เรื่องราวที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยรู้

คนบริจาคหลายพันคน มีรายชื่อแค่ 4 ครอบครัวเองหรือครับ คุณอัญญาสิทธิ์ คุณกฤษณพจน์ ??? <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<o> </o>
คนอื่นไม้ได้ร่วมทำบุญหรือครับ แล้วรายชื่อคนอื่นที่บริจาคกันตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป ไม่มีมีหรือครับ บริจาค 100, 500, 1000, 10000, 100000, 200000, 250000 ก็มีเยอนะครับ ไม่เห็นลงรายละเอียดเลย <o></o>
<o> </o>
อยากได้หน้ากันหรือครับ ถึงได้ลงแค่ 4 ครอบครัว <o></o>
<o> </o>
คนที่บอกว่าตนเองมีบารมีใหญ่ ทำงานกันอย่างนี้หรือครับ ???? โทษแต่คนอื่น ลูกศิษย์วัดป่าสีดาไม่ดีอย่างนั้น อย่างนี้ แล้วตอนนี้คุณอัญญาสิทธิ์ และคุณกฤษณพจน์ทำดีแล้วหรือยังครับ ดูตนเองบ้างเด้อ....<o></o>
<o> </o>
....ได้ข่าวแว่วๆมาว่า หลายๆคนในกลุ่มทำงานถอยกันหมดไม่ใช่หรือครับ คุณอัญญาสิทธิ์ คุณกฤษณพจน์ ....<o></o>

 

คนที่ถามหาความบริสุทธิ์ของคนอื่น แต่ไม่สามารถบอกชื่อ-สกุลจริงของตนเองได้และมักชอบเปลี่ยนชื่ออยู่บ่อยครั้งนั้น ถือว่าเป็นคนไม่จริง ก็อย่ามาเสวนากันเลยครับ ต่อไปผมจะไม่เสวนากับคนจำพวกนี้เพราะจะเสียเวลาเปล่า

วันก่อนผ่านไปทางวัดป่าสีดาฯ ช่วงเวลาประมาณเที่ยงวัน เห็นประตูหน้าวัดล็อกกุญแจแน่นหนา ก็รู้สึกอนาจในสิ่งที่ปรากฏ บุคคลในคณะที่ไปด้วยก็ถามว่าประตูล็อกกุญแจแล้วชาวบ้านจะเข้าไปวัดได้อย่างไร ก็ตอบเขาไปว่าชาวบ้านอาจจะเข้าไปทางข้างหลังวัดมั้งครับ จากนั้นก็ได้สอบถามชาวบ้านที่คุ้นเคย ที่เขาเคยเข้าไปร่วมทำบุญที่วัดฯ ชาวบ้านเขาบอกว่าเดี๋ยวนี้ชาวบ้านสังคมพัฒนาไม่ค่อยมีใครไปวัดป่าสีดาฯแล้วล่ะ เพราะเป็นวัดครอบครัวไปแล้ววันศีลวันบุญเมื่อไปวัดก็ไม่มีพระมาให้ศีลให้พร มีแต่เณรก็ทำแทนพระไม่ได้ฯ ชาวบ้านก็เลยไปวัดอื่นกัน ส่วนใหญ่ก็ไปวัดแถวตำบลสีกาย และเขาก็บอกสาเหตุอื่นๆมาด้วย ใครอยากทราบรายละเอียดมากกว่านี้ หากผ่านไปแถววัดป่าสีดาฯ ก็ลองสอบถามชาวบ้านแถวนั้นกันดูครับ

สำหรับคณะสร้างพระฯและสร้างหอพระธาตุนั้น ขณะนี้ไม่มีใครถอยครับ มีแต่คนจะเพิ่มจำนวนและขยายการทำบุญกว้างขวางขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมมีคณะทำงานหลัก 5 คน ขณะนี้มีผู้มาอาสามาร่วมเป็นคณะทำงานหลักมากขึ้นเรื่อยๆ อาจจะรวมกันถึง 19 คนครับ
และที่ดินบริเวณที่จะเป็นสถานที่สร้างหอพระธาตุ ก็ได้มีผู้ศรัทธาครอบครัวหนึ่ง บริจาคปัจจัยในการซื้อที่ดินให้เรียบร้อยแล้วครับ

 

