ไม่รู้ว่ามีใครเห็น Planet X หรือยัง?

มีนักดาราศาสตร์ส่วนหนึ่งเขาเชื่อว่า

ดวงอาทิตย์ของพวกเรา เรามีดาวเคราะห์บริวารอีกดวงหนึ่ง

ที่ยังหาไม่เจอ ไม่รู้ว่าไปมุดหัวอยู่ไหน hee hee hee

เขาสังเกตจาก กลุมดาวเคราะห์บริวารรอบนอก มันโคจร เป๋ๆ ไปนิสนึง

เหมือนกับว่า ถูกรบกวน ด้วยอะไรซักอย่าง ที่ยังหาตัวการไม่เจอ

ดูวงโคจรของพลูโต ดิ มันแปลกๆ ใช่มะ

เขาเลยตั้งสมมุติฐานให้ชื่อมันว่า PX นี่แหละ

แล้วต่อมาก็เจอดาวเคราะห์ดวงใหม่ๆ เช่น เซดน่า และอื่นๆ

แต่นักดาราศาสตร์ส่วนใหญเขาก็บอกว่า มันไม่น่าจะใช่ เพราะมันเล็ก จิว หลิ๋ว เกิ๊น!!!

ก็เลยยังไม่พบตัวมาจนถึงตอนนี้

จนกระทั่ง น้าซ่า มากระซิบบอกว่า เจอตัวแหม่งๆ กลิ่นตุๆ โชยมาแระ

ชื่อ Tyche มั่ง ชื่อ Elenin มั่ง

บอกว่า เป็นดาวแก๊ส เหมือนพวกดาวเคราะห์รอบนอกอย่าง เนปจูนมั่ง

บอกว่า มีขนาดใหญ่เป็น 4 เท่าของดาวพฤหัสมั่ง

รวมถึงมีดวงจันทร์ หรือดาวเคราะห์เป็นบริวารอีกฝูงนึง ก็ใหญโตอลังการมิใช่น้อย

แถมยังมีวงโคจรแบบดาวหางอีกด้วย บอกว่า รอบโคจรเป็น 3600 ปี มั่ง 15000 ปีมั่ง

สรุปข้อมูลอะไรก็ยังมั่วๆซั่วๆ อะ หรือน้าซ่าจะแกล้งปั่นหัวพวกเราซะก็ไม่รู้

เหล่ากูรู้อันเดอร์กราวน์ทั้งหลาย ก็เลยบอกว่า ช่างมันเต๊อะ น้าซ่าจะผายลม

จะอะไร ก็ช่าง น้าซ่า ละกัน พวกตรู จะรอดูฟามจริง มาเมื่อไร ก็เมื่อนั้นอะ

ช่าวหัวน้าซ่ามันละ มันล้มละลายทางความเชื่อไปละ

เพราะมันชอบบอกความจริงครึ่งเดียว แถมยังปั่นหัวพวกเรายังก๊ะปั่นจิ้งหรีด อีกนะ

เวง เจงๆ

จบข่าว

 

แล้ว planet x จะอะไรยังไง ทำไม กลัวอะไร ...??

 

ตอบ pakung

เขาเล่าลือกันว่า px ตัวจริงเนี่ย มันเป็นดาวแม่เหล็กกำลังสูงโคตรๆ
มีอิทธิพลต่อสิ่งมีชีวิตที่มันกวาดไปถึง คือเก็บสแปร์ เรียบวุธ เก็บพลังชีวิตเข้าตัวเองได้
ถ้าไม่มีสิ่งมีชีวิต ก็คงไม่เป็นไร อย่างมาก ก็ชนกัน ใครแข็งกว่าก็ได้อยู่
ใครนิ่มกว่าก็กระจายไป เขาว่างั้นนะ
ในอดีต เขาบอกว่า แค่เฉี่ยวไปใกล้เนปจูน ดาวยูเรนัส ดาวเสาร์ พฤหัส
ก็ไปทำให้เขามีพลังเพิ่มขึ้น รวมถึงมีบริวารเป็นดวงจันทร์เพิ่มขึ้นมาอีกฝูงหนึ่ง
เพราะสนามพลังแม่เหล็กไฟฟ้ามันดึงดูดกัน สร้างเสริมกัน ลดทอนกันได้
ทำให้เกิด ปริ ปูด กระเด็นออกมา เกิดเป็นดาวบริวารของ px ไป
ทีนี้พอมาใกล้โลกในอดีต ก็มีดวงจันทร์บริวารของ px ชนกันกับดาวโลก
ทำให้โลกแหว่งกลายเป็นแอปเปิ้ลแหว่งๆ ไง กลายมาเป็นโลกเราทุกวันนี้
แล้วก็เกิดเป็น แอสเตอรอยด์เบลท์ เรียกว่าตีกำไลสวรรค์ที่เป็นวงแหวนอุกาบาต กั้นแบ่ง
ดาวเคราะห์เป็นรอบใน กับรอบนอก กลายมาเป็นสุริยะจักรวาล หน้าตาแบบทุกวันนี้
ทีนี้ รอบนี้ ที่กำลังจะมาถึง มันจะมีเหตุการณ์บรรจบกันของตำนานต่างๆ
ก็ไม่รู้จะเป็นไงเหมือนกัน เพราะในอดีต เขาบอกว่าที่เกิดน้ำท่วมโลก อารยธรรมพังทลาย
ก็เพราะการมาถึงของดาวแม่เหล็กกำลังสูงนี้แหละ เราก็รู้แค่นี้
ว่าจะมีเรื่องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งงใหญ่บนโลก เช่น แผ่นดินไหว
พายุ แกนโลกพลิก ภูเขาไฟระเบิด น้ำท่วม แผ่นดินถล่ม ทวีปจมลงในมหาสมุทร
ส่วนจะร้ายแรงแค่ไหน ขึ้นอยู่กับ อารมณ์ของดาวแม่เหล็กกะพระอาทิตย์กะโลกกะดวงจันทร์
ว่าจะมีของขึ้น เยอะป่าว ถ้าของขึ้นเยอะ ก็บรรลัยเยอะ ถ้าของขึ้นน้อยก็บรรลัยน้อย
แต่ทุกครั้งที่เกิดเรื่อง โลกก็จะสวยงามขึ้น เหมือนฟ้าหลังฝน อะ (โดนอบรม ลดความซ่า?)
เหมือนๆจะจูนให้เข้ากั๊นเข้ากัน มันก็ต้องมีกระทบกระทั่งหัวแตก กระดูกหัก มั่ง
แต่ถ้าเข้ากันได้ดี มันก็ไม่มีเรื่อง เหมือนๆจะจบแบบ สันติวิธี หรือ
จบด้วยความรุนแรงแบบสงคราม เหมือนๆ เรื่องของคนบนโลก เลยมะ
คุยกันไม่รู้เรื่อง ก็ใช้กำลัง ใช้ความรุนแรง แล้วก็บานปลาย
แต่สุดท้ายนะ ทุกเรื่องเมื่อถึงเวลามันก็ดับสูญ อะ ซักวันหนึ่ง ดวงอาทิตย์ก็ต้องดับ
มันก็ต้องแยกย้ายกันไปตัวใครตัวมันอยู่ดีแหละ ทุกวันนี้ยังอยู่ ยังโคจรอยู่เป็นบริวาร
เป็นพี่ใหญ่บิ๊กบึ้ม เป็นน้องซ่าหยุดไม่เป็น เป็นน้องหงิมๆคอยยุแหย่
มันก็เหมือนครอบครัวเดียวกัน อยู่ในจักรวาลเดียวกัน
คงไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญหรอก อยู่ที่สติปัญญาของแต่ละคนอยู่ตรงนี้แล้ว
มีพัฒนาการได้มากขึ้นไหม หรือนับวันมีแต่สาละวันเตี้ยลง มีแต่เสื่อมลง
มันก็เป็นเรื่องของใครของใคร ที่เลือกทำกันไป มีคนเจริญขึ้นแล้วก็มีคนเสื่อมลง
ธรรมชาติเขาจัดสรรวัตถุดิบให้พวกเรา ส่วนเรามีหน้าที่เรียนรู้และพัฒนาตน
เพื่อส่งผลลัพธ์ที่เราสร้างสรรค์ขึ้นมาจากวัตถุดิบของธรรมชาติกลับคืนให้เขาไป
กลับคืนสุ่ธรรมชาติ เรียกว่า พลังงานหมุนเวียน จิตเราเสื่อม ธรรมชาติก็เสื่อม
จิตเราบริสุทธิ์ ธรรมชาติก็ได้พลังงานบริสุทธิ์ไป

ปล.ที่พูดๆมา นี่คิดเองเออเอง นะ เรื่องจริงเป็นไงไม่รู้เหมือนกันนะ พูดตามอารมณ์รั่วๆ

 

เหมือนหนังเลย แฮะ มันเป้นพลอตเรื่อง หนังแน่ๆเลย 55

ถ้า planet x เป็นดาวฤกษ์ น่าจะน่ากลัว นะ แต่ถ้ามันเป้นดาวเคราะห์ มันก็ไม่น่าจะมีอะไรมากมาย

 

มีบางคนเรียกว่า เป็น ดาวฤกษ์แคระ brown draft นะ
อาจจะเป็นดาวฤกษ์ที่เย็นแล้ว ที่สำคัญคือเหมือนมีแหล่งกำเนิดแม่เหล็กไฟฟ้า
เหมือนพระอาทิตย์ และเหมือนโลก ด้วย อะดิ
ดาวอื่นๆ ก็ไม่รู้มีหรือป่าว บางคนก็เรียกว่า source of life หรือ tree of life

ปล. เราแต่งนิยาย เก่งมะ hee hee hee !!!

 

จากกระบวนการคิดพบว่า

เคยฟัง ดร ท่านนึงเขาบอกว่า มันไม่มีอะไร ที่เป้นวัตถุนอกโลกมา ทำ อะไรกับโลกเราได้

ซึ่งมันเป้นไปได้ยาก สิ่งที่น่ากลัวคือในโลกเราเองเนี่ยแหละ น้ำจะท่วม แผ่นดินไหว

เราจะอยู่ไม่ได้

 

เอาบทความที่น่าสนใจมาฝาก pakung ลองอ่านดูนะ สนุกดี
http://palungjit.org/threads/งานวิจ...ปลเพิ่มเติม-หน้า-68-71-truth4thai-org.258621/

 

โหลด pdf ครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ขออ่านก่อน

 

อ่านไม่รู้เรื่อง 55 งง ปวดหัว ตึบๆ

 

แสดงว่าเป็นคนละเผ่า hee hee hee

ถ้าอ่านแล้วสนุก วางไม่ลง แสดงว่า มีเชื้อพันธ์เดียวกัน 555

สนใจเรื่องไหน แสดงว่าชอบเรื่องแนวๆนั้น มันจะมีแรงดึงแรงดูดวางกันไม่ลง

แต่ที่ดีที่สุด คือ เป็นอิสระ ไม่ยึดอะไรซักเรื่อง รับรองไม่มีปวดหัวมึนตึบ

เพราะใครก็จับเราไม่ติด อิอิอิ

และอีกอย่าง จะไม่มีใครปิดกั้นเราได้ เราก็จะรู้ข้อมูลได้กว้างขวาง

ไม่ถูกปิดกั้นข้อมูล รู้เรื่องได้ทุกแนว ไม่ถูกจำกัดให้รู้ได้เท่าที่เขาอยากให้รู้ไง

หวังว่าจะหายปวดหัวหรือมึนตึ๊บ เวลาเจอของแสลงอีกนะ

 

จับใจความตอนแรกได้ว่า ดวงอาทิตย์จะขยายตัว แล้วมันก็จะดูด ทุกอย่างเข้าไปใช่ป่าวหว่า

แต่มันจะเกิดตอนมันใกล้จะดับ อีกตั้ง หลาย พันล้านปี

 

อือ แบบนั้น อีกนานอย่างที่ว่าแหละ เรียกว่าอาทิตย์ดับ

แต่รอบเร็วๆนี้ที่จะ coming soon เขาบอกว่า เป็นการ ลอกเปลือก มั้ง

เหมือนว่ามันเคยเป็นมา 4หรือ5 รอบ แล้ว เรียกว่าเป็นยุคของพระอาทิตย์

สิ้นสุดพระอาทิตย์รอบที่5 ขึ้นยุค พระอาทิตย์ฟอร์มตัวใหม่เป็นยุค ที่ 6 มั้งถ้าจำไม่ผิด

ที่มีคนบอกว่า ยุค อควาเรียส อะ ก็จะมีเหตุการณ์ พระอาทิตย์ขยายตัวกินมาถึง

ดาวศุกร์ แต่ไม่ถึงโลก คือโลกยังไม่ถูกกิน ก็ยังอยู่แล้วสริยะจักรวาลก็ดำเนินเข้าสู่

ยุคสุดท้าย มีคนอ่านแล้วรับไม่ได้เยอะ เพราะมันแปลกพิศดารเกินจะรับได้

ว่ามนุษย์โลกจะอยู่ได้ไง ใกล้พระอาทิตย์ขนาดนั้น แต่เรื่องนี้ก็ไม่รู้จะเป็นยังไง

เพราะยังไม่เกิด จะเกิดแบบนี้หรือไม่เกิดอะไรเลย ก็ไม่รู้อยู่ดี

ใครจะบอกอนาคตได้ใช่ปะล่ะ ก็ฟังหูไว้หู แหละ บอกแล้วว่าอ่านเอาสนุก

จะได้เปิดหูเปิดตาไว้รู้หลายๆแนว หลายๆซีนาริโอ มาแนวไหน ก็เข้าใจได้หมด

จะได้มีหูตากว้างขวาง แบบเป็นจานรับสัญญาณดาวเทียม รับได้หมดทุกฝ่าย

ใครปล่อยสัญญาณมา ก็เก็บรายละเอียดให้หมด เวลาเกิดเรื่องจะได้ตั้งท่ารับได้ถูก

ไม่ งง ไม่ก่งก๊ง คุยได้หมดทุกฝ่าย hee hee hee !!!

