งานของกลุ่ม "พลังจิต พิชิตภัยพิบัติ"

งานก่อนการเกิดภัยพิบัติ
ขออนุญาต แบ่งงานออกเป็น

1. งานรวบรวมข้อมูล ด้านต่างๆ ในทุกๆด้าน(อยู่ในระหว่างจัดเตรียม โดยคุณกิ๊กและทีมงานหลายๆท่าน)

2. งานประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ข่าวสาร ข้อมูลไปยังกลุ่มทำงานในจุดตามจังหวัดต่างๆ รวมทั้งการสร้างเครือข่ายการสื่อสารต่างๆ เช่นทางวิทยุสื่อสาร และทางวิทยุชุมชน (คุณพรรณราย กำลังดำเนินการอยู่ )

3. งานเผยแพร่ข้อมูลในช่องทางต่างๆ ไปยังประชาชนทั่วไป โดยไม่สร้างความตื่นตระหนก (คุณพรรณราย กำลังวางแผนดำเนินการอยู่)

4. งานประสานงานกันกับกลุ่มอื่นๆที่ได้มีการเตรียมการในเรื่องนี้ไว้ (ผมเองเริ่มการทำงานตรงจุดนี้ไปบ้างแล้ว)

5. งานด้านการฝึกอบรม บุคลากรที่จะมาอาสาช่วยทำงานให้มีความรู้ครอบคลุมทางด้านต่างๆ เช่น
การรับมือกับสถานการณ์ชนิดต่างๆ เมื่อเกิดภัยพิบัติ
การปฐมพยาบาล และการกู้ชีพ เบื้องต้น
การใช้อุปการณ์สื่อสารชนิดต่างๆ
(ซึ่งจะทะยอยจัดอบรมในการนัดหมายในแต่ละครั้งตามความเหมาะสม)

6. การฝึกฝนทางด้านจิต สมาธิ คุณธรรม การประยุกต์การใช้พลังจิตสมาธิในการรักษาผู้ป่วย พลังในการปกป้อง คุ้มครองบุคคลอื่น ( ดำเนินการฝึกอยู่ และจะมีการแนะนำการฝึกในการประชุมแต่ละครั้ง ในความเป็นจริง มีการขอฝึกสมาธินอกรอบ โดยการจัดเวลานัดหมายกับผม ตามความสะดวก ตอนนี้มีอยู่ เจ็ด แปด ท่านที่ฝึกพิเศษ ครับ)

7.การวางแผนวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้มา เพื่อนำมาจัดการให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด เพื่อหาศักยภาพในการทำงาน รวมทั้งหาทางแก้ปัญหาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในการทำงาน (ตอนนี้ ยังไม่ได้ข้อมูลจากกลุ่มตามจังหวัดต่างๆ แต่คาดว่าหลังปีใหม่คงมีข่าวดีในการรวมตัวกันได้ของกลุ่มต่างๆครับ)

8. การวางแผน การวิเคราะห์ความเสี่ยงในแต่ละจุดที่เป็นสถานที่หลบภัย โดย การวิเคราะห์จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และ การใช้พลังจิตตรวจสอบ (เพื่อลดอัตราเสี่ยงให้มีน้อยที่สุดครับ)

9. การลงพื้นที่ ดูสถานที่จริง เพื่อการดำเนินงาน ปรับปรุง ซ่อมแซม จัดสร้าง สถานที่หลบภัยตามจุดต่างๆ ( คาดว่าตั้งแต่ปีหน้า 50 น่าจะเริ่มการลงพื้นที่ครับ)

10. งานรวบรวม และขนส่ง จัดเตรียม ทรัพยากรไปยังสถานที่ตามจุดต่างๆ

11. การทดสอบระบบ ทดลองใช้งาน ทดลองอยู่ ในสถานที่หลบภัยนั้นๆ เพื่อแก้ไขปัญหาที่อาจมี

