เพื่อการกุศล :::(เปิดจอง)ล็อกเกตพระแก้วมรกต"ภูริทัตตเถรานุสรณ์-สมเด็จองค์ปฐมอมฤตศุภมงคลญาณสังวร":::

ทำไมต้อง อาจารย์ธรรมนูญ พอดีได้รับ Forward mail มาน่ะครับ

เหรียญเสด็จปู่พรหมเทพจอปกาศิต ​

แห่งสำนักสักยันต์บัวแปดกลีบ ชลบุรี

มูลเหตุที่มาของเรื่องนี้เกิดจากพี่ท่านหนึ่งชื่อ คุณชัยพร ซึ่งศรัทธาในพระป่าสายกรรมฐานเป็นอย่างยิ่ง เมื่อใดที่มีโอกาสพี่แกก็จะเดินทางไปทำบุญกับวัดแถวภาคอีสานเป็นประจำ และวัดหนึ่งที่พี่เขาศรัทธามากและไปทำบุญอยู่ประจำ คือ วัดสังโฆญาณวิสุทธิโสภณ หรือที่รู้จักกันดีว่า วัดป่าภูสังโฆ ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 1 ตำบลกุดหมากไฟ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งมี พระอาจารย์วันชัย วิจิตโต พระอริยเจ้าผู้ซึ่งหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด ได้การันตีถึงภูมิธรรมของท่านไว้ในคำเทศน์ของท่าน ดังนี้

....วัดป่าภูสังโฆ ถวายปัจจัยจำนวน ๓๒๗,๗๐๐ บาท พอใจ ได้เงินมาจากไหนตั้งสามแสนสี่แสน พ่อแก่อยู่นี้สักเท่าไรนานไม่เห็นได้เงินมาเป็นแสนๆ อย่างนี้วะ เก่งกว่าอาจารย์วะท่านวันชัย เอาเก่งอย่างนี้ให้เก่งไปเถอะเราไม่ว่า ให้เก่งไป ได้เท่าไรขนมาให้ได้ บอกอย่างนั้นนะ ท่านวันชัยอยู่ที่นั่นก็ดีสงัดดี พระจำนวนเท่าไรเวลานี้ (๒๕ องค์เจ้าค่ะ) ของเรามากอยู่ แล้วอาหารการฉันทำอย่างไร วัดก็ไกลด้วย จัดกันอย่างไร (พอเป็นไปเจ้าค่ะ)

กรรมฐานเราต้องเขียมเกียมเสมอ เหลือเฟือไม่ได้ ภาวนาไม่ได้ท่า ต้องเขียมเสมอละ เรานี่นักเขียม เขียมมาแล้วนะ การฝึกทรมานเจ้าของนี่มักจะอดอาหารละมากกว่าเพื่อน ภาวนาดีจนท้องเสีย ๙ ปี จะอดอาหารตลอดเลยถึง ๙ ปี พอลงเวทีแล้วท้องก็ไม่ลงด้วย มันก็ไปของมันเรื่อยๆ จนจะตาย ได้ยาหม้อเติ้งมาฉัน ระงับดับไปเลยนะ ยาหมอเติ้งดีนะ ไม่อย่างนั้นเราตายแล้วตั้งแต่จนพรรษาที่เท่าไร กำลังจะเริ่มช่วยชาติพอดีโรคนี้ก็กำเริบหนักเข้า พอดีได้ยาหม้อเติ้งมาฉันเลยหายตั้งแต่บัดนั้นจนกระทั่งป่านนี้ ยาดีนะยาหม้อเติ้ง

ทางนั้นก็มีวัดภูสังโฆกับวัดผาแดง ธรรมลีอยู่ที่นั่น มีแต่พระมากๆ ทั้งนั้นละอยู่ที่นั่น เราไม่ค่อยได้ไปไหนละเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยไปไหน ไปตามจุดที่จำเป็นๆ เท่านั้นละ ที่จะไปเยี่ยมวัดนั้นวัดนี้ไม่ค่อยได้ไป ธุระของเรามีมากต่อมาก วันหนึ่งๆ ไม่ว่างนะ ท่านวันชัยก็ดี มีหลักใจเรียบร้อยแล้ว ท่านพูดเรื่องจิตตภาวนาให้ฟังทุกอย่างๆ เราก็เพียงคอยเพียงคอยแนะๆ เท่านั้น ก็ผ่านไปได้ล่ะ เรียกว่าผ่าน ผ่านได้แล้วท่านวันชัย ผ่านโดยสมบูรณ์ ไม่มีอะไรล่ะกิเลสตัณหาตัวไหนไม่มี เรียกว่าขาดสะบั้นไปเลยละ ครองแต่ธรรมเต็มหัวใจ ถ้าธรรมครองใจแล้วสบายมาก ถ้ากิเลสครองใจเป็นไฟไปเลย มันต่างกัน

