เพลง กากับนกยูง สมยศ ทัศนพันธ์

วันเสาร์นี้ขออนุญาตนำเพลงกากับนกยูง ของคุณสมยศ ทัศนพันธ์ ขับร้อง/คำร้องและทำนอง เพื่อเปลี่ยนแนวบ้างนะครับเห็นชื่อเพลงเป็นชื่อสัตว์ทั้งนั้นจากเสือมาเป็นกากับนกยูงบ้าง มาในเวอร์ชั่นเพี้ยนๆของ sam_sbcc บันทึกไว้เมื่อ 7 ธันวาคม 2553 ขอเชิญรับฟังครับ

เพลง กากับนกยูง
สมยศ ทัศนพันธ์ ขับร้อง/คำร้องทำนอง

..เจ้ากาขนดำอวดทำหยิ่งนัก
หมายมียศศักด์ ใฝ่สูง
อวดดีมิเบาเก็บเอาขนยูง
เข้าแซมหมายมุ่ง แต่งปรุงขนเทียม ยูงทอง

..เสร็จพลันเยื้องกราย
เข้าไปร่วม ฝูงนกยูงเห็นต่าง จ้องมอง
เจ้ากามิเกรงกับทำ คะนอง
ซ้ำยังลำพองอวดมีขนทอง เฉิด ฉาย

..ถูกเย้ย ถูกเย้ากระเซ้าให้เจ็บ
ทั้งแนมทั้งเหน็บ ให้เจ็บให้ปวด
อวดทั้งกรีดกลายอับเฉา อีกซ้ำ
ชอกช้ำที่กลายทั้งเจ็บทั้งอาย
นกยูงร้องตีหนีไปในดง

..รีบดึงขนยูงออกจากกายา
หวนมาหมายพึ่งเผ่า พง
เพื่อนชังมิยอมร่วมในฝูงพง
ซ้ำไล่ตีส่งเจ้าจึงสูญพง พวกกา

(ดนตรี.....)
..รีบดึงขนยูงออกจากกายา
หวนมาหมายพึ่ง เผ่าพง
เพื่อนชังมิยอมร่วมในฝูงพง
ซ้ำไล่ตีส่งเจ้าจึงสูญพง พวก กา..

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1340995/[/MUSIC]

[AUDIOPLUS=]

 

cut cut cut ตัดริบบิ้นให้คุณแซมมี่หน่อย...
เนื้อเพลงมีความหมายดีนะ...กายังไงก็เป็นกา เป็นนกยูงมิได้...
ให้กำลังใจค่ะ...

 

เพลงนี้บ่าเกยได้ยิน แต่ก่อฟังม่วนเจ้า

 

แง่ะ ว่าเราไมอ่ะ น่า...ไงก็นกเหมือนกันเน๊าะ
ก็ว่างๆไม่มีไรทำลองเป็นนกยูงดูมั่งแก้เซ็งอ่ะพี่แซม(smile)

 

ตอนเด็กๆ ชอบฟังเสียงการ้องมาก แล้วก็สงสัยว่า ทำไมหนอ คนเราถึงเปรียบเปรยกาว่าไม่ดีอย่างนั้น ไม่ดีอย่างนี้ หรือเพียงแค่กามีขนสีดำ

 

คำเขาว่า.......ดูละครแล้วย้อนดูตัว แต่วันนี้ขอเสนอคำว่าฟังเพลงแล้วย้อนดูตัว เพื่อเตือนสติค่ะ.......เนื้อหาสอนคนได้ดี ส่วนนักร้องไม่ต้องพูดถึงเสียงดีฟังเพราะตลอดค่ะ

 

เพลงอมตะ แถมร้องได้น่าฟังอีกต่างหาก.........เพราะๆๆๆครับ

 

ขอบคุณครับ คุณpporjai(+r) ที่มาเป็นประธานตัดริบบิ้นเพลงกากับนกยูง....ฉับ ฉับ เพลงได้ให้ข้อคิดได้ดีนะครับ กาอยากเป็นหงส์บ้างนกยูงบ้าง ก็น่าสงสารที่คิดว่าตัวเองคงอัปลักษณ์ น่าจะทำตัวเองให้เป็นจุดเด่นที่น่ารักแต่ก็ไม่ทำ กลับอยากไปสวยงามอย่างเขาบ้างจนลืมคิดไปว่าตนยังคงเป็นกาอยู่..คิดได้ก็สายไปแล้วเพื่อนๆหายหน้าไปกันหมด..โถๆๆๆๆ..สงสารจังเลยนะครับ

​

 

เพลงบ่าเก่าแต้ๆเน้อน้องพิม มีความหมายจ๊าดดี ตี้จริงอีกามันก่องามในลักษณะของมันแต่มันเจ้าเล่ห์พ่องเน้อ ละอ่อนสมัยนี้ถ้าจะบ่าเกยหัน บ่ฮู้จักมันแระ..อิอิ

​

 

นกแก้วก็สวยอยู่แล้วนะมีหลากสีด้วยและมีความสามารถพูดได้อย่างคนด้วยนกแก้วทางเหนือเรียกนกแลนะครับ..อิอิ

