ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

<h1>ต่างชาติฮุบ 25 จังหวัด ชาวนา - โบรกเกอร์แห่ขายที่ | มูลนิธิชีววิถี</h1>

ถ้าเเม้เเต่ดินนี้ ยังไม่ใช่ดินของเรา เเล้วจะทำเพื่อใคร

 

ศักดิ์ศรีของชาวนา ชาวไร่ หายไปพร้อมเงินตรา

 

*** เชียงใหม่แออัด จึงต้องพัฒนาลำพูน ****

เมืองหลวงทางเหนือ น้ำท่วมงาน แผ่นดินไหวได้
เชียงใหม่ แออัด เริ่มไม่ปลอดภัย
ต่อไป ต้องไปสร้างสนามบินนานาชาติ ที่ลำพูน
ภูมิประเทศกว้างไกล ทำเลดีกว่าเป็นที่ราบสูงกว่า ปลอดภัยกว่า
วางผังพัฒนาเป็นเมืองใหม่ในอนาคตได้ง่ายกว่า
รักษาเมืองเก่าโบราณสถานเป็นศูนย์กลาง รักษาประเพณี วัฒนธรรมที่ดี
เตรียมคิดวันนี้ ประกวดออกแบบผังเมือง อนาคตสดใส ธรรมชาติงามตา
จามเทวีจะกลับมา ย้อนรอยอดีต ด้วยสัจจาที่ให้ไว้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** อดีตเชียงใหม่...อาจย้อนรอย ****

เวียงกุมกาม...

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ปภ.น่านเตือนภัย30ตำบล11อำเภอ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>นายธวัช เพชรวีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน

เปิดเผยถึง ผลการตรวจสอบของสำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี ถึงกรณีเหตุหลุมยุบที่บริเวณร่องน้ำของแปลงทดลองปลูกพืชของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรน่าน บ้านผาตูบ หมู่ 7 ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน ว่าพื้นที่ดังกล่าวรองรับด้วยหินปูนและบางจุดเป็นโพรงหินปูน เมื่อเพดานโพรงพังทลาย เนื่องมาจากระดับความดันภายในโพรงเปลี่ยนแปลง จึงเกิดเป็นหลุมยุบขึ้น

สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยหลุมยุบในจังหวัดน่าน มีจำนวน 30 ตำบล ใน 11 อำเภอ จากทั้งหมด 15 อำเภอ ได้แก่ พื้นที่ อ.เวียงสา 7 ตำบล คือ ต.ขึ่ง ต.ส้าน ต.ยาบหัวนา ต.ปงสนุก ต.แม่ขะนิง ต.แม่สาคร ต.แม่สา รองลงมาตามลำดับคือ อ.นาหมื่น 5 ตำบล คือ ต.พระพุทธบาท ต.นาทะนุง ต.บ่อแก้ว ต.เมืองลี ต.ปิงหลวง พื้นที่ อ.เมืองน่าน 3 ตำบล คือ ต.บ่อ ต.ผาสิงห์ ต.สะเนียน พื้นที่ อ.นาน้อย 3 ตำบล คือ ต.ศรีษะเกษ ต.สันทะ ต.น้ำตก พื้นที่ อ.ทุ่งช้าง 3 ตำบล คือ ต.งอบ ต.ทุ่งช้าง ต.เปือ พื้นที่ อ.ปัว 2 ตำบล คือ ต.เจดีย์ชัย ต.ภูคา พื้นที่ อ.ท่าวังผา 2 ตำบล คือ ต.ป่าคา ต.ผาตอ พื้นที่ อ.สองแคว 2 ตำบล คือ ต.นาไร่หลวง ต.ยอด พื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ 2 ตำบล คือ ต.ห้วยโก๋น ต.ขุนน่าน และพื้นที่ อ.แม่จริม 1 ตำบล คือ ต.น้ำพาง

อย่างไรก็ตามในขั้นต้นได้แนะนำให้เจ้าหน้าที่ของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรน่านและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ดำเนินการล้อมรั้วปักป้ายเตือนภัยหลุมยุบ หลังจากนั้นให้กลบหลุมโดยใช้ หิน กรวด ทราย ที่หาได้ในพื้นที่และปิดทับด้วย.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เศร้า..ทางด่วนถล่มในไต้หวันคนถูกฝังดับแล้ว3 </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ทางด่วนที่กำลังก่อสร้างในหนานตู เคาน์ตี้ ทางภาคกลางของไต้หวันพังถล่มลงมา ทำให้มีคนเสียชีวิต 3 คน


วันนี้ 1 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางด่วนที่กำลังก่อสร้างในหนานตู เคาน์ตี้ ทางภาคกลางของไต้หวันพังถล่มลงมา ทำให้มีคนเสียชีวิต 3 คน อีกหลายคนถูกฝังอยู่ใต้ซากหักพัง ส่วนหนึ่งของทางด่วนส่วนที่พังลงมามีความยาวกว่า 100 เมตร เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อคนงานกำลังเทปูนและท่อนคอนกรีตยาว 100 เมตรตกใส่นั่งร้านและทับคนงานเบื้องล่าง คนงานที่ได้รับบาดเจ็บห้าคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่สองคนเสียชีวิตก่อน

ส่วนอีกคนถูกพบเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตทั้งสามคนเป็นชาวต่างชาติแต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นชาติใด เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังกำลังค้นหาผู้ที่ถูกฝังอยู่ใต้ซากหักพัง


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

======================================

30 ก.ย. 53

ค่าเงินบาท

ในภาพผมกำลังเย็บธนบัตรติดกันยาวอย่างกับหางว่าว ถ้าให้แปลคงหมายถึง
ค่าเงินบาทจะแข็งตัวเป็นระยะเวลานาน

เย็นนี้ได้ดูข่าวช่อง 3 จอโลกเศรษฐกิจ ได้กล่าวถึงค่าเงินบาทจะแข็งตัวไปอีก
1-2ปีและจะลดลงเหลือ 27 บาท ขณะนี้อยู่ที่ 29 บาท


แว่ว แว่ว----------มวลชน----------คนสีเข้ม
เปิดประเด็น-------วันที่เก้า----------เดือนตุลา
จะออกมา---------ทำอะไร?--------กันนักหนา
ชาวประชา--------จะเดือดร้อน------ไม่สนใจ


องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน


======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->

 

ลำพูนตั้งอยู่บนรอยเลื่อนแม่ทา จะปลอดภัยได้ไง ก่อนโพสกรุณาศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนชี้แนะ นิคมอุตสาหกรรมส่งออกมีตั้งหลายเขตก่อเกิดมลพิษในเขตชุมชน มีคดีฟ้องร้องกันเรื่องมลพิษบ่อยๆ ยืนยัน.../คนลำพูนนะเนี่ย

 

เวี่ยงกุมกามอยู่ติดลำน้ำปิงเป็นที่ลุ่มฝนตกมากๆ น้ำท่วมทุกปี เริ่มจากแถวๆป่าแดด ภาค5 ที่ลุ่มน้ำท่วมทุกปีอยู่แล้ว ส่วนที่สูงน้ำไม่ท่วม อยากให้ดูสภาพภูมิศาสตร์ด้วย ไม่อยากให้ใช้วิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง ควรประกอบหลายๆทาง

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พบหลักฐานแหล่งอยู่อาศัยของมนุษย์บนที่สูงมีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

นักโบราณคดีพบหลักฐานจากเถ้าถ่านภูเขาไฟถึงการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์บนที่สูง ซึ่งมีความเก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุย้อนหลังลงไปนานถึง 49,000 ปี

หลักฐานที่ค้นพบอยู่ที่ภูเขาในปาปัวนิวกินี โดยพบซากของค่าย 6 แห่ง ในพื้นที่ใกล้เมืองโกโกดา พบหลักฐานการก่อไฟ การใช้เครื่องมือหินและเศษอาหาร ลักษณะของสถานที่ที่ค้นพบไม่ใช่หมู่บ้าน แต่เป็นค่ายพักแรมที่ใช้งานอยู่เป็นประจำ ตั้งอยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 2,000 เมตร เชื่อว่าเป็นหลักฐานเก่าแก่ที่สุดของบรรพบุรุษมนุษย์ปัจจุบันที่เคยอาศัยอยู่บนที่สูง

การค้นพบซึ่งนำออกเผยแพร่ในวารสารวิทยาศาสตร์ ระบุว่า มนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่อาศัยอยู่บนที่สูงของหุบเขาไอเวน ของปาปัวนิวกินี สามารถทำเครื่องมือหิน ล่าสัตว์ขนาดเล็กและกินถั่วเปลือกแข็งและมันเทศเป็นอาหาร แต่นักวิทยาศาสตร์ยังอธิบายไม่ได้ว่าทำไมมนุษย์กลุ่มนี้จึงเลือกอยู่ในสภาพที่ยากลำบากบนพื้นที่สูง ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งมากกว่าจะอยู่ในพื้นที่ติดทะเลซึ่งอุณหภูมิอบอุ่นกว่า แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าบริเวณนี้อาจเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ภูเขายุคแรกเริ่ม.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>แผ่นดินทรุดตัวบนดอยแม่สลอง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจาก อินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>
แผ่นดินเชียงรายทรุดตัวยาวกว่า 300 เมตร ลึกลงไปในดินเกือบ 1 เมตร จนท.มึนไม่รู้สาเหตุ


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ต.ค. นายวุฒิพงษ์ สวรรค์โชติ นายก อบต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้นำเจ้าหน้าที่จากสำนักงานธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมเชียงราย ออกสำรวจพื้นที่แผ่นดินทรุดตัว ทำให้เกิดรอยแยกแตกออกจากกันเป็นทางยาวกว่า 300 เมตร และบางจุดเป็นทางลึกลงไปในดิน 70-80 เซนติเมตร ที่เกิดเหตุเป็นแหล่งใจกลางของหมู่บ้านสันติคีรี หมู่ 1 ต.แม่สลองนอก ส่งผลทำให้มีบ้านเรือนที่อยู่ตรงรอยแยก-ดินทรุดตัว ได้พังเสียหายไป 10 หลังคาเรือน บางแห่งมีหลังคาเอียงถึง 33 ซม. กระจกแตก และโรงแรมเซ็นทรัลฮิลล์ ได้รับความเสียหาย เบื้องต้น จนท.ธรณีวิทยาฯ ยังไม่สามารถวินิจฉัยถึงสาเหตุการเกิดดินทรุดในครั้งนี้ได้ ต้องออกสำรวจรอบ ๆ พื้นที่ที่เกิดเหตุ พร้อมนำดินไปพิสูจน์ก่อน

