ตามรอย "พระมหาชนก"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 15 กรกฎาคม 2010.

  1. ธัมมะอาสา

    ธัมมะอาสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +2,648
    สุดเจ๋ง!!

    "ปูรณมีมหาวิชชาลัย" เพิ่มสาขาการเรียนรู้แบบองค์รวมที่ ๑๕

    สาขา Meta Physic เพื่อสัมมาทิฐิในพระพุทธศาสนา

    เร่งควานหา ทั้งเด็กพิเศษที่มีศักยภาพแบบ X-MEN เข้าเรียนและผู้สอนด้านเหนือฟิสิกส์

    โดยสำนักข่าวปูทะเลย์
     
  2. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    เมื่อวานได้มีโอกาส คุยกับคุณธัมมะอาสา
    เราอาจจะได้เห็น"พระมหาชนก" แบบเป็นรูปธรรมในเร็วๆ นี้

    แต่เราต้องตามรอยกันต่อไป เพราะว่า ยังตามได้ไม่หมด อิอิ:cool:
     
  3. Mrs.Kim

    Mrs.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,086
    ค่าพลัง:
    +2,306
    ตื่นเต้นๆจะตั้งหน้าตั้งตารอดูนะค่ะ...จะติดตามตามรอยของพ่อต่อไปค่ะ
     
  4. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    รูปใหม่มาแระ มาช่วยกันแปล !!!

    เท่าที่คุยกับดร.สมิทธ ท่านบอกว่า ให้เอา ส.ค.ส.พระราชทานแต่ละปีมาประกอบด้วย เพราะว่าคีย์มันอยู่ตรงนั้้นด้วย :cool:

    หนุกมาก
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • War.jpg
      War.jpg
      ขนาดไฟล์:
      390.7 KB
      เปิดดู:
      4,209
  5. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td background="http://search.sanook.com/knowledge/search/images/bg_hd01.gif" bgcolor="#f7fafe" height="27"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="fontbold">พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน</td> <td class="fontbold2" align="right">[​IMG][​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> <td background="http://search.sanook.com/knowledge/search/images/m05.gif"> </td> </tr> <tr> <td width="5" background="http://search.sanook.com/knowledge/search/images/m04.gif">[​IMG]</td> <td bgcolor="#f7fafe"><table class="fontblacksm" width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="8"> <tbody><tr> <td>
    </td></tr><tr> <td> วันอุโบสถ <table width="100%" border="0"> <tbody><tr> <td></td> </tr> <tr> <td><table class="fontblacksm" width="97%" align="center" border="0"><tbody><tr><td>วันอุโบสถ</td></tr><tr><td>ความหมาย

    น. วันขึ้น ๑๕ คํ่า และวันแรม ๑๕ คํ่า ถ้าเป็นเดือนขาดก็แรม ๑๔ คํ่า เป็นวันที่พระลงอุโบสถฟังพระปาติโมกข์และเป็นวันที่พุทธศาสนิกชนถืออุโบสถ ศีลคือ ศีล ๘.
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  6. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    เอามาลงเฉยๆ !!!

    โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ

    [​IMG]

    โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ
    ประวัติโครงการ : ที่มาของโครงการนี้ มีว่า ข้าราชบริพารในพระองค์ได้มาซื้อที่ดินบริเวณนี้สำหรับอยู่อาศัย ปลูกพืชผล ต่อมาความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระทัย จึงได้เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรที่ดินและได้ทรงซื้อที่ดินบริเวณดัง กล่าวจำนวน 250 ไร่ สำหรับเพาะปลูกพืชทำเป็นโครงการตามพระราชดำริ และได้มีมีชาวบ้านได้นำมันเทศที่ปลูกมาทูลเกล้าฯ ถวาย พระองค์แต่เมื่อเสด็จกลับมิได้ทรงนำมันหัวนั้นไปด้วย แต่เมื่อเสด็จกลับมาอีกครั้งทรงพบว่ามันหัวนั้นงอกเป็นต้น จึงมีพระราชดำรัสว่ามันอยู่ที่ไหนก็งอกได้ จึงมีพระราชดำริให้จัดเป็นพื้นที่เพาะปลูกพืชต่างๆ โดยเน้นที่พืชท้องถิ่นของเพชรบุรี เช่น มะพร้าว ชมพู่เพชร มะนาว กะเพรา สัปปะรด ข้าวไร่พันธุ์ต่างๆ และทรงมีพระราชดำริให้ปลูกแปลงทดลองมันเทศในที่ดินส่วน ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการพระราชดำริล่าสุดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกทั้งยังทรงให้ปรับปรุงระบบระบายน้ำที่อ่างเก็บน้ำหนองเสือ เพื่อใช้ในโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ บ้านหนองคอกไก่ ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี อีกด้วย

    และเมื่อกราบบังคมทูล ฯ ขอพระราชทานชื่อโครงการ พระองค์จึงตรัสว่าชื่อ "ชั่งหัวมัน" ก็แล้วกัน

    ชื่อ โครงการชั่งหัวมัน ถือได้ว่าเป็นชื่อโครงการที่แปลก ชวนให้คิดตีความว่าชื่อนี้มีความหมายอะไร ถ้าตีความหมายตามสำนวนไทย ชั่งหัวมัน (ช่างหัวมัน) ก็หมายถึง “ไม่ต้องไปสนใจ อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด ใครจะทำอะไรก็ทำไป เราไม่ต้องไปใส่ใจ” พระองค์ท่านเป็นนักปราชญ์มีสายพระเนตรยาวไกลและความคิดที่ลึกซึ้ง ชั่งหัวมันจึงเป็นชื่อที่สื่ออะไรที่มีความหมายลึกซึ้งมากยิ่งกว่าแค่เอาหัว มันมาชั่ง ซึ่งก็แล้วแต่ใครจะตีความตามแบบฉบับของตัวเองแล้วกันค่ะ ซึ่งขอบอกว่า ไม่ธรรมดาแน่ ๆ ค่ะ

    สถานที่ตั้ง: คลอบคลุมตำบลเขากระปุก และตำบลกลัดหลวง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี


    เนื่องจากโครงการชั่งหัวมันนี้เพิ่งเริ่มงานได้ไม่นาน (ประมาณ 6 เดือน) ดังนั้นจึงยังไม่ค่อยรู้จักกันมากนักและยังไม่เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทาง การ ผู้ที่สนใจคงต้องรออีกสักระยะ


    รูปโครงการ :

    [​IMG]
    [​IMG]


    ตำหนักที่ประทับของพระองค์ค่ะ
     
  7. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    น่าจะเป็นความหมายที่ดีนะคะ สำหรับ ชื่อโครงการ ชั่งหัวมัน

