พระเครื่องในคอผู้เฒ่าประจำบ้าน.. น.๔๘๙ สุดยอดแห่งแดนใต้..

เป็นบุญตาครับพี่....
ขอบพระคุณพี่หน่องมากๆนะครับ...
ที่เมตตาเสาะหาภาพมาให้ชมครับ.....

ถึงแม้มิได้เป็นเจ้าของ...แต่พอได้ชมก็อิ่มใจมากๆเลยครับพี่.....


----------------------------------------------------------------------
เมื่อวานผมไปให้กำลังใจเพื่อนสนิทที่วัดบ้านกุ่ม ราชบุรีมาครับ....
สูญเสียลูกชายวัย 14....ลูกชายคนเดียว
สูญเสียหลานชายวัย 8 ขวบ หลานสาว 3 ขวบ และน้องสะใภ้...
ขอให้ดวงวิญญาณดวงน้อยๆอันบริสุทธิ์ทั้งสี่ดาว จงไปสู่สุขคติภูมิด้วยเทิอญ...

 

เหตุจากน้ำหรือครับ ขอแสดงความเสียใจด้วยครับผม

 

ช่ายครับท่าน armchi......
พระเครื่องหรือหลวงพ่อที่เราใกล้ชิดคุ้นเคย....ผมให้เครดิตมากกว่าพระเครื่องอื่น...ไม่ว่าจะดังมากหรือดังน้อยครับ....

พระที่ผมชอบมักเป็นพระที่ผมรู้จัก คุ้นเคย....พระที่พ่อแม่มอบให้...พระที่ผู้อื่นมอบให้ด้วยความเมตตาต่อตัวเรา....

บางครั้งก็มีบ้าง...ที่เช่าหาด้วยเงินเพราะความชอบตามกระแสนิยม...แต่หากต้องนำมาใช้งานหรือพกติดตัว...เลือกพระที่เราคุ้นเคยและรู้จักเป็นอันดับแรกครับ....

แต่ตอนนี้ในคอผม...เป็นพระที่ได้รับจากความเมตตาครับ....และเครื่องรางเก่าเก็บของภรรยาครับ....

ท่าน armchi...นับเป็นผู้ใกล้ชิดพระศาสนามากๆท่านหนึ่งเช่นกัน...
สาธุ สาธุ สาธุ...

 

ช่ายครับท่าน armchi.....
ฟอร์จูนเนอร์ตกคลองเกือบๆจะถึงวัดอยู่แล้วครับ....
รีบจะไปให้ทันรับกฐินก่อนเพลครับ....

ฟ้าลิขิตเช่นนี้...ผู้ที่ยังหายใจอยู่ก็คงต้องสู้ต่อไปครับ.....

 

ขอให้พี่พี...เจอพระหลวงพ่อแกร ออกวัดโพธิ์ชัยเก่าๆหลายๆเหรียญครับ...อิอิอิ จะได้มาแบ่งปันน้องๆบ้าง สาธุ สาธุ สาธุ...ฮ่าๆๆๆๆ

วัดโพธิ์ชัยอยู่สิงห์บุรี...คงไม่ไกลจากวัดมอญ อ่างทองของพี่พีมากใช่มั๊ยครับ...

 

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ขอให้ทั้ง4ท่านสู่สุขคติครับ

 

ชนท้าย...ก็ต้องสองตัวล่าง.....

ท่านอัคมิได้รับบาดเจ็บใดๆ...ก็ขออนุโมทนาครับ.....
นี่ถ้าเป็นวันก่อนหวยออกนะ...ผมว่าเลขท้ายน่าลุ้นมั่กๆเลยครับท่านอัค...

 

โห....ลืมนึกไปว่าหลายคัน ฮ่าๆๆๆๆๆ
ไอ้คันหลัง 69 เนี่ย....ผมว่าพี่คนขับน่าไปเปลี่ยนเลขทะเบียนนะ...เลขนี้ไม่ชอบเลยอ่ะครับ...

 

ขอบคุณมากๆครับท่านอัค.....
เมื่อวานผมขับไปคนเดียวจากสระบุรี...ไปแวะรับรุ่นพี่อีกคนที่พุทธมณฑลสาย 2 หกโมงเย็นกว่าๆ...ขับต่อไปราชบุรี....
ขากลับ...ออกจากวัดสี่ทุ่ม...รุ่นพี่นั่งมาเป็นเพื่อนกลับมานอนบ้านตัวเองทีสระบุรีอีกรอบเพราะห่วงผม... ผมกลับถึงพระบาทเที่ยงคืนครึ่ง...

