วัดนี้ เดินธุดงค์ ในป่า เป็นประจำทุกปี

จริงๆแล้ววัดพระธรรมกาย จะจัดเดินธุดงค์ในป่า เป็นประจำทุกปีครับ เพียงแค่ไม่เป็นข่าว ตามภาพครับ

 

โครงการบวชแสน ท่านจัดในป่านั่นหละครับ....พอดีมีโครงการหลวงปู่ ท่านเลยจัดเข้าเมือง....โปรดคนเมือง....

 

และที่ว่าวัดจานบิน

ผมอยากจะบอกว่า ท่านกำลังบาปอยู่นะครับเพราะเจดีย์ที่ท่านว่า มีพระเป็นล้านองค์เลยทีเดียว

สีทองที่ท่านเห็น คือพระนะครับ ท่านเอามาพูดกันเล่นๆด่ากันสนุกปาก ท่านคิดว่าท่าน ได้บุญหรือท่านได้บาป ลองเอาไปคิดดูกันเองครับ

 

ไม่ได้มีปัญหากับวัดนี้และพระวัดนี้หรอกนะ แต่ทำอะไรที่ผู้อื่นเดือนร้อนน่ะใช้ปัญญาแล้วหรือ จำได้ว่าแม้น้ำค้างบนยอกหญ้า พระพุทธองค์ยังให้เว้นอย่าไปเหยียบ เพราะนั่นเป็นอาหารเป็นน้ำของสัตว์และแมลงต่างๆ แต่นี่ แห่กันมากลางกรุงเพื่อโปรดคนเมือง.. คนเมืองบาปกันมากหรือครับ ทำไมไม่เดินต่างจังหวัดบ้างหรือ Thailand Tour ไปเลย ผมกลัวบาปครับแต่กล้าแสดงความเห็นเพราะไม่อยากให้พระบาป ผิดวินัย และทำร้ายผู้อื่นในทางอ้อมโดยอ้างว่าโปรดคนเมือง.. รับไม่ได้ครับ

 

ช่องทางเดินเล็กๆ ที่เป็นข่าวไปทั่วโลกในหลายๆประเทศในด้านดีที่ชาวต่างาติให้ความสนใจและอยากมาร่วม ( CNN )
อย่างน้อยๆก็ยังให้คนที่ไม่เคยได้เข้าวัดทำบุญ อย่างพวกเราที่ทำเป็นประจำอยู่แล้ว ยังมีโอกาศได้ทำบ้างเล็กๆน้อยๆตามภาพ


ทางเดินเล็กๆแคบๆ หรือว่าใจคนแคบกว่าทางเดิน ที่เห็นแล้วรู้สึกว่า เดินเกะกะขวางทาง
ไม่ได้ขวางทางใครแต่เกะกะขวางใจ

สิ่งที่ไม่ถูกใจไปทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้ผิดไปทั้งหมด นะครับ ( คนกี่ล้าน ที่อยู่ริมทางได้ไห้วพระ )

ท่านไม่ได้ไหว แต่อีกหลายคนผ่านมาได้เห็น ท่านไม่ได้เห็นพระท่านเดิน แต่อีกหลายล้านคนได้ไห้วพระ



ภาพเหล่านี้ถ้าทำให้ท่านร้อนใจ ขุ่นเคืองใจที่ได้เห็น ก็ต้องขออภัย


คนป่วยได้มีโอกาศร่วม และสิ่งที่มองไม่เห็นมากมายในโรงพยาบาล ก็คงได้มีโอกาศมาร่วม


ถ้าท่านเป็นชาวพุธ พระมากมายเดินผ่านหน้าบ้านท่าน ท่านจะไห้วพระมั้ยครับ หรือท่านจะเดินมาบอกว่า อย่านั่งขวางหน้าบ้านผม


กี่ล้านคน ที่มีโอกาศได้ยกมือไห้วพระ ท่านจะอนุโมทนาบุญกับพวกเค้า หรือท่านจะนึกขุ่นเคืองใจที่พระท่านเดิน


ขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่าน ที่ได้เพียงแค่มีจิตคิดเป็นกุศลในการได้เห็นพระ แม้จะไม่ได้พนมมือไห้ว
และขอมีส่วนแห่งบุญกับทุกท่าน ที่ได้เห็นพระให้ความเคารพและได้ยกมือขึ้นพนมไห้ว

 

อย่างกบุญกันนักเลย....เอาปัญญากลับไปแก้ปัญหาชีวิตกันบ้างเถิด

 

