น้ำถล่ม ก.ท.ม. คนกรุงเทพเตรียมพร้อมรัดเข็มขัดได้เลย

อย่างที่คุณ zz ว่านะรับ น่าเป็นห่วงทางเหนือมากกว่าเพราะปะทะโดยตรง แล้วถ้าดูจากภาพ ปริมารน้ำมหาสารที่เดียว ไม่ควรประมาท แล้วพลังของธรรมชาติปรามาทไม่ได้ ส่วนกทม วันใดวันหนึ่งต้องท่วมแน่ครับ แต่อยากขอทราบรายละเอียดกว่านี้ไหมครับ เช่นท่วมขนาดไหนกี่เมตร เพราะครั้งนี้น่าจะเป็นแค่การเตือนเท่านั้น (หรือเปล่าครับ) คนกทม จะได้เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบจังหวัดอื่นที่เค้าท่วมกันอยู่ (บทเรียนสอนชีวิต ความคิดสอนการกระทำ)

 

คนกรุงเทพหัวเราะได้ พระโพธิสัตว์ยุคกึ่งพุทธกาลทำนายแล้ว

ขออนุญาตครับ

ผมไม่ได้เขียนเรื่องนี้เพื่อจะขัดแย้ง ขัดใจไคร

เพราะท่านอาจารย์ทิพากร รินไธสงค์ พระโพธิสัตว์ยุคกึ่งพุทธกาลได้ทำนายแล้วว่า

เรื่องน้ำท่วมภาคกลาง

“ละเลยต่อเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางนั้น”
“โลกวิญญาณที่บางครั้ง เขาจะไปผุดไปเกิดแล้ว”
“แต่ไอ้ลูก ไอ้หลาน มันไม่สนใจ มันไม่พึงมี พึงอยู่”
“ข้าจะอยู่ยังไง ข้าจะไปผุดไปเกิดแล้ว ไม่มาเปิดภูมิให้ข้าซักที”
“เพราะฉะนั้นก็เอาความวิบัติไป”
“ก็เลยผจญภัยวิบัติเพราะธรรมชาติ”
“วิบัติเพระความอดยากก็จะตามมา”

ผมก็อดสงสารท่านที่ละเลยการรับผิดชอบ คำบอกเล่าที่ให้ไว้กับพรรพชน วีระชนทั้งหลาย
ที่ท่านหูเบาเสื่อมศรัทธา ทั้งๆที่ท่านก็เคยท่องอินเดีย ร่วมคณะญาติธรรมพระใหญ่มาแล้ว
รวมทั้งท่านผู้หลักผู้ใหญ่ในเมืองอยุธยา ทั้งๆที่บางท่านก็เคยร่วมพิธีกรรมอันศักสิทธิ์มาบ้างแล้ว
กลับหลงลืมละเลย คำบอกเล่าเก้าสิบ ที่ท่านได้ให้ไว้กับพรรพชน วีระชนของตนเอง

นี่ก็ผ่านมาหลายร้อยปีแล้ว จะให้พวกท่านรอการไปผุดไปเกิดต่อไปถึงไหนอีก

เรื่องน้ำท่วมกรุงเทพและปริมณทล

“แถวภาคกลางเราไม่ต้องห่วงหรอก กรุงเทพ ปริมณฑล”
“ไครจะว่ากรุงเทพจะล่ม จะจมก็ยาก ยาก”
“เพราะว่ามีศรัทธาต่อพระพุทธเจ้านะครับ”
“มั่นคงไม่หวั่นไหวใดๆ”

ดูรายละเอียดได้ที่เว็บลิ้งค์ข้างล่างครับ

http://palungjit.org/posts/5135138


ขออนุโมทนาบุญร่วมกับทุกๆท่าน

ลุงมหา

 

ครับ อันนี้เป็นคำเตือนให้อยู่ในความไม่ประมาทน่ะครับ
คือ
1. ผมมองสภาพตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นตามสถานการณ์ปัจจุบัน มองแบบวิทยาศาสตร์
2. จากการที่เคยได้รับคำเตือนจากครูอาจารย์ในวาระต่างๆ มองแบบที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์

