" ปัญญา & ความรู้แจ้ง " สาส์นแด่มนุษยชาติในยุคปัจจุบัน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย where?, 5 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ดวงตาเห็นธรรม ****

    ท่านรู้ได้อย่างไร...ว่าเขาคือพระสงฆ์ ว่าเขาคือสมณะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สัจจะทำเพื่อชาติไทย ****

    ถ้าผู้นำคนไทยแต่ละฝ่าย เข้าใจกัน เห็นอกเห็นใจกัน
    กลับใจใหม่ ที่แล้วก็แล้วกันไป เลิกคิดร้ายต่อกัน
    ให้สัจจะต่อกันว่า...ไม่ทำลายคนไทยด้วยกัน ตลอดชีวิต
    ....จะพัฒนาชาติไทยร่วมกัน ตลอดชีวิต
    เหตุการณ์ทั้งหมดก็จะดีขึ้น บ้านเมืองก็ไม่พินาศ ทหารก็พร้อมรบ
    ความสามัคคี ความมั่นคง จะกลับคืนมา
    จะไม่มีชาติไหน กล้ายุ่งกับชาติที่ประชาชนรักษาสัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    วันศุกร์ที่ ๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๓
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** เหตุที่ชาติไทยอ่อนแอ ****

    เพราะ คนไทยรับศีล แล้วขาดสัจจะ
    คือ พูดแล้วทำไม่ได้จริง
    เมื่อเกิดขึ้นบ่อยๆ จึงกลายเป็นนิสัย
    เด็กเกิดมาเห็นผู้ใหญ่เป็นตัวอย่าง พูดแล้วไม่ทำ ผิดสัญญากับเด็ก
    นิสัยนี้ลามไปทั่ว กลายเป็นลักษณะนิสัยคนไทยส่วนใหญ่ในปัจจุบัน
    การกระทำ ปาก ใจ ไม่ตรงกัน หาคนรักษาคำพูดได้ยาก
    เมื่อบ้านเมืองขาดสัจจะ ความโกงก็เกิดขึ้นไปทั่วบ้านเมือง
    ขนาดรับศีลต่อหน้าพระ แล้วทำไม่ได้ก็ยังเฉยๆ ไม่วิตกเดือดร้อนอะไร
    คราวนี้จึงลามไปถึง กลุ่มผู้กล่าวสัตย์ปฏิญาณตน
    เขาจะจำ สิ่งที่ได้กล่าวว่าจะทำตลอดชีวิต ได้ไหม
    ที่เดือดร้อนทุกวันนี้ เป็นเพราะขาดสัจจะตัวเดียว

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    วันศุกร์ที่ ๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๓<!-- google_ad_section_end -->
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    คือ เรื่องจริง...ที่ไม่ยอมรับกันเอง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  5. where?

    where? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +883
    เป็นเพราะว่าท่านหนุมานเป็นบุคคลหนึ่งที่รู้ธรรมะอย่างลึกซึ้ง
    หรือเข้าใจในระดับโลกุตตะธรรม
    จึงทำให้ข้าพเจ้าเห็นท่านเป็นพระสงฆ์นั่นเองค่ะ

    สัจจะที่ท่านหนุมานกล่าวถึง เห็นด้วยทุกประการค่ะ
    ในแง่ของจิตวิญญาณนั้น ก่อนที่จะลงมาถือกำเนิดในโลกมนุษย์นี้
    ต่างก็อธิษฐานจิต, ตั้งสัจจะ หรือสัญญากันไว้
    ว่าจะลงมาทำหน้าที่อะไร?
    แต่เมื่อมาถือกำเนิดเป็นมนุษย์แล้วกลับหลงลืมกันไปว่าสัญญากันไว้อย่างไร?
    ท่านผู้อ่านทราบกันหรือยังว่า เรามาถือกำเนิดกันบนโลกนี้กันทำไม?
     