คงได้แค่ปลงครับ...อายุปูนนี้แล้ว...ต้องไปงานศพหลานๆ...
อะไรก็ไม่แน่นอน...มะเร็งยังน่ากลัวน้อยกว่าอีก ฮ่าๆๆๆๆ (แต่ก็ไม่อยากเป็นอีกนะ อิอิอิ)

ได้แต่บอกกับตัวเองว่า...จงดูแลตัวเอง และดูแลครอบครัว คนใกล้ชิค ให้ดีที่สุด...

 

สวัสดีครับ คุณบุพนิมิต
แอบอ่ายมาสักพัก เป็นกระทู้ที่ดี มีสาระประโยชน์แก่ผู้อื่นมาก ขอขอบคุณในสิ่งต่างๆที่นำมาเผยแพร่ ขอบคุณครับ และถ้าไม่เป็นการรบกวนมาก ขอถามประวัติเหรียญสัก๑เหรียญนะครับ
พยายามหามานานก้อไม่เจอ คิดว่าท่านน่าจะพอหาได้ ตามรูปครับ ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ

 

มหาอนุโมทนาครับคุณนัน....เป็นสองสายบุญที่ยิ่งใหญ่จริงๆครับ....

 

ช่วงทำบุญกฐินที่ผ่านมาวัดที่บ้าน ผมได้พระนางพญาของเจ้าอาวาส มาจำนวนหนึ่งครับ จึงอยากแบ่งปันให้กับพี่ๆครับ ถึงไม่มีราคาค่างวดอะไร แต่ก็เป็นของแท้จากวัด พระชุดนี้ท่านได้นำไปปลุกเสกที่วัดใหญ่(พระพุทธชินราช) หนึ่งในเกจิที่ร่วมปลุกเสกมีหลวงพ่อขวัญดี(นั่งสมาธิแล้วละสังขาร)รวมอยู่ด้วย ข้อมูลนี้ยังไม่ชัด(อย่าเพิ่งเชื่อผม เดี๋ยวจะมีคนว่าแอบอ้างปั่นซะงั้น)หลวงพ่อผมบอกมาอีกที แต่น่าจะจริง เนื่องจากท่านเจ้าอาวาสสนิทกันกับหลวงพ่อขวัญดี เคยจำวัดอยู่ที่วัดสระสองพีน้อง(เขาสมอแคลง)ด้วยกัน พระชุดนี้ท่านทำไว้เมื่อประมาณ3ปีที่แล้ว และนำบรรจุเก็บไว้ในอุโบสถ และได้ให้หลวงพ่อผมไปนำออกมาเพื่อจ่ายตอนงานบุญกฐินที่ผ่านมา ส่วนมากที่ได้จะเป็นญาติโยมที่มาไกลๆ หรือมากับซองกฐินครับ
ครั้งนี้ขออนุญาติแจกตามนี้ก่อนนะครับ
แจ้งที่อยู่ที่pm หรือบนกระทู้นี้
**เหตุผลในการแจก
อนุรักษ์พระบ้าน ตามคอนเซ็ปเจ้าของกระทู้(ฟรี) ดูพระตามรูปครับ

 

พระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท)

หลวงปู่ชา สุภัทโท พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) หรือ หลวงพ่อชา หรือ อาจารย์ชา เกิดเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2461 ตรงกับ วันศุกร์ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7 ปีมะเมีย ณ บ้านจิกก่อ หมู่ที่ 9 ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี บิดาชื่อนายมา ช่วงโชติ มารดาชื่อ นางพิมพ์ ช่วงโชติ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันจำนวน 10 คน

หลวงปู่ชา สุภทฺโท ขณะมีชีวิตอยู่ท่านได้อุทิศชีวิตเพื่อการปฏิบัติธรรมและเผยแพร่พุทธศาสนา ทั้งแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งบังเกิดผลทำให้ผลงานที่เป็นประโยชน์อเนกอนันต์แก่พระศาสนา ทั้งที่เป็นพระธรรมเทศนา และสำนักปฏิบัติธรรมในนามวัดสาขาวัดหนองป่าพงมากมาย ซึ่งแม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้ว แต่ศิษยานุศิษย์ของท่านก็ยังคงรักษาแนวทางปฏิบัติธรรมที่ท่านได้สั่งสอนไว้จนถึงปัจจุบัน