12. การสร้างศูนย์เฝ้าระวัง เหตุการณ์ภัยพิบัติ ของพวกเรา (ซึ่งตอนนี้คุณFalkman ได้ทำหน้าที่นี้อยู่ แต่คงต้องอาศัยท่านที่เป็นเจ้าหน้าที่ธรณีวิทยามาช่วยกันอีกแรงหนึ่งด้วยครับ)

13.การแจ้งเตือน เมื่อมีสัญญานบ่งชี้ถึงอันตรายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากภัยพิบัติประเภทต่างๆ เพื่อการเตรียมตัวอพยพ โดยอาจใช้รหัสสี แบบสากล เขียว เหลือง ส้ม แดง

นี่เป็นงานคร่าวๆที่คงต้องขอความร่วมมือในการช่วยกันวางแผน การทำงาน การมาช่วยกันจัดขั้นตอนการทำงาน รวมทั้งขอแรงอาสาสมัครเข้ามาช่วยกันรับผิดชอบงานในแต่ละด้านให้มีผลสูงสุดต่อส่วนรวมครับ

มีข้อเสนอแนะอะไรที่เป็นประโยชน์ก็ขอเชิญช่วยให้ข้อคิดเห็นได้เลยครับ ข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นผมขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียวครับ

 

ส่วนถ้าการวางการทำงานเป็นระบบทีมคงต้องวางเป็น

1. ทีม ข่าวสารข้อมูลและการเฝ้าระวังเหตุการณ์
2. ทีมประชาสัมพันธ์และการสื่อสาร
3. ทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางทางด้านต่างๆ เช่นทีมนักปฏิบัติธรรม นักพลังจิต นักธรณีวิทยา ทีมช่าง เป็นต้น
4. ทีมทำงานภาคสนาม ในการสร้างการเตรียมสถานที่ปลอดภัย
5. ทีมสนับสนุนทางด้านต่างๆ
6. ทีมกู้ภัย และปฐมพยาบาล
7. ทีมพลาธิการ

ประมาณนี้ครับ ใครที่มีความคิดเห็นอื่นที่เป็นประโยชน์ช่วยมา ช่วยกันหน่อยครับ

 

เรื่องแต่ละจังหวัดมีสถานที่ที่ปลอดภัยตรงไหนบ้าง?

เรื่องนี้ผมว่าเกินความสามารถที่พวกเราจะรู้ได้ ว่าที่ตรงไหนปลอดภัยจริงๆ เพราะบางพื้นที่เราคิดว่าปลอดภัยจากน้ำท่วมแล้ว อาจไม่ปลอดภัยจากแผ่นดินไหว หรือลมพายุ เช่นทอร์นาโด ไต้ฝุ่น หรือไม่ปลอดภัยจากเชื้อโรคอาวุธเคมีชีวภาพ และบางพื้นที่ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ แต่อาจไม่ปลอดภัยจากมนุษย์ด้วยกันเองที่เข้ามาปล้นจี้ ยื้อแย่งอาหารที่พวกเราได้เก็บสำรองเอาไว้

ทางที่ดีคุณคณานันท์ ช่วยสอบถามจากองค์พระท่านว่าที่ตรงไหนจะปลอดภัยจริงๆ บ้าง จะได้ใช้เป็นแหล่งหลบภัยและเก็บเสบียงอาหาร ได้อย่างไม่ต้องเป็นกังวล ว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้คนให้รอดพ้นจากภัยพิบัติได้จริงหรือไม่ครับ

 

ใช่ครับ ถูกต้องตามที่คุณเกษมได้ให้ข้อคิดเห็นครับ

ดังนั้นการดำเนินการ เรื่องสถานที่นั้นผมขออนุญาตอธิบายขั้นตอนดังนี้

1. รวบรวมรายชื่อสถานที่ ที่ตั้ง พิกัดต่างๆ เช่นพิกัด GPS ความสูง ทรัพยากร การรองรับคน โดยต้องขอให้กลุ่มต่างๆในพื้นที่ช่วยกันเป็นฝ่ายช่วยรวบรวมข้อมูลครับ

