ข้อความจากต่างมิติ - ระบบบันทึกแห่งฟ้า (The Akashic System) โดยครายออน

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านเอาเองนะครับ

และโปรดเข้าใจว่า นี่คือข้อความที่ผมแปลมาจากต้นฉบับภาษาอังกฤษอีกทีหนึ่ง
แล้วเห็นว่าน่าสนใจ เลยนำมาโพสต์เพื่อแบ่งปันให้ท่านที่สนใจได้อ่านด้วย
เท่านั้นนะครับ

ส่วนจะเชื่อ - ไม่เชื่อ ได้ หรือ เสีย ประโยชน์ หรือไม่ อย่างไร
ก็อยู่ที่ตัวท่านเองแล้วนะครับ

ปล. เนื้อหาของกระทู้นี้จะเกี่ยวข้อง และ/หรือ ต่อเนื่องกับกระทู้เหล่านี้นะครับ

ข้อความจากต่างมิติ-การท่องกาลเวลา-การเปลี่ยนแปลงแก้ไขอดีต-และธรรมชาติของกาลเวลา
http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ยนแปลงแก้ไขอดีต-และธรรมชาติของกาลเวลา.266549/

ข้อความจากต่างมิติ-การเปลี่ยนแปลงข้อมูลข่าวสารใน-dna-ผี-คือข้อมูลข่าวสารข้ามมิติ
http://palungjit.org/threads/ข้อควา...สารใน-dna-ผี-คือข้อมูลข่าวสารข้ามมิติ.282821/

ข้อความจากต่างมิติ-การออกแบบมนุษย์-ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน
http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ษย์-ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน.282051/

"ข้อความจากต่างมิติ-โครงข่ายพลังงานคริสตัลไลน์-144-ของโลก-และกระบวนการ-ascension"
http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ลน์-144-ของโลก-และกระบวนการ-ascension.364187/

ข้อความจากต่างมิติ-ประวัติมนุษยชาติ-ข้อความสื่อสารจาก-ครายออน-kryon
http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ยชาติ-ข้อความสื่อสารจาก-ครายออน-kryon.276395/
.......................................

 

ข้อความจากต่างมิติ – The Akashic System (ระบบบันทึกแห่งฟ้า) - โดย ครายออน

สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
วันที่ทำการสื่อสาร: 11 กันยายน 2010
สถานที่: Syracuse New York
ที่มา:

The Akashic System > Kryon


สวัสดีผู้อันเป็นที่รักทั้งหลาย เราคือครายออนแห่งหน่วยบริการแม่เหล็ก

แต่ก่อนคุรุทั้งหลายมีคำกล่าวอยู่คำหนึ่งว่า “มันสถิตย์อยู่กับเรา มันสถิตย์อยู่ในจิตวิญญาณของเรา”
พวกเขามักจะพูดแบบนี้แม้แต่ในเวลาก่อนที่พวกเขาจะตาย แม้แต่ในเวลาแห่งความท้อแท้สิ้นหวัง
และแม้แต่ในเวลาแห่งความทุกข์ยากของพวกเขา นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขาจดจ่ออยู่แต่กับสิ่งๆเดียว
และกับโลกแห่งความเป็นจริงเพียงโลกเดียว ซึ่งก็คือความรักของพระผู้เป็นเจ้า
ที่สถิตย์อยู่ในตัวพวกเขา และที่เป็นผู้สร้างความรักของพวกเขาเอง

พวกเราเคยพูดถึงเรื่องนี้ไปแล้ว พวกเราเคยสื่อสารเรื่องนี้มาก่อนหน้านี้หลายครั้งแล้ว
พวกเราเคยแม้แต่บอกพวกคุณว่า มันคือความลับแห่งการเป็นนายเหนือตัวเองด้วยซ้ำไป

เพราะฉะนั้น จงอยู่ในที่ๆพวกคุณพึงพอใจ ที่อยู่ภายในตัวของพวกคุณเอง ซึ่งก็คือพระเจ้า
แล้วปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณ เป็นไปตามวิถีทางของมันเองอย่างช้าๆ
เพื่อเรียนรู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับชีวิตของพวกคุณเองดี และจงอย่าตัดสินอะไรไว้ก่อนล่วงหน้า
ว่าจะต้องไปที่ไหน หรือจะต้องทำอะไร

อีกประเดี๋ยว พวกเราจะบอกเล่าเรื่องราวของความแตกต่างระหว่างพลังงานของอดีตกาลเมื่อนานแสนนานมาแล้ว
ซึ่งเป็นอดีตกาลสัมพัทธ์ กับพลังงานของยุคแห่งการเลื่อนระดับขึ้นนี้ให้ฟัง

พวกเราจะอธิบายว่า “นักรบแห่งแสงสว่าง” (Light worker) มีความพิเศษอย่างไร
และสิ่งต่างๆได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วอย่างไรบ้าง เดี๋ยวเราจะมาพูดถึงเรื่องนี้กัน
(สื่อสารทางโทรจิตในเมือง Buffalo, New York) แต่ว่าไม่ใช่วันนี้


วันนี้เราอยากจะให้พวกคุณรู้ซึ้งถึงความสำคัญของ “ระบบบันทึกแห่งฟ้า” (Akashic System)
ซึ่งก็คือไกอา (โลก – ผู้แปล) และมนุษยชาตินั่นเอง

สิ่งที่เราอยากจะทำก็คือ การอธิบายให้พวกคุณทราบถึงความสำพันธ์ของตัวพวกคุณเองกับระบบๆหนึ่ง
ซึ่งเป็นระบบที่ออกจะสลับซับซ้อน และยากที่จะเข้าใจอยู่สักหน่อย
แต่มันก็เป็นระบบความสัมพันธ์ระหว่างพวกคุณกับโลกใบนี้อย่างแท้จริง

จริงอยู่ ที่เรามักจะสื่อสารข้อมูลที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้แบบนี้ มาถึงพวกคุณอยู่บ่อยๆและเสมอๆ
นั่นก็เพราะว่ามันไม่ใช่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ แต่มันเป็นข้อมูลทางด้านจิตวิญญาณ
และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพวกคุณโดยตรง


มันจะเป็นไปได้หรือ ที่จุดประสงค์ทั้งหมดทั้งมวลของไกอา
ก็คือเพื่อเกื้อกูลมนุษยชาติ?

มันจะเป็นไปได้หรือ ที่มนุษยชาติ ไม่ได้เป็นแค่
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมธรรมดาๆชนิดหนึ่ง
ที่กำลังอาศัยอยู่บนโลกใบหนึ่ง ที่กำลังโคจรไปรอบๆดวงอาทิตย์เท่านั้น?

มันจะเป็นไปได้หรือ ที่ระดับความสั่นสะเทือนของพลังงาน
ที่แผ่ออกมาจากโลกทั้งใบนี้ จะขึ้นอยู่กับมนุษย์
และจะไปส่งผลกระทบต่อจักรวาลทั้งจักรวาลได้จริงๆ?

คำตอบก็คือ ใช่ทั้งหมดเลย

แล้วถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ แล้วระบบที่ว่านั้น มันคือระบบอะไรกันหละ
ที่ทำให้มันเป็นไปแบบนั้นได้?

นั่นแหละคือสิ่งที่พวกเราจะมาสนทนากันในช่วงเวลาสั้นๆนี้

.......................

 

ข้อความจากต่างมิติ – The Akashic System (ระบบบันทึกแห่งฟ้า) - โดย ครายออน


สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
วันที่ทำการสื่อสาร: 11 กันยายน 2010
สถานที่: Syracuse New York
ที่มา:

The Akashic System > Kryon


ตอนที่ 2: พลังงานของดาวเคราะห์โลกและบันทึกแห่งฟ้า
(The Energy of the Planet and the Akash)


พวกเราจะขอพูดถึง “ไกอา” และ “บันทึกแห่งฟ้า” ซะก่อน พวกคุณอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่า

“ไกอาคือพลังงานอย่างหนึ่ง” นั่นก็คือ ไกอาคือพลังงานของดาวเคราะห์โลก
ไกอาคือสิ่งที่มีชีวิตจิตใจ (มีจิตสำนึกและความตระหนักรู้)
ไกอามีภูมิปัญญามาตั้งแต่กำเนิดแล้ว

เพราะฉะนั้น ไกอาจึงมีความตระหนักรู้ที่ชาญฉลาด
ที่สามารถ “รับรู้” ถึงพวกคุณทุกคนได้

ไกอาก็มีความสามารถสนทนา และพูดคุยได้
มากพอๆกับที่ครายออนทำได้นี่แหละ

ซึ่งถ้าพวกคุณเคยได้ยินได้ฟังอะไรทำนองนี้มาก่อนแล้ว
นั่นหละ สิ่งที่พวกคุณได้ยินได้ฟังมานั้นถูกต้องแล้ว

พลังงานของไกอาสามารถพูดได้ในหลายๆรูปแบบ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือด้วยการแสดงออกมาในรูปแบบของ

“บันทึกแห่งฟ้า” (Akash)

ถ้าพวกคุณถามไกอาว่า Akash คืออะไร คุณก็จะได้รับคำตอบว่า
มันคือ “พลังชีวิตของดาวเคราะห์โลก”
มันเกี่ยวข้องกับทุกสิ่งทุกอย่างที่มีชีวิต รวมทั้งสิ่งต่างๆที่พวกคุณไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าพวกมันก็มีชีวิตด้วย

ดังนั้นหลักการณ์ของ Akash ของไกอา จึงกว้างใหญ่ไพศาลและยิ่งใหญ่มาก

แต่ว่าคืนนี้ เราจะขอพูดถึงเฉพาะเรื่องของระบบบันทึกแห่งฟ้าของไกอา ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์
และดาวเคราะห์โลกแต่เพียงอย่างเดียวก่อน

พวกเราจะพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างไกอา กับประสบการณ์ทางด้านจิตวิญญาณของมนุษย์โลก
และกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องอยู่กับมนุษย์โลกอย่างมีนัยสำคัญ
และแม้แต่จุดประสงค์ของดาวเคราะห์โลกเองก็ด้วย

ถ้าพวกเราจะเริ่มต้นและให้คำจำกัดความง่ายๆ พวกเราก็จะพูดว่า
มันมีระบบอยู่ระบบหนึ่ง ที่ทำหน้าที่บันทึกทุกความเป็นไป
ของ “ทุกๆชีวิตที่อยู่บนโลกใบนี้”

ตอนนี้พวกคุณอาจจะไม่คิดว่า จิตวิญญาณไม่จำเป็นต้องมีระบบอะไรทั้งสิ้น และพวกคุณอาจจะคิดถูก

แต่ว่าสำหรับไกอาแล้ว จำเป็นต้องมี และมันก็มีเหตุผลอยู่อย่างหนึ่ง
เพราะว่าจิตวิญญาณของมนุษย์ทุกคน ที่มาอยู่ ณ.ที่ๆเรียกว่าดาวเคราะห์โลกแห่งนี้
มีความแตกต่างกันด้านพลังงานอยู่ ซึ่งเป็นพลังงานที่มีความพิเศษเฉพาะตัวของใครของมัน
และจะไปส่งผลกระทบต่อพลังชีวิตของไกอาได้อย่างแท้จริง

ดังนั้น เมื่อจิตวิญญาณเหล่านั้นลงมาถึงโลก ไกอาก็จะสร้างบันทึกเอาไว้ให้แต่ละจิตวิญญาณ
เป็นของใครของมัน ดังรายละเอียดต่อไปนี้


.....................

