การเห็น นิพพาน ของพระโสดาบัน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิษณุ12, 25 มกราคม 2012.

  1. ต้นปลาย

    ต้นปลาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    629
    ค่าพลัง:
    +69
    ชั่งมันเถอะ ป๋าเป็นไง ก็ให้ป๋า ได้เห็นกับใจป๋าก็พอ ให้ป๋า ได้รู้ว่าป๋า
    ตัวตนเป็นไง จะดีจะชั่ว ป๋า ก็ค่อยปรับปรุงไป สิ่งนึงที่ ที่รักษาไว้
    คือ ความกตัญญู เพราะป๋า ไม่รู้อะไร เลย
     
  2. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ผมเห็นว่า สติ นั้นคือการระลึก
    มีสติ ในสติปัฏฐาน 4 ไม่ได้มีไว้รักษาจิต ครับ
    ให้รู้เห็นตามจริง เท่านั้น
    ผมเลยไม่เข้าใจ ที่พี่ ว.12 กล่าว ว่า สติรักษาจิต อย่างไร
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456

    โอยยยยย ป๊ะป๋า เพี้ยนหนักแล้วนะน่ะ

    นี่ ป๊ะป๋า มองไม่ออกจริงๆเหรอ ว่า ผู้หญิงคนนี้ เขาร้อยเลห์มารยา

    เวลา คุยการปฏิบัติของตน ก็ไป ขุดเอา ทฤษฏี มาพูดท่าเดียว

    พอ เพื่อนๆ เขาเสวนาถึงการปฏิบัติ แล้ว ผลมามันเกิดเป็น กุศลจิต
    น้อยใหญ่ ส่วนมากผลิกไป สมถะภูมิ หรือ ฌาณจิต ผู้หญิงคนนั้น
    ก็หมดท่า หมดภูมิ ไม่มีอะไรในมือ เลย ขุดเรื่องสามี เอาธรรมภายนอก
    มาเป็นภายในเพื่อยกอ้าง เพื่อกระทบชิ่งอีกทีว่า สามีนั้นสอนสั่งภรรยาอยู่
    หรือ ทำตัวเป็นผู้ถูกปกครองอยู่ แบะท่า ท่าเดียว

    เนี่ยะ ทรัพย์ในตนไม่มี แล้ว ยังไปเที่ยวยกของคนอื่นมาแสดง ปล้น
    ทรัพย์สามีกันเห็นๆ เขายังไม่รู้ตัวเลยว่า ทำให้ กรรมฐานสามีเสียเพราะ
    กริยาแบบนี้

    ทำไมเรียกว่าทำให้เสีย เพราะ ใจหนึ่งก็แอบใส่อกุศลจิต ไม่ศรัทธาใน
    ความสำเร็จ ในความมะงุมมะงาหราของสามี ฝังในจิต เผยแผ่ออกใน
    ลักษณะเอาไฟในบ้านไปพูดข้างนอก

    แบบนี้นะ คล้ายๆบ้านจะมีความสุข แต่ เปล่าเลย เต็มไปด้วยกองไฟ
    เผากันเอง ยิ่งเอากรรมฐานสามีมาอวด มาปรารภถามเท่าไหร่ ก็ทำ
    ลายการภาวนาของเขาเท่านั้น โดยไม่รู้

    แล้ว ป๊ะป๋า ยังจะไปเห็น ทางรอดของพวกเขาอีกเหรอ
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เห็น จิตเที่ยง อยู่หละสิท่า

    จิต มันเกิดดับนะ หาก ยังมีทิฏฐิเห็นจิตเที่ยง จิตดวงเดียวไม่เกิดไม่ดับ
    มันก็จะไม่มีทางย้อนพิจารณาจิต ว่ามันเกิดมันดับ

    ไม่พิจารณาจิตเกิดดับ เพราะไปสำคัญว่า มันเที่ยง มันเทียวไป ภาวนา
    แบบนี้ให้ตายก็ไม่เจอ สิ่งที่เรียกว่า "สันตาติ"

