<SPAN>ชมรมขุนแผนระฆังทอง&เจดีย์ทอง หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ (โชว์ภาพและประสบการณ</SPAN

รับทราบครับ จดไว้แล้วครับ

ตั้งแต่หน้านี้เป็นต้นไป
จะให้มีการเปิดจองขุนแผนเจดีย์ทอง รุ่นตะกรุดทองคำ ในกระทู้ได้ครับ

ถ้าปิดจองในกระทู้เมื่อไหร่ ก็จะแจ้งให้ทราบเมื่อนั้นครับ

 

อันนี้บูชาไม่ดี มีหวังหยอดน้ำข้าวต้มเลยใม้พี่ อิอิ ^ ^

 

แล้วรุ่นอื่นๆ เปิดจองเมื่อไหร่ครับ

 

รุ๋นอื่นๆ ต้องถามคุณวุธอีกทีครับ เห็นว่าพรุ่งนี้จะเข้าไปพบท่านอาจารย์เชยครับ

ถ้ามีข่าวอะไรจากทางคุณวุธ เดี๋ยว พี่ 15 ค่ำ พี่ namo_2009 และพี่ภูวดิทจะมาแจ้งให้ทราบในกระทู้นี้ครับ

 

ขอบคุณ ล่วงหน้าครับ พี่ knutch

 

ข่าวด่วนจ้า................. แรงหรือไม่แรงคิดดูนะครับ ทางสำนักงานจีพระออกบัตรรับรองให้กับพระขุนแผนรุ่นนี้แล้วนะครับ แรงจริงครับ
................. ผมขออนุญาติเจ้าของภาพนะครับ นำมาเผยแพร่ให้ชมกันนะครับ ผมต้องเอาของที่ผมมีไปออกบัตรแล้วละครับ เผื่อปล่อยได้ราคาดี ๆ จะได้ไม่ต้องออกบัตร ราคาดีได้เงินเร็ว ชอบบบบบบบ
ขุนแผนระฆังทองสำนักงานจีพระออกบัตรรับรอง เป็นรุ่นมาตราฐานไปแล้วนะครับ

 

สุดยอด คำเดียว

 

ขอจองตะกรุดทองคำ 2 องค์
ขอรบกวนโอนสิ้นเดือนครับ

 

ผมว่าใครเก็บไว้เยอะโชดดีเลยครับ เวลาผ่านไปสัก ปี ราคาคงไกลกว่าสากหักแน่เลยครับ

 

แวะมาเยี่ยม ก่อน นอนครับ

 

ยินดีต้อนรับเสมอครับ

 

รายชื่อผู้จองในกระทู้ครับ


ขุนแผนเจดีย์ทอง พิมพ์เล็ก ตะกรุดทองคำ องค์ละ 1000 บ.

ช่วยค่าส่งกล่องพัสดุไปรษณีย์
พระ 1 องค์ 50 บ.
พระ 5 องค์ขึ้นไป 100 บ.
พระ 10 องค์ขึ้นไป 150 บ.

ชื่อบัญชีธนาคาร
คุณ ศศิมา โชคชัย โทร.0818619789, 0891367954
หมายเลขบัญชี ธ.กสิกรไทย สาขาขลุง จันทบุรีออมทรัพย์213-2-06006-4

เมื่อโอนเสร็จ ให้ส่งรายละเอียดจำนวนพระ ชื่อที่อยู่จัดส่งและหลักฐานการโอนเงิน
ใน PM ของคุณ knutch ครับ (วิธีส่งPM ให้คลิกที่ชื่อ knutch แล้วคลิกที่ ส่งข้อความส่วนตัวถึงคุณ knutch)
ขออนุโมทนะครับ

 

บ้านหลังนี้ อบอุ่นครับ ถึงจะเป็นบ้านเพิ่งสร้างใหม่แต่อบอุ่นด้วยน้ำใจไมตรี ประทับใจครับพี่ฯทั้งหลาย

 

บ้านหลังนี้อบอุ่นเช่นเดียวกันกับบ้านของพี่หนุ่มแน่นอนครับ เพราะส่วนใหญ่เราจะอยู่บ้านพี่หนุ่มครับ บ้านหลังนั้นรวบรวมผู้มีเมตตาครับ

 