  6. where?

    where? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +883
    การฝึกสมาธิ

    คำถามนักเรียน
    เรียนท่านอาจารย์ใหญ่ เริ่มแรกสำนักพลังจักรวาลมีชื่อเรียกว่า “ Spiritual Human Yoga ” และเดี๋ยวนี้ยังมีศูนย์มากมายทั่วโลกใช้ชื่อนี้อยู่ และภายใต้ชื่อใหม่ “ Mankind Enlightenment Love ” พวกเราไม่เห็นคำว่า “ Yoga ” อีกเลย และในการเรียนวิชาพลังจักรวาลระดับที่สูงขึ้น เราก็ไม่ได้กล่าวถึงการฝึกสมาธิ ( Yoga Meditation ) ดังนั้นจึงของเรียนถามท่านอาจารย์ว่า การฝึกสมาธิยังคงเป็นเป้าหมายที่พวกเราจะต้องศึกษาและฝึกปฏิบัติอีกต่อไปหรือไม่ นักศึกษาพลังจักรวาลสามารถเรียนวิธีการของโยคะที่แตกต่างออกไปจากสำนักอื่นด้วยวิธีการอื่นได้หรือไม่? และนักศึกษาจากสำนักโยคะอื่นสามารถเรียนวิชาพลังจักรวาลได้หรือไม่? วิธีการฝึกสมาธิในวิชาพลังจักรวาลแตกต่างสำนักอื่นๆ อย่างไร? ท่านอาจารย์ได้โปรดให้คำแนะนำแก่พวกเราด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2010
  7. where?