    สันตาติ ไม่ขาด อย่าไปบอกใครเชียวว่า ภาวนาเป็น ไตรลักษณ์ญาณ
    ไม่ปรากฏที่จิต กับจิต แล้วมันจะมีปัญญาได้อย่างไร

    นู้น ไปนู้ ไปนั่งรักษาโรค บ้าๆ อยู่กระทู้นู่น แบบนั้นแหละ ภาวนา
    แทบตายนั่งกอบสังขารพอกพูล กอบบุญ กอบกรรม

    พอสุดท้าย พูดเรื่อง เพียรมีสติรักษาจี๊ตตตตตต ก็ฟังท่านไม่รู้เรื่อง

    ต้องไปรักษาอะไรกับจิต น่านแหละ มิจฉาทิฏฐิห้อมล้อมไว้โดยละม่อม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2012
  5. ต้นปลาย

    ต้นปลาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    629
    ค่าพลัง:
    +69
    อืมนิวรณ์ ป๋าเลยต้องพี่งวิษณุ เขาอยู่ไง แต่คุณk ก็แจ่ม นี่นา
    นิวรณ์ แอ๊บแบ้ว
     
  6. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ไม่ได้ พินาเรื่อง จิตเที่ยง ไม่เที่ยงครับ
    แล้วก็ไม่ได้สนใจไปรักษาโรคอะไรนั่น นี่
    จรงๆ ตอนนี้ก็ไม่ได้ พินาเรื่องจิตเกิดดับครับ
    เพิ่มเติมครับ
    ฟังไม่เข้าใจ จริงครับ ก็เลยต้องถามเข้าพินา ว่าอย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 กุมภาพันธ์ 2012
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    (f)(f)(f)


    ฮี้ ฮี้ ฮี้ ไม่พ้นปรับผมเป็นเสยแน่ๆ
     
  8. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    การทำฌาน หากข้อวัตรเราแม่น และต่อเนื่องมันจะช่วยได้เร็ว

    ทีนี้ก็ต้องดูองค์ประกอบอีกอย่างนึง คือสัจจะ
    เป็นอุบายในการให้พลังกับจิต
    เช่นการตั้งใจรักษาศีลให้ได้เท่านั้นเท่านี้ แล้วทำได้จริง
    จะเป็นตัวเพิ่มพลังจิตในการอธิฐาน เพิ่มการทำวสี

    เวลาที่เดินสมถะ ก็จะต้องมีช่วงเวลาการทำอธิฐาน

    เท่านี้ยังไม่พอ
    การเดินสมถะ ต้องทำซ้ำ ทำย้ำ ในอย่างเดียว
    หากออกนอกลู่ตรงนี้ ก็จบอีกเช่นกัน

    มันออกยังไง ก็ออกตรงเช่น ไปเกิดเอะใจสงสัยในอาการ แสงสีเสียง
    รูปนิมิตรบ้าง อาการทางกายบ้าง จึงทำให้ตกกรรมฐานทันที พอจิตจะเริ่มเข้าความสงบละเอียด มักจะปรากฎอาการลักษณะนี้ หากไปเอ๊ะ อะไรนี่
    นี่เรียกว่าอะไร นั่นแสดงถึงออกนอกลู่กรรมฐาน

    ทีนี่มาดูลักษณะที่จิตกำลังจะเริ่มเดินฌาน

    ซึ่งในการจะเริ่มเดินฌานของสมถะ
    เมื่อเริ่มเข้า วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกคัตตา มันจะวนไปเองไปตามลำดับ

    แล้วจะไล่ลับดับฌานไปทีละชั้น
    หากบอกว่า ได้ 1 2 3 แล้วยังสงสัยว่าจะ 4ยังไง
    นั่นแสดงว่า ยังไม่รู้จัก 1เลย
    หากรู้จัก 1ดีแล้ว การไล่ลำดับ ของ อารมณ์ วิตก วิจาร
    มันจะเป็นไปของมัน

