การให้อภัยทาน(ธรรมทาน)ย่อมชนะเสียซึ่งทานทั้งปวง

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 30 กันยายน 2004.

  1. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,020
    "อภัยทานัง อามิสทานัง ชินาติ" ซึ่งแปลว่า "การให้อภัยทานย่อมชนะเสียซึ่งการให้ทั้งปวง" ดังนี้

    คำว่า ทาน แปลว่า การให้
    การให้นี้มีอยู่ ๒ อย่างด้วยกันที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าท่านตรัสไว้
    ให้สรรพสิ่งของต่าง ๆ อย่างนี้ พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า อามิสทาน ได้แก่ การให้วัตถุ จะเป็นเงินหรือวัตถุสิ่งของ เครื่องใช้ เครื่องบริโภคก็ตาม เรียกว่า อามิสทานทั้งนั้น

    ทานอิกส่วนหนึ่งที่องค์สมเด็จภควันต์ทรงกล่าวก็ได้แก่   ธรรมทาน ธรรมทานในที่นี้ก็ได้แก่ การบอกธรรม คำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระชินวรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ชี้เหตุผล ให้รุ้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว อย่างนี้เป็นต้นอย่างหนึ่ง อย่างนี้เขาเรียกว่า ธรรมทาน

    ธรรมทาน อิกส่วนหนึ่งที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ากล่าวว่าสำคุญที่สุดจัดว่าเป็น ปรมัตถทาน คือ เป็นทานที่ไม่ต้องลงทุน คือ อภัยทาน

    ทานทั้งสองอย่างนี้ คือ อามิสทานกับอภัยทานนี้มีผลต่างกัน อามิสทานนั้นให้ผลอย่างสูงก็แค่กามาวจรสวรรค์ ตามนัยที่องค์สมเด็จพระพิชิตมารตรัสไว้ว่า "ทานัง สังคคโส ปาณัง" คือว่า การให้ทานย่อมเป็นปัจจัยเป็นบันไดไปสู่สวรรค์ นี่สำหรับ อามิสทาน แต่สำหรับ ธรรมทาน กล่าวคือ ให้ธรรมเป็นทานก็ดี ให้อภัยทานก็ดี ให้อภัยทานก็ดี ทานทั้งสองประการนี้เป็นปัจจัยแห่งพระนิพพาน

    สำหรับธรรมทาน ทานที่ ๒ นี่มีความสำคัญมาก การให้ธรรมเป็นทานกล่าวคือ นำพระคำคำสั่งสอนของสมเด็จพระชินวรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เอามาแนะนำแก่บรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้าเทศน์เองไม่เป็นก็ไปหาคนอื่นมาเทศน์แทน อย่างนี้ก็ชื่อว่า เจ้าภาพเป็นผู้เทศน์เหมือนกัน เรียกว่าเอาคนมาพูดแทน การให้ธรรมทานเป็นปัจจัยใหญ่ เพราะการให้ธรรมทานบุคคลได้ฟังแล้วจะเกิดปัญญา สิ่งใดที่ไม่เคยรู้มาแล้วก็จะได้มีความรู้ขึ้น เมื่อมีความรู้แล้วก็เกิดความมั่นใจ มีปัญญาเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้ใด บุคคลผู้นั้นก็เป็นผู้หลีกความทุกข์ได้ ถ้าปัญญามีมาก ก็หลีกความทุกข์ได้มาก ปัญญาน้อยก็หลีกความทุกข์ได้น้อย ดีกว่าคนที่ไม่มีปัญญาเลย ไม่มีโอกาสจะหลีกความทุกข์ได้ นี่ว่ากันถึงธรรมทาน

