ถามเรื่อง หนังสือ คู่มือมนุษย์ของ พุทธทาส น่ะครับ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย kencito, 28 ธันวาคม 2010.

  1. kencito

    kencito เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +954
    พอดีได้มาจากเพื่อนครับ อ่านๆเนื้อความ ดูแล้วท่านปฎิเสธ เรื่องแดนนิพพาน ความเป็นอมตะของจิต จิตเมื่อดับทุกข์แล้วสูญ อย่างมาก แล้วยังบอกว่าขัดทางพระพุทธศาสนาล่ะครับ บอกว่าเป็นลัทธิอื่นๆ ไม่ตรงกับพระพุทธศาสนาอะไรแบบนี้อะครับ ด้วยความเคารพทั้งสองฝ่าย ผมเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีถึงแม้ไม่ได้โดยตรงตอนหลวงพ่ออยู่แต่ก็เข้าถึงคำสอนและมโนมยิทธิ ที่หลวงพ่อให้มา และก่อนหน้ามารู้จักการปฎิบัติสายหลวงพ่อฤาษี ก็ได้อ่านหนังสือของท่่านพุทธทาสมาเยอะ และผลงานท่านก็เป็นที่ยอมรับ เลยอยากทราบว่า ทำไม พุทธทาส ท่านถึงได้ปฎิเสธ เรื่องดังกล่าวครับ เหตุผลเพราะอะไร และผมเคยได้ยินว่า ถ้าใครว่า นิพพานเป็นสูญเป็นมิจฉาทิจฐิ แล้วหยั่งงี้คืออะไรหรอครับ แล้วท่านพระพุทธทาสเป็นอย่างไรอะครับ
     
  2. suhotat

    suhotat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +53
    นิพพานเป็นเรื่องของความเป็นกลาง ความว่างเปล่า เรื่องนี้ที่ท่านพุทธทาสปฏิเสธนั้นถูกต้องแล้ว หากไม่ปฏิเสธ ผู้ที่ปฏิบัติธรรมก็จะเข้าไปยึดมั่นในนิพพานว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ หากเป็นเช่นนั้นแล้วไม่สามารถเข้าสู่กระแสธรรมได้ เรื่องนิพพานนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเกินกว่าจะมาบรรยายเป็นคำพูดหรือตัวอักษร (ความคิดเห็นส่วนตัวนะ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วย)
     
  3. Senseless guy

    Senseless guy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    287
    ค่าพลัง:
    +991
    ถ้าเป็นศิษย์หลวงพ่อ หลวงพ่อ เคยสอนไว้เสมอ ว่า อัตนา โจทยัตตานัง จงกล่าวโทษ โจทย์ความผิด ของตัวเองไว้เสมอ คนอื่นใครจะเป็นยังไง ช่างเขา เราดูที่ตัวของเรา
     
  4. samsong

    samsong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    438
    ค่าพลัง:
    +814
    เรื่องนี้ก็มีท่านผู้รู้ต่างๆๆ รู้ดีว่าใครเป็นอย่างไร

    และท่านเจ้าของกระทู้ได้มโนมยิทธิแล้วก็น่าจะใช้ดูว่าตอนนี้ท่านไปอยู่ ณ ที่ใดจะดีกว่าครับ

    คงไม่เป็นการบังควรที่จะมาโพสข้อความที่หมิ่นผู้อื่นได้ครับ

    อย่างไรก็ตามยึดหลัก อัตตนา โจทยัตตานัง ตามที่ท่านผู้รู้ได้มาตอบดังข้างต้นแล้วครับ

    คงไม่มีประโยชน์ที่จะไปบอกว่าใครถูกผิด

    เชื่อมั่นในคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและคำสอนของหลวงพ่อดีที่สุดครับ

    ของคนอื่นผมไม่ค่อยเชื่อมั่นเลยครับ

    ปล. ที่แนะนำไปผิดถูกอย่างไรขออภัย ณ ที่นี้ด้วย หรือรอท่านผู้รู้อื่นมาตอบก็จะดียิ่งๆๆขึ้นครับ
     