    ตรงนี้ มันจะเกี่ยวเนื่องด้วย การทำบ่อยๆเนืองๆด้วย
    และต้องมีเวลามาก ไม่ใช่ มีเวลาฝึกแค่ วันละ 2ชม.
    พอออกมากระทบโลก มันก็แตกหมดแล้ว
    ตั้งใหม่ยาก
    สมัยผมมีโอกาศฝึก ผมฝึก วันละ 12ชม. ตลอดสามเดือน
    พอไปส่งอารมณ์ครู ท่านบอก เพียรยังไม่พอ
    ขนาดผมนั่งจน ตรูดดด ชาไปเป็นอาทิตย์ :'(
    ทั้งหลังเท้า หน้าแข้ง หัวเข่า หลัง คอไหล่ ยังกะกระดูกจะแตก


    และอีกอย่าง
    ปัญหาที่ทำให้ไม่ลงในองค์ วิตก วิจารซักที ก็เช่น

    พอจิตจะเริ่มดำเนินเข้า สู่องค์ วิตก วิจารในช่วงแรก
    ก็ไปเกิดเอะใจ ในองค์ของ วิตก วิจาร
    มันก็เลย คลาดกรรมฐาน
    อารมณ์ ในวิตก วิจารกำลังจะเดินรอบ ก็ตกออกมาแล้ว
    มันเลยไม่ก้าวหน้าซักที


    จะว่าไปก็มีเทคนิกอีกเยอะแยะ พิมพ์ลำบาก
    ถ้ามั่นใจกับคำว่า ทำอย่างเดี่ยวตามที่ครูบอกได้จริง
    ไม่นอกคำครู นั่นจะเป็นเร็ว
    จึงเรียกว่า เรียนกรรมฐาน ต้องเรียนแบบคนโง่
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ก็น่านแหละ ตรงปรารภว่า ไม่ได้พิน่าเรื่องจิตเกิดดับ นั่นแหละ
    ที่มันขาดหายไป

    ปัญญาสิกขาไม่ขึ้น มันก็ไม่รู้จะทำอะไร จิตมันเลยพาไปเห็นนะว่า
    การงานไม่มีทำ มันเลยพาไปส่องสัตว์

    จิตเขาแสดงธรรมให้ดูอยู่ ว่าเขาขาดการงานชอบ ก็ไม่ได้ดู พิน่าไม่ทัน
    ดันหลงคิดว่า จิตจะนำสุขมาให้
     
  10. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ไม่เห็นจริงๆครับ ขาดการงานชอบ
    แล้วจิตจะนำสุขมาให้ยังไง
    คิดไม่เป็นซะแล้ว
     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ก็มีอาณาปาณสติเป็นพื้น นะป๋า คืดมีสติรู้ลมหายตัวเอง
    ตอนหลังก็มีคำบริกรรมเพิ่มเข้ามา คือไปหาหลวงพ่อไก่วัดไตรงค์วิสุทธิธรรม
    ก็ไปเล่าอาการสมาธิให้ท่านฟัง ท่านก็แนะนำให้คาถามาบริกรรมเพิ่มวันละ 60 ครั้ง
    แล้วตอนลืมตาก็เป็นกรรมฐานส่วนตัว ไม่รู้จะมีในตำรารึป่าวนะป๋า
    เขาบอกว่าทำเป็นเองตั้งแต่จำความได้แล้ว
    คือเขาเล่าเปรียบเทียบให้ฟังว่า เหมือนน้ำบนใบบัว ก็ประคองแล้วตบซ้ายมั่ง
    ขวามั่ง ปล่อยเองมั่ง ถ้ามันเข้าสมาธิได้มันจะนิ่งแล้วก็สงบ แล้วก็เป็นสุขสบาย
    เคยลองกสิณลมแล้วแต่เหมือนจะไม่คืบหน้าแถมยังถอยหลังอีก เข้าสมาธิไม่ได้
    ก็เลยกลับมาทำแบบเดิมๆ ก็ลองผิดลองถูกเอง น่ะ ป๋า นานๆ ก็ไปหาหลวงพ่อให้
    สอบอารมณ์แล้วขอคำแนะนำเพิ่ม
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แบบนี้ ไม่เหมาะกับ วิ่งพลัดเดี่ยวคูณ100ในลู่ในทาง แล้วหละ