    ธรรมทานอีกส่วนหนึ่งที่มุ่งหมายจะเทศน์กันในวันนี้ก็คือ อภัยทาน อภัยทานนี้เป็นการให้ทานที่ไม่ต้องลงทุนด้วยวัตถุ แล้วก็เป็นทานสูงสุด พระพุทธเจ้ากล่าวว่า ใครเป็นผู้มีอภัยทานประจำใจ คนนั้นก็เป็นผู้เข้าถึงปรมัตถบารมีแล้ว คำว่า ปรมัตถบารมีนี้ เป็นบารมีสูงสุดเป็นบารมีที่จะทำให้เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน คำว่า อภัยทาน ก็ได้แก่ การให้อภัยซึ่งกันและกัน หามายความว่าคนใดก็ตาม เขาทำให้เราขุ่นเคือง ทำให้เราไม่ชอบใจ ด้วยกรณีใดๆก็ตาม ถ้าหากเราคิดพิจารณาเข่นฆ่าจองล้างจองผลาญ ถ้าเขาด่าเรา เราคิดว่าโอกาสสักวันหนึ่งข้างหน้าเราจะด่าตอบ เขาลงโทษเรา เราจะลงโทษเขาตอบ เขาตีเรา เราคิดว่าเราจะตีตอบ แต่โอกาส มันยังไม่มี คิดเข้าไว้ในใจว่า เราจะทำอันตรายตอบ อย่างนี้พระพุทธเจ้ากล่าวว่า เป็นอาฆาต คือ พยาบาท เป็นไฟเผาผลาญดวงจิต เพราะคนที่เรากำลังคิดจะฆ่าก็ดี คิดจะประทุษร้ายก็ดี นี่เขายังไม่ทันรู้ตัว เขามีความสุข เราคนที่คิดจะทำเขานั่นแหละ ตั้งแต่แรกหาความสุขไม่ได้ คบไฟแห่งความพยาบาทมันเข้าเผาผลาญ มีแต่ความร้อนรุ่มกลุ้มใจ คิดวางแผนการต่าง ๆ ว่า เราทำยังไงถึงจะแก้มือเขาได้ โดยคนอื่นเห็นว่าไม่มีความผิด อารมณ์ที่คิดอยู่อย่างนี้ ยังตัดสินใจไม่ได้ ยังทำไม่ได้ มันเป็นไฟเผาผลาญคนคิดนี่แหละ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เพราะอำนาจโทสะเข้าสิงใจ นี่เอำนาจโทสะหรือพยาบาทมันเริ่มเผาผลาญตั้งแต่คิด แต่คนที่ถูกคิดประทุษร้ายนั้น เขายังมีความสุข ทีนี้ถ้าเราไปทำเขาเข้าอีก ไอ้โทษมันก็จะหนักขึ้น ทำเขาเข้าอีก เขายิ่งจะแก้มือใหญ่ ถ้าเขาไม่แก้มือ ทางกฏหมายก็จะยื่นมือมาช่วยเหลือ ความทุกข์ใหญ่ก็จะเกิดขึ้น





    ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๑๐๖ หน้า ๗๕-๗๘
     
  2. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,020
    ทำไมองค์สมเด็จพระมหามุนีจึงไม่มีความโกรธใน พระเทวทัต เพราะเขาแกล้งในทีนะ ที่เป็นคนทำความถูก ท่านเลยบอกว่าไอ้การโกรธไม่มีประโยชน์ การพยาบาทไม่มีประโยชน์ มันเป็นไฟเผาผลา_ เพราะเราบำเพ็_บารมีมาก็ปรารถนาให้ถึงซึ่งพระโพธิ_าณ เป็นพระพุทธเจ้า ถ้าเราไปคบกับความโกรธอยู่ก็ดี ความพยาบาทก็ดี กรรมทั้งหลายเหล่านี้มันจะกำจัดต่อความดีของเรา แม้แต่สวรรค์ชั้นกามวจรสวรรค์ก็จะไม่ได้พบ จะพบแต่อบายภูมิทั้ง ๔ ประการ กล่าวคือ ตกในนรกบ้าง เป็นเปรตบ้าง เป็นอสุรกายบ้าง เป็นสัตว์เดรัจฉานบ้าง หรือว่าเป็นคนที่เกิดมาเต็มไปด้วยความทุกข์บ้าง
    พระพุทธเจ้าจึงทรงปรารภแก่ภิษุทั้งหลายว่า เธอจงปรารภอภัยทานเป็นสำคั_ เมือบุคคลผู้ใดก็ดีที่เขาทำให้เราไม่ชอบใจ จงคิดเสียว่าเรามีกรรมเก่าที่เคยทำให้เขาไม่ชอบใจไว้มาชาตินี้เขาจึงได้ จองล้างจองผลา_เรา เราคิดให้อภัยเสีย มันก็จะปลอดภัย แล้วอิกประการหนึ่ง ถ้ามีการให้อภัยเกิดขึ้น ความเร่าร้อนของจิตก็จะไม่มี มีแต่ความผ่องใส

    (ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๑๐๖ หน้า ๘๑)
     
  3. ploy

    ploy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2005
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +113
    ได้ความรู้อีกแล้วค่ะ
     
