คนที่มีองค์จะมีลักษณะ อาการอย่างไรบ้างค่ะ แล้วควรจะทำตัวอย่างไรค่ะ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 5004105021, 19 ธันวาคม 2007.

  1. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    อ่าวแล้วเขามา ยุ่งกะเราทำไมละ ต่างคนต่างอยู่ไม่ดีกว่าหรือ
     
  2. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    ไม่เคยเจอ เพราะใจไม่ฝักใฝ่เรื่องแบบนี้ ก็แค่สงสัย ว่าเป็นได้ถึงขนาดนี้ แล้วไม่มีใครปกป้องคุณบ้างหรือ พระ หรือเทพ ที่นับถือ
     
  3. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    มัน มี อยู่ สอง แบบ

    1. แบบ ต่ำ ทราม ผ่าน ร่าง เป็น กาฝาก ภูมิ ต่ำ กว่า มนุษย์ อาทิ เปรต สัมภเวสี เทวดาภูมิต่ำ พวกเจ้าเข้าทรงลงขันธ์ พวก เที่ยวกลางคืน

    2. แบบ แล้ว แต่ ว่า เรา ทำ คลื่น ความ ถี่ แบบ ไหน หรือ เรา สะสม บารมี แบบ ไหน ด้วย เช่น เวลา เรา มี วัตร ปฏิบัติ เหมือน หรือ คล้าย กับ ผู้ ปฏิบัติ ใน อดีต กาล ที่ เขา อยู่ ใน ระดับ พรหม เข้า ก่ จะ มา หา ...ปกติ พวก นี้ คือ พวก ที่ ปฏิบัติ สมาธิ เกิน ความ พอ ดี คือ เกิน ระดับ ฌาน ที่ 2

    หรือ เรา มี แนว ทาง ปฏิบัติ ใกล้ เคียง กับ มาร คือ มี ความ อิจฉา ผู้ ปฏิบัติ ธรรม หรือ มี ความ หมั่น ใส้ ธรรม ของ ผู้ ปฏิบัติ ธรรม แล้ว แสดง ออก มา เหล่า นี้ มี ยักษ์์มาร มา ประจำ

    หรือ ที่ อัญ เชิญ มา เอง หรือ มี พันธะ ต่อ กัน มา ก่อน


    สิ่ง เหล่า นี้่ คือ กาฝาก

    ทำไม จึง เป็น กาฝาก เพราะ กายทิพย์ ของ ตน เอง จะ ถูก พลัง ของ สิ่ง เหล่า นี้
    กระแทก ออก มา จาก ร่าง สูญ เสีย การ รับ พลัง ขาด ความ สมดุล ใน ระบบ
    กายทิพย์ จึง อ่อน แรง ไม่ มี พลัง ตาม กาล เวลา

    เมื่อ กาย หยาบ ดับ ลง นรก อย่าง เดียว เพราะ กายทิพย์ จะ มี ความเศร้า หมอง
    ที่ มี ความ ผิด พลาด เกิด ขึ้น เนื่อง จาก มี โง่ (บำเพ็ญฌาน เลียนแบบ ผู้ประเสริฐ ในอดีต) ประกอบ กับ มีความ อหังการ อวด เก่ง อยาก เป็น ผู้ มี ฤทธิ์

    ผู้ปฏิบัติ ธรรม ที่ มี ฌาน เกิน ระดับ ฌาน 2 คือ ผู้ มี องค์ ไม่ มี เว้น

    ใน อดีต ที่ เรียก ว่า ผู้ ประ เสริฐ ก่ ไม่ มี เว้น แต่ ระดับ นี้ เป็น ผู้ สะสม บารมี ตน เอง สูง มาก ...ผู้ ที่ มา เป็น องค์ ให้ เพื่อ ปก ปัก กาย หยาบ มีจริง มี อยู่ ... เพราะ ไม่ ได้ ต้อง การ แสวง บุญ บารมี อีก แล้ว ...กรณี นี้ ไม่ ใช่ กาฝาก เพราะ กายทิพย์ เปลี่ยน สภาวะ เป็น กายธรรม ไป แล้ว