  5. kencito

    kencito เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +954
    ไม่ได้จะดูหมิ่นเลยนะครับ แค่อยากทราบเหตุผลเฉยๆ ท่านพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ทำอะไรย่อมมีเหตุึผล ผมเห็นการเทศนาของท่านสองท่าน ไม่ตรงกัน ก็เลยมาถามความเห็นเผื่อว่าจะมีใครทราบอะไร ไม่ได้ตั้งใจจะัดูหมิ่นอะไร ทั้งนั้น แล้วก็ไม่ได้ถามว่าใครถูกใครผิด แล้วก็ไม่ได้ไม่เชื่อมั่นด้วยครับ ถ้าการถามเป็นการดูไม่ดี ก็ขอประทานอภัยและกันนะครับ
     
  6. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    ถ้าคุณเจ้าของกระทู้ได้มโนมยิทธิ แล้วก็จะรู้คำตอบครับ





    .
     
  7. bestsu

    bestsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +617
    มโนยิทธิอย่างเดียวคงไม่รอด ต้องใช้ปัญญาด้วย
     
  8. Kollanya

    Kollanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +443
    ยืนยันด้วยคนว่าถ้าได้มโนมยิทธิ ..จะรู้คำตอบแน่นอนค่ะ
     
  9. cmhadtong

    cmhadtong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2008
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +2,034
    ของอย่างนี้มันอยู่ที่วาสนาบารมีที่สั่งสมมานะครับ
    ไม่ได้หมายความว่าเจ้าของกระทู้ไม่มีบารมีนะครับ
    แต่เพราะบุญบารมีที่สั่งสมมาดีแล้ว
    ย่อมเป็นปัจจัยให้เดินถูกทาง เป็นทางที่เข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้นะครับ
    ไม่ว่าจะศึกษาคำสอนจากไหนก็ใช้ สติ ปัญญา พิจารณา แล้วปฏิบัติดูครับ
    ว่าเป็นไปตามที่ท่านสอนไหม ก็จะรู้เต็มจิตใจของท่านเอง
    ขอให้เข้าถึงธรรม ตามที่ท่านปรารถนานะครับ
    โมทนาบุญนะครับ
     
  10. aroonoldman

    aroonoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +462
    เรื่องนิพพานสูญในความเห็นของท่านพุทธทาส นั้นถูกต้องในความเห็นของท่าน เพราะท่านศึกษาจากพระไตรปิฎกด้วยตัวท่านเอง
    ท่านเชื่อจากพระโอษฐ์เท่านั้น(อันนี้ขอแทรกนอกเรื่องสักนิดคือเมื่อท่านมาศึกษาพระธรรมที่กรุงเทพฯตอนนั้นท่านมีความคิดที่ว่าพระกรุงเทพฯ
    ต้องเป็นพระดีเมื่อมาเจอพระเลวๆเข้า ท่านจึงกลับไชยาท่านจึงเริ่มศึกษาพระธรรมจากพระไตรฎิกด้วยตัวท่านเอง)
    ส่วนพิพพานสูญหรือไม่ลูกหลานขององค์หลวงพ่อทุกท่านทราบดีคงไม่ต้องกล่าวมากความ และยิ่งท่านที่ได้มโนฯนี้หายสงสัยแน่เพราะไปเจอ
    ของจริงด้วยตัวเอง ก่อนจากขอเอาคำกลอนของท่านพุทธทาสมาให้อ่านกัน
    มองแต่ แง่ดี เถิด
    เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา
    จงเลือกเอา ส่วนดี เขามีอยู่
    เป็นประโยชน์ แก่โลกบ้าง ยังน่าดู
    ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลยฯ
     