  4. กระสือข้างส้วม

    กระสือข้างส้วม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +392
    สาธุ สาธุ ขอให้คนทั้งโลกเปลี่ยนแปลงความโกรธแค้นเป็นให้อภัยกัน โลกนี้ก็จะดำรงไว้ซึ่งความสันติสุข
     
  5. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,020
    หลวงพ่ออธิบายได้กระจ่างแจ้งมาก
    เมื่อก่อนผมเองก็สงสัยเรื่องธรรมทานกับอภัยทาน
    ตอนที่พระพุทธเจ้าบอกว่า "การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง"
    ธรรมทาน = การให้ธรรม, คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นทาน และ การให้อภัยทาน
     
  6. phuang

    phuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,033
    ค่าพลัง:
    +10,043
    ใช่แล้วค่ะ เพราะการให้ก็คือธรรมทานอย่าหนึ่ง
    การให้ทานย่อมเป็นปัจจัยเป็นบันไดไปสู่สวรรค์ นี่ก็เป็นสิ่งมนุษย์เราผู้ซึ่งเจริญแล้วพึงปรารถนา
     
  7. PalmPlamnaraks

    PalmPlamnaraks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2005
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +5,790
    ปาล์มต้องขอโทษพี่กระสือด้วยครับที่วันนั้น อิอิ แกล้งพี่กระสือมากไปนิดssssssssssssssssssssss


    (bb-flower
     
  8. ปราณยาม

    ปราณยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +2,638
    ใช่ครับการให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง ดังนั้นผมขอบทความนี้ไปแจกต่อนะครับ [b-hi]
     
  9. lovely

    lovely Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +37
    โมทนาค่ะ ได้ความรู้อีกแล้วอ่ะ เด๋วจาช่วยเอาความรู้นี้ไปเผยแผ่ต่อนะคะ ขอบคุณค่ะ=^0^=
     
  10. potisad

    potisad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +103
    สวัสดีมีชัย พรพระประเสริญสุดขอปกป้องคุ้มครองรักษาท่านทั้งหลาย
    ขอแจม อภัยทานนิดนะครับ
    เอาแค่ อภัยทานก่อน ก่อนจะขึ้นธรรมทาน
    คนเราจะช่วยเหลือสัตว์โลกได้ ก็เริ่มที่ตนเองก่อน ครอบครัว บ้านเมือง ประเทศชาติ ..... แลจักรวาล
    ....จะทำการสิ่งใด ควรเตรียมตัวให้พรักพร้อม จะออกรบ...เตรียมทหารจะออกศึก ฯลฯ.... เช่นเดียวกัลล ป้อมปราการไม่ได้มียาม ขาดกองกำลังที่ดี เมื่อข้าศึกโจมตี ตอนนั้นเข้ามาเต็มพื้นที่ไปหมด ต้องรอให้ข้าศึกซาลง จะกู้ก็ยาก แสนลำบากเหลือเกิน ต้องปฏิรูปฟื้นฟูกันนาน บางตนเสียเมืองไปเลย ฉิบหายกันใหญ่
    ....จะรอให้ข้าศึกเข้ามาตี เข้ามาครองใจเราก่อน หรือเราควรหมั่นฝึกซ้อมรบ เตรียมให้พรักพร้อมครับ เช่นเดียวกัลลลล หัวเมืองใหม่ แรกๆๆ ย่อมได้ทหารเลว ...อ่า..แค่ยินเสียงกลอง ข้าศึกมือไม้ก็อ่อนแรง ยิ่งมองเห็นกลุ่มควันข้าศึกที่เคลื่อนมา ก็หวิวๆๆลมจับ ชักกระตุกแล้ว
     
  11. potisad

    potisad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +103
    ข้าศึกในที่นี้ เริ่มที่ โทสะ ......มากเข้า เป็น..พยาบาท
    เมื่อถึงตอนนั้น ข้าศึกเข้าครอบงำแล้ว ...อ่า...
    ท่านทั้งหลายเข้าใจสิ่งที่ผมจะพยายามบอกท่านหรือไม่ครับ ว่า การอภัยทาน มีการเตรียมตัวยังไงบ้างครับ ท่านใดมีตำราพิชัยสงครามช่วยสงเคราะห์ทีครับ
     
  12. cruiser

    cruiser Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +51
    สาธุค่ะ การให้อภัยทาน(ธรรมทาน)ย่อมชนะเสียซึ่งทานทั้งปวง
    หากเราได้ทำ เราก็จะทำได้
     
