โดนขังวิญญาณ

ภัยแล้งก็ภัยจากน้ำเหมือนกันนะครับ คงไม่ได้หมายถึงน้ำท่วมเพราะผมเห็นน้ำใน
อ่างเก็บน้ำแห้งขอดกันหลายที่ ถ้าแล้งมากฝนก็จะมาห่างปีนี้คงจะแย่แน่ๆ สมัยเด็กๆ
พอหน้าแล้งต้องเข็นล้อเอาโอ่งใส่ตรงกลางไปเข็นน้ำมาจากบ่อไกลๆโน่น บ่อที่อื่น
ไม่มีน้ำแห้งหมด มีตรงนั้นที่เดียว ทั้งสามหมู่บ้านมารอคิวกันเต็ม ใช้ถังน้ำสาวเอา
ไม่มีปั๊มน้ำเหมือนสมัยนี้หรอก ไปรอเอาน้ำตามคิวตั้งแต่เลิกเรียน กลัวผีก็กลัว หิวก็หิว
สองทุ่มถึงได้กลับบ้านมาพร้อมน้ำ 1 โอ่ง สมัยนี้น้ำประปาไม่ไหลวันเดียวบ่นกันอุ๊บ

นอนไม่หลับมาหลายปีแล้วเหรอน่าสงสารนะ ผมเองนอนตื่นมาเก้าโมงกว่าๆน่าสงสารกว่า
อีก ผมคงเป็นโรคนอนตื่นสายแน่ๆ

 

สมัยพุทธกาลไม่มีตัวหนังสือ แล้วมีใครบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ในสมัยนั้นคะ (มีคนเค้าถาม คนเดิม) คือเปรียบเทียบเหมือนสมัยนี้ ก็คือพิมพ์ในคอมพิวเตอร์

แล้วคำว่าชำระพระไตรปิฏกคืออะไร เป็นธรรมสมัยไหนคะ

ขอบคุณค่ะ

 

พี่จิโครับ ถ้าอยู่ก็มีภาพมาในหัวล่ะครับเช่น มหาเทพ อรหัน กุมาร ต่างๆพวกนี้มันอะไรหรอครับหรือเค้ามาสื่อสารกับเราใช่หรือป่าวครับ

 

ใครบอกว่าสมัยโบราณไม่มีตัวหนังสือ ชะช่า ผมยังโดนทำโทษที่เขียนผิดก็
หลายครา(55+)
สมัยนั้นมีหนังสือครับประวัติสังคยานาพระไตรปิฏกมีบันทึกใว้เยอะมากหาเอา
เต็มไปหมด ตอนแรกเขาจำเอาก็มาจากความจำของพระอานนท์เป็นส่วนมาก
และโดยพระอรหันต์ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไรท่านมั่งทำนองนี้ แต่จุดประสงค์
ที่แท้จริงต้องการสังคยานาพระวินัยเป็นสำคัญ ในส่วนพระธรรมท่านเขียนออก
มาไม่หมดหรอกเขียนเท่าที่จะตอบคำถามของเพื่อนๆพระอรหันต์ได้แต่ในส่วน
ที่พระพุทธเจ้าบอกเป็นปริศนาแล้วปฏิบัติจนบรรรลุแต่ตอบคนอื่นอธิบายคนอื่น
ไม่ได้ถึงสภาวะธรรมตลอดจนบาลีว่าสิ่งนี้ สภาวะนี้ท่านเรียกว่าอะไร เมื่อตอบ
ไม่ได้ก็ไม่เขียนครับ

 

อันดับแรกต้องหาที่มาของภาพครับ เช่นเรามองคนๆนี้แล้วภาพเกิดแสดงว่า
คนๆนี้เสวยอารมณ์ของเทพองค์นี้ ก็ดูต่อไปว่าคนๆนี้เป็นคนทรงเทพนี้ใช่ใหม
หรือไปเขาบนใว้(เครื่องแก้บนก็จะมาพร้อมภาพ)

บางทีก็เกิดจากเรามองหรือนึกสถานที่แล้วเห็นภาพแสดงว่าสถานที่นั้นมีสิ่งนี้
บางทีเราไม่ได้กำหนดดูอะไรเลยแต่ภาพปรากฏแสดงว่าท่านเหาะผ่านหัวเราไป
แบบนี้จะรู้สึกเองว่าข้างบนเรามีใครมองหว่า?

