ถามเรื่องพญานาคค่ะใครรู้ช่วยตอบทีค่ะ

สวัสดีค่ะ ท่านพี่

ช่วงนี้ เป็น trip ของพญานาคลุ่มน้ำโขง ยังไม่ถึงวาระของพญานาคเมืองวาโย อิอิ
ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

Numsai

 

รอฟังค่ะ;k03

 

ว้าว ๆ ...พี่ๆรุ่นใหญ่มา รุ่นน้องอย่างเราต้องรีบมาต่อคิวฟัง อิอิ ^_^

 

แล้วแบบนี้มีคนมาจากเมืองครุฑ ไหมครับ งง ครับบบบบบบบบบบบ

 

ลืมไปว่า มีแฟนมาจากเมืองบาดาล ต้องทำไงบ้างครับ ถึงจะรักกันยืดยาวอะครับ เพราะผมชักจะเข็ดกะสาวเมืองบาดาลแระครับ ปวดหัวมากมาย อิอิ

 

รอฟังด้วยคนค่ะ

 

---

เลื้อย รัด เหมือนงู เข้าไว้ 555 ทำบ่อยๆอย่าให้ต้องขาดความอบอุ่น(ทางใจ)

 

ผาแดงนางไอ่หรือป่าว

 

--- มี แม้นแต่พวกเราเองก็เคยเกิดเป็นครุฑ แต่ที่มาเน้นทางนาค เพราะชาติก่อนที่จะมาเกิด ได้เกิดเป็นนาค หลายครั้งที่อาจจะไปจีบสาวที่มีญาณพญาครุฑ ก็อาจจะถูกจับตี หรือโดนเธอหม่ำ อิอิ อันหมายถึง ถูกข่มเหง อยู่ร่ำไป

 

พูดง่ายๆคือ ถ้าคบไปเรื่อยๆก็จะเจ็บตัว

 

โห นี่กลายเป็นการปรึกษาปัญหาหัวใจพญาครุฑ พญานาค ซะแล้ว
ศิราณีอย่างพี่น้ำใสจะว่าไงดีครับนี่ นาค กับครุฑ จะสะดุดรักกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนะ
เป็นบรุพกรรม ก็ว่ากันไป ชาติก่อนเคยทำไว้ก็ต้องมาใช้เขาในชาตินี้ ถูกตีถูกชกก็ต้องว่ากันไป ผลเกิดย่อมมาจากเหตุ 55555555555

 

ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับท่านพระยาเดโชชัยมือศึก สงสัยท่านจะมีประสบการณ์มาก่อนเรื่องนี้ อิอิ ยังไงก็ขอบคุณมากๆๆครับ แต่สาวจากเมืองบาดาลส่วนใหญ่จะสวยนะครับ 555

 

สวัสดีรอบนครค่ะ

ไม่ได้เข้านครนี้่นานแล้ว

หลังว่าคงสบายดีกันนะคะ

คุณพระทั้ง 3 รักษานะคะ

 

...ในทิพยภพในส่วนของปาตาล(บาดาล) นั้น นางใดอุบัติเกิดขึ้นมาในดอกบัว(สัตตบงกรชแล้วไซร้ ) นางนั้นขึ้นชื่อว่าสูงทั้งศักดิ์และศรี พรั่งพร้อมไปด้วยบารมีแห่งเทวะ และหรือเดวะ คุ้มกาย ยากนักที่ใครมามะล้างและทำลาย
อันเนื่องมาจากนางนั้น ได้ตั้งจิตอธิษฐานของลงมาสร้างกุศลเพื่อต่อยอดบารมีเดิมขึ้นให้เพิ่มพูล..และหรือนางนั้นไซร้คือ อณูแห่งเทวะและเดวะ...