    ตีความเป็นความเห็นส่วนตัว
    จากภาษิตที่ว่า ช่างหัวมัน คือไม่สนใจ(ทิ้ง) เเต่ชั่งหัวมันคือ เอากลับมาชั่ง(ไม่ทิ้ง)เอามาทำให้เป็นประโยชน์ ซึ่งก็น่าจะหมายถึงการการยกความสำคัญของสิ่งที่เรามองข้ามหรือว่าไม่สนใจไปเเล้วในประเทศของเรามาทำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ไม่มองข้ามไม่ดูถูกประเทศตัวเอง คือนำทรัพยากรมาใช้ให้เป็น

    เเละอีกอย่างมันก็ขึ้นง่ายถึงเราจะช่างหัวมัน เเต่มันก็มีชีวิตรอดเพื่อให้เราได้ ชั่งหัวมันได้ในที่สุด

    เเละที่น่าสนใจก็คือ เราจะไม่ช่างหัวมันก็ตอนมีสงครามหรือช่วงที่ข้าวยากหมากเเพงนี่ละ ที่หัวมัน มีประโยชน์ เก็บเป็นเสบียงได้
    มันเทศ ให้เนื้อ
    มันเเกวให้น้ำ


    เราคิดว่าทุกโครงการที่ท่านทรงทำขึ้นมาคือโครงการเตรียมตัวสำหรับทุกอย่างหรือหลายๆอย่างในอนาคต



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2010
  8. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    เอามาลงเฉยๆ อีกนั่นแหล่ะ

    คือ เมื่อวันก่อนได้มีโอกาส สนทนากับคุณพงษ์ (ไม่ทราบนามสกุล) คุณพงษ์บอกว่า คิดว่าคำว่า ถิ่นกาขาว กาขาว หมายถึง พระโพธิสัตว์ คือ ยุคที่พระโพธิสัตว์ มาบำเพ็ญบารมีกันมาก

    เลยลองมาหาข้อมูลดู

    [​IMG] <table width="680" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr bgcolor="#eeeeee"><td align="center" height="50">กาขาว</td></tr><tr><td>

    • ความสำคัญ
      กาขาว : เป็นวรรณกรรมทางศาสนา ซึ่งอธิบายเรื่องเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์ทั้ง 5 คน ต้นฉบับบุดขาวชำรุดในตอนต้นและตอนปลาย แต่งด้วยกาพย์ยานี 11 และกาพย์ฉบัง 16 และกาพย์สุรางคนางค์ 28 โดยไม่ปรากฏที่มาของผู้แต่ง และปัจจุบันได้เก็บไว้ที่ สถาบันทักษิณคดี โดยมีที่มาดังนี้ เค้าเรื่องมาจากนิทานมุขปาฐะ ความว่า กาขาวผัวเมียออกหากิน ทิ้งไข่ไว้ในรัง 5 ฟอง เกิดพายุใหญ่ไข่ที่อยู่ในรังจึงตกหล่นลงในน้ำ ไข่นั้นก็ลอยไปติดกับตลิ่ง แม่ไก่ แม่นาค แม่เต่า แม่โค และแม่ราชสีห์ก็เก็บไว้ ต่อมาไม่นานไข่ก็ได้แตกออกเป็นมนุษย์ให้นามวงศ์ของแม่สัตว์(ทารกที่เกิดมา จากไข่ ซึ่งแม่ไก่เก็บให้นามว่ากุกกุสันโท ทารกที่เกิดมาจากไข่ ซึ่งแม่นาคไก่เก็บให้นามว่า โคนาคมทารกที่เกิดมาจากไข่ ซึ่งแม่เต่าเก็บให้นามว่ากัสสปะ)ทารกที่เกิดมาจากไข่ ซึ่งแม่โคเก็บให้นามว่า โคดมทารกที่เกิดมาจากไข่ ซึ่งแม่ราชสีห์เก็บให้นามว่า ขรีอาริย์เมื่อทารกได้เติบโตขึ้นก็ได้ถามทราบความจริงของแม่ ๆ ทังหลาย จึงคิดจะหาแม่ที่แท้จริงของตนเอง จึงได้ออกบวชเป็นฤาษี ภาวนาได้พบแม่จริง ๆ ในเรื่อง กาขาวนั้นตามคติพุทธ คือองค์พระโพธิสัตว์มุ่งสร้างบารมี และบำเพ็ญตนเพื่อชาวยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้พ้นทุกษ์มิได้หวังความหลุดพ้น เพียงลำพัง คติอันนี้เป็นปณิธานอันสูงส่ง เรื่องกาขาวนั้นได้ปรากฏตอนพระกัสปะวา แม่เฒ่าเข้าป่าบำเพ็ญว่า

      (ลูกรักจักขอลา พระแม่ไปสู่ไพรสาณ)
      (จะทรงบรรพกิจ เป็นสหมิตรสิทธาจารย์)
      (สร้างสมโพธิญาณ ตั้งอธิษฐานให้บริสุทธิ์)
      (มุ่งมาดที่ปรารถนา เป็นพงศาบุพรางกูล)
      (ลูกรักจักเกื้อหนุน ให้ฝูงสัตว์จักภัย)
      (สร้างสมบารมีตา เป็นนาวาข้ามสมุทรไทย)
      (ฝูงสัตว์พลอยไปได้ พ้นจากภัยมรณาผลาญ)
      นอกจากนั้นยัง มุ่งสอนพุทธบริษัทให้เข้าใจหลักธรรมและแนวทางปฏิบัติ ตามครรลองศาสนา ธรรมที่กล่าวถึง "ไตรลักษณ์" ซึ่งหมายถึง สภาพความเป็นธรรมดาของชี วิต คือเป็นทุกข์ เป็นอนิจจัง และอนัตตา โดยเรื่องราวในเชิงเปรียบเทียบกับกาสองผัวเมีย เพื่อให้รู้เท่าทันทุกข์ว่า