แต่ถ้าท่านจะคุยกับเราจะแบ่งเป็นหลายระดับอาการ
อันแรกถ้าคนยังไม่เป็นจะปวดหัว มึนๆแล้วภาพเกิดเสียงก็มีบ้างไม่มีบ้างแล้วแต่
สมาธิว่านิ่งพอใหม

ต่อมาอาการมึนนั้นก็จะหายไป ภาพในใจก็จะชัดขึ้นมองเห็นรายละเอียดสร้อย
สังวาลสีของเสื้อ เสียงก็จะชัดเจนดี ในขั้นนี้จะอยากรู้อยากเห็นเรื่องอื่นๆที่ไม่
ใช่เรื่องของตัวเองละ(เริ่มแล้วสินะ..)

ต่อมาจะไม่มีภาพเทพหรือผี จะมีภาพเหตุการณ์ที่ต้องการให้รู้เลยและเสียงคน
บอกก็จะดังในใจให้รู้รายละเอียด

สุดท้าย หาเทพไม่มี หาผีก็ไม่มาท่านว่าให้ใช้บารมีตัวเองดูเอาเถอะ ตัดหาง
ปล่อยวัดทำนองนั้นเพราะเก่งมากแล้วกสิณเกิดก็ให้ไปใช้กสิณดูเอาเอง
ท่านจะบอกพียงว่า ใช่+ยิ้ม หรือ บ่แม่นดอก+ส่ายหน้า+ยิ้ม

 

ขอบคุณมากๆครับ
เช่นประมาณว่าเห็นครอบครัวพระศิวะแต่เป็นก้อนเมฆมาในหัว ตอนนั้กำลังทำอะไรไปเลื่อยเปื่อย
และก็กุมารที่เลี้ยงไว้ปีสองปีละครับเพิ่งจะมาให้เห็นคือเป็นเนื้อๆเป็นจริงๆในหัวเลยครับ
ทุกครั้งที่ได้เห็นช่วงที่กำลังทำอะไรเพลินๆน่ะครับ

 

ป่าว มิบังอาจ แฮ่ ๆ ก็พี่เค้าฝากถาม ก็ถามให้ เค้าอยากรู้ หนูก็บอกเค้า นี่เธอใบไม้ในกำมือเดียวยังเอาไม่รอด แล้วจะอยากรู้อะไรกับใบไม้นอกกำมือหือ แกก็บอกเออว่ะ...แต่แกก็อยากรู้เลยถามให้

อ้าว..แล้วเรื่องนอนไม่หลับของแก แกเป็นอะไร ไม่เอานะว่าโรคตื่นสายไม่เกี่ยว ตื่นสายเข้าใจว่าต้องทำงานส่วนหนึ่ง ช่วยเหลือคนอื่นส่วนหนึ่ง น่าสงสารมากเลย เฮ้อ!

หนูไม่รู้ว่าอยากรู้เรื่องกรรมมากไปหรือเปล่านะ หนูมีความสงสัยว่า ทำมัยนะ คนเราเนี่ยเวลาทำบาป เช่น เอาเท้าเตะเมีย เตะข้าว เตะของเสียหาย ตั้งแต่หนุ่มยันแก่ แล้วมาเกิดอุบัติเหตุ ต้องตัดขาทิ้ง ใช่เป็นกรรมของเค้า แต่ไม่เข้าใจว่า ในส่วนของจิตตอนนั้นกับการเกิดอุบัติเหตุ แล้วต้องถูกตัดขาทิ้งเนี่ย มันเกิดขึ้นได้อย่างไร คือ เกิดได้อย่างไรกับส่วนของร่างกายส่วนนั้น ๆ ที่เคยทำบาปน่ะค่ะ พอดีมีญาติคนนึง เค้าเป็นคนชอบกินเหล้าแล้วเตะเมีย เตะข้าวของเสียหาย ตอนนี้นอนอยู่โรงพยาบาล หมอปั๊มหัวใจฟื้นขึ้นมา เมียบอกว่ายังไม่ให้ตาย ต้องให้มันฟื้นด้วย มันจะได้รู้บาปที่มันเคยทำ ว่าทำอย่างไรได้อย่างนั้น เฮ้อ! ตอนนี้ก็ไม่ฟื้น และก็ถูกตัดขาทิ้ง สมองบวม กรรมน่ะใช่อยู่ แต่ไม่เข้าใจน่ะค่ะ คือสงสัยอ่ะนะ
ทีนี้หนูเองน่ะ ปกติไม่ค่อยชอบทาตา เค้าเรียกอายแชร์โดว์ ไว้สำหรับทาตาสำหรับผู้หญิงอ่ะนะคะ ก็หนูเป็นผู้หญิงเนอะ ก็ไม่มีอะไรทำ คลายเครียดก็ไปทาตาเล่นในห้องน้ำ ปกติก็ไม่เคยแพ้อยู่แล้วอายแชร์โดว์เนี่ย แต่ว่าพอกลับไปบ้านเจ็บตามาก เหมือนคนเป็นตากุ้งยิง ก็แหกตาดู เหลือบดูมันก็ไม่มีอะไรเข้านี่นา แล้วมันเป็นอะไรก็ไม่รุ ปวดตามากเลยตรงเปลือกตาที่ทา หรือเค้าจะบอกว่า นี่งัยสงสัยเรื่องกรรมใช่มั้ย ก็เลยทำให้ดู (ของจริง) หรือเปล่า เหอ ๆ จนวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าตาเป็นอะไร ยังปวด ๆ อยู่เลยค่ะ