ผมไม่ได้หมายถึงว่าคนเมืองมีบาปมาก อันนี้คิดไปไกล เพียงแต่ว่าบ้างครั้งคนในเมืองเนื้องด้วยภาระงานที่รัดตัวค่อนข้างมาก มีโอกาสที่จะได้ทำบุญที่ค่อนข้างจะใหญ่ได้น้อย หรือมีโอกาศเข้าวัดทำบุญได้น้อย จึงจัดโอกาศให้ได้มีโอกาสดีๆในการทำบุญ อีกอย่างเพื่อเป็นการฉลองพุทธชยันตีของพระพุทธเจ้า และทำบุญใหญ่หลังจากเมืองหลวงเราผ่านเหตุการต่างๆไม่ว่าการนองเลือดกลางเมือง น้ำท้วมเมือง ตลอดจนถือว่าเป็นการทำบุญใหญ่เพื่อประเทศเราจะได้เจริญๆยิ่งๆขึ้นไป และถือเป็นโอกาศดีที่มีการอัญเชิญหลวงพ่อสด ทองคำ เพื่อให้สมเกียรติกับครูบาอาจารย์ด้วยไงครับ...

จริงๆผมต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้เป็นศิษย์สำนักวัดพระธรรมกายหลอกนะครับ เพราะผมไม่เคยฝึกกรรมฐานกับวัดพระธรรมกาย....แต่ผมเคยฝึกกรรมฐานจากครูบาอาจารย์ท่านอื่นที่สืบทอดจากหลวงปู่สดท่านโดยตรงอีกที ซึ่งผมก็นับถือหลวงปู่สด ท่านเหมือนอาจารย์ปู่ท่านหนึ่งของผม...ส่วนตัวผมเห็นวัดพระธรรมกายมีโครงการดีๆเพื่อพระศาสนา...จริงๆไม่ว่าที่ใหนก็ตามถ้าทำให้พระศาสนาเจริญและทำความดี ผมสนับสนุนหมดหละครับ..

 

ส่วนตัวผมนะ ถ้าเราเชื่อในพระพุทธเจ้า เราต้องเชื่อในเรื่องของกฏแห่งกรรม เมื่อเราเชื่อในเรื่องของกฏแก่งกรรม เราต้องเชื่อในเรื่องของบาปและบุญ ถูกไมครับ...

โดยปกติคนเราทั้งหลายเมื่อเข้าสู่พระศาสนาจะเข้ามาด้วยกำลังบารมี เริ่มต้นจากทาน คนเราให้ทานง่ายกว่าการรักษาศีลนะ รักษาศีลยังว่ามีน้อย น้อยยิ่งกว่าคือการภาวนา....ตัวท้ายสุดนี้มีน้อยที่สุด...

ฉะนั้นส่วนตัวผม คนติดในบุญนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี ดีกว่าติดในบาปเป็นใหนๆ เพราะทานอย่างน้อยก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี...เมื่อมีทานบ่อยเข้า เข้าวัดบ่อยๆ ศีลก็จะมาเองหละนะ....เมื่อมีศีล ภาวนาก็จะมาอีก...อย่างนี้หละ....จะให้คนปกติตัดเข้าภาวนาเลย ถ้าถามผมนะ เปอร์เซ็นต์น้อยมาก มากจนหาเกือบไม่ได้เลยก็ว่าได้ ..

เงินที่เราจะเอาไปซื้อเหล้า เข้าผลับ ไปลงอ่าง นวดกระปู๋ นวดกระปิ นวดน้ำมัน เล่นไพ่ เล่นการพนัน ยาเสพติด อะไรก็แล้วแต่ เราเอาเงินนั้นมาซื้อของตักบาตรเพื่อส่งไปช่วยพระสงฆ์ภาคใต้ มาซื้อดอกกุหลาบ ผมว่าจะดีกว่าไมครับ...อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นความดี จะได้มีอานิสงค์ไปในอนาคตด้วย....

ผมว่าบ้าบุญก็ยังดีกว่าบ้าบาปนะ.....

 

ผมขอเสนอข้อเท็จจริงตามที่เห็นนะครับ ไม่เอาการปรุงแต่ง อคติของจิตเข้ามาเกี่ยวข้อง...
รูปพระที่เห็นนั่น... พระใส่กางเกงนะครับ....

