ข้องใจเรื่ิองพระโสดาบันครับ

เมื่อบรรลุโสดาบันรู้มาว่าจะเกิดอีกไม่เกิน7ชาติ ในโลก สวรรค์ และพรหมเท่านั้น

อยากทราบว่า...

สมมติเมื่อเราบรรลุโสดาบันในชาตินี้ ชาติต่อไปที่ลงมาเกิดเป็นมนุษย์

จะเป็นโสดาบันแต่กำเนิดหรือว่าจะต้องมีเหตุให้ปฎิบัติจนบรรลุอีกครับ

 

เวียนว่ายอยู่แค่สุคติภูมิทั้ง 7 ชาติโดยไม่กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก เสวยบุญที่ทำไว้ตามเหตุปัจจัยแห่งบุญกุศล แล้วนิพาน ณ ที่นั้น อันเป็นชาิติสุดท้าย

ขออนุโมทนาสาธุการครับ

 

ตรงนี้แหล่ะครับที่ถูกปิดไว้ ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกัน คนรู้ก็ไม่ค่อยอยากจะบอกเพราะกลัวคนปรามาสจะบาปเสียป่าวๆ ก็เลยรู้กันเฉพาะกลุ่ม ไม่เป็นสาธารณะ

 

ถ้าเรารู้ว่าทางข้างหน้ามีแต่อันตราย มีเหวลึกเป็นปลายทางที่สุดแล้ว
ถามว่าเรายังจะไปอีกไหมล่ะ ?

เอ้า..พระโสดาบันก็เป็นเพียงนามสมมตินะ ไม่ใช่ตั๋วนั่งชั้นเฟิร์สคลาสที่เมื่อได้ขึ้นเครื่องแล้วจะได้นั่งที่นั่นที่นี่ทันทีแน่นอน

พระโสดาบัน เป็นผู้เริ่มเห็นทางที่ชัดเจนแล้ว แต่ยังมีด่านที่ต้องผ่านไปอีก แต่แน่นอนว่าไม่หลงทางอีกต่อไป
พูดให้ธรรมดาๆก็ว่า เป็นผู้ไม่ประมาทในระดับพระโสดาบันแล้ว

 

เป็นโสดาบันแต่กำเนิดครับ

ไม่มีเหตุใดๆทั้งสิ้นให้ต้องปฏิบัติจนบรรลุโสดาบันใหม่ครับ


จิต มีหนึ่งเดียวครับ

จิตเป็นโสดาบันแล้ว ไม่ใช่ไปเกิดใหม่ จิตจะตกต่ำกว่าเดิมไม่ได้เป็นโสดาบัน แล้วต้องไปปฏิบัติใหม่นะครับ


เป็น โสดาบัน แล้ว จะไปเกิดใหม่ชาิติ ภพภูมิไหนๆ ก็เป็น โสดาบัน ครับ
สอบถามพระอริยเจ้า ได้ทุกรูปครับ
------------------------------------------------------------------
โปรด มีสติ อ่าน คำถาม จขกท ใหม่หลายๆ รอบก่อน นะ

ถ้าใครไม่เชื่อ คิดเอาเองว่า เป็นโสดาบัน มาเกิดใหม่ แล้วตกต่ำลงมาจาก โสดาบัน ทำให้ต้องปฏิบัติใหม่ ถึงจะกลับเป็น โสดาบัน ได้เหมือนเดิม หรืออื่นๆ

ถ้าท่านมีหลักฐานยืนยัน ทั้งในพระไตรปิฏก หรือ พระเทศน์ เอามาให้ฟัง เอามาลงให้ดูทีนะครับ หรือใครสอน พระรูปไหนบอก หรือ อ่านจากหนังสือเล่มไหน ช่วยเอามาลงให้ด้วยนะครับ

 

เป็นไปได้ทั้งสองอย่างครับ มโนจิต มโนกรรม ลองอ่านดูนะครับ

 

คุณเจ้าของกระทู้เป็นศิษย์สาย หลางพ่อฤาษี วัดท่าซุงมิใช่รึ?

