แคร่ริมคลอง...วันวิสาข์พาไป "พิพิธภัณฑ์สักทอง"

หลังจากเก็บของก็มาฟังธรรมจากหลวงปู่
ก่อนจะกราบลาหลวงปู่ ออกเดินทางกันต่อไป
เก็บภาพสวยๆ ตรงทางเข้าวัดมาฝาก

 

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณในความเมตตาที่ช่วยเหลือผมในขณะที่ เข่ามีปัญหา ไม่ยอมไปกินข้าวกัน ให้กำลังใจผม ให้พลังบุญผม จนผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ ... ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรดี เอาเป็นว่า บุญกุศลใดที่ดวงจิตดวงนี้ เคยสร้างมาต้ังแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบันวันนี้ ก็ขอให้พี่น้องทุกท่าน ได้อนุโมทนาบุญ ให้ได้รับส่วนบุญ ส่วนกุศล เท่ากับที่ผมได้รับนะครับผม ไว้มีโอกาสคงได้ร่วมทริปกันอีกนะครับผม

 

รอดูภาพอยู่ครับ

เอาไปลง FaceBookแล้วประทับใจมากๆๆพรุ่งนี้มีการนัดมีทติ้งชมรมพุทธกรรมฐานที่จุฬาฯจะเอาไปเล่าให้น้องๆฟัง

รอติดตามต่อไปครับ

 

555 ไว้ไปเลี้ยงข้าวพี่พี่น้องน้องที่อดข้าวเพราะเรานะโฟ

 

เราออกจากวัดถ้ำผาแดงราวบ่ายโมงกว่า มุ่งหน้าด่านมะขามเตี้ย
เพื่อจะไปพักที่วัดหนองหญ้าปล้องและจะออกเดินทางไปวัดท่าขนุน
พร้อมพระอาจารย์โนรีในวันรุ่งขึ้น....
เราไปถึงวัดหนองหญ้าปล้องก็ค่ำแล้ว พระอาจารย์โนรีได้เมตตาให้แม่ครัวจัดเตรียมอาหาร
ไว้รอพวกเราทุกคน อิ่มอีกแล้ว ไปถึงไหน ก็ได้รับความเมตตาจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกทีเลย
พวกเรารู้สึกซาบซึ่งและกราบขอบพระคุณในความเมตตาของทุกๆ ท่าน
คืนนี้เราได้สนทนาธรรม ถวายสังฆทาน และพระแก้วใสทรงเครื่องจักรพรรดิ์ กับพระอาจารย์โนรี
และช่วยกันจัดเตรียมชุดสังฆทานอีก 40 ชุด เพื่อถวายที่วัดท่าขนุน
ราวตีหนึ่งกว่า ก็พากันพักเอาแรง...
วันที่ 20 เราตื่นกันแต่เช้ามืดตีสี่ ลุกขึ้นเตรียมตัว
ตีห้ารถของวัดท่าหนองหญ้าปล้องนำขบวนมุ่งสู่ทองผาภูมิ วัดท่าขนุน

 

เราไปถึงวัดท่าขนุนราวเจ็ดโมงกว่า...
ผู้คนมากมายแน่นศาลา เราขึ้นไปแทบไม่ได้
ได้เพียงยกชุดสังฆทาน 40 ชุด ไปถวาย แล้วก็ถอยออกมา
จากนั้นก็ไปหาอาหารเช้ารองทอง ซึ่งมีการจัดโรงทานมาในงานหลายร้าน
อิ่มไปตามๆ กัน...

