย จิตใจก้ดับสูญสิ้นทุกอย่าง ทำดีแทบตายยยยย!! สิ่งที่ได้รับคือความว่างเปล่า ก้คือไม่เหลืออะไรเลย แบบนี้ เขาเรียกว่า ความดีอาภัพ!! ฟันธงคราบ
ความโง่ ของ คน อ่าน ไม่ ชัด เจน ก๋ นำ ไป วิจารณ์ เรา บอก ว่า คำ คือ สิ่ง สมมติ จะ บอก ว่า อรหัน ใน พุทธเกษตร จะ เรียก ว่า abcอรหัน ก่ ได้ หรือ เรียก ว่า อรหันabc ก่ ได้ ก่ แค่ ยืม โพธิสัต มา ใช่ เหมือน จขกท ก่ แค่ นั้น แม้ มี อารมณ์ เกิด ขึ้น เชียว หรือ จะ เอา จิง เอา จัง กัน จน เอือม เลย หรือ
ผม ต่อ ให้ น่ะ ผม ไม่ ทราบ ดอก ว่า ท่าน รับ ข้อมูล จาก ที่ ไหน ผม ก่ ไม่ เคย ไป รับ เป็น ศิษย์ ของ ใคร หรือ องค์ กร อะไร แต่ ผม คาด ว่า เป้า ประสงค์ ที่ เขา บอก ท่าน คือ ไม่ ต้อง เสีย เวลา กับ การ ตั้ง ใจ เป็น พุทธะ คน ธรรมดา ทำ ให้ สำเร็จ พ้นทุกข์ ณ ชาติ ปัจจุบัน เสีย การ เป็น พุทธะ ทุก คน เป็น ได้ หมด เหมือน กัน เมื่อ อยู่ ใน แดน พุทธะ เกษตร ผม ว่า ผม เข้า ใจ เจตนา ที่ ดี ของ ผู้ ที่ ให้ ข้อมูล แก่ จขกท การ เป็น พุทธะ ต้อง สะสม บารมี อีก นาน ให้ ตัด สินใจ พ้น ทุกข์ เสีย เลย ชาติ นี้ ..... นี้คือ เป้าประสงค์ (ผมไม่ได้ไปลอก จากลักธิ อะไร รู้มาอย่างไร ก่ว่าไปตามที่รู้... ผู้มาบอกก่ไม่ใช่มนุษย์ตามที่คุณเอือมเข้าใจ) แต่ สำหรับ คน ที่ เอือม ก่ ต้อง ปล่อย เขา ไป ครับ เพราะ วิถี เขา มา เช่น นี้
49 วันแรก หลังการตรัสรู้ พระพุทธเจ้าท่านหันหน้าไปยังทิศทั้งสี่ ทิศละเจ็ดวัน เพื่ออะไรหรือ คุณ phudit999 พอจะทราบไหม
พยายาม มอง ใน สิ่ง ที่ เป็น ประโยชน์ ที่ จขกท ถาม หรือ นำเสนอ มอง ดู ใน เนื้อ หา ให้ ละเอียด ดู ใน สิ่ง ที่ แปลก จาก มิติ (ความคิด ความเห็น ความเข้าใจ) ของ ตน เอง มอง แต่ เรื่อง ที่ คน อื่น นำ เสนอ ไม่ ถูก กับ ความ คิด ของ ตน เป็น สิ่ง ผิด ไป หมด .... ก่ ดู ตน เอง เอา