เรื่องเด่น ช่วงชีวิตที่หายไปของพระเยซู...ไปศึกษาพุทธศาสนาที่อินเดีย

ทำไมแรงแบบนี้ล่ะครับ ศาสนาใครใครก็รักเนาะ การมาพูดแบบนี้มันแรงเกินไปนะ ไม่ควรครับ จิตใจคุณยังสกปรกอยู่เลย ไม่ต้องเอาเรื่องศาสนามาเกี่ยวหรอกแค่เรื่องความเป็นคน คนเค้าสนธนาธรรมเพื่อความรู้ความเข้าใจ อยู่ดีดีมาใช้อารมณ์โดยที่ไม่มีสติ แบบสัตว์สี่เท้า เข้ามาแบบนี้จะดีเหรอ ผมไม่เคยบอกว่าศาสนาไหนไม่ดี มีแต่บอกว่าศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี วิธีสอนต่างกัน เท่านั้นเอง แต่เรื่องหลายๆเรื่องก็สอดคล้องกัน คุณว่าศาสดาของคุณเค้าจะดีใจมั้ยที่เค้ามีศาสนาขึ้นมาสอนให้ตนเป็นคนดีแต่ผู้นับถือมาแสดงกิริยาแบบนี้ มาดูถูกศาสนาอื่นเค้าแบบนี้ คุณมาบอกว่าศาสนาพุทธต่ำ คุณบอกบ้านเค้าเจริญ เจริญนี่มันไม่ได้อยู่ที่ศาสนาแต่อยู่ที่ตัวบุคคล ความเจริญความก้าวหน้าไม่ได้ทำให้คนเป็นคนดีความเจริญดีจริงทำไมถึงมีปาตี้ มั่วเซ็ก ทำหนักเอ๊กขายไล่ข่มขืน อันเป็นตัวอย่างไม่ดี มาให้ประเทศอื่น ความเจริญดีจริงลบกันทำไม ทำไมไม่สงบ ฉะนั้นการที่มากล่าวด่าศาสนาคนอื่นไม่ดีเลย ศาสนาใครใครก็เอาขึ้นหัว แต่จะดีไม่ดีอยู่ที่ตัวบุคคล เห็นได้ชัดว่าคำสอนเนี่ยสอนให้เป็นคนดี มีศีลถ้าทำตามศีลได้ก็เป็นคนดีเลย แต่คนเราก็ไม่ค่อยมีศีลฉะนั้นมันอยู่ที่ตัวบุคคล ไม่ได้อยู่ที่ศาสนา จงอย่าเหมารวม จงเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขความสงบ ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธเค้าอยู่กันมาช้านาน ไม่พอใจ จงออกไป ที่นี่มีพระมหากษัตรย์เป็นประมุข เค้าเสียเลือดกันมา เพื่อลูกเพื่อนหลาน อยากให้อยู่อย่างมีความสุขความสงบ ส่วนคนไม่พอใจ จงออกไป ไปไกล ชิ่วๆ

 

พูดความจริง กลับรับไม่ได้ ติเตียนคนอื่นนะเก่งนัก
เขาบอกว่า มองจิตตนชั่ว ดีนักแล จะได้เลิกมีมานะซักที

 

กลับมาอีกที ตามคาดค่ะ คือกระทู้สะเทือนเดือดดาล เพื่อนชาวคริสต์บางท่านซึ่งแน่นอนว่าท่านไม่ได้ฝึกฝนจิตมาอย่างเราๆ ท่านย่อมบันดาลโทสะเป็นธรรมดา โทสะมา สติตามไม่ทัน จึงเป็นเช่นนี้