  13. sukhawadee

    sukhawadee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +130
    จาพยายามให้อภัยทุกคนที่ทำมะดีกะเราอ่ะ จาได้มะมีเวรมะมีกรรมต่อกันอีกก เมื่อเช้าเพิ่งรู้สึกมะชอบใจคนคนนึง แต่ตอนนี้อภัยแล้วว สบายใจขึ้นเยอะเลยอ่ะ คิดถึงบ้านจังเลย แงๆๆ อยากกลับบ้าน
     
  14. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,802
    ค่าพลัง:
    +18,984
    ไปถามคนนึงมา

    ..แกบอกว่า ธรรมทานหรืออภัยทาน ... ต้องใช้กำลังใจสูงมาก เพื่อตัดซึ่งกรรมไม่ดี ไม่พอใจต่อกัน.. ใช้พรหมวิหารสูง....
     
  15. แคท

    แคท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +1,666
    ยอมรับนะค่ะ
    บางครั่ง การให้อภัย มันอยากส์..
    แต่ พอ โมหะ ผ่านไป ..ทำให้ การให้อภัย ง่ายขึ้น
     
  16. jit_jai

    jit_jai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +57
    ขอ เอาไป เผยแฟร่ นะคะ

    ดีมาก ๆ ๆ ค่ะ

    เวบฯ
     
  17. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,802
    ค่าพลัง:
    +18,984
    ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นของละเอียด..ผมลองคิดๆดูธรรมะข้อนี้ ... เลยเอามาโพสต์ลองให้อ่านกัน .. หากไม่ถูกต้องประการใด ก็ขอขมาไว้ก่อน ..แต่ก็ตั้งเจตนาไว้ที่การสนทนาธรรม ตามกำลังปัญญาตัวเองจะพึงรู้ และเข้าใจ(เอาเจตนาผมก็พอนะ ไม่อยากรับกรรม ที่แต่งธรรมะมั่ว ฝึกอภัยทานยังไงเล่า อิอิ)

    *********--- กำลังใจของผู้ให้อภัยทาน ---**********

    .......... กำลังใจเริ่มๆของอภัยทาน ---> เป็นอภัยทานเล็กๆน้อยๆที่เราไม่สนใจมาก แต่เกี่ยวข้องกะเราว่า ตกลงกันไว้ยังงั้น หรือน่าจะเป็นแบบนั้น ตามสักกายทิฏฐิของแต่ละคนที่มีมา......... เช่นว่า เขายืมยางลบเราไปแล้วเอามาคืนโดยไม่ขอบคุณเราเลย ...ในสักกายทิฏฐิของเรา เราย่อมคิดว่า เขาน่าจะขอบใจเราบ้าง ตามธรรมเนียม ...จริงๆ ไม่จำเป็น ในเมื่อเรามีกำลังทานบารมีพอควร ของแค่นี้ไม่ประสาไม่ถือโทษโกรธหรอก จะขอบคุณหรือไม่ขอบคุณก็แล้วแต่นะ ขอให้เธอมีความสุขจากทานของเรา ไม่คิดมาก..

    .......... กำลังใจกลางๆของอภัยทาน ---> เป็นอภัยทานที่ต้องใช้กำลังใจสูงขึ้นอีกหน่อย เป็นระดับสิ่งของหึงหวงใหญ่ๆ ที่ขาดไปก็ไม่ตาย แต่เสียหายพอควร เช่น โดนคนพังรถเราเละ โดนคนถล่มบ้านเรา โดนขโมยเครื่องปริ้นท์ โดนขโมยเงิน โดนหลอกลวงให้เสียทรัพย์ไม่ถึงขั้นรุนแรงมาก ความโกรธของเราจากการมีผู้วาจาไม่ใคร่ครวญดีแล้วถากถางในสิ่งที่เรามักโกรธในสิ่งนั้นๆ...... ความหึงหวงหรือสักกายทิฏฐิในเรื่องเหล่านี้ เป็นเรื่องที่หนักเหมือนกัน... แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะอภัยตลอด ยังงั้นบ้านผมเรียกโง่ จุดพักของอภัยทาน คือ อุเบกขา .... ก็ต้องดูเป็นรายไป ว่าจะปฏิบัติต่อเขายังไงตามความสมควร ตามสมควรที่ว่า คืออย่างน้อยต้องไม่เสียดุลกำลังใจ ........ แต่เมื่อต้องการจะเลื่อนระดับกำลังใจ ............ การอภัยตลอดเวลาในเรื่องเหล่านี้ เป็นการปฏิบัติการละสักกายทิฏฐิที่สูงขึ้นไปอีก แต่ในโลกปัจจุบันทำยาก ต้องมองทางดีๆ มิเช่นนั้นมารมีมากนัก .. ไม่มองทางการปฏิบัติดีๆ บ้านผมก็เรียกโง่อีกที ...

