พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนอะไรเลย (พุทธธาตุธรรม)

เป็นเนื้อเดียวกับท่านอะหรือ?

ไม่ ไม่นะ!!!

ท่านเป็นของท่านไปคนเดียวก็แล้วกัน

ส่วนผมไม่เอาด้วยขอรับ

ทางใคร ทางมันก็แล้วกัน

 

ไม่ใช่แค่เนื้อเดียวกับเราอย่างเดียวนะ
ขี้หมา ยังไช่เลย
และท่านก็เป็นเนื้อเดียวกับพระพุทธองค์ด้วย
หากลองมอง​

เนื้อเดียวกับสรรพสิ่ง
คือพุทธธาตุ
พุทธธาตุ
คือทั้งมวล
แห่งพระพุทธเจ้า
และพุทธธรรม
รวมเป็นหนึ่ง
คือ
พุทธธาตุ​

 

หรอครับ

ผมไม่เคยรู้สึก อย่างที่ท่านว่ามาเลย

นายดำ ก็นายดำ

นายแดง ก็คือนายแดง

พุทวจน

คถาคต เป็นแต่เพียงผู้บอก ผู้ชี้ทาง

พระพุทธองค์ พระองค์ทรงตรัส

ว่าพระองค์เอง เป็นแต่เพียงผู้บอก

ผู้ชี้ทาง

แต่การปฏิบัติ การดำเนิน ขึ้นอยู่

กับแต่ละคน แต่ละบุคคล

มาขี้หมา ขี้แมวอะไร

เลอะเทอะนะ

 

มีผ้าขี่ริ้วมั๊ย
เช็ดซะ

 

ตัวท่านนั่นแหละ เลอะเทอะ

จะนิ่มไปถึงไหน

 

เราไม่ได้เถียงกับใคร
ไม่ได้โต้ และตอบสิ่งใด

 

อากาศธาตุ มันก็อากาศธาตุสิ
ว่าง มันก็ว่างสิ คนละเรื่องกัน

ถาม! พระท๊อปรู้ได้อย่างไรว่าว่าง
หากรู้ว่าว่าง ภาวะนั้นยังเรียกว่าว่างได้อีกหรือ

 

จิตหน่อจิตพึงพินิจดูสติ
ธรรมแท้ดีย่อมนั้นย่อมดีแก่ผู้ประพฤติ
ธรรมใดเล่าเท่าธรรมดาสูญตาที่ใดเล่าพาเจ้าสูญ
สูญกิเลสเขตกรรมนั่นไงเล่าดูเอาไว้
หมดอาดูรในกรรมนำจิตพิจราณาไป
เจริญเพลินธรรมนำสติสมาธิตั้งรู้กายใจวางสติเป็นฐานไว้
กันวัฏฏะนั้นไซร้หลอกลวงด้วยอำนาจไฟกิเลสหลงลืมธรรมมา
เตือนสติตั้งแนบติดเป็นมหาสติไว้เถิดหนา
ขาดสติวินาทีเดียวนาก็นำพาจิตหลงไปในกองกรรม

หลวงปู่ดู่ท่านว่า

คนดีเขาไม่ตีใคร


ข้าพเจ้าเขียนไว้ไม่มีประสงค์ว่าผู้ใดเขียนไว้ให้ดูไปไว้เช่นนั้นผิดพลาดประการใดกระทบจิตท่านใดให้เกิดโทสะโมหะหรือข้าพเจ้านั้นพูดผิดไปข้อจงรู้ไว้ผิดนี้ไซร้ข้าพเจ้าขอรับไว้เพียงคนเดียวจึงเรียนทุกท่านมานะที่นี้ด้วยนะครับ

อนุโมทนาในธรรมแท้ที่ทุกท่านปฏิบัติบัติเทอญ สาธุยะกัมมัง

 

เรื่องเดียวกัน
ต้นไม้ มันก็คือต้นไม่เหมือนกัน

เราเองมิใช่หรือ ไปนิยามมันว่า ต้นนั้น ต้นนี้

 

บวชอย่างไร้จุดหมาย
แบบคนไม่เอาไหนไปวัน ๆ

ไม่ยึด ไม่ติด ไม่ถือ กับสิ่งอันใดว่าเป็นสาระ หรือไม่ใช่สาระ

ท่านอาจารย์พุทธทาส ภิกขุ ได้กล่าวไว้กับสิ่งนี้ว่า

อยู่อย่างไร้สาระ

คือไม่ติดแม้สาระดี และสาระเลว

 

ขอเคารพ คารวะในอมตะธรรม ของท่านอาจารย์ หลวงปู่ดู
ขออนุโมทนา กับธรรม ที่ท่านนำมาเป็นทานด้วยเทอญ

 

และเป็นเนื้อเดียวกับสาระดี และเป็นเนื้อเดียวกับสาระเลว
กุศลธรรม เป็นสิ่งเดียวกับอกุศลธรรม
ธรรมเป็นเนื้อเดียวกัน ดังพุทธธาตุธรรม

ผู้เข้าถึงธรรม อันชื่อว่า พุทธธาตุธรรม

นั้นแล วิมุตติ

 

ภาวะนั้นมันไม่มีอะไรให้เรียกเลยจริง ๆ
เพราะว่างก็ไม่ใช่ หรือไม่ว่างมันก็ไม่ใช่

ว่าง กับไม่ว่าง มันเป็นเนื้อเดียวกัน

คือพุทธธาตุธรรม เหมือนกัน
ไม่ต่าง

 

หากเปรียบก็เหมือนกับ
เราเข้าไปในห้อง ห้องหนึ่ง
ว่างเปล่า ไม่มีข้าวของอะไร เป็นห้องว่าง ๆ
นี่ก็ว่างในขั้นหนึ่ง

แต่ความจริงก็ยังไม่ว่าง
เพราะผู้ที่อยู่ในห้อง
แล้วเห็นว่าห้องนั้นว่างนั่นแหละ
ไปยืนขวางห้องอยู่
ที่ไม่ว่างเพราะผู้นั้นไปยืนขวางอยู่ในห้อง

ผู้นั้นออกมาจากห้องนั่นล่ะ
คือว่างอย่างแท้จริง

ว่างทั้งข้างนอก
ว่างทั้งข้างใน

ว่างโดยสมบูรณ์.....

 

โยม จริง ๆ มันว่างตั้งแต่ในห้องแล้ว
นอกห้องก็ว่าง

มันเนื้อเดียวกันหมด
ว่างก็ว่างหมด
ไม่ว่างก็ไม่ว่างทั้งหมด

 

ตกลง "ว่าง" หรือ "ไม่ว่าง" กันแน่ครับ พระคุณเจ้า
เอาให้แน่ซักอย่าง......