    หมายเหตุ การ บำเพ็ญ ฌาน เลียน แบบ ผู้ ประเสริฐ ที่ เคย กระทำ มา ใน อดีต สามารถ ทำ ได้ แต่ บุคคล นั้น จะ ต้อง เคย บำเพ็ญ บารมี สูง ด้วย เช่น บารมี 30 ทัศ เหล่า พรหม จึง ไม่ สามารถ เข้า แทรก หรือ เข้า ยึด ร่าง ได้ เพราะ บารมี ต่ำ กว่า ผู้ บำเพ็ญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2012
  4. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    1. ผ่านกลางกระหม่อม 2. บีบประสาทให้ปวดศีรษะ 3. กระแสพลังส่งมาจากแดนไกล

    สำหรับเราเคยมีอาการ 3 อย่างนี้ อาการบีบประสาทให้ปวดศีรษะ เคยเป็นตอนเด็กๆ อายุประมาณ 4-9 ขวบ แต่เดี๋ยวนี้ไม่เคยปวดศีรษะอีกแล้ว เพราะปฏิบัติธรรม, รับสัมผัสผ่านกระหม่อม จะมีอาการตอนที่นั่งสมาธิแล้วจิตนิ่งจะสัมผัสได้ว่ามีบางสิ่งผ่านเข้ามาทางกระหม่อม ซึมลงไป พอถอนสมาธิแผ่เมตตาอาการดังกล่าวก็หาย และอาการรับกระแสพลังส่งมาจากแดนไกล เหมือนถูกตรึงอยู่กับที่ เหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น แต่พูดคุยรู้เรื่อง จะรับสัมผัสได้เมื่อไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ

    แต่ไม่เคยเข้าทรงและไม่ขอเป็นร่างทรง เพราะไม่่ชอบ ขอปฏิบัติธรรมอย่างนี้ ช่วยเหลือพระพุทธศาสนาตามกำลังอย่างนี้

    อย่าลืมนะ เราใช้คำว่า "เคยมีอาการ"
     
  5. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    หาหมอ ตรวจสุขภาพ.......
     
  6. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    ผมต้องไปหาหมอตรวจไหมพี่ยม มาบางครั้งเหมือนหลับไปแป๊ปหนึ่งแล้วตื่น บางครั้งอาการออกโดยบังคับไม่ได้ อายมากขอบอก แต่มาไม่บ่อย นานมากจึงจะมา และก็มาแบบไม่รู้ตัวด้วย อายสุดๆ แต่ก็มาแป๊บเดียวเหมือนกัน กราบพระ 3 ครั้ง ทั้ง 2ครั้งครับ
     
  7. ลูกอิสระ

    ลูกอิสระ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +9
    ทำไมหน่อพระพุทธเจ้าจึงเทศนาพระธรรมให้กับเทวดาได้เฉพาะกลางคืน ทำไมหน่อในตัวมนุษย์มีแต่ สิ่งสกปรก ทำไมหน่อ เทวดาถึงมาสิงร่างมนุษย์ ทำไมหนอ
    ของเหม็นๆ แม้แต่มนุษย์ด้วยกันเองยังรังเกียจทำไมหนอ
     
  8. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ถ้าเป็นเทวดาไม่มาสิงมนุษย์หรอก กลิ่นมนุษย์เนี่ยเหม็นจะตาย มีแต่ซากศพวันๆ ก็หากินแต่ซากศพ ในท้องในไส้มีแต่ซากเน่าเหม็น ไอ้ที่สิงๆ นั้นน่ะ...ผีเปรตจ้ะ

    ของจริงเห็นมาแล้ว เวลาทรงเหมือนคนปกตินี่แหละ แต่มีญาณรู้เพราะองค์ประจำตัวส่งญาณลงมา สื่อให้ได้รู้ ไม่มีวิชาอาคม ไม่รู้เวทย์มนต์คาถา แต่แก้คุณไสยได้ ถอนของได้ ไม่ใช่ร้องเล่นเต้นรำ เหมือนที่เปรตมันแสดงให้ดู แต่งตัวเป็นลิเกแล้วก็แอบอ้างชื่อเทพเทวดาองค์นั้น องค์นี้ พวกนี้ไม่อายฟ้าดิน เรียกร้องสินบน ถามหาแต่ของมึนเมา
     