อบอุ่นเพราะสมาชิกของบ้านทุกคนทั้งคนใหม่ และคนเก่าต่างก็น่ารักและเป็นกันเองทุกๆคนครับ บ้านนี้คงอบอุ่นไม่ใด้หากขาดเพื่อนๆ พี่ๆเหล่านี้ ดังนั้น คำว่ามิตรภาพดีๆบางทีก็ไม่ต้องวิ่งหา แต่อยู่ใกล้เรานี่เอง มันอยู่ในตัวเรานี่ละครับ เพียงแต่เปิดใจเรา เพื่อเรียนรู้มันบ้าง ก็แค่นั้นเอง ^ ^

 

ประสบการณ์ของขุนแผนระฆังทอง คือเมตตาแรงมากๆองค์หนึ่งตั้งแต่เคยห้อยมาครับ
ได้พบเจอผู้คนใหม่ คนเก่าๆเค้าก็พูดจากับเราดีขึ้น ทำให้ผมมีความสุข
เขามาทักทาย เราก็ทักทายตอบแบบยิ้มแย้มแจ่มใส
เรื่องงาน มีเพื่อนให้ความช่วยเหลือตลอดเลย ครูบาอาจารย์ท่านก็เมตตา

ดีทุกเรื่องแค่ยังไม่มีประสบการณ์เรื่องสาวๆแบบท่านอื่นเค้าบ้าง
แค่นี้ผมก็happy แล้วครับ^^

 

สบายใจก็ ok แล้วครับ เรื่องสาวๆเดี๋ยวจะกลายเป็นไม่สบายใจเอานะครับ 55+

 

สวัสดีครับพ่ีๆ ผมสมาชิกใหม่ครับ แอบอ่านบอร์ดนี้มาหลายวันแล้ว วันนี้เลยสมัครซะหน่อย กระทู้ร้อนมากๆอยากมีส่วนร่วมครับ

 