หลวงปู่ชาได้รับการศึกษาชั้นประถมศึกษา ณ โรงเรียนบ้านก่อ ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จนจบชั้นประถมปีที่ 1 แล้วได้ลาออกจากโรงเรียนเพราะมีจิตใจใฝ่ทางบวชเรียน ภายหลังเมื่อบวชเรียนแล้วได้เรียนหนังสือธรรมเรียนบาลีไวยากรณ์ เรียนมูลกัจจายน์ จนสามารถอ่านแปลภาษาบาลีได้ และได้ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้ชั้นสูงสุดสายนักธรรม คือ สอบได้นักธรรมชั้น เอก

เมื่ออายุ 13 ปี หลังจากลาออกจากโรงเรียนประถมศึกษาแล้ว โยมบิดาได้นำไปฝากกับเจ้าอาวาสเพื่อเรียนรู้บุพกิจเบื้องต้นเกี่ยวกับบรรพชาวิธี จึงได้รับอนุญาตให้บรรพชาเป็น สามเณรชา โชติช่วง เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ. 2474 โดยมีท่านพระครูวิจิตรธรรมภาณี (พวง) อดีตเจ้าอาวาส วัดมณีวนาราม อุบลราชธานี เป็นอุปัชฌาย์สามเณรชา โชติช่วง ได้อยู่จำพรรษาและศึกษาพระปริยัติธรรม ตลอดจนอยู่ปฏิบัติครูอาจารย์ เป็นเวลา 3 ปี ได้เอาใจใส่ต่อภารกิจของสามเณรท่องสวดมนต์ ทำวัตร ศึกษาหลักสูตรนักธรรมปฏิบัติพระเถระ แล้วจึงได้ลาสิกขาบทมาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนา ทั้งนี้ด้วยความจำเป็นของครอบครัวแบบชาวไร่ชาวนาอีสานทั่วไป ด้วยจิตใจที่ใฝ่ในการบวชเรียน จึงสำนึกอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องอุปสมทบเป็นพระให้ได้ เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ภายหลังเมื่อตกลงกับบิดามารดาและท่านทั้ง 2 ก็อนุญาตแล้วจึงได้ฝากตัวที่วัดก่อในที่ใกล้บ้าน แล้วได้รับอนุญาตให้อุปสมบทได้เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2482 เวลา 13.55 น. ณ พัทธสีมา วัดก่อใน ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ อุบลราชธานี โดยมีพระเถระสำคัญที่ให้การอุปสมบทดังนี้
<DL><DD>พระครูอินทรสารคุณ เป็นพระอุปัชาฌาย์ <DD>พระครูวิรุฬสุตการ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ <DD>พระอธิการสอน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ </DD></DL>พระชา สุภทฺโท ได้จำพรรษาอยู่ ณ วัดก่อนอก 2 พรรษา ตั้งใจศึกษาปริยัติธรรม ทั้งจากตำรับตำราและจากครูอาจารย์ จนสอบนักธรรมชั้นตรีได้ในสำนักวัดก่อนอกแห่งนี้

เมื่อพระชา สุภทฺโท สอบนักธรรมตรีได้แล้ว ก็อยากเรียนให้สูงขึ้นเพราะมีจิตใจรักชอบทางธรรมอยู่แล้ว แต่ขาดครูอาจารย์ในการสอนระดับสูงต่อไป นึกถึงภาษิตอีสานที่ว่า "บ่ออกจากบ้านบ่ฮู้ฮ่อมทางเทียว บ่เฮียนวิชาห่อนสิมีความฮู้" ชีวิตช่วงนี้จะเห็นได้ชัดว่า พระชา สุภทฺโท มุ่งเรียนปริยัติธรรมให้สูงสุด จึงทุ่มเทให้การศึกษาทั้งนักธรรมและบาลี และผ่านสำนักต่างๆ มากมายจนในที่สุดก็สอบนักธรรมได้ครบตามหลักสูตร คือ สอบนักธรรมชั้นโทได้ ในสำนักของ พระครูอรรคธรรมวิจารณ์ สอบนักธรรมชั้นเอกได้ในสำนักวัดบ้านก่อนอกถิ่นเกิด