  9. ลูกอิสระ

    ลูกอิสระ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +9
    สงสัยกันบ้างไหมเด็กบางคนไม่กินเนื่้อมาตั้งแต่เกิด เด็กบางคนเกิดมา อายุไม่มากก็บวชเณร ไปเป็นเณรลูกหม้อติดตาม อาจารย์เดินธุดงค์ตามป่ามาตั้งแต่เด็กๆ เด็กบางคนผู้หญิงอุ้มไม่ได้ หรือเด็กบางคนตายแล้วกลับฟื้นแต่จำอะไรไม่ได้เลย แล้วก็บวชเป็นเณรเข้าป่า หรือเด็กบางคนฉลาดมากกว่าผู้ใหญ่ เด็กบางคนจบ ด.ร ก่อนกำหนด แปลกไหมโลกนี้ยังมีอะไรอีกมากที่เราไม่รู้ อาการที่เป็นอยู่เป็นเพียงเล็กน้อยเท่าเม็ดทรายในฝ่ามือ อย่าตกใจไปเลย มนุษย์เดินเป็นวงล้อของกรรม นำพาให้พบเจอ จิตตก จิตอ่อนเมื่อใด จิตจะเดินไปตามกรรม ฝึกสติอยู่กับสมาธิอย่าตรึกตามอาการ เท่านี้ก็หายแล้ว
     
  10. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    แปลว่า ถ้าขึ้น ฌาน 3 ได้ ปลอดภัยแน่นอนใช่ไหมครับ? :O
     
  11. เด็กแวนซ์

    เด็กแวนซ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    206
    ค่าพลัง:
    +35
    ระวัง มหิธกะเปรต แฝงมา
     
  12. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    เกิน ฌาน 2 คือ ไม่ ปลอด ภัย

    การหยั่งรู้ หูทิพย์ ตาทิพย์ เกิดจาก การ มี องค์ มา ประจำ ร่าง กาย หยาบ

    หนึ่ง เกิด จาก การปฏิบัติสมาธิ ที่ เกิน ฌาน ลำดับ 2 และ อีก ประ การ ไม่ ปฏิบัติ แต่ มี องค์ อย่าง นี้ เรียกว่า มี พันธะ กัน เก่า ก่อน เป็น ญาติ กัน

    แต่ อย่าง ไร ก่ ไม่ ดี เพราะ การ จะ พ้น จาก ทุกข์ ได้ ต้อง ไป คน เดียว
    คือ กายทิพย์ ไม่ ใช่ นำ องค์ ไป ด้วย

    องค์ ที่ กล่าว มา ข้าง ต้น คือ พวก พรหม

    พรหม ก่ มี ทั้ง ดี และ ไม่ดี

    แนว ดี พวก ฤษี (พวกที่ มีความรู้ เยอะ แต่ ยัง เป็น ผู้ ที่ ยัง ต้อง ศึกษา ต่อ ไป ... รู้ มาก )

    แนว ไม่ ดี พวก ชอบ เล่น ของ เล่น มนตรา หรือ ไสย ขาว

    ไม่ ต้อง ไป เสีย ไกล ช่อง มิติ แห่ง นิพพาน

    จะ อยู่ ระหว่าง ฌาน 2 และ ฌาน 3

    ถ้า จะ ให้ แยก ระดับ ชั้น คือ ระหว่าง อัปปะมาณาภา พรัหมา กับ อาภัสรา พรัหมา

    ฌาน 2 จะ สิ้นสุด ที่ อัปปะมาณาภา พรัหมา

    จริง ๆ ไม่ ควร ใช้ ระดับ เป็น การ แยก ด้วย แต่ เพื่อ ให้ เห็น ภาพ เท่า นั้น

    การ จะ ดับ ทุกข์ หรือ ไม่ ดับ ทุกข์ ไม่ ได้ อยู่ ที่ ฌาน สูงๆ แต่ อย่าง ใด

    อยู่ ที่ การ นอบ น้อม ใน ตน เอง มี ฌาน พอ ประมาณ เพื่อ การ สงบ ระงับ

    คลื่น ใน กระแส ของ ความ คิด เท่า นั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2012
  13. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    ดูองค์ จริงไม่ยาก องค์จริง ไม่ชักดิ้นชักงอ แบบร่างทรง
    ส่วนใหญ่พวกชักดิ้นชักงอเป็น เปรต
    ถ้าของจริง จะเป็นลักษณะแบบคุณ ริวครับ
    คือสื่อสารแค่นั้น ไม่รู้เข้าใจถูกป่าว
     
  14. เด็กแวนซ์

    เด็กแวนซ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    206
    ค่าพลัง:
    +35
    แบบนั้นครับ ของจริงไม่มีประทับ มีแต่จะแนะและส่งข้อความมา บ้างก็เรียกว่าครูบาอาจารย์ครับ
     
  15. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    องค์ ?