 

จิตสงบ กายสงบ วาจาสงบ สาะ

 

ผมคิดว่าแบบนี้อาจจะดีก็ได้แต่อาจจะไม่ดีก็ได้ก่อนที่ท่านจะไปในป่ามาในเมืองก่อน ลองคิดดูนะครับ นี่มานะทิฐิความคิดของผมนะครับ

ที่บอกอาจจะดีก็ได้ ขอยกตัวอย่างมีคนรวยในสมัยที่พระพุทธเจ้า คนรวยผู้นี้ไม่ให้ทรัพย์ไม่ให้ทานพระพุทธเจ้าเดินผ่านบ้านหลายๆครั้งไม่เคยกราบไหว้ ไม่เคยให้ทานสักนิดหนึ่ง พอตอนเค้าใกล้จะตาย พ่อเค้าก็งกเหมือนกันนั่แหละก่อนลูกจะตาย ตอนแรกเอาลูกไปไว้ห้องนอนมีสมบัติของดีๆมากมาย กลัวญาติจะมาขอ เลยเอามาออกไว้ข้างนอก(ในบ้านแต่ผมไม่รู้ว่าตรงไหน) แล้วสุดท้ายลูกก็ตาย แต่ไปสวรรค์ เพราะว่า นึกถึงพระพุทธเจ้านิดเดียว คิดว่าพระพุทธเจ้าท่านก็มีเมตตา นึกแค่นั้นไปสวรรค์เลย

เอากลับมาเรื่องนี้ สมมุติมีคนเมืองที่เห็นพระออกเดินใกล้จะตาย อาจจะนึกถึงพระสีเหลืองสีของพระ แล้วไปสวรรค์ก็เป็นไปได้

แต่ข้อไม่ดีคืออาจจะโดนชาวบ้านติเตียนจะเป็นการปรามาสก็ได้ แล้วก็พระท่านอาจจะหลงในกิเลศ(แต่คงเป็นไปได้ยาก พระท่านน่าจะมีเทวธรรม หิริและโอตัปปะ)

 

มองยังไงว่าใส่กางเกงครับครับ ไปอ่านที่ไหนมาถึงได้ มีความคิดให้มองชี้ไปทางนั้น

แบบนี้ใส่กางเกงมั้ยครับ












อยู่ที่การมอง จะมองว่าใส่กางเกงก็ได้ หรือเป็นจีวรก็ได้ เพราะเป็นรูปหล่อ

 

เข้าป่าเพื่อหาความสงบ ไปกันเยอะแยะจะเจอเหรอครับ

 

อยู่ในเมืองกรุงมีคนมากมายหลายสิบล้าน มีวัด และสถานที่ปฎิบัติธรรม กลางกรุง
ท่านสามารถทำจิตของท่านให้สงบในสถานที่แห่งนั้น ได้หรือไม่
( คนมากมาย ที่ไป )

ถ้าท่านทำได้ สามารถสงบได้ แม้เพียง 5 นาที
ในป่า ก็ย่อมสงบได้เช่นกัน

ถ้าจะตั่งคำถาม ถึงคำว่า สงบ ได้หรือไม่ ท่านเคยบวชเป็นพระ แล้วท่าน สงบได้ตลอด 24 ชั่วโมงหรือไม่

ถ้าท่านตั่งคำถามเพื่อจะจ้องเอาผิด ยังไงก็ผิดใจท่านไม่ว่าจะได้คำตอบเช่นไร
ท่านก็ต้องถามตนเองว่าท่าน ทำได้หรือยัง กับคำว่า สงบ

 

จ้อง ถือผิด เอาผิด จับผิด จะมีคำตอบเช่นไร จะได้คำตอบอย่างไร ยังไงก็ผิด จะนั่ง นอน ยืน เดิน ยังไงก็ผิด

ถ้าท่าน จ้องดิน ท่านก็สำเร็จ กสิณดิน

ถ้าท่าน จ้องน้ำ ท่านก็สำเร็จ กสิณน้ำ

ถ้าท่าน จ้องลม ท่านก็สำเร็จ กสิณลม

ถ้าท่าน จ้องไฟ ท่านก็สำเร็จ กสิณไฟ

ถ้าท่านจ้องให้ผิด ท่านก็เห็นให้ผิด

ถ้าท่านจ้องถูก ท่านก็จะเห็นมากกว่าสิ่งที่ถูก และสิ่งที่ผิด

อยู่ที่ท่านแล้ว ว่าจิตของท่าน จ้องแบบไหน

ผมก็แค่เด็กอนุบาล ข้อความของผมก็เหมือนคุยกับท่านที่เป็น นักเรียน ม.6

ผมเองเคยบวชมาไม่กี่พรรณษาในวัดป่ามันช่างน้อยนิด ไม่อาจจะชี้แนะอะไรใครได้
ผมมีครูบาอาจารย์หลายองค์ แต่ผมก็ไม่ยึดถือ องค์ไดองค์หนึ่ง
แต่ผมเลือกเอาคำสอนของท่านในหลายองค์ มาเป็นแนวทางที่เหมาะสมกับตัวเอง