เสร็จภารกิจการศึกษา ประกอบกับเกิดธรรมสังเวชคราวโยมบิดาเสียชีวิต จึงหันมาสู่การปฏิบัติธรรม โดยออกธุดงค์และศึกษาหาแนวทางปฏิบัติในสำนักต่างๆ ผ่านอาจารย์ก็มากมาย เช่น หลวงปู่กินรี หลวงปู่เถระชาวเขมร อาจารย์คำดี พระอาจารย์มั่น พออินทรีย์แก่กล้าแล้วก็ออกธุดงค์ปฏิบัติธรรมต่อไปเรื่อยๆ โดยยังดำรงสมณเพศเป็นพระมหานิกายอยู่ตลอดเวลา จนในที่สุดได้รับอาราธนาจากโยมมารดาและพี่ชาย เพื่อกลับไปโปรดสัตว์ที่บ้านเกิด เมื่อ พ.ศ. 2497 ก็ได้ดำเนินการสร้างวัดป่าขึ้น ซึ่งเรารู้จักในปัจจุบัน คือ "วัดหนองป่าพง" และท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนี้มาโดยตลอด และถึงแก่มรณภาพเมื่อ 16 มกราคม 2535 เวลา 05.30 น. อย่างสงบท่ามกลางธรรมสังเวชของศิษยานุศิษย์จากทุกสารทิศ

หลวงปู่ชา สุภทฺโท ขณะมีชีวิตอยู่ท่านได้อุทิศชีวิตเพื่อการปฏิบัติธรรม และเผยแพร่พุทธศาสนา ทั้งแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งบังเกิดผลทำให้ผลงานที่เป็นประโยชน์อเนกอนันต์แก่พระศาสนา ทั้งที่เป็นพระธรรมเทศนา และสำนักปฏิบัติธรรม ดังนี้

1. ธรรมเทศนา สำหรับบรรพชิต สำหรับคฤหัสถ์ เสียสละเพื่อธรรม การเข้าสู่หลักธรรม ธรรมะที่หยั่งรู้ยาก ธรรมะธรรมชาติ ปฏิบัติกันเถิด ธรรมปฏิสันถาร สองหน้าของสัจธรรม ปัจฉิมกถา การฝึกใจ มรรคสามัคคี ดวงตาเห็นธรรม อยู่เพื่ออะไร เรื่องจิตนี้ น้ำไหลนิ่ง ธรรมในวินัย บ้านที่แท้จริง สัมมาสมาธิ ขึ้นตรงต่อพระพุทธเจ้า ความสงบบ่อเกิดปัญญา พระองค์เดียว นอกเหตุเหนือผล สมมตติและวิมุตติ การทำจิตให้สงบ ตุจโฉโปฎฐิละ ดวงตาเห็นธรรม ทำใจให้เป็นบุญ ทรงไว้ซึ่งข้อวัตร เหนือเวทนา เพียรละกามฉันทะ ทางพ้นทุกข์ ไม่แน่คืออนิจจัง โอวาทบางตอน อ่านใจธรรมชาติ อยู่กับงูเห่า สัมมาทิฐิที่เยือกเย็น มรรคผลไม้พ้นสมัย นักบวชนักรบ ธุดงค์ทุกข์ดง สัมมาปฏิปทา พึงต่อสู้ความกลัว กว่าจะเป็นสมณะ เครื่องอยู่ของบรรพชิต กุญแจภาวนา วิมุตติ

2. สำนักปฏิบัติธรรม มีสำนักปฏิบัติธรรม ในประเทศไทยซึ่งอยู่ทุกภาคของประเทศจำนวนทั้งสิ้น 82 สาขา และในต่างประเทศอีก 7 สาขา และเฉพาะศิษย์ที่เป็นพระชาวต่างประเทศซึ่งอยู่เป็นประธานสงฆ์ผู้มีพรรษาต่ำสุดคือ 16 พรรษา

ที่วัดหนองป่าพงยังมีสถานที่พอจะเป็นที่เตือนใจของผู้ประสงค์จะนมัสการและรำลึกถึงท่านคือ พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถระ (ชา สุภทฺโท) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมประวัติและผลงานของท่านมารวมไว้ ตลอดจนรูปปั้นขี้ผึ้งของท่าน ที่ผนังพิพิธภัณฑ์ก็ยังมีภาพชีวิตของท่าน ที่ทำจากกระเบื้องดินเผา เมื่อเข้าไปในพิพิธภัณฑ์แล้วจะให้ทั้งความร่มเย็นศักดิ์สิทธิ์ และปรากฏการณ์เสมือนหนึ่งท่านยังไม่ถึงมรณภาพเลย

 

อิอิอิ....จขกท ยิ้มหน้าบานเลยครับท่านอัค...
ตาม concept แถมได้พระฟรีด้วย ฮ่าๆๆๆ...
รู้สึกอายนิดๆในใจนะครับ...แต่อยากได้สุดๆครับ "พระฟรี" ฮ่าๆๆๆ
ขอบพระคุณท่านอัคอย่างสูงครับ....สาธุ สาธุ สาธุ....

