เทพ เทวดา ภาวนาได้หรือเปล่า

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย tunotun, 1 ตุลาคม 2010.

  1. ประกายพลอย

    ประกายพลอย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +452
    ศูนย์กลางของการศึกษา ทางพระพุทธศาสนา ก็คือมหาวิทยาลัยสงฆ์จุฬาลง

    กาณ์ราชวิทยาลัย จะไช้ หนังสือพระไตรปิฏกเป็นหลักในทางสอบภาคสนามหลวงทั่วประเทศไทย ก็หมายความว่า พระสงฆ์ของไทยจำนวนเกือบ300,000รูปทั่วประเทศ ถ้าเรียนนักธรรม ก็ต้องศึกษา ทำความเข้าใจ บทบันญัต พระวินัย
    พระอภิธรรม พุทธประวัติ อรรถธรรมต่างๆ จากพระไตรปิฏก

    หลักฐานทางประวัติศาตร์ ที่สามารถ หาแหล่งอ้างอิง ที่มา ที่ไป เวลา

    สถานทีเกิดเหตุ ทุกอยางที่เกียวกับพระพุทธศาสนา ที่ยังเป็นรายลักษ์อักษร

    อยู่จนถึงทุกวันนี้ ก็คือพระไตรปิฏก ซึ้งเป็นแหล่ง ข้อมูล ข้อเท็จจริง ทางพระ

    พุทธศาสนา ที่จะไช้ค้นคว้า เพื่อศึกษา ข้อมูลที่ถูกต้องอย่างแท้จริง

    ไม่ไช่นึกจะพูดอะไร ก็พูดกันไป ฉันคิดว่าอย่งานี้แหละถูก ไช่

    ที่พวกคุณว่ามานั้น มันส่วนตัว คิดเห็นส่วนตัว

    ......หมวดข้อสอบ พุทธประวัติ ก็มี สมาธิ อภิญญา ฌาณสมาบัติ อิทธิฤทธิ์

    โลกหน้า ภพหน้า นรก สวรรค์ พรหมโลกเป็นต้น

    ถ้าใครก็ตาม ไปสอบ พระธธรม ไม่ว่าจะเป็นนักธรรมตรี นักธรรมโท

    นักธรมเอก หรือมหาเปรียญ ถ้าขืนตอบข้อสอบธรรมะ ที่ออกโดย

    มหาลัยสงฆ์ ของประเทศไทย ถ้าตอบว่า เรื่องโลกหน้า เรื่องนรก สวรรค์

    เป็นนิทาน เป็นของโกหก เป็นเรื่องประโลมโลก อย่างที่พวกท่านว่ากันพวกท่านสอบตกนะครับ