เมื่อเหตุการณ์ข้อ 2 ที่เคยได้รับมานั้นสอดคล้องกับ เหตุการณ์ข้อ 1 + ความน่าจะเป็นในปัจจุบัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ
หากไม่เกิดนั่นคือเราได้เตรียมพร้อมและเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนาที่จะไม่ต้องเกิดความสูญเสีย
แต่หากเกิดขึ้นจะได้ไม่เสียใจภายหลังว่าแทนที่จะสามารถร้องเตือนคนอื่นๆ
อาจจะช่วยให้เขาไหวตัวทันเพิ่มความน่าจะเป็นในการรอดชีวิตได้มากขึ้น แต่กลับนิ่งเฉยอันนั้นคงรู้สึกแย่มากครับ
สำหรับผมครั้งนี้เป็นการเตือนแบบจริงจัง ว่ามันอาจจะเกิดขึ้นจริงๆจึงร้องบอกครับ
ผมไม่อาจบอกปริมาณการท่วมได้แต่เอาจากที่ได้ฟังครูอาจารย์ท่านกล่าวเท่าที่ได้ฟังจับใจความมาได้มานะครับ
สรุปแล้วกันนะครับ
1.ตายมากกว่าสึนามิ
2.(ถามเมื่อปีที่แล้ว) สัญญาณ คือ ความแตกแยกของสงฆ์ระหว่างธรรมยุทกับมหานิกาย เมื่อเกิดเหตุ ธรรมชาติจะเริ่มแปรปรวน ถ้าฝนตกหนาเม็ดไม่ขาดสายไม่หยุด 2-3 วัน ให้ไปได้เลยหรือไม่ก็ขึ้นที่สูงให้ตามข่าว
แล้วมาวันนี้เจอข่าว หลวงพ่อเกษม อาจิณสีโล เข้าไปอีกผมก็ต้องวิเคราะห์แล้วครับ ขนาดคนทะเลาะกันเสื้อแดงเสื้อเหลืองลูกเห็บยังตกกลางกรุงได้ที่เหลือลองคิดเอาเองครับ

3.(ถามเมื่อก่อนเข้าพรรษา) อีกสัญญาณ คือการปะทุของภูเขาไฟที่อินโด

4.(ถามเมื่อเดือนนี้) ท่านว่าท่านเตือนไปแล้ว ที่ปะทุก็ปะทุแล้ว

ขอทุกท่านโชคดี ปลอดภัยทุกคนนะครับ

 

แม่น้ำโขงมีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาหิมาลัย โดยไหลผ่านถึง 6 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น จีน เวียดนาม พม่า ลาว ไทย และกัมพูชา ดังนั้น แม่น้ำโขงจึงเป็นแม่น้ำนานาชาติ แต่ถึงกระนั้น ถ้าต้นน้ำมีปัญหา แน่นอนว่าปลายน้ำก็รับผลกระทบเต็มๆ เทือกเขาหิมาลัยมีน้ำแข็งมากก็จริง แต่มันกำลังละลายเพราะผลจากภาวะโลกร้อน และแม่น้ำโขงก็รับผลอันนี้ด้วย

 

ญี่ปุ่น โดนไต้ฝุ่นอีกแล้ว :'(

 

คนหนึ่งบอก น้ำไม่ท่วม อีก คนบอกท่วม ต่างคนก็ต่างบอกว่า มีครูบาอาจารย์ท่านบอกมางง..มาก ๆ ทำไมเตือนไม่เหมือนกัน แล้วจะเชื่อของใครดีละ จริง ๆ น่าจะออกมาในแนวเดียวกันใช่ไหมคะ เพราะครูบาอาจาย์แต่ละท่านก็มีญาณวิเศษ แต่ทำไมข้อมูลมันตรงกันข้ามละ ฝั่งหนึ่งบอกสบายใจได้ไม่เกิดอะไร อีกฝ่ายบอกให้ระวังจะเกิด เราคนอ่านก็เลยหาข้อสรุปอะไรไม่ได้เลย

 

จะเชื่อใครก็ตามใจ แต่ ต้องเชื่อมั่นในตนเองดีที่สุด ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะท่วมหรือไม่ท่วม

เตียมการ เพื่อแก้ปัญหาไว้บ้าง คิดแล้วคิดอีก ก็มีอยู่ 2 ทาง คือ เตรียมการเพื่อแก้ปัญหาล่วงหน้า

และ แก้ปัญหาเมื่อภัยมาแล้ว

 

โปรดติดตามตอนต่อไปครับ

ไม่ว่าเป็นคำเตือนของพระโพธิสัตว์ พระอริยะเจ้า ครูบาอาจารย์ หรือเด็กแปดขวบ รับฟังไว้เพื่อเตรียมตัวอย่างมีสติ

 

ของแท้มักไม่บอก ที่บอกมักไม่แท้ ...