 

ข้อความจากต่างมิติ – The Akashic System (ระบบบันทึกแห่งฟ้า) - โดย ครายออน


สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
วันที่ทำการสื่อสาร: 11 กันยายน 2010
สถานที่: Syracuse New York
ที่มา:

The Akashic System > Kryon


ตอนที่ 3: ถ้ำแห่งการสรรสร้าง (The Cave of Creation)


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


เราได้พูดถึงเรื่องนี้กับพวกคุณมาหลายครั้งแล้ว และครั้งนี้ก็คงต้องพูดอีกว่า

ลึกลงไปใต้พื้นโลก มันมีถ้ำหลากมิติอยู่แห่งหนึ่ง
ซึ่งเป็นถ้ำที่ไม่มีวันที่พวกคุณจะหาพบได้
มันมีความเป็นสามมิติอยู่ด้วย ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมโยงมันไว้
กับมิติที่สามของดาวเคราะห์โลก แต่ว่ามันก็มีความเป็นหลากมิติอยู่ด้วย

มันเป็นอะไรที่ยากจะอธิบายให้พวกคุณเข้าใจ เพราะว่าพวกคุณรับรู้ได้แต่สิ่งที่อยู่ในมิติที่สามนี้เท่านั้น

ดังนั้น แม้ว่าเราจะสามารถอธิบายได้ทั้งหมด แต่คำอธิบายของเรา พวกคุณก็จะไม่เข้าใจได้หมดอยู่ดี
มันอาจจะเหมือนกับว่า เราอธิบายให้พวกคุณฟังด้วยภาษาของพวกคุณอยู่
แต่แล้วทันใดนั้น เราก็เปลี่ยนไปใช้ภาษาอื่น ที่พวกคุณไม่เคยได้ยินมาก่อน
ภาษาที่ถ้อยคำมันยุ่งเหยิง เรียงลำดับคำในประโยคสลับหน้าสลับหลัง และเปลี่ยนแปลงไปหมด
เป็นแบบไม่เป็นเส้นตรง ดังนั้น ไม่เพียงแต่พวกคุณจะไม่สามารถเข้าใจข้อความนั้นได้เท่านั้น
แต่ความแปลกประหลาดของมันยังจะทำให้พวกคุณหงุดหงิดอีกด้วย

นี่แหละคือวิธีการที่ความหลากมิติมันปรากฎตัวต่อพวกคุณ มันคือ “ความไร้ระเบียบ” (Chaotic)

แต่อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยที่สุดเราก็จะพยายามให้ข้อมูลแก่พวกคุณอย่างดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้
เพื่อให้พวกคุณรู้ว่า “อะไร” เป็นอะไร หรือไม่ถ้ารู้ว่ามันเป็น “อย่างไร” ได้ก็ยิ่งดี
ถ้ำแห่งการสรรสร้างนี้ เป็นหนึ่งในวัตถุธาตุทางกายภาพที่อยู่บนโลกใบนี้
ที่มีความเชื่อมโยงอยู่แบบหลากมิติ หรืออาจจะพูดได้ว่ามันมีคุณสมบัติของความเป็นสามมิติด้วย
ซึ่งถ้าหากพวกคุณสามารถมองเห็นมันได้ พวกคุณก็จะเห็นมันและเข้าใจมันได้
แต่จริงๆแล้วพวกคุณไม่สามารถมองเห็นมันได้ เพราะว่ามันไม่เคยถูกค้นพบ หรือถูกตรวจพบมาก่อน
และมันก็จะไม่มีวันนั้นด้วย

ภายในสถานที่หลากมิติแห่งนี้ มันเป็นที่ๆมีบันทึกความเป็นไปของพวกคุณทุกคนเก็บซ่อนอยู่
และอีกครั้งหนึ่ง มันชื่อว่า “ถ้ำแห่งการสรรสร้าง” (The Cave of Creation)

เมื่อตอนที่พวกคุณลงมาบนโลกใบนี้ สถานที่นี้คือสถานที่แรกที่พวกคุณจะต้องมา
ก่อนที่พวกคุณจะต้องไปสู่ครรภ์มารดาซะอีก และเมื่อใดที่พวกคุณจะต้องจากโลกนี้ไป
สถานที่นี้ก็คือสถานที่สุดท้ายที่พวกคุณจะต้องมาเช่นเดียวกัน
ก่อนที่พวกคุณจะกลับบ้านเก่าไป

เพราะเหตุนี้ มันจึงเป็นสถานที่ที่เก็บรักษาบันทึกประวัติของมนุษย์ทุกๆคน
และทุกๆชาติภพเอาไว้ ไม่ว่าแก่นแท้ทางจิตวิญญาณของพวกคุณ
จะไปเกิดเป็นใคร-ในภพชาติไหนบ้างก็ตาม

เดี๋ยวเราจะบอกรายละเอียดว่ามันทำงานอย่างไรให้ฟัง มันคือ “บันทึกแห่งฟ้า” (Akashic Record)
จิตวิญญาณแต่ละดวงในถ้ำแห่งการสรรสร้างแห่งนี้ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นของตัวเอง
ตัวอย่างเช่น ของพวกคุณเองเป็นต้น แล้วชื่อทางจิตวิญญาณของพวกคุณหละชื่ออะไร?

ที่รักเอ๋ย มันไม่ใช่ชื่อที่จะเรียกขานออกมาได้หรอกหนา เพราะว่ามันเป็นพลังงาน
และชื่อทางพลังงานเหล่านั้น ก็เป็นส่วนหนึ่งของชื่อของพระเจ้าด้วย
และมันก็ถูกบันทึกเอาไว้ในถ้ำแห่งการสรรสร้างแห่งนี้ ในรูปแบบของรหัสพลังงานแบบหนึ่ง
ซึ่งจะเป็นริ้วหรือแถบสีแสงบันทึกไว้ในคริสตัล

คริสตัลที่ว่านี้พวกคุณอาจจะเรียกมันว่า มันเป็นสิ่งที่ใช้จดจำความสั่นสะเทือน
ของผู้ที่พวกคุณเคยเกิดไปเป็นทั้งหมดก็ว่าได้

ดังนั้น ในครั้งแรกที่พวกคุณลงมายังโลกใบนี้
มันก็จะมีคริสตัลที่รอคอยพวกคุณอยู่แล้ว 1 อัน
(เพราะว่ามันรู้ได้จากพลังงานแห่งความเป็นไปได้
ที่พวกคุณจะมาถึงก่อนแล้ว)

และเมื่อพวกคุณมาอยู่บนโลกแล้ว ไกอาและระบบทั้งหมดก็จะ “รู้” แล้วว่าพวกคุณมาอยู่ที่นี่
และเมื่อพวกคุณตายจากโลกนี้ไป เพื่อกลับไปสุ่ฟากฝั่งโน้นของเครื่องพรางเหมือนเดิม
ก่อนที่พวกคุณจะจากไป พวกคุณก็จะต้องไปแวะที่ถ้ำแห่งนี้อีกครั้งหนึ่งซะก่อน
เพื่อที่จะไปใส่พลังงานของสิ่งที่พวกคุณได้ทำลงไปทั้งหมดตลอดภพชาติที่ผ่านมาของพวกคุณ
ลงไปในคริสตัลอันนั้น จากนั้นพวกคุณจึงจะจากโลกนี้ไป

แต่ว่าคริสตัลอันนั้น ที่มีข้อมูลของพวกคุณบรรจุอยู่นั้น ก็จะยังคงถูกเก็บรักษาไว้ในโลกใบนี้อยู่

มาถึงตรงนี้ เราอยากจะใช้คำพูดว่า เมื่อพวกคุณกลับมาที่โลกใบนี้อีกครั้งหนึ่ง
และพวกคุณก็กำลังจะมีชีวิตใหม่ และมีชื่อๆใหม่บนโลกใบนี้ ก่อนที่พวกคุณจะเข้าไปสู่ครรภ์มารดา
ริ้วหรือแถบสีแสงอีกแถบหนึ่งก็จะเกิดขึ้นบนคริสตัลอันนั้น เพราะจงอย่าลืมว่า
จิตวิญญาณของพวกคุณ ยังเป็นจิตวิญญาณดวงเดิมอยู่ เพียงแต่การมาเกิดใหม่ของพวกคุณในรอบนี้
พวกคุณใช้แถบสีแสงหมายเลขสองเท่านั้น

และเพราะว่าคริสตัลนี้มันอยู่บนโลก ถ้ำแห่งการสรรสร้างจึงรู้ว่าพวกคุณจะกลับมาแล้ว
มันก็จะกระตุ้น หรือ ปลุกให้แถบสีแสงตื่นเพิ่มขึ้นทุกๆครั้งที่พวกคุณกลับมา

ดังนั้นจิตวิญญาณของพวกคุณแต่ละคนจึงมีคริสตัลอยู่คนละ 1 อัน ไม่ใช่ภพชาติละ 1 อันนะ
ซึ่งจิตวิญญาณบางดวง ก็จะมีแถบสีแสงปรากฎอยู่บนคริสตัลนับพันๆแถบเลยทีเดียว

ดังนั้น ตอนนี้พวกคุณอาจจะพอเข้าใจแล้วว่า จำนวนคริสตัลที่มีอยู่ทั้งหมด
มีน้อยกว่าที่พวกคุณคิดเอาไว้มากมายนัก เพราะว่ามันมีแค่ 1 อันต่อ 1 จิตวิญญาณนั่นเอง
ไม่ใช่ 1 อันต่อหนึ่งภพชาติ

ตอนนี้เราอยากจะบอกอะไรบางอย่างกับพวกคุณว่า พวกคุณบางคนที่กำลังอยู่ในห้องนี้
หรือที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่ ก็เป็นจิตวิญญาณเก่าแก่ก็มีนะ นั่นแหละคือสิ่งที่พวกคุณเป็นหละ
แม้ว่าจะมีบ้าง 1 หรือ 2 คนในนี้ที่มาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อร่วมในโปรแกรมนี้โดยตรง แต่มากับคนอื่นเฉยๆก็ตาม
พวกเขาก็เป็นจิตวิญญาณเก่าแก่ด้วย การเป็นจิตวิญญาณเก่าแก่ไม่ได้หมายความว่า
พวกคุณจะต้องรู้เรื่องราวด้านจิตวิญญาณแต่อย่างใดเลย เพราะว่าก็มีหลายคน
ที่เคยเวียนว่ายตายเกิดอยู่บนโลกใบนี้มาหลายภพชาติแล้ว แต่พวกเขากลับไม่เคยตื่นขึ้นมาตระหนักรู้
ถึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเลยก็มี แต่มันก็เป็นทางเลือกอิสระของพวกเขาหนะนะ

แต่ความเป็นจริงก็คือ มนุษย์คนไหนที่มักจะไปเข้าร่วมการประชุมแบบนี้บ่อยๆ
(การประชุมเพื่อรับฟังการสื่อสารจากครายออน – ผู้แปล) คือผู้ที่รู้สึกได้ถึงเสียงร้องเรียกจากภายในของตนเอง
ให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการยกระดับขึ้นของดาวเคราะห์โลกใบนี้
ในช่วงเวลาแห่งการสิ้นสุดยุคเก่าและเริ่มต้นยุคใหม่แบบนี้ ผู้คนเหล่านี้ก็คือผู้ที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่นี่แหละ

......................