สวัสดีครับทุกท่าน ผมตัดสินใจอยู่พักหนึ่งในการแบ่งปันประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับผม ด้วยเกรงว่ามันอยู่ระหว่างการแบ่งปันประสบการณ์ เรื่องราวบารมีของหลวงปู่ทิมฯท่าน-พ่อพรายกุมาร กับ การเข้าข่าย+คาบเกี่ยวในเรื่องของการเชียร์พระ ซึ่งมิใช่เจตนาของผม (ออกตัวกันประมาณหนึ่ง 555 ) เข้าเรื่องกันดีกว่า เมื่อหลายๆปีก่อนนั้น ผมได้มีโอกาสได้บูชาพระผงพรายกุมารพิมพ์เล็ก(นิยม)ของหลวงปู่ทิมฯท่าน มาองค์หนึ่งในสมัยนั้นราคายังไม่แรงมากเหมือนในปัจจุบันนี้ โดยหลังจากนั้นไม่กี่วันผมและเพื่อนได้ออกไปสังสรรค์กันตามประสา เวลาดึกพอสมควรราวๆตี2 ก็ขับรถออกมาโดย มีผมคนเดียวที่ไม่ได้ดื่ม (นอกนั้นเมากันหมด 555 ) ในรถมีผมซึ่งนั่งเบอะหลัง ด้านเฉียงกับคนขับ และแฟนผม(นี่ก็เมา..-_- ) นั่งอยู่ด้านหลังคนขับ ด้านหน้าเป็นพี่ผู้ชาย2คน เราขับกันออกมาพูดคุยกันสนุกสนานเฮฮากัน จนกระทั่งเข้าสู่ถนนหลัก พอเลี้ยวเข้าไปเท่านั้นแหละ เราพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ความเงียบเข้าครอบงำในตัวรถแทบจะทันที มีตำรวจนายหนึ่งโบกรถของพวกเราเข้าไปยังจุดตรวจ ซึ่งมีรถแท็กซี่จอดอยู่ในจุดตรวจวัดฯอยู่แล้วคันหนึ่ง รถของพวกเราขับเข้าไปอย่างช้าๆ ต่อท้ายแท็กซี่คันนั้น ผมมองบริบทโดยรอบ พบว่ามีนายตำรวจ2นาย ประกบ ทั้ง2ด้านของแท็กซี่คันนั้น ซึ่งห่างออกไปจากรถผมไปประมาณ3-4เมตร และทางด้านขวาของตัวรถมีตำรวจอีก2นายตั้งโต๊ะอยู่ กำลังจดบันทึกอะไรสักอย่าง โดยมีผู้ชายคนหนึ่งท่าทางเมาๆหน้าแดงๆนั่งคอตกอยู่ ซึ่งห่างออกไประยะสัก5-6เมตร ส่วนด้านหลังของตัวรถ ผมไม่ได้มอง! เพราะเมื่อตะกี้เพิ่งมีตำรวจนายหนึ่งโบกรถเข้ามา ระยะคงสัก9-10เมตร “B...มาเปลี่ยนที่กับพี่ !” เสียงพี่คนขับพูดขึ้น “ยังไง!” ผมถามในขณะที่ผมมองดูตำรวจ2คนยืนอยู่ด้านรถหน้าเต็มๆตา “ออกไป...” ผมไม่ได้คิด ในหัวผมไม่มีอะไร ไม่มีเวลาคิด /ผมเปิดประตูหลังรถด้านซ้ายออกไป-ปิดให้เบาที่สุด- เดินอ้อมท้ายรถ- เดินมาด้านประตูคนขับ-เปิดประตู-เข้าไปนั่ง-ปิดประตู /ปัง!(คราวนี้เผลอด้วยความเคยชิน) ส่วนพี่คนขับได้มุดผ่านช่องว่างระหว่างเบอะหน้าเข้าไปอยู่เบอะหลังแล้ว ตอนนี้ผมได้เข้าประจำที่คนขับแล้ว จังหวะนั้นเจ้าหน้าที่ฯได้ให้สัญญาณเรียงเข้าไปยังจุดตรวจ –ผมขับเข้าไปอย่างช้าๆ -จอดและลดกระจกลง เจ้าหน้าที่ฯก้มลงมายังผม.. “ มึ- คิดว่า ก. ไม่เห็น มึ-เหรอ ไอ้.....” ผมไม่ทันได้ยินคำสุดท้าย มีวัตถุแข็งๆเข้ามากระทบที่บ้องหูของผมเต็มแรง.......... “สวัสดีครับไปไหนกันมาครับ” น้ำเสียงสุภาพปลุกผมขึ้นมาจากจิตนาการสุดเพ้อเจ้อของผมให้กลับมาสู่ความเป็นจริง “ ไปสังสรรค์กันมาครับ ” ผมตอบแบบพาซื่อ “ ดื่มกันมาหรือเปล่า” ... “เปล่าครับ” ผมหมายถึงผมคนเดียวที่ไม่ได้ดื่ม “ ขออนุญาตตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์นะครับ” ตำรวจนายนั้นพูดพร้อมกับยื่นเครื่องตรวจวัดฯ ให้ผมเป่า...ฟู่ ฟู่.....