ซึ่งปกติพี่เขาก็ได้ไปทำบุญที่วัดนี้เป็นประจำกับพระอาจารย์วันชัย วิจิตโต ร้อยวันพันปีที่ไปท่านก็ไม่เคยทักหรือพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องของวัตถุมงคลเพราะไม่ใช่จริตของท่าน จนมาเมื่อวัรนเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พี่เขาก็ได้ไปทำบุญกับท่านที่วัดเช่นเคย แต่คราวนี้ไม่เหมือนคราวไหนที่ท่านกลับสนใจในพระเครื่ององค์หนึ่งที่คุณชัยพรห้อยอยู่ ซึ่งพระเครื่ององค์นี้รุ่นน้องคนหนึ่งที่รู้จักกันได้เพิ่งให้มา แกเห็นว่าสวยดีและชอบรูปแบบจึงได้เลี่ยมห้อยติดตัวไว้ เมื่อไปถึงวัดได้ก้มกราบท่านเสร็จ ปรากฏว่าท่านพระอาจารย์วันชัยได้มองจ้องมาที่พระเครื่องที่เขาห้อยอยู่อย่างผิดสังเกต อาจจะเป็นเพราะขนาดที่ค่อนข้างใหญ่กว่าจะปกติก็เหลือที่จะเดา ท่านได้เอ่ยปากถามคุณชัยพรว่า วันนี้ห้อยอะไรมา คุณชัยพรได้กราบเรียนท่านไปว่า เป็นเหรียญเสด็จปู่มหาพรหมเทพจอปกาศิต ของสำนักท่านย่าเฒ่าครับ ท่านรับฟังแล้วก็นิ่งโดยดุษณี หลายคนอาจจะคิดว่าแล้วมันมีไรน่าตื่นเต้นตรงไหน ก็ต้องขอบอกให้ทราบก่อนว่า ปกติวิสัยของพระป่าสายหลวงปู่มั่นแล้ว ท่านไม่ค่อยที่จะสนใจเรื่องภายนอกมากกว่าการดูจิตภายในตัว ยิ่งพระอาจารย์วันชัยด้วยแล้วท่านได้รับการอบรมจากองค์ท่านหลวงตามหาบัวจนแทบจะถอดแบบการปฏิบัติของท่านมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นจริตนิสัยและการปฏิบัติ ยิ่งเรื่องวัตถุมงคลด้วยแล้วท่านไม่ส่งเสริม อันการที่จะมาพูดโอ้อวดเรื่อปาฏิหาริย์ยิ่งมิใช่วิสัยของท่าน ดังนั้นความแปลกมันอยู่ที่ในวันนั้นทำไมท่านถึงได้ทักเหรียญเสด็จปู่ฯ ขึ้นมา เพราะทักทีที่ไปกราบท่านห้อยพระเครื่องต่างๆ ไปท่านก็ไม่เคยทัก แต่ครั้งนี้ท่านกลับมองด้วยความสนใจอย่างพินิจพิจารณาก่อนจะเอ่ยปากถาม ข้อคิดสันนิษฐาน (เอาเอง) จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะมีกระแสอะไรไปกระทบจิตท่านเข้า ท่านก็เลยทักขึ้นมา แต่เนื่องจากท่านไม่อยากให้ติดในเรื่องของอิทธิปาฏิหาริย์ท่านเลยนิ่งเฉยเสีย คือไม่ส่งเสริมแต่ก้ไม่ได้ปฏิเสธ
เหตุการณ์ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะในวันเดียวกันนั้นทางคุณชัยพรได้แวะไปกราบ ลวงปู่อุดม ญาณรโต วัดป่าสถิตธรรมวนาราม อ.พรเจริญ จ.หนองคาย เพื่อนำล๊อกเก็ตรูปเหมือนท่านที่ทางคณะของคุณชัยพรเป็นผู้สร้างไปถวายท่าน ซึ่งท่านก็ได้ทำพิธีอธิษฐานจิตให้ในเดี๋ยวนั้น ทางคุณชัยพรเห็นเป็นโอกาสอันดีก็เลยถอดสร้อยคอที่ห้อยเหรียญเสด็จปู่ฯ ไว้เพียงเหรียญเดียววางไว้บนกองวัตถุมงคลด้วย ซึ่งหลวงปู่ท่านก็ได้เมตตาอัญเชิญเทวดาและเปิดโลกธาตุเสกให้พักใหญ่เลยทีเดียว เมื่อท่านลืมตาปุ๊บท่านก็หยิบเหรียญเสด็จปู่ฯ ขึ้นมาดูด้วยความสนใจ พร้อมถามว่า เหรียญอะไร ทางคุณชัยพรก็กราบเรียนท่านไปและก็เลยถือโอกาสขอให้ท่านเสกเหรียญให้ใหม่อีกรอบแบบว่าขอให้หลวงปู่ช่วยทำพิเศษให้หน่อย แต่หลวงปู่บอกว่า โอ๊ย...ไม่ต้องแล้ว ของเขาทำมาแรงดีแล้ว ว่าแล้วหลวงปู่ก็ยกเหรียญขึ้นเหนือศีรษะท่านเลย
ผ่านไป 2 เหตุการณ์ คงจะพอเป็นเครื่องการันตีถึงความศักดิ์สิทธิ์ของเหรียญนี้ได้ดีทีเดียว แต่ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะเมื่อพี่เขาได้ไปกราบลป.บุญพิณ วัดผาเทพนิมิต สกลนคร ก็ปรากฏว่าหลวงปู่ท่านก็ออกปากทักเรื่องเหรียญนี้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นตัวพี่เขาเองก้ได้ประสบกับอภินิหารของเสด็จปู่ฯ ด้วยตนเองถึง 2 ครั้ง ในการอธิษฐานขอห้ามฝน ซึ่งก็น่าแปลกที่ฝนกลับหยุดตดแบบฉับพลันให้ปรากฏถึง 2 ครั้ง 2 ครา ทุกวันนี้เหรียญนั้นกลายเป็นพระเครื่องประจำตัวแกไปเสียแล้ว แถมยังฝากบูชาไปให้แกอีกหลายเหรียญ