55555
สร้างข่าวเป็นที่หนึ่งเลย คนเก่าๆบางคนถอยกันออกไปแล้ว คนที่มาใหม่ยังไม่รู้ว่าพวกคุณเป้นอย่างไรกันอย่างแท้จริงละซิครับ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

 

สังสารจักรกำหนดที่สุดเบื้องต้น ท่ามกลางและเบื้องปลายไม่ได้เลย
ครั้นเมื่อเหล่าสัตว์ ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ พวกเขาทั้งหลายเหล่านั้น ย่อมเสวยซึ่งความเผ็ดร้อน ย่อมเสวยซึ่งความพินาจ ย่อมเสวยซึ่งความทุกข์อันใหญ่ ย่อมพอกพูนซึ่งป่าช้าเป็นที่ทิ้งซึ่งซากศพ ตลอดกาลนาน....
ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้ พอหรือยัง ที่จะเบื่อหน่าย ที่จะคลายกำหนด ที่จะหลุดพ้น

 

เหตุแห่งความทะเลาะและแตกแยก มี ๒ ประการ คือ
สีลสามัญญตา ๑ ความเป็นผู้มีศีลเสมอกัน
ทิฏฐิสามัญญตา ๑ ความเป็นผู้มีความเห็นเสมอกัน
บุคคลหลายฝ่ายที่มีศีลและทิฏฐิไม่เสมอกันแล้ว เมื่อสโมสร งานเล็กแค่ไหน ก็ไม่มีวันสำเร็จได้ ฉะนั้น เราควรปรับศีล และทิฏฐิให้เสมอกัน งานใหญ่แค่ไหน ก็สำเร็จได้
[มุขปาฐ คำพระ]

 

ปลาไหล ของแท้

ไปเรื่อยอีกแล้วนะคุณ คนจำพวกคุณนี่ ดิ้นไปทางนู้นที ไหลมาทางนี้ที คุณนี่สุดยอดจริงๆ ไอ้ที่เค้าถามกันก็ไม่ตอบ

ขอร้องช่วยตอบผมซักข้อเถอะ ว่าคุณเอาเงินทำบุญ ไปเป็นค่าน้ำมันรถส่วนตัวหรือเปล่า แค่นั้นแหล่ะ

ตกลงว่าคุณปลาไหลไปซื้อที่ดินแถววัดมาแล้วแม่นบ่ ใครมีหลักฐานที่คุณปลาไหลเคยบอกว่าจะเอาพระไปไว้ริมแม่น้ำโขง ช่วยเอามายืนยันทีนะครับ

เพราะดูแล้ว คุณปลาไหล คงหาทางไหลให้ไปลงตัวแถวๆ วัดป่าฯ แน่นอน

แต่ต้องชื่นชมในความพยายามของคุณนะ ที่ไปโกหก ใครต่อใคร ตั้งแต่แรกเริ่ม หลอกใช้ชื่อ คนที่มีบารมีมาแอบอ้าง ยังดี ที่ท่านผู้นั้น ตาสว่างก่อนที่จะโดนปลาไหลหลอก

ถ้าจะเปลี่ยนที่ตั้งของพระ ก็โทรไปเรียนท่านผู้หลักผู้ใหญ่ ที่คุณปลาไหลเคยหลอกไว้ แต่ไม่สำเร็จ ด้วยนะครับ

หวังว่าคงไม่ต้องทำหนังสือชี้แจง ไปหาผู้หลักผู้ใหญ่ อีกรอบนะครับ

ถ้าท่านมารู้ที่หลัง กลัวว่าคุณปลาไหลจะซวยนะครับ

 

หลอกตนเองและคนอื่นไปวันๆจริงนะคุณอัญญาสิทธิ์ และคุณกฤษณพจน์ว่าตนเองเป็นผู้มีบารมี เป็นพระจักรพรรดิ์ กลัวคนอื่นได้หน้ามากกว่ามั้งที่ไม่กล้าบอกว่าใครบริจาคเท่าไหร่ ได้ข่าวแว่วๆมาว่าจะไปปรับอะไรใครอีกก็ไม่รู้ ปรับค่าล่าช้าการทำงานทำงานบุญเป็นหรือเปล่าสงสารคนที่ติดต่อให้บ้าง...<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<o> </o>
ใช้สมองคิดบ้าง อย่าเอาขี้เลื่อยมาใส่สมองเหมือนที่ตนเองว่าคนอื่นไว้มากละ มันกำลังจะเข้าตนเองอยู่นะ ตอนนี้...<o></o>
<o> </o>
เงินบริจาคของคนอื่น ไม่ใช่เงินตนเองนะครับ...อย่าทำตัว<o></o>
เป็นเจ้าของละ...ตกนรกกันไม่รู้ตัวนะครับ...<o></o>