 

ข้อความจากต่างมิติ – The Akashic System (ระบบบันทึกแห่งฟ้า) - โดย ครายออน


สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
วันที่ทำการสื่อสาร: 11 กันยายน 2010
สถานที่: Syracuse New York
ที่มา:

The Akashic System > Kryon


ตอนที่ 4: หน้าที่ลึกลับของถ้ำแห่งการสรรสร้าง


สรุปว่าถ้ำแห่งการสรรสร้างนี้ ก็คือที่เก็บบันทึกประวัติ
ของผู้ที่กำลังอยู่บนโลกนี้ และที่เคยอยู่บนโลกใบนี้ทุกๆคน

ซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับมิติทางกายภาพเท่านั้นนะ แต่สิ่งที่เราจะบอกพวกคุณต่อไปนี้ก็คือ
ส่วนที่เป็นหลากมิติของมันหละ ซึ่งส่วนนี้แหละที่มนุษย์กำลังงงกันอยู่

ฟังให้ดีนะ ถ้ำแห่งนั้นมันจะเหมือนอยู่นิ่งๆในมิติที่ 3 แต่ว่าในมิติอื่นๆของความหลากมิติแล้ว
มันจะมีการหมุนเวียนเปลี่ยนผันอยู่ตลอดเวลา จะพูดอย่างนี้ก็ได้ว่า ในมิติที่ 3 แล้ว
จะไม่มีการนำคริสตัลอันไหนออกไป หรือเพิ่มเข้ามาใหม่เลย นั่นหมายความว่า
มันมีคริสตัลสำหรับ “ผู้ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะมาเป็นมนุษย์บนโลกนี้” อยู่ทุกๆคน

มาถึงตรงนี้พวกคุณอาจจะพูดว่า ..

“โอ..ไม่นะ..มันฟังดูไม่สมเหตุสมผลเลย มันฟังดูราวกับว่าเป็นพรหมลิขิตอะไรอย่างงั้นแหละ
จริงหรือที่โลกแห่งจิตวิญญาณจะรู้ว่าใครกำลังจะลงมาเกิดบนโลกใบนี้บ้าง?”

ไม่หรอก พวกเราไม่รู้ทั้งหมดหรอก แต่มันไม่ใช่พรหมลิขิตแน่ๆ แต่มันเป็นเพราะว่า
ถ้ำแห่งนั้น ถูกสร้างมาให้มีคุณสมบัติความเป็นควอนตั้มอยู่ซะมากกว่า
มันจึงสามารถคงความบริบูรณ์อยู่ได้ในทุกๆช่วงขณะ
พลังงานของควอนตั้มจะเกี่ยวข้องอยู่กับ “ความเป็นไปได้” (Potential)
และไม่มีอะไรที่แน่นอนตายตัว เพราะฉะนั้น เมื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบนโลกใบนี้
ถ้ำแห่งการสรรสร้าง ก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยในระดับควอนตั้ม ไม่ใช่ในระดับทางกายภาพนะ
ดังนั้น จำนวนของคริสตัลจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลง

เราไม่สามารถอธิบายให้พวกคุณเข้าใจได้ นอกจากจะบอกว่ามันเป็นปรากฎการณ์ตามธรรมชาติอย่างหนึ่ง
ของควอนตั้มเท่านั้นเอง ดังนั้นถ้ำแห่งนั้นจึงยังคงความบริบูรณ์อยู่เสมอ
มันจึงยังคงมีบันทึกของมนุษย์ทุกๆคนอยู่อย่างครบถ้วนอยู่เสมอ

และมันก็เชื่อมต่ออยู่กับทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตอีกด้วย

สิ่งที่ทำให้พวกคุณงงกันจริงๆก็คือ ประเด็นที่ว่า มันหมายความว่า

“พวกคุณกำลังมีปฏิสัมพันธ์อยู่กับผู้ที่ยังไม่ได้มาที่นี่อยู่จริงๆ”

และอีกครั้งหนึ่ง ที่เราจะบอกว่า เราไม่สามารถอธิบายให้พวกคุณเข้าใจได้มากกว่านี้ได้
เพราะว่าจิตใจที่อยู่ในมิติที่ 3 ของพวกคุณไม่พร้อมที่จะเข้าใจมันด้วย แต่จงรู้ไว้ว่า..

- ถ้ำแห่งนั้นมีความบริบูรณ์,
- มันมีความศักดิ์สิทธิ์,
- มันถูกปกปิดไว้ตลอดกาล,
- คริสตัลประจำจิตวิญญาณของพวกคุณ สามารถจดจำพวกคุณและพลังงานของพวกคุณได้ทุกๆภพชาติ
(ไม่ว่าพวกคุณจะไปเกิดเป็นใคร แบบไหน ชื่ออะไรก็ตามแต่ – ผู้แปล),

- ทุกๆภพชาติที่พวกคุณมาเกิด จะส่งผลกระทบต่อพลังงานของถ้ำแห่งนั้น
ซึ่งก็หมายความว่าจะไปส่งผลกระทบต่อพลังงานของไกอาด้วยนั่นเอง,

-ไกอาอยู่ที่นั่นแหละ เพราะว่าถ้ำแห่งนั้นดำรงอยู่แบบหลากมิติในไกอานั่นเอง

ดังนั้น โดยสรุปแล้ว ถ้ำแห่งนี้ก็คือที่ๆเก็บรักษาบันทึกประวัติของทุกๆจิตวิญญาณนั่นเอง
ไม่ว่าจิตวิญญาณเหล่านั้นจะไปเกิดกี่ภพชาติ และสร้างพลังงานอะไร แบบไหน ขึ้นมาบ้างก็ตาม
ก็จะถูกเก็บบันทึกเอาไว้ทั้งหมด


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


มาถึงตรงนี้ ฟังให้ดีนะ เพราะว่าตรงนี้คือหัวใจสำคัญของข้อความนี้
ไม่ว่าพวกคุณจะทำอะไรลงไปบนโลกใบนี้ก็ตาม
ไม่ว่าพวกคุณจะสร้างพลังงานที่มีความสั่นสะเทือนแบบไหนขึ้นมาก็ตาม
มันก็จะถูกดูดซับ และเก็บรักษาเอาไว้
ในคริสตัลประจำจิตวิญญาณของพวกคุณเสมอ
บันทึกแห่งพลังงานชีวิตของพวกคุณ พร้อมทั้งความสั่นสะเทือนของมัน
ก็จะยังอยู่บนโลกใบนี้ ในคริสตัลอันนั้น เสมอและตลอดกาล

.....................

 

ขอบคุณครับ คุณชยุต ^^

 

ข้อความจากต่างมิติ – The Akashic System (ระบบบันทึกแห่งฟ้า) - โดย ครายออน


สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
วันที่ทำการสื่อสาร: 11 กันยายน 2010
สถานที่: Syracuse New York
ที่มา:

The Akashic System > Kryon


ตอนที่ 5: แมรี่ และ จอร์จ


สมมุติว่าคืนนี้คุณคือ “แมรี่” เราก็จะบอกคุณว่า แมรี่หลังจากที่คุณตายไปแล้ว
ถ้ำแห่งการสรรสร้างนั่นแหละ คือที่ๆคุณจะต้องไปเป็นอันดับแรก มันใช้เวลาเดินทางราว 3 วัน ถ้าคิดตามเวลาของโลก

แมรี่ จิตวิญญาณเก่าแก่เอ๋ย คุณเคยไปที่นั่นมาก่อนแล้ว โอ..แมรี่ คุณเคยไปที่นั่นมาก่อนแล้ว
และเพราะเหตุนี้ คุณจึงไปที่นั่นด้วยความเบิกบาน คุณจำได้ไหม?

คุณรู้ว่าคุณกำลังจะไปที่ไหน และคุณก็รู้ว่ามันหมายถึงอะไรด้วย คุณกำลังจะได้กลับบ้านยังไงหละ

ความตายไม่มีอะไรต้องเจ็บปวดหรอกนะ แม้ว่ามันอาจจะมีความสับสนชั่วคราว
ที่เกิดจากการกลับไปเชื่อมต่อกับความเป็นหลากมิติใหม่อีกครั้งหนึ่งอยู่ก็ตาม
คุณจำความรู้สึกที่เบิกบานนั้นได้ใช่ไหม?

นี่คือคำมั่นสัญญาสำหรับคุณนะแมรี่ ว่าพวกเราทั้งหมดจะจับมือของคุณไว้และคุณก็รู้สึกถึงมันได้ใช่ไหม?

ความตายของมนุษย์คือการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ไม่ใช่การสิ้นสุดแต่อย่างใด
เพราะว่ามันไม่มีหรอกนะจุดสิ้นสุดหนะ มันมีแต่การเดินทางไปสู่พลังงานอีกแบบหนึ่ง
ที่คุณจะจดจำช่วงขณะแห่งลมหายใจสุดท้ายของตัวเองได้เท่านั้นเอง


สมมุติว่าแมรี่คือผู้บำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บคนหนึ่ง
สมมุติว่าแมรี่ได้ช่วยเพิ่มระดับความสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลกขึ้นด้วยการทำหน้าที่ของเธอมาแล้ว
สมมุติว่าดาวเคราะห์โลกจดจำทุกย่างก้าวของเธอได้ เพราะว่าไกอารู้ว่าแมรี่เป็นใคร
สมมุติว่าแมรี่สามารถเชื่อมต่อกับตัวตนที่สูงส่งกว่า (Higher Self) ของตัวเธอเองได้ด้วย
และเพราะเหตุนี้ แมรี่จึงได้สร้าง “ประตูเชื่อมมิติขนาดจิ๋ว” (mini-portal) เอาไว้ในทุกๆที่ที่เธอไป
และตอนนี้สมมุติว่าเธอได้ตายจากไปแล้ว
ผู้คนก็จะมารวมตัวกัน ด้วยความโศกเศร้า พวกเขาก็จะโศกเศร้าเสียใจที่ได้เห็นเธอจากไป
เพราะว่าเธอเป็นคนดีมาก เธอเป็นแม่ที่ดีมาก และเป็นมนุษย์ที่น่ารักมากๆ
พวกเขาก็จะร้องไห้และหลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจ

เอาหละตอนนี้ ก็จะเป็นเรื่องของ “ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในระดับปรจิตวิทยา” หละนะ

นั่นก็คือ แมรี่ก็จะไปที่ถ้ำแห่งการสรรสร้างแห่งนั้น จากนั้นทุกๆสิ่งที่เธอเคยเป็น
และประตูเชื่อมมิติที่เธอเคยสร้างไว้เมื่อตอนที่ยังเป็นมนุษย์ ก็จะถูกดูดซับ
และบันทึกเอาไว้ในคริสตัลประจำจิตวิญญาณของตัวเธอเอง และประตูเชื่อมมิติดังกล่าวนั้น
ก็จะยังคงอยู่ เพราะว่าแมรี่เคยอยู่ที่โลกใบนี้!

ความเป็นคนดีของเธอ ความเป็นแม่ที่ดีของเธอ และความเป็นมนุษย์ผู้น่ารักของเธอก็จะไม่สูญหายไปไหนเลย!
เพราะว่ามันจะถูกดูดซับและเก็บบันทึกเอาไว้ในตัวไกอาเอง ผ่านทางกระบวนการ
ของถ้ำแห่งการสรรสร้างแห่งนั้น และพลังงานแห่งความทรงจำเหล่านั้นก็จะไม่มีวันสูญหายไปไหนเลย
มันจะไม่มีวันจากไปไหนเลย!