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ก็ขอแถมเรื่องที่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่มีรุ่นน้องนำเอาวัตถุมงคลของสำนักสักยันต์บัวแปดกลีบไปให้ครูบาอาจารย์ท่านพิจารณาดู (ไม่ขอเอ่ยนามในที่นี้ เพราะเกรงคนจะแห่ไปรบกวนให้ท่านช่วยพิจารณาให้ แต่หากใครอยากรู้จริงก็ขอกระซิบหลังไมค์ครับ) ซึ่งท่านก็เป็นหนึ่งที่องค์หลวงตามหาบัวเอ่ยปากว่า ในทางเหนือก็พอจะมีท่าน...นี่แหละพอที่จะเป็นที่พึ่งได้ วันนั้นวัตถุมงคลที่ได้ให้ท่านพิจารณาก็มี
รูปหล่อท่านย่าเฒ่าห้อยคอ เนื้อทองแดง ........ดีมาก อยากขออะไรก็ขอท่านได้หมดทุกอย่าง
ตะกรุดนารายณ์แปลงรูป เนื้อตะกั่ว................เป็นแสงสีแดงพุ่งทะลุกระหม่อมขึ้นไป ออกไปทางด้านอิทธิฤทธิ์
ปลัดขิก.....................................................นี่ถ้าไปอยู่ท่ามกลางคนหมู่มากนะ เขามารุมรักเราหมดเลย
ถ้าเป็นแม่ค้านะดีมาก เขามารุมซื้อเราหมด
ขุนแผนเนื้อเคลือบ.................................แปลกดี ข้างหนึ่งเห็นเป็นช้างเอราวัณออกมา
อีกข้างหนึ่งเป็นสิงห์ เป็นทั้งเมตตาและมหาอำนาจในตัว
ไม้ครูคฑามือ (รุ่นล่าสุดที่หมดไป).........เห็นนิมิตเป็นเจดีย์อยู่ริมแม่น้ำ และมีแสงสว่างส่องจาก
ยอดเจดีย์ลงมาสว่างไสวไปหมด เป็นสิริมงคลดีมาก
(แต่ที่น่าทึ่งยิ่งกว่า คือ ท่านบอกถูกข้างตรงกับเหรียญเสด็จปู่ฯ เลยว่า ช้างอยู่ด้านไหน สิงห์อยู่ด้านไหน ไม่สลับข้างกัน)