    where? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +883
    ท่านอาจารย์ใหญ่
    ขึ้นอยู่กับระดับการเรียนรู้ของมนุษยชาติ ปีแรกๆ ที่อาจารย์เริ่มต้นสอนวิชาพลังจักรวาล อาจารย์จำต้องใช้วิธีทางจิตวิญญาณบางอย่างที่คนทั่วไปรู้จักดีอยู่แล้ว เช่น โยคะ การฝึกสมาธิ ถ้อยคำบางคำอย่างเช่น แนวคิดของ “ พลังของมนุษย์ ”“ พลังจักรวาล ” เพื่อเผยแพร่เทคนิคใหม่ๆ ของวิชาพลังจักรวาลเพื่อรักษาโรค ดังนั้นในระยะเริ่มต้นชื่อของสำนักเรียนนี้ จึงได้ใช้ชื่อว่า “ Spiritual Human Yoga ”
    <O:p</O:p
    เดี๋ยวนี้สถาบันพลังจักรวาลมีนักศึกษานับล้านคนกระจายอยู่มากกว่า 70 ประเทศ สถานการณ์ใหม่นี้เป็นที่น่าพึงพอใจเพราะสามารถตอบสนองความต้องการและวัตถุประสงค์ในการเผยแพร่วิชานี้ อาจารย์จึงได้เปลี่ยนชื่อของสำนักพลังจักรวาลเป็น “ มนุษยชาติ ความรู้แจ้ง ความรัก ” ( Mankind Enlightenment Love ) คำว่ามนุษยชาติ ( Mankind ) ในชื่อใหม่นี้ใช้แทนคำว่ามนุษย์ ( Human ) โดยยังคงมีความหมายเหมือนกัน แต่เป้าหมายการให้บริการของสถาบันพลังจักรวาล ยังคงมีเป้าหมายเพื่อมนุษย์หรือมนุษยชาติ คำว่า “ รู้แจ้ง ” ( Enligthtenment ) ใช้แทนคำว่า “ จิตวิญญาณ ” ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับขอบเขตที่มองไม่เห็น แต่คำว่า “ รู้แจ้ง ” มีความหมายชัดเจนและเข้าใจได้ดีกว่าคำว่า “ จิตวิญญาณ ” ระดับของจิตวิญญาณที่มีความรอบรู้ในด้านต่างๆ มากมาย “ รู้แจ้ง ” เป็นความรอบรู้สูงสุดของจิตวิญญาณซึ่งพระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสอนวิธีการที่มีความสำคัญ และยิ่งใหญ่ที่สุดให้แก่มนุษยชาติ คำว่า “ การทำสมาธิแบบโยคะ ” ( Yoga Meditation ) ในชื่อเดิมนั้นได้ถูกแทนที่ด้วยคำว่า “ ความรัก ” ( Love ) โดยมีความหมายพิเศษหลายประการได้แก่ ประสิทธิภาพ ใสสะอาด เปลี่ยนแปลงได้ ความรู้แจ้ง และความรักเป็น 2 มุมมองในทางจิตวิญญาณ และสิ่งที่ไม่ใช่ศาสนา มีวัตถุประสงค์เพื่อรับใช้มนุษยชาติ ซึ่งเป็นความหมายที่ซ่อนไว้เบื้องหลังของชื่อ “ Mankind Enlightenment Love ” ในวิชาพลังจักรวาล
    <O:p</O:p
    พลังจักรวาลสอนนักศึกษาเกี่ยวกับเรื่องพื้นฐานอยู่ 2 เรื่อง คือ “ ความรู้แจ้ง ” และ “ ความรัก ” เพื่อรับใช้มนุษยชาติ ส่วนประเด็นอื่นเป็นเรื่องรองลงไป นับตั้งแต่นักศึกษาเริ่มเรียนวิชาพลังจักรวาลในแต่ละระดับก็ได้เรียนสิ่งต่างๆ ที่ไม่เหมือนกัน มีวิธีฝึกปฏิบัติที่แตกต่างกันไปตามแต่ละระดับที่ศึกษาอยู่ในระดับพื้นฐาน นักศึกษาจะได้รับการเปิดจักระ 30% และ 60% ตามลำดับ ซึ่งจะต้องฝึกหายใจและฝึกสมาธิเป็นประจำทุกวันอย่างน้อยวันละหนึ่งครั้ง แต่ละครั้งเป็นเวลาอย่างน้อย 5 นาที เพื่อรับพลังจักรวาลและกระตุ้นจักระให้เปิดอยู่ต่อไป หลังจากเรียนระดับ 3 แล้ว ก็จะได้รับการจักระ 100% ซึ่งนักศึกษาจะฝึกหายใจและหรือฝึกสมาธิหรือไม่ก็ได้ จักระจะเปิดอยู่ตลอดไป เว้นเสียแต่นักศึกษาคนใดละทิ้งและไม่ต้องการจะฝึกพลังจักรวาลอีก จักระของเขาคนนั้นจะปิดลงโดยอัตโนมัติ
    <O:p</O:p
    หลังจากจบระดับ 3 และเปิดจักระ 100% แล้ว นักศึกษาสามารถฝึกหายใจและฝึกสมาธิเพื่อรับพลังจักรวาลเพื่อฟื้นฟูสุขภาพ รักษาตนเองและผู้อื่นเมื่อใดก็ได้ตามแต่พวกเขาจะสะดวก การฝึกสมาธิใช้เวลาตั้งแต่ 5 นาทีจนถึง 30 นาที เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกร้อนหรืออึดอัดให้หยุดทำสมาธิทันที ถ้าพยายามจะรับพลังจักรวาลมากเกินไป ฝึกสมาธินานเกินไปจะเป็นผลร้ายต่อสุขภาพ จะรู้สึกร้อน อึดอัด ไม่สบายตัว การแก้ปัญหานี้อาจทำได้โดยการฝึกหายใจหรือส่งพลังไปช่วยเหลือผู้อื่น จะทำให้ร่างกายกลับสู่สภาวะปกติ และจะรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวขึ้น
    <O:p</O:p
    การทำสมาธิไม่ได้เข้มงวดในเรื่องท่านั่ง เราเพียงแต่ทำตัวให้รู้สึกผ่อนคลาย และนั่งในท่าที่รู้สึกสบาย ไม่จำเป็นต้องนั่งในท่าดอกบัวเพราะเป็นท่านั่งที่ค่อนข้างยากมากๆ และมีความยุ่งยากสลับซับซ้อน ขณะที่นักศึกษาเรียนอยู่ระดับ 1 ระดับ 2 หรือระดับ 3 ทฤษฏี ซึ่งยังไม่ได้เปิดจักระ 100% ให้หลับตาฝึกสมาธิ แต่เมื่อเปิดจักระ 100% และเมื่อเรียนระดับ 4 ขึ้นไป ให้ลืมตาฝึกสมาธิแต่ใช้เวลาในการฝึกสมาธิแต่ละครั้งไม่นาน เพราะทุกครั้งที่ฝึกจะได้รับพลังมากเพียงพอ เมื่อนักศึกษาได้เรียนวิชาพลังจักรวาลในระดับสูงขึ้น วิธีการรับพลังและเวลาที่ใช้ในการฝึกสมาธิจะสั้นลง เช่นในระดับ 5.1 – 5.2 ใช้เวลาเพียง 30 วินาทีเท่านั้น หรืออาจใช้เวลาแค่ 5 วินาที 3 วินาที หรือแม้แต่ 1 วินาทีก็อาจเป็นได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับการเรียนรู้ของนักศึกษาที่เรียนสูงขึ้น สำหรับนักศึกษาที่เรียนรู้อยู่ในระดับต้นๆ ถ้าหากมีปัญหารกสมองก็เพียงแต่รับพลังจักรวาลเข้าไปก็เป็นการเพียงพอแล้วที่จะขจัดเรื่องรบกวนจิตใจเหล่านั้นออกไปได้ ส่วนนักศึกษาที่เรียนอยู่ในระดับสูงถ้าไม่มีสิ่งกวนใจ พวกเขาก็สามารถติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือพระผู้เป็นเจ้าได้ ( ยังมีต่อ )
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ในชั่วโมงของสัจจะ ****