    ....นักธรรมตรี ความรู้ธรรมะขั้นพื้นฐาน พวกท่านสอบตกนะครับ

    และข้อสอบที่ออกจากมาหลัยสงฆ์จุฬาลงกาณ์ราชวิทยาลัย

    พวกท่านจะไปสอบ ที่เชียงใหม่ ที่อยุธยา ที่ปัตตานี ยะลา หนองคาย

    สกลนคร ความรู้เกี่ยวกับธรรมมะ ที่ออกข้อสอบ เป็นอันเดียวกัน ข้อสอบตัวเดียวกัน

    คำถามอันเดียวกัน คำตอบต้องตอบไห้ถูก ไห้ตรง กับพระไตรปิฏก

    ที่ผมบอกแบบนี้ก็เพาะว่า คนธรรมดาก็ไปศึกษาแล้วสมัครสอบได้

    สรุปก็คือพวกท่านเกิดพศนี้ เกิดมายังไม่ถึง ไม่เกิน100ปี แล้วก็มาพูดอะไรไปเรื่อย

    เทียบกับหลักฐานทางพระพุทธศาสนา ที่เป็นแหล่งข้อมูลมากมาย มีหลักฐาน มี

    มีข้อเท็จจริงที่ยังหลงเหลืออยู่ จับได้ ต้องได้ ก็คือพระไตรปิฏก

    ความนรู้ ข้อมูล เยอะมาก ไห้ได้ศึกษา มีทั้งหมด เล่มหนาๆ 45เล่มด้วยกัน

    แบ่งเป็นสามหมวด 1 หมาดพระวินัย 2 หมวดพระอภิธรรม 3 หมวดพุทธประวัติ



    พระสงห์สงฆ์ไทยทั้งประเทศยึดพระไตรเป็นแนวทาง

    เป็นที่พึ่ง เป็นแหล่งความรู้ เป็นองค์แทนพระศาสดา

    ซึ้งมานานกว่า 2500ปีแล้ว

    แล้วอยู่ๆคุณเป็นใคร คนพึ่งเกิดพศนี้กันนี่เอง

    ถ้าเอาอย่างพวกคุณพูด ป่านี้หลักฐานจากพระไตรปิฏกเจ้ง! พังพินาศ ไม่เหลือ ประวัติต่างๆของพระสาวก เรื่องราวพระพุทธศาสนาไม่ต้องมีกันแล้ว เรียบร้อย กลายเป็กหลักลอย

    จะเหลือก็แต่คำพูดของพวกคุณ ที่ว่ากันไปต่างๆนา

    คิดไงก็ว่ากันไป

    แล้วพวกท่านก็มาค้านพระไตรปิฏก มีความเห็นตรงข้าม

    แล้วจะไห้ผมเรียกว่าอะไร ถ้าไม่เรียกว่า เดียรถีย์

    เดียรถีย์ แปลว่า ขวาง หรือนอกศาสนาพุธ




    พระไตรปิฏกครั้งตั้งแต่ พระพุทธเจ้าทรงปรินิพพานแล้ว
    รวมสังคยาทั้งหมด 11ครั้ง จนถึงปัจจุบัน แล้วโดยส่วนมาก ไม่ได้แก้ไข เพิ่ม ตัด หรือลดอะไรทั้งสิ้น

    เพียงปรับไช้ภาษาไห้เข้าใจง่ายมากขึ้นกับยุคสมัย..

    จึงเรียนมาเพื่อทราบ...

    สนใจหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย มหาลัยสงฆ์จุฬาลงกาณ์ราชวิทยาลัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2010
  2. รอดมี

    รอดมี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +161
    หนูหลบภัยจ๋า หนูอ่านภาษาไทยไม่เก็ทเลย ที่บอกอย่าให้เจอไม่ใช่ตัวหนู
    แต่เป็นพระอินทร์ที่หนูกล่าวถึง พระอินทร์ตัวที่มันไปยุ่งกับเมียพระฤษี
    จนออกลูกมาเป็น ไอ้ลิงพาลีเจ้าเมืองขีดขินงัย ไม่เคยอ่านเรื่องรามเกียรติ์เลยรึ
    แล้วก็บักองคุลีมาลที่มันเที่ยวได้จิ้มไม่เห็นด้วย
    เขาไปทั่ว มันทำตัวเป็นนิ้วที่มองไม่เห็น น่ารังเกียจ
     
  3. รอดมี

    รอดมี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +161
    ใครเขาไปว่าหนูเป็นผู้ชาย ฟังไม่ได้ศัพย์เลย
    จะเป็นผู้ชายได้งัย ก็เห็นบักพะโล้ตามจีบตามตื้ออยู่ไม่ใช่รึ
     
  4. รอดมี

    รอดมี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +161
    ถามจริงคุณยังไม่เข้าใจอีกรึ ว่าไม่มีใครเขาไปค้านคำสอนหรือพระไตรปิฎก
    ผมไปอ่านความเห็นคู่กรณี เขาก็อธิบายไว้อย่างละเอียดว่า เขาไม่เชื่อคนที่มาคุย เพราะไม่เห็นจริง
    แล้วพี่บุญแกยังอธิบายเพิ่มว่า เรื่องเทพเทวดา
    ท่านสอนเพื่อให้คนกลัวไม่กล้าทำบาป มันเป็นกุโลบายอย่างหนึ่ง พวกท่านเป็นอะไรไปกันหมดนะ
    แม้กระทั้งเด็กมันยังเข้าใจเลย