 

อาจารย์ธรรมนูญ ผมเอาไปปลุกเสกมาเป็นปีแล้ว ท่านให้ผมจุดธูปช่วยเสกด้วย สำลักควันเกือบจะเป็น small cell carcinoma ว่างๆจะไปหาอาจารย์อีก จะไปถามหาสีผึ้ง เผื่อจะเอามาหุงใหม่แล้วมาแจกกันครับ

ผมไม่เคยเขียนเรื่อง plan ฆราวาสเลย ถ้ามีโอกาสกะว่านะ ....

อาจารย์ณรงค์ เผือกเที่ยง

อาจารย์ประคอง เข็มทองคะนองฤทธิ์

อาจารย์ประจวบ คงเหลือ

 

หลายๆรูปท่านอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อนะคัรบ เลยอาจคิดไปว่า ผมเอาแต่ปริมาณไม่เน้นคุณภาพรึเปล่า อย่าง

หลวงปู่อ่อง ที่ถ้ำเขาน้ำตก เอาสั้นๆง่ายๆ หลวงปู่พิศดู เคยปรารภว่า "เก่ง" คงไม่ต้องอธิบายอะไรให้มันมากความ

หรือ

หลวงพ่อบุญส่ง ท่านเคยใช้พลังจิตปลุกศพในป่าช้าให้ลุกมาเดินได้ เป็นต้น

หรือแม้กระทั่ง

พระอาจารย์บุญชวน วัดป่าวังทิพย์ ท่านเคยร่วมปลุกเสกพระพร้อมกับ หลวงปู่หมุน หลวงปู่ละมัย มาแล้ว

 

สอบถามคุณเด็กเดลต้าครับ เห็นพิธีปลุกเสกสุดยอดมาก เกจิมากมาย คุณเดลต้าไปหา่ท่านเองหมดเลยหรอครับ สงสัยเพราะอยากสร้างพระเป็นที่ระลึกไว้กับชมรมผมครับ การจะไปหาเกจิเเต่ละท่านบางรูปห่างไกลมาก อยากขอคำเเนะนำครับ อิอิ ไว้เป็นประสบการณ์

 

ส่วนใหญ่ผมจะไปหาเองครับ
ถ้าคำแนะนำจากใจคือ ไม่ต้องทำเนื่องจาก มีค่าใช้จ่ายมาก ลองเดินไปไปหาพระเกจิ 2-3 องค์เดี๋ยวก็เบื่อแล้ว ที่ตั้งใจว่าจะทำเดี๋ยวก็จะทำไม่ได้ ทำออกมาแจกให้ใครเค้าก็เฉยๆ เพราะเหมือนของในตลาดทั่วไป ทำได้เมือ่มีความพร้อมอย่างยิ่งครับ

 

ตอนที่ 129 ศิลาธิคุณ กายสิทธิ์ของสมเด็จพุฒจารย์โต




ศิลาธิคุณหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าฤษีผสมแล้ว ถือเป็นมวลสารหลัก ที่ใช้สร้างพระสมเด็จนอกจากตัวประสาน(ปูนเพชร นํ้าตาลอ้อยและกล้วย)มีลักษณะภายนอก คล้ายหินอ่อน มีความร่วนตัวเปราะเมื่อพบครั้งแรกๆ เมื่อโดนอากาศ จะค่อยๆแข็งขึ้น อย่างเดียวกับศิลาแลง จึงนำมาเป็นส่วนผสม และมวลสารชนิดนี้เองทำให้เนื้อพระสมเด็จมีความแตกต่างจากเนื้อปูนผสมอื่นๆเป็นตัวทำให้พระสมเด็จมีความหนึกนุ่มที่สารถมองทางลึกได้(เนื้อมีความโปร่งใส)โดยมวลสารต่างๆจะถูกห่อหุ้มด้วยเนื้อศิลาธิคุณ นี่เอง นอกจากปรากฎเป็นเนื้อหลักแล้วส่วนศิลาธิคุณ ยังปรากฎให้สังเกตเห็นในพระสมเด็จเป็นก้อนเล็กๆเกือบทุกองค์ ชึงบางทีเข้าใจว่าเป็นก้อนผงวิเศษ ก็มีแต่ผู้ชำนาญจะแยกออกได้ว่าจุดขาวใสที่เห็นศิลาธิคุณหรือผงดินสอวิเศษ


