การรู้จักจิตผิดๆ ทำให้การศึกษาพระพุทธศาสนาผิดตลอดแนว

เอานะผมขี้เกียจมาทะเลาะกับคุณ
นึกว่าจะมีอะไรใหม่....

 

เล่าปังurl=http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y9043740/Y9043740.html]PANTIP.COM : Y9043740[/QUOTE]


เล่าปัง
คำสอนหลางตามหาบัว สอนชัดว่า ผู้รู้ มีเสื่อม มีเจริญ เกิดดับ<<ตรงไหนที่บอกว่าผู้รู้มีเกิดดับ เห็นแต่คำว่าอาการ

และให้ดูที่ตรงนี้ การเห็นการเจริญ และ เสื่อมของผู้รู้ คือ การดูจิต<<ตรงไหนบอกว่าคือการดูจิตเห็นแต่บอกให้ตามดูอาการจิต



เล่าปัง
]
เน้นตัวใหญ่ แล้วไง มีตรงไหนบอกว่า ทำผิด หรือ ห้ามดูไหมหละ <<ก็ตรงด้านบนที่คุณบอกว่าหลวงตาบอกว่าผู้รู้มีเกิดดับ

ให้ตามรู้ถูกไหม เคารพคำสอนหรือเปล่าหละ หากเคารพคำสอน
ก็ หัดตามรู้ตามดูอาการบ้าง <<ถ้าตามรู้อาการของจิตก็ไม่ผิด แต่นี้บอกว่าหลวงตาบอกจิตเกิดดับ ทำไมไม่อ่านคำว่า อาการจิต จิตมีอาการ

ท่านชี้ว่า มันจะมีดับ มีแปรปรวน นั้น ก็ให้ดูตัวนี้ แล้วอย่าไปตกใจ<<ท่านชี้อาการเกิดดับหรือชี้จิตเกิดดับ

กับอาการแปรปรวนจนเลิกดู จนไม่กล้าดู ไม่กล้าตามรู้<<คงไม่มีใครไม่กล้าดูอาการจิตหรอก จะมีก็แต่กลัวเข้าใจผิดเห็นอาการจิตเป็นเห็นจิต

อ่านให้ดีๆนะ ว่าท่านสอนให้ กล้าตามรู้ตามดู ไม่ใช่ ห้ามไปดูมัน<<ก็คนละเรื่องไง ท่านให้ตามรู้ อาการจิต ตามดูอาการจิต ไม่ไช่จิตด้วนๆแบบที่คุณพยายามตีความชักนำ

 

เล่าปัง
คำสอนหลางตามหาบัว สอนชัดว่า ผู้รู้ มีเสื่อม มีเจริญ เกิดดับ<<ตรงไหนที่บอกว่าผู้รู้มีเกิดดับ เห็นแต่คำว่าอาการ

และให้ดูที่ตรงนี้ การเห็นการเจริญ และ เสื่อมของผู้รู้ คือ การดูจิต<<ตรงไหนบอกว่าคือการดูจิตเห็นแต่บอกให้ตามดูอาการจิต



เล่าปัง
]
เน้นตัวใหญ่ แล้วไง มีตรงไหนบอกว่า ทำผิด หรือ ห้ามดูไหมหละ <<ก็ตรงด้านบนที่คุณบอกว่าหลวงตาบอกว่าผู้รู้มีเกิดดับ

ให้ตามรู้ถูกไหม เคารพคำสอนหรือเปล่าหละ หากเคารพคำสอน
ก็ หัดตามรู้ตามดูอาการบ้าง <<ถ้าตามรู้อาการของจิตก็ไม่ผิด แต่นี้บอกว่าหลวงตาบอกจิตเกิดดับ ทำไมไม่อ่านคำว่า อาการจิต จิตมีอาการ

ท่านชี้ว่า มันจะมีดับ มีแปรปรวน นั้น ก็ให้ดูตัวนี้ แล้วอย่าไปตกใจ<<ท่านชี้อาการเกิดดับหรือชี้จิตเกิดดับ

กับอาการแปรปรวนจนเลิกดู จนไม่กล้าดู ไม่กล้าตามรู้<<คงไม่มีใครไม่กล้าดูอาการจิตหรอก จะมีก็แต่กลัวเข้าใจผิดเห็นอาการจิตเป็นเห็นจิต