และนับจากนี้ไป มันจะกลายไปเป็นส่วนหนึ่งของพลังชีวิตแห่งจิตสำนึกของดาวเคราะห์โลกใบนี้

จากนั้น แมรี่ก็กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง แต่คราวนี้เป็น “จอร์จ”

[ผู้ฟังหัวเราะ]

อย่าหัวเราะเยาะไปเชียวนา เพราะว่านี่คือกระบวนการที่มันเกิดขึ้นจริงๆ
และนี่คือความงดงามของระบบของมัน พร้อมที่จะไปต่อกันหรือยัง?

คราวนี้จอร์จก็มา เขาก็จะรับเอาบันทึกทั้งหมดของแมรี่ไว้โดยอัตโนมัติ!
จากนั้นทั้งจอร์จและแมรี่ก็จะไปสู่การสอนเรื่องบันทึกแห่งฟ้าตอนใหม่ ซึ่งเป็นตอนที่ 2 ในจำนวนทั้งหมด 4 ตอน
ที่พวกเรากำลังจะสอนกันในวันนี้

มาต่อกันเรื่องระบบดีกว่า

.................

 

ข้อความจากต่างมิติ – The Akashic System (ระบบบันทึกแห่งฟ้า) - โดย ครายออน


สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
วันที่ทำการสื่อสาร: 11 กันยายน 2010
สถานที่: Syracuse New York
ที่มา:

The Akashic System > Kryon


ตอนที่ 6: ระบบบันทึกแห่งฟ้าที่อยู่ใน DNA ของพวกคุณ


ทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกบันทึกไว้ในคริสตัลประจำจิตวิญญาณของพวกคุณ
ที่อยู่ในถ้ำแห่งการสรรสร้างแห่งนั้น จะถูกถ่ายทอดมาสู่ DNA ของพวกคุณ
ตั้งแต่ตอนที่พวกคุณเกิดแล้ว


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน้ต)


พวกคุณถ่ายทอดมันมาจากถ้ำแห่งการสรรสร้างแห่งนั้น
นั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมพวกคุณจึงไปที่นั่นกัน

มันกลายไปเป็น “บันทึกแห่งฟ้า” (Akashic record) ประจำตัวของพวกคุณ
และเป็นบันทึกแห่งฟ้าสำหรับทุกๆภพชาติของพวกคุณด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกคุณเคยทำไว้
อยู่ใน DNA ของพวกคุณหมดแล้ว

และอย่างที่พวกเราเคยพูดไปก่อนหน้านี้แล้วว่า บันทึกแห่งฟ้านี้ มีอยู่ในทุกๆเกลียวคู่ของ DNA ของพวกคุณ
ในรูปแบบของข้อมูลหลากมิติ และมันก็ถูกแสดงออกมาในรูปของหน่วยทางเคมีนับพันล้านหน่วย
ที่อยู่ในส่วนที่เป็น 90% ของ DNA ของพวกคุณ ที่นักวิทยาศาสตร์ของพวกคุณเรียกกันว่า “DNA ขยะ” (Junk DNA)

เพราะว่าวิทยาศาสตร์ของพวกคุณมองดูมันด้วยตาเนื้อที่อยู่ใน 3 มิตินี้เท่านั้น
พวกเขาจึงเห็นแต่เพียงว่ามันค่อนข้างสลับซับซ้อนอย่างมาก และไม่มีระเบียบ หรือไม่มีความสมมาตรแต่อย่างใดเลย

อันที่จริงแล้ว มันคือสิ่งที่เป็นหลากมิติมากที่สุดเท่าที่จะมากได้!
แต่มันก็เป็นระบบที่สวยสดงดงาม ซึ่งพวกเราได้เคยบอกพวกคุณไปแล้วก่อนหน้านี้
แต่บางทีพวกคุณอาจจะยังไม่เข้าใจความหมายของมันอย่างถ่องแท้ หรือเปล่า?


คิดดูนะจอร์จ ตอนนี้คุณมีทั้งจอร์จและแมรี่อยู่ใน DNA ของคุณ แต่อยู่ในร่างของจอร์จเพียงร่างเดียวเท่านั้น
ดังนั้น จอร์จจะทำอะไรกับข้อมูลของชาติภพที่ยังเป็นแมรี่ ที่ถูกบันทึกไว้ใน DNA ของเขาได้บ้าง?

เราจะตอบให้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่แมรี่ได้เรียนรู้มา
จอร์จก็สามารถนำไปใช้ได้ทั้งหมด เพราะอย่าลืมว่า
ทั้งแมรี่ และ จอร์จต่างก็เป็นจิตวิญญาณดวงเดียวกัน
แค่อยู่ในร่างที่ต่างกัน ในช่วงเวลาที่ต่างกัน บนโลกใบเดียวกัน เท่านั้นเอง

ความงดงามของระบบนี้ก็คือ ตัวตนที่สูงส่งกว่าของพวกเขาก็คือตัวตนเดียวกันด้วย
เพราะว่ามันคือพลังงานแก่นแท้ของจิตวิญญาณของพวกเขา

เพราะฉะนั้น จอร์จจึงไม่จำเป็นต้องไปเรียนรู้
สิ่งที่แมรี่เคยเรียนรู้มาแล้วใหม่แต่อย่างใดเลย!
เพราะว่ามันถูกบันทึกไว้ใน DNA ของเขาเองเรียบร้อยแล้ว

ความเป็นแม่ผู้มีเมตตาก็อยู่ในนั้นแล้ว พัฒนาการด้านจิตวิญญาณของแมรี่ก็อยู่ในนั้นแล้ว
และอยู่ในระดับที่การเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย ก็ไม่เป็นปัญหาเลย

ความรักของพระเจ้าก็อยู่ในนั้นแล้ว ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาในระหว่างเส้นทางแห่งการท่องเที่ยวของจิตวิญญาณ
ของมนุษย์ในขณะที่อยู่บนดาวเคราะห์โลกใบนี้

ฟังให้ดีนะ การที่พวกคุณมาเกิดในภพชาตินี้ และกำลังนั่งฟังหรือนั่งอ่านข้อความนี้อยู่
และกำลังเรียนรู้เรื่องราวของจิตวิญญาณอยู่ในวันนี้ พวกคุณอาจจะคิดว่ามันช่างเป็นการเรียนรู้ชั้นสูงเหลือเกิน
และยังมีอะไรที่จะต้องเรียนรู้อีกมากมายเหลือเกิน อย่างนั้นใช่ไหมหละ?

บางทีพวกคุณอาจจะคิดว่า ความรู้ทั้งหมดนี้มันเป็นของใหม่สำหรับพวกคุณ
และพวกคุณก็อาจจะรู้สึกว่ากำลังถูกโหมกระหน่ำด้วยข้อมูลข่าวสารพวกนี้อยู่
และก็เลยเกิดความรู้สึกไปต่างๆนาๆตามไปด้วย ใช่ไหมหละ?

เราอยากจะบอกพวกคุณว่า จิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลายเอ๋ย นั่นเป็นเพราะว่า
พวกคุณกำลังปลุกเร้าสิ่งที่พวกคุณเคยรู้มาแล้ว ให้ตื่นขึ้นมาเท่านั้นเอง
และถ้าคุณตั้งใจจริงๆหละก็ จิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลายเอ๋ย พวกคุณก็จะจดจำมันได้!

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณก็เป็นจิตวิญญาณเก่าแก่ดวงหนึ่ง ที่กำลังอยู่บนโลกใบนี้?

เพราะนั่นหมายความว่าตอนนี้ คุณเองก็มีภูมิปัญญาของบรรพบุรุษอยู่ใน DNA ของคุณแล้ว
มันหมายความว่าทุกๆหน้าของหนังสือครายออน ที่คุณกำลังอ่านอยู่นี้ คุณสามารถจะพูดได้ว่า

“ฉันจำได้แล้ว ใช่จริงๆด้วย มันไม่มีเนื้อหาอะไรใหม่ในนี้เลย
แต่ก็ดีเหมือนกันนะที่ได้เห็นมันอยู่ในรูปแบบของงานประพันธ์”

[ครายออนยิ้ม]


ตอนนี้ เรามาดูกันที่สองส่วนแรกของบันทึกแห่งฟ้าของมนุษยชาติกันดีกว่า

ส่วนที่ 1: คือถ้ำแห่งการสรรสร้าง คือส่วนที่ทำหน้าที่เก็บรักษาบันทึกประวัติชีวิตของผู้ที่มาและไปแล้ว
แต่พลังงานของพวกเขาก็จะยังคงถูกเก็บรักษาไว้กับโลกอยู่
และช่วยให้ความสั่นสะเทือนของโลกเปลี่ยนแปลงไปด้วย

ดังนั้น ทุกๆภพชาติของมนุษย์ทุกๆคน จึงมีผลทำให้ความสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลกเปลี่ยนแปลงไปได้

ส่วนที่ 2: คือ DNA ของมนุษย์ทุกคน ที่บรรจุบันทึกแห่งชีวิต ในทุกๆภพชาติ
ของจิตวิญญาณดวงนั้นๆเอาไว้อยู่ และจะช่วยให้ภพชาติใหม่ (ในร่างของมนุษย์ที่อยู่บนโลกใบนี้) ของคนผู้นั้น
มีความตระหนักรู้มากขึ้น ถ้าหากว่านั่นเป็นสิ่งที่เขาเลือก


มาดูที่ส่วนแรกของบทเรียนนี้กันก่อน มันคือส่วนที่เกี่ยวข้องกับไกอาโดยตรง
เพราะว่าถ้ำแห่งนั้นอยู่ในไกอา มันอยู่ลึกลงไปในโลก และมันก็มีคริสตัลจำนวนมากมายอยู่ในนั้น
และโลกใบนี้ก็รู้จักพวกคุณทุกๆคน โลกใบนี้รักพวกคุณทุกๆคน

ซึ่งพวกคุณคนใดที่ทำงานเกี่ยวข้องอยู่กับดาวเคราะห์โลก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ เป็นธรรมชาติ เป็นสัตว์
หรือแม้แต่การศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับหินและพื้นดินก็ตาม ก็จะสามารถรู้สึกถึงความรักของดาวเคราะห์โลก
ที่มีต่อพวกคุณได้ และหากพวกคุณไปเดินอยู่ในสถานที่บางแห่ง พวกคุณก็อาจจะรู้สึกได้เช่นเดียวกัน

สิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญานี้ หรือไกอานี้ จะพูดกับพวกคุณ มันจะมีกระแสพลังงานที่ไหลมาโอบล้อมพวกคุณไว้
และพูดว่า “ฉันรู้จักเธอ เธออยู่ที่นี่ ดีแล้วที่เธอเดินอยู่บนโลกใบนี้”

โอ..มนุษย์เอ๋ย สิ่งใดก็ตามที่พวกคุณทำอยู่ที่นี่
มันจะไปมีผลกระทบต่อจักรวาลทั้งมวลในท้ายที่สุด
พวกคุณรู้สึกไหม?

มีใครบ้างไหมที่เคยไปเดินอยู่ในป่าคนเดียวแล้วรู้สึกได้ว่าต้นไม้กำลังเป็นเพื่อนร่วมทางไปกับคุณอยู่?

มันเป็นความจริงนะ!

...................

 

เดี๋ยวค่อยมาต่อนะครับ
ตอนนี้ขอตัวไปทำอย่างอื่นก่อนนะครับ

.......................