    นี้แน่ะท่านมหาเปรียยวัดครับ ผมถามหน่อย
    ไอ้ทฤษฎีกับปฏิบัติมันเหมือนกันมั้ย เด็กมันยังรู้เลย
     
  5. รอดมี

    รอดมี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +161
    ท่านมหาครับ รู้ต้องรู้ให้จริงซิครับ ท่านเอาชื่อ มหาวิยาลัยสงฆ์มาอ้าง
    แต่ดูความเห็นท่านซิ
    ภาษาของพระพุทธเจ้า มีตัวหนังสือที่เป็นรายลักษ์
    อักษรด้วยรึ เอาชื่อเขามาอ้างแบบนี้วิทยาลัยเขา
    เสียชื่อหมด
     
  6. ประกายพลอย

    ประกายพลอย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +452

    ปัจจุบัน บันทึกลงกระดาษ ป็นรูป เป็มเล่ม

    เป็นลายลักษณ์อีกษร มีทั้ง บาลี และสันสฤกษ
    แปลเป็นภาษาไทย ที่เรียกว่าหนังสือพระไตรปิฏก
    มีทั้งหมด ทุกหมวดรวมกัน 45เล่ม
    กรุงรัตนโกสิน-กรุงธน-อยุธยา 200-300ปีที่ผ่านมา

    ถอยหลังไปอีกหน่อย ไช้เป็นใบลาน บันทึกลงใบลาน เดี๋ยวนี้ก็ยังหาดูได้ตามวัด เวลาพระท่านเทศน์
    สมัยสมเด็จพระนรมยณ์ 300-400-500ปีที่ผ่านมา


    ..ถอยหลังไปอีก บันทึกลงสมุดข่อย หนังวัว หนังควาย หมายถึง พุทธประวัติต่างๆ พระธรรมต่างๆ
    พระวินัยต่างๆ


    ..ถอยสุด สมัยพุทธกาล การบันทึกความจำ ก็คือ

    การใช้วาจา ถาม ตอบ แล้วจำไว้ในหัว

    ฮ่วย..........

    คุยอยู่กับใครฟะเนียะ

    นิ่มจริงๆๆ




    (ที่มาของการบันทึกช่วยจำ เป็นแบบนี้)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2010
  7. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    เมื่อคนตาบอดแต่กำเนิดมาคลำช้าง

    บอกคนตาบอดแต่กำเนิดว่านั้น พระอาทิตย์ นั่นพระจันทร์ คนตาบอดว่า พระอาทิตย์กับพระจันทร์นั้นไม่มี
    เพราะตัวเขา ไม่เคยเห็น เมื่อเขาไม่เห็นก็แสดงว่า พระอาทิตย์กับพระจันทร์ต้องไม่มีแน่นอน
     
  8. รอดมี

    รอดมี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +161
    ท่านมหาว่าใครนิ่ม ตัวเองเริ่มก่อนแต่ไร้ปัญญาสื่อให้คนรู้
    ถามจิงถ้าเราไม่แย้งไป จะรู้หรือเปล่าว่า ภาษาพระพุทธเจ้าไม่มีภาษาเขียน
    นี้สงสัยแกล้งมั่วนิ่ม เขียนเพิ่มขึ้นมา หลังจากที่เราบอกแล้วฮึฮึฮึ
    มั่วนิ่มได้ใจเลย ท่านมหาจูงลา
     
  9. รอดมี

    รอดมี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +161
    คุณจะเอามาบอกทำไม มันไม่เห็นเกี่ยวกันเลย
    ประเด็นมันอยู่ที่ คนที่เล่าเรื่องเทวดา
    อวดอ้างสาระพัด สาระเพ
    พูดเป็นตุเป็นตะแท้ที่จริงก็ไม่เคยเห็นเทวดา
    คนที่ไม่เคยเห็น บอกว่าไม่มีมันก็ไม่แปลก
    แต่คนที่บอกสรรพคุณเทวดาต่างๆนาๆ
    มันก็ไม่เคยเห็น หน่อมแน้มทั้งคนเล่าและ
    คนสนับสนุน
     
  10. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    คุณพูดจาดี สมกับชื่อของคุณ "รอดมี" มีมุมมองกว้างไกล ไม่มืดบอด การปฎิบัตธรรมที่แท้จริง มันอยู่กันที่ตรงไหนหนา? ใครที่คิดว่ารู้จริง ช่วยตอบที นึกว่าทำบุญแก่ผู้ด้อยปัญญาเช่นเราเถอะ กราบขอบพระคุณ...
     