      (รักควายรักวัว - รักเมียรักผัว - รักตัวรักตน
      อย่าได้หลงรัก - รักไม่เป็นผล - เมื่อจะสิ้นชนม์ มารประจญด้วยรัก
      รู้แล้วว่าบ่วง - อย่าข้องอย่าห่วง - อย่าหน่วงอย่าหนัก
      ไม่คิดอย่าหวน - อย่าชวนอย่าชัก - อย่าท้วงอย่าทัก
      อย่ารักอย่าหลง ฯลฯ)
      นอกจากนี้เรื่องกาขาวจะอธิบายประวัติตำนานพระโพธิสัตว์ที่จุติเป็นพระ พุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ดังกล่าวได้อธิบายความเป็นมาของประเพณีลอยกระทง ที่แปลกออกไปอีกกระแสหนึ่งว่า
      ประเพณีได้สืบเนื่องมาจากคำบอกเล่ากาพรหมมีต่อคนทั้ง ๕ ว่าให้ลอยประทีปในคืนเดือนเพ็ญ เดือนสิบสองเพื่อลำลึกบูชากาพรหม นั้นเอง กาขาวนั้น ยังมีหน้าที่เชื่อมโยงกับเรื่องพระเจ้าห้าองค์ โดยเรื่องกาขาวนั้นมีเนื้อความตอนต้น

    </td></tr><tr><td align="center"><table width="400" align="center" border="0"><tbody><tr><td colspan="5" bgcolor="#aa5500" height="1">
    </td></tr><tr align="center"><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td colspan="5" bgcolor="#aa5500" height="1">
    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td>

    • เอกสารอ้างอิง
      หนังสือ สรานุกรรมวัฒนธรรมภาคใต้ จัดทำโดย : ธนาคารไทยพาณิชย์
    </td></tr></tbody></table> <form><input value=" ปิด " type="submit"></form>

    อ้างอิงมาจากมาจากเวบนี้
     
  9. Mrs.Kim

    Mrs.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,086
    ค่าพลัง:
    +2,306
    โหข้อมูลแน่นปึ้กจริงๆค่ะสมแล้วที่เป็นคุณFalkman...ยิ่งตามอ่านก็ยิ่งเจอปมให้น่าติดตามตลอดอ่ะ
     
  10. ธัมมะอาสา

    ธัมมะอาสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +2,648
    ๑ ได้แรงบันดาลใจจากงานเขียนของคุณดังตฤณ

    ๒ เขียนโครงการของบจาก"สุขแท้ด้วยปัญญา" เสนอโครงการตามรอยพระมโหสถ

    ๓ ถ้าโครงการผ่านการพิจารณา เราคงได้มีผู้นำเยาวชนที่จะเป็นคนดี มีปัญญา กว่า ๑,๐๐๐ คน ที่จะเป็นผู้นำในการเตรียมเสบียงบุญ ในระยะแรก

    ๔ เลือกคนที่จะรอดด้วยวันเดือนปีเกิด ตามคติธรรมจากพระมโหสถชาดก (คนที่เกิดวันเดียวกันกับพระมโหสถ)

    ๕ ค้นหาเยาวชนผู้นำ ใน ๘ ค่าย ๘ ภูมิภาค พย.- ธค นี้

    - ใช้คุณภาพของงานคัดเลือกคน
    - ใช้วันเดือนปีเกิดค้นหาผู้เหมาะสมที่จะได้รับการบ่มเพาะสร้างเสบียงบุญ





    ๖ ขยายผลการค้นหายุวชนผู้นำ ไป ๑๘๕ เขตพื้นที่การศึกษา

    ๗ รวบรวมข้อมูลของพระดีคนดีในสังคม

    ๘ เชื่อมประสาน พระดีคนดีในสังคม กับสุดยอดเยาวชนผู้นำ สร้างระบบการศึกษาใหม่ เรียนรู้จริงอาศรมพระดาบส "ปูรณมีมหาวิชชาลัย" เตรียมเสบียงบุญ

    ท่านใดประสงค์ที่จะเริ่มด้วยช่วยกัน สร้าง"เรือใหญ่" ที่จะเป็น Siam Noah พร้อมผ่าวิกฤติไปด้วยกัน อาสาช่วยกันคนละแรง ได้ตามความถนัดนะครับ


    พยายามเต็มกำลังแล้ว ที่เหลือก็.... ชั่งหัวมันครับ
     
  11. ธัมมะอาสา

    ธัมมะอาสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +2,648
    ตารางการจัดค่ายโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ ปีการศึกษา 2553 จำนวน 8 ค่าย 8 ภูมิภาค
    ระหว่างวันที่ 4 พฤศจิกายน - 26 ธันวาคม 2553 จัดโดยสพฐ.ร่วมกับ สพท. โรงเรียน เจ้าภาพ 8 ค่าย 8 ภูมิภาค
    (ข้อมูลเมื่อ 30 ก.ย. 2553 )

    เหนือล่าง
    (สุโขทัย/พิษณุโลก/อุตรดิตถ์/ตาก/กำแพงเพชร/พิจิตร/เพชรบูรณ์/นครสวรรค์/อุทัยธานี/ชัยนาท)
    4 - 7 พ.ย.(พฤ-อา) วัดกลางธรรมสาคร ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

    เหนือบน (เชียงใหม่ /แม่ฮ่องสอน/ลำพูน/เชียงราย/พะเยา/ลำปาง/น่าน/แพร่)
    11-14 พ.ย. (พฤ-อา) ศูนย์อุทยานธรรม ต.น้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่

    ใต้ตอนล่าง (นครศรีธรรมราช/ภูเก็ต/กระบี่/ตรัง/พังงา/สงขลา/พัทลุง/สตูล/ปัตตานี/ยะลา/นราธิวาส)
    18-21 พ.ย. (พฤ-อา) วัดควนคลัง ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช

    อีสานล่าง (มหาสารคาม/ร้อยเอ็ด/อุบลราชธานี/ศรีสะเกษ/ยโสธร/ สุรินทร์/อำนาจเจริญ/กาฬสินธ์)
    25-28 พ.ย. (พฤ-อา) วัดป่าหนองโมง ต.รอบเมือง อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด

    ประตูอีสาน (นครราชสีมา/บุรีรัมย์/ชัยภูมิ/ปราจีนบุรี/นครนายก/สระแก้ว/สระบุรี/ลพบุรี)
    1 – 4 ธ.ค. (พ-ส) วัดเขานันทาพาสภาพ(วัดทุ่งยาว) ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี

    ตะวันตก-ใต้ตอนบน (นครปฐม/สุพรรณบุรี/กาญจนบุรี/สมุทรสาคร/ประจวบคีรีขันธ์/สมุทรสงคราม/ราชบุรี/เพชรบุรี/ชุมพร/ระนอง/สุราษฎร์ธานี)
    9 – 12 ธ.ค. (พฤ-อา) วัดเขาปากช่อง ต.ท่าแลง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี

    กลาง-ตะวันออก (สิงห์บุรี/อ่างทอง/พระนครศรีอยุธยา/ปทุมธานี/นนทบุรี/ตราด/กรุงเทพมหานคร/สมุทรปราการ/ฉะเชิงเทรา/ชลบุรี/ระยอง/จันทบุรี)
    16 – 19 ธ.ค. (พฤ-อา) มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

