ประสบการณ์สัมผัสจิตวิญญาณ "มังกรฟ้า" มีจริงหรือไม่? อย่างไร?

การที่เราเป็นคนนอก เข้าไปสัมผัสอะไรสักอย่างหนึ่ง
เราจะเข้าใจแบบคนนอก คลำอยู่เปลือกนอกเท่านั้น
ดังนั้น ถ้าจะให้เข้าใจจริงๆ "ก็ต้องลองเป็นมันดูเลย"
คือ เอาจิตวิญญาณมังกรประสานเข้ามาในสังขาร ก็
จะเข้าใจได้เหมือนการทำความเข้าใจตัวเราเอง


คนที่มีจิตมาร ไม่มีสัมมาทิฐิ ก็มีจิตญาณหยั่งรู้เก่งมาก
ได้เหมือนกัน อันนี้เป็นเรื่องใบไม้นอกกำมือ ไม่เกี่ยวว่า
ต้องตรงทางนิพพานไหม เป็นส่วนของการบำเพ็ญบารมี
ด้านปัญญาของพระโพธิสัตว์ ไม่เกี่ยวว่าตรงนิพพานไหม

 

เห็นด้วยกับท่าน ทุกประการครับ ท่าน"ดอกไม้น้ำแข็ง" (ชอบธรรมะของท่านเช่นกัน)

 

แล้วแต่ สำหรับสายวัชรยานแล้ว
จะเรียนรู้จาก ประสบการณ์จริงๆ
แม้มีจินตนาการบ้าง แต่สุดท้าย
ก็จะลงเข้าไปเรียนรู้จากของจริง


ก็มีเหมือนกันที่จิตวิญญาณจรมา
เองให้เรียนรู้ แต่มันก็ยากหน่อย
ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้แบบนั้น

 

ลองปฏิบัติจริงจังดูหรือยัง?


การอ้างอิงปรัชญาก็พอใช้ได้อยู่
แต่ถ้าลองปฏิบัติจริงดูบ้าง จะได้
ความรู้ความเข้าใจ นอกปรัชญา
จะเข้าใจว่าทำไม บางอย่างได้
บางอย่างไม่ได้ นั่งจินตนาการ
เอาได้ไหม? หรือไม่ได้? อันนี้
ก็ต้องลองจริงๆ เสียก่อน


นักกฏหมาย ชำนาญการอ้างอิง
แต่นักการเมือง ต้องลงเอาตัว
เข้าไปลุย จะอยู่แต่กับการอ้างอิง
ไม่ได้หรอก คนรากหญ้าเขาไม่เข้าใจ

 

อนุโมทนา อีกครั้งครับ ขอบคุณสำหรับธรรมทานที่แฝงด้วยปรัชญา

 

นั่งอ่านได้ความรุ้มาก ขอบคุณท่านผู้ให้วิชาความรู้ Frozen Flower ,ท่านใจดี และทุกท่านค่ะ

 

สมัยก่อน ผมได้ปรามาส พระพุทธเจ้า เรื่อง สวรรค์ นรก เพราะคิดว่าเป็นเรื่องหลอกลวง ให้คนทำดีจะได้ขึ้นสวรรค์ ไม่ให้คนทำชั่วเพราะกลัวตกนรก จนมาเจอหลวงพ่อฤาษีลิงดำ และได้ปฏิบัติตามท่าน จนเข้าใจ ว่าคำที่พระพุทธเจ้าสอนสั่งเรามาถูกทุกคำ หลวงพ่อสอน ที่เราไม่เข้าใจ เพราะเราเข้าไม่ถึง ดังคำของคุณ thunderstrom กล่าวไว้ ข้าวสารเสกใช้กับคนไม่ได้ฉันใด จิต วิญญาณก็มองไม่เห็นด้วยตาเนื้อฉันนั้น ผมเป็นแฟนคลับ ของคุณ frozen flower โปรดถ่ายทอดประสบการณ์ด้วยครับ ไม่ยึดติดในตำรา ความรู้ใหม่ ใหม่ แหวกแนวดี

 

การเดินทางไปเชียงใหม่ จะเดิน วิ่ง นั่งรถ นั่งเครื่องบิน ก็ไปถึงเชียงใหม่เหมือนกัน แต่ไปถึงเร็วช้าต่างกันแค่นั้น กรรมฐานยังมีตั้ง40กอง ทุกวิธีในการปฎิบัติเพื่อให้พ้นทุกข์ถูกหมด เพียงแต่ใครไปถึงก่อนหลัง แต่สุดท้ายเมื่อเราตาย เราก็เป็นจิต วิญญาณไม่ใช่หรือ .......

 

เรียนรู้รูปแบบ ค้นหาความไร้รูปแบบ อ่านความเงียบให้ออก เรียนให้หมด แล้าลืมให้หมด เรียนแนวทาง แล้วหาแนวทางของตนเอง...........เพื่อสิ้นสุดแห่งทุกข์​

 

คนยังมีคนดี คนไม่ดี พระก็มีพระดี พระทุศีล ปฏิบัติไม่ได้ สุดท้ายก็มาสั่งสอนชาวบ้านแบบผิด ผิด เทพก็มีเทพดี เทพไม่ดี สุดท้ายมารก็มีมารไม่ดี และมารที่มี...คุณธรรม...ธรรมดา

 

แยกกันให้ออกนะครับ ระหว่างความว่างที่ไม่มีอะไรเลย กับความว่างที่เป็นจิตเดิมจิตแท้ ที่สะอาด สว่าง สงบ ไม่มีการปรุงแต่ง มีความร่าเริง สดชื่น เบิกบาน เพราะเคยติดตรงนี้เหมือนกัน สำหรับผม นิพพานมีจริง ไม่สูญ สัมผัสทางใจได้ เมื่อทำได้จะเข้าใจเอง

 

ช็อตนี้เด็ดโดนใจดีจริง....ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมสนใจอยู่พอดีเลย หากท่านจะ
เมตตาสนองตัณหาผมสักหน่อย ช่วยอธิบายเรื่องเรื่องจิตมารสักหน่อยเห่อะ
เผื่อว่า...ผมอาจจะได้ประโยนช์ในส่วนนี้เป็นอย่างมาก
เช่นว่า...จิตมารนั้นมีลักษระเป็นประการใด หากผู้ใดมีจิตมารอยู่ในตัวแล้วไซร้...อาการจะเป็นเช่นไร และจะมีวิธีใดประหารจิตได้เด้ดขาดและรวดเร็วสุดๆ เพราะผมเองกำลังสงสัยๆอยุ่ในตัวเองเหมือนกันว่ามีจิตมารด้วยป่าว
อ้อ...แล้วโดยปรกตินั้น พวกที่มีจิตมารเหมือนกันเขาจะรู้ได้หรือเปล่าว่า ฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นพวกเดียวกันกับตนเอง....ถ้ารู้...จะรู้ด้วยวิธีใด
แล้วอาการมี่ว่า....พอเราทำบุญสุนทานไป...มันก็จะเหมือนมีอะไรอยู่ภายในตัวเราที่พยายามชักนำพาเราให้คิดอกุศล ทำการอกุศล...กรณีอย่างนั้นถือ
ว่าเป็นจิตมารด้วยหรือไม่ครับ
ขอบคุณล่วงหน้า สำหรับความรู้ที่เป้นสัจจะ..

 

ผมถามไปก็แค่อยากรู้ว่า....ผู้ใดจะได้รับช่วงต่อ ส่วนมังกรนั้นผมคงไม่เอา
เพราะทุกวันนี้ผมก็ทีมงานของอยู่ และพวกท่านก็พร้อมที่จะทำความดี...มีแต่
ผมนี่แหล่ะที่ยังไม่พร้อมสักที อีกอย่างผมยังพูดภาษามังกรไม่ได้...เพราะฉะนั้น...ผมก็เกรงใจท่านมังกรน่ะครับ ที่สำคัญ...บุญญาผมไม่พอหรอกครับ
ว่าแต่ท่านใจดีๆล่ะ สนใจไหม๊...เผื่อว่าน่า....

 

เอ้...คนบางคนยิ่งทำบุญมากเท่าไหร่ ยิ่งทุกข์ยากลำบากมากขึ้นนี้ เพราะเหตุใดครับ...แบบว่ายิ่งทำยิ่งซวยอ่ะ เพราะอะไรครับ..

 

ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะ....แต่ผมก็ไม่อยากคิดอ่ะนะว่าคุณเป็นใคร แต่สิ่งที่ผมไม่เข้าใจ คือ เหตุใดบุญจึงไม่สามารถส่งผลได้...แม้จะเป้นเจ้ากรรมนายเวรที่อาฆาตผมอย่างมารท่านหนึ่งก็เห่อะ เขาไม่มีทางปิดการรับบุญกุศลได้ในระยะเวลานาน เพราะ
ไม่มีใครเหนือกรรมหรอก แม้แต่เจ้ากรรมนายเวร...พวกเขาก้ไม่ได้ล้างบางเราตลอดเวลา
พวกเขามีวาระ และมีทุนคือกรรมที่เราทำกับเขาไว้...วึ่งถ้าอรุ่มอรวยกันด้วยการรับบุญก็
ยังพอคุยๆกันได้บ้าง ดังนั้น...น่าจะมีเหตุบางอย่างที่ลึกกว่านี้อยู่นะครับ คุณคิดว่างัย

 

ขอบคุณสำหรับคำตอบ แต่ผมขอรอฟังคำตอบจากคนที่ผมถามดีกว่า
เพราะดูเหมือนเขาจะมีทางออกที่ดีให้ และเขาก้น่าจะเข้าใจแนวทางปัจเจกภูมิ
ได้ดีนะครับ ซึ่งอาจารย์คนสำคัญของผมคงพอใจ.

 

อ้าว...เจ้าของกระทู้ไม่มาซะงั้น อืมม ช่างมันเห่อะ.

 

คนที่รู้จักผมจริง...จะไม่ถามคำถามนี้ แสดงว่าการสัมผัสนั้นยัง....

 

ฟังคำพูดแค่นี้ก็รู้แล้วว่าใคร....คุณใจดีๆต้องคิดดีๆนะ เรื่องการครองเรือนน่ะ ขืนไปฟังคนอื่นมากเกิน...เดี๋ยวจะมานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่า เหมือนผู้หญิงบางคนในตอนนี้ ไอ้ผม
ก้ไม่อยากยุ่งแต่ขอบอก....ถ้าพลาดเรื่องแบบนี้เมื่อไหร่สำหรับผู้หญิงนะ....อนาคตทางธรรม
อาจจะ.............คิดเอานะ โตๆกันแล้ว

 

^____^