​

 

เพลงสมัยก่อนเค้าช่างเปรียบเปรยและให้ข้อคิดดีจังครับ
ฟังแล้วได้ทั้งความไพเราะทั้งข้อคิด....
ชอบจังครับ

 

คนเราจะดูกันที่ความสวยงามไว้ก่อน นกยูงมีความสง่าสวยงามเมื่อยามรำแพนหานกที่จะมีความสวยงามกว่ายากนัก ส่วนหงส์นั้นก็มีรูปร่างที่สง่างามมีขนปกคลุมสีขาวสะอาดเสมือนความมีสกุล สำหรับกานั้นตัวดำอัปลักษณ์จึงคิดอิจฉาอยากจะเป็นอย่างเขาบ้าง..อิอิ เพลงนี้คงได้เตือนสติบางคนได้นะครับ

​

 

ความหมายดีมากๆขอรับคุณแซม เพิ่งเคยฟังครั้งแรก แต่ก็เพราะมากๆครับ

 

มาฟังเพลงเพราะๆด้วยคนค่ะ เพิ่งเคยฟังครั้งแรก เชยมั้ยเนี่ยอิอิ

 

เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมค่ะ แต่ฟังแล้วเรานึกถึงนิทานเรื่อง "กากับหงษ์"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การกระทำใดๆ โดยไม่คำนึงถึงพื้นเพตัวเอง ย่อมนำความทุกข์มาให้ตนเองเสมอ...

​

 

ขอบคุณครับ ละครกับเพลงก็จะคล้ายกันนะครับเพลงนอกจากแต่งเกี่ยวกับความรักความผิดหวังความเศร้าความสนุกก็ยังมีการให้คติข้อคิดไว้เหมือนกัน แต่ก็มีน้อยมากส่วนมากจะไปทางความรักความผิดหวังมากกว่านะครับ...ที่จริงกาก็มีความเป็นจุดเด่นอยู่เหมือนกันไม่อย่างนั้นคนเราคงไม่ไปเอามาใช้เรียกชื่อสิ่งต่างๆกันเช่น กาน้ำ,กาลักน้ำ,ปากกา,ตีนกา(คนแก่),กากะบาด...แหะแหะ แต่คงไม่ใช่กาแฟนะ..คริ คริ

​

 

ขอบคุณครับ เพลงเก่าๆน่านำมาร้องกันนะครับ กลัวจะหายสาปสูญไปเพราะไม่มีคนนำมาร้องกัน เหมือนอีกาก็กำลังจะสูญพันธุ์..อิอิ

 

ขอบคุณครับ เรื่องอีกามีนิทานเล่าให้ฟังกันมากมายเพราะความที่อีกามันพยายามจะทำตัวมันให้เด่นเช่นผู้อื่นซึ่งตัวมันคิดว่ามันต้องทำได้ดีกว่าด้วย แต่กาก็คือกาจะเป็นนกอินทรีย์ได้อย่างไร....หุหุ ดังนิทานเรื่องนี้ :-

นกอินทรีย์ตัวหนึ่งบินโฉบลงมาจากหน้าผาและใช้กรงเล็บขาของมันจับลูกแกะไป อีกาเห็นเช่นนั้นจึงคิดว่าเป็นเรื่องง่ายและตนก็สามารถทำได้อย่างนกอินทรีย์ดังนั้นมันจึงบินลงมาที่แกะตัวใหญ่อ้วนและใช้แรงทั้งหมดของมันจับแกะตัวนั้น ทำให้เล็บขาอีกาติดกับขนแกะไม่สามารถดึงหลุดออกได้ คนเลี้ยงแกะจึงเข้ามาจับตัวอีกาไว้ เย็นวันนั้นคนเลี้ยงแกะนำอีกาตัวนั้นกลับบ้าน เมื่อลูกของเขาเห็นจึงเอ๋ยถามขึ้นว่า “พ่อจ๋า นี่มันนกอะไรหรือ” เขาตอบลูกกลับไปว่า “ลูกต้องถามมันดูเอาเองน่ะ เขาอาจจะบอกลูกว่าเขาเป็นนกอินทรีย์ แต่เราก็เห็นอยู่ว่ามันคืออีกาโง่ตัวหนึ่งเท่านั้นเอง ”

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“บางครั้งผู้ที่ไม่รู้จักประมาณพลังของตัวเอง ก็ย่อมจะต้องพบกับความวิบัติ”

​

 

เนื้อหาเพลงนี้สะท้องสภาพสังคมดีจังครับ เป็นเพลงให้คติสอนใจที่ดีเลยครับ
เพลงนี้เคยฟังต้ฉบับอยู่บ้างเหมือนกัน ฟังแล้วเสียงพี่แซมกับเพลงของคุณสมยศนี้ก็เข้ากันมากครับ ฟังแล้วเพราะเหมือนต้นฉบับเลย ​

 

มะเคยฟังเลยคร้า อันนี้คือต้นฉบับแน่เรยยยยอาแซม อิอิ^-^