"เทพ" และ "ผี" ที่วัดบวรนิเวศฯ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย พชร (พสภัธ), 13 มีนาคม 2010.

แท็ก: แก้ไข
  1. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    <TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผีภายในวัดบวรนิเวศฯ ที่มาปรากฏกายให้พระสงฆ์เห็นกันอยู่บ่อย ๆ ในอดีตนั้นเล่ากันมาว่ามีหลอกกันหลายรูปแบบ แต่ส่วนใหญ่มักมาปรากฏร่างให้เห็นแล้วก็แวบหายไป หรือบางทีไม่ได้ตั้งใจจะให้เห็นแต่พระ เณรและเด็กวัดไปเห็นเองโดยบังเอิญก็มี ทำไมที่วัดนี้จึงเป็นต้นตำรับผีที่ร่ำลือกันว่ามีเยอะนัก และที่เห็นกันส่วนมาก ก็มาในรูปของหญิงสาวในชุดไทย และเด็กผมจุกแต่งตัวโบราณ


    เหตุที่เป็นเช่นนี้คงเพราะที่แห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ของเจ้านายผู้มีเชื้อสายและขุนนางผู้ใหญ่มาแต่โบราณ เป็นวัดใหญ่ที่สร้างมานานจึงมีเสนาสนะมีพระอุโบสถ วิหาร เจดีย์ หมู่กุฏิพระ พระตำหนักต่าง ๆ และเรือนไทยอันสวยงามมากมาย ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมยุคเก่า สภาพภายในวัดร่มครึ้มไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย มองดูร่มเย็น และสงบเงียบด้วยเหตุนี้ จึงอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีวิญญาณมาอาศัยเยอะ เพราะสถานที่สวยงามและน่าอยู่ ดังนั้น เรื่องเล่าเกี่ยวกับ "ผี ๆ สาง ๆ" จึงมีตามมาต่าง ๆ นานา


    มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ เป็นเรื่องของ "ผีสาวโบราณ" ซึ่งท่านเจ้าคุณอมรโมลี (จุนท์ พรหมคตโต) เล่าให้คนใกล้ชิดฟังว่า ในสมัยก่อนยังมี "คณะแดง" ซึ่งเป็นหมู่กุฏิพระเก่าแก่ซึ่งเล่ากันหนาหูว่า "ผีดุ" นัก มีพระเก่า ๆ หลายรูปรวมถึงเด็กวัดที่อาศัยอยู่ในคณะแดง เคยเล่าให้ท่านเจ้าคุณอมรโมลีฟังว่า เคยเห็นผีสาว 3 ตน ที่กุฏิหลังหนึ่งในคณะแดง เป็นกุฏิหลังที่อยู่ติดกับคูน้ำในวัด ผีสาว 3 ตน ที่พระและเด็กวัดเห็นนั้นเล่าตรงกันว่า แต่งตัวแบบโบราณคือนุ่งผ้าซิ่น ห่มผ้าสไบเฉียง แต่งตัวคล้ายกัน
    เวลามาปรากฏตัวค่อนข้างจะพิสดารคือ ทั้ง 3 ตน จะชอบไต่อยู่บนเพดานกุฏิ เวลาลงมาบนพื้นเธอทั้ง 3 จะค่อย ๆ ไต่จากเพดานลงมา และยังชอบมานั่งเล่นแถว ๆ ระเบียงกุฏิโดยไม่สนใจว่าจะมีคนมาเห็นหรือไม่ และดูเหมือนจะเป็นกิจวัตรที่พวกเธอชอบทำอยู่เป็นประจำหรือบางทีราว ๆ โพล้เพล้ใกล้ค่ำ ผีสาวทั้ง 3 ก็ชอบที่จะไปนั่งที่กุฏิใกล้ต้นประดู่ของคณะแดง แถมบางวันอาจมีเด็กผมจุกปักปิ่นน่ารักในชุดไทยมานั่งเล่นอยู่ด้วย ภาพจากมิติวิญญาณเช่นนี้ทั้งพระ เณร และเด็กวัดบวรฯ ในอดีตเห็นกันจนชินตา จึงเล่าสู่กันฟังรุ่นแล้วรุ่นเล่า จนเป็นเรื่องปกติธรรมดาของชาววัดบวรฯ


    มาในภายหลังคณะแดงได้ถูกรื้อลงโดยคำสั่งของเจ้าพระคุณสมเด็จเจ้าอาวาสในยุคนั้นเพื่อสร้างอาคารใหญ่ ภปร. แทนที่ แต่ก่อนที่จะรื้อ ทางวัดก็ได้ทำพิธีบวงสรวง อัญเชิญวิญญาณเจ้าที่เจ้าทางที่กุฏิคณะแดง และที่ต้นประดู่ไปอยู่ที่อื่นก่อน เพื่อความสงบเรียบร้อยระหว่างก่อสร้าง จนเมื่ออาคาร ภปร.แล้วเสร็จก็ดูเหมือนเรื่องวิญญาณผีสาวโบราณ 3 ตน และเด็กผมจุกก็จะเงียบ ๆ ลงไป คาดว่าคงจะไปหาที่อยู่ใหม่ได้แล้วหรือไม่ป่านนี้พวกเธอคงจะไปเกิดใหม่ที่ไหนซักแห่งแล้วก็ได้


    เรื่องต่อมานั้นเกิดขึ้นกับพระภิกษุชาวต่างชาติที่เข้ามาบวชและปฏิบัติธรรมภายในวัดบวรฯ ในราวปี พ.ศ. 2517 - 2518
    พระภิกษุรายนี้ชื่อ ยอร์ช เป็นชาวอังกฤษ ท่านชื่นชอบการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน และเคยออกธุดงค์ฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกับพระอาจารย์สายกรรมฐานทางภาคอีสานมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี และหากกลับจากธุดงค์ท่านจะมาพักที่วัดบวรฯอยู่เป็นประจำ โดยทางวัดจะจัดกุฏิที่ "คณะสูง" ซึ่งเป็นกุฏิ 2 ชั้น เอาไว้สำหรับพระชาวต่างชาติที่มาขอบวชพัก
    และที่คณะสูงนี้เองเล่ากันว่า พระภิกษุยอร์ชท่านเจอดีอยู่เป็นประจำ นั่นคือวันดีคืนดีก็จะได้ยินเสียงหวีดร้องเป็นเสียงสูงตรงหน้ากุฏิอยู่บ่อยครั้ง แต่ความที่ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติมานาน จึงเห็นเรื่องผี และวิญญาณเป็นของธรรมดา ท่านจึงไม่กลัว
    พอได้ยินก็จะเปิดประตูออกมาดู จึงได้เห็นเป็นเงาคนดำ ๆ อยู่บนเฉลียงตึก แล้วพอท่านเดินไปดูใกล้ ๆ ร่างนั้นก็กลับกลายเป็นโครงกระดูกทั้งร่าง พระภิกษุยอร์ชพอเห็นเช่นนั้นท่านกลับขำ จึงหัวเราะออกมาเบา ๆ ทำให้โครงกระดูกนั้นค่อยเลือนหายไป คล้ายกับมาปรากฏร่างให้ท่านปลง ซึ่งพระภิกษุยอร์ชก็ได้ขอให้มาปรากฏเช่นนี้ทุกคืน คืนหนึ่งก็มาให้นานสักหน่อย เพื่อท่านจะได้เพ่งพิจารณา ให้เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ตามแนวทางของพระสายวิปัสสนากรรมฐาน แล้วก็จะแบ่งส่วนบุญส่วนกุศลให้จะได้พ้นจากการเป็นเปรต แต่คงเพราะความที่ท่านหัวเราะเสียก่อน เปรตตนนั้นจึงไม่เคยมาปรากฏกาย แสดงร่างเป็นโครงกระดูกให้ท่านเห็นอีกเลย

    วัดบวรฯ ในยุคสมัยต่อมา เรื่องของผีโอปปาติกะ หรือวิญญาณทั้งหลายที่เคยปรากฏให้พระรุ่นเก่า ๆ เห็นก็คงเป็นเรื่องเล่าปากต่อปากต่อๆกันมา กลิ่นไอของความเขย่าขวัญในเรื่องราวที่ได้ยินได้ฟังจึงดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่ เพราะวิญญาณหรือ "ผี" ทั้งหลาย ที่มาปรากฏตัวให้เห็นนั้นไม่เคยให้โทษหรือทำร้ายใคร "ผี" ก็อยู่ในภูมิของ "ผี" ซึ่งอาจจะซ้อนอยู่ในภูมิเดียวกับมนุษย์ในบางสถานที่และบางเวลา
     
  2. ศรีทอง

    ศรีทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +316
    อนุโมทนา สาธุ สงสัยเหมือนกันว่าทำไมผีถึงชอบหลอกพระหลอกคน หรือว่าเห็นเป็นเรื่องสนุก มาแต่ละครั้งมีแหกอก ตัวอืดมีหนอนเต็มไปหมด แขน ขา หัวขาดบ้าง เลือดเต็มตัวบ้างเพราะถ้ามาแบบน่ากลัวไม่มีใครอุทิศผลบุญให้หลอกครับ แต่ถ้ามาดีๆเค้าก็เต็มใจอุทิศให้ บุญกุศลก็เกิดทั้งผู้ให้และผู้รับครับ
     
  3. ucon888

    ucon888 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2009
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +992
    ถ้าเราเห็นเขา แสดงว่าเขาต้องการให้เราอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้เขาครับ
    ก็ดำเนินการอุทิศไปให้เขาเดี๋ยวนั้นได้เลย เพราะเขาอยู่ในภพภูมิที่สามารถจะรับ
    และโมทนาบุญได้ อย่ากลัวครับ
     
  4. godman

    godman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,254
    เป็นปกติของผีเลย ชอบหลอกไปเรื่อยๆ เพื่อให้คนอุทิศผลบุญไปให้ (มาขอดีๆมิได้ฤา)
     
  5. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    น่าสงสารผีนะคะ
     
  6. Notello

    Notello Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +25
    เคยบวชที่วัดบวรฯ แต่ไม่เคยได้ยินเหมือนกัน เคยได้ยินแต่มีคนเมาแล้วตกน้ำในคูข้างโบสถ์ตาย ตอนเช้าออกบิณฯ ก็เลยเห็น...
     
  7. Guide_Raito

    Guide_Raito เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    892
    ค่าพลัง:
    +2,990
    เคยได้ยินมาบ้างเหมือนกันคับ

    _____________________________________________________________________________________________________________________________
    มีบุญมาฝากคับทางกลุ่มพระพุทธศาสนา ม. สงขลานครินทร์ ภูเก็ต ได้ จัดทำโครงการแจกสือ่ ธรรมะของสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำคับ เพราะ ที่นี่มีเด็กหลายคนสนใจมาฝึกมโนมยิทธิและหันมาทำความดีกัน เนื่องด้วย สื่อ ธรรมะ ของหลวงพ่อ ครับทางชมรมเลยจัดโครงการแจกสือ่ธรรมะเป็นสาธารณะประโยชน์ แก่ โรงเรียน ห้องสมุดต่างๆเพื่อ ชักจูง คนให้เป็นสัมมาทิฐิและเป็นกำลังพระศาสนา สืบต่อไปครับ
    ขอให้ชาวเวปพลังจิตทุกท่าน เจริญขึ้นทั้งทางโลก และทางธรรม เข้าถึงธรรมขององค์สมเด็จฯ ได้โดยง่ายครับ
    [​IMG] [​IMG]
    เข้าชมรายละเอียดได้ที่http://palungjit.org/forums/ขอเชิญร่วมบุญ-โครงการธรรมทานกับนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์-ภูเก็ต-[.109/FONT]218421.html<O:p></O:p>
     
  8. gitti

    gitti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,035
    เราว่าที่เค้ามาในรูปที่น่ากลัวๆ บางทีอาจขึ้นอยู่กับแรงบุญแรงกรรมที่บันดาลให้เป็นแบบนั้นก็ได้มั้งคะ หรือไม่ก็กลัวเค้าไม่รู้ว่าเป็นผีเลยสำแดงนิดนึง จะได้รู้นี่ "ผี" นะขอบุญหน่อยอะไรแบบนี้ แต่เราว่าเค้าน่าสงสารมากเลยนะ ไม่งั้นคงไม่มาให้เห็นหรอก
     
  9. Ayukawa

    Ayukawa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +573
    ผมคิดว่าผีกับคนต่างกันแค่ที่กายเท่านั้น ผีก็ยังมีทุกข์ สุข โลภ โกรธ หลง เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป เวลาเขาทุกข์ก็อยากหาที่ระบายหรือขอความช่วยเหลือเหมือนกันแต่คงหาใครมารับฟังยากซักหน่อยนะ
    คนธรรมดาอย่างเราๆก็หาคนพูดคุยปรับทุกข์ได้ง่ายหน่อย เวลาเจอผีก็แผ่เมตตาให้เขาหน่อยสงเคราะห์กันไป วันหนึ่งเราก็ต้องเป็นแบบนั้นเหมือนกัน อาจจะดีก่ว่าหรือแย่กว่าก็ขึ้นอยู่กับตัวเราละ ที่ว่าเห็นผีไต่ลงมาจากเพดานเขาคงไปจำมาจากในหนังผีญี่ปุ่นมั้ง อีกหน่อยก็คงมีท่าใหม่ๆมาให้ดูกันอีกละ เหอ ๆ ๆ เกิดมา ตั้งอยู่ ดับไป ไม่จีรัง เป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง พิจารฌาบ่อยๆ จนเกิดอารมณ์ปล่อยว่าง จะมากบ้าง น้อยบ้าง ได้ประโยชน์ครับ:z3
     
  10. Enlightened

    Enlightened สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +3
    ถ้ามาขอในฝันยังพอไหว มาให้เห็นจะจะ นี่คงช็อค
     
  11. ณวพล

    ณวพล สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    ผมเคยบวชอยู่คณะแดงรังษีมา 1 พรรษา กุฏิที่ว่าอาจจะย้ายมาปลูกเป็นเรือนไทย 3 หลังข้าง ตึกมหามงกุฎ ผมอยู่หลังกลาง อาทิตย์แรกที่บวชก็กลัวเหมือนกัน หลังๆมาเฉยๆ ลูกศิษย์มาเล่าให้ฟังว่า พระที่มาบวชใหม่รุ่นหนึ่งท่านชอบจำวัดโดยไม่ปิดประตูกุฏิในตอนกลางวันเป็นประจำ มีอยู่วันหนึ่งท่านก็จำวัดรูปเดียวปกติเหมือนกับทุกวัน แต่มีพระด้วยกันเห็นในกุฏิท่านมีพระจำวัดนอนเรียงเป็นตับ...เขาเล่าให้ฟังมา..ผมเองตอนบวชก็ก็เคยจำวัดคอยเวลาเรียนช่วงบ่าย..แต่ไม่บ่อยนะครับ
     
  12. พญาไท010

    พญาไท010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +281
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลจ้า
     
  13. tatty

    tatty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    8,976
    ค่าพลัง:
    +8,226
    ผมเคยอ่านเรื่องนี้เหมือนกัน แต่รู้สึกว่าฉบับที่ผมเคยอ่านเนื้อหาจะยาวกว่านี้
    รู้สึกว่าในกระทู้นี้โดนตัดทอนบางส่วนออก
    เดี๋ยวผมหาฉบับเต็มมาเทียบแล้วพิมพ์ส่วนที่ขาดหายไปมาให้นะครับ
    (จำได้ว่า มีการเจอผีหลวงพ่อโอภาสี หรือมหาชวนด้วยในต้นฉบับเต็ม)
     
  14. love2

    love2 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2006
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +60
    ถ้ามาสภาพที่เราคิดว่าไม่ใช่วิญญาณก็ไม่ค่อยน่ากัว มารู้ทีหลังก็ไม่ค่อยกลัว
    แต่มาแบบ หน้าเละ หนอนขึ้นเหม็นเน่า นี้คง ช๊อค
     
  15. Glow-Worm

    Glow-Worm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +1,957
    ง่ะ เดินผ่านวัดบวรบ่อยๆ ตอนดึก ไม่ยักรู้มีเรื่องแบบนี้ด้วย แต่เค้าคงไปเกิดกันหมดแล้วล่ะ อนุโมทนา สาธุ
     
  16. arrin123

    arrin123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,759
    อนุโมทนาค่ะ

    ที่กล่าวมานั้นเพราะเค้าใช้บุญสูงสุดได้แค่นั้นคือบุญเค้าน้อย เค้าอยากให้เราอุทิศให้พอเวลาเค้าปรากฏ เค้าปรากฏให้สวยที่สุดได้แค่นั้น เค้าน่าสงสารออก
    ถ้าไม่อยากเห็นเค้ามาแบบไม่สวยก็อุทิศบุญให้เยอะๆ คราวนี้พอเค้ามีบุญมากเค้าก็มาปรากฏตัวสวยๆแล้ว
    _____________________________________________

    สุขใดเหมือนแม้นการไม่เกิดไม่มี

    จะไม่ละความเพียรถ้ายังไม่ถึงซึ่งนิพพาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...