 

ด้วยเพราะผู้คนจำนวนมากที่เนื่องแน่นอยู่บนศาลา
โอกาสที่จะเข้าไปกราบครูบาอาจารย์อย่างใกล้ชิดคงยากมาก
บางส่วนเลยพากันเดินขึ้นเขาไปกราบพระพุทธเจติยคีรี
และทำทักษิณาวัตรรอบพระเจดีย์

 

ทิวทัศน์โดยรอบพระพุทธเจติยคีรี

 

ราวบ่ายโมงเราก็ออกเดินทางจากวัดท่าขนุนกลับสู่ที่พำนัก
ครั้งนี้เราได้ธรรมมะมากมายจากหลวงปู่พวง พ่อแม่ครูบาอาจารย์
เอาไว้ให้ลูกตะลอนลูกอื่นๆ ได้มาร่วมบรรยายบรรยากาศกันบ้าง
งานนี้ ณ ก็ขอจบแบบห้วนๆ ก็แล้วกัน

 

ได้สนทนาธรรมกับหลวงปู่พวง สองช่วง ตอนมาและตอนกลับหลวงปู่พวงท่านได้เมตตาสั่งสอนหลายอย่างเรื่องแรกคือ ให้ทำดี แต่อย่ายึดดี ติดดีเพราะความดีเมื่อยึดถือแล้ว มักไม่รู้ว่าตนเองยึดติดไว้แล้วการยึดดีนั้นมองเห็นยากกว่า การยึดติดชั่วคำสอนนี้นี้ ทำให้ผมได้สติ และพิจารณาตนเองทำให้เห็นได้ว่าการยึดติดดีนั้นก็เป็นทุกข์อย่างยิ่งและอย่าไปยึดติดอดีต ให้รู้และทำดีในปัจจุบันเป็นพอ อดีตไม่ส่งผลต่อปัจจุบัน (ธรรมมะข้อนี้ขัดแย้งต่อความเข้าใจเดิมเดิมเหลือเกิน ผมเพิ่งตีความออกในวันรุ่งขึ้นตอนกราบลาท่าน ตอนบอกความปรารถนาไปว่า ขอนิพพาน)

 

หลวงปู่กล่าวถึงเรื่องตัวเก่ง...ณ อาจจะพูดไม่ตรงกับท่าน
เอาแบบตามความเข้าใจก็แล้วกันนะ...

เมื่อเก่งแล้ว...ก็จะไม่ฟังใคร ทำตัวกร่าง มองไม่เห็นหัวใคร
ไม่เคารพ ไม่ให้เกียรติใคร ไม่มีความอ่อนน้อม ไม่มีมารยาท
ไม่รู้จักกาลเทศะ โอ้อวดเย่อหยิ่ง ยิ่งแสดงออกมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเห็นถึงตัวโง่

หลวงปู่สอนให้เรารู้จักความอ่อนน้อมถ่อมตน
รู้จักการใช้สติและปัญญาในการใช้ชีวิต
รู้จักการอยู่ร่วมกันในสังคม รู้จักมารยาทในการวางตน
เพื่อให้เป็นที่รักและเคารพของผู้อื่น

...ยิ่งอวดเก่งก็ยิ่งอวดขลาด
ยิ่งอวดฉลาดก็ยิ่งอวดโง่
ยิ่งอวดคำโตคุยโว
ยิ่งอวดกลิ่นฉุยโฉ่ในตน
...หากไร้รู้ซึ่งเทศะ
ไร้รู้กาละสับสน
ไร้อ่อนน้อมถ่อมจิตในตน
ไร้ดีในกมลมีแต่อวดดี...

ขอบคุณพ่อแม่ครูบาอาจารย์ หลวงปู่พวงที่เมตตาสั่งสอน
ทำให้ได้ย้อนกลับมาไตร่ตรองใคร่ครวญคิดถึงสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่
มองที่ตัวเอง ระวังที่ตัวเอง ไม่ให้จิตไหลไปจับผิดคนอื่น
จับผิดตัวเองให้ดี ใครจะถูกจะผิดก็เรื่องของเขา เอาตัวเราให้รอด
รอดจากตัวเก่ง...แล้วเราจะดีเอง

 

จัดไป ครับผม ว่าไงว่าตามกัน อิอิ

 

เอารูปมาฝากครับพี่น้อง

 

สาธุๆๆๆ กับคำสอนที่นำมาถ่ายทอดให้พิจารณาตัวเราให้มากๆจะนำไปปฏิบัตินะค่ะ

 

อนุโมทนาสาธุ กับทุกท่านนะคะ วัดงามมากคะ เสียดาย อด อด....
อิ่มบุญด้วยไปก่อนละกันนะคะ ไว้ว่าง ๆ จะแวะไปมั้ง...สาธุ สาธุ

 

โฟบอก....จัดไป
พี่ๆน้องๆ...จัดให้
5555555555 จัดแบบเต็มรูปแบบเลยดีมะ
จะได้ส่งเทียบเชิญท่านจอมยุทธทั้งหลาย...
...มาซดน้ำชาสานสัมพันธ์กันคนละจอก...อิอิ

 

ลูกแมวน้อยอย่ามัวแต่นั่งรอ...
เอาความรู้สึก ประสบการณ์ที่ได้ในตะลอนครั้งนี้
มาแบ่งปันพี่ๆ น้องๆ กันบ้าง ให้ไวเลยน้อง...ให้ไว...@^^@

 

ได้มีโอกาศพบ คุณหมอท่านหนึ่งจาก รพ.พระมงกุฏซึ่งเป็นผู้รักษาหลวงปู่พวงให้หายจากอาการตามองไม่เห็นนับสิบปี
พวกเราบางคนได้มีโอกาศซักถาม ก็ทราบว่าได้ใช้การฝังเข็มแบบจีน ร่วมกับแพทย์สมัยใหม่ ช่วงแรกมีคุณธรไปนั่งคุย ต่อมา
มีผม คุณมนสดใส น้องเดียร์ และเจ้าตุ้ย นั่งฟังและซักถาม
ผมเองได้ให้ลองแมะชีพจร ปรากฏว่า สามารถบ่งบอกอาการป่วยได้
...
คุณหมอแนะนำพวกเราว่าให้ ทานน้ำโซดาผสมมะนาว ทุกเช้า (อัตราส่วนน้ำโซดา1ใน3ของขวด กับมะนาว 1ใน 3 ของลูกเช่นกัน)
เพื่อล้างคราบในกระเพาะ ให้ร่างกายดีทอกซ์กะเพาะเพื่อรับสารอาหารให้ดีขึ้น
ตอนนี้ผมลองมาตั้งแต่วันจันทร์
ปรากฏว่าวันแรก มีการเรอ และขับถ่าย
วันต่อมา ปรากฏเป็นตุ่มผื่นเหมือนลมพิษ เป้นแล้วหายเอง ไม่คันแต่อย่างไร
...
ไม่ทราบว่าท่านอื่นได้ลองทำเป็นอย่างไรบ้างครับ

 

ขอบคุณท่านพี่หนอน...ที่นำมาทบทวนให้ฟัง
เพราะหลายคนไม่ได้เข้าไปคุยกับคุณหมอ เลยไม่ได้รับความรู้ตรงนี้
เดี๋ยวเอาไปลองทำมั่งดีกว่า...สูตรโซดาน้ำมะนาว
เอ...แล้วจะกำหนดเป็นอัตราส่วนได้ปละพี่ ว่า1/3ของโซดา
กับ 1/3 ของมะนาว ว่าประมาณเท่าไหร่ โซดาน่าจะพอกำหนดได้
แต่มะนาวลูกมันก็ไม่มาตรฐานเท่าไหร่ หรือเอาตามใจชอบได้ ^^

แต่ก่อนรู้จักสูตรที่พอจำได้ มะนาว 1 ลูก น้ำ 1 แก้วใหญ่ เกลือนิดหน่อย
ผสมๆ ดื่มเอื๊อกตอนเช้า...ช่วยระบายดีแท้ :]

 

ข้อควรพึงระวังก็คือ
อย่าไปผสมอย่างอื่นตามใจชอบ เช่นใส่เกลือ หรือ น้ำผึ้ง เพื่อให้รสชาติดีขึ้น
ดื่มง่ายขึ้น
เพราะคุณหมอบอกว่า มีคนไข้ลองทำแล้ว ไม่ได้ผล