  11. วาโยกสินัง

    วาโยกสินัง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +4
     
  12. Pra_THoNG

    Pra_THoNG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    179
    ค่าพลัง:
    +739
    [​IMG]
    ไม่อยากอธิบายยืดยาวนักเอาเป็นว่าน้อยคนนักที่จะรู้ถึงเหตุการ์ณหนึงซึ่งผมเคยได้ยินมาจากศิษย์สายหลวงพ่อฤาษีคนเก่าๆว่ามีครั้งหนึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านให้ศิษย์พานั่งรถไปหาท่านพุทธทาส เข้าใจว่าที่สวนโมกข์ น้อยคนนักที่จะรู้เพราะเป็นการพบกันส่วนตัวพอท่านเจอกันต่างองค์ก็ไหว้ซึ่งกันและกัน และสนทนาธรรมกันอีกกว่า2 ชั่วโมง พอตอนลูกศิษย์พาหลวงปู่ฤาษีขับรถกลับท่านพูดให้ลูกศิษย์ ในรถได้ยินกันชัดแจ๋วว่า "เออ อย่างนี้สิถึงจะคุยถูกคอ"

    ธรรมะท่านพุทธทาสท่านลึกซึ้งและเน้นที่ปัจจุบันมากและอีกประการเหตุที่ท่านสอนลักษณะนั้นเพราะท่านมีวาระที่ต้องการให้ศาสนาพุทธเผยแพร่หลักธรรมเป็นสากลแก่นานาชาติเห็นได้จากที่หนังสือท่านได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆอีกทั้งที่ท่านได้รับการยกย่องจาก unesco

    มีหลายคนที่ปฎิบัติตามแนวคำสอนของท่านและเป็นคนดีในสังคมมีมากมายนั้นเป็นเพราะเขาเหล่านั้นเลือกเอาสิ่งที่ดีโดยไม่เสียเวลากับสิ่งที่ไม่ดีที่พิสูจน์ไม่ได้ ธรรมะของท่านพุทธทาสนั้นเป็นเสมือนมะม่วงที่มีแต่เม็ด ไม่มีเนื้อหวานๆให้ลิ้มรสแต่จะเข้าถึงความขมที่เม็ดเลย


    ของจริงนิ่งเป็นใบ้ อนุโมทนา สาธุด้วยครับ ธรรมะ คือ ธรรมชาติ ประเสริฐโดยแท้ หลายท่านพบกระทู้นี้แล้วเป็นนิมิตรหมายที่ดี ถ้าท่านเคย ปรามาส ท่านพุทธทาสเอาไว้ ขอให้นึกย้อนกลับไป ดูดีๆ ข้อความ ที่เราไม่รู้จริงแล้ว พูดออกไป เวลานี้ หลวงปู่ท่านเมตตา มายืนยันให้แล้ว ว่า ท่านไม่ได้เป็นอย่างที่ บัณฑิตในโลกทั้งหลาย เคยพูดจา จาบจ้วง ล่วงเกิน ท่าน ก็ขอ ขมาท่าน

    Watthummuangna วัดถ้ำเมืองนะ
     
  13. Pra_THoNG

    Pra_THoNG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    179
    ค่าพลัง:
    +739
    [​IMG]
    เมื่อมีคณะศิษย์ของหลวงปู่ดู่ได้เดินทางไปนมัสการท่านพุทธทาสโดยนำสังฆทานพร้อมพระพุทธรูปที่อธิษฐานจิตโดยหลวงปู่เพื่อนำไปถวาย พร้อมคำถามที่จะกราบเรียนถึงเรื่องลึกลับต่างๆ ว่าจะมีจริงหรือเป็นตามคำเล่าลือหรือไม่ว่าท่านไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้

    ผู้คนไปนมัสการท่านมาก เป็นปกติของพระผู้ใหญ่คณะที่ไปจัดแจงนำสังฆทานเข้าไปถวายเมื่อเห็นว่าปลอดคน ท่านพุทธทาสรับสังฆทานเสร็จเรียบร้อยท่านถามว่า "พระนำมาจากไหน" เมื่อได้รับคำตอบจากคณะศิษย์ ท่านพูดขึ้นมาว่า "เรื่องนี้ต้องคุยกันนาน ไว้ตอนกลางคืนมาคุยกันใหม่" สรุปว่ายังไม่รู้คำตอบที่แท้จริงเพราะภายในวัดสวนโมกข์ไม่ค่อยมีการสร้างพระพุทธรูปและวัตถุมงคลต่างๆ