ตอนแรกไม่คิดว่า เรื่องศิลาธิคุณจะมีจริงเหมือนกัน และไม่คิดว่าจะได้มวลสารที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จฯถึงเพียงนี้

ที่มาของมวลสาร เดิมครั้งเมื่อเปิดกรุเป็นางการ กำนันชูชาติ มากสัมพันธ์ได้เช่าบูชาพระสมเด็จบางขุนพรหม มาหลายแสนบาท วัดจึงแถมก้อนที่อยู่ก้นกรุให้ 1 ชิ้น โดยวัดเองก็ไม่ทราบว่าอะไร ต่อมาผงนี้เกิดการเปลี่ยนมือมาอีก 2 ครั้ง โดยตั้งใจว่าจะใช้สร้างพระของหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ครูบาหน้อย วัดบ้านปง ครูบาจันต๊ะ วัดหนองช้างคืน ฯลฯ ก็ไม่มีใครกล้าบดเป็นมวลสารเสียที

จนมาถึงการสร้างครั้งนี้ ได้ทำการตั้งบายศรี ขอครูบาอาจารย์เทวดาบดมวลสาร
ตอนแรกว่าตั้งใจจะใส่ทั้งล็อกเกตพระแก้วและสมเด็จองค์ปฐม แต่เมื่อบดกลับพบศิลาธิคุณ ที่ผมเองก็ไม่คิดว่าจะมีจริง นึกว่าเป็นนิยาย
ก็เลยจะผสมเฉพาะสมเด็จองค์ปฐมเท่านั้น รุ่นนี้รุ่นเดียวเลย
ใครได้ไปโครตคุ้มค่ามากๆ

 

ขอบคุณ เดลต้า มากครับ มันต้องลงทุนมากมาย ต้องพร้อมจริงๆครับ

 

ผมโอนแล้วนะครับ 3000 บาท แต่ที่ผมจองเยอะไม่ใช่อะไรนะครับผมเห้นว่าเป็นของดีได้ร่วมบุญจึงบอกต่อให้ญาติพี่น้องบูชา แรกๆผมให้เขาสมัครสมาชิกมาจองเองแต่เนื่องจากเขาไม่ใช่สมาชิกประจำเลยลืมรหัสอย่างคุณ donut เขาเลยฝากผมมาแทน

 

จองกันเยอะ ก็วาสนาก็คนนั้นๆที่เกี่ยวข้องกันแล้วล่ะครับ

กว่าจะสร้างเป็นวัตถุมงคลซักชิ้นขึ้นมาได้ ไม่ได้ง่ายเลย สำหรับผมนะ

สัปดาห์ก่อน หลวงพ่อจิ๋ว วัดราชสิทธารามท่านโทรมาถาม ว่าเห็นหายเงียบไป ไม่จัดงานพุทธาภิเษกแล้วเหรอ ผมตอบว่ายังจัดอยู่ แต่หาวันลงไม่ได้ซักที เพราะสอบถี่มาก จะจัดก็ต้องนิมนต์ครูบาอาจารย์มา

แล้วทำไมต้องจัดที่นี่หรือครับ ไปดูกัน

 

ผงวิเศษรวมของวัดราชสิทธาราม คณะ 5
มีผงรวมตั้งแต่ผงอิทธิเจของสมเด็จพระสังฆราชสุก
จนมาถึงยุคพระพ่อของพระอาจารย์ครับ

 

พระจีวรลายดอกพิกุล สมเด็จพระสังฆราชสุก ผืนเดียวกันกับที่จะใช้บรรจุ สมเด็จองค์ปฐม

เป็นมวลสารที่สูงค่ามากๆ

 

ไม้เท้าเบิกไพร

ต้นวงศ์พระกรรมฐาน ของพระราหุล

ตกทอดมายัง สมเด็จพระพนรัตน์ มหาเถรคันฉ่อง และสมเด็จพระสังฆราชสุก
จากนั้นตกทอดมาภายในวัดราชสิทธาราม