นายวุฒิพงษ์ ได้กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ก.ย. ได้เกิดฝนตกหนัก และต่อเนื่องมาโดยตลอดทั้งวันทั้งคืนบนดอยแม่สลอง แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเชียงราย กระทั่ง ตอนบ่ายของวันที่ 30 ก.ย. เกิดฝนเทลงมาอย่างหนักจนเกิดรอยแยกดังกล่าว เบื้องต้น พบว่า ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต แต่ก็ได้ช่วยกันอพยพราษฎรออกจากจุดเกิดเหตุรวม 8 ครอบครัว และได้ประกาศเป็นพื้นที่อันตราย พร้อมประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาสำรวจหาสาเหตุของการเกิดดินทรุดตัว.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เตือน 4 จังหวัดระวังน้ำท่วมฉับพลัน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>อุตุฯเตือนชาวบ้านพื้นที่เสี่ยงกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ลักษณะอากาศวันที่ 1 ต.ค. ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางปกคลุมภาคเหนือและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนลดลง อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่าน ภาคใต้ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 2- 6 ต.ค. จะมีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนหนักในหลายพื้นที่ บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ จึงขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 วันนี้ ถึง 06.00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศา สูงสุด 32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ชาวบ้านผวา! เจอดินทรุด เกิดรอยแยก เป็นทางยาวกว่า 300 เมตร
รายงานข่าวระบุว่า ที่บ้านสันติคีรี ต.แม่สลองนอก บนดอยแม่สลอง แหล่งท่องเที่ยวดังของ จ.เชียงราย พบมีรอบร้าว และดินทรุดตัว เกิดเป็นแนวยาวประมาณ 300 เมตร ซึ่งชาวบ้านสันติคีรี ต้องนำป้ายมาติดทั่วพื้นที่เพื่อแจ้งเป็นเขตอันตรายไม่ให้ประชาชนและ รถที่สัญจรผ่านไปมาได้เข้าใกล้เกรงจะทรุดตัวลงไปอีก ขณะที่บ้านบางหลังเกิดทรุดตัวลงมา หลังคาบ้านเอียง กระจกแตกเสียหาย

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบความเสียหายแล้ว พบว่า มีบ้านจำนวน 8 หลังที่อยู่ใกล้กับจุดที่ดินทรุด จึงได้ให้ชาวบ้านขนข้าวของออกจากบ้านไปอาศัยอยู่กับญาติชั่วคราว เกรงว่าจะเกิดอันตราย ทั้งนี้ หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า มีความลึกของร่องลึกตั้งแต่ 1 เมตรขึ้นไป และมีความกว้าง 10-20 ซ.ม.แล้วแต่ภูมิประเทศ
เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news




เผย รถถังและยานยนต์หุ้มเกราะลอตใหม่มาเร็วๆนี้
1 ตค. รายงานข่าวจากสำนักข่าว ดึม อัม ปึล เปิดเผยว่า สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวในพิธีจบการศึกษาในกรุงพนมเปญ เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า กัมพูชาได้สั่งซื้อรถถังและยานยนตร์หุ้มเกราะลำเลียงพล กว่า 100 คัน จากประเทศแถบยุโรป
ทั้งนี้ เนื่องจากเรือที่ใช้ขนส่งมีไม่เพียงพอและสามารถบรรทุกรถถังและยานยนตร์หุ้มเกราะลำเลียงพล มาได้เพียง 96 คัน โดยส่วนที่เหลือจะมีการขนส่งมาทางเรือและจะมาถึง กัมพูชา ในไม่ช้านี้
อย่างไรก็ตาม สมเด็จฮุนเซน กล่าวถึงการซื้อรถสั่งซื้อยานยานยนต์ทางการทหารเหล่านี้ ไม่ได้วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการแสดงแสนยานุภาพทางทหารของกัมพูชา หรือ เพื่อกดดันต่อการเจรจากับประเทศไทย
เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News

 

สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ แนะขายสัมปทานให้เอกชน เชื่อบริการดีกว่า มั่นใจค่าโดยสารไม่แพงขึ้น
1 ตค. รายงานข่าวแจ้งว่า นายโอกาส เตพละกุล ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) กล่าวว่า ได้ยื่นข้อเสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรีเรื่องการปรับปรุง การบริหารจัดการ และการบริการขององค์การขน ส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งเห็นว่ารัฐบาลควร เปิดให้เอกชนเข้ามารับสัมปทานเดินรถแทน เพราะปัจจุบัน ขสมก.มีหนี้สะสมอยู่ 7 หมื่นล้านบาท ไม่รวมดอกเบี้ยอีกปีละประมาณ 3,000 ล้านบาท และมีหนี้ต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 12 ล้านบาท
ทั้งนี้ ถ้าให้เอกชนเข้ามาสัมปทาน ขสมก.จะได้เงินก้อนแรกเข้ามาทันที 8 หมื่นล้านบาท สามารถนำมาใช้หนี้ที่ค้างอยู่ได้ทันที นอกจากนี้ ยังจะมีค่าตอบแทนรายเดือนอีกประมาณ 1,000 ล้านบาทด้วย
“ปัจจุบันเรามีรถเมล์วิ่งประจำเส้นทางต่างๆ ประมาณ 16,000 คัน หากเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นการให้สัมปทานเอกชน ประชาชนจะได้รับบริการที่ดีขึ้น เพราะเอกชนที่มีประสิทธิภาพ มากกว่า และไม่น่าจะทำให้ค่าโดยสารแพงขึ้น เพราะรัฐบาลสามารถควบคุมได้จากสัญญาสัมปทานอยู่แล้ว” นายโอกาส กล่าว
อย่างไรก็ตาม การให้สัมปทานจะมีข้อดีกว่าการใช้โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน เนื่องจากโครงการนี้ ขสมก.ก็ยอมรับเองว่าไม่ได้ช่วยทำให้ปัญหาหนี้สินลดลง สำหรับนโยบายการให้บริการรถเมล์ฟรี รัฐบาลก็สามารถดำเนินการได้ต่อไป ด้วยการเปิดลงทะเบียนประชาชนที่มีรายได้น้อยอย่างแท้จริง โดยให้เปลี่ยนมาเป็นการแจกคูปองแทน เพื่อให้กลุ่มผู้ได้รับประโยชน์ตรงตามวัตถุประสงค์โครงการมากที่สุด
เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News

 

พระพุทธรูปแห่งหุบเขาบามิยัน อัฟกานิสถาน​

​

​

พระพุทธรูปแห่งบามิยัน เป็นพระพุทธรูปสององค์ที่สลักอยู่บนหน้าผาสูง 2500 เมตรในหุบผาบามียัน ณ จังหวัดบามิยัน ในพื้นที่ฮาซาราจัตทางตอนกลางของประเทศอัฟกานิสถาน อันห่างจากกรุงคาบูล ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 230 กิโลเมตร หมู่พระพุทธรูปนี้สถาปนาขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 10 ตามศิลปะแบบกรีกโบราณ
หมู่พระพุทธรูปนี้ถูกทำลายด้วยระเบิดไดนาไมต์ เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2544 ตามคำสั่งของนาย มุลเลาะห์ โมฮัมเหม็ด โอมาร์ ประมุขของรัฐบาลฏอลิบาน(ตาลีบัน) ซึ่งให้เหตุผลว่ากฏหมายอิสลาม ไม่อนุญาตให้บูชารูปเคารพ ในขณะที่นานาประเทศต่างการประณามการกระทำของรัฐบาลฏอลิบาน(ตาลีบัน) อย่างรุนแรง เพราะหมู่พระพุทธรูปนี้มิใช่สมบัติของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่เป็น "มรดกโลก" อันเป็นสาธารณสมบัติและความภาคภูมิใจของคนทั้งโลก โดยญี่ปุ่นและสวิตเซอร์แลนด์ ร่วมใจกันสนับสนุนให้มีการสถาปนาพระพุทธรูปนี้อีกครั้งหนึ่ง
ประวัติ