  11. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    ไม่เกี่ยวตรงไหนกัน เกี่ยวตรงๆเลย
    จริงอยู่ที่มีคนที่ไม่เคยเห็นเทวดา แต่ก็มีคนเห็นเหมือนกันไม่ใช่ไม่มี
    และคนที่ไม่เคยเห็นไม่ใช่ว่าเขาต้องไม่เชื่อว่าไม่มีเทวดาตามคุณด้วยแต่
    เขาก็มีปัญญาและศรัทธาในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เขาเชื่อตามพระไตรปิฏก
    เพราะพระไตรปิฏกก็มีการสังคยนา โดยพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ
    ส่วนคนที่เคยเห็นเมื่อมาบอกคนที่ไม่เคยเห็น ก็มีคนที่ไม่เคยเห็นเชื่อก็มีไม่เชื่อแบบคุณก็มี
    แล้วเรื่องตาบอดคลำช้างนี่ จะไม่เกี่ยวอย่าที่คุณบอกได้ยังไงกัน
     
  12. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    โลกหน้ามีจริงหรือไม่

    ปัญหา ปัญหาใหญ่ที่คนถกเถียงกันอยู่เสมอ ก็คือปัญหาที่ว่าโลกหน้าที่มนุษย์จะไปเกิดหลักจากตายแล้วมีจริงหรือไม่ ?

    ในเรื่องนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้อย่างไรบ้าง ?
    พุทธดำรัสตอบ “..... ดูก่อนพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย บรรดาสมณพราหมณ์สองพวกนั้น สมณพราหมณ์ที่มีวาทะอย่างนี้ มีความเห็นอย่างนี้ว่าทานที่ให้แล้วไม่มีผล การบวงสรวงไม่มีผล การบูชาไม่มีผล ผลวิบากแห่งกรรมที่สัตว์ทำดีทำชั่วแล้วไม่มี โลกนี้ไม่มี โลกหน้าไม่มี มารดาไม่มี บิดาไม่มี อุปปาติกสัตว์ไม่มี สมณพราหมณ์ที่ไปโดยชอบ ปฏิบัติโดยชอบ ทำโลกนี้และโลกหน้าให้แจ้งชัดด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว ประกาศให้รู้ทั่ว ไม่มีในโลกดังนี้ เป็นอันหวังข้อนี้ได้คือ จักเว้นกุศลธรรม ๓ ประการ นี้ คือ กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต จักสมาทานอกุศลธรรม ๓ ประการ นี้ คือ กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต แล้วประพฤติข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะท่านสมณพราหมณ์เหล่านั้น ไม่เห็นอานิสงส์ในเนกขัมมะ อันเป็นคุณฝ่ายขาวแห่งกุศลธรรม ก็โลกหน้าที่อยู่จริง ความเห็นของผู้นั้นว่าไม่มีความเห็นของเขานั้นเป็นมิจฉาทิฐิ ก็โลกหน้ามีอยู่จริง แต่เขาดำริว่าโลกหน้าไม่มี ความดำริของเขานั้นเป็นมิจฉาสังกัปปะ ก็โลกหน้ามีอยู่จริง แต่เขากล่าวว่าโลกหน้าไม่มี วาจาของเขานั้นเป็นมิจฉาวาจา ผู้นี้ย่อมทำตนเป็นข้าศึกต่อพระอรหันต์ ผู้รู้แจ้งโลกหน้า ก็โลกหน้ามีอยู่จริง เขายังให้ผู้อื่นเข้าใจว่า โลกหน้าไม่มี การให้ผู้อื่นเข้าใจของเขานั้นเป็นการให้เข้าใจผิดโดยไม่ชอบธรรม และเขายังจะยกตนข่มผู้อื่น ด้วยการให้ผู้อื่นเข้าใจผิด ไม่ขอบธรรมนั้นด้วย เขาละคุณคือ ความเป็นคนมีศีลแล้ว ตั้งไว้เฉพาะแต่ส่วนโทษ คือความเป็นคนทุศีลไว้ก่อนเทียว ด้วยประการฉะนี้ อกุศลธรรมอันลามกเป็นอเนกเหล่านี้ คือ มิจฉาทิฐิ มิฉาสังกัปปะมิจาวาจา ความเป็นข้าศึกต่อพระอริยะ การให้ผู้อื่นเข้าใจผิดโดยไม่ชอบธรรม การยกตน การข่มผู้อื่น ย่อมมีเพราะมิจฉาทิฐิเป็นปัจจัยด้วยประการฉะนี้ ฯ”
    อปัณณกสูตร ม. ม. (๑๐๖)
    ตบ. ๑๓ : ๑๐๒-๑๐๓ ตท.๑๓ : ๙๒
    ตอ. MLS. II : ๗๑
     