ผมเป่าแล้ว “ โอเค! ครับ เรียบร้อยผ่านไปได้ ....” เขาพูดพร้อมกับโบกมือให้สัญญาณแก่ผมให้ออกรถไปได้ มันเงียบมากครับ เงียบเสียจนได้ยินเสียงล้อรถบดไปกับถนนในขณะที่ผมค่อยๆเคลื่อนรถออกมา ไม่มีใครพูดอะไร เหตุการณทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ ผมว่ากินเวลา นาที-นาทีครึ่งเท่านั้น ! พอออกมาจากจุดนั้นสักพัก “ พี่ ! ผมขับไม่ไหวแล้ว ” มือผมสั่น ใจเต้นแรง ผมต้องการตั้งสติ ผมนำรถเข้าจอดข้างทาง หยิบไฟแช็กขึ้นจุดบุรี่แล้วอัดอย่างแรง (คำเตือน:บุรี่มีอันตรายต่อสุขภาพและคนรอบข้าง) ทุกคนในรถยังเงียบกันอยู่เหมือนหาคำตอบ-อันไร้เหตุผลในการที่เราผ่านมาได้ โดยที่ตำรวจทั้งด่านมองไม่เห็นผม ทั้งที่เดินออกมาตัวปลิวซะขนาดนั้น....“B..แกขอพ่อพรายฯไว้เหรอ .. ” เสียงแฟนผมพูดขึ้นมา ....เออ จริง...เราห้อยพ่อพรายฯนี่หน่า ! มือผมเลื่อนไปกำพระไว้โดยไม่รู้ตัว ผมยกมือพนมขอบคุณบารมีหลวงปู่ฯและพ่อพรายฯ ตามสัตย์จริงผมไม่ได้นึกถึงท่านเลย เพราะผมเพิ่งแขวนบูชาท่านได้ไม่กี่วัน ผมยังไม่คุ้นกับท่านเลย แต่ท่านยังช่วยให้คลาดแคล้วเรื่องเดือดร้อนมาได้ เหตุการณ์นี้อาจเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับผม ผมได้ประจักษ์ถึงบารมีของหลวงปู่ฯและพ่อพรายฯ
หลังจากนั้นไม่นาน ผมมีอันต้องยกพ่อพรายฯ ให้แก่แฟนของผมไว้แขวนบูชาจนถึงปัจจุบัน ความจริงแล้วผมกับแฟนเกือบจะต้องเลิกกัน ไม่เกี่ยวกับท่านหรอกครับ ผมผิดเอง ผมขาดสติ ผู้ชายอย่างผมหน้าตาไม่ดีมากไม่เคยข้องแวะกับใคร( ไม่มีใครมาข้องแวะด้วยตะหาก 555) ทำมาหากินมีความสุขกับแฟนดีอยู่แล้ว แต่เมื่อมีคนอื่นเข้ามาแถมอายุน้อยกว่าผมตั้ง10ปี ผมเผลอใจไป คนมันไม่เคยมีอะไรอย่างนี้มาก่อน ย่อมจะอ่อนไหวไปบ้าง (คิดเองเออเอง) ช่วงนั้นจิตตก งุ่นง่าน อารมณ์เสีย แทบไม่ได้ทำมาหากิน ตกแต่ในกิเลส โชคดีที่แฟนผมเข้าใจและเป็นกำลังใจให้เสมอ ผมจึงเข้มแข็งและกลับมาได้ในที่สุด เพื่อความสบายใจของทั้ง2ฝ่าย ผมบอกแฟนผมว่า ผมขอมอบพระเครื่องที่ผมรักที่สุดให้เธอครับ
ทั้งหมดนี้ โดยส่วนตัวเป็นเหตุผลหนึ่งครับ ที่ผมได้มีความสนใจบูชา พระขุนแผน รุ่นระฆังทอง และ เจดีย์ทอง เนื่องจากผมได้มองเห็นเจตนาที่ดี และบริสุทธิ์ ในการสร้าง ผมได้พลาดการจองทั้ง 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 2 ผมได้ลำดับที่11 (หลวงปู่ฯท่านคงบอกว่ายังไม่ถึงเวลา แต่งวดที่ผ่านมาออก 11 เฉย แต่ไม่ได้เอ๊ะใจ เลยพลาดไปอีก 5555) แต่คราวนี้ผมไม่พลาดแน่ สำหรับรุ่น เจดีย์ทอง หลวงปู่ฯท่านคงอยากให้ผมได้พิมพ์เล็กกระมัง ส่วนตัวผมนั้นคิดว่า หากเรามีความศรัทราต่อหลวงปู่ฯและพ่อพรายฯ พระขุนแผน รุ่นระฆังทอง และ เจดีย์ทอง ไม่ใช่ของเสมือนครับ! สามารถนำมายึดเหนี่ยวจิตใจ ของผู้ที่ศรัทราหลวงปู่ทิมท่าน อย่าได้ยึดติดกับค่านิยมเลยครับ เรื่องของพานิชย์กับความศรัทรานั้น มันไปด้วยกันไม่ได้อยู่แล้ว ขอให้มีความศรัทราเท่านั้นก็พอครับ ขอบคุณ และ ขออนุโมทนาแก่ ผู้ที่มีส่วนร่วมสร้าง พระขุนแผน รุ่นระฆังทอง และ เจดีย์ทอง และ ผู้ร่วมบูชา ทุกท่านด้วยครับ

 

ยินดีต้อนรับนะครับ สู้บ้าน ชมรม คนรักษ์ขุนแผนระฆังทอง & เจดีย์ทอง โชว์ภาพและประสบการณ์