    เอ้า ลองอ่าน link นี่ดู ใช่องค์เดียวกันไหม

    [​IMG]


    [​IMG] รับขันธ์ (ขัน) ครูดีไหม ?
    [​IMG] ร่างทรงขันธ์ห้า (อีกที)

    www.dhamma5minutes.com/<!-- google_ad_section_end -->

    และ ดังตฤณวิสัชชนา


    ถาม – เทวดาประจำตัวมีจริงหรือเปล่าคะ?

    [​IMG]

    ตอบ - ถ้านึกถึงเทวดาเดินตามต้อยๆไปคอยเป็นองครักษ์พิทักษ์คุณตลอดเวลาล่ะก็ แบบนั้นไม่มีหรอกครับ

    ลองคิดดู ถ้าใครสักคนสู้อุตส่าห์ทำบุญจนเกินมนุษย์ธรรมดา ถึงขนาดตายไปเสวยสวรรค์ได้

    สุดท้าย เบื้องบนตกรางวัล โดยให้มาเป็นบอดี้การ์ดคุ้มครองมนุษย์ตลอดเวลา ค่าจ้างค่าออนก็ไม่ได้รับกับใครเขา อย่างนี้จะเป็นเทวดาไปทำไมล่ะครับ

    เป็นคุณจะเอาไหม ถ้าทำบุญแทบตาย แล้วต้องไปกินบุญ ด้วยการเป็นเงาตามสิ่งมีชีวิตที่ศักดิ์ต่ำกว่า อย่างเช่น ลิง ค่าง บ่าง ชะนี?

    หากตอบว่า ไม่เอา เทวดาก็คงไม่เอาเหมือนกัน และหากบอกว่า ไม่เห็นจำเป็น

    เทวดาก็บอกว่า ไม่เห็นจำเป็นเช่นกัน ฉันใดก็ฉันนั้นเลยครับ

    [​IMG]

    อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือเกื้อกูลข้ามมิติภพภูมินั้น เป็นไปได้ครับ

    ทำนองเดียวกับที่คุณอยู่ในภูมิมนุษย์ สามารถยื่นมือไปช่วยเหลือสัตว์ในภูมิเดรัจฉานได้ ตั้งแต่สัตว์เล็กอย่างมด ไปจนกระทั่งสัตว์ใหญ่ อย่างปลาวาฬ

    โดยที่การช่วยเหลือ อาจมาในรูปแบบต่างๆ เช่น

    หยิบยื่นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เป็นการช่วยชีวิตพวกมัน ราวกับปาฏิหาริย์ หรืออาจมาในรูปของ การฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมที่กำลังย่ำแย่

    หรืออาจมาในรูปของ การนำพวกมันมาผสมพันธุ์กัน ป้องกันการสูญพันธุ์ ฯ

    พวกมันรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่รู้เลยว่า เป็นฝีมือของคุณ

    [​IMG]

    พวกเราก็เหมือนกัน วันๆ ได้แต่ดุ่มเดิมไปตามยถากรรม รับรู้ว่า อะไรเกิดขึ้นเฉพาะหน้า แต่ไม่รู้ว่า เป็นการบันดาลของอะไร

    ระหว่างความบังเอิญ กรรมเก่า หรือเทวดา

    ว่ากันถึงความบังเอิญ คุณจะยิ่งทึ่งในโลก และจักรวาลมากขึ้น

    ถ้ารู้ว่า ความกระทบกระทั่งดีร้ายทั้งหลาย ไม่เคยบังเอิญเลย สิ่งมีชีวิต วัตถุ อากาศ และกาลเวลา ต่างร่วมกันถักทอเหตุการณ์ ตามจังหวะการให้ผลของกรรมเสมอ

    [​IMG]

    ยกตัวอย่างเช่น คุณเดินไปเดินมา อยู่ในบ้าน แล้วนึกว่า คุณเป็นเอกเทศอยู่ตามลำพัง อยากก้าวเท้าไปที่จุดไหน ในเวลาใดก็ได้

    ความจริง คุณอาจทำหน้าที่เหยียบมดชะตาขาด ให้ตายดับโดยไม่รู้ตัว ในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง ณ จุดใดจุดหนึ่ง

    เท้าคุณ เป็นวิบากของเหล่ามดกลุ่มดังกล่าว ทำหน้าที่เครื่องประหาร
    ส่งไปเกิดใหม่ ตามเวลาอันควรของพวกมัน