    ลองหา สนามเขย่งก้าวกระโดด ฝึกดู

    ก้นจ้ำเบ้าเมื่อไหร่ มันเด้งเลย ลุกขึ้นมาเลย

    ถ้าไม่ลุกขึ้นแปลว่า ผิดปรกติแล้วหละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2012
  13. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    แปลไม่ออกครับ
    แหะๆ สนามเขย่งก้าวกระโดด คืออะไรครับ
     
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ฮี้ ฮี้ ฮี้ ฮี้

    ยังคิดว่าผมคุยเรื่องธรรมอยู่เหรอ
     
  15. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ไม่รู้ครับ ไม่เข้าใจ
     
  16. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    สงสัย.จริง..สงสัย.จัง..
     
  17. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    <TABLE><TBODY><TR><TD>พระเสด็จโดยแดนชล</TD><TD>ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย</TD></TR><TR><TD>กิ่งแก้วแพร้วพรรณราย</TD><TD>พายอ่อนหยับจับงามงอน</TD></TR><TR><TD>นาวาแน่นเป็นขนัด</TD><TD>ล้วนรูปสัตว์แสนยากร</TD></TR><TR><TD>เรือริ้วทิวธงสลอน</TD><TD>สาครลั่นครั่นครื้นฟอง</TD></TR><TR><TD>เรือครุฑยุดนาคหิ้ว</TD><TD>ลิ่วลอยมาพาผันผยอง</TD></TR><TR><TD>พลพายกรายพายทอง</TD><TD>ร้องโห่เห่โอ้เห่มา</TD></TR><TR><TD>สรมุขมุขสี่ด้าน</TD><TD>เพียงพิมานผ่านเมฆา</TD></TR><TR><TD>ม่านกรองทองรจนา</TD><TD>หลังคาแดงแย่งมังกร</TD></TR><TR><TD>สมรรถชัยไกรกาบแก้ว</TD><TD>แสงแวววับจับสาคร</TD></TR><TR><TD>เรียบเรียงเคียงคู่จร</TD><TD>ดั่งร่อนฟ้ามาแดนดิน</TD></TR><TR><TD>สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย</TD><TD>งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์</TD></TR><TR><TD>เพียงหงส์ทรงพรหมมินทร์</TD><TD>ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม</TD></TR><TR><TD>เรือชัยไวว่องวิ่ง</TD><TD>รวดเร็วจริงยิ่งอย่างลม</TD></TR><TR><TD>เสียงเส้าเร้าระดม</TD><TD>ห่มท้ายเยิ่นเดินคู่กัน</TD></TR><TR><TD>คชสีห์ทีผาดเผ่น</TD><TD>ดูดังเป็นเห็นขบขัน</TD></TR><TR><TD>ราชสีห์ที่ยืนยัน</TD><TD>คั่นสองคู่ดูยิ่งยง</TD></TR><TR><TD>เรือม้าหน้ามุ่งน้ำ</TD><TD>แล่นเฉื่อยฉ่ำลำระหง</TD></TR><TR><TD>เพียงม้าอาชาทรง</TD><TD>องค์พระพายผายผันผยอง</TD></TR><TR><TD>เรือสิงห์วิ่งเผ่นโผน</TD><TD>โจนตามคลื่นฝืนฝ่าฟอง</TD></TR><TR><TD>ดูยิ่งสิงห์ลำพอง</TD><TD>เป็นแถวท่องล่องตามกัน</TD></TR><TR><TD>นาคาหน้าดังเป็น</TD><TD>ดูเขม้นเห็นขบขัน</TD></TR><TR><TD>มังกรถอนพายพัน</TD><TD>ทันแข่งหน้าวาสุกรี</TD></TR><TR><TD>เลียงผาง่าเท้าโผน</TD><TD>เพียงโจนไปในวารี</TD></TR><TR><TD>นาวาหน้าอินทรี</TD><TD>มีปีกเหมือนเลื่อนลอยโพยม</TD></TR><TR><TD>ดนตรีมี่อึงอล</TD><TD>ก้องกาหลพลแห่โหม</TD></TR><TR><TD>โห่ฮึกครึกครื้นโครม</TD><TD>โสมนัสชื่นรื่นเริงพล</TD></TR><TR><TD>กรีธาหมู่นาเวศ</TD><TD>จากนเรศโดยสาชล</TD></TR><TR><TD>เหิมหื่นชื่นกระมล</TD><TD>ยลมัจฉาสารพันมี</TD></TR></TBODY></TABLE>