พี่อ่านเจอบทความนี้มา...
เป็นตามความหมายนี้...มั้ยเอ่ย

อนุโมทนาจ้ะ

 

มาแล้วค่ะ ตามคำเรียกร้อง.. เรื่องราวธิดาพญานาคแห่งเมืองวาโยนคร

เรื่องราวธิดาพญานาคแห่งเมืองวาโยนคร​

ย้อนไปสมัยหลังพุทธกาลประมาณสองร้อยกว่าปี(สันนิษฐานประมาณช่วงปีพ.ศ. ๒๗๗-๒๙๓) กล่าวถึงเมืองพญานาค ชื่อเมืองยศนคร(อ่านว่า ยะ-สะ-นะ-คอน) โดยมีพระยายศนาคราชเป็นผู้ครองนคร และมีพระนางมายารัศมีเป็นพระมเหสีฝ่ายขวา พระนางภิรมย์วดี เป็นพระมเหสีฝ่ายซ้าย พระนางทั้งสองเป็นพี่น้องกัน และรักกันมาก พระยายศนาคราชได้ครองเมืองแบบพ่อปกครองลูกตลอดมา

ต่อมาพระนางภิรมย์วดี ได้กำเนิดพระธิดาองค์น้อย หน้าตางดงาม และมีผิวพรรณวรรณะผ่องใส หน้าตางดงามพระยายศนาคราชได้ให้นามพระธิดาองค์โตว่า “เจ้าหญิงยศวดีรัศมี”

ในวันที่กำเนิดเจ้าหญิงองค์น้อย มีเหตุการณ์ประหลาด ๒ ประการคือ บรรดาแก้วมณีรัตนะแห่งเมืองยศนคร เกิดความสว่างไสวไปทั่วพระนคร สร้างความตื่นตาตื่นใจ ต่อมาเกิดสายอัสนีบาตผ่ากลางท้องพระโรงถึง ๓ ครั้ง ปุโรหิตของเมืองทำนายว่า

“พระธิดาพระองค์นี้ เป็นผู้มีบุญญาธิการลงมาเกิด เพื่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง สว่างไสวแก่พระนคร แต่ขณะเดียวกันนางมีวิบากกรรมต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รัก และนำความเดือดร้อนมาสู่ตระกูล

กระนั้นก็ยังพอมีทางแก้ไข โดยพระธิดาอายุครบ ๑๕ ปีจะต้องให้นางบำเพ็ญศีล และเข้าสมาบัติ เป็นเวลา ๓ ปี เพื่อแก้ไขเหตุร้ายให้กลายเป็นดี”

ถึงแม้ว่าจะมีคำทำนายดังกล่าวขึ้นมา แต่ทุกคนก็รักและเอ็นดูเจ้าหญิงน้อย ซึ่ง นอกจากมีพระสิริโฉมงดงามแล้ว ทรงเป็นผู้เฉลียวฉลาด และกล้าหาญ พระนางภิรมย์วดี ทรงเลี้ยงเจ้าหญิงด้วยความรัก และเป็นผู้ทรงสอนสรรพวิชาแก่พระธิดา

วิชาที่พระนางทรงเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ คือ การทรงอิทธิบาท ๔ ในการแปลงกาย โดยปกติพญานาค ถึงแม้จะแปลงกายเป็นอะไรก็ตาม จะเสื่อมคลายไปเมื่อเวลาหลับ เวลาคลอดบุตร เป็นต้น จะกลายร่างเป็นพญานาคตามเดิม แต่สำหรับผู้ได้วิชานี้ สามารถทรงกายได้ตามต้องการ

นอกจากนี้พระนางทรงเป็นผู้เชียวชาญการวิชาบังคับลม น้ำ และไฟให้เป็นไปตามต้องการ

ส่วนพระนางมายารัศมี ในเวลานั้น ถึงแม้พระนางไม่มีพระโอรส-ธิดา ก็หาได้มีความอิจฉาริษยาพระน้องนางแต่อย่างใด ตรงข้ามนางกลับช่วยเลี้ยงดูพระธิดาจนอายุได้ ๓ ชันษา พระนางจึงได้กำเนิดพระโอรส-พระธิดาฝาแฝด ชื่อ เจ้าชาย กษมา และเจ้าหญิงมนตราเทวี

ต่อมาเมื่อเจ้าหญิงยศวดีรัศมี ครบกำหนดอายุ ๑๕ ปี พระราชาจึงได้ส่ง<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com</st1ersonName>ไปบำเพ็ญศีล กับพระฤาษี อันเป็นครูบาอาจารย์ที่ชาวนาคพิภพเคารพศรัทธามาก เป็นเวลา ๓ ปี และนางได้เรียนสรรพวิชากับพระฤาษีอีกหลายวิชา

เมื่อครบกำหนดแล้ว พระราชธิดาได้ข่าวอันเป็นมงคลว่า จะมีการฉลองพระเจดีย์แห่งเมืองวาโยนคร ซึ่งอยู่ไกลจากภพบาดาล ประมาณ ๒ โยชน์ ( ๓๒ กิโลเมตร) ข่าวนี้เป็นที่ปลื้มปิติแก่นางมาก และได้ขออนุญาตพระราชบิดา และพระมารดา เพื่อไปร่วมงานดังกล่าว เพื่อไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานในเมืองบาดาล

วาโยนคร เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ โดยมีท้าวแสนชัย เป็นเจ้าเมืองปกครองเมืองนี้ และนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ดินแดนแห่งนี้

หากไม่มีกิจสำคัญที่ภพบาดาล เจ้าหญิงยศวดีรัศมีมักจะขึ้นมาเที่ยวที่เมืองวาโย พร้อมนางกำนัล ๒-๓ นางเสมอ ๆ อยู่มาวันหนึ่งนางได้พบรักกับเจ้าชายแห่งเมืองวาโยนคร นางได้สั่งให้นาคกัลยาที่ติดตามมาด้วยกลับเมืองบาดาล ส่วนนางได้ครองรักอยู่กับเจ้าชายแห่งวาโยนครนั้นด้วยความสุขตลอดมาโดยไม่เคยส่งข่าวไปให้บิดาพระมารดาทราบข่าวเลย

จนกระทั่งวันหนึ่งเจ้าหญิงยศวดีรัศมี หรือนาม“รัศมี” ในนามหญิงชาวบ้านได้ตั้งครรภ์และคลอดบุตรออกมาเป็นไข่ ข่าวนี้ได้แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว โหรหลวงทำนายว่า “ พระนางรัศมี และไข่ฟองนี้ เป็นกาลกินีต่อบ้านเมือง ให้นำไข่ลอยน้ำไป และเนรเทศพระนางรัศมีออกจากพระนครใน ๗ วัน”

แม้เจ้าชายจะทรงรักในพระชายามากเพียงใด ก็ไม่อาจจะทัดทานได้ จึงได้ปล่อยให้ชะตากำหนดให้เป็นเช่นนั้น ส่วนเจ้าหญิงยศวดีรัศมีได้แต่เศร้าโศกเสียใจในชะตากรรมของตนเอง นางได้เดินเร่ร่อนไปในป่าลึก จนพบกับหญิงชาวบ้านคนหนึ่งได้ให้ที่พักอาศัย โดยไม่ได้ไต่ถามความเป็นมาอย่างใด หลังจากเจ้าหญิงยศวดี ฯ ได้ออกจากพระนครไปแล้ว ด้วยความเสน่หาในพระสวามี นางได้แอบมาสืบข่าวเป็นประจำ

วันหนึ่งนางได้ทราบว่า พระสวามีกำลังจะแต่งงานใหม่ ทั้ง ๆ ที่เคยสัญญากันไว้ว่า จะรักพระนาง<st1ersonName w:st="on" ProductID="แต่เพียงผู้เดียว ความรักที่เคยมีมา">แต่เพียงผู้เดียว ความรักที่เคยมีมา</st1ersonName> พลันหมดสิ้นไป และนางได้ตั้งปฏิญาณไว้ว่า

“ภพชาติต่อไปจะขอประพฤติพรหมจรรย์จะไม่รักใครอีกเลย”

กล่าวถึงทางนาคพิภพ หลังจากไข่ที่เกิดจากเจ้าชายเมืองวาโย และเจ้าหญิงยศวดีรัศมี ได้จมลงไปในน้ำ และมีชาวนาคได้พบไข่นั้น นำไปถวายต่อพระยายศนาคราช และพระมเหสิทั้งสอง จึงได้ทราบว่า เป็นสายโลหิตแห่งพระองค์เอง ทำให้พระนางภิรมย์วดี เกิดความเคียดแค้นต่อชาวเมืองวาโย พระนางและบริวาร ได้ติดตามหาเจ้าหญิงยศวดีรัศมี คายพิษไว้ตามแหล่งน้ำ ทำให้ชาวเมืองวาโยเดือนร้อน

ฝ่ายเจ้าหญิงยศวดีรัศมี ทราบข่าวว่า พระมารดาออกตามหาตน จึงได้ไปที่หน้าผา เบื้องล่างเป็นน้ำวน และได้บอกความจริงแก่เพื่อนหญิงของนาง<st1ersonName w:st="on" ProductID="ว่า ความจริว">ว่า ความจริว</st1ersonName> นางเป็นธิดาพญานาคแปลงตัวเมาเที่ยวเมืองมนุษย์ และได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพื่อนนางฟัง จากนั้น นางได้กระโดดน้ำบริเวณหน้า และคลายฤทธิ์กลายเป็นพญานาคสู่ภพเมืองบาดาล

เมื่อไปถึงเมืองบาดาล พบว่าพระนางภิรมย์วดีได้รออยู่ที่เมืองก่อนแล้ว ทุกพระองค์ได้ร่ำไห้ และนึกถึงคำของปุโรหิตได้เคยทำนายไว้ และได้ให้อภัยต่อเจ้าหญิงยศวดีรัศมี

แต่ด้วยความรักของแม่ พระนางภิรมย์วดีไม่อาจจะนิ่งนอนใจ จึงได้ขออนุญาตจากพระยายศนาคราช นำทัพพญานาคไปทำลายวาโยนครด้วยวิบากกรรม และความเสื่อมถอยแห่งศีลธรรมของผู้คนในเมืองวาโย ผู้รอดชีวิตจะเป็นผู้มีศีลธรรม

ภายหลังเมืองวาโยล่มลง เจ้าหญิงยศวดี ฯ เป็นผู้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากเมืองวาโย บรรจุในเจดีย์ใต้พิภพบาดาลนั้นเอง

สำหรับไข่ที่เกิดจากเจ้าหญิงยศวดี ฯ ภายหลังออกมาเป็นพระโอรส ที่เก่งกล้าสามารถ พระนามวา "พระยาศรีอนันตนาคราช" ในเบื้องปลายของชีวิตเจ้าหญิงยศวดีรัศมีได้ออกถือศีล บำเพ็ญพรต และได้รับมอบหมายจากพระยายศนาคราช เข้าฟังธรรมที่ชั้นดาวดึงส์ และมาให้ข้อธรรมแก่เหล่านาคทั้งหลาย จวบจนสิ้นอายุขัย

ปัจจุบัน พระธาตุวาโย ตั้งอยู่วัดห้วยน้ำทรัพย์ อยู่เขตพนมสารคาม อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา

เรื่องธิดาพญานาค แห่งเมืองวาโย ขอจบเพียงเท่านี้ค่ะ ..

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

ขออนุโมทนาในธรรมทานของพี่ร่มบุญด้วยค่ะ อ่านแล้วปลื้มจัง...สาธุค่ะ

Numsai

 

อ่านแล้วค่ะรู้สึกว่ามีเรื่องราวเยอะแยะมากมายเลยนะค่ะ คงยังมีอีกมากมาย หวังว่าจะได้อ่านอีกหลายๆเรื่องราวนะค่ะ ขอบคุณค่ะ