    อีสานบน (อุดรธานี/หนองคาย/เลย/สกลนคร/หนองบัวลำภู/ขอนแก่น/มุกดาหาร/นครพนม)
    23 – 26 ธ.ค. (พฤ-อา)วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม (วัดถ้ำพวง) ต.ปทุมวาปี อ.ส่องดาว จ.สกลนคร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2010
  12. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    วันนี้พระ ศุกร์ที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๓ แรม ๑๕ ค่ำเดือน ๑๐ ปีขาล

    [​IMG]

    และเป็นวันแรกของเทศกาลกินเจ:cool:
     
  13. Mr.tom

    Mr.tom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2005
    โพสต์:
    269
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,185
    รัฐทุ่ม257ล.ตั้งโพธิวิชชาลัยที่ตากนำร่องเปิดรับเยาวชนในพื้นที่ปี54

    คมชัดลึก : รัฐทุ่มงบไทยเข้มแข็ง 257 ล้าน หนุนมศว จัดตั้งโพธิวิชชาลัย จ.ตาก เน้นไม่แยกตัวจากชุมชน ระบุปี 2554 เปิดรับเยาชนในพื้นที่ ตั้งเป้าเฉลิมฉลอง 84 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    รศ.อำนาจ เย็นสบาย รองอธิการบดีฝ่ายเครือข่ายการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่าจากการที่ มศว ทำความร่วมมือกับองค์กร 5 ภาคีเครือข่ายจัดตั้งโพธิวิชชาลัย มศว สระแก้ว ซึ่งติดกับราชอาณาจักรกัมพูชา ภายใต้แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รับนิสิตมาแล้ว 2 รุ่นและกำลังจะรับตรงรับนิสิตรุ่นที่ 3 ซึ่งนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สนับสนุนให้ มศว ขยายแผนการทำงานวิทยาลัยโพธิวิชชาลัย เข้าสู่ อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งติดกับประเทศพม่า โดยได้รับงบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งของรัฐบาล จำนวน 257 ล้านบาท เพื่อรับเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร รวมถึงเยาวชนไทยตามแนวตะเข็บชายแดนของภาคตะวันตกและภาคเหนือที่การศึกษาเข้าไม่ถึง

    “อดีตรมช.ศึกษาธิการสมัยนั้นได้ร่วมกันวางแผนดำเนินงานกับทางมศว เพื่อให้วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย จ.ตาก เปิดทำการได้ทันในปีมหามงคลครบ 7 รอบ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปี 2554 ซึ่งจะใช้พื้นที่ 200 ไร่ บริเวณ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก และนำร่องรับเยาวชนในพื้นที่เป็นนิสิตรุ่นแรก ในปีการศึกษา 2554 ผ่านระบบรับตรง คาดว่าจะรับสมัครเดือนมกราคม 2554” รศ.อำนาจ กล่าว
    รศ.อำนาจ กล่าวอีกว่า โพธิวิชชาลัย จ.ตาก ประมาณ 160 ไร่ จะจัดทำเป็นโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเป็นทั้งสถานที่วิจัย เป็นห้องเรียนและเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับชุมชน ส่วนอีก 40 ไร่จะสร้างอาคารที่มีอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของภูมิภาคแถบนั้น เน้นประหยัดพลังงาน, สร้างศูนย์ภูมิวัฒนธรรมสารสนเทศ, ชุดอาคารอเนกประสงค์ และสร้างฐานเรียนรู้ที่ชุมชนมาใช้ประโยชน์ได้ เพื่อให้โพธิวิชชาลัยกับชุมชน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ที่สำคัญโพธิวิชชาลัยจะสะท้อนภาพของการเป็นสถาบันการศึกษาที่อยู่กับธรรมชาติ ดูแลสิ่งแวดล้อมและไม่แยกตัวเองออกจากชุมชน

    ที่มา www.komchadluek.net/detail/20101008/75708/รัฐทุ่ม257ล.ตั้งโพธิวิชชาลัยที่ตากนำร่องเปิดรับเยาวชนในพื้นที่ปี54.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 ตุลาคม 2010
  14. Mr.tom

    Mr.tom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2005
    โพสต์:
    269
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,185
    พระมหาชนกและวิทยาลัยโพธิวิชชาลัย (วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย วัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว )


    ในวาระมหามิ่งมงคลที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ปราชญ์แห่งแผ่นดิน” ทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา พุทธศักราช 2550 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ “มหาวิทยาลัยติดดิน” มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ “วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย” เพื่อแปลงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปสู่ภาคปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมให้จงได้ โดยมี “เบญจภาคี” ในจังหวัดสระแก้วร่วมก่อตั้งและดำเนินการ รวมทั้งกระบวนการเรียนการสอน การผลิตบัณฑิต และการพัฒนาให้โพธิวิชชาลัยเป็นแหล่งเรียนรู้ของสังคมและชุมชน ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติสืบไป

    “วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย” ก่อเกิดจากอุดมการณ์ น้ำใจ และความร่วมมือของเบญจภาคี ซึ่งประกอบด้วย

    1. ภาคีภาควิชาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒและศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน จังหวัดสระแก้ว

    2. ภาคีภาคราชการ จังหวัดสระแก้วและหน่วยงานด้านความมั่นคง

    3. ภาคีภาคประชาสังคมและสื่อ มูลนิธิเศรษฐกิจพอเพียง สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ศูนย์พัฒนาข้อมูลและสื่อทางเลือก จังหวัด

    4. ภาคีภาคเอกชน บริษัทน้ำตาล ขอนแก่น จำกัด (มหาชน)

    5. ภาคีภาคประชาชน ทุกชุมชนในจังหวัดสระแก้ว

    สถานศึกษาและแหล่งการเรียนรู้ของโครงการบัณฑิตคืนถิ่น ใช้พื้นที่ศึกษาจากองค์กรภาคีภาคประชาสังคมและสื่อ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และใช้พื้นที่จากผู้นำภูมิปัญญาชุมชนในภาคีภาคประชาชน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในศาสตร์ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 20 แหล่งการเรียนรู้ เรื่องดิน น้ำ ป่า เกษตรอินทรีย์ พลังงานทางเลือก การจัดการพื้นที่ การบูรณาการความรู้ และใช้พื้นที่จากภาคีภาคเอกชนของ บริษัทน้ำตาล ขอนแก่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินการสร้างโรงงานผลิตพลังงานทางเลือก ผลิตน้ำตาลจากปุ๋ยอินทรีย์ และพลังงานไฟฟ้า เป็นฐานเรียนรู้ มอบที่ดิน 81 ไร่ และงบประมาณ 20 ล้านบาทเบื้องต้น สร้างเป็นสถานที่เรียนรู้ ศูนย์ทดลองและปฏิบัติการ ศูนย์วิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิต รวมทั้งเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลผลงานการศึกษาวิจัย “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลักสูตรภูมิสังคมของ โพธิวิชชาลัย เกิดจากการระดมความคิดและบูรณาการความคิดของทุกภาคี เพื่อให้เป็นหลักสูตรที่เกิดจากความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง โดยภาคีภาควิชาการ กำกับดูแลในเรื่องของโครงสร้าง ระบบการเรียนการสอน และคุณภาพบัณฑิต