 

มันไม่ท่วมอยู่เเล้วล่ะ ไม่ต้องถึงมือสิงศักสิทธิ์หรอกแค่ ฝีมือคนก็รอดเเล้ว รอดทุกปีที่ไหนเขาท่วมกัน กรุงเทพไม่ท่วมหรอก ใครจะให้ท่วมได้เมืองหลวงเชียวนะคุณ


ตัวอย่างที่สี่ เกิดเป็นคนกรุงเทพนี้ช่างวิเศษเสียจริงๆ กี่ปีต่อกี่ปีที่ประเทศไทยมีปัญหาน้ำท่วมสูงถึงหลังคาบ้าน ผลผลิตทางการเกษตรเสียหายมากมาย ทรัพย์สมบัติของชาวบ้านที่ซื้อหามาด้วยเงินทองที่แสนจะหายากก็ถูกน้ำพัดพาอันตรธานไปหมด

แต่คนกรุงเทพยังคงใช้ชีวิตปกติ ว่างจากงานก็ช้อปปิ้ง ดูหนัง ฟังเพลง ทำสิ่งที่ตนเองสนใจ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาน้ำท่วมเลย


การที่คนกรุงเทพฯ ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมเป็นเพราะคนกรุงเทพฯ มีเอกสิทธิ์และมีสตางค์มากพอทีจะสร้างแนวกันน้ำสองริมฝั่งแม่น้ำและปิดประตูกันน้ำทุกจุดเพื่อ ป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าเขตกรุงเทพฯ เมื่อน้ำจำนวนนี้ไม่สามารถไหลเข้าพื้นที่กรุงเทพได้ มันก็ต้องไหลไปท่วมพื้นที่ข้างเคียงแทน




น้ำท่วม...เป็นเรื่องของความเห็นแก่ตัว : มติชนออนไลน์

 

เท่าที่เห็นก็มีคนในกรุงเทพหลายๆกลุ่มที่ไปช่วยกันแพ๊คของ บริจาคของช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม อย่างชมรมจิตอาสาบรรเทาทุกข์ สภากาชาดไทย ใน facebook ก็เห็นมีอาสาสมัครไปช่วยกันทุกอาทิตย์ หรือมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ และองค์กรเอกชนอื่นๆก็ไปช่วยผู้ประสบภัยบ่อยๆ คนกรุงเทพฯจำนวนมาก ถ้าสามารถช่วยผู้ประสบภัยได้ ก็ยินดีช่วยนะคะ

 

สุดยอด.....

 

ดูตามข่าวแผ่นดินไหวใต้หิมาลัยลึกลงไปใต้พื้นดินแค่ 19 กิโลเมตรเอง 6.9 ริกเตอร์เขากล่าวถึงเรื่องมีทะเลสาบน้ำแข็งอยู่บนนั้นด้วยสิครับ เพราะอดีตกาลมันเคยถล่มมาแล้วครับนี่ถ้าเกิดแผ่นดินไหวซ้ำๆในบริเวณนั้นอีก ก็น่าเป็นห่วงครับ ผมไม่ทราบว่าทะเลสาบที่เขารายงานนั้น ใหญ่มากไม๊ครับ

 

*** เครื่องต้นแบบ สำหรับไทย ****








ไทยทำ เพื่อไทย
แต่ไทยยังไม่ได้ใช้ เพราะของฟรี เลยไม่มีใครเอา

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

<TABLE id=post3964265 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>27-10-2010, 11:02 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #71 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3964265", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Jul 2006
ข้อความ: 12,170
พลังการให้คะแนน: 5165


</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3964265 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง กรุงเทพ ****