  13. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    หลักความเชื่อในพระพุทธศาสนา

    ปัญหา ได้ทราบว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญา สอนให้ใช้ปัญญาพิจารณาก่อนจึงเชื่อ แต่อยากทราบว่ามีหลักอะไรบ้างในพระพุทธศาสนาที่พุทธศาสนิกชนจะต้องเชื่อ ? และถ้าไม่เชื่อจะมีผลอย่างไร ?

    พุทธดำรัสตอบ “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ สงสัยเคลือบแคลง ไม่ปลงใจเชื่อ ไม่เลื่อมใสในพระศาสดา.... ในพระธรรม.... ในพระสงฆ์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จิตของภิกษุที่สงสัย เคลือบแคลง ไม่ปลงใจเชื่อ ไม่เลื่อมใสในพระศาสดา .... ในพระธรรม..... ในพระสงฆ์นั้น ย่อมไม่น้อมไปเพื่อความเพียรเครื่องเผากิเลส เพื่อประกอบเนือง ๆ เพื่อความทำติดต่อเพื่อความเพียรที่ตั้งมั่น ข้อที่จิตของภิกษุไม่น้อมไปเพื่อความเพียรเครื่องเผากิเลส เพื่อความประกอบเนือง ๆ เพื่อความทำติดต่อ เพื่อความเพียรที่ตั้งมั่นอย่างนี้ ชื่อว่าตะปูตรึงใจ....ฯ ”

    เจโตขีลสูตร มู. ม. (๒๒๘)
    ตบ. ๑๒ : ๒๐๕-๒๐๖ ตท.๑๒ : ๑๖๔
    ตอ. MLS. I : ๑๓๒
     
  14. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    พรหมโลกมีจริง

    ปัญหา พรหมโลกมีจริงหรือ ? พระพุทธองค์ตรัสยืนยันไว้ที่ไหนว่าพรหมโลกมีจริง ?

    พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนมาณพ บุรุษผู้เกิดแล้วทั้งเจริญแล้วในบ้านนฬการคามนั้น ถูกถามถึงหนทางของบ้านนฬการคามนั้น ไม่พึงชักชาหรือตกประหม่าและ ตถาคตถูกถามถึงพรหมโลกหรือปฏิปทาเครื่องให้ถึงพรหมโลก ก็ไม่ชักช้าหรือประหม่าเช่นเดียวกัน
    “.....ดูก่อนมาณพ เราย่อมรู้จักทั้งพรหม ทั้งพรหมโลก และปฏิปทาเครื่องให้ถึงพรหมโลก อนึ่ง ผู้ปฏิบัติด้วยประการใด จึงเข้าถึงพรหมโลกเราย่อมรู้ชัดซึ่งประการนั้นด้วย......”
    สุภสูตร ม. ม. (๗๒๙)
    ตบ. ๑๓ : ๖๖๓-๖๖๔ ตท.๑๓ : ๕๔๑-๕๔๒
    ตอ. MLS. II : ๓๙๕
     
  15. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    ความเห็นผิดคืออย่างไร

    ปัญหา ข้อที่ว่าโลภและโกรธเป็นมูลเหตุให้เกิดอกุศลกรรมนั้น พอจะเข้าใจแล้ว แต่ข้อที่ว่าโมหะอันเป็นเหตุให้เกิดมิจฉาทิฐิความเห็นผิดนั้นคือเห็นอย่างไร ?