สิ่งใดที่ท่านใดล่วงเกินองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าเป็นสมัยก่อนดิฉันคงโต้เดือดกับท่านเหมือนกัน แต่เดี๋ยวนี้เมื่อความเข้าใจมันมีมากขึ้นจึงรู้ว่า จิตคนเราเป็นไปได้ทั้งนั้น เป็นให้ดีก็ได้ ร้ายก็ได้ ดีแค่ไหนก็ได้ ร้ายแค่ไหนก็ได้ ครูบาอาจารย์ท่านถึงพร่ำสอนให้ระวังดูจิตให้มาก มีสติตามระลึกอยู่ตลอด จึงไม่จำเป็นต้องเคืองผู้ที่ไม่รู้
แต่ทุกคนย่อมศรัทธาในศาสนาตน เป็นไปได้สำหรับท่านที่ยังขุ่นเคืองอยู่ สูดลมหายใจลึกๆ นึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของท่าน วางดาบในใจของท่าน เมื่อจิตสงบแล้วค่อยมาสนทนากันด้วยเหตุผลด้วยปัญญาของทุกท่าน จึงจะเป็นประโยชน์มีคุณค่าสำหรับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

ต้นกำเนิดของทุกศาสนา ศาสดาทุกองค์ท่านสอนมาดีแล้ว ไม่ว่าพุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดู ซิกข์ หรืออื่นๆแต่หลังจากศาสดาท่านสิ้นไปแล้วเปลี่ยนผ่านมาถึงมือมนุษย์ มนุษย์นี่ล่ะตัวดี มนุษย์บางท่านหรือที่พระอาจารย์ใหญ่ของดิฉันเรียกว่า"มนุษย์กิเลส"

จิตมนุษย์ปรุงแต่งมาก พวกนี้แลที่เอาคำสอนดั้งเดิมไปแต่งเติมตามที่ตัวเองคิดว่าอยากได้ใคร่เป็น ความเพิ่มเติมในภายหลัง อาจทำให้บางท่านเข้าใจผิดว่าศาสนาของท่านนั้นไม่ดี ล่วงไปถึงศาสดาว่าสอนไม่ดี แต่ไม่ใช่ไม่ดีจากศาสดา แต่ไม่ดีด้วยมนุษย์ที่ไปปรุงแต่งคำสอนในภายหลัง เป็นกันทุกศาสนา

ของพุทธศาสนามีทั้งลัทธิคู่แข่ง มีทั้งศิษย์ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านี่ล่ะที่หลงตัวหลงตนมาก พวกเล่นฤทธิ์มาก ธรรมไม่เจริญตามฤทธิ์ เมื่อฤทธิ์มากความเป็นตัวกูของกูยิ่งมาก องค์พระสัมมาสัมพุทธบรมครูตรัสเตือนก็ไม่ฟัง นึกว่าตนเก่ง ตนแน่ ไม่ฟังกันแล้ว พวกนี้แลที่ไปตั้งสำนักตั้งตนแข่งบารมีกับพระพุทธเจ้า สร้างตำราคัมภีร์ขึ้นมาเอง โดยมีเค้าเดิมจากคำสอนของพระพุทธองค์ แต่เป็นธรรมไม่สมบูรณ์ กิเลสปรับแต่งตามใจชอบ คนนำไปปฏิบัติก็หลงทางกันไป

ครูบาอาจารย์ถึงสอนให้พึงยึดคำสอนหลัก คำสอนตามคัมภีร์หรือตำราที่ถูกต้อง รู้ว่าถูกหรือไม่ถูก ถ้ากำลังจิตไม่พอประเมินไม่ได้ ก็ต้องลองปฏิบัติ บางท่านลองผิดลองถูกมามากกว่าจะเข้าที่เข้าทางหลายปีก็มี