    เมื่อใด คุณเข้าใจความสัมพันธ์อันใกล้ชิด ระหว่างสิ่งมีชีวิต วัตถุ อากาศ

    และกาลเวลา เมื่อนั้นคุณจะทราบว่า แม้ ‘ความบังเอิญ’ ก็มีเหตุผลบางอย่างของมันเสมอ

    ว่ากันถึงกรรมวิบาก แม้หลายคนจะเชื่อว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

    แต่เมื่อ ‘ได้ดี’ หรือ ‘ได้ชั่ว’ แต่ละครั้ง ก็จะงงๆ ว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร

    กับทั้งมองออกนอกตัว ไปเพ่งโทษว่า เป็นความผิดของมนุษย์ด้วยกันเสมอ เรียกหาความยุติธรรม เพื่อเอาผิดเอาถูก จากมนุษย์ด้วยกันเสมอ

    จะมีสักกี่คน ที่พูดออกและบอกถูกว่า เหตุการณ์ไหน ไหลมาจากกรรมอันใดของตน

    [​IMG]

    ว่ากันถึงเทวดา พวกเราในโลกมนุษย์นี้ มีจำนวนไม่น้อยเลยครับ ที่สัมผัสพลังต่างมิติด้วยจิต อาจจะได้กลิ่นหอมแปลก อาจจะยินเสียงพิเศษ

    หรือบางคนอาจเห็นความผิดปกติ ของเหตุการณ์บางชนิด แล้วทราบทันทีว่า เป็นการแสดงนิมิตด้วยฤทธิ์ของเทวดา

    แต่สัมผัสเทวดานั้น แม้จริง ก็ใกล้เคียงกับอุปาทานมาก เช่น สายลมโชยกลิ่นหอมรื่น อาจเป็นลมธรรมดา ที่หอบกลิ่นดอกไม้ มากระทบจมูก

    แต่จิตคุณปรุงแต่งไปว่า ไม่เคยได้กลิ่นอย่างนี้มาก่อน ที่ไหนในโลก ต้องเป็นกลิ่นทิพย์ของเทวดาแน่ๆ

    ของแบบนี้ ถ้าให้แน่จริง ต้องมีตาทิพย์ อันคู่ควรกับการเห็นสภาพทิพย์

    เมื่อมีตาทิพย์ คุณจะพบว่า อากาศว่างหลายๆ แห่ง ไม่ว่างจริง ต้นไม้ใหญ่หลายๆ ต้น ไม่ได้มีแค่กิ่งใบ

    โลกทิพย์ จะปรากฏต่อหน้า โดยไม่ต้องรอให้ได้ยิน ได้กลิ่น หรือได้สัมผัสอะไรแปลกๆ เสียก่อน เลยด้วยซ้ำ

    คนในโลกส่วนใหญ่ พร้อมจะเชื่อว่า เหตุการณ์ดีร้ายต่างๆ เกิดขึ้นจากความบังเอิญ

    หรือไม่ก็เทวดาบันดาล เพราะไม่ต้องมีตนเอง เข้าไปรับผิดชอบ เหมือนให้เชื่อว่า เป็นผลจากกรรมเก่าของตน

    แม้คนที่ศรัทธากรรมวิบาก ก็มักเลือกเชื่อ เฉพาะเมื่อเกิดเรื่องดีๆ ว่าเป็นเพราะบุญเก่าของตนบันดาล

    ส่วนเรื่องร้ายๆ ของตัวนี่ จะหาแพะ เพ่งโทษเอาผิด กับมนุษย์ด้วยกัน หรือไม่ก็โบ้ยให้ความบังเอิญ และเทวดาเป็นต้นเหตุไป

    ไม่อยากเชื่อว่า ตนเคยทำบาปอันใดไว้ จึงต้องมาเผชิญทุกข์ อย่างที่กำลังเป็น

    [​IMG]

    เมื่อโทษความบังเอิญหรือเทวดา อะไรๆ จะอธิบายง่าย ไม่ต้องเหนื่อยพิสูจน์ให้ยาก แค่ทำใจเชื่อ ก็ใช้ได้แล้ว

    นึกว่ารู้จริงแล้ว และด้วยความไม่รู้จริง หรือรู้ครึ่งๆ กลางๆ นี่เอง เป็นเหตุให้คนจำนวนมาก เชื่อเรื่องเทวดาประจำตัว