    ******************

    ทั้งหลายทั้งปวง เน้นเฉพาะตอน "จบ" !!

    "จบ....."
     
  18. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    ตรงที่ มีเส้น นั้น ไม่ใช่ว่า พิจารณาตอนนั้นแล้วมันไม่พอ
    แล้วจะวกไปทำให้ได้อัปนาอีก

    อันนี้อธิบายว่า ที่ว่าพิจารณาแล้วกำลังไม่พอนั้น
    เราก็ต้องทำแบบนั้นอีก ซ้ำๆ แบบนั้นอีก
    ไม่ใช่ว่า พิจารณาครั้งนั้นแล้วเลิกเลย
    กลายเป็นตั้งกรรมย้ายแทนไม่ใช่ตั้งกรรมฐาน

    ทีนี้ จุดของความชำนาญที่วัดได้

    คือ ความเป็นอัตโนมัติ ที่มีมากขึ้น
    ในลำดับแรก วัดที่อุคหนิมิต จนไปที่ปฏิภาคนิมิต

    จนเริ่มเป็นอัตโนมัติ โดยที่ไม่ได้ตั้งใจกำหนด
    แต่มันเข้ามาเองแสดงให้ดูเอง จุดนี้เป็นตัววัดช่วงๆแรก

    หากเราเห็นนั่น เห็นนี่ไม่ว่าจะเป็นความคิดหรือรูปภาพ
    ก็จับเข้ามาพิจารณา ทั้งๆที่จิตกำลังจะตั้งกรรมฐาน
    มันก็จะตกจากกรรมฐานเป็นไปทำ กรรมย้ายทุกที

    การที่จะมาเข้าใจของคำว่า พ้นเจตนา
    มันก็เลยหาจุดเทียบเคียงการสนทนาให้ดูใกล้ๆได้ลำบาก

    จะอธิบายคำว่า สติรักษาจิต ก็จะจับจุดลำบาก

    สติรักษาจิต ไม่ใช่ว่า จะป้องกันแต่อกุศล
    แม้แต่กุศลก็เป็นเพียงผ่านมาผ่านไป
    คำว่า
    คำสอนใดที่เป็นไปเพื่อสะสม คำสอนนั้นไม่ใช่คำสอนพระศาสดา
    ก็จะเข้าใจมากขึ้น
     
  19. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    นั่งอ่าน สติรักษาจิต มันกลวง แบบไม่มีอะไรให้คิด
    อาการเหมือนโดนกดไว้ อารมณ์มันก็ไม่ฟู
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เอ่อ...สงสัยรู้ว่าสงสัย เนาะ
    เป็นวลีหากินประจำตัว อิอิ

    แต่ถ้าสงสัย แล้วอยากรู้ให้หายสงสัย ต้องพูดให้เยอะกว่านี้หน่อย
    จะได้รู้เจตนา เพราะอิชั้นไม่ได้รู้ใจคนอื่น หุหุ

    แต่ถ้าแค่อุทาน ขึ้นมาเฉยๆ
    ก็ขอตอบว่า "อย่างนั้นหรอกหรือ?"

    มีไรอ๊ะป่าวเพ่!!!
     

แชร์หน้านี้

Loading...