ในงานที่ผมจะจัดตั้งใจว่าจะมีต้นสายสิญจน์อยู่ที่ไม้เท้าเบิกไพร

 

พระผงห้าเหลี่ยม ปี 2516 วัดเทพศิรินทร์ ไม่ทันเจ้าคุณนรเสก

เป็นพระผงสภาพสมบูรณ์องค์เดียวที่ผมบด
เพราะต้องการปฐวีธาตุแท้ๆที่ฝังในพระ

ปกติแล้วจะไม่บดพระสภาพสมบูรณ์เด็ดขาด เพราะครูบาอาจารย์ว่าไม่ดี

แต่ปฐวีธาตุเจ้าคุณนรรัตน์นั้น ตัวจริงหายากครับ

เน้นคำว่าว่า "ตัวจริง" นะครับ

 

เข้ามาอ่าน รบกวนช่วยคอมเมนต์ด้วย อย่าให้พูดอยู่ฝ่ายเดียว เซ็ง

เข้ามาแนะนำพระเกจิก็ได้ แนะนำสถานที่หามวลสาร หรือคอมเมนท์เล่นๆก็ยังดี

อย่างพี่ ttmmtt ก็แนะนำบุคคลที่ผมสมควรไปขอ และก็มีแนวโน้มจะได้มาแล้วด้วย

วันนี้ได้มวลสารมาใหม่อีก คือ ขวานหินฟ้าผ่าสมัยทวารวดี และ ผงวิเศษของพระฤาษี ในกรุเก่าในจังหวัดกาญจบุรี (บางคนเค้าเรียก คดฤาษี)

ผงที่ฤาษีสร้าง จะมีอานุภาพมากๆ หลวงพ่อตี๋ วัดดอนขวาง ท่านเคยไปนำมา ปรากฏว่าคณะที่ไปขุดต้องพบกับภัยพิบัติทั้งคณะ

 

