"การตรวจสอบพระเครื่อง"

"วันเสาร์ที่ ๔ ก.พ.๒๕๕๕และวันอาทิตย์ที่ ๕ ก.พ..๒๕๕๕ ที่ผ่านมา ณ สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่จ.เชียงใหม่มีการตั้งโต๊ะเพื่อตรวจสอบพระเครื่องครับ งานนี้ เซียนพระชื่อ?มาเองครับ มีคนนำพระมาให้ตรวจสอบอยู่เรื่อยๆซึ่งส่วนใหญ่คำตอบคือ ไม่แท้ ครับ(หากตอบว่าแท้ เจ้าของพระจะให้เช่า/บูชาครับเพราะพวกเขาตั้งใจมาจากบ้านเช่นนั้นครับ)ต่อมา เซียนพระ ได้รับพระสมเด็จฯจากนักสะสมพระคนหนึ่งมาดูแล้วบอกกับเจ้าของพระว่า ไม่แท้ ครับเจ้าของพระจึงพูดว่า ผมเช่า/บูชาพระสมเด็จฯองค์นี้จากคุณด้วยจำนวนเงิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท(หนึ่งล้านบาทถ้วน)เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ เซียนพระ รีบตัดสินใจเชิญ เจ้าของพระ ไปคุยกันสองต่อสองทันทีเพื่อเคลียร์เรื่องครับ สุดท้ายมีการคืนพระ,คืนเงิน ครับ:นับแต่นี้ไป เซียนพระ ที่ชอบ ทำมาหากิน ด้วยการให้เช่า/บูชาพระเครื่องปลอม แล้ว รับตรวจสอบพระเครื่อง(๒๐๐ บาท/องค์)เพราะเห็นว่าเป็นวิธีหาเงินแบบง่ายๆ คงต้องคิดหนักครับเพราะเขาไม่มีวันรู้ได้เลยว่าพระเครื่องที่ให้เช่า/บูชาไปแล้วจะกลับมาให้ตนเองตี เก๊ เมื่อใด? ครับ นี่เพียงรายเดียวนะครับ แล้วคนอื่นๆที่เช่า/บูชาพระไปเพราะดูหน้าคน(เซียนพระ)ตามที่มีการแนะนำกันโดยไม่ดู พระ เล่าครับมีกี่?คน คุณที่เช่า/บูชาพระเครื่องจาก เซียนพระ มีความมั่นใจเต็มที่หรือ?ครับว่า พระ ที่คุณเช่า/บูชาจาก เซียนพระ (เพราะมีชื่อเสียงโด่งดังคงไม่ให้เช่า/บูชาพระปลอม?)เป็น พระแท้,ถึงยุคจริงๆ? ครับ"

 

เรื่องมีให้ฟังกันเยอะมาก เช่นเรื่องนี้ที่เกิดกับเซียนพระชื่อดัง เอยมานี้ร้องออกันทุกคน ไม่มีใครไม่้รู้จัก หลายปีมาแล้ว นายทหารบกคนหนึ่งต้องการที่จะลงเล่นการเมืองจำเป็นต้องใช้เงิน เลยให้ลูกน้องทส เอาพระองค์นี้ไปขายคืนแก่เจ้าของเดิม และเมื่อทสคนดังกล่าวนำกลับไปขายตามที่นายสั่ง เซียนพระคนนั้นก็ปฏิเสธการซื้อพระองค์นี้ด้วยเหตุผลที่ว่า พระองค์นี้ไม่ใช่ คราวนี้นายทหารคนนี้ไปเองเลยครับ แต่ไปแบบให้เช็คพระ ด้วยความเกรงใจในเครื่องแบบและชื่อเสียงของนายทหารคนนี้ เซียนคนนี้ปฏิเสธไม่ได้ในการที่จะต้องเช็คพระให้ และเมื่อเซียนคนนี้ได้ดูพระองค์นี้แล้วก็กล่าวด้วยความเกรงใจ และมั่นใจมากในการดูของตนเอง กล่าวทันทีว่าไม่ถึงครับท่าน ถ้านายทหารคนนั้นคืนพระ ต้องโดนหัก 30 %ตามหลักการ แต่นี้เก๊เลย จบข่าวครับ คืนเต็มจำนวน งานนั้นหุ้นกันสามคน แบ่งๆกันไปครับ และเมื่อเร็วๆนี้พระสมเด็จวัดระฆังเลยครับ องค์นี้หนักมาก ราคาเป็นร้อยล้าน เช่นเดียวกันครับ แต่งานนี้เรื่องมาแดงเพราะเจ้าของพระนำไปอวดกับคนอื่นก็โดนเลยครับ เจ้าของพระวิ่งกลับมาแทบไม่ทัน ต้องคืนครับ ก็หุ้นกันอีกหลายคนครับ มีเยอะครับ หลอกกันไปหลอกกันมา หรือบางครั้งอาจจะไม่หลอก แต่เซียนตาแหกเอง เพราะฉะนั้น อตร ครับในการให้คำชี้แนะใครในเรื่องของความแท้เก๊ อย่างเช่นที่หลายๆคนที่กล้าฟันธงแท้เก๊จากการดูแค่รูปในเวป ยิ่งบางท่านขนาดฟันธงเนื้อพระเลย สุดยอด นับถือจริงๆ