องค์พระหลังถูกทำลาย
หุบเขาบามิยันนี้ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมระหว่างจีน อินเดีย ตะวันออกกลาง และยุโรป มีการค้นพบศาสนสถานทางศาสนาพุทธและฮินดู เป็นจำนวนมากกว่า 1,000 แห่ง เป็นหนึ่งในจุดศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาในบริเวณนั้นมาก่อนที่จะมีการมาของศาสนาอิสลามในช่วงพุทธศตวรรษที่13
ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดในบริเวณนี้คือพระพุทธรูป องค์ใหญ่ 3 องค์ 2 องค์แรกสร้างในช่วงปี พ.ศ. 1050 (ค.ศ. 507) มีความสูง 37 เมตร และองค์ที่ 3 สร้างขึ้นในปีพ.ศ.1097 (ค.ศ. 554) สูง 55 เมตร เป็น"พระพุทธรูปแกะสลักฝาผนังที่ใหญ่ที่สุดในโลก" ซึ่งทั้งหมดนี้คาดกันว่าสร้างโดยพระเถระและราชวงศ์แห่งราชวงศ์คุปตะตร ทธรูปสวิตเซอร์แลนด์ แห่งอินเดีย ตามฝาถ้ำที่ได้ขุดเจาะกันไว้นั้น มีการวาดภาพ ซึ่งบ่งบอกถึงการผสมผสานของศิลปะคุปตะ ศิลปะคันธาระ และศิลปะเปอร์เซีย ได้อย่างชัดเจน และเมื่อพระถังซำจั๋ง ได้เดินทางไปชมพูทวีป ในปีพ.ศ. 1173 (ค.ศ. 650) ท่านได้เล่าว่าพระพุทธรูปได้เหลืองอร่ามไปด้วยทองคำ และมีพระกว่า 1,000 รูปจำวัดอยู่
ที่นี่มีอารามมากกว่า 10 แห่ง มีพระสงฆ์หลายพันรูป ล้วนเป็นฝ่ายโลกุตตะระวาท (โลกุตตรวาทิน) สังกัดนิกายมหายาน พระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้ คือ พระอารยทูต (Aryaduta) และพระอารยเสน (Aryasena) มีความรู้ในพระธรรมวินัยเป็นอย่างดี ที่เนินเขาของนครหลวง มีพระพุทธรูปยืน ซึ่งจำหลักด้วยศิลา สูง 150 เฉี๊ยะ (มาตราวัดจีน) ถัดจากนี้ไปเป็นอาราม และพระปฏิมาจำหลักด้วนแก้วกาจ สูง 100 เฉี๊ยะ อารามนี้ มีพระพุทธไสยาสน์ความยาว 1,000 เฉี๊ยะ บรรดาพระพุทธรูปเหล่านี้ล้วนเป็นฝีมือที่ปราณีต สวยงาม นอกจากนี้ยังมีอารามประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว พระทันตธาตุของพระพุทธเจ้าอีกด้วย
ระหว่างช่วงประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 1,600 ปี ของพระพุทธรูปแห่งนี้ ได้พบเจอกับสงครามและ การจู่โจมมาโดยตลอด ถึงแม้จะมีชนพื้นเมืองชาวมุสลิมกลุ่มหนึ่งคือชาวฮาซารัส ได้ปกป้องศาสนาสถานแห่งนี้มาก็ตาม เริ่มต้นด้วยการเสื่อมถอยของศาสนาพุทธในบริเวณนี้และการมาของศาสนาอิสลาม การทำลายและการบุกรุกโจรกรรมวัตถุต่างๆจากถ้ำภายในตั้งแต่ 900 ปีที่แล้ว จนมาถึงปี พ.ศ. 2522(ค.ศ. 1979) เมื่อสหภาพโซเวียต นำทหารเข้าบุกเข้าโจมตีอัฟกานิสถาน ตามมาด้วยสงครามอัฟกัน และสิ้นสุดลงด้วยการระเบิดของกลุ่มฏอลิบาน(ตาลีบัน) ในปีพ.ศ. 2544 จากการสำรวจ ได้มีรายงานว่ากว่า 80% ของภาพตามฝาผนังถ้ำได้ถูกทำลายลงไปแล้ว
จากคำให้การของนายชีค มีร์ซา ฮุสเซน มือระเบิดทำลายพระพุทธรูปบามิยัน ตามคำสั่งของอำนาจของฏอลิบาน(ตาลีบัน) กล่าวว่าถ้าเขาไม่ระเบิดพระพุทธรูป ฏอลิบาน(ตาลีบัน) จะฆ่าเขาทิ้ง เพราะก่อนหน้านั้นฏอลิบาน(ตาลีบัน) ฆ่าลูกชายสองคนของเขาเหมือนสุนัขข้างถนน เขาจึงต้องทำเพื่อการอยู่รอด เขามีความเชื่อว่าด้านหน้าของพระพุทธรูปที่ ถูกทำลายลง มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์หนึ่ง เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่มีพระพักตร์อมยิ้ม ฝังอยู่ใต้ดิน ซึ่งเป็นความเชื่อที่ได้ยินมาจากบรรพบุรุษสืบขานกันต่อหลายชั่วอายุคน สอดคล้องกับคำบอกกล่าวของพระถังซัมจั๋ง ที่ได้เห็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์นี้เช่นกัน ซึ่งนักโบราณคดีได้ขุดพบ ส่วนพระบาทของพระนอน เมื่อพ.ศ. 2548
ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
พระพุทธรูปแห่งบามิยันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 27 เมื่อปี พ.ศ. 2546 ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส ด้วยข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ดังนี้

• I - เป็นตัวแทนในการแสดงผลงานชิ้นเอกที่จัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันชาญฉลาดของมนุษย์
• II - เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
• III - เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันหรือว่าที่สาบสูญไปแล้ว
• IV - เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างอันเป็นตัวแทนของการพัฒนา ทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
• V - เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของวัฒนธรรมมนุษย์ ขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งสถาปัตยกรรม วิธีการก่อสร้าง หรือการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งเสื่อมสลายได้ง่ายจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมตาม กาลเวลา

ที่นี่มีถ้ำเล็กๆน้อยๆมากมายสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 7 หรือหลังพุทธกาล 600 ปี มีพระภิกษุนั่งสมาธิตามถ้ำบนหน้าผาเป็นพันรูป
หลวงพ่อรูปหนึ่งเคยบอกว่าเป็นหน้าที่ของเรา ที่จะต้องทำให้ที่ตรงนั้นกลับไปมีพระพันรูปเหมือนเดิม

พระพุทธรูปก่อนถูกทำลาย


สภาพก่อนถูกทำลาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอัฟกานิสถาน
ตามช่อง ต่าง ๆ ทั้งซ้าย-ขวา ของพระพุทธรูป คือถ้ำ ซึ่งในสมัยโบราณ​

พระภิกษุที่ต้องการปลีกวิเวก จะมาทำภาวนาตามถ้ำเหล่านี้
และยังเป็นที่พัก สำหรับบรรดาพ่อค้า ที่เดินทางไกลมาค้าขายต่างเมืองด้วย

​

นครบามิยัน
ที่ซึ่งพระพุทธศาสนาเคยรุ่งเรืองมากว่า1300ปี

เป็นถ้ำเชิงผาบามิยันในอัฟกานิสถานที่พระภิกษุเคยจำวัดและนั่งสมาธิ


ภาพหุบเขาบามิยันกับพระพุทธรูป


หุบเขาบามิยัน สภาพเหมือนพันปีที่แล้ว​

มีหนังฝรั่งเรื่องหนึ่ง มีทหารอเมริกัน 3-4 คนไปที่หน้าผาบามิยัน ซึ่งตอนที่ถ่ายทำหนังนั้น หน้าผายังเป็นช่องว่างๆกลวงๆอยู่ แต่ทีมถ่ายทำใช้เอฟเฟ็กต์ทำรูปปั้นคนแทนพระพุทธรูป ทหารก็ระเบิดรูปปั้นคนนั้นเลียนแบบตาลีบัน ผลคือ ทหารทั้งสี่ประสบเคราะห์กรรมไปต่างๆนานาตลอดเรื่อง แม้ใครจะเอาเรื่องราวแถวนี้ไปดัดแปลงอย่างไรก็ตาม

​

​

ภาพระเบิดทำลายพระพุทธรูป พ.ศ. 2544 ​

​

หลังระเบิดทำลายแล้ว​

ปัจจุบัน มีชาวบ้านอัฟกานิสถานที่ไม่มีที่ไป อาศัยอยู่ในถ้ำที่พระเคยนั่งสมาธิราว 10 ครัวเรือน ครอบครัวหนึ่งๆมีสมาชิกพ่อแม่ลูกรวม 6-7 คนกันแทบทั้งนั้น รวมแล้วราว 500 คน

​

เด็กๆชาวถ้ำบามิยันกำลังล้อตากล้องเล่น​

<TABLE style="WIDTH: 75pt; BORDER-COLLAPSE: collapse" class=MsoNormalTable border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100><TBODY><TR><TD style="PADDING-BOTTOM: 2.25pt; PADDING-LEFT: 2.25pt; WIDTH: 50%; PADDING-RIGHT: 2.25pt; PADDING-TOP: 2.25pt" vAlign=top width="50%">

​

</TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 2.25pt; PADDING-LEFT: 2.25pt; WIDTH: 50%; PADDING-RIGHT: 2.25pt; PADDING-TOP: 2.25pt" vAlign=top width="50%">

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

เด็กชาวถ้ำ อยู่ในหนังสารคดีชื่อ The Boy who Plays on the Buddhas of
Bamiyan เด็กชายที่เล่น ณ พระพุทธรูปแห่งบามิยัน ฉายไปทั่วโลก​

และได้รับรางวัลสารคดีพิเศษในสหรัฐอเมริกา ​

ภายในถ้ำมีหลังคากลม สูงสุด 7 ฟุต พื้นถ้ำขนาด 10 ตารางฟุต

​

ภาพวาดพุทธศาสนาภายในถ้ำบนหน้าผาบามิยัน (ภาพของยูเนสโก) ​

​

​

ภาพวาดนักดนตรีในถ้ำบามิยัน ​

ชาวถ้ำเหล่านี้บ่นเสียดายพระพุทธรูปและอยากสร้างใหม่

​

มองจากถ้ำ ออกไปที่หุบเขา (คนมองยืนตรงข้างๆหน้าผาใกล้ปากถ้ำ) ​

​

การสำรวจภายในถ้ำ (ภาพของยูเนสโก กำลังฝึกเจ้าหน้าที่อัฟกัน) ​

​

รัฐบาลญี่ปุ่นยิงเลเซอร์เป็นภาพพระพุทธรูปที่หน้าผาบามิยันแทนองค์ที่ถูกทำลาย​

​

มีผู้คนไม่น้อยใฝ่ฝันอยากไปดูเหตุการณ์และสถานที่ที่พระพุทธ ศาสนา เคยรุ่งเรืองในอดีต นอสตราดามุสเคยทำนายไว้ว่า “ ผู้มีสีส้มอมเหลืองเผยแผ่งานออกไปและทำให้วัดวาอารามกลายเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ตามแบบดั้งเดิม” นอสตราดามุสใช้สีและลักษณะของเครื่องแต่งกาย ไม่ได้ใช้คำว่า “บวช”โดยตรง

และคำกล่าวอีกแห่งหนึ่งว่า “ก่อนที่จะไปถึงก้นบึ้ง (สุดแห่งธรรม) ในที่สุดทุกคนในโลกก็ต้องบวช”

 

ตู้เย็นคนยาก ประหยัดด้วยหลักฟิสิกส์​

​

Mohammed Bah Abba คุณครูสอนวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งในไนจีเรีย แอฟริกาได้รับรางวัลนวัตกรรมโลว์เทค จากโรเล็กซ์ จากผลงาน pot-in-pot ในที่นี้ขอเรียกว่าตู้เย็นคนยาก

สาเหตุมาจากการที่นักเรียนขาดเรียนบ่อยๆ เพื่อไปช่วยพ่อแม่ขายผลิตผลจากพืชในตลาดให้ทัน ก่อนที่ผลไม้สุกที่ตัดแล้ว จะเน่าเสียตามสภาพภูมิอากาศร้อน

