ทหารพระองค์ดำรายงานตัวหน่อยครับ

ขออภัยมุนีขอรับท่านพี่ใบไม้สีแดง พี่นางฟ้า แก้ไขให้แล้วครับ

ท่านวิสุทธิ์ FULL OPTION ของจิงอ่ะมีมากกว่า 5 หัวอีกนะ อิๆๆๆๆ ท่านก็มีมากกว่านิ ทำเป็นมาอำกันนะท่าน หุๆๆๆๆๆ

 

เข้าใจแล้วครับผม

 

อย่างงี้ต้องมาดูพระประธานบ้านผม เป็นปางนาคปรก 9 เศียร ปิดทองทั้งองค์ สวยมักๆ หรือว่าคุณนารถฯจะมีมากกว่า 9 หัวเนี่ย???

 

จริง ป่ะ !!!!!
แล้วของ เจ๊ มี กี่หัว อ่ะ อิอิอิ (deejai)

 

วันนี้ว่าจะมาเล่า ประวัติเมืองสองแคว โบราณ ที่เรียกว่า นครบางยาง
ปัจจุบัน คือ อำเภอนครไทย ที่มีต้น จำปาขาว ๗๐๐ ปี ต้นเดียว
รู้สึกว่าในกระทู้นี้ จะมี ท่านพิษณุ ไปชมมาแล้วคนเดียว ส่วนคนที่
อยากชื่นชมคนแรก และรู้ข้อมูลมากกว่าคนอื่น อยางนางฟ้า
กลับยังไม่เคยไป อิอิอิ
ซึ่งเป็นเมือง เก่าแก่ เมืองโบราณแรกของ จังหวัดพิษณุโลก
ปัจจุบันก็ยัง อมตะ ความงาม อยู่ มิเสื่อมคลาย เพราะอยู่บนเขา
ติดกับจังหวัด เลย คนที่นี่ก็เลยพูด ภาษาที่ไม่เหมือนใคร
คือ เหนือ ปน อีสาน สำเนียงออกแนว เหนือเชียงใหม่ หรือออกแนว
สำเนียงทางลาว เวียงจันทร์ ถ้าสังเกตุให้ดี สำเนียงภาษาลาว แท้ๆ
จะอ่อนหวาน นุ่มนวล เหมือน ทางเชียงใหม่....
.....
แต่ถ้า เป็น เหนือ ลำปาง แพร่ น่าน นี่จะออก ห้วน ๆๆๆๆ
......
โอยยย นอกเรื่อง ไปเรื่อง ภาษา ได้งายยยยย เนี่ย อิอิอิ
......
ไปตรวจพื้นที่ก่อน เดี๋ยวกลับมาเล่าใหม่ นะ คะ :boo:

 

มาตั้งตารองฟังเรื่องเล่าของพี่กรองฯ

 

ชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์

มาฟังเพลงนี้กัน

[MUSIC]http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=49738[/MUSIC]

ตามไปดาวน์โหลดกันได้ที่
ชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ - Buddhism Audio

 

มานั่งรอกับน้องปราญฯ ^^
ไม่ใช่ไม่เคยไป... แค่ไปไม่ถึง...

 

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ visut_p
ผมไม่ชอบรูปนี้เลยอะพี่อบ เอาพระพุทธเจ้ามาทำท่าเด็ดดอกบัวได้ยังไง ผิดศีลนะเนี่ย
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ดูให้ดีว่าไม่ได้เด็ด พระพุทธองค์กำลังตรัสสอนเรื่องบัวสี่เหล่าครับ<!-- google_ad_section_end -->


น้องวิสุทธิ์คงเพียงแต่จะล้อเล่นกับข้าพเจ้ากระมัง แต่ท่านสิงหนวัตกล่าวได้งดงามแล้ว สาธุค่ะ

 

พระพุทธโอวาท 3 เดือนก่อนปรินิพพาน
เนื้อเรื่องโดย : ท่านอาจารย์วศิน อินทสระ



"ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
บัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแห่งเราแล้ว...
เราขอเตือนเธอทั้งหลายให้จำมั่นไว้ว่า...
สิ่งทั้งปวงมีความเสื่อม และสิ้นไปเป็นธรรมดา
เธอทั้งหลายจงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด"