ในพุทธศาสนามีพระอรหันต์มากมายที่บรรลุด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา และยังมีพระอรหันต์อีกองค์ที่บรรลุธรรมด้วย ศีล สมาธิ ศรัทธา เนื่องด้วยท่านไม่ใครเจริญในทางปัญญา(ตามพระไตรปิฎกใช้คำว่า "ปัญญาทึบ") ธรรมจึงไม่ก้าวหน้า องค์อื่นๆบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว แต่ท่านยังไม่คืบหน้า แต่ด้วยพลังศรัทธาของท่านต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านจึงสำเร็จพระอรหันต์ได้ด้วยพระพุทธบารมี อันนี้กล่าวตามบันทึกในพระไตรปิฎก แต่จำชื่อพระอรหันต์องค์นั้นไม่ได้แล้ว ทางพุทธจึงสอนให้เจริญพุทธานุสติเป็นอารักขกัมมัฏฐานข้อหนึ่งเพื่อรักษาสมาธิไว้
สำหรับท่านที่นับถือศาสนาอื่น ท่านเจริญจิตถึงศาสดาของท่าน จิตท่านพึงสงบได้เช่นกัน แม้วิถีปฏิบัติต่างกัน

ความศรัทธาก่อเกิดพลังทางจิตอย่างมหาศาลก็ต่อเมื่อรู้จักใช้มันอย่างถูกต้อง และก่อเกิดความวิบัติทุกหัวระแหงเมื่อศรัทธาแฝงด้วยมิจฉาทิฐิ รู้ผิด เห็นผิด ใช้ศรัทธาในทางที่ผิด ทุกวันนี้ศาสนาก็อยู่กันไป เป็นเพียงนาม จิตมนุษย์เป็นผู้กระทำให้เป็นไป โลกมนุษย์จึงวุ่นวายเพราะมนุษย์ด้วยกันนี่แล

 

โอ๊ะ โอ ดราม่า กันซะแล้ว อ่ะ ไม่เอาน่า อย่าทะเลาะกันเลยครับ
เราเอง ก็คนหนึ่งที่เห็นฝุ่นในตาคนอื่น แต่ท่อนซูงทั้งต้นในตาเรา ยังมองไม่เห็น
ของบางอย่างเป็นสิ่งเดียวกัน แต่ก็สามารถ มองต่างกันได้ ไม่ใช่ว่าเรา อวดภูมิ
ทำท่าทางเหมือนโกธรใครไม่เป็น ...... เราก็คนปกติแหละครับ เพียงแต่ มองย้อนไปในอดีต ว่าการกระทำเรา มันคุ้มไหมที่ทำ จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว จิตสั่งกายทำตามจิตสั่ง
จิตที่ดีส่งผลทางกาย จิตที่หยาบก็ส่งผลทางกาย ดูออกที่การกระทำ จิตสั่งการกระทำในเรื่องสามัญ แยกแยะผิดถูก สิ่งที่ควรทำคือสามัญสำนึก จิตที่ควบคุมทำในสิ่งที่เกินสามัญคือ
จิตใต้สำนึก....ควบคุมจิตใต้สำนึก นั้นคือ จิตเหนือสำนึก ..... เราจะให้จิตควบคุมเรา
หรือเราควบคุมจิตละครับ...จริงไหม

 