ตู้เย็นของคุณครูทำจากตุ่มดินเผาสองใบ ใบใหญ่ใส่ทรายรองก้น วางตุ่มใบเล็กลงไปในใบใหญ่ ใส่ทรายในช่องว่างระหว่างตุ่มสองใบ จากนั้นเทน้ำลงไปในทรายให้ทรายชุ่มน้ำ แล้วนำผ้าชุบน้ำมาปิดฝาตุ่ม ก็จะได้ตู้เย็นคนยาก สามารถเก็บผักผลไม้ได้นานกว่าเดิม ด้วยการเก็บลงไปในตุ่มใบเล็ก ซึ่งสามารถเก็บได้นานกว่า 4 สัปดาห์

จากการที่ทรายทำหน้าที่เก็บความเย็นให้ตุ่มใบเล็ก และเก็บน้ำให้ตุ่มใบใหญ่ เมื่อน้ำระเหยออกจากผิวของตุ่มใบใหญ่ จะนำพาความร้อนออกไป และทำให้อุณหภูมิของตุ่มใบเล็กเย็นระดับน้องๆ ตู้เย็นเลยทีเดียว ใช้หลักฟิสิกส์เรื่องความร้อนแฝงของการเปลี่ยนเฟสจากของเหลวเป็นไอ ซึ่งเป็นความรู้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างยอดเยี่ยม


ที่มา : เรื่อง ตู้เย็นคนยาก โดย ดร. พีรศักดิ์ วรสุนทโรสถ หนังสือ วิทยาศาสตร์
ตู้เย็นคนยาก ประหยัดด้วยหลักฟิสิกส์





Pot-in-pot cooler

From Solar Cooking




<SCRIPT type=text/javascript src="http://images1.wikia.nocookie.net/__cb27571/common/extensions/FBConnect/fbsdk_core.js?27654"></SCRIPT><OBJECT id=XdComm class=inlineimg title=Open-mouthed border=0 name=XdComm alt="" classid="clsid</OBJECT>



<SCRIPT> (function(){var e=document.createElement("script");e.type="text/javascript";e.src="http://images1.wikia.nocookie.net/__cb27571/common/extensions/FBConnect/fbsdk_core.js?27654";document.getElementById("fb-root").appendChild(e)})(); </SCRIPT>

View site in: Afrikaans, العربية, Bahasa Indonesia, Bahasa Melayu, Български, Català, Česky, Српски / Srpski, Cymraeg, Dansk, Deutsch, Ελληνικά, Eesti, Español, فارسی, Français, Gaeilge, Galego, עִברִית, Hrvatski, हिन्दी, Íslenska, Italiano, Kiswahili, 한국어, Kreyòl ayisyen, Latviešu, Lietuvių, Magyar, Македонски, Malti, Nederlands, 日本語, Norsk, Polski, Português, Русский, Română, Shqip, Slovenčina, Slovenščina, Suomi, Svenska, Tagalog, ไทย, Tiếng Việt, Türkçe, Українська, Հայերեն, ქართული, 中文, اردو, ייִדיש​

I have been interested in solar cooking for a long time, but recently heard about a low-tech method for preserving food.
The ”pot-in-pot” cooler, based on by ancient techniques for cooling through evaporation, was designed by Mohammed Bah Abba who won the Rolex prize and who has been promoting this process though-out Nigeria.

I decided to make a “pot-in-pot” cooler and here are photos of it. The basic unit has two large unglazed pottery pots which I commissioned to be made without bottom holes by Panama Pottery in Sacramento. One pot fits inside the other with a layer of sand in between the pots.

I am using my watering pot here to wet the sand layer, which I do every morning. Inside the inner pot, there is a watermelon, a cabbage, a bag of carrots and two apples.

I have a folded towel on top of the pots and produce and I am wetting the towel to provide additional evaporation through the cloth top. I moisten the cloth twice a day.
Folsom, California, is typically hot in the summer, but this is an exceptionally hot day at 109 degrees in the shade. It is an excellent opportunity to test this cooler.

Here the temperature inside the pot is 74 degrees. It is 35 degrees cooler inside the pot than outside. I have now had these fruits and vegetables in the device for a week and they are perfectly fresh. The daytime outside temperature has varied this week from the high of 109 degrees to 90 degrees and the temperature inside the pot has varied from 75 degrees to 62 degrees.

If you would like to learn more about this device, go to http://rolexawards.com/en/the-laureates/mohammedbahabba-the-project.jsp
Carol Veder
Sharon Cousins discovered that it is important to weight the inner pot when initially moistening the sand or it will try to float and the sand will slip and pile up underneath. This is a very effective way of keeping vegetables fresh. Sharon bought large plant pots on sale and used pieces of plastic jug glued on with Shoe Goo to seal the drain holes.

Pot-in-pot cooler - Solar Cooking<!-- google_ad_section_end -->

 

ที่เชียงรายมีรอยเลื่อนแม่จันที่ควรระวัง ปีนี้ฝนตกน้ำท่วมหลายรอบแล้ว

 

======================================

1 ต.ค. 53

ภาพอนาคต

ภัยพิบัติ--------อุบัติ-------------ใกล้เข้ามา
ชาวประชา------กลับนิ่งเฉย-------ไม่ใยดี
แทนที่จะ--------เร่งสร้าง---------แต่ความดี
กลับทิ้งที่--------คุณความดี-------ป้องกันภัย

บ้างเที่ยวเตร่-----ดื่มสุรา--------และฮาเฮ
ทำเสเพล--------เสพยา--------นานาชนิด
ทั้งยาไอซ์--------ยาอี----------ที่เป็นพิษ
ต่อชีวิต----------ให้ได้อยู่------ไปวันๆ

บ้างชอบดู------สิ่งอนาจาร-------และลามก
ที่มีดก----------มีดื่น-------------ทั่วเริงรมย์
ไม่อายฟ้า-------อายดิน----------ที่เฝ้าชม
ชีวิตจม----------ธรณี------------เข้าสักวัน





ผมเคยลงบทกลอนเกี่ยวกับพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือจะมีปัญหาเกี่ยวกับ
แผ่นดินจะยุบ ขณะนี้ก็ได้เกิดแล้วที่เชียงราย ผมว่าผู้ที่มีความเกี่ยวข้องน่า
จะบอกความจริงให้เขาได้รับรู้ดีกว่า เพื่อที่จะย้ายออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย
ชาวบ้านคงรับได้ ดีกว่าที่จะมาเตรียมการคอยกู้ชีวิตคนทีหลัง

พื้นที่ๆว่ามิใช่จะเป็นที่เสี่ยงภัยทั้งหมด ตรงไหนเสี่ยงก็แจ้งเขาให้รับรู้ ที่ใด
ไม่เสี่ยงก็ไม่ต้องแจ้ง





องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน


======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->

 

วันที่ 01 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7246 ข่าวสดรายวัน


หมูพิการขวัญใจเดิน2ขาแบบคน




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
เมื่อ 30 ก.ย. ออเรนจ์นิวส์รายงานว่า มีหมูประหลาดเพศเมีย วัย 10 เดือน ที่เขตซิน ไช่ มณฑลเหอหนาน ตอนกลางของจีน เกิดมาอาภัพมีแค่ 2 ขาหน้า แต่พยายามหัดเดินทรงตัวด้วยขาที่มีแม้ตัวจะหนักกว่า 50 กิโล กรัมจนกลายเป็นหมูขวัญใจชาวบ้าน และชาวบ้านตั้งชื่อให้ว่า จู เจียนเฉียง แปลว่า หมูตั้งใจสูง ทุกวันมีชาวบ้านแห่มาดูจำนวนมาก

หวาง ซื่อไห่ เจ้าของ กล่าวว่า หมูเกิดเมื่อเดือนม.ค. ในครอก 8 ตัว ภรรยาบอกให้เอาไปทิ้ง แต่ตนไม่ยอม พออายุได้ไม่กี่วัน ตนฝึกให้มันเดิน ยืนโดยใช้หางพยุงตัว ฝึกวันละนิด ผ่านไป 1 เดือนมันก็ลุกเดินเองได้ มีคณะละครสัตว์มาเสนอเงินก้อนใหญ่ตนก็ไม่ขาย

'แมงกานีส'ในน้ำดื่มมากไปไอคิวต่ำ




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
นักวิจัยในเมืองควิเบก ประเทศแคนาดา ศึกษาแร่ธาตุ 'แมงกานีส' ในน้ำดื่มของชุมชน 8 แห่ง ตลอดแนวแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ ในเมืองมอนทรีอัลและควิเบก แล้วเปรียบเทียบไอคิวเด็ก พบว่า แมงกานีสมีความเกี่ยวเนื่องกับการทำให้ไอคิว เด็กต่ำ

งานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารเอนไวรอนเมนทัล เฮลต์ เพอร์สเป๊กทีฟส์ ระบุว่า แมงกานีสเป็นธาตุโลหะที่พบในน้ำบาดาล เป็นสารอาหารสำคัญตัวหนึ่ง แต่ถ้ากินมากไปจะทำร้ายระบบประสาท ซึ่งแหล่งน้ำธรรมชาติหลายแห่งในเมืองควิเบก นิวบรุนส์วิก และอีกหลายเมืองมีปริมาณแมงกานีสสูง

มารีส บูคาร์ด ผู้นำการวิจัยจากมหาวิทยาลัยควิเบก กล่าวว่า จากการสำรวจเด็ก 362 คน อายุ 6-13 ปี ที่กินแมงกานีสจากน้ำก๊อกและอาหาร แล้วทดสอบความจำ ทักษะการขับขี่และพฤติกรรม ไอคิวเฉลี่ยของเด็กที่กินน้ำที่มีแมงกานีสเข้มข้นสูงกว่า 20% ต่ำกว่าไอคิวของเด็กกลุ่มที่กินน้ำที่มีแมงกานีสเล็กน้อย หรือไม่มีเลย 6 คะแนน

ทั้งนี้ งานวิจัยให้น้ำหนักกับปัจจัยอื่นๆ ด้วยทั้งรายได้ครอบครัว การศึกษาและแร่ธาตุตัวอื่นที่พบในน้ำดื่มด้วย

ขอเลข

เห็ดแผงพญานาคยักษ์ ที่ขึ้นในบ้านของนางอุ๋ม กองปัญญา ต.หนองกุงศรี อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ขอเลข - เห็ดแผงพญานาคยักษ์ ที่ขึ้นในบ้านของนางอุ๋ม กองปัญญา ต.หนองกุงศรี อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี ทำให้ชาวบ้านแห่มากราบไหว้ขอเลขเด็ดนับร้อยคน เมื่อวันที่ 30 ก.ย.