2.นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ทางวิชาการ โดย นักธรณีวิทยา ซึ่งขณะนี้มีคุณ Cattbewer ท่านหนึ่ง และคุณFalkman ซึ่งอาสามาช่วยงาน โดยอาจใช้ข้อมูลเชิงสติถิ และการเช็คตำแหน่งผ่านการเปรียบเทียบกับแนวรอยเลื่อนต่างๆ รวมทั้งลักษณะทางกายภาพของสถานที่นั้น เช่นร่องน้ำ ทางน้ำต่างๆครับ

3.จากนั้นก็มาตรวจดูด้วยการถามพระท่านว่ามีจุดใดที่ปลอดภัย จากภัยอะไรบ้าง การถามพระ ผมขออนุญาตขอบารมี ความรู้ครูบาอาจารย์ท่าน เช่น หลวงพี่อนันต์ หลวงพี่โอ หลวงพี่เล็ก หลวงพี่สมปอง เป็นอาทิครับ เมื่อถึงเวลาท่านน่าจะเมตตาช่วยสงเคราะห์พวกเราครับ

4.ถ้าพอจะปรับปรุง ตั้งรับกับปัญหาและแก้ไขได้ ก็แจ้งให้สถานที่แห่งนั้น ทราบและปรับปรุง

แต่ถ้าจุดดังกล่าวโดนเต็มๆ ก็สมควรย้ายหรือหาที่ปลอดภัยแห่งใหม่

เท่าที่พอทราบมา ในบางสถานที่อาจจะต้องขยับตามภัยพิบัติต่างๆประมาณ สามครั้งครับ ผมใช้คำว่า "ขยับ"ครับ

เช่น ในบางสถานที่ช่วงการเกิดแผ่นดินไหวก็ยังอาศัยในที่ราบที่โล่งและปลอดภัยกว่า พอเริ่มมีการยิงนิวเคลียร์ ก็ขยับเข้าไปอยู่ในหลุมหลบภัยบ้าง ถ้ำบ้างครับ

5. กลุ่มทำงานของเราเมื่อได้ให้ข้อมูล การวิเคราะห์ความเสี่ยงและแนวทางการปรับปรุงสถานที่ให้ปลอดภัย มีศักยภาพสูงสุดแล้ว

6.กลุ่มทำงานลงพื้นที่เพื่อช่วยประเมินให้อีกครั้งครับ เพื่อทำความรู้จักและการประสานกัน ช่วยเหลือกันเมื่อเกิดเหตุการณ์ครับ

อันที่จริงแล้วภัยจาก"คน"นี่แหละครับที่น่ากลัวที่สุด ต้องช่วยกันหาทางป้องกันแก้ไข ในยามที่คนไม่มีศีลธรรม ไม่มีกฏหมาย ใช้แต่ กิเลสและสัญชาติญาณไม่ต่างกับสัตว์ เราจะทำอย่างไรกัน ในการป้องกันภัยนั้น และระวังใจของเราไม่ให้กลายเป็นอย่างนั้นเสียเอง

นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมเราจึงต้องแนะนำผู้คนในช่วงนี้เท่าที่ทำได้ให้คนเข้าถึงความดีแม้เล็กน้อยที่สุด และไม่ไปทำลายกำลังใจในการทำความดีของผู้อื่น ส่งเสริมการทำความดีของผู้อื่น ให้เป็นเหมือนวัคซีนแห่งความดีที่อาจช่วยยับยั้ง อกุศลจิตของพวกเขาเมื่อถึงเวลานั้นครับ

 

ครับ ผมก็ว่าดีเหมือนกัน

 