    .............. กำลังใจอย่างสูงของอภัยทาน ---> ข้อนี้ผมขอบอกว่า ผมเดาๆละกัน แต่ก็ประเมินไว้ว่าน่าจะเป็นยังงี้ .. กล่าวคือ เป็นกำลังใจที่ละสักกายทิฏฐิของตัวเองได้เหมือบหมด หรือหมดไปเลย ... เป็นกำลังใจอภัยทานขั้นสูงสุด หากทำสำเร็จจริงๆ .. สักกายทิฏฐิหมด ก็เป็นพระอรหันต์นั่นเอง ......... สักกายทิฏฐิตัวนั้นคือ การรักชีวิต .... หากบุคคลใดสละได้หมดแม้กายตัวเอง ชีวิตตัวเอง บุคคลนั้นเป็นผู้ให้อภัยทานอันสูงสุด ..... อย่างเช่นว่า หากมีคนจะฆ่าเรา เรามีเมตตาว่า ยังไงเราก็ตายอยู่แล้ว นี่เราแก่แล้ว หากเรามีกรรมกับเธอมาแต่ชาติก่อนจริงๆ เธอจะฆ่าเรา เราจักให้ทานซึ่งชีวิตนี้....... อย่างนี้ก็ดีครับ แต่มันไปติดที่ว่า เรามีกรรมกันมาก่อน เลยยอมตาย ยังงี้กำลังใจยังน้อยอีก........ อยากให้ดีก็ต้องทำเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่าเราจะให้อะไรเขาแล้ว เราให้ได้ทุกอย่างจริงๆ(เมีย กับลูก ท่านก็ทำทานมาแล้ว คิดดูสิ ..แต่ท่านตกลงกันมาก่อนนะว่าจะมาทำทานตัวนี้ตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าพระกัสสปะมั๊งหลวงพ่อพระราชพรหมญาณเคยบอกไว้ อย่าไปว่าท่านเห็นแกตัวเด้อ) ... ทำสิครับ ทำแบบนี้แหละ แบบพระเวสสันดร เอาเล๊ยยย ... ฮิ้วววววววว กิ๊บบ กิ้ววววว หวีด วิ้ววววววววว ...


    ******** รวมความก็[ สักกายทิฏฐิ ]ตัวเดียว ........ ซึ่งเป็น subset ของความประมาท

    ******** ดูสิ ธรรมะท่านย่อขนาดไหน... เราต้องมาตีแผ่ความหมายเพื่อพัฒนาส่วนนี้อีกเยอะเด้อ พุทธบริษัท หากคนเข้าใจจุดละเอียดได้มาก ศาสนาก็จะเจริญไปอีกขั้น ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2005
  18. sukhawadee

    sukhawadee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +130
    อิอิ อ้นคิดได้กะเค้าด้วย โมทนาด้วยละกานนนนนะ[b-wai] (bb-flower
     
  19. NaCl

    NaCl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +289
    คนที่สละชีวิตตนช่วยคนอื่น เฃ่น ที่มีข่าวนานมาแล้ว คนช่วยอุ้มเด็กออกจากทางรถที่กำลังวิ่งมา แต่ตนเองหลบไม่พ้น เด็กรอด ตัวตาย เรียกว่าการให้ชีวิตเป็นทานหรือเปล่าครับ คุณคำอ้น

    ถ้าเป็นการให้ทานชีวิตตนเองจริงๆ ก็เป็นกุศลมหาศาลเลยสิครับเนี่ย เท่าที่จำได้ ได้ยินข่าวแบบนี้ 2 ครั้ง

    สงสัยจริง ว่า สองคนที่เห็นในข่าวนี่จะไปอยู่ที่ไหน
     
  20. ไก่น้อยหัวใจเวอร์จิ้น

    ไก่น้อยหัวใจเวอร์จิ้น บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ทานที่ผมขอไป ไม่มีใครให้ ซ้ำยังลบ

    ผมขอแค่ท่อยุ่ของท่าน ฤาษีตาไฟ แต่ไม่มีใครบอกผมเลยทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องมีสาระ จำเป็น ซ้ำยังลบคำถามผมอีกด้วย
     

แชร์หน้านี้

Loading...