</TD></TR></TBODY></TABLE>
เห็ดแผงพญานาคยักษ์ ที่ขึ้นในบ้านของนางอุ๋ม กองปัญญา ต.หนองกุงศรี อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี ทำให้ชาวบ้านแห่มากราบไหว้ขอเลขเด็ดนับร้อยคน เมื่อวันที่ 30 ก.ย.















Daily News Online > หน้าสังคม > เตือน 4 จังหวัดระวังน้ำท่วมฉับพลัน
อุตุฯเตือนชาวบ้านพื้นที่เสี่ยงกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ลักษณะอากาศวันที่ 1 ต.ค. ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางปกคลุมภาคเหนือและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนลดลง อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่าน ภาคใต้ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 2- 6 ต.ค. จะมีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนหนักในหลายพื้นที่ บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ จึงขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 วันนี้ ถึง 06.00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศา สูงสุด 32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

พลิกเหรียญอีกด้าน...ศึกษาวงการ“ปรมาณู”ของไทย!!

เหตุการณ์การทิ้งระเบิดปรมาณูที่ญี่ปุ่น ในปี 2488 ก่อนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 อาจเป็นจุดเริ่มต้นของใครหลายคน ในการทำความรู้จักกับอำนาจการทำลายล้างของ “ระเบิดปรมาณู” โดยผลพวงจากความรุนแรงในคราวนั้นได้ทำให้ผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตทันทีจากพลังงานความร้อนที่แผ่ออกมา ทั้งยังมีผู้คนอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องจบชีวิตในภายหลัง จากการได้รับผลพวงของสิ่งที่เรียกว่า “กัมมันตภาพรังสี” ซึ่งแผ่ออกมาภายหลังการระเบิด

แต่กระนั้นการได้สัมผัสกับด้านที่เลวร้ายอย่างที่สุดของ “ธาตุกัมมันตรังสี” ก็ทำให้มนุษยชาติเรียนรู้ที่จะพัฒนาต่อยอดการใช้ประโยชน์จากมันในอีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน...

“ปรมาณู แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ปรมาณูเพื่อทำลายล้างหรือที่เรียกว่าระเบิดปรมาณู และการใช้ปรมาณูในทางสันติ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าในประเทศไทยเราไม่ได้มีการใช้ปรมาณูเพื่อทำลายล้าง แต่ในทางตรงกันข้ามเรามีแต่ใช้ประโยชน์จากปรมาณูเพื่อสันติเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น การนำกัมมันตรังสีมาใช้ในหลาย ๆ ด้านด้วยกัน ซึ่งแต่ละอย่างล้วนเกี่ยวพันและมีความสำคัญอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน รวมไปถึงการมีแนวคิดสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าในอนาคต”

คำบอกเล่าความหมายเกี่ยวกับ “ปรมาณู” โดย “กิตติศักดิ์ ชินอุดมทรัพย์” ผู้อำนวยการสำนักกำกับดูแลความปลอดภัยทางรังสี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) บอกว่า หลายคนที่เคยหลงคิดว่า “ปรมาณู” เป็นเรื่องน่ากลัว อาจต้องเปลี่ยนความคิดโดยพลัน หากได้มีการศึกษาหรือทำความรู้จักกับมันอย่างจริงจัง จะรู้ได้ว่าแทบทุกย่างก้าวในชีวิตประจำวันของทุกคนต่างก็สัมผัสกับ “ปรมาณูเพื่อสันติ” หรือจะเรียกว่าสัมผัสกับ “กัมมันตรังสี” ในทางที่เป็นประโยชน์ก็ว่าได้

ยกตัวอย่างเช่น เครื่องเทศ และผลไม้ ก่อนจะส่งออกไปขายต่างประเทศต้องผ่านกระบวนการฉายรังสี เพื่อประโยชน์ด้านการถนอมอาหาร และในขั้นตอนการเกษตรยังมีการใช้รังสีเพื่อกำจัดแมลงศัตรูพืช หรือจะหันมาดูถังแก๊สที่ใช้กันในครัวเรือนก็ต้องผ่านการฉายรังสีตรวจสอบรูรั่วของถังแก๊สทุกถังเพื่อความปลอดภัย

อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ ก็ต้องผ่านการฉายรังสีเพื่อแปร สถานะสิ่งของให้อยู่ในภาวะ “ปลอดเชื้อ” ไม่เท่านั้นรังสียังถูกนำไปใช้จริงในการรักษาทางการแพทย์ เช่น การฉายรังสีโคบอลต์-60 เพื่อบำบัดโรคมะเร็ง ขณะที่รังสียังสามารถใช้ฉายเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับเครื่อง ประดับประเภทอัญมณี

“ที่ต้องอธิบายอย่างนี้ก่อน เพราะต้องยอมรับว่าหลายคนมีความกลัวอยู่ในความคิด แต่ที่จริงอยากจะย้ำว่า กัมมันตรังสีที่ว่านี้อยู่ในชีวิตของทุกคนอยู่แล้ว เพียงแต่ที่กลัวกัน อาจเป็นเพราะไม่ได้รู้จักกับมันเท่าที่ควร...”

นั่นจึงเป็นที่มาของกิจกรรม “Getting to know ME better” หรือ “รู้จัก เชื่อมั่น ปส. ด้วยยุทธศาสตร์ 4 เอ” จัดขึ้น ณ ห้องประชุม โรงแรมเทาทอง ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี โดยกิจกรรมลักษณะเดียวกันนี้จะถูกจัดไปตามแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศ นอกเหนือจากที่นี่ ได้แก่ เชียงใหม่ นครราชสีมา สุราษฎร์ธานี และกรุงเทพมหานคร

“สิ่งที่เราจะบอกกับประชาชนทั่วประเทศผ่านตัวอักษรภาษาอังกฤษ ตัวเอ ตัวแรกในยุทธศาสตร์ ย่อมาจาก Attitude คือ การปรับเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อนิวเคลียร์ไปสู่เอตัวที่ 2 คือ Advantage หมายถึงประโยชน์ที่เราจะชี้ให้ประชาชนได้เห็น ดังนั้นเอตัวที่ 3 ก็คือ Assure แปลว่า ความปลอดภัยในการใช้พลังงานนิวเคลียร์ และ เอตัวสุดท้ายมาจาก Atoms for Peace นั่นคือ การสร้างความเชื่อมั่นว่า ปส. จะคอยกำกับดูแลความปลอดภัยในการใช้นิวเคลียร์”

ทั้งนี้ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า การนำรังสีมาใช้โดยปราศจากความรู้ ความเข้าใจ หรือการป้องกันที่ถูกวิธีก็เกิดโทษมหันต์ได้ และแม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว ประชาชนจะไม่ใช่ผู้ที่จะกดปุ่มหรือสัมผัสกับ “กัมมันตรังสี” ในทางตรง แต่ก็ “จำเป็น” ต้องมีความรู้เอาไว้ ในฐานะที่เป็น “ผู้ใช้” วัตถุที่ผ่านรังสีโดยตรงนั่นเอง

พูดถึงความรู้ผ่านการศึกษาวิชาที่ว่าด้วยกัมมันตรังสี และพลังงานนิวเคลียร์ “อรรถพล แก้วโสนด” นักศึกษาปี 4 ภาควิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งเป็น 1 ในเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรม ได้สะท้อนความคิดที่มีพร้อมบอกเล่าถึงสิ่งที่เขากำลังเรียนรู้เกี่ยวกับมันอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยว่า การเรียนในสาขาฟิสิกส์ มีวิชาบังคับให้ศึกษาวัตถุกัมมันตรังสี และกัมมันตรังสีในวัตถุต่าง ๆ แต่ยอมรับว่า นักศึกษาส่วนใหญ่จะรู้เฉพาะในส่วนทฤษฎี และได้ทดลองบ้างเล็กน้อย ขณะที่หากพูดถึงการนำกัมมันตรังสีไปใช้ในเชิงประยุกต์ก็ต้องบอกว่า “คนยังมีความรู้ไม่มาก” สังเกตเฉพาะกลุ่มเพื่อนในแวดวงการเรียนวิชาเดียวกันที่สนใจเรื่องนี้โดยเฉพาะก็มีอยู่น้อยเต็มที

“ถ้าเรียนจบแล้วไม่มีงานทำ ก็ต้องไปเรียนสาขาอื่น อย่างในเรื่องการใช้ปรมาณูเพื่อสันติ ผมเชื่อว่ามีคนสนใจพอสมควร เพราะมันมีประโยชน์ และอีกอย่างถ้าหากในอนาคตประเทศไทยต้องมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เวลานี้เราก็ต้องมีการสร้างนักรังสีให้ได้จำนวนมากพอสมควรแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงเรื่องนิวเคลียร์ในเวลานี้ บ้านเรายังไปไม่ถึงไหน เพราะทัศนคติเรื่องความกลัวและความไม่รู้ของคนทั่วไป”

ข้อมูลนี้สอดคล้องกับ “นิวร ศรีคุณ” อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ ม.บูรพา บอกว่า แม้จะมีการนำธาตุกัมมันตรังสีมาใช้ประโยชน์หลากหลาย แต่คนที่อยู่ในวงการนี้มีจำนวนจำกัดและกระจายอยู่ในไม่กี่หน่วยงาน เช่น สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อาจารย์ที่อยู่ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ โรงพยาบาล และบางส่วนกระจายอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรม ขณะที่ในวงการศึกษาเราพบว่ามีเด็กและเยาวชนไทยจำนวนมากสนใจเรียนรู้เกี่ยวกับกัมมันตรังสี

“ทัศนคติของนักศึกษาที่มีต่อวัตถุกัมมันตรังสีนั้น เขาไม่ได้มองแต่ในแง่ร้ายเหมือนที่คนทั่วไปมอง เพราะเขารู้ว่ามันมีประโยชน์อย่างไร ดังนั้นทำอย่างไรที่จะอยู่กับมันได้อย่างปลอดภัย เหล่านี้ก็เปรียบเหมือนกับห้องมืดถ้าเรารู้ว่ามันมีอะไรอยู่ตรงไหนเราก็จะไม่กลัว”