งั้นขออนุญาตให้คุณ BoKoช่วยประสานงานจัดตั้งกลุ่มทางชัยภูมิด้วยครับ เพราะเท่าที่ทราบ ที่ถ้ำวัวแดงจะเป็นจุดใหญ่จุดหนึ่งซึ่งมีผู้ไปหลบภัยเยอะ ถ้าไปแถบนั้นช่วยไปสำรวจถ้ำต่างๆแถบนั้นด้วยครับ จากที่ทราบ มีพระ และผู้ปฏิบัติธรรม ไปเปิดถ้ำเพิ่มอีกเป็นสิบๆจุดแล้ว รบกวนช่วยรวบรวมข้อมูลตรงจุดนี้ให้หน่อยครับ

ขอโมทนาบุญด้วยครับ ในควาตั้งใจที่ดีต่อส่วนรวมของทุกท่านครับ

 

ครับผมจะรวบรวมข้อมูลให้ดีและเร็วที่สุดครับ

 

ขออนุญาตรายงานการทำงานของตัวผมเองบ้างครับ

เมื่อวานนี้ได้ไปที่บ้านสายลม เพื่อทำบุญถวายสังฆทาน และได้นัดหมายทำการฝึกพิเศษ ด้านสมาธิให้น้องเคน นรินเวทย์กับน้องนาคามูระครับ โดยนัดว่าให้น้องทั้งสองฝึกมโนมยิทธิของบ้านสายลมเสร็จก่อนแล้วผมจะช่วยเสริมให้ครับ ระหว่างที่รอให้น้องฝึกกรรมฐานเสร็จ ก็บังเอิญ เจอกับพี่ตั้ม Tamsak และเพื่อนพี่ชื่อพี่เล็กครับ ก็เลยได้คุยกัน พี่ตั้มมาซื้อหนังสือธรรมมะเพื่อจัดส่งไปถวายพระสงฆ์ที่ท่านอยู่ทางสามจังหวัดทางใต้ครับ ผมก็เลยได้ร่วมทำบุญไปกับพี่ตั้ม และขอให้ถือว่าผมได้ร่วมทำบุญแทนพวกเราทุกๆคนนะครับ เพราะถือว่าเราร่วมสร้างบารมีเพื่อส่วนรวมด้วยกันแล้ว บุญใดที่คนใดคนหนึ่งได้สร้างได้บำเพ็ญก็ขอให้ทุกๆท่านยินดี โมทนาและมีส่วนร่วมในกุศลเช่นเดียวกันครับ

หลังจากนั้น เราก็ได้ฝึกสมาธิ โดยการแนะนำ อารมณ์กสิณครับ โดยการเริ่มที่กสิณดิน เนื่องจากเคยได้กันมาในกาลก่อนกันหลายท่าน และขอให้อย่าลืมการบ้าน โดยการทำให้ครบสิบกอง นะครับ

ส่วนงานเพื่อส่วนรวม ผมได้ไปคุยกับลูกหลานท่านเจ้าของบ้านสายลม ซึ่ง บังเอิญเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนจิตรลดา ผมได้เล่าเรื่องงานที่เราได้มีการรวมตัวกัน เพื่อการช่วยเหลือผู้คน เมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติ และสงครามนิวเคลียร์เกิดขึ้น ซึ่งทางคุณดาวก็มีความสนใจ รับฟัง และผมได้จดชื่อเวบไซท์พลังจิตให้กับคุณดาวไว้ เพื่อติดตาม การทำงาน คาดว่าจะช่วยให้การประสานงานกับทางวัดสะดวกราบรื่นขึ้น

ส่วนวันนี้ ผมไปที่ "บ้านตลิ่งชัน" ไปกราบหลวงพี่สมปองท่าน และกราบเรียนถามท่านเรื่องการทำงานในจิต พอถึงเวลาที่ท่านสอนมโนมยิทธิท่านก็ได้เมตตาบอกบางสิ่ง บางอย่างในการปฏิบัติให้หลายประการครับ