ปล. โลกนี้วุ่นวายยิ่ง ทั้งยังไม่ทราบจะมีภัยจากมนุษย์และธรรมชาติอีกอย่างไร ช้าเร้วจักต้องแยกย้ายไป ขอเพื่อนๆทั้งหลาย จงเป็นอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด อบขอน้อมนำธรรมสามเดือนก่อนพระปรินิพพานของพระพุทธองค์มาฝากค่ะ

 

เมื่อพระพุทธองค์ทรงปลงพระชนม์มายุสังขาร
พระพุทธองค์เสด็จมาถึงปาวาลเจดีย์ประทับภายใต้ต้นไม้
ซึ่งมีเงาครึ้มต้นหนึ่ง

ทรงตรัสกับพระอานนท์ว่า
"อานนท์ ! เพราะอบรมอิทธิบาทสี่มาอย่างดีแล้ว
ทำจนแจ่มแจ้งแล้วอย่างเรานี้
ถ้าปรารถนาจะมีชีวิตอยู่ถึงหนึ่งกัป
หรือมากกว่านั้นก็สามารถจะมีชีวิตอยู่ได้"

พระโลกานาถตรัสดังนี้ถึงสามครั้ง
แต่พระอานนท์ก็คงเฉยมิได้ทูลอะไรเลย

ความวิตกกังวลและความเศร้าของท่านมีมากเกินไป
จึงปิดบังดวงปัญญาเสียหมดสิ้น
ความจงรักภักดีเหลือล้น ที่ท่านมีต่อพระศาสดานั้น
บางทีก็ทำให้ท่านลืมเฉลียวใจ
ถึงความประสงค์ของผู้ที่ท่านจงรักภักดีนั้น
ปล่อยโอกาสทองให้ล่วงไปอย่างน่าเสียดาย

เมื่อเห็นพระอานนท์เฉยอยู่ พระพุทธองค์จึงตรัสว่า
"อานนท์ ! เธอไปพักผ่อนเสียบ้างเถิด เธอเหนื่อยมากแล้ว
แม้ตถาคตก็จะพักผ่อนเหมือนกัน"
พระอานนท์จึงหลีกไปพักผ่อน ณ โคนต้นไม้อีกต้นหนึ่ง

ณ บัดนั้น พระตถาคตเจ้าทรงรำพึงถึงอดีตกาลนานไกล
ซึ่งล่วงมาแล้วถึงสี่สิบห้าปี สมัยเมื่อพระองค์ตรัสรู้ใหม่ๆ
ท้อพระทัยในการที่จะประกาศสัจธรรม
เพราะเกรงว่าจะทรงเหนื่อยเปล่า
แต่อาศัยพระมหากรุณาต่อสรรพสัตว์
จึงตกลงพระทัยย่ำธรรมเภรี
และครานั้นพระองค์ทรงตั้งพระทัยไว้ว่า
ถ้าบริษัททั้งสี่ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา
ยังไม่เป็นปึกแผ่นมั่นคง ยังไม่สามารถย่ำยีปรูปวาท
คือ คำกล่าวจ้วงจาบล่วงเกินจากพาหิรลัทธิ
ที่จะพึงมีต่อพระพุทธธรรมคำสอนของพระองค์
ยังไม่แพร่หลายเพียงพอตราบใด
พระองค์ก็จะยังไม่นิพพานตราบนั้น

ก็แลบัดนี้ พระธรรมคำสอนของพระองค์
แพร่หลายเพียงพอแล้ว
ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา
ฉลาดสามารถพอที่จะดำรงพรหมจรรย์
ศาสโนวาทของพระองค์แล้ว
เป็นการสมควรที่พระองค์จะเข้าสู่มหาปรินิพพาน

ทรงดำริดังนี้แล้วจึงทรงปลงอายุสังขาร
คือ ตั้งพระทัยแน่วแน่ว่า
พระองค์จะปรินิพพานในวันวิสาขะปูรณมี
คือ วันเพ็ญเดือนหก

::

 

สาธุ ค่ะ พี่ อบ....
เราต้องไม่ประมาท ถ้าคำนวนอายุมนุษย์
อายุกรองก็น่าจะเลย ครึ่งชีวิต แล้ว...
เหลือเวลาไม่มาก .... :boo:

<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 3429041" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>Unique_Angel</TD><TD class=alt1>อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ krongkamons
วันนี้ว่าจะมาเล่า ประวัติเมืองสองแคว โบราณ ที่เรียกว่า นครบางยาง
ปัจจุบัน คือ อำเภอนครไทย ที่มีต้น จำปาขาว ๗๐๐ ปี ต้นเดียว
รู้สึกว่าในกระทู้นี้ จะมี ท่านพิษณุ ไปชมมาแล้วคนเดียว ส่วนคนที่
อยากชื่นชมคนแรก และรู้ข้อมูลมากกว่าคนอื่น อยางนางฟ้า
กลับยังไม่เคยไป อิอิอิ
ซึ่งเป็นเมือง เก่าแก่ เมืองโบราณแรกของ จังหวัดพิษณุโลก
ปัจจุบันก็ยัง อมตะ ความงาม อยู่ มิเสื่อมคลาย เพราะอยู่บนเขา
ติดกับจังหวัด เลย คนที่นี่ก็เลยพูด ภาษาที่ไม่เหมือนใคร
คือ เหนือ ปน อีสาน สำเนียงออกแนว เหนือเชียงใหม่ หรือออกแนว
สำเนียงทางลาว เวียงจันทร์ ถ้าสังเกตุให้ดี สำเนียงภาษาลาว แท้ๆ
จะอ่อนหวาน นุ่มนวล เหมือน ทางเชียงใหม่....
.....
แต่ถ้า เป็น เหนือ ลำปาง แพร่ น่าน นี่จะออก ห้วน ๆๆๆๆ
......
โอยยย นอกเรื่อง ไปเรื่อง ภาษา ได้งายยยยย เนี่ย อิอิอิ
......
ไปตรวจพื้นที่ก่อน เดี๋ยวกลับมาเล่าใหม่ นะ คะ :boo:


</TD></TR></TBODY></TABLE></B>
มานั่งรอกับน้องปราญฯ ^^
ไม่ใช่ไม่เคยไป... แค่ไปไม่ถึง...
................................................................

ได้ ๆ กำลังให้เพือน (มีดบิน) ส่งรูป มาให้จ๊ะ พอดีช่วงนี้
ได้มีโอกาส ช่วยเหลืองาน บริษัทเพื่อนนิดหน่อย คือว่า
อยู่ บริษัท ของเพื่อนก็ได้งาน ให้ ออกแบบ สัญลักษณ์ ..... นครบางยาง......
หรือนครไทย ปัจจุบัน เพื่อจะทำเป็น อนุเสาวรีย์ตรงทางเข้านครไทย
.....
ปรากฏว่าทีมน้องๆสถาปนิก ยังออกแบบกันไม่ออก เลยต้องศึกษา ประเพณี นครไทย สุดท้ายเลยพากันมาหากรองฯ ......
เลยพลอยทำให้กรองฯ เพลิน ไปกับการศึกษาประวัติศาสตร์ ประเพณี นครไทย ไปเลยอัติโนมัติ....
.....
เห็นที อาจจะให้ พิซซ่า พิจารณา แบบ ซักหน่อย ว่า โอเคร ป่าว อ่ะ
^.^
.................................................................

<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead colSpan=2>วันนี้ 09:37 AM</TD></TR><TR title="โพส 3427624" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>ปราญชลี</TD><TD class=alt1>มาตั้งตารองฟังเรื่องเล่าของพี่กรองฯ

..............................................................................



</TD></TR></TBODY></TABLE></B></B>
รอช่วง ค่ำ ๆ ก่อนนะคะ น้องปราญ (น้องตั้ก) ตอนนี้งานเยอะ (แต่แอบอู้ อิอิอิ) :boo:

.........................................





</TD></TR></TBODY></TABLE></B>

 

โอม ... อิทธิ ฤทธิ พุทธะ นิมิตตัง ทิสวานะตัง .....
......
มีท่านไหนคุ้นกับ มนต์ นี้มั่ง ป่าวคะ ..
คือ... อยากรู้ว่าแปลว่า อะไร อ่ะ....
......
ไปอ่านเจอในหนังสือ ธรรมมะที่เกี่ยวกับ นครบางยาง..โบราณ....
ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ .....
.....
ไม่น่าเชื่อว่า อาณาจักร ขอมโบราณ จะ มา เกี่ยวข้องกับ นครบางยาง
ได้ เนอะ ...
.....
ถึงว่าสิ การแต่งกาย ของ ท่านพ่อขุนผาเมือง สมัยนั้น
ถึงได้มีการแต่งกาย คล้าย ๆ ขอมเหมือนกัน ค่ะ
....