    ว่าเป็นเทวดาประเภทที่ คอยประกบติดคุ้มครอง คอยดลใจ หรือกระทั่ง คอยดลเหตุการณ์ดีร้ายต่างๆ ให้เกิดขึ้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

    มาทำความเข้าใจ ให้ชัดเจนดีกว่าครับ เริ่มกันที่ความจริง อันเป็นต้นเค้า

    เราต้องทราบว่า เทวดา ก็เป็นสัตว์สังคมเช่นเดียวกับมนุษย์ พวกท่านมีเพื่อน มีสามี มีภรรยา มีเจ้านาย มีบริวาร ที่รักและผูกพันกัน

    แม้เมื่อญาติมิตร จุติจากสวรรค์ ลงมาเกิดในมนุษยโลกแล้ว ก็ยังอาลัยอาวรณ์

    อาจคอยสอดส่องดู ด้วยความห่วงใย เกรงญาติมิตรของตน จะประสบทุกข์ต่างๆนานา หรือพลาดท่าเสียทีให้กิเลส ทำบาปทำกรรม อันเป็นเหตุให้ต้องพลัดไปสู่อบายภูมิได้

    วิธีสอดส่องของเทวดานั้น ถ้าเทียบให้ใกล้เคียง ก็คงคล้ายมนุษย์อาศัยอินเตอร์คอม ในการฟังเสียงลูกน้อยจากอีกห้อง หรือใช้กล้องวงจรปิด ในการสังเกตพฤติกรรมของฝูงสัตว์เลี้ยง จากที่ไกล

    ต่างกันแต่ว่า เหล่าเทวดาส่วนใหญ่ มีวิถีการรับรู้อันเป็นทิพย์ รู้เรื่องไกลตัวได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งอุปกรณ์ไฮเทคทั้งหลาย

    เพียงด้วยความห่วงใย มีใจผูกพันอาทร ก็จะรู้ขึ้นเอง เมื่อเกิดเรื่องร้ายกับญาติมิตรของตน ที่ไปเกิดในมนุษยโลก

    เมื่อเกิดเรื่องร้ายกับญาติมิตรในโลก เทวดาก็หาได้ สามารถช่วยเหลือไปหมดทุกเรื่อง ส่วนใหญ่ จะเป็นเรื่องของการดลใจ หรือโน้มน้าวจิตของญาติมิตร ให้เปลี่ยนจากอกุศลเป็นกุศล

    [​IMG]

    เช่น เมื่อญาติมิตรกำลังโมโหโกรธาจัดๆ เทวดาก็อาจแผ่เมตตา ช่วยบรรเทาความรุ่มร้อนในจิตใจญาติมิตร ให้เยือกเย็นลง ทำนองเดียวกับ บรรดาพระภิกษุผู้มีพลังเมตตาสูงๆ หลายรูป

    สามารถรวมตัวกัน แผ่กระแสความสุข ให้ญาติโยมที่มาประชุมกัน ระงับความทุกข์ และความฟุ้งซ่านลงได้ชั่วคราว เพียงเข้ามาอยู่ในละแวกใกล้

    ตัวแปรในการดลใจมีหลายระดับ ขึ้นอยู่กับฤทธิ์ของเทวดาเอง

    ประกอบกับที่ ขณะหนึ่งๆ กิเลสหรือวิบากของมนุษย์ ห่อหุ้มอยู่หนาแน่นเพียงใดด้วย หากมนุษย์กำลังโทสะแรงกล้า

    หรือกำลังมีวิบากมืดคลุมจิต มิดเม้นให้เห็นผิดรุนแรง แม้เทวดาฤทธิ์มาก ก็ดลใจไม่ไหว

    การดลใจ ยังมีหลายเหตุผล และไม่จำเป็น ต้องเคยเป็นญาติมิตรกันในชาติใกล้เสมอไป

    เช่น ในมหาปรินิพพานสูตร ส่วนที่ว่าด้วยการ สร้างเมืองที่ปาฏลิคาม ก็กล่าวไว้โดยใจความสรุปคือ พระพุทธเจ้าตรัสด้วยพระองค์เอง

    [​IMG]

    ว่าท่านได้เห็น ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ ในการที่เทวดาเป็นอันมาก นับเป็นพันๆ หวงแหนพื้นที่เขตต่างๆ ในปาฏลิคาม

    ๑) เทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่หวงแหนที่ในส่วนใด จิตของพระราชาและมหาอำมาตย์ ผู้มีศักดิ์ใหญ่ ก็น้อมไปเพื่อจะสร้างนิเวศน์ในส่วนนั้น