รบกวนพี่จิ-โปตอบด้วยนะคะ สงสัยมาก เรื่องกรรมน่ะค่ะ

 

เหรอคะ ..ที่โดนตัดหางปล่อยวัด เพราะเป็นฉะนี้นี่เอง

อ้าวถ้ามองเห็น แล้วก็มาสอนเรา แบบนี้กสิณที่ทำไม่เกิดน่ะสิ ใช่มั้ยอ่ะคะ เค้าเลยมาสอน

 

เอ๊ะ! ขออภัยนะคะ เจ้าของกระทู้ โดนย้ายกระทู้นานหรือยังคะ หรือเพิ่งจะโดนย้ายคะ

ขอโทษด้วยนะคะหากเป็นเหตุให้กระทู้ต้องโดนย้าย

 

ขอสอบถามครับ ผมนั่งสมาธิแล้วเกิดอาการขนลุกผมก็ไม่ได้สนใจแค่รู้ไว้ก็หันภาวนาต่อได้สักพักก็มีอาการคล้าย ๆ คนนอนหลับแบบว่าคล้าย ๆ ฝันแต่ไม่ค่อยมั่นใจเพราะมันเป็นมัว ๆ พยายามกลับมาภาวนาต่อแต่พอเผลอก็หลุดไปอีกเป็นมาหลายครั้งแล้วครับ ตอนนั่งไม่มีอาการง่วงเลยครับ

 

จง เป็นผู้รู้จักตนเอง เข้าใจตนเอง พิจารณาตนเอง สำรวจตนเอง ปรับปรุงแก้ไขตนเอง ชนะอารมณ์ตนเอง ยอมรับความเป็นจริงทั้งหมด รู้จักธรรมชาติอย่างถ่องแท้ ว่าสิ่งทั้งมวลเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่ามนุษย์ สัตว์ ต้นไม้ สิ่งของต่าง ๆ ตั้งอยู่ได้ชั่วขณะ แล้วเสื่อมโทรมไป พังไป ตายไปในที่สุด บังคับมันไม่ได้ ไม่เป็นไปตามใจเรา เป็นเรื่องธรรมดา ของธรรมชาติทั้งหลาย

จงเป็นผู้ตื่น มีสติ รู้สึกตัวอยู่เสมอกับปัจจุบัน ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต มีปัญญาใคร่ครวญให้เห็นความเป็นจริง ให้เห็นการเกิดดับของกาย และใจ (ความรู้สึก - อารมณ์) แล้วปล่อยวางได้ทุกอย่าง ไม่ควรยึดถือทั้งหมด

คัดลอกจากหนังสือ สโรชา ฉบับ แด่ผู้บำเพ็ญธรรม

 

อืมร์...คุณจิ-โป ... เสียงหัวใจของ ศิลามณี ที่เคยได้ยินดังลั่นแบบเมื่อก่อน ตึกตักๆ ตึกตักๆ ... ตอนนี้หายไปแล้วคะ พยายามเงี่ยหูฟัง..ไม่มีดังซักแอะให้ได้ยิน...ศิลามณี กะว่าจะตั้งใจฟังสักหน่อย...หายไปเลย... ตอนที่เขาส่งเสียงให้ฟังก็ไม่สนใจฟังโน๊ะ .. ศิลามณี นี่โง่จริงๆเลย...อยากได้เสียงหัวใจคืนมาคะ...ทำไงดี