 

รับทราบค่ะ บังเอิญเข้ามาเห็นอีกแหละ มันจะดึงดูดกันอะไรปานน้านนนน

 

ขอบคุณมากครับผม กำลังรอติดตามอ่านอย่างใจจดใจจ่อเลยครับ

 

ข้อความจากต่างมิติ – The Akashic System (ระบบบันทึกแห่งฟ้า) - โดย ครายออน


สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
วันที่ทำการสื่อสาร: 11 กันยายน 2010
สถานที่: Syracuse New York
ที่มา:

The Akashic System > Kryon


ตอนที่ 7: สัตว์ต่างๆ


เรามักจะพูดถึงสัตว์ที่น่ารักทั้งหลายอยู่เสมอๆ และบอกว่าพวกมันมาอยู่ที่นี่
เพื่อมารับใช้มนุษย์ได้อย่างไร และบอกว่าพวกมันทำหน้าที่ได้อย่างบริบูรณ์มากแค่ไหนด้วย
เราเคยพูดไปก่อนหน้านี้แล้ว ว่าพวกมันบางชนิด ก็มาอยู่ที่นี่เพื่อที่จะถูกกินเป็นอาหารได้อย่างไร

หลายคนอาจจะไม่อยากฟังเรื่องนี้ แต่จงเข้าใจไว้เถิดว่า สัตว์ทั้งหลายเข้าใจเรื่องนี้ดี
พวกมันต้องกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อาหารของมนุษย์

เพราะว่ามนุษย์ไม่มีความสามารถที่จะเพาะปลูกอะไรให้โตได้เร็วพอ และแจกจ่ายอาหารนั้นได้
ดังนั้น พวกคุณเห็นไหม? นี่คือการให้บริการของพวกมัน

สำหรับพวกคุณบางคนที่เป็นมังสวิรัติ ก็อาจจะบอกว่า “ฉันไม่เคยกินพวกเขาเลย”
นั่นก็เป็นเหตุผลทางด้านสุขภาพอย่างหนึ่งที่พวกคุณเลือก และมันก็ถูกต้องเหมาะสมดีแล้ว
แต่มันไม่ใช่ธรรมชาติของการดำรงชีวิตอยู่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างพวกคุณ
เพราะว่ายังไงเสียในช่วงเวลานี้ การเจริญเติบโตทางด้านร่างกายของมนุษย์ และการอยู่รอดของมนุษย์
ก็ยังจำเป็นต้องอาศัยเนื้อสัตว์อยู่ดี

ดังนั้น เราจะออกนอกประเด็นสักประเดี๋ยว เพื่อให้ข้อมูลที่มีประโยชน์
เกี่ยวกับการรับประทานเนื้อสัตว์ของมนุษย์แก่พวกคุณ

มนุษย์จำนวนมากจำเป็นต้องรับประทานพวกมัน แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า
พวกสัตว์ทั้งหลาย รู้มาก่อนที่มันจะเกิดแล้วว่ามันจะต้องมาถูกกินเป็นอาหาร
เรื่องนี้น่ากลัวเกินไปสำหรับพวกคุณหรือเปล่า?

แต่เรื่องนี้ก็เป็นที่ทราบกันดีในวงการของผู้ที่รู้เรื่องจิตวิญญาณของสัตว์ดี
และสามารถมองเห็นความเสียสละของพวกมันได้ และมองเห็นความถูกต้องเหมาะสมของสิ่งนี้ได้
และเรื่องนี้ก็เป็นที่รู้กันดีของคนโบราณอีกด้วย

แต่มันก็ยังมีคำถามอยู่ว่า มนุษย์ที่รักทั้งหลาย พวกคุณปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไร?
ด้วยวัตถุประสงค์แบบนั้นบนโลกใบนี้ของพวกเขา พวกคุณปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไร
ก่อนที่พวกเขาจะกลายมาเป็นอาหารให้กับพวกคุณ?
แล้วคนโบราณหละปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไร?
มันเป็นคำถามที่ยากใช่ไหมหละ?
เราจะบอกความจริงให้พวกคุณรู้ว่า..

พวกคุณรู้ไหมว่ายิ่งปฏิบัติต่อพวกเขาดีเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งมีคุณค่าทางโภชนาการ
เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของพวกคุณมากเท่านั้นด้วย?

“ครายออน อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย พวกเราไม่อยากคิดถึงมัน”

ที่รักทั้งหลายเอ๋ย ถ้าเราไม่พูด แล้วใครจะกล้าพูดหละ? ดังนั้น จงฟังให้ดี

ถ้าสัตว์เหล่านี้ตั้งใจที่จะมา เพื่อที่จะเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของพลังชีวิตของดาวเคราะห์โลกใบนี้
และเพื่อช่วยให้ดาวเคราะห์โลกใบนี้มีระดับความสั่นสะเทือนที่สูงขึ้น โดยการช่วยให้พวกคุณมีชีวิตอยู่
เพื่อให้พวกคุณได้ใช้ทางเลือกอิสระเลือกทำในสิ่งที่อยากทำ
แล้วแบบนี้พวกคุณคิดว่าพวกเขาสมควรจะได้รับการให้เกียรติ และได้รับความสะดวกสบาย
ในช่วงที่พวกเขากำลังเจริญเติบโตขึ้นบ้างไหม?

และผลลัพธ์สุดท้ายของการปฏิบัติต่อพวกเขาเช่นนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพของพวกคุณ
ลองไปถามนักวิทยาศาสตร์ดูก็ได้ หรือให้พวกเขาทำการทดลองเปรียบเทียบดูก็ได้
แล้วจะพบว่าคุณค่าทางโภชนาการของสัตว์ที่ได้รับการปฏิบัติอย่างมีเกียรติ
ในช่วงชีวิตอันน้อยนิดของพวกเขานั้น มีค่าเพิ่มสูงขึ้นมากแค่ไหน คนโบราณรู้เรื่องนี้กันดี
ดังนั้นพวกเขาจึงให้เกียรติสัตว์ทุกชนิดก่อนที่จะพวกมันจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของพลังชีวิตของพวกเขา


มันไม่มีถ้ำแห่งการสรรสร้างสำหรับสัตว์หรอกนะ

เพราะว่าสัตว์เหล่านี้มาที่นี่เพื่อมาค้ำจุนมนุษย์
และสัตว์บางชนิดก็มาที่นี่ “เพื่อมารักพวกคุณ” ซึ่งพวกคุณก็รู้


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

เรากำลังพูดถึงสัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่งในบ้านของพวกคุณ พวกเขามาที่นี่เพื่อมารักพวกคุณ
นี่คือการให้บริการรูปแบบหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขา

ถ้าพวกคุณจ้องมองในตาของพวกเขา พวกเขาก็จะจ้องมองดูคุณกลับมา
พวกเขาจะเห็นจิตวิญญาณเก่าแก่อยู่ในตัวของพวกคุณ พวกคุณเคยรู้เรื่องนี้มาก่อนไหม?

พวกเขารู้จักระบบนี้ด้วยนะ แต่ว่าพวกเขาไม่มามีชีวิตอยู่นานนักหรอก ใช่ไหม?
บางครั้งเมื่อพวกเขาจากไป ก็มีคนหัวใจแตกสลายด้วยนะ แต่ข่าวดีก็มีนะ
ใช่แล้ว !..พวกเขาก็สามารถกลับมาเกิดใหม่ได้เหมือนกัน!
พวกเขาก็สามารถเลือกที่จะมาสานต่อภารกิจแห่งความรักกับพวกคุณต่อได้ด้วย
เราไม่รู้ว่ามีพวกคุณซักกี่คนในห้องนี้ที่ตระหนักรู้ถึงระบบนั้น
และเราอยากจะให้ผู้ร่วมงานของเราทำให้เรื่องนี้ชัดเจนขึ้นกว่านี้ก่อน เพื่อให้ผู้ที่รักสัตว์ทั้งหลายรู้เรื่องนี้ด้วย

เมื่อสัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รักของพวกเขาตายจากไป พวกเขาก็สามารถเลือก
ที่จะสานต่อภารกิจแห่งความรักกับพวกมันได้อีก ถ้าพวกเขาอยากจะทำเช่นนั้น
โดยการมองหาสถานที่ๆเหมาะสม แล้วค้นหาจิตวิญญาณที่กำลังจะกลับมาใหม่
หยิบมันขึ้นมาแล้วดำเนินการต่อไป ไม่ว่าจะได้อะไรมาก็ตาม


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

มีคนบางคนในห้องนี้ และบางคนที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่ ที่อยากจะฟังเรื่องนี้
มันมีระบบสำหรับการกลับมาเกิดใหม่ของจิตวิญญาณแก่นแท้ของพวกสัตว์ทั้งหลาย

ดังนั้น วิธีการหนึ่งก็คือ สัตว์ทั้งหลาย ซึ่งพวกเขาก็มีจิตวิญญาณด้วยเช่นกัน
แต่ไม่ได้อยู่ในถ้ำแห่งการสรรสร้าง พวกเขาไม่มีระบบที่ลึกซึ้งที่จะไปเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้เหมือนกับพวกคุณ

ระบบที่ว่านั้นก็คือ “จิตสำนึก” ที่สามารถจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
ด้วยทางเลือกอิสระของพวกคุณเอง

มนุษยชาติ คือสิ่งมีชีวิตเพียงชนิดเดียวบนโลกที่สามารถทำได้
เพราะว่ามนุษย์โลกมี DNA ที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ มันถูกปลูกฝังไว้ในนั้น
ด้วยความเหมาะเจาะพอดี และด้วยความรัก เมื่อประมาณ 100,000 ปีที่แล้ว
โดยผู้ที่มาจากระบบดวงดาวอื่น

พวกเราเคยบอกพวกคุณเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ไปแล้ว ด้วยความเหมาะสมลงตัวทั้งมวล
มนุษย์บนโลกใบนี้จึงได้รับเมล็ดพันธุ์ทางด้านจิตวิญญาณของชาวกลุ่มดาวลูกไก่ไป
อย่างสวยสดงดงาม อย่างเหมาะเจาะพอดี อย่างศักดิ์สิทธิ์ และอย่างสมบูรณ์แบบ

พวกเขาไม่มีสงคราม ไม่มีการสมรู้ร่วมคิด และจิตวิญญาณที่มาจากดวงดาวที่สวยงามเหล่านี้ ก็ยังคงอยู่ที่นี่
พวกเขาคือพี่น้องของพวกคุณ และส่วนหนึ่งของพวกเขาก็อยู่ในตัวพวกคุณนี่แหละ

พวกคุณอยู่ในสภาวะทางควอนตั้มเดียวกับพวกเขา แต่เราไม่สามารถที่จะอธิบายเรื่องนี้ได้มากกว่านี้แล้ว
แต่พวกคุณบางคนอาจจะสามารถรู้สึกถึงมันได้ พวกคุณบางคนอาจจะสามารถมองเห็นมันได้
มันช่างสวยงามเหลือเกิน และมันก็ไม่ใช่อะไรที่ไม่เหมาะสม หรือแปลกประหลาด หรือน่ากลัวแต่อย่างใด
แต่มันคือเรื่องราวของการสร้างสรรค์อย่างแท้จริง บนโลกใบนี้

และพวกคุณก็สามรถจะค้นพบมันได้ในบันทึกของชนพื้นเมืองทั้งหลายทั่วโลกอีกด้วย
ดังจะเห็นได้จากเรื่องราวของ “เจ็ดพี่น้อง” (The Seven Sisters) และเรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างโลกเป็นต้น


ใน DNA ของพวกคุณ จะมีการเพิ่มขึ้นของข้อมูลข่าวสาร
เกี่ยวกับทุกๆสิ่งที่พวกคุณเคยเป็นมาอยู่ตลอดเวลา
จิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลายเอ๋ย พวกเราได้เคยบอกพวกคุณไปหลายครั้งแล้วว่า
พวกคุณจะสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างไร

และการเข้าถึงนี้ก็ไม่ใช่แค่การเข้าถึงข้อมูลด้านจิตวิญญาณเท่านั้นนะ
แต่ยังหมายรวมถึงการเข้าถึงคุณสมบัติต่างๆของความเป็นมนุษย์
ที่พวกคุณเคยเกิดไปเป็นมาในอดีตชาติทั้งหมดด้วย

เพราะว่าแก่นแท้ของพลังงานของ “ผู้ที่คุณเคยเป็น” มันถูกเก็บบันทึกเอาไว้ใน DNA ของพวกคุณนั่นเอง

เพราะฉะนั้น ข้อมูลของบันทึกแห่งฟ้านี้ จึงมีความสามารถที่จะสื่อสารกับแบบพิมพิ์เขียวของสเต็มเซล (stem cell)
ของพวกคุณได้ เพราะอย่าลืมว่า มันอยู่ภายในโครงสร้างเกลียวคู่เดียวกัน
ที่บรรจุส่วนที่เป็นรหัสโปรตีนอยู่ หรือก็คือมันอยู่ในยีนเดียวกันนั่นเอง
พวกคุณเข้าใจไหม? เพราะฉะนั้น DNA ของพวกคุณจึงเป็นระบบที่ยิ่งใหญ่
ใหญ่กว่าที่หน่วยงานทางการแพทย์ใดๆของพวกคุณจะเชื่อว่ามันใหญ่ มากมายนัก

เพราะมันเป็นระบบหลากมิติ ที่มีความสามารถ
ในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ตลอดเวลา
ซึ่งนี่แหละคือสาเหตุที่ว่าทำไมร่างกายของพวกคุณ
จึงสามารถบำบัดรักษาตัวเองได้

การบำบัดรักษาด้วยตัวเองของร่างกายมนุษย์
มันคือการที่มนุษย์คนนั้นตัดสินใจว่า
เขาพอแล้วกับการเจ็บไข้ได้ป่วยอันนั้น
แล้วเขาก็ไปดึงเอาพลังงานจากอดีตชาติ
ในช่วงที่ไม่เป็นโรคอะไรเลยเข้ามาใส่ไว้แทน

มีมนุษย์โลกมากมายที่สามารถหายป่วยจากโรคร้ายแรงที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปของมนุษย์
(เช่น โรคมะเร็ง – ผู้แปล) ได้ด้วยตัวเอง แบบชนิดที่ว่าหายขาดจากโรคนั้นๆโดยเด็ดขาด
และไม่มีร่องรอยของโรคนั้นๆเหลืออยู่เลยอย่างปุบปับ

นี่แหละคือการบำบัดรักษาตัวเองหละ โรคร้ายนั้นๆมันหายไปเองเฉยๆอย่างไร้ร่องรอยอย่างนั้นแหละ
เราจะบอกพวกคุณว่า ที่รักทั้งหลาย มันไม่ใช่ปาฏิหาริย์จากเบื้องบนแต่ประการใดเลย
แต่มันเป็นปาฏิหาริย์จากภายในของพวกคุณเองต่างหากหละ


(ปล. อ่านตัวอย่างของกรณีที่กล่าวถึงนี้ได้จากกระทู้นี้นะครับ – ผู้แปล)

http://palungjit.org/threads/แอนิต้...วยจากมะเร็งระยะสุดท้ายเพียงแค่ข้ามวัน.265002/

http://palungjit.org/threads/โลกหลั...ณ์ตายแล้วฟื้นของนาย-mellen-t-benedict.264647/
.......................................

 

ข้อความจากต่างมิติ – The Akashic System (ระบบบันทึกแห่งฟ้า) - โดย ครายออน


สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
วันที่ทำการสื่อสาร: 11 กันยายน 2010
สถานที่: Syracuse New York
ที่มา:

The Akashic System > Kryon


ตอนที่ 8: ส่วนที่ 3: โครงข่ายคริสตัลไลน์ (The Crystalline Grid)


ตอนนี้เราจะมาพูดถึงส่วนที่ 3 ของ “ระบบบันทึกแห่งฟ้า” จากทั้งหมด 4 ส่วนกัน
มันมีโครงข่ายพลังงานอยู่อย่างหนึ่ง ที่ถูกสร้างมาและกำลังถูกกระตุ้นให้มีความพอเหมาะพอดี
และเหมาะสมกับระดับพลังงานของโลกในทุกวันนี้อยู่ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
มันเป็นโครงข่ายทิพย์ นั่นหมายความว่า มันมีความเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
และหมายความว่าพวกคุณไม่สามารถมองเห็นมันได้

มันมีชื่อเรียกตามคุณลักษณะของมันด้วยนะ
นั่นก็คือ “โครงข่ายคริสตัลไลน์” (The Crystalline Grid)

เพราะว่าคำว่าคริสตัลไลน์จะสื่อให้พวกคุณทราบว่ามันคือหน่วยเก็บข้อมูลของไกอา
ที่เก็บบันทึกข้อมูลข่าวสารของพลังชีวิตเอาไว้ วัตถุประสงค์ของมัน หรือหน้าที่ของมัน
ก็คล้ายๆกับ “ถ้ำแห่งการสรรสร้าง” (The Cave of Creation) คือการเก็บบันทึกข้อมูลข่าวสารทั้งหมดเอาไว้
ตอนนี้ เราจะมาเจาะลึกลงไปในรายละเอียดกัน เพื่อให้เข้าใจได้กระจ่างขึ้น
โครงข่ายคริสตัลไลน์ของไกอา (ของดาวเคราะห์โลก) นี้ เป็นโครงข่ายทางพลังงานของดาวเคราะห์โลก
ที่เป็นทิพย์ (เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณ) และทำหน้าที่เก็บบันทึกพลังงานของพลังชีวิตของมนุษย์โลกทุกๆคนเอาไว้
นั่นก็คือพลังงานของพวกคุณนั่นแหละ

แต่ว่ามันก็มีความแตกต่างจากถ้ำแห่งการสรรสร้างอยู่บ้างก็ตรงที่
ถ้ำแห่งการสรรสร้างนั้น จะทำหน้าที่เก็บบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับว่าพวกคุณเป็นใคร และทำอะไรไปบ้าง
แล้วพลังงานอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นจากการกระทำของพวกคุณทั้งหมดนั้น ก็จะถูกเก็บรักษาไว้ในถ้ำ
และกลายไปเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานของโลกไป และก็จะอยู่ที่นั่นตลอดไปด้วย

ส่วนโครงข่ายคริสตัลไลน์ จะอยู่เหนือพื้นโลก
ให้จินตนาการดูว่ามันลอยอยู่เหนือพื้นโลก
มันอยู่ด้านนอกของโลก พวกคุณไม่อาจมองเห็นมันได้
แต่มันก็มีอยู่ที่นั่นจริงๆ


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

โครงข่ายคริสตัลไลน์นี้ จะทำหน้าที่เก็บรักษา “รอยประทับ” (imprint)
ของพลังงานของพวกคุณเอาไว้ทั้งหมด
แต่จะเก็บเอาไว้ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่งเท่านั้น

ตัวอย่างที่ดีที่สุดเท่าที่เราพอจะหาได้ก็คือ หากพวกคุณเดินทางไปในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ในแถบทวีปยุโรป
พวกคุณอาจจะรู้สึกได้ถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นที่นั่นมาก่อน ว่ามันเคยมีสงครามเกิดขึ้นมาก่อนครั้งแล้วครั้งเล่า
และพวกคุณบางคนอาจจะเข้าสมาธิในบริเวณแถบนั้นไม่ได้เลย สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่แถบนั้น
มันทำให้ยากต่อการชำระสะสางพื้นที่แถบนั้นให้สะอาดได้ จริงไหม?

เพราะว่าโครงข่ายคริสตัลไลน์ จะเก็บบันทึกข้อมูลข่าวสารทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นในบริเวณนั้นๆเอาไว้
ตรงจุดที่มันเกิดขึ้นนั่นเอง พวกคุณเข้าใจไหม?

ดังนั้น จึงอาจจะเรียกได้ว่า มันคือโครงข่ายของหน่วยเก็บข้อมูลประจำท้องถิ่นของพลังงานของมนุษยชาติ
แล้วมันเป็นของไกอาหรือเปล่าหละ?

แน่นอนที่สุด เพราะว่ามันลอยอยู่เหนือไกอา เหมือนผ้าคลุม ที่ทำมาจาก
พลังงานของจิตสำนึกของมวลหมู่มนุษยชาตินั่นเอง

พวกคุณเคยสังเกตบ้างไหมว่า เวลาที่พวกคุณเดินทางไปในสถานที่บางแห่งของโลก
ที่ๆแทบไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
พวกคุณจะรู้สึกว่ามันปรอดโปร่งโล่งและสะอาด และพวกคุณก็สามารถเข้าสมาธิได้ดีมากๆด้วย

เราอยากจะถามอะไรพวกคุณบางอย่างว่า พวกคุณคิดว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับสถานที่อยู่
หรือสถานที่มาของเหล่าคุรุทางจิตวิญญาณทั้งหลายหรือเปล่า?

ลองดูแหล่งที่มาของเหล่าผู้รับสาสน์ผ่านทางโทรจิต (Channeller) ในช่วง 25 – 30 ปีมานี้ดูสิ
พวกเขาล้วนมาจากดินแดนที่สะอาดบริสุทธิ์ ที่ไม่เคยมีสงครามครั้งใหญ่ๆเกิดขึ้นทั้งนั้นเลย
(หลายคนมาจากฝั่งตะวันตกของ USA) พวกคุณเคยคิดถึงเรื่องนี้ไหม?

ลองคิดดูนะ เพราะว่าในสถานที่เหล่านั้น มนุษย์จะสามารถเข้าถึงแก่นแท้ที่สะอาดบริสุทธิ์ของไกอาได้ง่ายดายกว่า
และมันจะทำให้เกิดการเชื่อมต่อด้านจิตวิญญาณที่เข้มข้นได้มากกว่า
อีกครั้งหนึ่งที่เราจะบอกว่า ก็ตรงนี้แหละ ที่ความเชื่อมโยงกับไกอาหรือกับดาวเคราะห์โลกเกิดขึ้น

ทำไมต้องเป็นดาวเคราะห์โลกด้วยหละ?

ก็เพราะว่าไกอาคือส่วนหนึ่งของระบบการตรวจวัดยังไงหละ ระบบการตรวจวัดความสั่นสะเทือน
มันจะมีสักวันหนึ่งที่โลกใบนี้จะถูกตรวจวัดระดับความสั่นสะเทือน ซึ่งระดับความสั่นสะเทือนที่ว่านี้
ก็เกิดจากการกระทำของมนุษย์ทั้งมวลนั่นเอง ประสบการณ์ทั้งหมดของมนุษย์โลกทุกๆคนจะ
ถูกเก็บเอาไว้ “ภายใน” และ “ข้างบน” ดาวเคราะห์โลก

แล้วมันก็จะไปสร้างอัตราการสั่นสะเทือน ที่สามารถตรวจวัดได้โดยผู้ที่อยู่ในโลกแห่งจิตวิญญาณ
นั่นคือวัดค่าจากโครงข่ายคริสตัลไลน์นั่นเอง

ก่อนหน้านี้เราได้บอกรายละเอียดบางอย่างของโครงข่ายคริสตัลไลน์ ที่พวกคุณยังไม่รู้ ให้พวกคุณรู้ไปแล้ว
ก็คือบอกในการสื่อสารครั้งก่อน (ที่เกิดขึ้นที่ Berkeley Springs, West Virginia)

พวกคุณสามารถกลับไปอ่านและทำความเข้าใจมันให้มากขึ้นได้ มันได้อธิบายไว้แล้วแม้กระทั่งเรื่องผี
ว่ามันคือการที่โครงข่ายคริสตัลไลน์เก็บบันทึก “รอยประทับ” ทางควอนตั้มเอาไว้อย่างเข้มข้นในบางพื้นที่
แม้ว่ามนุษย์ผู้นั้นจะได้ตายจากไปแล้วก็ตาม แต่รอยประทับของสิ่งที่พวกเขาได้ทำลงไป
ก็ยังคงเล่นตัวเองซ้ำไปซ้ำมาอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับม้วนเทปม้วนหนึ่ง

นั่นแหละคือตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า มนุษย์มีอิทธิพลต่อไกอามากเพียงใด

(ค้นหาอ่านเนื้อหาที่กล่าวถึงนี้ ได้ในกระทู้ที่มีชื่อปรากฎอยู่ข้างล่างนี้นะครับ – ผู้แปล)

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...สารใน-dna-ผี-คือข้อมูลข่าวสารข้ามมิติ.282821/


.........................

 

ข้อความจากต่างมิติ – The Akashic System (ระบบบันทึกแห่งฟ้า) - โดย ครายออน


สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
วันที่ทำการสื่อสาร: 11 กันยายน 2010
สถานที่: Syracuse New York
ที่มา:

The Akashic System > Kryon


ตอนที่ 9: บทสรุป


เมื่อมาถึงตรงนี้แล้ว ข้อมูลมันน่าสนใจใช่ไหมหละ?
พลังงานของมนุษย์โลกอย่างพวกคุณจะดำรงอยู่ในสถานที่ 3 แห่งพร้อมๆกัน ก็คือ


1). ถ้ำแห่งการสรรสร้าง (The Cave of Creation)
– ทำหน้าที่เก็บบันทึกข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับว่าพวกคุณเป็นใคร มาจากไหน และไปไหนบ้าง
และดูดซับประสบการณ์ทั้งหมดตลอดภพชาติ ทุกๆภพชาติของพวกคุณเอาไว้
แล้วกลายไปเป็นส่วนหนึ่งของความสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลก แม้ว่าพวกคุณจะได้จากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม

มันเป็นระบบหลากมิติ ที่สามารถจับประสบการณ์ของมนุษย์โลกเอาไว้ให้ไกอาได้ และมันก็จะอยู่กับไกอาตลอดไป


2). DNA ของมนุษย์
– จะช่วยพวกคุณในขณะที่พวกคุณยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ในแต่ละภพชาติ
เพราะว่าข้อมูลข่าวสาร และพลังงานเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกคุณเคยเป็น
จะถูกเก็บบันทึกเอาไว้ในเกลียวคู่อันนั้น

ซึ่งถ้าหากว่าพวกคุณเคยเวียนว่ายตายเกิดบนโลกนี้มาแล้วนับพันๆชาติ
มันก็จะถูกบันทึกเอาไว้ในนั้นทั้งหมดนั่นแหละ

แต่ข้อมูลข่าวสารทั้งหมดนี้ ก็สามารถเข้าถึงได้ด้วยนะ

จิตวิญญาณของพวกคุณไม่จำเป็นต้องไปเรียนรู้อะไร ที่เคยรู้มาแล้วใหม่เลย
เพราะว่ามันถูกเก็บบันทึกสะสมเอาไว้ในนั้นหมดแล้ว

หมายความว่า มันจะอยู่และไปกับคุณภพชาติแล้ว ภพชาติเล่า

ทั้งหมดที่พวกคุณจะต้องทำก็คือ การเปิดขวดโหลด้านจิตวิญญาณนั้นออกมา
ด้วยความมุ่งมาดปราถนาแล้วจดจำมันให้ได้ แล้วภูมิปัญญานับย้อนไปถึงตั้งแต่ครั้งบรรพกาลก็จะปรากฎออกมา

นี่อาจจะบอกอะไรพวกคุณบางอย่าง ว่าพวกคุณทุกคนก็คือบรรพบุรุษของตัวเองนั่นเอง พวกคุณเคยคิดกันบ้างไหม?


3). โครงข่ายคริสตัลไลน์ (The Crystalline Grid)
– มันคือโครงข่ายด้านจิตวิญญาณ ที่ลอยอยู่เหนือพื้นโลก ที่ทำหน้าที่จดจำทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่มนุษย์โลกได้ทำลงไปเอาไว้ แต่จะเก็บไว้เฉพาะในจุดที่เกิดเหตุนั้นๆขึ้นเท่านั้น

และโครงข่ายดังกล่าวนี้ก็กำลังถูกกระตุ้นขึ้นมาใหม่อยู่ และเมื่อพวกคุณเข้าสู่ปี 2012 แล้ว
มันก็จะมีคุณสมบัติของความเป็นควอนตั้ม (เป็นทิพย์ – ผู้แปล) มากขึ้น
จนสามารถถ่ายทอดข้อมูลข่าวสาร และพลังงานของสิ่งที่พวกคุณกำลังกระทำอยู่ ณ.ช่วงเวลาใดๆ
ไปสู่ไกอาได้แบบ real-time

นั่นหมายความว่า พลังงานของมวลหมู่มนุษยชาติจะไปส่งผลกระทบต่อระดับความสั่นสะเทือน
ของดาวเคราะห์โลกโดยทันทีทันใด แบบ real-time เช่นเดียวกัน โดยไม่ต้องไปรอรับเอาพลังงานเหล่านั้น
จากถ้ำแห่งการสรรสร้าง หลังจากที่พวกคุณตายไปแล้วเหมือนแต่ก่อนแล้ว

และเพราะเหตุนี้เอง มันจึงทำให้พวกคุณรู้สึกว่า กาลเวลากำลังผ่านไปอย่างรวดเร็วอยู่ในขณะนี้ด้วย


ลองมาดูกันที่บรรพบุรุษของพวกคุณสักประเดี๋ยว เพราะว่าพวกเขารู้อะไรบางอย่างอยู่
ดูที่ภูมิปัญญาของพวกเขาสิ สิ่งแรกที่พวกเขาจะทำเวลาที่พวกเขามีการเฉลิมฉลอง
หรือทำพิธีกรรมด้านจิตวิญญาณทุกๆครั้งคืออะไร?

พวกเขาจะเซ่นสรวงสักการะบรรพบุรุษของพวกเขา!

เพราะว่าพวกเขาทุกคนรู้โดยสัญชาตญาณว่า บรรพบุรุษของพวกเขายังคงอยู่กับพวกเขาเสมอ
ดังนั้นพวกเขาจึงทำการสักการะบรรพบุรุษเป็นลำดับแรกเสมอ

และก่อนที่พวกเขาจะทำการตัดสินใจอะไรบางอย่าง พวกเขาก็จะไปถามบรรพบุรุษของพวกเขาก่อนเสมอ
เพื่อขอความรู้และภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษ

ชนพื้นเมืองทั้งหลายรู้วิธีการที่จะเจาะเข้าไปในบันทึกแห่งฟ้านี้ และพวกเขาก็ทำได้เสมอด้วย
เพราะว่าพวกเขาประจักษ์ว่า วงจรของชีวิตนี้ มีข้อมูลข่าวสารที่สามารถเข้าถึงได้

พวกเขารู้จากภายใน และพวกเขาก็ยังรู้จักไกอาอีกด้วย และรู้ว่าโลกใบนี้คือเพื่อนร่วมพลังชีวิตของพวกเขา
คือเพื่อนร่วมชีวิต-จิตวิญญาณของพวกเขา


โอ..ที่รักเอ๋ย..ถ้าพวกคุณศึกษาเรื่องราวของบรรพบุรุษให้ดี
พวกคุณก็จะพบว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เราได้บอกคุณไปแล้วนี้ มันเป็นจริงตามนั้น

พวกเขารู้ด้วยสัญชาตญาณของพวกเขา..พวกเขารู้

............................

 

ข้อความจากต่างมิติ – The Akashic System (ระบบบันทึกแห่งฟ้า) - โดย ครายออน


สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
วันที่ทำการสื่อสาร: 11 กันยายน 2010
สถานที่: Syracuse New York
ที่มา:

The Akashic System > Kryon


ตอนที่ 10 - จบ:

ส่วนที่ 4: ระบบสำรองข้อมูลที่มีชีวิต (The Backup System is Alive)


ส่วนสุดท้าย คือสิ่งที่พวกเราเคยพูดถึงไปแล้วเพียง 2 ครั้งเท่านั้น เมื่อหลายปีก่อนโน้น
พวกเราเคยเกริ่นข้อมูลบางส่วนเอาไว้บ้างแล้ว แล้วตอนนี้พวกเราจะมาต่อให้จบกัน
มันอาจจะยากที่พวกคุณจะเข้าใจได้ แต่ว่าระบบทั้ง 3 ที่เราเพิ่งบอกพวกคุณไปนั้น
ส่วนใหญ่แล้วมันจะเกี่ยวข้องกับไกอามากกว่า

แม้แต่ DNA ของมนุษย์ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของระบบไกอาด้วย เพราะว่า
มันแสดงถึงวิวัฒนาการทางด้านชีวภาพของมนุษย์โลก บนโลกใบนี้
จากที่เคยเป็นแค่ฝุ่นผงธุลีของโลกใบนี้เท่านั้น

แต่ว่ามันยังมีระบบสำรองข้อมูล (Backup System) ของทุกๆระบบอยู่อีกนะ

มันเป็นระบบซ้ำซ้อนที่ไม่ใช่ในแบบที่พวกคุณเข้าใจ เพราะว่าระบบสำรองข้อมูล
ในความหมายของพวกคุณ ก็คือระบบอะไรที่เอาไว้ใช้งานโดยตรง ในกรณีที่ระบบหลักล้มเหลวไป หรือเสียหายไป

แต่ระบบสำรองข้อมูลในที่นี้ หมายถึงระบบที่ทำงานร่วมกันกับระบบหลักอยู่ตลอดเวลา
ข้อมูลข่าวสารจากระบบหลักทั้ง 3 ของระบบบันทึกแห่งฟ้า จะถูกเก็บบันทึกเอาไว้
ในสิ่งมีชีวิตที่เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่ง ที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์โลกใบนี้

มันจำเป็นต้องเป็นแบบนี้ เพราะว่ามันเป็นระบบสุดท้าย/ด่านสุดท้าย และมันก็เชื่อมโยงพวกคุณเอาไว้
ไม่ใช่แค่กับไกอาเท่านั้นนะ แต่กับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่บนโลกใบนี้ด้วย และโดยวิธีการที่ลึกซึ้งมากที่สุดด้วย

ระบบดังกล่าวนี้ถูกเก็บบันทึกเอาไว้ใน “ปลาวาฬ” ของดาวเคราะห์โลกใบนี้


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

เรามาพูดถึง “ปลาวาฬ” กันสักหน่อยดีกว่า พวกคุณก็รักพวกมัน ใช่ไหมหละ?
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าไปถามนักชีววิทยาแล้ว พวกเขาก็จะบอกว่า “ปลาโลมา”
ก็คือปลาในตระกูลปลาวาฬชนิดหนึ่งด้วย แค่มีขนาดเล็กกว่าเท่านั้นเอง พวกคุณเคยรู้เรื่องนี้มาก่อนไหม?

พวกคุณก็รักปลาโลมาด้วย ใช่ไหมหละ?

พวกคุณรู้ไหมว่าปลาวาฬคือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพียงชนิดเดียวบนโลก ที่เกือบทุกประเทศในโลก
ทำสนธิสัญญากันเพื่อพิทักษ์และคุ้มครองมันอยู่ แม้แต่ประเทศที่ไม่มีทะเลเลยก็ตาม

มันช่างบังเอิญอะไรขนาดนั้น!

พราะว่ามันฝังอยู่ในระดับสัญชาตญาณส่วนลึกของมนุษย์ ไม่ว่าระบบการปกครองของพวกเขาจะเป็นอย่างไรก็ตาม
ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม มนุษย์ก็จะรู้ว่าไม่สามารถที่จะกำจัดปลาวาฬให้หมดไปได้
มิเช่นนั้นแล้วก็จะทำให้สมดุลของพลังชีวิตบนโลกเสียไป


เหล่าปลาวาฬเหล่านี้ คือผู้ที่ทำหน้าที่เก็บรักษาบันทึกเหล่านั้นเอาไว้
มันเป็นวงจรที่ต่อเนื่องกัน

ปลาวาฬอยู่ในไกอา พวกมันอาศัยอยู่ในน้ำ พวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเช่นเดียวกับพวกคุณ
พวกมันเก็บบันทึกข้อมูลข่าวสารเอาไว้ เพื่อทำให้ระบบบันทึกแห่งฟ้านี้ครบวงจรอย่างสมบูรณ์

น้ำที่อยู่ในโลกใบนี้เองก็ด้วย ก็จะส่องประกายแวววับสอดคล้องไปกับสิ่งที่พวกคุณเคยกระทำเอาไว้
รวมถึงกับสิ่งที่พวกคุณกำลังเป็นอยู่ และที่จะเป็นต่อไปในอนาคตด้วย

พวกคุณมองเห็นความลึกซึ้งของระบบนี้ไหม? เห็นไหมว่ามันมีไว้เพื่ออะไร?

ทั้งหมดทั้งปวงนี้ มันก็มีไว้เพื่อพวกคุณเองนั่นแหละ!

ทำไมโลกใบนี้ถึงถูกออกแบบมาให้มีความเฉลียวฉลาดมากเหลือเกิน
จนสามารถติดตามความเป็นไปของพวกคุณได้?
ทำไมมันถึงถูกออกแบบมาให้เคารพนับถือพวกคุณได้?
และให้รู้จักชื่อของพวกคุณและของจิตวิญญาณของพวกคุณทุกๆคน?

มันจะเป็นเช่นนี้ไหม ถ้าหากว่าพวกคุณไม่มีความสำคัญอะไรเลย
ถ้าหากว่าพวกคุณไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บท
ถ้าหากว่าพวกคุณไม่มีผลกระทบต่ออนาคตของจักรวาลทั้งจักรวาล

ลองคิดดูเอาเองเถิด นั่นแหละคือระบบหละ

เราจะไม่ใช่รูปธรรมชีวิตเพียงรูปธรรมเดียวที่จะสื่อสารข้อมูลนี้มาถึงพวกคุณ
เพราะว่ายังจะมีรูปธรรมชีวิตอื่นๆอีกหลายรูปธรรม ที่แม้จะยังไม่เคยฟังข้อความนี้มาก่อนเลย
แต่พวกเขาก็จะบอกกับพวกคุณแบบนี้เหมือนกัน

ถ้าพวกคุณมีโอกาส ก็จงถามไกอาเอาเองก็ได้ แล้วเธอก็จะบอกกับพวกคุณแบบนี้เหมือนกัน

การมีตัวตนอยู่ของไกอา ก็เพื่อเกื้อกูลแก่มวลหมู่มนุษยชาติผู้สูงส่ง
ที่พากันมาเรียนรู้บทเรียนต่างๆ อยู่บนดาวเคราะห์โลกใบนี้


วันนี้เราขอมอบข้อมูลข่าวสารนี้แก่พวกคุณด้วยความรัก เราอยากให้พวกคุณคิดถึงอะไรบางอย่าง
ว่า..ทุกๆที่ที่พวกคุณก้าวไป โลกใบนี้รับรู้อยู่ตลอดเวลา

มันเป็นช่างเป็นระบบอะไรขนาดนี้!

ทำไมวันนี้เราถึงบอกข้อมูลนี้แก่พวกคุณหละ? ที่มันเป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า
พวกคุณรู้สึกถึงความรักและความห่วงใยอย่างต่อเนื่องแล้ว
มันเป็นเช่นนั้นว่าพวกคุณรู้ว่ามันมีความร่วมมือกันระหว่างโลกแห่งจิตวิญญาณกับไกอาอยู่

ถ้าหากพวกคุณต้องการมัน มันมีอะไรหลายสิ่งหลายอย่างสำหรับพวกคุณ หากว่าพวกคุณต้องการมัน

จิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลายเอ๋ย ที่พวกคุณได้มานั่งอยู่ที่นี่ก็เพราะว่าพวกคุณมีเป้าประสงค์ของพวกคุณ
บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าพวกคุณอยากจะฟังเรื่องนี้ ในวันนี้

พวกคุณคือคนสำคัญ พวกคุณคือสิ่งล้ำค่า พวกคุณคือเจ้านาย ตอนนี้ก็ไปเอามันกลับคืนมาได้แล้ว

จงมีชีวิตที่ยืนยาว จงมีความสุขกับกระบวนการนี้ จงอย่าไปคาดหวังไว้ล่วงหน้าว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่พวกคุณจะทำได้ ก็คือการคาดหวังว่าสิ่งที่พระเจ้าได้เตรียมเอาไว้ให้กับพวกคุณนั้น
จะต้องเป็นอย่างที่พวกคุณคิดเอาไว้

จงผ่อนคลาย จงทำใจให้เบิกบานในทุกๆสถานการณ์ และจงรักตัวเอง
จงทำให้ตอนจากโลกใบนี้ไป แตกต่างจากตอนที่พวกคุณมา


เราคือครายออน ผู้ที่รักมนุษยโลก เพราะเหตุผลดีๆบางอย่าง

และมันก็เป็นเช่นนี้เอง

ครายออน

.....................

 

...

สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่พวกคุณจะทำได้ ก็คือ
การคาดหวังว่าสิ่งที่พระเจ้าได้เตรียมเอาไว้ให้กับพวกคุณนั้น จะต้องเป็นอย่างที่พวกคุณคิดเอาไว้

...


ปล. ลุงๆ ลุงชยุต กลับมาก่อน ลุงลืมใส่ลิงก์ที่ แอนิต้า +mellen +ผี
กลับมาใส่ด่วน...

 

มีหลายประเด็นที่น่าสนใจเลยนะครับ
ไม่ว่าจะเป็น DNA กับโครงข่ายพลังงาน ตำนานเก่าแก่ที่มีอะไรซ่อนอยู่
พลังงานที่ตกค้างในสถานที่ต่างๆ รวมไปถึงเบื้องหลังของสรรพสัตว์ที่น่าเอ็นดูนะครับ
ถ้ามนุษย์เรารู้หน้าที่ และเข้าใจที่มาที่ไปเหล่านี้กันในวงกว้างได้เมื่อไหร่
เชื่อว่าโลกนี้จะพลิกโฉมไปในทางบวกได้อีกมากเลยนะครับ

 

ตอนแรกก็ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ใส่ให้หรอกครับ
เพราะวันนี้เหนื่อยแล้ว..

แต่ไหนๆป้าโซ่ก็ขอมาแล้ว..ก็เลยจัดให้ไปแล้วหละครับ

.........................................

 

ตอนที่แปลมาถึงข้อความที่เกี่ยวกับสัตว์นั้น
คิดถึงคุณ mead ขึ้นมาทันทีเลย..

เพราะว่าคุณ mead เป็นคนรักสัตว์มาก

แต่ที่ข้อความในตอนนี้ขัดใจผมอยู่อย่างหนึ่งก็คือ
ตอนที่บอกว่าสัตว์บางชนิด เกิดมาให้เรากินนี่สิ

แต่อย่างไรก็ตาม..ด้วย Spirit ของผู้แปลที่ดี
จึงต้องแปลไป และโพสต์ไปตามเนื้อหาต้นฉบับเขาหนะครับ

ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะต้องเอาความคิด ความเชื่อ และความเห็นส่วนตัว
ไปบิดเบือนข้อความต้นแบับของเขา..

(แม้ว่าจะมีแอบขยายความด้วยความเข้าใจส่วนตัวอยู่บ้างเป็นช่วงๆก็ตาม
แต่นั่นก็ได้บอกไว้ให้ทราบตลอด..ว่าอันนั้นหนะ เป็นความคิดของผู้แปลเองนะครับ

...อะไรแบบนั้น...)

หลายๆเรื่องก็ตรงกับข้อมูลของหลายๆคน เช่นเรื่อง ริ้ว หรือแถบสีแสง เป็นต้น
อันนี้คล้ายๆกับของอาจารย์ปริญญา ที่บอกว่าจิตวิญญาณจะมีแถบแสงสีเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
ที่ได้ผ่านประสบการณ์ หรือมีความก้าวหน้าขึ้น อะไรประมาณนั้น

................................

.................................

 

แปลไปตามเนื้อหาดีแล้วล่ะครับคุณชยุต การตีความอยู่ที่คนอ่านครับ
สัตว์เลื้ยงพวกนี้เค้ามีความ ใส ซื่อ บริสุทธิ์ ซะจนรู้สึกถึงความรักที่ไร้เงื่อนไขจริงๆนะครับ
เห็นแมทธิวเคยพูดถึงนะครับว่า สัตว์เลื้ยงอันเป็นที่รักเหล่านี้เค้าเลือกที่จะขยาย Liftime ให้ยืดยาวออกไป
และพร้อมจะเลื่อนระดับขึ้นไปพร้อมกับมนุษย์ด้วยนะครับ
สัตว์บางประเภทที่ไม่จำเป็นก็จะสูญพันธุ์ไป..

ส่วนเรื่องสัตว์ที่เค้าเลือกที่จะเกิดมาเป็นอาหารมนุษย์นี่
เข้าใจว่า ครายออน เค้ากล่าวถึงสโคปของมิติที่สามน่ะครับ
ในมิติที่สูงๆขึ้นไป หรือ หลังจากการเลื่อนระดับขึ้นไปแล้วนี่
เชื่อว่า ทุกคนจะกลายเป็น "มังสวิรัติ" โดยอัตโนมัติอย่างแน่นอนครับ
การพูดถึงสัตว์เหล่านี้บ้างก็เป็นสิ่งที่ดีครับ..นานๆจะเห็นข้อความทำนองนี้นะครับ





เค้าพูดถึงบันทึกแห่งฟ้าได้น่าสนใจดีนะครับ...เพิ่งย้อนกลับขึ้นไปอ่านตะกี้..
คงเหมือนที่เก็บรหัสข้อมูลประจำตัวของแต่ละจิตวิญญาณที่ถูกติดตั้งไว้ "วิหารสีขาว" อะไรแบบนั้น
มีริ้วแถบแสงสี ที่แต่งแต้มลงไปในแต่ละภพชาติด้วยนะครับ..

ถ้าเปรียบเสมือนเป็น..."ดอกไม้"... ของแต่ละคนที่มองเห็นได้จะดีไม่น้อยเลยครับ
จะดูได้ว่ามันเหี่ยวเฉา หรือออกดอก-ออกผล งดงามขนาดไหนแล้ว..จะได้เร่งรดน้ำ พรวนดินเข้าไปอีกนะครับ