ไหลไปเรื่อยจริงๆ...คนที่รู้ตัว ก็ไหวตัวออกห่างทัน...ใครไม่ทัน...ก้โดนหลอกใช้ไปวันๆ <o></o>
<o> </o>
อย่าลืมบุญคุณคนที่มาช่วยเหลือด้วยละครับ...บุญคุณคนหลายๆคนที่มาช่วยงานที่ผ่านมาให้สำเร็จ...ไม่ใช่แต่ขอบคุณพวกคนมีเงินเป็นล้านๆเด้อ...อัญญาสิทธิ์และกฤษณพจน์....เงินไม่ได้พาให้ได้มรรคผลนิพพานนะจะบอกให้ พุทธภูมิก็ซื้อไม่ได้ นะคร้าบบบบ<o></o>
<o> </o>
หัดดูกิเลสในตนบ้างนะ มัวแต่ดูภพภูมิอื่นๆ ดูตนเองเป็นหรือยังว่ามีข้อบกพร่องที่ไหนบ้าง แก้ไขตนเองเป็นหรือเปล่า หรือว่าดีแต่ยกตนข่มท่าน...คร้าบบบบ<o></o>

ประมาทคนอื่นบ่อยๆ ระวังตกนรกนะคร้าบบบ....อัญญาสิทธิ์ กฤษณพจน์ และคนอื่นๆ
<o></o>

 

เรื่องจริง ที่เด็กอนุบาล ก็รู้

ถ้ามีคนมาร่วมทำบุญกับผม ผมก็ต้องนำเงินทุกบาททุกสตางค์ไปใช้ทำบุญตามเจตนารมณ์ของผู้มีจิตศรัทธา

ไม่ใช่ เอาเงินที่เค้าฝากทำบุญ มาเติมน้ำมันรถส่วนตัว เพื่อขับไปทำบุญ

ประโยคที่เด็กประถมอ่านยังเข้าใจแบบนี้ คุณปลาไหลคงไม่ไปตีความผิดๆ อีกนะครับ

หวังว่าคนที่รู้ไปหมดทุกเรื่อง อย่างคุณปลาไหล คงไม่แกล้งโง่นะครับ

กลัวจะเหมือนกรณี บกพร่องโดยสุจริต!!!

ลองตรวจภพภูมิของตัวเองดูบ้างนะครับ ว่ามันไปอยู่ในที่ร้อนๆ หรือยัง

 

อ่านไปอ่านมาขำดีครับ สงสัยว่าพันธ์ที่อยู่หน้าเวปบอร์ดนี้เป็นพันธ์อะไร น่าจะหามาเฝ้าวัดสักตัว แต่มีข้อเสียที่มันเป็นพันธ์ที่ขี้ขลาด เห่าเป็นอย่างเดียว ถ้าฝึกให้ฉลาดและกล้าหาญกว่านี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์ครับ

 

ขอเชิญร่วมบริจาคปัจจัยในการก่อสร้างศาลาปฏิบัติธรรมกับ ลพ.ทองแดง วัดป่าลาดทอง จ.อุดรธานี โดยโอนปัจจัยไปที่ ธ.ไทยพาณิชย์ บัญชีออมทรัพย์ เลขบัญชี 587234569-4 หรือสอบถามจาก ลพ.ทองแดงโดยตรงจากเบอร์ 0819649147 ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

วัดป่าลาดทองกำลังก่อสร้างเจดีย์เล็กๆเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุโดยพระและเณรช่วยกันก่อสร้างเองรวมถึงก่อที่ประดิษฐานพระสิวลีสูงขนาดเท่าตัวคนที่มีผู้นำมาถวายผู้มีศรัทธาจะร่วมบริจาคปัจจัยก็ติดต่อ ลพ.ทองแดง โดยตรงเบอร์ 081-9649147 หรือจะเดินทางไปบริจาคที่วัดก็ได้ครับ สอบถามเส้นทางได้จากเบอร์ 089-0726112