    ๒) เทวดาชั้นกลางหวงแหนที่ในส่วนใด จิตของพระราชาและมหาอำมาตย์ ชั้นกลาง ก็น้อมไปเพื่อสร้างนิเวศน์ในส่วนนั้น

    ๓) เทวดาชั้นต่ำหวงแหนที่ในส่วนใด จิตของพระราชาและมหาอำมาตย์ ชั้นต่ำ ก็น้อมไปเพื่อสร้างนิเวศน์ในส่วนนั้น

    [​IMG]

    กล่าวสรุปโดยย่นย่อคือพระพุทธเจ้าทรงยืนยัน ว่า พื้นที่ส่วนต่างๆ ของโลกไม่เหมือนกัน ถ้าบุญไม่พอ ก็อยู่ไม่ได้

    หรือมีเทวดาดลใจ ให้ไปอยู่ที่อื่น ที่เหมาะกับวาสนาบารมีของแต่ละคน โดยที่เทวดา ไม่จำเป็นต้องเป็นเทวดาประจำตัวแต่อย่างใด

    หากคุณมีประสบการณ์ ผ่านเข้าไปในหมู่บ้านโจร ที่เล่นไสยศาสตร์มืด ก็คงเคยรู้จักกับ กระแสยะเยียบทมิฬ ชวนขนลุกอย่างประหลาด

    อันนั้น อาจเป็นคลื่นจิตของวิญญาณชั้นต่ำปนๆ กัน ทั้งคนทุศีล และเปรตดุ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกัน

    คนดีที่เข้าไป จะเหมือนแกะขาวที่ถูกแกะดำหมั่นไส้ เวลานอนหลับ อาจถูกรบกวนด้วยเรื่องน่าขนพองสยองเกล้าเอาได้

    ส่วนถ้าคุณมีประสบการณ์ ผ่านเข้าไปในเขตวัด ที่มีอริยเจ้าพำนัก ก็คงเคยรู้จักกับกระแสความอบอุ่นสว่างไสว ปลอดโปร่ง ราวกับอากาศว่างเบา แผ่ขยายออกไปอย่างไร้ขอบเขต

    อันนั้น อาจเป็นคลื่นจิต ของวิญญาณชั้นสูง ปนๆ กัน ทั้งมนุษย์ทรงศีล ทั้งเทวดาผู้มีพิมาน ซ้อนกับเขตวัด

    ทั้งเทวดาบุญญาธิการสูงเหนือโลก ที่หมั่นส่งใจลงมาบูชาพระอรหันต์ คนดีไม่พอ ที่คิดเข้าไปอาศัยวัดหลับนอน หรือปฏิบัติธรรมชั่วคราว อาจถูกกระตุกขา หรือได้ยินอะไรแปลกๆ เพื่อเตือนสติ ให้ขยันขึ้นกว่าเดิม ไม่นอนขี้เซาเหมือนเดิม

    โดยรูปแบบการเตือนนั้น อาจทำให้เกรง แต่ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกสยดสยองพองขน เหมือนตอนเจอวิญญาณชั้นต่ำ

    [​IMG]

    สรุปคือ นอกจากคำว่า ‘เทวดาประจำตัว’ ซึ่งคุ้นๆกันแล้ว ยังมี ‘เทวดาประจำที่’ อีกด้วย

    รูปแบบความเกี่ยวข้องกัน ระหว่างเทวดากับมนุษย์ อาจมาทั้งในรูปของการดลใจ การปกป้อง ตลอดจนการสะกิดเตือนตรงๆ

    หากจู่ๆ คุณรู้สึกมึนงง หรือรู้สึกเหมือนถูกบล็อกความคิด ให้ตีบตัน โดยเฉพาะขณะต้องทำบุญหรือทำบาป อันขัดแย้งกับตัวตนเดิมมากๆ ก็เป็นไปได้ครับ ว่ามีความเกี่ยวข้อง กับภูตผีปีศาจ หรือเทวดานอกตัว

    แต่ส่วนใหญ่ จะเป็นเหตุภายใน เช่น ความบกพร่องทางกาย หรืออาจเป็นความขัดแย้ง กับภาวะจิตใจเดิมๆ เท่านั้นเอง