อาจารย์นิวร บอกคล้ายกับลูกศิษย์ว่า ด้วยผลพวงจากความ “ไม่รู้จัก” ธาตุกัมมันตรังสี และกัมมันตภาพรังสี ทำให้วงการนี้ขาดการรองรับทางสายงาน ดังนั้นเด็กนักศึกษาจึงต้องหันเหไปหาสิ่งที่เหมาะกว่า หากปล่อยเช่นนี้ต่อไปย่อมเกิดปัญหา จึงอยากเสนอภาครัฐควรมีบทบาทในการกระตุ้นการสร้างบุคลากรในสาขากัมมันตรังสีเพิ่มขึ้นด้วยวิธีต่าง ๆ โดยเล็งไปที่ผลลัพธ์สุดท้ายในการพัฒนาวงการวิทยาศาสตร์เมืองไทย

“หากรัฐบาลสามารถกระตุ้นให้ประชาชน ตลอดจนผู้ประกอบการธุรกิจ ต่าง ๆ เห็นถึงความสำคัญของการใช้ธาตุกัมมันตรังสีที่มีความปลอดภัยในกระบวนการผลิตสินค้า ต่อไปวงการนี้ก็จะแพร่หลายมากขึ้น เป็นที่ยอมรับมากขึ้น เกิดการสร้างงานมากขึ้น ถึงตอนนั้นเมืองไทยก็จะมีนักกัมมันตรังสีเพิ่มขึ้น งานวิจัยที่เกี่ยวกับกัมมันตรังสีก็จะมากขึ้น ประเทศไทยจะมีการสร้างและพัฒนาเทคโนโลยีต่อเนื่อง และในที่สุดคุณประโยชน์มหาศาลก็จะเกิดแก่ประเทศชาติของเรา”

แม้ความคิดเห็นและความรู้สึกที่มีต่อ “ปรมาณู” และ “กัมมันตรังสี” ในมุมมองของใครหลายคนอาจแตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนและหลายคนพูดตรงกันคือเรื่องของ “ความรู้” และ “ความเข้าใจ” ที่เป็นสิ่งสำคัญ

ใน 1 เหรียญมี 2 ด้าน เช่นนั้นคงไม่ดีแน่หากเราจะติดกับ “ความไม่รู้” แล้วปล่อยให้ “ความกลัว” เกิดขึ้น จนกระทั่ง ไม่กล้าแม้แต่จะพลิกไปดูอีกด้านหนึ่งของ “ปรมาณู” ว่าแท้จริงมันเป็นอย่างไร!!!.

จินดาวัฒน์ ลาภเลี้ยงตระกูล

สืบสานตามแนวพระราชดำริ
โครงข่ายน้ำ
ด้วยพระอัจฉริยภาพด้านน้ำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริเกี่ยวกับการผันน้ำเชื่อมโยงเป็นโครงข่ายน้ำ เพื่อแก้ปัญหาน้ำขาดแคลนในพื้นที่รอยต่อจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ จึงได้พระราชทานพระราชดำริให้กรมชลประทานพิจารณาวางโครงการและก่อสร้างระบบผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำ หรือแหล่งน้ำที่มีศักยภาพที่ดี และ มีความเหมาะสม มาเติมให้อ่างเก็บน้ำที่มีศักยภาพน้อย

กรมชลประทานจึงได้ดำเนิน โครงการเครือข่ายอ่างเก็บน้ำตามแนวพระราชดำริ โดยก่อสร้างท่อผันน้ำเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ ระหว่าง อ่างเก็บน้ำห้วยไทรงาม- อ่างเก็บน้ำทุ่งขาม-อ่างเก็บน้ำห้วยตะแปด- อ่างเก็บน้ำห้วยทราย (หุบกะพง) และ อ่างเก็บน้ำห้วยทราย (ศูนย์ฯห้วยทราย) ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำให้สามารถกระจายน้ำเข้าสู่ระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและการอุปโภค บริโภคของเกษตรกรได้เป็นวงกว้างและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

และจากความสำเร็จของโครงการเครือข่ายอ่างเก็บน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริในครั้งนี้ ทางกรมชลประทานจึงได้ขยายผลนำไปใช้ในโครงการอื่น ๆ เช่น ในพื้นที่ภาคตะวันออกมี โครงการก่อสร้างระบบผันน้ำเชื่อมโยงอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำต่าง ๆ ในจังหวัด ระยอง-ชลบุรี โดยได้ก่อสร้างระบบผันน้ำเชื่อมโยงระหว่าง อ่างเก็บน้ำดอกกราย-หนองปลาไหล-คลองใหญ่-ประแสร์ เข้าด้วยกัน ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น

ทางคณะรัฐมนตรีจึงได้อนุมัติงบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (โครงการลงทุนภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ) ให้กรมชลประทานดำเนิน โครงการผันน้ำจากพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ไปยังอ่างเก็บน้ำในจังหวัดระยอง โดยจะก่อสร้างระบบผันน้ำจากคลองวังโตนด จังหวัดจันทบุรี ไปยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง ก่อนที่จะส่งน้ำต่อมายังอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ และอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ทั้งนี้เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอสำหรับการ อุปโภคบริโภค การท่องเที่ยว และการอุตสาห กรรมในเขตจังหวัดระยอง

นอกจากนี้ยังอนุมัติให้ ดำเนินโครง การผันน้ำจากพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง ไปยังอ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี โดยจะก่อสร้างระบบท่อผันน้ำจากคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ไปยังอ่างเก็บน้ำบางพระ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้กับอ่างเก็บน้ำบางพระ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว การเกษตร และการอุปโภคบริโภค

อีกโครงการหนึ่งที่จะทำเป็นโครงข่ายน้ำก็คือ โครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่ เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน ซึ่งขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้านโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ

นอกจากนี้กรมชลประทานยังมีโครงการผันน้ำเชื่อมโยง สร้างเป็นโครงข่ายน้ำอีกหลายโครงการแต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ไม่ว่าจะเป็น โครงการผันน้ำจากลุ่มน้ำป่าสักลงสู่ลุ่มน้ำลำตะคอง เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โครง การผันน้ำโขง-ชี-มูล ซึ่งเป็นเมกะโปรเจคท์ ที่จะพลิกฟื้นสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทำให้สามารถขยายพื้นที่ชลประทานเพิ่มได้อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 10 ล้านไร่ โครงการผันน้ำอ่างเก็บน้ำยวมตอนล่าง-เขื่อนภูมิพล เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดน้ำเพื่อการเกษตรในช่วงฤดูแล้งของพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะสามารถผันน้ำมายังเขื่อนได้ไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี โครงการผันน้ำ กก-อิง-น่าน มาเติมไว้เป็นน้ำต้นทุนของเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งจะได้ปริมาณน้ำอีกไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีเช่นกัน

ถ้าเราสามารถขยายผลโครงข่ายน้ำ ตามแนวพระราชดำริ โดยเชื่อมโยงแหล่งน้ำแต่ละแห่งที่มีศักยภาพเข้าด้วยกัน ก็จะทำให้การแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไม่น้อยทีเดียว.

tidtangkaset@dailynews.co.th

 

*** ดินแดง ***

<TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>่

กระแสน้ำ พัดภูเขาหลุดได้ง่าย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

*** พระพุทธศาสนา ****

พุทธ มีไปทั่วโลก
ศาสนาพุทธที่อัฟกานิสถาน เป็นยุคเก่าก่อนพระพุทธเจ้าพระโคดม
พระสงฆ์สมัยพุทธกาลยุคนั้น ตั้งใจช่วยกันสร้างพระในภูเขา ด้วยสัจจะทุกวัน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

คำทำนายอนาคตโลก
โดย ที. ลอบซัง ลัมปา(T.Lobsang Rampa)​

T.Lobsang Rampa​

อังกฤษกับอเมริกาจะรวมตัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อร่วมมือกันต่อต้านและป้องกันศัตรู อังกฤษจะหันเข้ามาอยู่ภายใต้แนวทางการดำเนินงานของอเมริกา​

อเมริกาและรัสเซียจะรวมกำลังกัน เพื่อต่อสู้กับจีนแดงให้พ่ายแพ้ (สงครามนิวเคลียร์?) อินทรีย์กับหมีขาวจะร่วมมือกันเพื่อทำลายมังกร จนกว่ามังกรจะพ่ายแพ้ไป มิฉะนั้นโลกจะไม่มีความสงบสุขเลย​

ในที่สุดผิวหน้าของเปลือกโลกจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พื้นแผ่นดินจะทรุดจมหายลงไปในมหาสมุทร พื้นแผ่นดินใต้มหาสมุทรจะโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ นครนิวยอร์คอันรุ่งเรืองในที่สุดจะจมหายลงไปในมหาสมุทรแอตแลนติส ลอสแองเจลิสและนครซานฟานซิสโก เมืองทั้งเมืองจะราบเรียบเป็นหน้ากลองแล้วทรุดฮวบจมหายลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิค และจะมีพื้นดินใต้มหาสมุทรแปซิฟิคโผล่ขึ้นมาใหม่​

ญี่ปุ่นกับเกาหลี และพื้นที่ของประเทศจีนแดงที่ติดต่อกับฝั่งทะเล จะทรุดฮวบจมหายลงไปในท้องทะเล แต่จะมีพื้นที่ส่วนอื่นๆ โผล่ขึ้นมาจากท้องทะเลแทนที่​

ภายหลังสงครามล้างโลกสงบลงแล้ว จากจักรวาลอื่นซึ่งอยู่ไกลลิบโน้น จะปรากฎจานบินเดินทางมายังโลกมนุษย์ คนโลกอื่น(มนุษย์ต่างดาว) จะแสดงตัวอย่างเปิดเผยเป็นมิตรไมตรี และสร้างบ้านเรือนอยู่อาศัยในโลกเรา คนโลกอื่นจะแต่งงานอยู่กันกับคนในโลกของเรา แล้วชนชาติต่างๆ จะแต่งงานด้วยกัน จนในที่สุดจะมีเพียงเชื้อชาติเดียว คือเชื้อชาติผิวสีน้ำตาลเพราะเหตุว่าคนผิวสีต่างๆ คือ ขาว ดำ เหลือง และน้ำตาล เมื่อแต่งงานรวมกันแล้ว ต่อไปจะปรากฎเป็นเพียงสีน้ำตาลและยุคนี้จะเป็นยุคทอง เป็นยุคที่มนุษย์อยู่ร่วมกันด้วยความร่มเย็นเป็นสุข ต่างก็มีความรู้ในเรื่องศาสนาและวิชาเร้นลับ​