    วิทยาลัย “โพธิวิชชาลัย” มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เป็นองค์กรจัดการความรู้เพื่อสังคม การค้นคว้าวิจัย การเรียนการสอน การบริการวิชาการแก่สังคม การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และแหล่งการเรียนรู้เพื่อชุมชน เชื่อมโยงระหว่างมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (กรุงเทพมหานคร) องครักษ์ (จังหวัดนครนายก) วัฒนานคร (จังหวัดสระแก้ว) ตรอน (จังหวัดอุตรดิตถ์)

    กล่าวเฉพาะ “โพธิวิชชาลัย สระแก้ว” จะมีศูนย์ปฏิบัติการเพื่อปฏิพันธกิจ เบื้องต้น 3 ศูนย์
    1. ศูนย์เกษตรกรรมธรรมชาติ
    2. ศูนย์งานช่างและศิลปหัตถกรรม
    3. ศูนย์ผลิตภัณฑ์สีเขียว

    นอกจากนั้น ยังมีหน่วยงานซึ่งเป็นส่วนขยายจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติพันธกิจ เพื่อการค้นคว้าวิจัย และการบริการวิชาการแก่สังคม 3 สถาบัน

    1. สถาบันสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
    2. สถาบันพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
    3. สถาบันวัฒนธรรมและศิลปะ

    ซึ่งก็หวังว่า วิทยาลัย “โพธิวิชชาลัย” มหาวิทยาลัยของชาวบ้าน จะสามารถแปรพุทธธรรม แปร “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาสู่ภาคปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยความร่วมมืออย่างเข้มแข็งจากทุกภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคีภาคประชาชน ที่หักร้างถางป่า จัดการแหล่งน้ำ ก่อสร้างอาคาร ปลูกต้นไม้ และเป็นเจ้าของ“โพธิวิชชาลัย” ร่วมกัน ด้วยพลังศรัทธา พลังใจ พลังกาย อย่างหาที่ใดเสมอเหมือนได้ยากยิ่ง เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระชนมายุครบ 80 พรรษา พุทธศักราช 2550 และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน “วันสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ครั้งที่ 21 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 28 มกราคม 2551 เพื่อทรงเปิดวิทยาลัย “โพธิวิชชาลัย” อันเป็นมหามิ่งมงคลยิ่งอย่างหาที่สุดมิได้

    วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย ได้เปิดรับนิสิตวิชาเอกภูมิสังคมรุ่นแรก ปีการศึกษา 2552 จำนวน 46 คน เป็นนักเรียนทุน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทั้งหมด เป็นทุนการศึกษาจนจบการศึกษา

    เมื่อ นายชัยวุฒิ บรรณุวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มาเยี่ยมกิจการของมหาวิทยาลัยช่วงกลางปี 2552 ได้ประทับใจใจโครงการของวิทยาลัยโพธิวิชชาลัย ได้พาคณะไปเยี่ยมชม วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย วัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ในเวลาต่อมา หลังจากนั้น ได้ขอให้มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ดำเนินการจัดตั้ง “วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย แม่สอด จังหวัดตาก โดยจัดสรรพื้นที่บริเวณเขตป่าสงวนแห่งชาติ (ป.ส. 17) สวนป่าพะวอ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จำนวน 200 ไร่ ในเบื้องต้น และอาจต้องรับผิดชอบดูแลสวนป่าที่เหลืออีกประมาณ 800 ไร่ด้วย

    ด้วยการสืบทอดพระบรมราชเจตนารมณ์ บนฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและ “พระมหาชนก มหาวิทยาลัยจึงประกาศโครงการจัดตั้ง “วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย แม่สอด จังหวัดตาก ให้เป็นโครงการร่วมเฉลิมฉลอง วโรกาสมหามงคลครบ 7 รอบ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช พุทธศักราช 2554 และเชื่อว่าจะสามารถรับนิสิตเข้าศึกษาในปีการศึกษา 2553 หรือ 2554 อย่างแน่นอน

    ที่มา พระมหาชนกและวิทยาลัยโพธิวิชชาลัย > SWU60 > นวัตกรรมและจุดเปลี่ยน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 ตุลาคม 2010
  15. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    .


    ภาพ Mekhala 9 May ซึ่งเกิดพายุกลางอ่าวไทย [ต่อจากหน้า 19]



    [​IMG]