 

กะล่อนจริงๆ

ไอ้ที่เรื่องโกง ฉ้อฉล แบบหน้าตาเฉย แบบว่ารู้แล้วแกล้งโง่ นี่ถนัดมากใช่มั๊ยครับ

คนที่เค้าถามคุณ แล้วไม่ยอมตอบหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน เรื่องโอ้อวด เรื่องโม้ ต่างๆ นาๆ พวกเค้าก็คงสงสัยเหมือนกันว่าคุณนี่มันพันธุ์อะไรกันแน่ ถึงได้กะล่อน ปลิ้นปล้อน หลอกลวง ได้ขนาดนี้

ผมก็อยากรู้จริงๆ ว่าคุณนี่พันธุ์อะไรกันแน่ สงสารคนที่ทำให้คุณเกิดมาจริงๆ หวังว่าคุณคงเกิดจากระบอกไม้ไผ่นะ เพราะอายแทนคนที่ทำให้คุณเกิด คงไม่กล้าไปสู้หน้าใคร

อย่างคุณเอาไปเฝ้าวัด ก็ไม่ได้หรอก เลี้ยงเสียข้าวสุก เอาไปเฝ้านรก ก็คงพอได้

โกงเงินทำบุญ เอาไปใช้ในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการทำบุญ นี่มันตกนรกขุมไหนหนอ ใครรู้ช่วยบอกผมทีครับ

 

Aunyasit ยังจะติคนที่อยู่ที่วัดอีกเหรอ มองตัวเองบ้างนะ ไม่กี่วันก่อนมีกิจกรรมงานวัด คนมาสามัคคีกันเพียบ เกือบเท่าสมัยที่หลวงปู่ยังมีชีวิต ศิษย์เก่า ๆ ทั้งนั้นด้วย ชาวบ้านก็ไม่น้อย แล้วเค้าก็รู้เรื่องที่คุณกระทำกันทั้งนั้น(รู้กันเองด้วยนะ)<O</O

ที่วัดมีประตูก็ไม่เห็นผิด วัดไหน ๆ ก็มี ถ้าคนที่เป็นมิตรกับวัดใด ๆ เค้าก็เข้าได้หมด ลงรถมาเปิดประตูก็เข้าได้แล้ว คนดี ๆ ก็ย่อมเข้าตามตรอก-ออกตามประตู, กับไปก็ลา-มาก็ไหว้ ตามธรรมเนียมไทย ไม่มีปัญหา

<O</Oและผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่านที่คุณมักแอบอ้างถึงแผนในปี 2552 ที่จะดึงฟ้าต่ำมาขับไล่คนที่วัดนั้น เค้าก็รู้ถึงความมิชอบนั้นแล้ว บอกไว้ก่อนครับ... ถ้าคุณไม่คิดรังแกคนวัด ก็ไม่มีใครยุ่งกับคุณหรอกครับ

<O</Oส่วนลูกศิษย์หลวงปู่ท่านอื่น ๆ ที่ได้มาเล่าประสบการณ์ในกระทู้ ก็น่าขอบคุณครับที่นำเกร็ดประวัติอันน่ารู้และน่าประทับใจ มาเผยแผ่สู่กันฟังครับ<O</O

 

ช่วยกีนหน่อยครับ

ใครรู้แผนชั่ว หรือพฤติกรรม ฉ้อฉล ขี้โกง

ช่วยกันแฉ ให้รู้ความจริงกันเสียทีครับ

 

หลักฐานยืนยันข้อความของพี่อบครับ

น่าปราบปลื้มจริง ๆ ครับ

 

ปัจุบัน

"การรู้จักให้ทาน เป็นการให้ที่ประเสริฐที่สุด เป็นการสร้างบารมี
ให้แก่ตนเอง การให้ธรรมทาน เป็นการให้ที่ดีที่สุด เมื่อเรามีบารมี
ไปไหนก็มีแต่คนช่วยเหลือเมตตา"

 

ผมไม่เห็นด้วยกับการแสดงออกที่ไม่สุภาพครับ

 