 

คาถาเพ่งนิมิต
อิทธิ ฤทธิ พุทธานิมิตตัง ทิสวานะตังฯ
สวด ๕ จบ ตั้งสมาธิ ตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้เกิดนิมิตที่ดี เห็นในสิ่งที่ดีนำมาซึ่งโชคลาภแก่ตน

 

สมัยนั้นขอมเรืองอำนาจจ๊ะ ^^ เป็นการผ่องถ่ายทางวัฒนธรรม เหมือนสมัยนี้ที่เรารับกางเกงยีนส์ของอเมริกา รับหนังของเกาหลี รับกล้องถ่ายรูปของญี่ปุ่น ยังไงยังงั้นแหละจ้าา

เรียกรวมๆ ว่าวัฒนธรรมของชาวอุษาอาคเณย์ ก็คงจะได้กระมัง?

 

ขอบคุณค่ะน้องปราญฯ

พี่กรองฯ พึ่งได้รูปจากเพื่อนมา แต่ผิดวัตถุประสงค์ไปนิด อิอิอิอิ
คือ แทนที่จะเป็น ภาพนครบางยาง ก็ ขอแทรกเปลี่ยนเป็น ภาพ "วังจันทร์"
เมืองสองแคว แทน รับชมคั่นเวลาก่อนนะคะ :VO
ขอขอบคุณคำแปลนะคะน้องปราญฯ เก่งมากๆเลยนะคะ
แปล คาถาได้ด้วย

วัดวิหารทองเป็นวัดใหญ่ ตั้งอยู่ติดกับสำนักงานที่ดินจังหวัดพิษณุ<WBR></WBR>โลก ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำน่าน เยื้องกับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเล็กน้อย ปัจจุบันเป็นวัดร้างเหลือแต่เนินฐานเจดีย์<WBR></WBR>ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก และเสาศิลาแลงขนาดใหญ่ประมาณ 7 ต้น เดิมเป็นที่ประดิษฐานพระอัฏฐารส
...............................
และอีกภาพที่มีลักษณะคล้าย ๆ พีระมิด
วัดวิหารทอง (ไกล้ๆ กับภาพเมื่อกี๊)คือว่าอยู่ใกล้ๆกัน ทั้ง ๒ ภาพ ค่ะ
ทั้ง ๒ ภาพ อยู่รอบ ๆ วังจันทร์ แต่ในสมัย ๔๐๐ ปี ก่อน ถือว่าเป็นเขต "พระราชวังจันทร์"หมดเลย

 

แหะๆ ลุงกูเกิ้ลบอกมาอ่ะค่ะพี่กรองฯ
ปราญฯไม่มีพื้นฐานในเรื่องคาถาหรือมันตราเลยค่ะ
ประวัติศาสตร์ยิ่งแล้วใหญ่ สอบทีไรตกทุกที

 

แห่ะ แห่ะ พี่กรองฯก็ไม่เก่งเลย อ่ะค่ะ คาถา อาคม
ยิ่งวิชา ประวัติศาสตร์ พี่กรองฯยิ่ง ห่วยอย่าให้บอกเลย ค่ะ
๕๕๕๕๕๕๕๕
น้องปราญฯ พี่กรองฯก็อยากได้ ลูกแก้ว จังเลย
อ่ะ ค่ะ .... :boo:

 

ไม่ต้องเลย น้องปราญฯ อ่ะ พอเห็นรูป พี่กรองฯ
แล้วก็เกิดอาการ จุกอก นิ่งเงียบงัน อึ้ง (ใส่ไข่นิหน่อย อิอิ)
ป่านฉะนี้จะเป็น เช่นไร น้อ .....
.....
แล้วมาคุยกันใหม่น้า น้องปราญฯ
.....
(แค่เราปรึกษาว่าลูกแก้วในฝันเราไม่ใสเลย...)