ปัญหา :
น้ำบนดินไหลลงทะเลได้ช้า

สาเหตุ :
เพราะ มีเศษขยะปฏิกูล นอนนิ่งสะสมใต้ ทางระบายน้ำบนแผ่นดินมานาน
ได้แก่ ท่อระบายน้ำ ลำราง คู คลอง ทางน้ำ เป็นต้น
อัตราการไหลของน้ำ ไม่เต็ม ๑๐๐ %
เหมือนคลองลึก ๔ เมตร มีสิ่งสะสมบวกกับโคลนสูงจากก้นคลอง ๒ เมตร
ก็เหลือที่น้ำไหลได้จริง ๒ เมตร อัตราการไหลจึง "ไม่เต็มประสิทธิภาพคูคลอง"
น้ำจากคลองใหญ่ จึงไหลลงแม่น้ำออกสู่ทะเลได้ช้า
เมื่อน้ำในคลองใหญ่มีอัตราไหลได้ช้า ก็ส่งผลถึงอัตราการไหลของน้ำตามคลองเล็ก
และ ลำรางน้ำ คูระบายน้ำ ท่อระบายน้ำข้างถนน เป็นลำดับ
เมื่อฝนตกมาก น้ำก็ท่วมขังบนดินนาน เพราะไหลลงทะเลได้ช้า
เป็นปัญหาเรื้อรัง เหมือนไขมันอุดตันเส้นเลือด
ส่งผลเสีย ลุกลามไปถึงระบบอื่นๆ ไปทั่วร่างกาย
ใช้ชีวิตได้ไม่มีความสุข มีโรคแทรกมาก

การแก้ไข :
ทำให้น้ำบนดินไหลลงทะเลเร็วขึ้น
เต็มประสิทธิภาพคูคลอง
คือ เอาสิ่งอุดตันในระบบทางน้ำบนแผ่นดินออกให้หมด

วิธีการ :
ติดตั้งกังหันน้ำขนาดใหญ่ยักษ์
ไว้ที่ปากคลองใหญ่ๆ ที่ไหลลงแม้น้ำเจ้าพระยา

ผลที่จะเกิด :
โคลนเลน สิ่งสะสมปฏิกูลใต้ ทุกคูคลอง จะถูกดูดสูบลงแม่น้ำเจ้าพระยา
แล้วไหลออกสู่ทะเลไป เมื่อฝนตกลงมาก็จะชำระ ท่อทางน้ำทั้งระบบบนดินใหม่อีกครั้ง
ต่อไปเมื่อฝนตกหนัก น้ำก็จะไหลระบาย ลงคู ลงคลองเร็วขึ้น
น้ำในคลองจะลงแม่น้ำเจ้าพระยาเร็วขึ้น
น้ำเจ้าพระยาจะไหลออกทะเลได้เร็วขึ้น
ระบบทางน้ำบนแผ่นดิน จะรองรับปริมาณน้ำได้มากขึ้น
เป็นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพทั้งระบบ

อุปสรรค :
คือ ไม่มีใครคิดจะทำ เพราะใช้เงินน้อย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE id=post3985996 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>01-11-2010, 10:40 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#
21-11-2007, 06:53 AM

*** น้ำ ****

น้ำ ในโลก...เพิ่มมากขึ้น
อากาศ ทั่วโลก....กำลังปรับตัวใหม่
ระวัง...พายุ
พายุ....คือ "กรรม"
ฝนจะมาก...น้ำจะท่วม
สิ่งสกปรก เลน โคลนตม...อุดตันทางน้ำ ร่องน้ำ คู คลอง ก่อนลงแม่น้ำเจ้าพระยา
เหมือนเส้นเลือดอุดตัน...ไม่เลี้ยงหัวใจ
น้ำฝนมาก น้ำเหนือมาก น้ำแม่น้ำโขงบ่าท่วมภาคเหนือ ภาคกลาง
กรุงเทพจะ ลำบาก แย่...ยาวนาน

ความทรนงตัว...จะพาเดือดร้อนไปทั่ว
- " หนุมาน ผู้นำสาร "

</TD></TR></TBODY></TABLE>

คำเตือนเรา ยังทันสมัยอยู่เลย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