 

ถือเป็นประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง ขอบคุณครับที่แชร์ให้รับรู้กัน

 

ผมว่าตั้งแต่มีโซเชียลมีเดีย/อินเตอร์เน็ตเกิดขึ้นทำให้คนที่อ้างว่าเป็นเซียนพระทั้งงานประกวดหรือออกใบรับรองต้องคิดหนักครับเพราะมีหลายคนช่วยดูพระให้ซึ่งจะเชื่อคนที่ไม่มีผลประโยชน์หรือจะเชื่อเซียนคนฉลาดเท่านั้นรู้คำตอบเองครับ...ก็จริงดังที่ท่านสมาชิกว่าไว้แหละครับคนเช่าดูหน้าเซียนมากกว่าดูหน้าพระแล้วอย่างงี้จะเหลือหรือมีเท่าไรก็หมดตูดแถมได้พระเก๊ไปเป็นกระตัก...ขอบคุณสมาชิกที่นำข่าวสารมาเปิดเผยเพื่อให้คนหูตาสว่างขึ้นครับ

 

เห็นด้วยอย่างแรง....แถวบ้านผมมีเด็กวิ่งพระคนหนึ่งเอาหลวงพ่อทวด 97 ไปปล่อยเซียนคนที่ 1 ๆ ดูปุ๊บบอกเก๊ ผ่านไป 3-4 เดือนมีเซียนคนที่ 2 เป็นเซียนมีชื่อคนหนึ่งมาเอาพระองค์เดิมจากเด็กวิ่งพระไปปล่อยให้เซียนคนที่ 1 อีกครั้ง เซียนคนที่ 1 ดูปุ๊บแท้ เช่าไปหลายตัง แล้วสรุปว่าพระองค์ที่เค้าเล่นกันแท้รึเปล่า และคนซื้อเค้าดูพระกันยังไง........บอกเล่า 90 ตัวอย่างเหตุการณ์สำหรับนำมาคิดวิเคราะห์ สำหรับผมมีคำตอบส่วนตัวในใจแล้ว ขออนุญาตุเก็บไว้ในใจน่ะครับ

 

ตามนั้นเลยครับคุณพี่ทั้งหลาย
มาถึงจุดๆนี้กระผมก็พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไม ป๋าผม ถึงไม่รักที่จะเป็นเซียนซื้อขาย และพยายามไม่สนับสนุนให้กระผมเดินสายนี้ แต่ทำไงได้ ก็คนมันรักมันชอบนี่นา ประมาณว่าลูกไม้มันหล่นไม่ไกลต้นน่ะครับ แหะๆ

กระผมก็ยังมีข้องมีคาใจอยู่ทุกวันนี้ว่า อย่างพระราคาแพงๆเอาแค่ ราคาหลักหมื่นปลาย-หลักแสนเนี่ย เขาจะซื้อเราจริงๆหรอ