คุณโด่.. การบรรลุธรรมน่ะ ต้องปรมัตบารมี

ต้องมีคุณธรรมขั้นสูง เหนือโลก กันเลยที่เดีว

แต่คุณความดี คุณธรรม พื้นฐาน อะไรควร ไม่ควร

อะไรเหมาะสม หรือไม่อย่างไร เด็กๆมันยังรู้เลย

คนที่เขาไม่ได้นับถือศาสนาอะไรเลย เขาก็วางตัวกันเป็น

ไม่จำเป็นต้องต้องมีศาสดา ก็ได้ อะไรควรพูด อะไรไม่ควารพูด

ความดีขั้น basic พื้นๆ floor floor

คนที่เขาไม่ได้นับถือศาสนาอะไร เขายังรู้จัก วางตัว

รู้จักไช้คำพูด ที่เหมาะ ที่ควร แล้วคนที่มาอ้างว่ามีครู มีศาสดา

มีศาสนาประจำตนเอง แล้วมาทำแบบนี้

อายเค้าไหม เหมือนตำรวจ รู้ฏกหมาย แต่ยังฝืนทำผิด

บอกได้เลยว่า เลวจริงๆ รู้แล้วยังฝืนทำ

สามัญสำนึกรู้จักไหม สามัญ=ของที่มีอยู่ทั่วไป หาง่าย ไช้สดวก

สามัญสำนึก=คนธรรมดา ที่มีความอ่าน ความคิดธรรมดา

ทั้วๆไป ไม่ต้องเลิศเลอ perfect เรื่องแค่นี้

ของจิ๊บ จิ๊บ ใครเขาก็รู้จักกันนะ คำว่ากาละเทสะ

และไอ้ที่คุณบอก โคตมะสิทธัตถะโดนหินข้าวงปาในเมืองต่างๆ

อย่าแต่เมืองต่างๆเลย แม้แต่เมืองเดียวก็ไม่มี

ในพระไตรปิตก พุทธประวัติ หรือสุตันตะปิฏก

หรือในหมวดอภิธรรม ในหมวดพระวินัยสงฆ์ไม่มีกล่าวไว้

ง่ายๆก็คือ ประไตรปิฏกทั้ง 45 เล่ม ทุกหมวด

ไม่ว่าจะเป็นวรรคไหน บรรทัดที่เท่าไหร่

หรือตอนไหนไม่มีนะครับ

ที่ว่าพระพุทธเจ้าโดนถูกหินข้าวงปาใส่

ไม่มีนะครับ

ไปถามพระมหาเปรียญ ขั้นด็อเตอร์

หรือจะค้นข้อมูลใน google หรือ

จากเว็บพลังจิตนี่ก็ได้

ไม่มีกล่าวไว้ในที่ใดเลย

จะมีก็แต่องค์คุลิมาร ท่านเป็นสาวก ไม่ไช่พระศาสดา

ก่อนบวชเป็นโจร ฆ่าคน ปล้นสะดม พอบวชแล้ว

ท่านก็บรรลุธรรม ท่านไปบิณทบาตในหมู่บ้าน

ชาวบ้านเขาไม่ชื่อ และอีกอย่างเค้าผูกใจเจ็บ

ที่สมัยก่อนบวช เคยไปทำร้าย พวกพ้องเขา

พอเห็นเป็นสมณะแล้ว เขาไม่กลัวแล้ว

เขาก้เลยเอาหินขว้วงใส่เอา

เรื่องประวัติสาวก ในพุทธประวัติ

มีมาอย่างนี้

ไม่รู้จริงอย่ามั่ว มันเสียหาย
มันเป็นการบิดเบือนข้อมูล
ข้อเท็จจริง ที่ถูกต้อง

และอายคนเค้า

ตัวเราเองกลายจะกลายเป็นคน
โกหกพกลมไป
ก่อนพูดเราเป็นนายคำพูด
แต่พอพูดไปแล้ว คำพูดมันเป็นนายเรา
จำไว้
................................................
หลักฐานยังอยู่ครบ เป็นตัวหนังสือ

เป็นรายลักษณ์อักษร

ค้นคว้า ศึกษาหาข้อมูลได้

จากพระไตรปิฏก...

 

ไช่

เห็นด้วยครับ สามัญสำนึก

ไม่ได้แบ่งเชื่อชาติ แบ่งคน แบ่งประเทศ
แบ่งตระกูลชาติกำเนิด
แบ่งสีผิว
จะมีศาสนา หรือไม่มีีก็ตาม

แต่ถ้ามีความเป็นคน ไช่เลย ต้องมีสามัญสำนึก

สิ่งที่ทุกคนควรมี ก็คือสามัญสำนึก

 

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->maxgatod<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3787557", true); </SCRIPT>
สมาชิก






อืมมม์... ก็แล้วแต่การศึกษาน่ะนะ

และก็แล้วแต่อีกว่า การศึกษาที่ศึกษามามันช่วยขัดเกลาให้เกิดสติปัญญาได้มากน้อยแค่ไหน

อ่านจากตัวหนังสือก็สัมผัสได้ถึงระดับสติปัญญาบ้างแล้วล่ะ




พูดไปพูดมา ก็เห็นเข้ามาโพสโดยมีเจตนามาด่าระบายอารมณ์นั่นแหละ... แล้วจะมาคุยอวดภูมิความรู้ให้มันน่าอายทำไมกัน

ศึกษามาก แต่ความประพฤติจัญไร... มันก็เปลืองเปล่า น่าละอาย

 

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สิบ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3788070", true); </SCRIPT>
สมาชิก

พวกพุทธขี้โม้


"พุทธะ" แท้ๆ เขาไม่โม้หรอกเธอ

ที่โม้มากๆน่ะ "พุทธ" แค่เปลือก "พุทธ" แค่ปาก

พูดอย่างนี้ ถือเป็น "ปิสุนวาจา" นะเธอ... ยุยงให้หมู่ชนแตกความรัก แตกความสามัคคี
สู้ไม่พูดดีกว่าอีกนะ ไปทำคลิปฮาๆมาดูกัน เป็นประโยชน์ สร้างรอยยิ้มสร้างเสียงหัวเราะให้กับเพื่อนๆได้มากกว่า

เดี๋ยวนี้พัฒนาแล้วนี่...

<!-- google_ad_section_end -->

 

คุณพี่ maxgatod เขาหักล้างคำพูด คุณได้ทุกอย่าง

คุณ โด่ย ก็เอาเหตุ ผล มาหักล้างเขาสิ จริง ไม่จริง ก็ว่ากันไป

นี่ไม่มีเลยนะคุณ

มีแต่คำด่า คำผรุสวาท

คุณนี่มัน สถุล ถ่อยจริงๆ

ข้อมูลอะไร ไม่มีเลย ไม่ได้ประโยช์อะไรเลย มีแต่คำเปรียบเปรย

คำแดกดันกระทบกระเทียบ

ขี้แพ้ชวนตีนี่หว่า:'(
กระทู้พวกคุณมันเน่าจริงๆ
ผมคนคริสต์ นับถือพระแม่มาลี

แต่เห็นพฤติกรรมของพวกคุณกันแล้ว

พวกคุณนับถ์อศาสนาอะไรกัน

ชาวคริสต์ อย่างพวกเรา ยอมรับ ในเหตุ ผล

หลักฐาน ที่สรุปได้ พิสูจน์ได้

อาเมน

 

ฟาริสี มันมีอยู่ทุกวงการ จริงๆเชื่อเถอะ ชามที่สะอาดเขาต้องล้างจากข้างใน
ไม่เช่นนั้น มันจะบรรจุอะไรต่อได้.....คนเก็บภาษี ที่ชกอกร้องไห้ในการสำนึกผิด นั้นก็น่านับถือกว่า ฟาริสี ที่อยู่ใต้กฎธรรมบัญญัติ แต่ขาดเมตตาจิตและดูถูกผู้อื่น จริงไหม ขอพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธ์ อยู่ท่ามกลางคุณ
อาเมน...

 

ไช่ครับพี่พรานป่า
ผิดแล้วยอมรับผิด
ยืดอก ยอมรับผิด คือลูกผู้ชาย
ลูกผู้ชายตัวจริง
หรือแถวนี้จะมีแต่ตัวเมีย
หรือไม่ก็อีแอบ
เสียละมั้ง ว่ามะ

 

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หลบทำไม<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3788285", true); </SCRIPT>
สมาชิก

คุณพี่ maxgatod เขาหักล้างคำพูด คุณได้ทุกอย่าง
คุณ โด่ย ก็เอาเหตุ ผล มาหักล้างเขาสิ จริง ไม่จริง ก็ว่ากันไป
หักล้างเรื่องอะไร... ไม่ได้มาสู้รบหักล้างกับใคร
อะไรจริงหรือไม่จริง ก็ศึกษากันให้ลึกซึ้งเอง
ไม่ใช่หน้าที่อะไรของเราที่จะต้องมาพิสูจน์อะไรหรือหักล้างใคร
ก็ยังงงๆอยู่ ว่าใครมาหักล้างอะไรเรา

นี่ไม่มีเลยนะคุณ
ก็ยังคงจะไม่มีต่อไป...

มีแต่คำด่า คำผรุสวาท
เหรอ... อืมมม์ แต่เราไม่เห็นน่ะ

คุณนี่มัน สถุล ถ่อยจริงๆ
อย่างนี้หรือเปล่าที่เรียกว่า "ผรุสวาท"


ข้อมูลอะไร ไม่มีเลย ไม่ได้ประโยช์อะไรเลย มีแต่คำเปรียบเปรย
ก็แล้วแต่ว่าใครมีสติปัญญามองเห็นประโยชน์ได้มากน้อยแค่ไหน...
ท่านไม่ได้ประโยชน์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะไม่ได้ประโยชน์เหมือนท่านน่ะนะ
ระดับสติปัญญามันไม่เสมอกันหรอก

คำแดกดันกระทบกระเทียบ
ระวัง... พูดไปพูดมาจะเข้าตัวท่านเอง เข้าคนที่ท่านมาออกหน้าแทนเขานะ

ขี้แพ้ชวนตีนี่หว่า:'(
เรื่องแข่งขันหรือรบกับตอนไหน... ถึงมีแพ้-ชนะ


กระทู้พวกคุณมันเน่าจริงๆ
แล้วยังจะเข้ามาดมอีก... ชอบกลิ่นเน่าเหรอ


ผมคนคริสต์ นับถือพระแม่มาลี
แต่เห็นพฤติกรรมของพวกคุณกันแล้ว
พวกคุณนับถ์อศาสนาอะไรกัน
ชาวคริสต์ อย่างพวกเรา ยอมรับ ในเหตุ ผล
หลักฐาน ที่สรุปได้ พิสูจน์ได้

อาเมน


ก็แล้วใครไปขัดขวางแนวทางอะไรของท่านล่ะ...
กระทู้น้ำเน่าก็เข้ามาเอง
ความอดทนน้อย ทนไม่ได้ก็โพสข้อความลงมาเอง


แล้วจะบ่นทำไม...

 

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->พรานป่า<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3788403", true); </SCRIPT>
สมาชิก

"โคตมะสิทธัตถะ" โดนก้อนหินปาในเมืองต่างๆ ที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกับธรรมที่เผยแพร่กล่าวสอน
เอ... แล้วเขาได้เอาก้อนหินปาใครกลับไปบ้างมั๊ยน๊า[/QUOTE]


แบบนี้เท่ากับว่า คุณไปบิดเบือนศาสนาของเขาเลยนะ
ศาสนาของใคร...
เราศึกษามา ได้ความรู้มาอย่างนี้ เราก็แสดงความรู้ความเห็นของเรา
ไปบิดเบือนอะไรของใคร...



เรื่องใหญ่นะ ไม่ไช่เรื่องเล็กๆ
อย่างงั้นเลยเหรอ... แล้วจะทำยังไงต่อดีล่ะ
เรื่องใหญ่ของเราคือ คนมาด่าว่าประนามกันจนเกิดเป็นความขุ่นเคืองและเจ็บช้ำน้ำใจ แล้วเราก็พยายามจัดการกับเรื่องใหญ่ของเราตามกำลังสติปัญญา

คนที่ไม่รู้จริง จะเข้าใจศาสนาของศาสนาอื่นผิดเลยนะ
พอรู้ไม่เหมือนที่ท่านรู้... ก็เลยตัดสินไปว่าไม่รู้จริง ซะงั้น

เป็นลูกโซ่เลยนะครับ
ก็เอาตัวมาเกี่ยวเป็นโซ่กันไปเอง ไม่มีใครเขาไปเกี่ยวมาเป็นลูกโซ่นี่นะ....

 

2 คำว่าจัญไร คนดีๆ มีใครเขาไช้กัน อยู่ๆก็ไช้เอาคำนี้ขึ้นมาไช้

แสดงว่า แถวบ้านคุณ คงจะไช้คำนี้กันบ่อย จึงชอบเอามาไช้

นี้บ่งบอก ตัวตนของคุณเลยละ สงสัยจะได้รับคำแบบนี้บ่อยนะคุณน่ะ

ข้อมูล ข้อเท็จจริง ไม่มี มีแต่คำแบบนี้ ประเภทนี้

 

......................................................................................
3 บอกศึกษามาแบบนี้ บอกผมที่เถอะ จากไหน เล่มอะไร

พระไตรปิฏกฉบับไหน จะได้ไปค้้นคว้า หาอ่านได้ ว่าอยู่เล่มไหน วรรคไหน

ตอนไหน เพราะบอกอยู่ว่าศึกกษามาแบบนี้

ถามจริงๆ ศึกษามา หรือนั่งเทียนเอา กันแน่

อายเป็นบ้างไหม หรือว่าอย่างหนา ตราช้างสะแล้วว

 

maxgatod<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3788648", true); </SCRIPT>
สมาชิก

2 คำว่าจัญไร คนดีๆ มีใครเขาไช้กัน อยู่ๆก็ไช้เอาคำนี้ขึ้นมาไช้
แสดงว่า แถวบ้านคุณ คงจะไช้คำนี้กันบ่อย จึงชอบเอามาไช้
นี้บ่งบอก ตัวตนของคุณเลยละ สงสัยจะได้รับคำแบบนี้บ่อยนะคุณน่ะ
ข้อมูล ข้อเท็จจริง ไม่มี มีแต่คำแบบนี้ ประเภทนี้


อืมมม์... ก็ใช้เป็นปกติ เวลาจะพูดถึงอะไรที่มันแย่มากๆ ไม่ดีมากๆก็ใช้คำนี้ล่ะ
คำพูดกับภาษาน่ะมันไม่หยาบคายหรอก... จะหยาบคายก็ตรงเจตนาในการพูดการแสดงออก และท่าทีในการแสดงคำพูดออกไป
ใช้คำพูดสละสลวย แต่แฝงไปด้วยเจตนาเสียดสี ทับถม หมิ่นแคลน ฯ ... นั่นล่ะ ความหยาบคายมันอยู่ตรงนั้นล่ะ

แล้วที่กล่าวว่า "ศึกษามาก แต่ความประพฤติจัญไร... มันก็เปลืองเปล่า น่าละอาย"

เรากล่าวผิดตรงไหน... ไม่ได้ด่าว่าใคร หรือ เจาะจงไปที่ใคร

เรามั่นใจว่ากล่าวไม่ผิด ถ้าผิดบอกด้วยว่าตรงไหน ยังไง

หรือเอาใหม่ "ศึกษามาก แต่ความประพฤติจัญไร... มันก็เป็นประโยชน์ น่าชื่นชม"
อันนี้ เราว่าแย่กว่าเดิมอีกนะ

ยืนยันคำกล่าวแบบเดิมก็แล้วกัน "ศึกษามาก แต่ความประพฤติจัญไร... มันก็เปลืองเปล่า น่าละอาย"




คงไม่ได้เข้าใจว่าเรากล่าวตำหนิท่านหรอกนะ...

ไม่ใช่หน้าที่อะไรของเราที่จะมาด่ามาตำหนิใคร

เอาเป็นว่าเลิกด่าว่าทับถมซึ่งกันและกันได้ ก็เป็นอันใช้ได้


ถ่อย สถุลย์ เลว รู้ไม่จริง ตัวเมีย อีแอบ... ฯ
เรารับไว้เองทั้งหมดเลยแล้วกัน ไม่แบ่งใครเพราะใจแคบ
สรุปไปเลยว่า ถ้าจะมีใครด่าว่าอะไรกันที่ผ่านมา... ถือว่าด่าว่าตำหนิเราแล้วกัน

เพราะเราไม่มีฝ่าย...
เรารักศาสดาทุกท่าน เพราะการเสียสละของทุกท่านนั้นเพื่อประโยชน์แก่มหาชนจริงๆ
สบายใจกันได้ว่า เราไม่ได้มาโจมตีหรือหักล้างอะไรใคร

ถือว่ามาให้ด่าว่าตำหนิ มาเพื่อให้พวกท่านหยุดด่าว่ากันเอง... ด่าว่าเราได้ เพราะเราไม่กระทบตามกระแสคำด่า เลยไม่มีโทสะ
เนื่องจากเรารู้ตัวเราดีพอสมควรว่าเราเป็นอะไร อย่างไร แค่ไหน ก็เลยด่าว่าได้ ไม่รู้สึก






3 บอกศึกษามาแบบนี้ บอมผมที่เถอะ จากไหน เล่มอะไร
พระไตรปิฏกฉบับไหน จะได้ไปค้้นคว้า หาอ่านได้ ว่าอยู่เล่มไหน วรรคไหน
ไม่บอก... เพราะเจตนาท่าน ไม่ได้ถามเพื่อการศึกษาเพื่อปัญญาจริงนี่
ถามเหมือนหาเลศจับผิดกัน
หาเองสิ เราก็หาเอง ศึกษาเอง
อ่านหนังสือในห้องสมุดให้ครบทุกเล่ม ทุกห้องสมุด รับรองต้องเจอแน่นอน รู้เองเข้าใจเองภูมิใจกว่านะ...


ตอนไหน เพราะบอกอยู่ว่าศึกกษามาแบบนี้
เราต้องแถลงเรื่องการศึกษาให้ท่านฟังด้วยเหรอ... ไม่ต้องล่ะมั๊ง
ท่านไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับเราขนาดนั้น

ถามจริงๆ ศึกษามา หรือนั่งเทียนเอา กันแน่
ศึกษามา นั่งเทียนไม่เป็น

อายเป็นบ้างไหม หรือว่าอย่างหนา ตราช้างสะแล้วว<!-- google_ad_section_end -->
อายทำไม เมื่อไม่ยึดถือในตัวตน มันก็ไม่มีอะไรให้ต้องอาย... ไม่กี่สิบปีก็ตายแล้วล่ะ
จะอายทำไม เมื่อเราพูดสิ่งที่ออกมาจากสติปัญญาเราเอง จะผิด จะถูก ก็สติปัญญาเราเอง
ไม่ได้ยกเอา หรือจำใครมาพูด... เลยไม่รู้จะอายสติปัญญาของตัวเองทำไม ก็มันมีอยู่แค่นี้จริงๆ

ถ้าจำมาพูดสิ... เราถึงจะรู้สึกละอาย

 

ไช่ครับผม ไอ้โด่ยโด้ย มันคนจัญไรจริงๆครับ

ผมรู้จักมันดี แถวบ้านไม่มีใครเขาคบมันหรอกครับพี่

 

พวกพี่ๆครับ ไอ้โด่ยโด้ย มันก็ปลาไหล ดีๆนี่แหละ

มันทั้งแถก ทั้งแถ ทั้งไหลรื่น ไปน้ำขุ่นๆ

พวกพี่พยายามจะชื้ประเด็น เจาะประเด็น

มันก็ไปของมันอีกเรื่อง

มันไม่มีทางยอมรับผิดหรอบครับพี่ๆ

ฉายามันจริง ก็คือ

ปลาไหลตัวพ่อ

 

ถ้าไม่เกรงใจเจ้าของกระทู้... ก็ด่าต่อได้นะ ถ้าทำให้สุขใจสบายใจขึ้นน่ะ

นั่งอ่านอยู่ เพลินดี



กำลังศึกษาอยู่ว่าคนที่กล่าวว่าศึกษาธรรม เขามีวิธีการแสดงออกอย่างไร ตอนไหนบ้าง...