    และไม่ว่า จะเชื่อเรื่องภายในหรือภายนอก การฝึกมี ‘สติ’ ให้เข้มแข็ง ต้านทานบาป และหันมาต้อนรับบุญทั้งปวง นับเป็นนโยบาย อันควรยึดถือเป็นที่สุด

    [​IMG]

    แถมอีกหน่อย เป็นการทิ้งท้าย วิญญาณที่ผูกกรรมสัมพันธ์บางอย่าง กับมนุษย์ ต้องคอยติดตามมนุษย์นั้น มีอยู่จริง แต่เป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก

    ระดับหนึ่งในพันหนึ่งในหมื่น คือ ต้องเป็นเหตุผลพิเศษจริงๆ เช่น ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอธิษฐานผูกติดกับอีกฝ่าย

    อำนาจการอธิษฐานที่แรงพอ จะทำตัวเป็นเสมือนเชือก โยงให้ต้องติดตามไปทุกหนทุกแห่ง เมื่อหมดกำลังส่งของแรงอธิษฐาน

    หรือเมื่อฝ่ายมนุษย์เปลี่ยนแปลงตนเองเป็นคนละคน ‘เงาตามตัว’ ก็จะจำไม่ได้ ต้องหายไปตามหนทางของเขาเองครับ

    [​IMG]
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->


    ภาพประกอบจาก www.bloggang.com/viewdiary.php?id=skybeach&month=11-2009&date=03&group=2&gblog=93

    www.siamganesh.com/navaratree.html

    www.bloggang.com/mainblog.php?id=plaipanpim&month=14-10-2010&group=15&gblog=4<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2012
  16. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ชัก ดิ้น ชัก งอ มัน สู้ กัน ระหว่าง วิญญาณ เดิม ของ ร่าง กับ วิญญาณ

    ที่ มา หรือ เปล่า มัน ทะเลาะ กัน

    กรู จะ เข้า มึ ง ออก ไป

    กรู ไม่ ให้ เข้า มึ ง ไป ไกล ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2012
  17. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396

    --------------------------------------------------

    ก่ อย่า ทำ ความ ถี่ ใน กาย ตน ให้ เข้า กับ พวก ฤษี สิ ครับ (มัน synchronize ความ ถี่ ได้ มัน ก่ เข้า มา ได้)

    อย่า ให้ เกิน ฌาน 2

    ทำ ไร ไม่ ให้ เกิน ฌาน 2 ?

    ทำ แต่ น้อย บ่อย ๆ ครั้ง คือ 15 นาที ต่อ ครั้ง กำลัง เหมาะ

    มี คันคอ ...มี ไอ ...มี กระตุก ...มี โงก ก่ พอ แล้ว

    จาก นั้น ให้ ปล่อย ทุก สิ่ง ให้ เกิด ดู สิ่ง ปรากฎ ก่ พอ แล้ว

    ก่ จัก เจริญ ขึ้น เอง .....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2012
  18. เด็กแวนซ์

    เด็กแวนซ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    206
    ค่าพลัง:
    +35
    ภาพที่เห็น นั้น นอกรีตนะครับ พวกเต๋า ปนบ้าง ฮินดูปน มั่วไปหมด ไม่ใช่พุทธแน่นอน
     
  19. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    การ มี หู ทิพย์ ตาทิพย์ การหยั่ง รู้ มัน ก่อ ให้ เกิด ความรู้ เพื่อ นำ ไป สู่

    ความ เจริญ หรือ ไม่ .... ต้อง ตอบ ประเด็น ตรง นี้ ให้ ได้ ก่อน ....

    มี หู ทิพย์ ฟัง เสียง จาก ภาค ทิพย์ ได้ แล้ว อย่างไร สบาย ขึ้น หรือ

    มี ตา ทิพย์ มอง เห็น ภาพ จาก ภาค ทิพย์ ได้ แล้ว อย่างไร สงบ ขึ้น หรือ

    สามารถ หยั่ง รู้ อนาคต อดีต รู้ กรรม ผู้ อื่น ทำ ให้ ตน เจริญ ขึ้น หรือ

    เปล่า...

    หาก ตอบ ไม่ ได้ ก่ คือ สิ่ง ลวง ตน
     
  20. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ไป หา หนังสือ ของ ผู้ มี องค์ ดู สิ ครับ

    ดู ตรง ลูก ตา จะ สื่อ ให้ เห็น ออก มา

    กู แน่ กู เจ๋ง กูผู้ วิเศษ จะ เห็น ได้ ชัด
     

แชร์หน้านี้

Loading...