ตถาคตรวมอยู่กับทุกๆสิ่งที่เธอรู้สึกไม่พอใจ

ฝ่ายพระสารีบุตรอุปสมบทแล้ว ๑๕ วัน จึงได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ด้วยการฟังเทศนาชื่อว่า เวทนาปริคคหสูตร ที่สมเด็จพระบรมศาสดาทรงแก่ปริพาชกชื่อว่า ทีฆนขะะ ณ ถ้ำสุกรขาตา เขาคิชฌกูฎ เมืองราชคฤห์ มีเรื่องเล่าว่า เมื่อพระสารีบุตรอุปสมบทได้ ๑๕ วันแล้ว พระบรมศาสดาเสด็จประทับอยู่ที่ถ้ำสุรขาตา เขาคิชฌกูฎ เมืองราชคฤห์ ปริพาชกคนหนึ่งชื่อ ทีฆนขอัคคิเวสนโคตร เข้าไปเฝ้าพระบรมศาสดาแล้วกราบทูลความเห็นของตนว่า "ข้าแต่พระโคตมะ ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า สิ่งทั้งปวงไม่ควรแก่ ข้าพเจ้าไม่ชอบใจหมด" พระบรมศาสดาจึงตรัสตอบว่า "ดูก่อนอัคคิเวสนะ ถ้าอย่างนั้นความเห็นอย่างนั้น ก็ต้องไม่ควรแก่ท่าน ท่านต้องไม่ชอบใจความเห็นอย่างนั้น" ครั้นตรัสดังนี้แล้วก็ทรงแสดงทิฏฐิ ๓ อย่าง ให้ปริพาชกนั้นเห็นว่าเป็นโทษ และแนวทางละทิฏฐิ ๓ อย่างนั้น ลำดับนั้นทรงแสดงอุบายเครื่องไม่ยึดมั่นอีกต่อไป ขณะนั้นพระสารีบุตรนั่งถวายงานพัดอยู่เบื้องพระปฤษฎางค์ (หลัง) ของพระบรมศาสดา ได้ฟังพระธรรมเทศนาที่ตรัสแก่ทีฆนขปริพาชก แล้วใช้ปัญญาพิจารณาตามพระธรรมเทศนา จิตก็หลุดพ้น จากอาสวะ ไม่ยึดมั่น ถือมั่นด้วยอุปทาน
พระสารีบุตร ได้ยินพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสการให้ละธรรมเหล่านั้น การสละคืนธรรมเหล่านั้นด้วยปัญญาอันยิ่ง ได้รู้ชัดแจ้งตามธรรมนั้น จิตของท่านหลุดพ้นจากอาสวะบรรลุอรหัตตผล แทงตลอดที่สุดแห่งสากบารมีญาณ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
ส่วนทีฆนขปริพาชกได้เพียงดวงตาเห็นธรรม หมดสิ้นความเคลือบแคลงสงสัยในพระพุทธศาสนา แล้วทูลแสดงตยเป็นอุบาสก

 

ผมเห็นด้วยครับ

 

เมื่อเราถึงที่สุด

ประวัติผมเองครับ ในช่วงวันเวลาที่ผม ยังโพสเข้าเว็ปพลังจิตยังไม่ได้
ผมจำเป็นต้องฝากเรื่องราวประวัติ ของผมไว้ในเว็ปคนเมืองบัวก่อน
ขณะนี้ประวัติข้าพเจ้าอันเป็นธรรมแท้ ได้ถูกลบไปแล้วในเว็ปคนเมืองบัวข้าพเจ้าเตือนทุกคนที่ได้ยินเรื่องจักวาลย้อนหนึ่ง
ว่า ถ้าผู้ใดจะเพิ่มเติมคำเข้าไปในเรื่องจักรวาลย้อนหนึ่งพระเจ้าก็จะทรงเพิ่มภัยพิบัติที่เขียนไว้ในเรื่องจักรวาลย้อนหนึ่งนี้แก่ผู้นั้น
และถ้าผู้ใดตัดข้อความเรื่องจักรวาลย้อนหนึ่ง ปรากฏการณ์ทางจิตเมื่อเข้าถึงธรรมออกจากเว็ปนี้ พระเจ้าก็จะทรงเอาส่วนแบ่งของผู้นั้นที่มีอยู่ในต้นไม้แห่งชีวิต และที่มีอยู่ในวิสุทธนครนั้น ซึ่งบรรยายไว้ในเรื่องจักรวาลย้อนหนึ่ง
ปรากฏการณ์ทางจิตเมื่อข้าพเจ้าเข้าถึงธรรมนี้ไปเสีย