    ตกกลางคืนตามที่ท่านนัดหมายเมื่อคณะศิษย์ของหลวงปู่เข้าไปกราบท่านท่านจึงพูดขึ้นว่า

    "เราเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าจะปฏิเสธเรื่องของพระพุทธเจ้าไม่ได้นรก สวรรค์นั้น ก็เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าเป็นจริงชาตินี้ ชาติหน้า แม้แต่ยุคพระศรีอาริย์ก็มีจริงแต่เราเล็งเห็นความหยาบของจิตในมนุษย์เหล่านี้เราเลยไม่สอน สอนแต่บรมธรรมของพระพุทธเจ้าเท่านั้น"

    คณะที่ไปกราบรับฟังและพร้อมกับขอขมาโทษในองค์ท่านเพราะทุกคนไม่คิดจะได้ฟังประโยคเหล่านี้ ทำให้หมดสงสัย

    ซึ่งตรงกับที่หลวงปู่ดู่เคยพูดไว้เมื่อมีลูกศิษย์ของท่านกล่าวเชิงวิจารณ์ท่านพุทธทาสโดยท่านเตือนว่า



    "อย่าไปประมาทท่าน ท่านก็มีดีของท่าน เราไม่รู้จริง เดี๋ยวเป็นบาปนะแก"

    Watthummuangna วัดถ้ำเมืองนะ
     
  14. aroonoldman

    aroonoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +462
    ได้อ่านขอความของทุกท่านแล้วด้วยความเคารพในความเห็นของทุกท่าน
    เรื่องนิพพานสูญหรือไม่สูญนี้เกือบทำให้หลวงพ่อของเราเกือบถูกปรับเป็นอาบัติปราชิกมาแล้ว
    เรื่องนี้คงสืบเนื่องมาจากหนังสือประวัติหลวงปู่ปานที่หลวงพ่อเขียนเมื่อ๒๕๑๕
    ด้วยหลวงพ่อคงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้าท่านจึงใช้ชื่อ"ฤาษีลิงดำ"ผู้เขียน
    และผู้ที่เข้ามาดูกระทู้ในห้องนี้ผมเข้าใจว่าเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อเป็นส่วนใหญ่
    อาจมีขอความใดไม่เป็นที่พอใจก็ต้องขออภัยการเขียนบางครั้งก็มีอารมณ์ด้วยยังไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า
     
  15. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    ผมไม่รู้จะบอกอย่างไรนะครับ....แล้วแต่ทัศนะของแต่ละครูบาอาจารย์นะครับ.....เพราะพระอรหันต์เขาก็แบ่งเป็น ๔ แบบ ความสามารถก็แตกต่างกัน....แต่สถานะภาพไม่ต่างกัน.....

    พระอรหันต์สุขวิปัสโก ท่านไม่เห็นโลกทิพย์หลอกครับ...... เรื่องนิพพานก็มีหลายทัศนะ ......อันนี้ผมไม่ขอแสดงทัศนะนะครับ.....แต่ผมชอบคำพูดหนึ่งของหลวงปู่ครูบาชัยวงศ์พัฒนาคือ

    " นิพพานไม่ใช่อัตตา นิพพานเป็นปัจจัตตัง"

    เรื่องอย่างนี้ต่อให้พูดไปจนตายแล้วเกิดใหม่อีกพูดต่อก็ไม่จบ......นิพพานมีไว้ทำให้แจ้งครับ......

    เอาเป็นว่า จขกท ชอบแนวใหนก็เอาแนวนั้น......อะไรที่อ่านแล้วไม่ชอบใจก็วางไว้ก่อนก็ได้ครับ......
     
  16. Sunthorn2493

    Sunthorn2493 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +180
    ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะครับ หากท่านศึกษาให้ละเอียดแล้วท่านจะทราบเอง และท่านหลวงพ่อพุทธทาส ท่านไม่ได้ปฏิเสธนรก สวรรค์นะครับ ให้ท่านพิจารณาให้ดีนะครับ เพราะเคยมีพระรูปหนึ่งท่านศึกษาคำสอนของหลวงพ่อพุทธทาส ท่านถึงขนาดแทบจะไม่ไหว้หรือกราบรูปเสมือนพระพุทธเจ้า (พระพุทธรูป)เลย ไม่เชื่อกระทั่งนรก สวรรค์ ท่านเห็นว่า นรกก็คือความรุ่มร้อนภายในจิตใจ สวรรค์ก็คือการที่คนเรารู้สึกสบายใจ แต่พอท่านศึกษาไปเรื่อยๆ และศึกษาโดยการปฏิบัติควบคู่ไปด้วย ท่านจึงได้ทราบว่าอะไรเป็นอะไร (ผมเองก็ไม่ทราบว่าอะไรเป็นอะไร) แต่ละท่านอาจมีลีลา วาทะ การสอนที่ไม่เหมือนกัน แต่เนื้อหาและสาระย่อมเป็นอันเดียวกันครับ ขนาดปุถุชน (คนหนา) อย่างเราๆ ท่านๆ พูดเรื่องเดียวกันยังเข้าใจกันคนละอย่างเลยครับ นี่เป็นเรื่องนรก สวรรค์ พระนิพพาน ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเนื้อธรรมดาของคนเรา ยิ่งไปกันใหญ่ เป็นเรื่องอจินไตยครับ และใคร่ขอให้ท่านเจ้าของกระทู้ลองศึกษาเรื่อง สุญญตา ของท่านหลวงพ่อพุทธทาสดูนะครับ แล้วลองไปเทียบกับพระปริยัติดูว่าเข้ากันได้หรือเปล่า และอย่าเพิ่งไปประมาทท่านนะครับ ซึ่งอาจเป็นบาปเป็นกรรมโดยไม่รู้ตัว ธรรมดาพระอริยเจ้าย่อมเป็นของร้อนสำหรับผู้ที่เผลอไปประมาทท่าน ท่านเปรียบเสมือนถ่านไฟที่กำลังร้อนนะครับ บุคคลจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม หากเผลอไปถูกหรือจับเข้า ไฟนั้นย่อมเผามือผู้ที่จับนั่นเอง ฉันใดก็ฉันนั้นครับ แต่ผมเองก็ไม่ทราบนะครับว่า หลวงพ่อพุทธทาส ท่านเป็นพระอริยะหรือเปล่า แต่ขอให้ท่านลองศึกษาและปฏิบัติไปก่อนนะครับอย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธเสียทีเดียว..
    ขอแสดงความนับถือครับ..:VO:VO
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มกราคม 2011
  17. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    หลวงพ่อท่านพุทธทาส ในหนังสือของท่านกล่าวเกี่ยวกับเรื่องผีว่า

    "สิ่งที่เขาเรียกกันว่าผี หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในทำนองที่เป็นผีตามที่เขาเข้าใจกันนั้น มีอยู่แน่นอน,แต่ว่าตัวจริงของมันจะเป็นอย่างไร ในทัสนะของพุทธบริษัทนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง"

    และในหนังสือเล่มเดียวกัน
    "แม้แต่คนแท้ๆ ก็ยังไม่มีตนอยู่แล้ว : มันเป็นเพียงกลุ่มแห่งเหตุ แห่งปัจจัย ไหลเรื่อยไปเท่านั้นเอง,แล้วสิ่งที่เรียกว่าผีสาง อะไรทำนองนั้น จะมามีตัวตนยิ่งไปกว่าคนได้อย่างไร"

    จะเห็นว่าการศึกษาหนังสือของท่านพุทธทาสต้องศึกษาให้ละเอียด เพราะอย่างคนที่อ่านส่วนแรกไม่อ่านส่วนหลังก็จะเข้าใจอย่างหนึ่ง คนที่อ่านส่วนหลังไม่อ่านส่วนแรกก็เข้าใจแบบหนึ่ง ที่อ่านทั้งสองส่วนก็จะเข้าใจไปอีกแบบ ต้องใช้หลักกาลามสูตรที่ท่านว่าเป็นเพชรในพุทธศาสนามาใชพิจารณาควบคู่กันไป
     