หลวงปู่องค์หนึ่งอายุร้อยกว่าปี ท่านเคยสอนสมัยผมบวชว่า ดูสิพระที่เรียนจบ เปรียญธรรม ก็ยังเหาะไม่ได้ ทั้งที่รู้ แต่ก็ยังทำไม่ได้
ก็คงไม่ต่างจาก สิ่งที่รู้ว่าถูกก็ยังทำไม่ได้ สิ่งที่รู้ว่าผิดก็ยังทำเหมือนเดิม

พวกท่านเองก็เป็นผู้ที่สนใจเรียนรู้ในธรรมะ แต่ก็ยังเอาธรรมะ มาจ้องจับผิดผู้ปฎิบัติธรรม ที่เหมือนกับท่าน

อะไรละคือสิ่งที่ถูก ก็คงเป็นสิ่งที่ถูกใจท่านใช้หรือไม่ ถ้าไม่ถูกใจท่านคือผิดไปเสียหมดเลยหรือ

แนวทางการปฎิบัติธรรม ก็ย่อมแตกต่างกันไปตามจริต ของแต่ละบุคคล ที่ทำบุญต่างกันมา

หลวงปู่ท่านหนึ่งเคยพูดไว้ว่า ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกรรม

 

"ในโลกนี้มีคนโง่ หรือ คนฉลาด มากกว่ากัน"

"ถ้าอย่างนั้นคนฉลาดจงไปสำนักของพระสมณะโคดม คนโง่จงมาที่สำนักของเรา"​

ผ่านมา 2500กว่า ปี ท่านสัญชัย ยังคงโลภมากเหมือนเดิม

 

เห็นด้วยอย่างยิ่ง
และ ขอน้อมระลึกถึง พระรัตนตรัยซึ่งเป็นที่พึ่งที่ระลึกสูงสุด ไม่มีสรณะอื่นยิ่งกว่า พระรัตนตรัยจัดเป็นสรณะได้ทั้งยามปกติและยามคับขัน โดยเฉพาะเป็นที่พึ่งทางใจ เป็นอนุสติ เป็นแนวทางสำหรับยึดถือปฏิบัติตามเป็นอย่างดี เรียกการถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะที่พึ่งว่า ไตรสรณคมน์
สรณะทั้ง ๓ ในพระพุทธศาสนานี้ คือ
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่เป็นพระอริยสงฆ์มิใช่สมมุติสงฆ์
สามรัตนะนี้เท่านั้นเป็นสรณะที่พึ่งที่แท้จริง

 

นั่นสิครับ บ้าบุญดีกว่าบ้าบาปเป็นไหนต่อไหน จะบ้า ทาน บ้าศีล บ้าปฏิบัติ หรือบ้าทั้งหมด ก็ สุดแท้ แต่วาสนาบารมีและกำลังใจของท่านเอง

 

งง

รูปที่บอกธุดง ในป่า ผมเคยเจอมาแล้ว มีพระอีกองค์ เดินถ่าย รูปให้ เดินถ่ายวีดีโอก็มี จะถ่ายทำไม แล้วก็ไม่ได้เข้าไปในป่าลึกจริงๆอะไรหรอก พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ที่ท่านเดินธุดง จริงๆ ท่านก็เข้าป่าลึก แล้วก็ไปกันแค่ไม่กี่องค์ ไม่ได้แห่กันไปแล้วไปถ่ายรูปแบบนี้ ท่านเข้าไปหาความสงบกันจริง และก่อนที่ท่านจะออกธุดง ท่านก็ศึกษาทางธรรมจนรู้ดีแล้วค่อยออกธุดง ไม่ใช่บวชเสร็จออกธุดงเลย เข้าใจอยู่ที่บางท่านบอก ดีกว่าทำบาป ท่านก็อาจจะได้บุญแต่ได้น้อยกว่าเนื้อนาบุญที่บริสุทธิ์

 

ก็ว่ากันตามนี้ ผมไม่ใช่คนพูดครับ คณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้นมาเป็นคนพูดครับ

http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2006/09/Y4679230/Y4679230.html.449

อีกอย่างหนึ่งสองรูปแรก เป็นของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจริง (น่าจะเป็นองค์ปฐมนะครับ) แต่เป็นเครื่องทรงเทวดา นะครับ อย่าสักแต่ว่า search หาคำว่าพระ เห็นว่าพอจะเอามาเข้าเรื่องได้ ก็เลยเอามา post สิครับ... คนที่เข้าใจใน นัย ความหมายจริงๆ จะมองเอาว่าท่านไม่เข้าใจเอาได้นะครับ