เมื่อคืนทั้งนั่งก็แล้ว...นอนก็แล้วไม่เห็นได้ยิน เสียงหัวใจสักแอะเลย...ศิลามณีก็เลยไปจับลมหายใจเข้าออก เพราะรู้สึกว่าชัดเจนที่สุด...แล้วมันก็รู้สึกว่าเวลาหายใจเข้าออก หายใจได้ลึกและสุดขึ้นกว่าก่อนแยะเลย

 

สวัสดีคะ คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ainteerati<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4461821", true); </SCRIPT> เห็นหลังไวๆ...สบายดีนะคะ

 

ใจไม่นิ่งก็ไม่ได้ยินครับ มันต้องใจนิ่งสงบปราศจากความฟุ้งซ่าน
ต้องหาสาเหตุเองครับว่าทำไมไม่ได้ยิน อันนี้จะทำให้เรามองเห็นกิเลส
ในตัวเรา เมื่อเราละมันได้แล้วก็จะกลับมาได้ยินอีกครั้ง
การได้ยินนี้เองเป็นการวัดกิเลสเราได้ครับ ถ้าไม่มีกิเลสได้ยินแน่ๆ
จิตที่ยกขึ้นไปใว้บนยริเวณหัวนั่นก็กิเลสนะครับ การยกจิตขึ้นสู่อารมณ์ก็
เป็นกิเลสที่เป็นกิเลสชั้นสูงครับ ต้องละเหมือนกัน

 

หนูไม่รู้ว่าอยากรู้เรื่องกรรมมากไปหรือเปล่านะ หนูมีความสงสัยว่า ทำมัยนะ คนเราเนี่ยเวลาทำบาป เช่น เอาเท้าเตะเมีย เตะข้าว เตะของเสียหาย ตั้งแต่หนุ่มยันแก่ แล้วมาเกิดอุบัติเหตุ ต้องตัดขาทิ้ง ใช่เป็นกรรมของเค้า แต่ไม่เข้าใจว่า ในส่วนของจิตตอนนั้นกับการเกิดอุบัติเหตุ แล้วต้องถูกตัดขาทิ้งเนี่ย มันเกิดขึ้นได้อย่างไร คือ เกิดได้อย่างไรกับส่วนของร่างกายส่วนนั้น ๆ ที่เคยทำบาปน่ะค่ะ พอดีมีญาติคนนึง เค้าเป็นคนชอบกินเหล้าแล้วเตะเมีย เตะข้าวของเสียหาย ตอนนี้นอนอยู่โรงพยาบาล หมอปั๊มหัวใจฟื้นขึ้นมา เมียบอกว่ายังไม่ให้ตาย ต้องให้มันฟื้นด้วย มันจะได้รู้บาปที่มันเคยทำ ว่าทำอย่างไรได้อย่างนั้น เฮ้อ! ตอนนี้ก็ไม่ฟื้น และก็ถูกตัดขาทิ้ง สมองบวม กรรมน่ะใช่อยู่ แต่ไม่เข้าใจน่ะค่ะ คือสงสัยอ่ะนะ
ทีนี้หนูเองน่ะ ปกติไม่ค่อยชอบทาตา เค้าเรียกอายแชร์โดว์ ไว้สำหรับทาตาสำหรับผู้หญิงอ่ะนะคะ ก็หนูเป็นผู้หญิงเนอะ ก็ไม่มีอะไรทำ คลายเครียดก็ไปทาตาเล่นในห้องน้ำ ปกติก็ไม่เคยแพ้อยู่แล้วอายแชร์โดว์เนี่ย แต่ว่าพอกลับไปบ้านเจ็บตามาก เหมือนคนเป็นตากุ้งยิง ก็แหกตาดู เหลือบดูมันก็ไม่มีอะไรเข้านี่นา แล้วมันเป็นอะไรก็ไม่รุ ปวดตามากเลยตรงเปลือกตาที่ทา หรือเค้าจะบอกว่า นี่งัยสงสัยเรื่องกรรมใช่มั้ย ก็เลยทำให้ดู (ของจริง) หรือเปล่า เหอ ๆ จนวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าตาเป็นอะไร ยังปวด ๆ อยู่เลยค่ะ