อ่านให้ดีๆนะ ว่าท่านสอนให้ กล้าตามรู้ตามดู ไม่ใช่ ห้ามไปดูมัน<<ก็คนละเรื่องไง ท่านให้ตามรู้ อาการจิต ตามดูอาการจิต ไม่ไช่จิตด้วยๆแบบที่คุณพยายามตีความชักนำ[/QUOTE]


เอ้าพ่อคุณ ผมไม่ใช่พี่ใบไม้นอกกำมือนะ จะมาเล่นคำแล้วทำให้งง

คุณครับ ผู้รู้ คืออะไรครับ

จิต คือ ธาตุรู้ หรือเปล่าครับ

ตามดูผู้รู้ เจริญ หรือ เสื่อม

ตามดูผู้รู้ เผลอ หรือ ไม่เผลอ

ไอ้ผู้รู้ที่ตามดู คือ ตามดูธาตุรู้ หรือเปล่าครับ

ไตร่ตรองเองสิครับ อย่าถามอะไรแบบ ใช้ศัพท์แบบคงที่ตายตัว
แทนที่คำไม่เป็น เดี๋ยวส่งไปวิจัยผีร่วมกับพี่ใบ้ไม้เสียนี่

 

เชิญตามสบาย

 

รู้ ว่าคุณไม่ค่อยว่าง

วันนี้จะย้อนดู อดีตชาติไปสักกี่กัปหละ แล้ว จะเอาชาติไหนมา
แพลมให้สาวเขารู้ ว่าชายคนนั้น คนนี้ไม่ดีอย่างงั้นอย่างงี้

ไปดูให้มากๆ เอามาเล่าให้มากๆ สักวันสาวคงเห็นจริงแล้ว
คงหันมาเห็นงามที่คุณแหละเนาะ

นี่ เห็นว่าไปเรียนกับหลวงตา ก็เพื่อให้ กำลังฌาณมันสูงขึ้น

สำเร็จไหม ดูเกินกัปเดิมๆ ได้ยัง ค่อยๆดู ค่อยๆฝึกนะ

สักวันสาวคงเชื่อคุณแหละเนาะ

ว่าแต่ว่า มีสาวกี่คนหละนั่น ที่คอยตามย้อนตามดู ตามบอกหนะ

 

รู้สึกดีใหม รู้สึกว่าตนเองน่าชื่นชมใหม ที่ย้ำแผลคนอื่นได้บ่อยๆ เชิญตามสบายท่านสุภาพบุรุษ . . .

 

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><THEAD><TR><TD background=images/gradients/bg_p.gif>สมาชิกที่กล่าว " ไม่เห็นด้วย " กับข้อความของ คุณ เล่าปัง ที่เขียนไว้ทางด้านบน </TD></TR></THEAD><TBODY id=collapseobj_post_groan_3123755><TR><TD class=alt1><TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1>damrong (วันนี้)

</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ทีหลัง ก็อย่าออกอาการด้วยสินะ พูดมาก็รู้เรื่องแล้ว

 

ไม่เพ่งโทษ ไม่ถือสา
หลบภัย

ไม่ได้ว่าอะไรท่านหรอกทำไปเถอะ ไม่เอาคานเข้าไปสอดหรอกจ๊ะ

 

ไม่เพ่งโทษ ไม่ถือสา ผมก็ดี

ไหนพูดสิว่า ผมน่ารัก (k)

 

ผมเห็นคุณน่ารักอยู่แล้ว แต่ตรงไหนคงไม่จำเป็นต้องคุยหรอกครับ(k)
แล้วคุณเห็นความน่ารักของคนอื่นบ้างไหมละ (พอแค่นี้เพราะชักขนลุก)

 

กรรมใครกรรมมันอย่าตำหนิกรรมของผู้อื่นมันจะเป็นบาปครับ มาที่เรื่องจิตดีกว่า ผมว่านะไม่เห็นมีใครพอจะบอกได้เลยว่า จิต มีแล้วอยู่กับตัวเองแล้ว และเพราะอะไรจึงรู้ว่าจิตมีราคะ หรือ มีกิเลส กิเลสมันมาจากไหน ดังนี้แล้ว ควรไหมจะยึดจะถือเอาว่า นั่นเป็นเรา แต่ถ้าสรุปว่ามันของเราแล้วก็คงบอกว่าใช่เพราะว่ามันเป็นของเรา ตามที่เขาบอกก็ไม่ผิดเพราะเขาทั้งหลายไม่ใช่พระอรหันต์สักหน่อย จริงไหมครับ แต่การจะพิจารณาเห็นดังนั้นก็ตัวใครตัวมัน ผมก็สงสัยว่าแม้จะเป็นเสขะบุคคลก็ยังคงเห็นว่าจิตเป็นของเรา เราถือครองอยู่อย่างนั้นหรือ อันนี้แหละมันน่าแปลกใจ

 

ควรไหมจะยึดจะถือเอาว่า นั่นเป็นเรา ถามกลับว่าถ้าเราไม่ยึดจิตว่าเป็นเราตั้งแต่ต้นเลย เวลามีทุกข์ เราจะเอาใครมาเป็นผู้ทุกข์ได้บ้าง

แต่ถ้าสรุปว่ามันของเราแล้วก็คงบอกว่าใช่เพราะว่ามันเป็นของเรา ตามที่เขาบอกก็ไม่ผิด คำว่าของเรากับคำว่าเป็นเรา ต่างกันนะครับ กายก็เป็นของเราพระพุทธเจ้าก็ตรัสบ่อยๆ กายของเรา แต่กลับบอกว่าไม่ไช่เรา
จิตของเรา ของตน แล้วจะเป็นเราหรือไม่หละ
-------------------

 

แหะ แหะ

จะให้อุเบกขา เผิกเฉย ไม่กล่าวเลย ไม่ทักเลย นั่นมัน อุเบกขาแบบผิดๆ

ถ้าจะอุเบกขา เห็นกรรมเขาทำ แล้วก็ปล่อยให้เขาเป็นไปตามกรรม เราต้อง
ทักท้วงเขาก่อน ให้เขาทราบความเร้าร้อนที่ปรากฏก่อน ให้เขาเห็นรสของ
ความยึดถือที่ผิดก่อน หากเขาเห็น แล้วย้อนดูที่ตน เขาย่อมทราบทุคตินั้น

เมื่อเขาทราบทุคตินั้น เขาจะไม่เกิดสติ หันมาด่าเรา โทษเรา ว่าเรากล่าว
ขึ้นเพราะไม่หวังดี นั่นก็เรื่องของเขา เราก็คงวางลงเมื่อได้เตือนแล้ว ทักแล้ว

แต่ถ้าเขาทราบถึงความเร้าร้อน ทราบชัดว่าเร้าร้อน แต่เอาแต่คิดว่า จะเก็บงำ
ไว้ได้ ซ่อนไว้ได้ ไม่มีผีสางเทวดาเห็น นั่นเขาจะไปที่ใด เขาจะมีโทษแค่
ไหน คุณจะไม่เตือนเขาหน่อยหรือ

ทำไมต้องเตือนตรงหน้า ไม่เตือนลับหลัง เพราะ คนเตือนลับหลังแล้ว
เขายังคิดว่า "เก็บงำไว้ได้" ยังออกอาการอยู่เลย ยังซ่อนเร้นอยู่เลย

มันก็ต้องเตือนข้างหน้ากันบ้างหละ

คิดดูสิ หากเขาเห็นด้วยว่า กิจเช่นนั้นไม่ควรเลย คราวนี้เป็นอย่างไร เขา
ก็จะปฏิบัติธรรมเพื่อธรรมได้ จริงไหม

แต่ถ้าเขาไม่เห็น จะถือโทษเรา ก็ว่ากันไป เพราะมันก็เท่าเดิมเท่าที่เป็นอยู่
แล้ว

 

สนทนากับคนพาลก็อย่างนี้
มันหาเรื่อง มาพาลได้ไม่หยุด

 

คุณว่าใครเป็นผู้ทุกข์ละครับ จิตเป็นผู้ทุกข์หรือกายเป็นผู้ทุกข์ อันนี้ตอบได้ไหม คำว่า เรา ในความหมายที่แท้จริงนั้นที่พระศาสดาตรัสไม่ใช่ให้หมายมั่นว่ามันเป็นของๆเราโดยเอาความยึดมั่นเป็นที่ตั้งครับ เป็นสติเครื่องระลึกว่า ขณะนี้กายเรามี จิตเรามี ไม่ได้หมายความว่า ทั้งกายและจิตนั้นถือมั่นเอาว่าเป็นของเรา เพราะเหตุผลเดียวคือกายก็ไม่เที่ยง จิตเองก็เช่นเดียวกัน ในขณะหนึ่งๆ หรือคุณปฏิบัติแล้วเห็นเป็นอย่างข้อความสีฟ้านั่นก็ไม่แปลกอะไรเพราะว่า คำกล่าว ของพระศาสดา คุณยังเอามาขัดกันเองได้ เอาง่ายๆนะครับ กายคืออะไร เมื่อรู้ว่ามันคืออะไรแล้ว คุณยังเห็นว่าเป็นเราอีกก็แล้วแต่คุณละครับ

 

ยังยึดตัวตนอยู่เลย ยังติดสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดี และผลักไสสิ่งที่ไม่ดีอยู่


ธรรมแท้นั้น ตัวตนไม่มีในที่ใดใด ไม่มีสิ่งใดดีหรือไม่ดีไปกว่ากันสำหรับเราเลย

 

ทำไมพวกคุณไม่มาแก้ที่ธรรม
คุณเห็นต่างจากผมโพสต์ ยังไง ก็ว่ามา

ไม่ใช่เล่นแต่ จะจ้องตำหนิผมตลอด ว่าผมอย่างนั้นอย่างนี้
ผมเป็นยังไงคุณรู้ไม่ได้หรอก
คุณก็ได้แค่คิดว่าเห็นจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตามความรู้สึกของคุณ
แต่ความจริงของตัวผมคุณรู้ไม่ได้เลย
ขนาดเสียงของผมคุณยังไม่เคยได้ยินเลย

เอานะ...เอาธรรมะ มาว่า
ค้านตรงไหนก็ว่ามา
แต่วันนี้ผมไม่มีเวลาแล้ว
ทำงานทั้งวันเพลีิย
ขออนุญาตเลียนแบบ อ.ขันธ์ หน่อย

ขอตัว....
(เอ้าคุณเก่ง ดูไว้นะ ต้องทำแบบนี้)

 

คุณก็ทำใจสิครับ อดทนสิครับ เลียนแบบในสิ่งดีๆไม่มีใครเขาว่าหรอกครับ แต่ถ้าเลียนแบบในสิ่งที่ไม่ดีนี่ มันก็สมควรโดยตำหนิครับ ผมเองก็เน้นธรรมไม่มานั่งไร้สาระหลงไหลในสิ่งที่ไม่ใช่ไม่เป็นหรอกครับ นอกจากจะทำให้ตนเองเสียเวลาแล้วยังทำให้ผู้อื่นหลงทางเสียเวลาไปใหญ่ คุณก็หัดพิจารณาเอาเองเถอะครับ เรื่องของเรื่องคือหากปฏิบัติด้วยดีไม่หลงตัวหลงตนคงไม่มีหรอกความเห็นที่แตกต่าง จิตตัวเดียว ยังเห็นเป็นอื่นและออกไปเรื่องอื่นได้ ต้องหัดพิจารณาให้มากๆแล้วละครับ เพราะเวลาที่คนเราหลงทางเหมือนคนตาบอดนั้นการบอกว่าทางไหนมันไปได้ทางไหนมันไม่ใช่นั้นยากเสียยิ่งกว่าอะไร เพราะนอกจากตาบอดแล้วยังดื้อด้านอีก ตรงนี้ผมเข้าใจดีครับ
ควรทำใจครับ

 

เฮ้อออออออออออ

 

อย่าไปสนใจ คนที่ มาจับผิด
คนที่ มันพูด ด่าคนอื่น จับผิดคนอื่น เรื่อยเปื่อย
ก็เพราะว่า เขาไม่มีดี จะอวด
ต้อง แผ่เมตตา ไปมากๆ

ของทุกอย่าง จำเอาไว้ ถ้าเราไม่รับ ทุกอย่างกลับคืน คนก่อ ทั้งสิ้น

จริงๆ แล้ว ถ้ามองเห็น จิตของคนเหล่านี้ คุณจะสงสารเขาเอง