*** กังหันน้ำวิ่ง... ๗๖๓,๗๐๐ ลิตร/รอบ ****



ปลายปี พ.ศ.๒๕๔๔ หลวงพ่อเจริญ ปานจันทร์ ให้สร้างกังหันระบายน้ำ เพื่อช่วยระบายน้ำเสีย น้ำคลำ หรือน้ำนิ่งที่ขาดออกซิเจน รวมทั้งระบายซากต่างๆ เศษขยะมูลฝอยที่ทำให้น้ำในคูคลองต่างๆ ตื้นเขิน โดยท่านเล็งเห็นว่า น่าจะนำไปใช้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อระบายน้ำออกสู่เจ้าพระยา

กังหันน้ำวิ่งที่ท่านให้สร้าง มีขนาดใหญ่ สามารถถอดชิ้นส่วนออกเพื่อนำไปติดตั้งได้ ตัวกังหันตั้งบนฐานเหล็ก มีเครื่องยนต์อยู่ส่วนบนของแท่น ขนาดของแท่น ๑๕ x ๑๒.๕๐ เมตร กังหันมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ๑๐ เมตร ความยาว ๑๒ เมตร สามารถระบายน้ำ ๗๖๓,๗๐๐ ลิตร/รอบ สร้างเสร็จในปี พ.ศ.๒๕๔๕

- " หนุมาน ผู้นำสาร "<O</O

 

*** สิ่งประดิษฐ์...กังหันน้ำวิ่ง ****




ลักษณะของสิ่งประดิษฐ์
กังหันระบายน้ำ เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีลักษณะเป็นกังหันวิดน้ำขนาดใหญ่ โดยใช้กำลังขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดสูง กังหันระบายน้ำนี้มีคุณลักษณะพิเศษ คือ มีขนาดใหญ่มาก สามารถที่จะเพิ่มอัตราการไหลของน้ำในระบบคูคลองได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน<O</O

ความมุ่งหมายของการประดิษฐ์
เพื่อใช้แก้ปัญหาน้ำท่วมขัง ในเขตพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมที่เกิดจากฝนตกหนักติดต่อกัน โดยการติดตั้งกังหันระบายน้ำแบบนี้ไว้ตามปากลำคลองขนาดใหญ่ที่มีน้ำไหลออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา การหมุนของกังหันระบายน้ำจะเป็นการดึงน้ำตามคูคลองในระบบพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้เร็วยิ่งขึ้น ก่อนที่จะไหลออกสู่อ่าวไทยตามธรรมชาติต่อไป ทั้งเป็นวิธีการขจัด ขยะ สิ่งโสโครก น้ำเสีย น้ำคลำ โคลนเลน ที่สะสมมาเป็นเวลานานตามคูคลองและระบบของท่อระบายน้ำทั้งหมด จนเกิดเป็นปัญหาและเป็นภาระที่ต้องคอยแก้ไขอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะมีผลช่วยทำให้พื้นที่ดังกล่าวสามารถรองรับน้ำฝนได้ในปริมาณที่มากกว่าเดิมหลายเท่า<O</O

สาขางานและวิทยาการที่เกี่ยวข้องกับสิ่งประดิษฐ์
กังหันระบายน้ำ จะเกี่ยวข้องกับสาขางานต่างๆ คือ งานชลประทาน งานเทศบาล งานอุทกศาสตร์ โดยมีสาขาวิทยาการที่เกี่ยวข้องที่เห็นได้ชัด คือ วิศวกรรมเครื่องกล และโยธา <O</O




ภูมิหลังที่มาของสิ่งประดิษฐ์<O</O
จากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในเขตพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯ และปริมณฑลในปัจจุบัน ที่มักเกิดขึ้นหลังจากมีฝนตกหนักติดต่อกัน โดยบางพื้นที่สามารถรองรับน้ำฝนได้เพียงเล็กน้อย ทำให้หลวงพ่อ เจริญ ปานจันทร์ สำนักสงฆ์ถ้ำกระบอก จังหวัดสระบุรี มีความเป็นห่วงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ที่จะต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วม และอาจจะกลายเป็นอุทกภัย หรือภัยจากน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ง่าย หากเกิดฝนตกหนักติดต่อกัน หรือกรณีพายุมรสุมขนาดใหญ่พัดผ่านบริเวณภาคกลางของประเทศไทย ซึ่งระบบระบายน้ำบนพื้นดินในปัจจุบันที่มี คูคลอง ตื้นเขิน และอุดตันคงไม่สามารถรองรับน้ำฝนปริมาณมากได้อย่างแน่นอน<O</O