โดยเฉพาะท่านสอนเรื่อง "กำลังพระ" ที่จะช่วยคุ้มครองในยามที่จะเกิดกัมมันตภาพรังสี สำหรับท่านที่ไม่คลาดจากพุทธานุสติ รายละเอียดผมขออธิบายอย่างละเอียดในกระทู้ วิชชาที่ทำให้อยู่รอดจากภัยพิบัติครับ

นอกจากนี้ท่านก็ได้เมตตาให้พระสมเด็จองค์ปฐมกับผมครับ ท่านที่อยากได้รีบไปกราบท่านเร็วหน่อยครับ ก่อนที่จะหมด

ส่วนตอนนี้ท่านอื่นๆ ทางสายหลวงพ่อท่านกำลังฝึกวิปัสนาญาณกันอย่างเข้มข้นครับ ถึงตอนนี้หลายๆท่านจะไม่สนใจเรื่องภัยพิบัติ เพื่อไม่พวักพะวง แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น ท่านเหล่านี้จะมาช่วยกันอีกหลายท่านครับ

 

เมื่อวานได้ไปหา อ.ตาที่สาม ได้พบน้อง Nakamura และ Narinwet รวมถึงพี่ Tamsak และพี่ Billyy สวนทางกับคุณเม้าตาอินหน่อยเดียว ได้พูดคุยกันสนุกสนานมากครับตามประสาชาวพลังจิต วันนี้ผมไปฝึกมโนฯ บ้านซอยสายลมมาครับ คนไปทำบุญเยอะมาก เห็นแล้วก็รู้สึกโมทนาบุญไปด้วย เมื่อได้ไปก็รู้สึกจิตสงบขึ้นมาก และรู้สึกเหมือนได้เตรียมพร้อมกับการรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้าได้เป็นอย่างดี

 

อนุโมทนาด้วยนะครับ

 

รายงานความคืบหน้าพิมพ์

ผมจะสั่งทำพิมพ์เพิ่มอีกหนึ่งพิมพ์(พิมพ์กรรมการ)จะแจกเฉพาะทีมงานช่วยเหลือเรื่องภัยพิบัติ

 

ข้อควรปฏิบัติของประชาชนทั่วไปในการป้องกันและรับมือกับสถานการณ์การก่อการร้าย

1.ช่วยกันสังเกตุ ความผิดปรกติที่อาจเกิดขึ้นในสถานที่ที่มีคนชุมนุมกันพลุ่กพล่าน เช่น การที่มีบุคคลที่มีการทำลับๆล่อๆ นำสิ่งของที่ดูมีพิรุธมาวางซุก หรือแอบไว้ แล้วรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็วผิดปรกติ

2.สังเกตุดูสิ่งของที่มีผู้นำมาวางแอบไว้ และไม่มีผู้เป็นเจ้าของ

3. ถ้าพบให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็ว อย่าไปหยิบ เปิด หรือเคลื่อนย้ายข้าวของหีบห่อนั้นโดยเด็ดขาด

4. เมื่อไปในสถานที่ใดให้ ฝึกการเป็นคนช่างสังเกตุ ในการหา"ทีหนีทีไล่"ไว้บ้าง เช่น

สังเกตุหา ทางออกฉุกเฉินของสถานที่นั้นๆ

ถ้าโดยสารรถไฟฟ้า ก็ให้พยายามยืนอยู่ใกล้ทางออก เข้าไว้ และดูวิธีในการเปิดประตูฉุกเฉินไว้บ้าง ว่ามีวิธีการอย่างไร

ถ้าโดยสารเรือข้ามฟาก ก็ขอให้พยายามยืนใกล้ด้านข้างของเรือ และสังเกตุ เล็งตำแหน่งของอุปกรณ์ชูชีพไว้

หากทำงานในตึกสูงควรศึกษาหาทางออก ทางหนีภัยที่รวดเร็วที่สุดไว้ อย่าได้ละเลย การซ้อมหนีภัยที่กฏหมายบังคับให้มีการจัดในทุกๆตึก

ฝึกความคิดตนเองไว้บ้างว่า ถ้าเกิดสถานการณ์อย่างนี้ในสถานที่แบบนี้เราจะทำอย่างไร ทำอะไรก่อน อะไรหลัง

5. พกพาอุปกรณ์เหล่านี้ไว้ในกระเป๋า เพื่อใช้ในเวลาฉุกเฉิน เพื่อช่วยตัวเอง หรือบุคคลใกล้เคียง

-ไฟฉาย LED เล็กๆ อาจอยู่ในรูปพวงกุญแจ เพื่อใช้ในยามที่ท่านติดอยู่ในความมืด
-มีดพับเอนกประสงค์เล็กๆ
- น้ำดื่มหนึ่งขวด
-อาหารแห้งจำพวก บาร์อัดแท่งธัญพืช
-นกหวีด เพื่อใช้ขอความช่วยเหลือ
-ผ้าเช็ดหน้าที่สามารถใช้ ปิดปากปิกจมูกกันควันไฟในกรณีเกิดเพลิงไหม้ หรือ ใช้แทนผ้าพันแผลในกรณีได้รับบาดเจ็บ
เรียนรู้ที่จะใช้อุปกรณ์เหล่านี้ว่าจะใช้ได้อย่างไรในสถานการณ์ไหน

5. ในช่วงที่สถานการณ์ไม่ปรกติ ให้พยายามหลีกเลี่ยงที่ชุมนุมของคนจำนวนมากๆ

6. ฝึกฝนร่างกายของเราให้แข็งแรง ออกกำลังกาย ยกเวท ฝึกวิ่ง ว่ายน้ำไว้บ้าง

7.มีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้นติดตัวไว้บ้างก็เป็นการดี ต่อตนเอง และบุคคล ใกล้ตัว

8.การช่วยกันเป็นหูเป็นตา และการช่วยเหลือส่วนรวม เป็นสิ่งที่ควรทำและเป็นการป้องกันเหตุร้ายก่อนที่จะเกิดขึ้น

ขอให้ทุกท่านปลอดภัยกันทุกคนครับ

(verygood)

ช่วยกันส่งเมล์ต่อๆกันไปเพื่อเตือนคนอื่นๆครับ ขออนุญาต ลงซ้ำในกระทู้ที่เกี่ยวข้องครับ ตัดแต้มก็ได้ ไม่เป็นไร ช่วยคนสำคัญกว่าครับ<!-- / message --><!-- sig -->

 

อนุโมทนาสำหรับข้อมูลที่ให้มานะครับ

 

อนุโมทนา สาธุ ด้วยคนค่ะ

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ

ขอบคุณสำหรับน้ำใจของเพื่อนมนุษย์

อย่างน้อยก็ยังมีเรื่องดีๆ อยู่บ้าง

แบบนี้ค่อยมีกำลังใจหน่อย^^

เพราะบางทีทำดีแล้วไม่ได้ดี บางทีมันก็ท้อน่ะค่ะ

แล้วมาอยู่เมืองนอกรู้สึกท้อมาก เพราะเจอแต่คนเห็นแก่ตัว

คนไทยด้วยกันพ่อแม่เรายังโดนโกงมาแล้ว


>>> พ่อเราก็เคยพูดน่ะ ทำดีแล้วไม่ได้ดีสักที บางทีมันก็ท้อเหมือนกัน
แต่ก็ต้องทำ สงสัยว่ากรรมเก่าจะเยอะ

 