 

ที่อ่านแล้ว งง เพราะ อ่าน หนังสือแปล แล้ว งง แบบนี้แหละ

 

ข้อมูลต่างๆ อ่านมาตั้งเยอะแยะมากมายแล้ว เขาก็เอามารวมๆกัน นิ

คนส่วนมาก จะอ่านแบบผ่านๆ แต่มันจะต้องผ่านกระบวนการคิด ก่อน หาเหตุผลมารองรับ เรื่องไหนจริงไม่จริงไม่มีใครรู้

 

ถ้าเป็นแบบเรานะ อ่านเอามันส์ ไม่ต้องไปคิดมาก
เพราะมันไม่ได้เปนเรื่องที่เราจะไปรู้ได้จริง คิดเท่าไรก็ไม่รู้ จริงมะ
เพราะมันเป็นประสบการณ์ของคนอื่น มีแต่ตัวคนเขียนเรื่องนั้นๆ เขาถึงจะรู้ว่าจริงรึป่าว
ส่วนเราก็รู้ได้เฉพาะเรื่องที่เป็นปัจจัตตังของเรา เรื่องของเราเอง อันไหนจริง อันไหนไม่จริง
ก็มีแต่เราเท่านั้นที่รู้จริง เรื่องจริงของเราเองถึงสมควรเอาไปคิดและพิจารณาว่าจะทำอย่างไร
กับความจริงที่เป็นของเราเอง เพื่อให้เกิดเป็นปัญญารู้ฉลาดในเรื่องของตัวเราเอง
ความรู้ของอื่น ความจริงของคนอื่น เราจะรู้ได้จริงๆ ก็เมื่อมันเกิดขึ้นจริงกับตัวเราแล้ว
เราถึงจะคิดได้ว่าเป็นจริงหรือไม่จริง แล้วก็แอคชั่นต่อให้เกิดเป็นปัญญารู้แจ้งเห็นจริงของตัวเราเอง

ความจริงของเราเอง เอาไปบอกคนอื่นก็เป็นเรื่องไม่จริงของคนอื่น อะนะ
เพราะมันเป็นจริงเฉพาะของเรา งง ปะ

ดังนั้น เรื่องที่คนอื่นบอกเรามา เราคิดไปก็ไลฟ์บอย แค่รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม

รู้ไว้เพื่อเป็นคนฉลาดในเรื่องโลกๆ แค่นั้น รู้ไว้เพื่อเอาตัวรอดในโลกเบี้ยวๆไง

เรื่องของ Pane Andov บอกมา เราจะรู้จริงก็ต่อเมื่อมันเกิดเป็นจริงต่อหน้าเราแล้ว

ถ้ามันยังไม่เกิด คิดไปเท่าไรมันก็ไม่รู้จริงอยู่ดี ใช่ปะ แล้วจะคิดไปทำไมกันให้มันวนอยู่ในอ่างความคิด

แล้วเราก็เสียเวลาอยู่ในเรื่องนั้นๆ ก็แค่รู้แล้ววาง ไม่ต้องไปคิด เกิดเป็นจริงแล้ว ก็ค่อยรู้เองว่า

เรื่องนั้นมันเกิดขึ้นแล้วเป็นจริงแล้ว เรื่องไหนถึงเวลาตามที่เขาบอกแล้วไม่เกิด มันก็เป็นเรื่องไม่จริงไง

เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงได้ทุกเรื่อง เพระเราอยู่ในโลกของความจริงไง

ปัจจุบันคือความจริง

 

นั่นดิ อ่านไปเรื่อยๆก็สนุกดี แต่ ก้เหมือนอ่าน นิยายเหมือนกัน

 

สื่อสาธารณะเมืองไทย ไม่เคยเห็นมีใครพูดถึงเลย
ผิดกับในตปท.ที่ปชช. เค้าตื่นตัว เตรียมพร้อมกันมากกว่า
การเตรียมตัวพร้อมรับภัยที่จะเกิด กับการไม่รับรู้ข่าวสาร เรื่องราวอันใด
มันต่างกันมากนะครับ

ของเราหาแค่น้ำมันพีช น้ำตาลทราย ให้เพียงพอกับผู้บริโภค
ตรึงราคาดีเซลอีกนิด ปชช.ตาดำ ๆ ก็พอใจแล้ว
เฮ้อ คิดแล้วเหนื่อย

 

เจ้าดาวดวงนี้มันท่าจะมีแสงในตัวเองเยอะมากเนาะ อยู่ไกล้พระอาทิตย์ยังสว่างจ้าเท่าๆกันเลย

 

ไม่แน่ใจว่าที่นี่ให้โพสลิงค์เว็บอื่นได้ป่าวนะครับ รวมคลิปอาทิตย์สองดวงแต่ละประเทศครับ http://www.muslimthai.com/main/1428/content.php?category=19&id=17062