    มีประวัติว่า.....เคยพายุที่เคยเกิดกลางอ่าวไทยมาแล้ว



    http://www.tmd.go.th/programs%5Cuploads%5Cweatherclimate%5Ctd-april-may.pdf





    พายุดีเปรสชั่นกลางอ่าวไทย ครั้งแรกในรอบ 56 ปี

    posted on 08 May 2007 14:24 by chubby in Review-Environment
    .
    1 พฤษภาคม 2550 วันแรงงาน ผ่านเทศกาลสงกรานต์มาไม่เท่าไร จู่ๆ ก็มีพายุดีเปรสชั่นก่อตัวขึ้นในอ่าวไทย
    .
    ความธรรมดา
    .
    พายุดีเปรสชั่น ถือเป็นพายุที่มีความรุนแรง "น้อยที่สุด" ในบรรดาพายุเขตร้อนย่านแปซิฟิกและทะเลจีนใต้
    เริ่มต้นจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงเหนือมหาสมุทร แรกๆ ไม่ปรากฏการหมุนเวียนของกระแสลม
    จนเมื่อปัจจัยทุกอย่างพร้อมแล้ว (ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิของน้ำทะเล อากาศ ความชื้น หรือความกดอากาศ)
    ก็จะเริ่มเกิดการหมุนเวียนของกระแสลมขึ้นอย่างชัดเจน โดยในซีกโลกเหนือพายุจะพัดหมุนทวนเข็มนาฬิกา
    ดังนั้น หากบริเวณไหนมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงอยู่ ก็มีโอกาสเกิดดีเปรสชั่นได้เป็นเรื่องปรกติครับ
    .
    พายุดีเปรสชั่น มีความเร็วลมที่ศูนย์กลางไม่เกิน 33 น็อต (< 62 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
    พายุโซนร้อน มีความเร็วลมที่ศูนย์กลาง 34 - 63 น็อต (63 - 117 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
    พายุไต้ฝุ่น มีความเร็วลมที่ศูนย์กลางตั้งแต่ 64 น็อตขึ้นไป (> 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
    .
    .
    ความไม่ธรรมดา
    .
    พายุดีเปรสชั่นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2550 ไม่ได้เกิดในมหาสมุทรแปซิฟิกหรือทะเลจีนใต้ แต่เกิดในอ่าวไทย
    และเกิดขึ้นใกล้ชายฝั่งเอามากๆ ซึ่งปรกติระยะทางจากทะเลถึงแผ่นดินแค่นี้ไม่น่าจะพัฒนาเป็นดีเปรสชั่นได้
    แสดงว่าต้องมีปัจจัยอะไรสักอย่างทำให้พายุสามารถก่อตัวเร็วขึ้น และใช้เวลาในการบ่มตัวเองในทะเลสั้นลง
    แต่เนื่องจากระดับชั้นของพายุที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพียง ดีเปรสชั่น อาจทำให้หลายคนอาจมองว่าเป็นแค่เรื่องเล็กๆ
    คงต้องรอให้เกิดพายุโซนร้อนหรือพายุไต้ฝุ่นในอ่าวไทยเสียก่อน หลายคนถึงจะยอมรับว่ามันเป็นเรื่องไม่ปรกติ
    .

    [​IMG]

    .
    ภาพ : เส้นทางพายุดีเปรสชั่น วันที่ 1 - 5 พฤษภาคม 2550
    .

    [​IMG]
    .

    ภาพ : แผนที่อากาศ เช้าวันที่ 1 พฤษภาคม
    ในอ่าวไทยมีหย่อมความกดอากาศอยู่หนึ่งหย่อม ทุกอย่างดูเป็นปรกติดี
    .

    [​IMG]
    .
    ภาพ : แผนที่อากาศ บ่ายวันที่ 1 พฤษภาคม
    จู่ๆ แผนที่อากาศก็แสดงภาพดีเปรสชั่นในอ่าวไทย ระยะประชิดชายฝั่ง
    จังหวัดประจวบคีรีขันธ์รับเข้าไปเต็มๆ (สีเขียว เท่ากับ ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงมากกว่า 100 มิลลิเมตร)
    .

    [​IMG]
    .
    ภาพ : แผนที่อากาศ วันที่ 2 พฤษภาคม
    พายุดีเปรสชั่น เคลื่อนตัวข้ามไปฝั่งอันดามัน โดยทิ้งกองหลังเอาไว้ 1 หย่อม
    ช่วงนี้ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ประกาศเป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัติเนื่องจากน้ำท่วม
    .

    [​IMG]
    .
    ภาพ : แผนที่อากาศ วันที่ 3 พฤษภาคม
    พายุดีเปรสชั่นเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือช้าๆ เข้าสู่อ่าวเบงกอลทางด้านพม่า
    .

    [​IMG]
    .

    ภาพ : แผนที่อากาศ วันที่ 4 พฤษภาคม
    พายุเปลี่ยนทิศคล้ายบูมเมอแรง โค้งมายังทิศตะวันออก พุ่งเข้าหาภาคเหนือ
    .

    [​IMG]
    .
    ภาพ : แผนที่อากาศ วันที่ 5 พฤษภาคม
    พายุดีเปรสชั่นอ่อนแรงลง สลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ เกิดฝนตกกระจายไปทั่วภาคเหนือ
    แต่เทือกเขาบริเวณจังหวัดตากเป็นเหมือนกำแพงรับปริมาณน้ำฝนชั้นดี จนย่านนั้นอ่วมไปตามๆ กัน
    .
    .
    .
    สรุป
    ความไม่ธรรมดาเหล่านี้ ชักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนพวกเราเริ่มรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว
    ในอนาคตอันใกล้ ต่อให้มีพายุไต้ฝุ่นเกิดขึ้นกลางอ่าวไทยติดกรุงเทพฯ พวกเราก็คงรู้สึกเฉยๆ กันแน่

    ที่มา

    http://chubby.exteen.com/20070508/entry




    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2010
  16. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    พายุไต้ฝุ่นเกย์ (อังกฤษ: Typhoon Gay)

    ถือเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกแรกที่พัดเข้าสู่ประเทศไทย[1] โดยเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นพายุดีเปรสชั่นในอ่าวไทยตอนล่าง ในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 จากนั้นก็เคลื่อนตัวขึ้นเหนือและมีกำลังรุนแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และพายุไต้ฝุ่นตามลำดับ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 3 วัน วันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 เวลา 08.30 น.

    พายุไต้ฝุ่นเกย์เคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้ตอนบนด้วยความเร็วถึง 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วของพายุไต้ฝุ่นในระดับ 3 ถล่ม อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ บางสะพานน้อย และบางสะพาน ก่อนขึ้นฝั่งที่อำเภอท่าแซะ และปะทิว จังหวัดชุมพรทำให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่งที่ อำเภอบางสะพานน้อย บางสะพาน ท่าแซะและ ปะทิว[2]

    พายุเกย์เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกอย่างรวดเร็ว ผ่านประเทศพม่า ก่อนจะพัดออกสู่ทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย และอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน พอถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน ก็ทวีกำลังขึ้นใหม่อีกครั้ง พัดถล่มหมู่เกาะอันดามัน และเคลื่อนขึ้นสู่ชายฝั่งประเทศอินเดียในวันที่ 8 พฤศจิกายน ด้วยความรุนแรงสูงสุดระดับที่ 5 (สูงกว่า 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) [3] และสลายตัวไปในวันที่ 10 พฤศจิกายน

    พายุเกย์ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 446 คน บาดเจ็บ 154 คน บ้านเรือนเสียหาย 38,002 หลัง ประชาชนเดือดร้อน 153,472 คน เรือล่ม 391 ลำ ถนนเสียหาย 579 เส้น สะพาน 131 แห่ง ทำนบและฝาย 49 แห่ง โรงเรียนพัง 160 โรง วัด 93วัด มัสยิด 6 แห่ง พื้นที่การเกษตร 80,900,105 ไร่ สัตว์เลี้ยงตาย 83,490 ตัว ประเมินความเสียหาย 11,257,265,265 บาท