    พุทธดำรัสตอบ “..... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นมิจฉาทิฐิมีความเห็นวิปริตว่า ทานที่ให้แล้วไม่มีผล ยัญที่บูชาแล้วไม่มีผล การเช่นสรวงไม่มีผล ผลวิบากของกรรมที่บุคคลทำดีทำชั่วไม่มี โลกนี้ไม่มี โลกหน้าไม่มี มารดาไม่มี บิดาไม่มี สัตว์พวกที่เกิดผุดขึ้นไม่มี สมณะพราหมณ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ทำโลกนี้และโลกหน้าให้แจ้งชัดด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว สอนหมู่สัตว์ให้รู้ตามไม่มีในโลก ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าทิฐิวิบัติ.... เพราะทิฐิวิบัติเป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายเมื่อกายแตกตายไป ย่อมเข้าถึงอบายทุคติ วินิบาต นรก.....ฯ”
    อยสูตร ติ. อํ. (๕๕๗)
    ตบ. ๒๐ : ๓๔๕ ตท. ๒๐ : ๓๐๒
    ตอ. G.S. I : ๒๗๐
     
  16. ผู้เตือน warn

    ผู้เตือน warn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +688
    ได้ความรู้ ได้สาระจริงครับ ยอมรับเลยครับ

    ผม...Mr Warning
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2010
  17. ผู้เตือน warn

    ผู้เตือน warn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +688
    อันนี้ก็ได้สาระครับผม

    สาระ..แน..จัง:cool:

    ผม...Mr Warning.
     
  18. ผู้เตือน warn

    ผู้เตือน warn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +688
    อันนี้ก็ขอมูล ความรู้ สาระ จากพระไตรจริงๆ

    จะหาอ่านวันไหน ปีไหน วัดใด เหนือ กลาง ออก ใต้

    ถ้ามีหอพระไตรปิฏก อย่างคุณ ประกายพลอย พูดไว้

    ก็จะพบแหล่งข้อมูลแบบนี้ เป็นนอันหนึ่ง อันเดียวกัน
    วรรค ตอน เล่มที่เท่าไหร่มีบอกไว้

    หลักฐานทางประวัติศาตร์ต้องเป็นแบบนี้

    .....ไม่ไช่มาพูดลอยลม ไปวันๆ นึกอะไรได้ก็ว่าไปเรื่อยเปื่อย

    อันนี้ได้ความรู้ พุทธประวัติ ได้สาระจริงๆ

    ผม......Mr.Warning
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2010
  19. รอดมี

    รอดมี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +161
    ผมมิสเตอร์ วอนนี้ อยู่ดีๆไม่ชอบ55555
    คนมีปัญญา เขาพูดปากเปล่ากัน
    อาศัยไหวพริบปฏิญาณ เกิดจากปัญญาล้วนๆ
    ไม่เหมือนพวกขี้โม้ อาศัยตำราแต่ไม่ได้จำเอานะ
    เล่นเสิจน์ googleลูกเดียว

    แหม่! มันโหลยโท่ยจิงๆเลย
     
  20. ประกายพลอย

    ประกายพลอย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +452

    ชีวิตคิดได้แค่นี้อะนะ นึกอะไรได้ก้ว่าไปเรื่อยเปื่อย

    อยู่กรมตำรวจ แผนกสืบสวน โดนไล่ออกตั้งแต่วันแรก
    หลักฐาน ข้อมูล ตำรา วัตถุพยาน(พระไตรปิฏก)

    ไม่จำเป็น เพราะผม สิบตรี รอดมี เป็นผู้มีปัญญา


    พยานหลักฐาน ข้อเท็จ ประวัติความเป็นมาไม่จำเป็น ผม สิบตรี รอดมี ไช้วิธีการว่าปากเปล่าเอาสรุบคดี สำนวนได้เลย

    เออช่างคิดได้เนาะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...