คงทราบนะครับว่าผมจะบอกว่าไง^_^

 

ไม่ได้เป็นพระโสดาบันแต่กำเนิดครับ แต่จะมีเหตุการณ์ บางเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการระลึกได้ครับ

เกิดการเข้าใจในบทธรรมทั้งหลายที่มีมาให้ปฎิบัติ มองเห็นเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นธรรมดาของโลก ด้วยตนเอง

สิ่งที่แตกต่างจากมนุษย์ทั่วไปก็คือ มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ เข้าใจอะไรได้ง่ายกว่าปกติ เรียนรู้ได้เร็วกว่าปกติ แม้เห็นเพียงแค่ครั้งเดียวก็เข้าใจและทำได้

ขอให้เจริญในธรรมครับ

 

มีหลายคนสงสัยในเรื่องต่างๆมากมายในพระพุทธศาสนา เฝ้าค้นหาคำตอบเพียงเพื่อให้แค่ได้รู้เพียงผิวเผินทำนั้น แล้วก็ต่างเข้าใจว่าตัวเองนั้นรู้แล้ว แล้วก็หลงทางว่าทำไมมันง่ายจัง เป็นพุทธ ต้องคิด ต้องปฏิบัติ ต้องรักษา

 

พระสารีบุตร และ พระโมคลา ฟังธรรมเพียงแค่ครั้งเดียว บรรลุเป็นพระโสดาบัน

มีบันทึกไว้ในตำราครับ มีให้อ่านอยู่มากมายครับ

ขอให้เจริญในธรรมครับ

 

ผมคิดว่าเป็นแต่เกิดเลยก็มีนะครับ บรรลุก่อนตาย แล้วเกิดใหม่ 1-7 ขวบก็บรรลุได้เช่นกันครับ แม้จะไม่ได้เป็นชาวพุทธ ก็ยังดำรงตนไปตามครรลองครองธรรม

ที่ว่าเกิดใหม่แล้วบรรลุก็แสดงว่าก่อนตายชาติที่แล้วแค่เกือบบรรลุ หรือเป็นว่าที่พระโสดาบัน

กรณีเป็นพระโสดาบันแล้วตาย เกิดใหม่แม้จะไม่ได้เป็นพทธศาสนิกก็ไม่หลงไหลและมีสติสัมปชัญญะสูงกว่าบุคคลทั่วไปครับ โดยไม่ได้ถือศีลหรือแม้แต่เป็นพุทธศาสนิกชนเลยแต่ก็ไม่หลงอบาย

 

ถูกครับ แต่ก่อนที่ท่านทั้งสองจะบรรลุนั้น ท่านทรงเป็นนักบำเพ็ญเพียรมาก่อนนะอย่าลืม ทรงหนี้ห่างจากความวุ่นวายในชุมชนใหญ่ เข้าป่า เข้าดงอยุ่หลายปีจนกว่าจะได้เจอพระพุทธเจ้า แสดงว่าท่านฝึกฝนจิตมากพอสมควร ต่างจาก เราๆ ท่านๆ ที่พอกดปุ่ม ชัตดาว(เข้าใจเฉพาะตอนอ่านเลิกอ่านแล้วก็ลืม) แล้วก็พาตัวดิ่งเข้าหาความวุ่นอยู่ตลอดแล้วจะเรียก ตัวเองว่า พระโสดาบัน ได้ไง แค่รักษาศีลให้ได้ซักข้อแบบจริงจรังก่อน ถ้ารักษาศีลห้าให้ครบก่อนแล้วค่อยคิดถึงคำว่า พระโสดาบัน อย่าก้าวกระโดดเพราะอ่านตัวหนังสือแล้วเข้าใจ

 

เชื่อแก่เถอะ ท่านเจ้าของข้อความนี้ อดีต เป็นยิ่งกว่า พระโสดาบัน มาเกิดอีก

 

เหอๆ ตัวผมเองยังโง่มีอวิชาเต็มอยู่ครับ

ผมคนธรรมดา ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่านี้ครับ กิเลสยังเต็มไปหมดทุกตัวครับ

แค่ อ่านมาบ้าง ศึกษามาบ้าง ฟังพระเทศน์บ้าง หาความรู้ตามมีตามเกิด ตามเน็ต อันไหนที่ดูแล้วฟังแล้วอ่านแล้ว เห็นว่าสมเหตุสมผล ผมก็โพสตอบ ตามความคิดเห็นส่วนตัวยังไง ก็บอกไปตามที่ตัวเอง รู้เท่านั้นครับ