    [4] พายุไต้ฝุ่นเกย์ถือเป็นพายุหมุนเขตร้อนที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยมากที่สุดในรอบ 27 ปี นับตั้งแต่พายุโซนร้อนแฮเรียตถล่มแหลมตะลุมพุก ในปีพ.ศ. 2505 เป็นพายุลูกเดียวในประวัติศาสตร์ที่พัดเข้าสู่ประเทศไทยในระดับไต้ฝุ่นและยังเป็นพายุที่มีความเร็วลมสูงสุดขณะขึ้นฝั่งเท่าที่เคยมีมาในคาบสมุทรมลายู[5]

    ที่มา

    http://th.wikipedia.org/wiki/พายุไต้ฝุ่นเกย์






    พายุเกย์


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2010
  17. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    [​IMG]

    กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--สำนักพิมพ์ ปัญญาชน (เปิดตัวในงานวันที่ 21 ตค. ในงานสัปดาห์หนังสือที่ บูธ K12 มหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 14 , 15-25 ตุลาคม 2552 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์)

    หนังสือ ตามรอยพระราชนิพนธ์พระมหาชนก เกิดด้วยแรงจิตอธิฐานด้วยความศรัทธาใน องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าด้วยเรื่องราว

    - ตามร่องรอยเมืองโบราณ ในพระมหาชนกกับเมืองในปัจจุบัน และการเรียนรู้ทางภูมิศาสตร์

    - ตามรอยพระองค์ท่านในเรื่องความเพียร ในบาทความสำเร็จ จากอิทธิบาท ๔ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า ที่ยิ่งใหญ่กว่า The Secret กฎแห่งการดึงดูด

    - เป็นเรื่องราวความมหัศจรรย์พระราชนิพนธ์พระมหาชนก ว่าด้วยความมหัศจรรย์ แห่งมณี เมขลา ในการใช้ปัญญาประยุกต์เข้ากับฝนหลวง ใช้เป็นแนวกั้นพายุนาร์กีส อีกทั้งข่าวเรื่องการทำฝนเทียม เป็นแนวป้องกันการเกิดพายุเข้าสู่ประเทศ เลยทำให้ผมเกิดความปิติเป็นล้นพ้น ที่ได้เกิดมาบนพื้นแผ่นดินไทยที่มีพระองค์ท่านเป็นยิ่งกว่าคำว่าพระมหากษัตริย์ ทุกครั้งที่เล่าเรื่องราวนี้จะเกิดความปิติทุกครั้งไป จนทำให้ผมอยากจะถ่ายทอดความรู้สึกจากใจของผมให้เพื่อนๆคนไทย ๖๐ ล้านคนได้มีโอกาสรับรู้ความมหัศจรรย์แห่งพระมหาชนก แล้วจะรู้ว่าคำว่า “เรารักพระเจ้าอยู่หัว”ไม่มีนิยามไหนจะมาอธิบายได้มากกว่าคำๆนี้สำหรับคนที่เกิดบนพื้นแผ่นดินไทย

    ผมอยากจะกล่าวว่าชีวิตนี้ช่างโชคดีนักที่ได้เกิดเป็นพสกนิกรในยุคสมัยของพระองค์ท่าน

    “เรารักพระเจ้าอยู่หัว”
    ฝนหลวง ต้านพายุ จริงหรือ
    การที่มีกระแส ข่าวออกมามากมาย ทั้งคำถาม ที่เกิดขึ้น ว่า ฝนเทียม หรือ ฝนหลวง ของไทย สามารถ เป็นแนวกั้นพายุได้จริงหรือไม่ ถ้าได้ แล้วทำไม ประเทศอื่นไม่ทำ หรือ ไม่น่าจะทำได้ เพราะ แค่ฝนเล็ก ๆ จะกั้นพายุลูกใหญ่ ๆ ได้อย่างไร เหล่า นี้ล้วนแต่ เป็น เรื่อง เชิง วิชาการทั้งสิ้น ...ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับ ฝนหลวง กันเสียก่อน

    พระปรีชาสามารถ ฝนหลวงป้องกันพายุนาร์กีส ให้แก่พสกสิกร
    อ่านแล้วน้ำตาไหล...
    ฝนเทียมในหลวงป้องกันภัยพายุไซโคลนนาร์กีสให้แก่ไทย
    ขออนุญาตนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาเล่าสู่กันฟัง
    เมื่อวันศุกร์ผมได้มีโอกาสได้เข้าค่ายที่ศูนย์ฝึกทหารของค่ายนเรศวร วันแรกที่เข้าไปกะบรรยากาศครึ้ม ๆ ผมก็ว่า เอ... แปลกๆนะ ทำไมอากาศอบอ้าวเหมือนจะมีฝน แต่ก็คิดว่าคงเป็นไปตามสภาพอากาศพอไปถึงก็ทำกิจกรรมจนได้เข้าหอประชุมตอนดึกใกล้เวลานอนมากแล้ว อาจารย์เอกราช ท่านได้มาพูดถึงเรื่องของฝนที่ตกนี้ว่า

    “ก่อนหน้านี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านทรงให้คณะทำงานเกี่ยวกับฝนเทียม

    รีบทำฝนเทียมเพื่อเป็นแนวกันลมพายุดีเปรสชั่นซึ่งตอนนั้นยังไม่เกิดขึ้น
    แต่พระองค์ทรงเหมือนกับเทวดาองค์หนึ่งที่ทราบเรื่องนี้ก่อนถามว่าตอนนั้นกรมอุตุรู้เรื่องนี้ไหม?”