อย่างในกรณีที่กระผมประสพมา เราถือพระเข้าไปชนเองโดยที่เรา เป็นคนทั่วๆไป เป็นเด็กน้อยวัยละอ่อน ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีเส้นสายหรือตัวเชื่อม พอเขาดูพระเราแล้ว เขาก็ถามว่าเปิดเท่าไร(กรณีตัวอย่างเคยนำปู่ทวดเตารีดAไปแห่ปล่อยที่พันธ์ทิพย์งามฯ ก็ถามราคากันทุกร้าน) กระผมบอกเผื่อๆไปว่า 4หมื่น (กะว่าได้สัก2หมื่น5ก็เอาแล้ว) แต่พอเราเอ่ยราคาไป
ท่าทีชักเปลี่ยนไป จากที่รู้สึกได้ว่าสนใจอยู่ (ส่องดูพระไปด้วยพูดไปด้วยแบบไม่วางเลย)
ก็เปลี่ยนไปเป็นวางเฉย สรุปแล้วก็ไม่ต่อไม่ซื้อ วันนั้นเข้าไป4ร้าน เป็นเหมือนกันหมดทุกร้านก็พอแล้วกลับบ้านเลย
ซึ่งในขณะนี้กระผมก็ยังคง งง และสงสัยกับเหตุการณ์ประมาณนี้อยู่
มานั่งคิดแล้วก็ปวดหัว เช่น ถ้าพระเราไม่แท้ ไม่น่าสนใจฯลฯ ก็คงไม่ส่องดูแล้วถามราคา
แล้วนี่มันยังไง ถามราคา พอเปิดไป(ราคาที่เปิดก็คิดว่าค่อนข้างต่ำหรือปกตินะ) ฟังราคาแล้วก็ไม่ต่อ ไม่ซื้อ ไม่เข้าใจเลย มันอะไรยังไงน๊อแบบนี้ ปวดหมองๆ
สรุปแล้วคือ ข้าไม่ซื้ออ่า เอ็งจะทำไม 555+

ปล. ขอบพระคุณคุณพี่ ธรรมพล เป็นอย่างสูงที่กรุณาตั้งกระทู้เปิดประเด็น ให้กระผมได้ระบายความคับข้องใจ 555+ ฟังกันหนุกๆนะคร้าบพี่น้อง

 

ผมเห็นด้วยกับพี่ธรรมพลอย่างยิ่งครับ ไม่นานมานี้ผมก็ได้ยินเรื่องลักษณะนี้เช่นเดียวกันครับ ในงานประกวดพระเครื่องด้วยครับ

 

"เมื่อประมาณ ๑-๒ปีก่อน ที่จ.เชียงใหม่มีคนต่างถิ่น(คนไทยเชื้อสายจีน)ชื่อ....เดินทางไปเช่า/บูชา พระสมเด็จฯ ที่ก.ท.ม.ในศูนย์(สูญ)พระเครื่องแห่งหนึ่ง โดยเจ้าของศูนย์พระเครื่องให้ แห่ เต็มที่ครับ ลูกค้าจึงนำพระสมเด็จฯไปให้ เซียนพระชื่อ?(มีตำแหน่งใหญ่โตในสมาคมฯครับ)เขาดูแล้วบอกว่า แท้ ครับ ลูกค้า ดีใจมากที่ได้เป็นเจ้าของพระสมเด็จฯ แท้ๆ ลูกค้าจึงเตรียมตัวกลับ เชียงใหม่แต่เจ้าของศูนย์ฯพาคนๆหนึ่งมาพบเพื่อขอดู พระสมเด็จฯองค์ดังกล่าวเมื่อ ดู เสร็จผู้ที่มาใหม่ขอ เช่า/บูชาพระสมเด็จฯทันทีด้วยราคาที่ชาวไทยเชื้อสายจีน พึงพอใจมาก เพราะได้ กำไรงาม ครับเป็นอันว่า พระสมเด็จฯ ถูกเปลี่ยนมือแล้วครับ เขากลับเชียงใหม่พร้อม เงินสด จำนวนหนึ่ง ต่อมาชาวไทยเชื้อสายจีนได้เดินทางไปก.ท.ม.เพื่อ เช่า/บูชาพระสมเด็จฯ อีกครั้ง เมื่อเช่า/บูชาพระสมเด็จฯเรียบร้อย เขาได้นำพระสมเด็จฯไปให้ เซียนพระคนเดิม ตรวจสอบเช่นเคยครับ คำตอบที่ได้รับคือ แท้ ครับเขาจึง ติดต่อ ให้คนที่เช่า/บูชาพระสมเด็จฯองค์แรก มา ดู พระสมเด็จฯองค์ที่๒.ครับ ชายคนนั้นมา ดู พระสมเด็จฯแต่ไม่ขอเช่า/บูชาต่อเพราะ ไม่ชอบครับ เรื่องของเรื่องนี้คือ เป็นการเล่นละครตบตาครับ เจ้าของศูนย์(สูญ)พระเครื่อง,เซียนพระ,คนที่เช่า/บูชาพระสมเด็จฯต่อจากชาวไทยเชื้อสายจีนเป็น ทีมงานเดียวกัน ครับ งานนี้พวกเขา เอาเงินที่เช่า/บูชาครั้งแรกคืน+เงินค่าเช่า/บูชาครั้งที่๒.ด้วยครับ เซียนพระคนดังกล่าวเคยตอบปัญหาพระสมเด็จฯองค์หนึ่งว่า ผิดพิมพ์,ผิดเนื้อ ทั้งๆที่คนถาม ถ่ายเอกสารจากรูปภาพพระสมเด็จฯของเซียนพระเองแท้ๆ ครับ"

 

"ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ คุณโอ๋สะพาน"

 

ฝนตกชะขี้หมูไหล ชะคนจัญไรไปไว้ร่วมกัน (ที่1000tib) อิอิ ครับพี่ธรรมพล

 

"ผมคิดว่าลูกค้าV.I.P.ของเซียนพระคนดังกล่าวอาจต้องกลับไปเปิดตู้นิรภัยเพื่อนำพระเครื่องที่เช่า/บูชา จากเซียนพระคนนั้นมาตรวจสอบใหม่อีกครั้ง ครับซึ่งหากมีการตรวจสอบจากเซียนพระต่างกลุ่ม,ก๊วนประวัติศาสตร์มีโอกาสจะซ้ำรอยได้ครับ(คืนเงิน,คืนพระกันให้วุ่นครับ)ส่วนเรื่องที่ว่าเซียนพระเสียสละไปช่วยงานประกวดพระทั่วประเทศ ก็คงเพราะว่าต้องรับหรือตัดสินพระเครื่องที่ตนเองให้เช่า/บูชาครับหากปล่อยให้เซียนพระคนอื่นๆ รับ,ตัดสินพระเครื่องของตนเองพระที่ว่าแท้ๆมีโอกาสเก๊ ได้ครับเซียนพระนี่เป็นคนเสมอต้นเสมอปลายดีจริงสวดพระของชาวบ้านจนเคยตัวแล้วยังเผลอไผล สวดพระ ของตนเองจนหน้าแหก หมอรพ.เชียงใหม่รามไม่รับเย็บครับ"

 

ขอบคุณสำหรับ ข้อมูล เรื่องเล่า ดีๆ ครับ

 

ขอบคุณมากครับพี่ ธรรมพล เป็นประโยชน์ให้คนที่รักและสะสมมากครับ

 

ขอบคุณครับพี่ สำหรับประสบการณ์ที่เล่าสู่กันฟัง

 

เรื่องจริงผ่านจอโดยแท้ครับ

 

มาตามประเด็น เป็นเจาะข่าวเด่นเลยนะครับกระืทู้นี้

 

ขอบคุณสำหรับประสบประการณ์ ผ่าน จอคอมพ์ครับผม

 

ขอบคุณครับ
ท่านธรรมพล

(อ่านแล้วก็ มีความเสี่ยงสูงจริงๆ)ครับ


พรีเมี่ยยมครับ พรีเมี่ยมม

 

คนที่มีพระแท้ แต่โดนตีว่าเก๊ อันนี้น่าเห็นใจมาก
ต้องขอบคุณสำหรับข้อความมากๆ ถ้ามีอีกก็นำมาแชร์กันนะครับ

 

แต่หากคิดในเชิงบวก ก็ดีไปอย่างนะครับพี่jessio พระท่านจะได้อยู่คุ้มครองเราไปได้นานเท่านานยังงัยละครับพี่ อิอิ แต่หากจะปล่อยพระก็น่าเห็นใจตามที่พี่ว่าจริงๆ

ตอนนี้เซียนใหญ่ก็ใส้แห้งแล้วครับ ต่อให้ปั้นพระจนได้ที่๑ก็ยังไม่ค่อยมีคนตาลุกจ้องซื้อเหมือนก่อนซะแล้ว โลกอินเตอร์เนทที่สร้างความลำบากให้เซียนน่าดูล่ะครับ เฮ้อ.... แต่เขายังต้องกินต้องใช้ แถมค่าใช้จ่ายสูงเสียด้วยสิ เลยจำต้องออกอีเวนท์รับดูพระเผื่อจะมีแมลงเม่าบินเข้ากองไฟมั่ง