  18. aroonoldman

    aroonoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +462
    จากหนังสือคู่มือมนุษย์มาจบที่ความสงสัยเรื่องนิพพาน
    พระอริยะเจ้าที่เข้าถึงพระนิพพานนั้นเกิดจากภาวนามยปัญญา
    ปัญญาที่เกิดจากการเจริญภาวนาจนสำเร็จญาณ
    หาใช้ปัญญาที่เกิดจากสุตมยปัญญาและจิญตามายปัญญาไม่
    "ชีวิตเป็นของน้อย ถูกชรารุกรานเงียบๆอยู่เสมอ รุกราน
    ไปสู่ความตายไม่มีอะไรต้านทานไว้ได้ ถ้าใครเพ่งเห็น
    ความน่ากลัวนั้นในความตายแล้วพึงรีบคืนคลาย ละโลกามิส
    พอใจในนิพพาน"
     
  19. คาคะ

    คาคะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    424
    ค่าพลัง:
    +1,533
    จะสงสัยกันไปใยคะ สงสัยในคำสอนท่านคำสอนทั้งหมดนั้นที่พระสงฆ์ท่านนำมาสอนเราล้วนแล้วก็มาจากคำสอนพระพูทเจ้าทั้งนั้นพระสงฆ์เป็นสาวกพระพุทองค์นำคำสอนของพระพุทธองค์มาสอนให้เราเราจะมาทุกข์ทำไมกับความสงสัยนาๆๆประกาสงฆ์สาวกพระพูทธองค์ท่านก็ปติบัติดีประติบัติชอบมาจนมีคนยอมรับแล้วทำไมไม่นำเอาคำสอนที่ท่านสอนนั้นมาปติบัติละจะยังลังเลสงสัยทำไมกันมีจิตมุ่งมั้นตั้งใจที่จะปติบัติแล้วก็หวังเสียว่าเรามาปติบัติเพื่ออะไรทุกอย่างนั้นต้องมีเหตุและผล อย่าได้เชื่อในตัวใครเลยให้เธอนำมาปติบัติเอง พระพูทธองค์ท่านสอนว่าอย่าได้เชื่อใครให้เชื่อในตัวเราเองแม้แต่พระพุทองค์ท่านเองยังว่าจงอย่าเชื่อเรา ให้ค้นคว้าศึกษาเอาเองก็เป็นจริงไมละเถียงกันเพื่ออะไรละไร้สาระไหมละ จุดมุ่งหมายเราปติบัติเพื่ออะไร ให้เธอเข้านิพานก่อนเถอะแล้วก็จะหมดความสงสัยเอง(สำหรับตัวข้าพเจ้านั้นเคารพและเชื่อมั้นในคำสอนพระพุทธองค์และเชื่อพระสงฆ์ที่ท่านปติบัติดีไม่ได้แยกด้วยคะว่ามาจากสำนักในเปิดใจรับหมดคะถ้าเราเปิดใจรับหมดเราจะรู้ทันทีคะว่าแต่ละท่านนั้นจะมีอะไรที่ไม่เหมือนกันคะแต่หัวใจหลักคือจุดมุ่งหมายเดียวกันคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2011
  20. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    มัวสงสัยกับตัวอักษรอยู่ทำไม? ไม่เร่งความเพียร ถ้าท่านเข้าใจโลกียะกับโลกุตตระแล้ว ท่านจะเลิกสงสัยไปเอง ฤทธิ์ต่างๆ ล้วนเป็นโลกียะ มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป แต่โลกุตตระนั้นเป็นเรื่องเหนือโลก จขกท คิดว่าอยู่เหนือโลกหรือยัง? นกไม่เห็นฟ้า ปลาไม่เห็นน้ำ ฉันใด มนุษย์โลกก็เช่นกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...