อยากจะขอเสนองานของกลุ่มเพิ่มอีกเรื่องครับ

นอกจากเรื่องการป้องกันหรือเตรียมพร้อมทางจิตและทางกายแล้ว
น่าจะมีเรื่องการช่วยบรรเทาภัยที่จะเกิดขึ้นให้เบาบางลงด้วยครับ
พวกเราคงเคยได้ยินเรื่องราวของพลังจากปิรามิดกันมาบ้างแล้ว
เนื่องจากเบื้องบนท่านเคยบอกเสมอๆว่า การนำรูปทรงปิรามิดเข้ามาใช้นั้น
จะช่วยลดความรุนแรงของภัยภิบัติได้มากพอดูครับ..คล้ายๆกับการฝังเข็มพลังงานด้านบวกลงบนพื้นที่บริเวณนั้นๆ..ให้มีพลังแผ่ครอบคลุมเสริมด้วยอีกทางหนึ่ง

การบรรเทาเหตุจากภัยของพลังจักวาล ต้องใช้พลังจักรวาลตั้งรับเอาไว้ครับ ซึ่งเป็นพลังชนิดเดียวกัน หรือการนำวัตถุธาตุอัศจรรย์ใส่เอาไว้ในปิรามิดแก้ว หรือมียันต์ของหลวงปู่โลกเทพอุดรติดไว้รอบๆปิรามิด หรือการเพ่งสมาธิรวมกันทั้งสี่ด้าน ให้เกิดพลังงานเสริม อะไรแบบนี้ครับ..นีก็เป็นสิ่งที่จะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นครับ อาจเป็นเรื่องเหลือเชื่อครับ แต่เบื้องบนท่านแนะนำไว้เช่นนี้ครับ..อาจนำมาประยุกต์ใช้ได้นะครับ เพื่อให้สถานนั้นๆปลอดภัยขึ้น

 

ในยุคก่อนนั้นปิรามิดที่อียิปต์ก็อาจสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยบรรเทาภัยภิบัติ และช่วยยับยั้งสถานการณ์โลกในตอนนั้นเอาไว้ได้มาแล้วครั้งหนึ่ง โลกเราอาจเคยมีบทเรียนมาแล้วก็เป็นได้ครับ..

รูปทรงปิรามิดนี้ อาจเป็นอีกหนทางหนึ่งที่เราน่าลองสร้างกันครับ ขนาดฐานปิรามิดแก้วอาจจะ 1x1m.แล้วแต่ความเหมาะสมครับ อาจารย์ศักดา สกุลพนารักษ์ ท่านก็ทำแบบนี้มาแล้ว แต่ท่านสร้างขนาดเล็กๆติดไว้บนยอดเจดีย์แห่งหนึ่งที่อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานีครับ ท่านบอกว่า ถ้าสร้างฐานได้ขนาด 9x9 m นี่ พลังงานทีเปล่งก็อาจช่วยได้ทั้งประเทศเลยครับ..ลองพิจารณาดูกันครับ..ถ้าคิดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ดูงมงายจนเกินไปครับ..หรือจะนำไปปรึกษาเบื้องบนก่อนก็คงดีครับเรื่องนี้..จะได้มั่นใจขึ้นครับ

แต่เรื่องนี้อาจใช้งบประมาณบ้าง เราเพียงแค่ทำโครงสร้างโลหะทรงปิรามิดแล้วทำปิรามิดแก้วเล็กๆไว้บนยอด แต่อาศัยสร้างกระจายออกไปหลายๆแห่งตามพื้นที่ต่างๆที่หลบภัยก็ได้ครับ..อันนี้เสนอดูเผื่อจะเป็นประโยชน์ครับ

 

ผมก็เห็นด้วยนะครับ เรามาลองทำกันดูหน่อยมั๊ย

 

ใครที่

ใครที่จะส่งมวลสารมาช่วยในการพิมพ์พระ รีบส่งให้ทันเดือนมกราคมนี้นะครับ เพราะจะเริ่มกดพิมพ์พระต้นๆเดือนกุมภาพันธ์นี้ ยังไงก็ขออนุโมทนากับผู้ที่ร่วมส่งมวลสารในครั้งนี้ด้วยนะครับ สวัสดีครับ

 

อะไรเหรอค่ะ มวลสาร