    ไม่มีใครทราบว่าจะเกิดพายุที่ประเทศพม่าด้วยซ้ำ พอคณะทำงานด้านฝนเทียมทำงานเสร็จด้วยความสำเร็จ... ผลงานที่พระองค์ได้ทำก็ก่อให้เกิดผล

    การสร้างฝนเพื่อดักพายุ มีมานานแล้ว การกำจัดความชื้นก่อนที่พายุจะเข้าจะทำให้พายุหันทิศทาง ซึ่งเป็นพระปรีชาสามารถของพ่อหลวงโดยแท้ การที่พ่อหลวงจะรับรู้ได้ว่ามีพายุนั้นไม่แปลกเลยที่สำคัญ พระองค์ทรงมีหน่วยงานพยากรณ์อากาศที่มีประสิทธิภาพสูงมากเป็นหน่วยงาน ที่ทำฝนเทียมให้ประชาชนชาวไทยอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยทั่วประเทศ โดยไม่ต้องโฆษณาเหมือนทรราชประชานิยม

    หน่วยงานที่ว่านี้มีเครื่องมือตรวจวัดสภาพอากาศที่ทันสมัยของภูมิภาคนี้ รู้ความชื้นสัมผัส ความเร็วลม ฯลฯ ทำงานมาหลายสิบปี ย่อมรู้แน่ว่าจะมีพายุรุนแรงระดับไหน ท่านจึงได้ป้องกันประเทศเราจากพายุไว้ก่อนได้ อย่างมิต้องสงสัยเลยเมื่อเกิดพายุอย่างที่พระองค์ตรัสไว้ที่พม่า และพายุนี้ก็ได้สร้างความเสียหายและสร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศพม่าจนทำให้เกิดความสูญเสียอันมหาศาลกับประเทศ ... แต่สำหรับประเทศไทย แนวกำแพงฝนเทียมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงสร้างไว้ก็ทำให้เกิดฝนตกเพียงเล็กน้อย ถ้าเทียบกับพายุที่จริงๆแล้วสามารถสร้างความเดือดร้อนกับประเทศได้มาก

    พระองค์ที่ต้องมาทรงงานอย่างหนักเพราะพระองค์ก็ทรงรักและเป็นห่วงลูกหลานของพระองค์ ลูก ๆ หลาน ๆ ที่อยู่ในประเทศนี้ ท่านทรงงานทุกอย่างเพื่อให้คนในประเทศได้สบาย เพื่อคนในประเทศได้อยู่ดีกินดีเหมือนเทวดาที่ไม่ว่าจะเสด็จพระราชดำเนินไปที่ไหนที่นั่นจะชุ่มฉ่ำ ที่ ๆพระองค์ เสด็จพระราชดำเนินไปจะพบแต่ความสงบสุข มีแต่เรื่องดี ๆ เกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร

    พอผมได้ทราบผมถึงกับอึ้งขนลูกซู่ กับ สิ่งที่พระองค์ได้ทำไว้ให้กับประเทศของเราถึงแม้นจะเป็นเรื่องที่ดีที่ทราบเรื่องนี้ แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้ผมสะเทือนใจกับสิ่งที่บ้านเมืองเป็นแบบนี้

    วันที่ 2 ที่เข้าค่าย ครูฝึกได้เปิดวีซีดีเกี่ยวกับพระองค์ให้ดูผมก็ดูไปเรื่อยๆจนถึงตอนหนึ่งที่เค้าตัดเอาตอนที่พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนิน เพื่อไปส่งเหล่ากษัตริย์จากต่างประเทศ คณะทูตที่มาเข้าเฝ้าในงานฉลองศิริราชสมบัติครบ ๖๐พรรษา

    ภาพที่ทำให้ผมปวดจี๊ดขึ้นมาในหัวใจก็คือตอนที่พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินลงบันได(ขอโทษครับพอดีไม่ทราบว่าเขียนยังไง พระองค์เกือบหกล้ม ดีที่ทหารรักษาพระองค์ที่เดินนำหน้าคอยประคองพระองค์ไว้ พอพระองค์ทรงยืนได้ก็ปัดมืออกผมไม่ทราบว่าพระองค์ตรัสตรงนั้นทันทีไมหรือตรัสกับคนสนิทในภายหลังว่า

    “ไม่ต้องมาพยุงเรา เราจะเดินให้คนทั่วโลกได้เห็นว่า
    เราเดินได้ให้คนทั่วโลกได้เห็นว่าเราสามารถปกครองคน 64 ล้านคนด้วยตัวของเราเองได้”

    ถึงตอนนี้แล้ว ...น้ำตาผมคลอเบ้า คนที่ดูกันก็สะอื้นกันไปหลายคนทุกๆคนในที่นั้นเงียบหมดกับคำพูดที่พระองค์ได้ตรัสไว้ ผมได้ยินเสียงกระซิบจากเพื่อนข้างๆว่าสงสารพระองค์ที่ต้องมาทรงงานอย่างหนัก ถึงแม้นจะอายุเยอะแล้วแต่พระองค์ก็ยังทรงรักและเป็นห่วงลูกๆหลานของพระองค์ ลูกๆหลานๆที่อยู่ในประเทศนี้ ท่านทรงงานทุกอย่างเพื่อให้คนในประเทศได้สบาย เพื่อคนในประเทศได้อยู่ดีกินดี

    อาจารย์ได้บอกกับพวกเราเมื่อวีซีดจบว่า พระองค์เหมือนฝนที่ทำให้ประเทศร่มเย็นเหมือนเทวดาที่ไม่ว่าจะเสด็จพระราชดำเนินไปที่ไหนที่นั่นจะชุ่มฉ่ำที่ๆพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปจะพบแต่ความสงบสุข มีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร

    ท้ายสุดนี้ผมอยากจะบอกพระองค์หากแม้นมีใครผ่านมาอ่าน ถึงจะเป็นคำพูดที่อาจจะได้ยินมาบ่อยๆแต่ผมก็ไม่สามารถจะคัดกรองคำพูดใดๆมาพูดได้อีกนอกจาก

    “ขอพระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงประชา เป็นร่มโพธิ์ทองของเหล่าปวงชนชาวไทย
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญตราบนานเท่านาน”
    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
    นายสมยศ ศุภกิจไพบูลย์
    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
    khunyod
    E-mail: khunyod@hotmail.com

    ที่มา

    แนะนำหนังสือ ตามรอยพระราชนิพนธ์พระมหาชนก


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2010
  18. Mrs.Kim

    Mrs.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,086
    ค่าพลัง:
    +2,306
    อ่านแล้วขนลุกซู่ด้วยค่ะ....ถ้าหากเกิดพายุกับประเทศไทยนึกภาพไม่ออกเลยค่ะว่าจะเสียหายมากมายแค่ไหน
    รู้สึกภูมิใจและดีใจมากที่ได้เกิดมาในแผ่นดินของพ่อหลวงค่ะ...และจะขอเกิดในแผ่นดินของพระองค์ทุกๆชาติไปค่ะ
    ขออารธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกดลบันดาลให้พระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยตราบนานเท่านานค่ะ
     
  19. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    [BIGVDO]<object width="480" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/Loje4bm_2Kc?fs=1&amp;hl=en_US"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/Loje4bm_2Kc?fs=1&amp;hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></embed></object>[/BIGVDO]
     
  20. deep listening

    deep listening เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +536
    ขอให้ได้รับเลือก ผ่านโครงการสุขแท้ นะครับ
    จะได้ร่วมช่วยด้วยอีกแรงนึง :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...