ถ้าไปทำให้ใครบางกลุ่มบางคนไม่พอใจ ก็ขออภัยด้วยก็แล้วกันครับ

 

หากเป็นเช่นนั้นการบรรลุก็เป็นเรื่องง่ายแล้วครับ ผมได้เขียนไว้ก่อนกระทู้เรื่องพระสารีบุตร และ พระโมคลาไว้

ว่าจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ระลึกได้ครับ เมื่อถึงพร้อมแล้วแค่เพียงมีเหตุการณ์ บางเหตุการณ์ก็จะระลึกได้ และ กลับไปมีภูมิธรรมเท่าเดิมครับ

ในที่นี้ก็มีหลายๆบุคคลที่ปฎิบัติ บุคคลเหล่านั้นหากได้สดับรับฟังธรรมก็คงบรรลุใช่ไหมครับ

ทั้งที่ในเว็บแห่งนี้มีธรรมะกล่าวไว้ตั้งมากมาย และ ธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ดีแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่ควรนำมากล่าวเล่น

ในสมัยพุทธกาลหาได้มีเพียง พระสารีบุตร และ พระโมคลา เพียงเท่านั้น ยังมีพระอรหันต์อีกมากมายหลายรูป และ ยังมีปุถุชนอีกมากมายที่ได้รับฟังธรรมจากพระพุทธองค์

แล้วทำไมจึงบรรลุเฉพาะเพียงบางคนเท่านั้น การนึกคิดจะทำให้ออกไปไกลจากที่ควรเป็น

แต่หากคิดด้วยเหตุ และ ผล ไม่คิดโดยเห็นแก่ตนเอง จะได้รู้ได้เข้าใจ ถึงธรรมะที่พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสไว้ดีแล้ว

ซึ่งตัวอย่าง ได้มีให้เห็นในตำราอยู่แล้ว รึถ้าอยากเห็นด้วยตนเอง ก็เพียรปฎิบัติให้ถึงพร้อม พึงจะเห็นได้ด้วยตนเองครับ ซึ่งสิ่งที่เป็นจริงไม่ต้องนึกคิดครับ

ขอให้เจริญในธรรมครับ

 

-ผมเห็นด้วยครับ เมื่อบุคคลใดเคยเป็นโสดาบันชั้นต้น หากตายไปแล้วเกิดใหม่ได้พิจราณา อริยสัจ 4 เต็มสติปัญญาในภูมิโสดาบัน ภูมิโสดาจะเกิดแก่ท่านผู้นั้นอีก เพื่อจะก้าวเดินตามทางอริยมรรคต่อไป

 

ขอบคุณครับทุกคำตอบเลยนะ ผมเข้าใจแล้วว่าไม่หาคำตอบดีกว่า

พอมาคิดดีๆ รู้ไปก็ไม่ได้เป็น สู้ปฎิบัติให้เห็นจริงดีกว่ามานั่งถาม

ขอบคุณทุกความเห็นครับ

 

ผมไม่เคยเจอหลวงพ่อ แต่ผมนับถือท่าน ใช้คำสอนของท่านเป็นแนวปฎิบัติ
แบบนี้เราเรียกว่าเป็นศิษย์ก็ได้ใช่ไหมครับ

 

แล้วพระองคลุลีมารล่ะครับ ฟังพระธรรมจามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียงครั้งเดียวเช่นกัน

คนที่ไม่เคยไปกรุงเทพ แต่มานั่งคุยเรื่องกรุงเทพ พอมีคนที่เคยไปกรุงเทพมาบอกกล่าว กลับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง เหตุเพราะไม่รู้ว่าเขาผู้นั้นได้ไปกรุงเทพมาแล้ว

ขอให้เจริญในธรรมครับ

 

มรรคจิต ผลจิต ของพระอริยะขั้นต่างๆ
มรรคจิตในการปหานกิเลสเกิดครั้งเดียว
โสดาปัตติมรรคจิต
โสดาปัตติผลจิต
สกทาคามีมรรคจิต
สกทาคามีผลจิต
อนาคามีมรรคจิต
อนาคามีผลจิต
อรหันตมรรคจิต
อรหันตผลจิต
ส่วนผลจิต เกิดขึ้นได้เรื่อยๆ ถ้าเหตุปัจจัยพร้อมค่ะ
มรรคจิต