รบกวนพี่จิ-โปตอบด้วยนะคะ สงสัยมาก เรื่องกรรมน่ะค่ะ<!-- google_ad_section_end -->

ยังไม่ตอบหนูเลยพี่จิ-โป

 

เรื่องแค่นี้ก็จะให้ตอบ โธ่เอ๋ย
ใครมันจะเตะใครก็เรื่องของเขา ถ้าเราเห็นกับตาก็ห้ามซะ ตักเตือนให้เขาเป็น
คนดีซะ ถ้าไม่เห็นกับตาก็ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องคิดไม่ต้องนึก

ใครมันจะทาอายเชโดว์ พรมน้ำหอมยี่ห้ออะไรมันก็เกิดมาจากความพอใจ
ความ"อยาก" เช่นอยากให้คนชม อยากลอง หรือเสียดายของซื้อมานานโข
แล้วไม่ได้ใช้จนมันหมดอายุแล้วดันเสียดาย อะไรเทือกนี้ก็เรื่องของเขา เอ..ยังไง

(ตามันจะเป็นยังไง?) ตามันก็สามียาย ใช้เครื่องสำอางโหลๆก็งี้ล่ะ เขาแถมมารึเปล่าไม่รู้
ดันเอามาทาตา เขาก็ต้องลองทาตรงแขนก่อน ถ้าไม่แสบไม่ร้อนก็ค่อยมาทาตา แค่นี้ก็ให้
บอกอีกคนเรา เอ..กรรมจริงๆ

 

การมีเมียหลายคนสำหรบประเพณีของไทยสมัยนี้ถือว่าผิด ต้องมีเมียเดียวใช่ใหม
แต่คนอินเดีย คนจีน หรือไทยในสมัยก่อนถือว่าไม่ผิดใช่ใหม กรรมนี้มันขึ้นอยู่กับภรรยา
ถ้าภรรยาบอกเธอจะมีใครก็ได้ฉันไม่ว่า นี่ไม่มีกรรมนะไม่ต้องปีนต้นงิ้ว แต่ถ้าภรรยาคิด
อยู่ตลอดว่า "มึงเตะกู เมื่อไหร่เขาจะทำโทษมึง" คิดยังงี้ตลอด วันนึงเขาก็ต้องมารับกรรม
ต้องตัดขาทิ้ง(อย่างหนัก) ต้องขาหักนอนโรงบาล(อย่างเบา) นี่เรียกว่า ภรรยาน่ะล่ะที่จำ
กรรมนั้น มาใส่สามีตัวเอง ทั้งๆที่บางทีสามีลืมไปแล้วก็ได้ แล้วภรรยาน่ะล่ะต้องมารับเศษ
กรรมร่วมกัน ต้องมาให้สังคมเขาติเตียนว่ามีสามีพิการ ต้องมารับภาระการเงินแทนสามี

จำใว้นะ สามีทีโอมีเมียน้อย ก็ให้บอกเขาว่า ช่างพี่เถอะน้องไม่คิดอะไร อย่าเอาโรคมา
ก็พอ นี่เขาก็จะไม่มีกรรม เราก็จะไม่ถือกรรมไปชาติหน้าในฐานะเจ้าหนี้ด้วย

 

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำอธิบาย เข้าใจแล้วคร้า

 

ขอถามนะคะคุณจิ-โป

คือถ้าหากว่ามีผู้ชายเป็นอิสลามและศาสนาอิสลามมีเมียได้ 4 คนและเขามีภรรยาอยู่ 1 คน

และต่อมาภรรยาเขามีปัญหาเรื่องสุขภาพและได้แยกกันอยู่มาเป็น 10 ปี

แต่ยังไปมาหาสู่และดูแลกันอยู่ตามสภาพ และต่อมาเขาได้แต่งงานกะสาวพุทธ

แบบนี้สาวพุทธจะถือว่าผิดศีลข้อ 3 ไหมคะ

 

ถ้าตีความไม่ผิดต้องพิจารณาอาการนั้นด้วยปัญญาและมีสติรู้อยู่ตลอดใช่ไหมครับ
ขอบคุณมาก ๆ ครับ