ตอนที่ 130 หลวงปู่ดู่ กับพระผงพรายกุมาร

เมื่อประมาณปี ๒๕๒๐ขณะนั้นเป็นเวลาบ่ายเย็นหลวงปู่ดู่ แห่งวัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ออกมานั่งคุยกับศิษย์ที่บริเวณระเบียงกุฏิของท่าน
เมื่อนั่งคุยกันชั่วครู่ใหญ่หลวงปู่ดู่และศิษย์เห็นรถยนต์คันหนึ่งวิ่งเข้า มาในวัดแล้วจอดมีชาย ๔ คนลงจากรถ และเดินตรงมาที่กุฏิของท่าน
"เอ๊ะ..อ้ายพวกนี้มาแปลก..." หลวงปู่ดู่อุทาน"มันเอาผีมาด้วย"
บรรดา ศิษย์ของหลวงปู่ดู่ เมื่อได้ยินหลวงปู่พูดถึงผีก็พากันชะเง้อดูคนทั้งสี่ "เอ...ผมมองไม่เห็นผี"ศิษย์คนหนึ่งบอกกับหลวงปู่"ผมไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ
มีอะไรหรือครับหลวงปู่..."หลวงปู่ดู่หัวเราะกับศิษย์ และพูดกับศิษย์ว่า..
"ฉันเห็นผีมันล้อมรอบพวกสี่คนที่กำลังเดินมาเต็มไปหมด"
คนทั้งสี่ เมื่อเดินมาถึงหน้าบันได้กุฏิ ก็พากันถอดรองเท้า แล้วพากันขึ้นบนกุฏิ คลานเข้ามากราบหลวงปู่ดู่..
"นี่...พวกเธอมาหาฉัน ทำไมจึงเอาผีมาด้วย"
หลวงปู่ดู่ถามชายทั้งสี่ พร้อมกับหัวเราะด้วยอารมณ์ดี คนทั้งสี่มองหน้ากัน ตีหน้าเลิ่กลั่ก เมื่อได้ยินหลวงปู่ดู่บอกว่า พวกตนที่มาหา...พาผีมาด้วย
"ผีที่ไหนครับหลวงปู่"
นาย เบิ้ม พบร่มเย็น (ต้นฉบับเดิมเขียนไว้อย่างนี้แต่จริงๆแล้วคือท่านอ.สุวัฒน์ พบร่มเย็นครับ) หนึ่งในสี่คนที่มาหาหลวงปู่ ถามขึ้นด้วยความสงสัย
"ยังไม่รู้อีกเรอะ"
หลวงปู่ดู่หัวเราะด้วยอารมณ์ดี
"ผีมันออกมาจากพระที่แขวนอยู่ที่คอน่ะสิ"
ทั้ง สี่คนที่มาหาหลวงปู่ถึงบาง "อ้อ" คนทั้งสี่ที่มาหาหลวงปู่ดู่ป็นศิษย์ของ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยองและทุกคนมีพระเครื่องที่หลวงปู่ทิมสร้าง
แขวนอยู่บนคอเช่น พระพรายเพชร พรายบัว (พระสององค์ติดกัน)พระพิมพ์สี่เหลี่ยมหัวโต...หรือพระเล็กๆ แบบสามเหลี่ยมเรียกนางพญาและพระขุนแผนเล็กและ
ใหญ่บรรดาพระเครื่องที่เอ่ยนาม มานี้นอกจากจะมีผงพระพุทธคุณแล้วยังผสม "ผงผีพรายกุมาร" ที่ได้มาจากเด็กที่ตายทั้งกลม....คนทั้งสี่นำสร้อยคอที่แขวนพระที่มีส่วนผสม
ของผงพรายกุมารให้หลวงปู่ดู หลวงปู่นั่งหลับตาชั่วครู่ใหญ่บอกว่า
"ของเขาแรงใช้ได้ดีทีเดียว แต่ดูเหมือนผู้สร้าง..ได้เสีย..เสียแล้ว""ครับ...เป็น พระเครื่องของท่านหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ที่ได้สร้างขึ้นและหลวงปู่ทิมได้มรณภาพ
มากว่า ๒ ปีแล้ว..." นายเบิ้ม พบร่มเย็น บอกแก่หลวงปู่ดู่...คนทั้งสี่อัศจรรย์ใจที่หลวงปู่ดู่ท่านรู้ว่าที่คอของพวก ตน มีพระเครื่องที่ท่านหลวงปู่ทิมใช้ผงพระพุทธคุณ
และผงพรายกุมารผสมป่นลงไปแล้วปลุกเสกสร้างเป็นองค์พระขึ้น คนทั้งสี่ที่มาหาหลวงปู่ดู่ จึงเคารพหลวงปู่ดู่ยิ่งทั้งสี่คนนั่งคุยกับหลวงปู่ดู่ครู่ใหญ่

คุณชินพร ศิษย์เอกของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ถามหลวงปู่ดู่ว่า..."
ท่าน หลวงปู่ทิม อาจารย์ของผมเป็นพระเถระที่ยึดมั่นพระธรรม และพระวินัยของพระพุทธองค์อย่างเคร่งครัดไม่ยินดียินร้ายในรูป รส กลิ่น เสียง และถือสันโดษเป็นพระภิกษุที่มี
ศีลาจริยาวัตรน่าเลื่อมใส หลวงปู่ทิมได้สร้างพระเครื่องโดยมีผงพรายกุมารที่ท่านทำมาจากเด็กตายทั้งกลม จากท้องมารดาการกระทำของหลวงปู่ทิม จะเป็นบาปหรือไม่
หลวงปู่ดู่ "ไม่บาป การที่ไม่บาปเป็นเพราะว่า
เด็ก ที่อยู่ในท้องแม่ยังไม่เกิดเป็นตัวตนคือยังไม่มีธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ยังไม่มีวิญญาณและแม่เด็กก็ได้ตายไปแล้วซึ่งแม่เด็กและเด็ก ก็จะกลับสู่สภาพเดิมคือ เป็นผงธุลีไป
"หลวงปู่หยุดเล็กน้อย" การที่ถามว่า เอาหัวกระโหลกเด็กที่อยู่ในท้องของแม่ที่ตายทั้งกลมมาทำของจะบาป ไหม...เรื่องนี้มันคนละเรื่องกันเด็กที่อยู่ในท้องของแม่ที่ตายทั้งกลมนั้น
อยู่ในลักษณะที่ว่า ไม่มีตัวตน ไม่มีวิญญาณที่จะไปเกิดสภาพของเด็กที่อยู่ในท้องของแม่ที่ตายทั้งกลมจึง เหมือนกับก้อนเนื้อก้อนหนึ่งและถ้านำเด็กที่อยู่ในท้องของแม่ที่ตายทั้งกลม
มาปลุกเสกด้วยอาคมและปลุกเสกด้วยธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟก็จะอยู่ในลักษณะหนึ่งที่ทางไสยศาสตร์เรียกว่าภูติ หรือ มหาภูติและ ถ้าเราเอาตัว ภูติ ที่ปลุกเสกด้วยอาคม
และธาตุทั้งสี่มาทำของของนั้นก็จะมีอิทธิฤทธิ์ยิ่ง.."
คำ อธิบายของหลวงปู่ดู่ทำให้คุณชินพรและพวกหายข้องใจในเรื่องที่นำเด็กในท้อง ของแม่ที่ตายทั้งกลมมาปลุกเสกแล้วป่นทำเป็นผงนำไปผสมกับผงพระพุทธคุณแล้วนำ ไปสร้างพระ
...หรืออุดผงนี้ลงที่ด้ามมีดหมอหรือนำผงนี้อุดที่องค์พระที่สร้าง ขึ้นบรรดาคนทั่วไป มักจะเรียกผงนี้ว่า ผงพรายกุมาร