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑​

โลกยุคโบราณ เคยถูก มหันตภัย ดาวหางพุ่งชน
เขียนโดย ที. ลอบซัง ลัมปา​

​

ข้าพเจ้าล้มตัวลงนอนบนแท่นหินนั้นและเริ่มฝึกการหายใจแบบพิเศษตามที่ได้เรียนมาตลอดเวลาหลายปีมานี้ ความเงียบและความมืดทำให้ บรรยากาศน่ากลัวยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับความเงียบแห่งป่าช้านั้นทีเดียว​

ทันใดนั้นร่างกายของข้าพเจ้ารู้สึกแข็งเคลื่อนไหวไม่ได้ แขนขาชาและเย็นราวกับน้ำแข็ง ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่าความตายกำลังคืบคลาน เข้ามา ข้าพเจ้ากำลังจะตายในห้องเก็บศพโบราณซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับพื้นดินถึงสองร้อยกว่าฟุต ภายในร่างกายเกิดอาการกระตุกอย่างแรง มีความรู้สึกคล้ายกับว่าได้ยินเสียงประหลาดเหมือนเวลาที่เราคลี่แผ่นหนังเก่า ๆ ​

ภายในห้องนั้นมีแสงสีฟ้าอ่อน ๆ ส่องเข้ามาช้า ๆ เหมือนแสงจันทร์ที่ฉายลงมาต้องเทือกเขาสูง ข้าพเจ้ารู้สึกว่าตัวโคลงเคลงโยนขึ้นลงอยู่ ไปมา ชั่วขณะหนึ่งข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังอยู่ในว่าวซึ่งเต้นเล่นลมอยู่ไปมา มีความรู้สึกบางอย่างบอกให้ทราบว่าข้าพเจ้ากำลัง ลอยอยู่เหนือร่างซึ่งเป็นกายเนื้อของข้าพเจ้า พร้อม ๆ กับความรู้สึกอันนั้นก็มีการเคลื่อนไหว ข้าพเจ้าลอยไปคล้ายกับควันบุหรี่ เหนือศีรษะขึ้นไปข้าพเจ้ามองเห็นสิ่งหนึ่งมีลักษณะคล้ายถ้วยทองฉายแสงอยู่ ตรงกึ่งกลางลำตัวของข้าพเจ้ามีสายเป็นสีเงินแกมฟ้า มันเต้นไปมาและฉายแสงอยู่อย่างมีชีวิตจิตใจ​

ข้าพเจ้าก้มลงกายเนื้อซึ่งขณะนี้นอนเป็นศพอยู่ท่ามกลางศพอื่น ๆ ความแตกต่างระหว่างร่างของข้าพเจ้ากับร่างมหึมาของศพเหล่านั้น สังเกตได้ชัดยิ่งขึ้น ข้าพเจ้าพิจารณาดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน นึกถึงเรื่องราวของคนในปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าสงสัยว่าพวกนักวัตถุนิยมจะอธิบาย เกี่ยวกับร่างมหึมาของศพเหล่านี้ได้อย่างไร แต่ขณะนั้นข้าพเจ้ารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังรบกวนความคิดของข้าพเจ้า ดูเหมือนว่า ข้าพเจ้าจะไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไป หูแว่วได้ยินเสียงคนสนทนากัน ข้าพเจ้ายังได้รับรู้ความคิดอ่านของคนบางคนอีกด้วย​

ภาพต่าง ๆ ผ่านเข้ามาในวิถีจิตของข้าพเจ้า แว่วเสียงใครคนหนึ่งกำลังเคาะระฆังอยู่จากระยะไกล ๆ เสียงนั้น ใกล้เข้ามา ๆ จนกระทั่งในที่สุดราวกับจะก้องอยู่ในศีรษะของข้าพเจ้า และข้าพเจ้ายังได้เห็นแสงสีต่าง ๆ กันที่ข้าพเจ้าไม่รู้จักผ่านไปมา กายทิพย์ของ ข้าพเจ้าถูกพาไปลอยลิ่วไปราวกับใบไม้ที่ถูกพัดไปด้วยแรงแห่งลมหนาว เปลวความร้อนสีแดงที่แล่นผ่านไปนั้น ทำให้เกิดความเจ็บปวดขึ้น ข้าพเจ้ารู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยวหมอกสีดำลงมาปกคลุมข้าพเจ้า สิ่งที่มาด้วยกับสิ่งนั้นคือความเงียบที่ไม่เคยประสบมาก่อนในมนุษย์โลก​

ความมืดสนิทที่เข้ามาปกคลุมข้าพเจ้าอยู่นั้นค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไปจากแห่งใดไม่ปรากฏ ข้าพเจ้าได้ยินเสียงคลื่นซัดซ่าอยู่ตามฝั่งทะเล ข้าพเจ้าได้กลิ่นไอเค็มของน้ำทะเลและกลิ่นสาหร่ายทะเล รู้สึกว่าตอนนี้เป็นทัศนียภาพที่คุ้นตา ท่ามกลางแสงแดดอุ่น ๆ ข้าพเจ้านอนหงาย เหยียดยาวอยู่บนหาดทรายอย่างเกียจคร้านตาทอดมองไปตามต้นมะพร้าวที่ขึ้นอยู่ตามชายหาดแต่อีกภาคหนึ่งของข้าพเจ้าก็แย้งว่า เอ ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นทะเลมาก่อนเลยนี่นา ไม่เคยได้ยินแม้กระทั่งชื่อต้นมะพร้าวหรือต้นปาล์มอะไรพวกนี้เลยจากเนินใกล้ ๆ กันนั้นข้าพเจ้า ก็แว่วได้ยินเสียงหัวเราะขึ้นพร้อม ๆ กันหลายเสียง เสียงนั้น ดังขึ้น ๆ เมื่อกลุ่มคนที่ดูท่าทางช่างมีความสุขเหล่านั้นใกล้เข้ามา แต่ละคน มีรูปร่างราวยักษ์ปักหลั่นทั้งสิ้นเมื่อมองดูตัวเอง เอ๊ะ ตัวข้าพเจ้าก็ใหญ่โตเช่นคนเหล่านั้นเหมือนกัน​

จากความรู้สึกที่เป็นทิพย์ของข้าพเจ้าทำให้ข้าพเจ้าทราบว่านานนับหลายร้อยปีมาแล้ว เมื่อโลกเรายังหมุนอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ ในด้านตรงกันข้าม ในตอนนั้นวันหนึ่ง ๆ เวลาสั้นและอบอุ่นกว่านี้ มีมนุษย์อยู่หลายพวก มนุษย์เหล่านั่นมีความรู้มากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้​

ดวงดาวจากภายนอกอวกาศ พลัดเข้ามากระทบโลก ทำให้เกิดการกระแทกขึ้นโลกถูกผลักออกจากแนวเดิมทำให้เดินในทางตรงกันข้าม เกิดลมพายุ กระแสน้ำถูกดึงดูดและเปลี่ยนวิถีทาง ทำให้เกิดน้ำท่วมโลกขนานใหญ่ เกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินบางส่วนจมลงอยู่ใต้น้ำ แต่บางส่วนที่เคยอยู่ใต้น้ำก็โผล่ขึ้นมาแทน ธิเบตซึ่งเคยเป็นประเทศอยู่ใกล้ทะเลมีอากาศที่เคยอบอุ่นก็เปลี่ยนไป กลายเป็นประเทศที่เป็น ภูเขาสูงมีลาวาพุ่งออกมา ภูเขาสูงถูกพัดราบไปเป็นหน้ากลอง พื้นดินเก่า ๆ ก็กลายเป็นดินดีมีประโยชน์ สิ่งเหล่านี้มากมายเกินกว่า จะบรรยายไว้ในหนังสือนี้ได้ ความรู้เหล่านี้บางตอนก็เป็นความลับเกินไปจนข้าพเจ้าไม่สามารถจะเขียนเป็นตัวหนังสือลงให้ท่านอ่านได้​

สักครู่หนึ่งต่อมา ข้าพเจ้าก็รู้สึกว่าภาพเหล่านั้นเลือนหายไป ความมืดเข้ามาแทนที่ ข้าพเจ้าปราศจากความรู้สึก ทั้งกายเนื้อและกายทิพย์ ต่อมาข้าพเจ้ารู้สึกไม่สบายเมื่อเกิดความรู้สึกใหม่ขึ้นมาว่า ข้าพเจ้ารู้สึกหนาวเป็นที่สุดในการที่ต้องนอนอยู่บนแผ่นศิลาเย็นเฉียบท่ามกลาง ความมืดสนิทเช่นนั้น ​

ข้าพเจ้าได้ยินเสียงพูดกันว่า " นั่นเขากลับมาหาเราแล้ว เราเข้าไปกันเถิด " หลายนาทีต่อมา แสงจาง ๆ ที่ผ่านเข้ามา แสงจากตะเกียงน้ำมันเนยนั้นเอง จากแสงนั้นข้าพเจ้าก็มองเห็นท่านสมภารผู้ชราทั้งสามรูป​

" ลูกเอ๋ย เจ้าทำได้ดีมากทีเดียว เจ้านอนอยู่ในนั้นนานถึง ๓ วันเต็ม เดี๋ยวนี้เจ้าก็ได้เห็นแล้ว การตายและการมีชีวิตอยู่ "​

ข้าพเจ้าค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนอย่างลำบาก ตัวเอนไปมาเพราะความอ่อนแอและหิวโหย แล้วพากันออกมาจาก " ห้องอมตะ " ที่ไม่อาจจะลืมได้นั้น กลับออกมาตามทางเดินที่เย็นเฉียบนั้น ข้าพเจ้าเป็นลมด้วยความหิวและความรู้สึกที่กระทบอย่างแรงกับสิ่งที่เพิ่งได้ ประสบเห็นมา ข้าพเจ้ารับประทานอาหารอย่างเต็มที่ และคืนนั้นเมื่อข้าพเจ้าล้มตัวลงนอน ข้าพเจ้ารู้ดีว่าไม่ช้าข้าพเจ้าก็ต้องจากประเทศ ธิเบตไปสู่ประเทศอื่น ๆ ซึ่งเต็มไปด้วยความแปลกประหลาดดังคำทำนาย​