ชีวิตช่วงนี้...อะไรที่เกี่ยวกับพระ...ทำให้ผมสุขใจอยู่เสมอๆครับ...(สงสัยจะแก่ซะจริงๆซะแล้วดิเนี่ย)

 

ขอบคุณน้ำจิตน้ำใจงามๆที่มีให้กันครับ ขอบคุณมากมาย
สมาคมพระพื้นที่ พระบ้าน แท้ของกรู หรือจะตั้งชมรมอะไรดี ก็เอาเป็นว่าพี่เกรียงเจ้าของกระทู้ตั้งชมรมน้อยๆ ไม่ต้องจดทะเบียน ดีกว่าครับ

ชื่อจะส่งให้ในพีเอ็มนะครับ .........

 

ที่อยู่ของพี่บุพนิมิตรได้รับแล้วครับ รอท่านอื่นๆอยู่ด้วยครับ(หลายท่านไม่ได้อยู่ในเวป)
ขอเพิ่มเติมที่มาครับ
เจ้าอาวาสผู้สร้าง พระครูสัทธาธรรมกิจ(ทวน) วัดประสาทศรัทธาธรรม ต.โคกสลุด อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ครับ
แล้วผมจะคัดองค์สวยๆ ลายนิ้วมือด้านหลังชัดเจนให้ทุกท่านครับ
เผื่อพี่ๆท่านใดได้พบเห็นในอนาคต จะได้แยกไว้ว่าพระบ้าน(แท้ ไม่ดังไม่มีราคา ดีกว่าถูกเซียนตีเก๊ซะหมด)

 

คำสอนของหลวงปู่ชา

1. จุดหมาย : มรรค ผล นิพพาน พ้นทุกข์
2. เนื้อหา : ศีล สมาธิ ปัญญา
3. วิธีการ : สมถ วิปัสสนา
4. กลวิธี : มองเข้าหาตัว ดูธรรมชาติ เปรียบเทียบ กับธรรมชาติ ทำให้ดู แล้วรู้ตาม

หยุดชั่ว มันก็ดี
การไม่กระทำบาปนั้นมันเลิศที่สุด บางคนบางคราว โจรมันก็ให้ได้ มันก็แจกได้
แต่ว่าจะพยายามสอนให้มันหยุดเนโจรนั้นนะ มันยากที่สุด
การจะละความชั่วไม่กระทำผิดมันยาก การทำบุญ โจรมันก็ทำได้ มันเป็นปลายเหตุ
การไม่กระทำบาปทั้งหลายทั้งปวงนั้นนะเป็น ต้นเหตุ
นอกเหตุเหนือผล
พระพุทธองค์ท่านทรงสอนว่าให้ "นอกเหตุเหนือผล"ไม่ว่าจะทำอะไร
ปัญญาของท่านให้นอกเหตุเหนือผล ให้นอกเกิดเหนือตาย นอกสุขเหนือทุกข์
ลองคิดตามไปซิลองพิจารณาไปตาม คนเราเคยอยู่ในบ้าน พอหนีจากบ้านไปไม่มีที่อยู่ไม่รู้จะทำอย่างไร
เพราะเรามันเคยอยู่ในภพ อยู่ในความยึดมั่นถือมั่นเป็นภพ

 

ขอขอบพระคุณพี่akkhawee เป็นอย่างสูงครับผม ที่แบ่งปันสิ่งดีๆให้ครับผม

 

ขอบพระคุณท่าน asset มากๆครับ...ที่แวะมาทักทาย และให้การสนับสนุน...

เหรียญของท่าน asset ผมเองก็ไม่มีข้อมูลเช่นกันครับ....
แต่หากจะให้เดา...ผมว่า น่าจะเป็นหลวงพ่อเพื่อง วัดวังหิน สรรพยา ชัยนาท ครับ...

ผมมีตัวอย่างเหรียญเนื้อคล้ายๆกันให้ไว้เป็นข้อมูลเปรียบเทียบนะครับ....

 

พี่พีครับ...ผมไม่เห็นภาพอ่ะครับ....
อยากชมอาะครับ...อิอิอิ