 

แจ้งการโอนเงินครับ
ฉากขียว 1 องค์ 1500 บาท

 

ในส่วนที่ผมจองไว้โอนเงินครบแล้วนะครับ
ฉากเขียว 1
ฉากขาว 1
ฉากดำ 1
ขอบคุณมากครับ

 

ขอเล่าขยายความนะครับ



ที่ว่า ผู้สร้างได้เสียๆแล้ว มีความสำคัญอย่างไร ?

อานุภาพผงพรายกุมารที่หลวงปู่ทิมสร้างนั้น มีอิทธิคุณสูงมาก เมื่อผู้สร้างละสังขารไป กำลังของจิตจะอ่อนลง จะไม่สามารถควบคุมพรายได้ หลวงปู่ทิมท่านทราบเรื่องนี้ดี จึงไปขอคำแนะนำหลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม หลวงพอ่โด่ท่านจึงแนะนำให้หาว่านที่สามารถคุมพรายได้ ผสมลงไปในพระ

หลวงปู่จึงไปขอกับศิษย์น้องของท่าน คือ หลวงปู่เที่ยง วัดสำนักขามที่ชอบเลี้ยงว่านเป็นชีวิตจิตใจ มาผสม

ความเกี่ยวพันกับล็อกเกตรุ่นนี้มากๆ คือ
หลวงปู่โต๊ะเอง เมื่อรวบรวมว่าน 108 ตามตำรา ก็มาขอหลวงปู่เที่ยงเช่นกัน ต่อมาผงว่าน 108 นั้นไปตกกับหลวงพ่ออุตตมะ โดยศิษย์มือซ้ายไปรับจากหลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่ออุตตมะนำมาเสกอีก 20 กว่าปี ก็เป็นมวลสารหนึ่งในล็อกเกตพระแก้วมรกตภูริทัตตเถรานุสรณ์ครับ

 

ตอนที่ 131 dekdleta2 พาชมพิพิธภัณฑ์ภาวนาวิรัต

บรรยายด้วยภาพนะครับ

พี่ๆที่จองล็อกเกตช่วย backup ข้อมูลที่ท่านจองด้วยนะครับ ไว้เป็นหลักฐานเผือ่เว็บไซต์จะล่มอีก

 

บรรยายด้วยภาพ

บรรยาย 3 รูปด้านล่าง เป็นของฝากจากพิพิธภัณฑ์ที่มาสร้างกุศลกับเรานะครับ

รูปแรก : ผงพรายกุมาร ผงรัตนมาลา และผงมหาราช ที่หลวงปู่ทิม เป็นผู้ลบ ใช้ในการอุดก้นสมเด็จองค์ปฐมรุ่นอมฤตศุภมงคลญาณสังวร

รูปที่สอง : สีผึ้งผีหุง เป็นตัวประสานอุดก้นสมเด็จองค์ปฐม

รูปทีสาม : อังคารธาตุ หลวงปู่ทิม ผงกรามช้างน้ำเสกหลวงปู่ทิม ผงรังต่อปลุกเสกหลวงปู่ทิม ผงใบโพธิ์พ่อท่านหรีด วัดป่าโมกข์ ใช้ในอุดหลังล็อกเกตพระแก้วมรกตรุ่นภูริทัตตเถรานุสรณ์