การวิเคราะห์ข้อมูล<O</O
จากการศึกษาระบบของน้ำฝนในพื้นที่กรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล พบว่าปริมาณน้ำฝนทั้งหมดที่ตกลงสู่พื้นดิน จะต้องไหลลงจากที่สูงไปสู่ที่ต่ำ อันเป็นหลักธรรมชาติที่ไม่อาจฝืนได้ ดังนั้นน้ำฝนบนดินจะต้องถูกระบายออกไปตามคูคลองต่างๆก่อน แล้วจึงไหลลงรวมกับน้ำในแม่น้ำสายใหญ่ และเมื่อระดับน้ำทะเลลดต่ำกว่าระดับน้ำในแม่น้ำ น้ำฝนที่ไหลรวมกับแม่น้ำก็จะไหลลงสู่ทะเลต่อไป
แม้ว่าการก่อสร้างระบบระบายน้ำตามถนน และระบบน้ำทิ้งในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล จะถูกต้องตามหลักวิชาการและมีปริมาณที่มากเพียงพอ รวมทั้งความพยายามอย่างมากในการใช้แรงงานคนในการชะล้างสิ่งสกปรกที่อุดตันตามจุดต่างๆ แต่ก็ยังไม่ได้รับผลแบบเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากยังไม่ได้แก้ไขปัญหาอย่างทั่วทั้งระบบ แต่เป็นเพียงการแก้ไขตามจุด ตามตำบลเป็นส่วนมาก ถ้าศึกษาให้ดีจะพบว่าปริมาณน้ำฝนทั้งหมดจะต้องรวมกันแล้วไหลลงสู่ทะเลโดยทางเดียวกัน คือ แม่น้ำใหญ่ หรือ คลองที่มีทางออกสู่ทะเล
เมื่อการอุดตันตามท่อระบายน้ำข้างถนนได้แก้ไขไปบ้างแล้ว สิ่งที่จะต้องพิจารณาต่อไป คือ<O</O
การอุดตัน ตื้นเขิน ตามเส้นทางเดินของน้ำทิ้ง น้ำเสีย และน้ำในธรรมชาติ ได้แก่ บ่อเกรอะ บ่อพัก คูระบายน้ำ คลอง จนเกิดน้ำท่วมขังนิ่งตามคลองที่ตื้นเขิน ที่มักมีเศษขยะมูลฝอย โคลนตม ที่สะสมมาเป็นเวลานาน ทำให้อัตราการไหลของน้ำลงสู่แม่น้ำใหญ่ลดลงอย่างมาก เช่น ความลึกของคลอง ๔ เมตร ถ้ามีโคลนเลนสะสมสูงถึง ๓ เมตร ประสิทธิภาพของอัตราการไหลของลำคลองนี้ก็จะเหลือเพียง ๑ ใน ๔ เท่านั้น และถ้าบางจุดมีลักษณะการสะสมของโคลนที่มาก อาจจะส่งผลทำให้น้ำในลำคลองสายนั้นหยุดไหล หยุดระบายออกสู่แม่น้ำใหญ่ และทะเลได้ ซึ่งในปัจจุบันได้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นจริงแล้วเกือบทั่วทั้งเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงเป็นกลายต้นเหตุสำคัญที่ทำให้พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลน้ำท่วมขังได้ง่ายหลังเกิดฝนตกหนัก<O</O
ดังนั้นเมื่อมองภาพรวมของปัญหาน้ำท่วมขังทั่วทั้งระบบ จะพบว่าสาเหตุหลักที่ทำให้พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเกิดน้ำท่วมขังได้ง่ายหลังจากเกิดฝนตกหนัก คือ ระบบระบายน้ำบนพื้นดิน ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ระบบการระบายน้ำตามคูคลองเกิดการตื้นเขิน อุดตันไม่สามารถที่จะระบายปริมาณน้ำฝนที่อยู่บนพื้นดินให้ไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาได้ทัน <O</O

- " หนุมาน ผู้นำสาร "<O</O

 

ยามที่บ้านเมือง ขาดสัจจะ !!!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "