ความยากของอภิญญา

อภิญญาในคำวัดหมายถึงคุณสมบัติพิเศษของพระอริยบุคคลซึ่งเป็นเหตุให้มีอิทธิฤทธิ์ต่างๆ มี 6 อย่าง คือ

1. อิทธิวิธิ แสดงฤทธิ์ได้ เช่น ล่องหนได้ เหาะได้ ดำดินได้
2. ทิพพโสต มีหูทิพย์
3. เจโตปริยญาณ กำหนดรู้ใจผู้อื่นได้
4. ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติได้
5. ทิพพจักขุ มีตาทิพย์
6. อาสวักขยญาณ รู้การทำอาสวะให้สิ้นไป

อภิญญา 5 ข้อแรกเป็นของสาธารณะ (โลกียญาณ) ข้อ 6 มีเฉพาะในพระอริยบุคคล
ถ้าพบผู้แสดงฤทธิ์ได้ อย่าพึ่งหมายว่าผู้นั้นจะเป็นอริยบุคคล

อภิญญาข้อใดบ้างครับที่ทำได้ยาก และน้อยคนจะสามารถทำได้ ข้อ 1 คงไม่มีใครทำได้อยู่แล้ว

 

ผมว่าข้อ6นะที่ยากที่สุด

 

อย่า พูดอย่างงั้นเลยครับ ว่าอภิญญา ไม่มีใครทําได้ 1 2 3 4 5 ทุกคน ทําได้แน่นอน

วิธีทํา ไปศึกษา อ่านจาก หลวงพ่อฤษีลิงดํา ละกันครับ ในเวปนี้ มีครับ บินได้ ให้ของแข็งเป็นของอ่อน ให้ของอ่อน เป็นของแข็ง ย่อมทําได้ ถึงมันจะผิดหลัก วิทย์ศาตร์ก็เถอะ แต่มันคือ พุทธศาตร์ ครับ เหนือ กว่า วิทย์ศาตร์ หลายเท่า ครับ ( ถ้าไม่เชื่อ ลอง คิดดู ว่า พระพุทธเจ้า กับนักวิทย์ศาตร์ คนไหน เก่งกว่ากันครับ)

อภิญญา ที่ยากที่สุด คืออภิญญา 6 เพราะเหตุใด? ง่ายๆ คือ กิเลศ ตัณหา นู้นนี้นั้น เพราะว่า ต้องทําให้กิเลศ คนที่ทําได้ก็คือ พระอริยเจ้า

ถ้าไม่เชื่อ ผมดูง่าย ขอยกตัวอย่าง พระเทวทัต ได้อภิญญา 5 แต่ใช้ในทางที่ผิด ตกนรก แต่ยังดีนะครับ พระเทวทัต ยังสํานึกผิด และจะได้ตรัสรู้ เป็นพระปักเจกพระพุทธเจ้า

กับพระ โมคคัลานะ อภิญญา 6 ไป สวรรค์ นรก ไปจารึกคําสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แล้วบอก กับเหล่า เทวดาว่า เป็นอย่างงี้ ในทางที่ดีอ่าครับ

อ่อ ที่ขอบอกก่อนว่า อภิญญา 5 สามารถเสื่อมได้ และก็มีโทษ ดาบสองคมด้วย
ใช้ ผิด ให้โทษ ใช้ถูก ให้ผล

 

มะรู้นะ เเต่อิทธิฤทธิ์ที่ว่ามันรวมการใช้พลังจิตเเบบฝรั่งด้วยเปล่าละ

ถ้าเรียกเป็นของไทยๆก็มโนมยิทธินี่เอง พวกนี้ใช้เเทนอิทธิฤทธิ์ได้เปล่า

หรือว่าต้องเหาะได้อะไรได้ทุกอย่าง อย่างสมัยโบราณ

 

แต่ล่ะข้อใช่ว่าจะทำง่ายๆ เหาะเหินเดินอากาศ ดำดิน ผมว่าน่าจะยากสุด

 

ระวังน๊า อันนี้ธรรมล้วนๆเลยนะเนี่ย ปัญญาระดับนี้ใช่ย่อยนะเนี่ยที่จะตอบแบบนี้ได้

บารมีไม่ถึง ตอบธรรมข้อนี้ไม่ได้นะเนี่ย

ของเด็กเล่นที่เหลือ เอาไว้เล่นแก้ขัดไปพลางๆ...

เจริญธรรม

 

ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับบุญพาวาสนาที่สร้างมาแต่ชาติปางก่อน อย่างที่ท่านด้านบนว่าความสามารถที่เคยมีในชั้นสวรรค์ในขณะที่เป็นเทวดาอยู่ ความสามารถที่เคยมีจะหลงเหลือมาในชาติมนุษย์ ในเมื่อว่าชาติก่อนเป็นคนใจบุญสุนทานชอบทำบุญตักบาตร มาในชาตินี้ก็เป็นอย่างเช่นก่อน ทำบุญบำเพ็ญภาวนา บุญพาวาสนาและสิ่งที่หลงเหลือมา พอมาชาตินี้ก็อาจจะสำเร็จได้ไม่ยากแต่ต้องหมั่นเพียรสร้าง คิดว่าน่ะ

 

ถูกต้องครับ แต่ ถ้าคน ที่ฝึกเนี่ย เป็นคนซื่อ แล้ว เจอกับพระอรหันต์ ที่สามารถสอนได้เนี่ย คนนั้นจะได้อย่างรวดเร็ว เลยนะครับ เพราะว่า เค้าพอเจอใครดีแล้วเค้าก็ดีไปเลย ไม่ได้คิดจะทรยศหรือคิดไม่ดีกับพระอรหันต์ แต่จริงๆ คนทุกคนก็สามารถมีอภิญญาได้ ถ้า
กิเลศน้อย แทบไม่มี รักษาศีล ให้บรีสิทธิ

แต่ผมคิดว่า คนเราเกิดมาหลายชาติ มันน่าจะมีชาติที่เป็นเทวดา พรหม ได้มาบ้างแหละน่า แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะได้หรือไม่ได้

 

ไม่ต้องชมขนาดนั้นหรอกครับ ผมไม่ฉลาดขนาดนั้นหรอก

 

ทาน ศิล ภาวนา อย่าลืมทำนะครับ

 

ไม่ได้ชมเชยหรือหรือยกย่องอะไรมาก แต่เป็นคำสรรเสริญที่เห็นคนมีปัญญาเขาตอบกัน

เจริญธรรม

 

การบวงสรวงเทวดา นี่ยุ่งยากมากมั้ยครับ

 

ลองเซิร์จหาข้อมูลพิธีบวงสรวงแบบฉบับของหลวงพ่อฤาษีลิงดำในเน็ตดูก็ได้นะครับ พร้อมรูปภาพประกอบสวยๆมีมากมาย

ไฟล์เสียงสวดชุมนุมเทวดาแบบหลวงพ่อก็มีให้หมด

เมื่อพร้อมแล้วก็ตั้งเครื่องบวงสรวง แล้วเปิดเสียงหลวงพ่อ อ่านบทสวดตามหลวงเสียงหลวงพ่อก็ได้ รอเสร็จพิธีก็เรียบร้อยแล้ว หรือจะสวดบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุรต่อก็ได้ เทวดาเขายิ่งชอบนักแล

ง่ายมะ

เจริญธรรม

 

อย่าเพิ่งคิดอย่างนั้นสิครับ

 

การทำบวงสรวงผมไม่รู้น่ะว่าจะมีผลดีกับตัวเองมากแค่ไหน

 

บวงสรวง แปลว่า บูชาเทวดาด้วยเครื่องสังเวย และดอกไม้ธูปเทียน เป็นต้น

ตามแบบฉบับของหลวงพ่อฤาษีแล้ว ท่านมักเชิญให้พระพุทธเจ้ามาเป็นประธาน อาจมีรูปเคารพของพระพุทธเจ้าหรือองค์พระพุทธรูปในพิธีด้วยก็ได้ ดังนั้น บวงสรวงแบบนี้ เทวดามาแล้วต้องเคารพพิธีเป็นกรณีพิเศษ เพราะพระพุทธเจ้าเป็นประธาน

บูชาเทวดา คือบูชาคุณธรรมขั้นพื้นฐานของเทวดาคือ เกรงชั่วและกลัวบาป คุณธรรมนี้ต่อไปนิพพานชัดๆเลย

ใช่จะมีแค่นั้น เทวดาที่เป็นพระอริยะเจ้าก็มีโข เชิญมาไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ท่านมาหมดนะ มาแล้วอย่างน้อยๆก็สวดบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณให้ท่านฟังก่อนก็ได้ ที่เหลือ จะว่าร่ายบทมงคลสูตรอะไรท่านก็ไม่ได้ขัดหรอก จะขอก็ยังได้เลย

ไม่เกินวิบากกรรมน่ะ ท่านช่วยหมดแหละ แต่ต้องเอ่ยปากขอให้ท่านช่วย ท่านถึงจะทำ

เจริญธรรมครับ

 

ถ้ามีปัจจัยเพียงพอ ก็สามารถทำให้ปรากฏได้
ถ้ามีปัจจัยไม่เพียงพอ เหตุไม่เพียงพอ ทำยังไงก็ไม่ปรากฏ