แต่มาถึงตอนนี้ข้าพเจ้าอาจพูดได้ว่า สิ่งที่ข้าพเจ้าได้พบได้เห็นนั้นแปลกประหลาดมากกว่าที่ข้าพเจ้าเคยคิดวาดภาพไว้ตั้งหลายสิบเท่า​

- คัดบางสว่น จากหนังสือเรื่อง ตาที่สาม โดยที. ลอบซัง ลัมปา(T.Lobsang Rampa)อาจารย์ฉัตรสุมาลย์ แปล-​

ที่มา http://www.sookjai.com/index.php?topic=2864.0​

กายทิพย์จะออกไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ ในขณะที่เรานอนหลับ
เขียนโดย ที. ลอบซัง ลัมปา​

​

ในขณะที่เรานอนหลับนั้น กายใน หรือกายทิพย์ก็จะออกท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ ตามใจชอบ กายทิพย์ หรือวิญญาณนั้น มีทางติดต่อกับกายเนื้อได้โดยมี "สายเงิน" เชื่อมโยงอยู่ สายเงินนี้จะคงอยู่ตลอดไป จนกว่าจะถึงเวลาที่คนคนนั้นตายไป "สายเงิน" นี้จึงจะขาดไป​

ความฝันที่เกิดขึ้นก็เนื่องมาจากกายทิพย์ออกไปท่องเที่ยวนั่นเอง ความฝันของคนธรรมดาส่วนมากเมื่อตื่นขึ้นแล้วจึงมักลบเลือน นอกจากพวกที่ได้ฝึกอำนาจจิตเท่านั้น จึงจะเข้าใจในความฝันได้โดยแจ่มแจ้ง​

ในระยะที่เราตื่นอยู่บนโลกนี้ จิตและวิญญาณก็จะผูกพันอยู่กับร่างกาย(กายเนื้อ) และปกติแล้วก็ไม่สามารถจะแยกออกจากกันได้นอกเสียจากจะเคยฝึกฝนมา ในขณะที่เราหลับนั้น ร่ายกายภายนอกหรือกายเนื้อเท่านั้นที่ต้องการพักผ่อน แต่กายในจะละกายเนื้อกลับออกไปยังโลกทิพย์ เช่นเดียวกับเด็กนักเรียนกลับบ้านเมื่อเลิกเรียน​

กายทิพย์และกายเนื้อติดต่อกันอยู่ได้ด้วย "สายเงิน" ซึ่งสามารถยึดไกลออกไปได้ตามแต่กายทิพย์จะท่องเที่ยวไป กายเนื้อก็ยังคงรูปอยู่ได้เป็นปกติตราบเท่าที่ "สายเงิน" ยังอยู่ในสภาพเดิมเมื่อตายไปสายเงินนี้จะถูกตัดขาดออกจากกายเนื้อ แล้วกายทิพย์ก็จะกลับคืนสู่โลกทิพย์ตามเดิม การเกิดของทารกก็เท่ากับการตายของชีวิตหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ภายในตัวของมารดา ความตายก็เช่นเดียวกันเท่ากับวิญญาณได้ไปเกิดในอีกโลกหนึ่ง ในขณะที่สายเงินยังติดต่ออยู่นั้น กายทิพย์ก็เป็นอิสระออกไปท่องเที่ยวในขณะที่กายเนื้อหลับอยู่ แต่สำหรับผู้ที่ฝึกฝนอบรมมาในทางนี้แล้ว ก็สามารถล่วงรู้ได้ว่ากายทิพย์ไปที่ใดมาบ้าง การที่กายทิพย์ออกไปเที่ยวมานี้ทำให้เกิด "ฝัน" ขึ้น "ฝัน" เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับกายทิพย์ และถ่ายทอดมาสู่กายเนื้อทางสายเงินนั่นเอง ในขณะที่กายเนื้อรับข่าวมานั้นก็จะเปลี่ยนแปลงเรื่องราวให้เหมาะสมกับความเชื่อถือในมนุษย์โลก​

โลกแห่งวิญญาณนั้นไม่มีเวลา "เวลา" เป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่มีความหมายในโลกมนุษย์เท่านั้น ดังนั้นจึงปรากฏบ่อย ๆ ว่าบางทีเราฝันไปนานเป็นเรื่องยาวๆ แต่ดูคล้ายกับว่าจะเกิดขึ้นเพียงในเวลา 1 วินาทีเท่านั้น บางทีเราก็ฝันว่าไปพบปะพูดคุยกับคนที่เรารู้จักที่อยู่ต่างประเทศไกลพ้น บางทีกายทิพย์ก็จะส่งข่าวถึงกันและกัน และเมื่อตื่นขึ้น จะพบว่า ฝันนั้นแปลกจริงๆ และน่าจะเก็บไว้ในความทรงจำ บางทีจะพบว่าเราฝันถึงญาติพี่น้องที่อยู่ห่างไกลและในไม่ช้าก็จะได้พบกันจริงจังด้วยกายเนื้อ สิ่งเหล่านี้ถ้าเราได้ฝึกหัดทางจิตมากเพียงพอแล้ว จะทำให้มีประโยชน์มากทีเดียว​

ในประเทศธิเบตเราท่องเที่ยวไปในโลกทิพย์บ่อยครั้ง โดยใช้อำนาจจิตเข้าช่วยควบคุม ก่อนอื่นต้องถอดกายทิพย์ออกจากกายเนื้อถึงแม้ว่าจะมี "สายเงิน" เชื่อมโยงอยู่ แต่เราก็อาจจะไปไหนๆ ได้โดยเพียงใช้จิตกำหนดและไปได้เร็วตามใจนึก มีหลายคนที่สามารถท่องไปในโลกทิพย์ได้ แต่บางทีไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างเพียงพอก็ทำให้เกิดช็อคได้​

------------------------------------------------------------------------------------------
เอามาให้อ่านกันฮะ เห็นมีเกี่ยวกับความฝันด้วย คัดลอกมาจากหนังสือเรื่อง "ตาที่สาม" เขียนโดย ที. ลอบซัง ลัมปา(T.Lobsang Rampa)​

zipper<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_19899", true); </SCRIPT> ​

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ใช้บัตรปชช.สมาร์ทการ์ด รักษาฟรีวันแรก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>"จุรินทร์"โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คบอกเริ่มแล้ววันนี้! "รักษาฟรี 48 ล้านคน ใช้บัตรประชาชนใบเดียว" บรรยากาศวันแรก สะดุดเล็กน้อย แต่ปชช.ก็ชื่นชอบ

<!--<iframe scrolling="no" src="fullURLmain/include/adsense/indetail.php" frameborder="0" height="266" width="250"></iframe>-->

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ทวิตผ่าน เว็บไซค์ทวิตเตอร์ @Aoodda ข้อความว่า วันนี้ "รักษาฟรี 48 ล้านคน ใช้บัตรประชาชนใบเดียว" เริ่มพร้อมกันทั่วประเทศแล้วครับ นโยบายรักษาฟรี 48 ล้านคน สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ยังไม่มีบัตรประชาชน ให้ใช้สำเนาสูติบัตรหรือสำเนาทะเบียนบ้านแทนได้เลยครับ


สำหรับบรรยากาศการให้บริการวันแรก มีการสะดุดเล็กน้อย เนื่องจากประชาชนยังคง สับสน แต่ก็ชื่นชอบเพราะสะดวกมากขึ้น
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>บิน ลาเดนมีส่วนพัวพันวางแผนก่อการร้ายโจมตี3ชาติยุโรป</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>โอซามา บิน ลาเดน</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สถานีวิทยุแห่งชาติในสหรัฐ หรือ NPR รายงานเมื่อวานโดยอ้างแหล่งข่าวด้านข่าวกรองว่า


เมื่อหลายเดือนก่อน โอซามา บิน ลาเดน ผู้นำเครือข่ายก่อการร้ายอัลไกด้า มีคำสั่งถึงเครือข่ายอัลไกด้าและกลุ่มพันธมิตรว่า เขาอยากให้มีการโจมตีใน 3 ชาติยุโรป ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรนี แบบเหตุการณ์ก่อการร้ายในนครมุมไบของอินเดียเมื่อปลายปี 2551 ที่มือปืน 10 คนบุกยิงในโรงแรม 3 แห่ง สถานีรถไฟ และร้านอาหาร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 166 คนและบาดเจ็บกว่า 300 คน

NPR ระบุว่า มือปืนวางแผนยิงฝูงชนในแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนพลุกพล่าน และยึดโรงแรม และหากบิน ลาเดนเป็นคนสั่งการ ก็ไม่เชื่อว่าสหรัฐจะไม่ตกเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการโจมตีด้วย ข่าวกรองเบื้องต้นนี้ทราบมาจากอาห์หมัด ซิดดิ๊ก ชาวเยอรมันที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ฐานทัพสหรัฐในกรุงคาบูลของอัฟกานิสถาน ซิดดิ๊กถูกระบุว่ารู้จักกับนายโมฮาเหม็ด อัตตา หนึ่งในสลัดอากาศที่ก่อเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2544

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่บางคนกำลังวิตกว่า ทีมปฏิบัติการคล้ายกับหน่วยคอมมานโดของผู้ก่อการร้ายอาจกำลังเดินทางไปยังชาติตะวันตกโดยใช้หนังสือเดินทางของชาติยุโรป ทำให้การค้นหาและสกัดกั้นมีความยากลำบากมากขึ้น

เจ้าหน้าที่ข่าวกรองปากีสถาน เปิดเผยเมื่อวานด้วยว่า ชาวเยอรมัน 8 คนและสองพี่น้องชาวอังกฤษมีส่วนร่วมวางแผนก่อการร้ายในยุโรป แต่การวางแผนยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น และพวกเขาได้ติดต่อคนรู้จักในยุโรปเพื่อจัดหาวัสดุ ทั้งหมดซ่อนตัวอยู่ในจังหวัดวาซิริสถานเหนือของปากีสถาน และทางการปากีสถานอังกฤษและเยอมนีได้ร่วมกันติดตามคนเหล่านี้จากการดักฟังโทรศัพท์





</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>

ที่มา NBC News​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>