    สมาธิ + พิจารณา = ปัญญา

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สัจจะ ****

    คือ สัญญาใจตนเอง
    เป็นสัญญาที่ทำขึ้นไว้กับใจตนเอง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ศีล ****

    คือ การทำได้เป็นปกติ
    ถ้าเราไม่ฝึกเป็นประจำทุกวัน ศีลก็ไม่เกิดขึ้นจริง
    การทำได้จริงทุกวัน วันละชั่วโมง สุดท้ายก็ทำได้เป็นปกติ
    ไม่ต้องฝืนใจ ไม่ต้องบังคับ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สติ ****

    คือ ข้อที่เราตั้งใจทำ ตั้งใจตัดลด

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  12. Little Mermaid

    Little Mermaid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    718
    ค่าพลัง:
    +1,768
    ศีล สมาธิ ปัญญา ..

    กล่าวได้ ชอบแล้ว.. สาธู การ
     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ปัญญา ****

    สามารถนำตนให้รอดพ้นทุกข์ได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  14. Little Mermaid

    Little Mermaid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    718
    ค่าพลัง:
    +1,768
    " เราไม่อาจแบกท่านข้ามวัฎสังสารได้ทั้งหมด
    แต่เราจักใช้ปัญญา พาท่านทั้งหมดข้ามไป.."


    .......................................สาธุการ..
     
  15. where?

    where? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +883
    สถาบันพลังจักรวาลจะสอนเกี่ยวกับเรื่องจิตวิญญาณศาสตร์ แต่เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ฝึกปฏิบัติได้ และบังเกิดประโยชน์แก่ประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้นพวกเราไม่จำเป็นต้องทำการค้นคว้าวิจัยหรือเปรียบเทียบการสอนวิชาพลังจักรวาลกับวิชาอื่นๆ เพียงแต่ฝึกทำสมาธิตามวิธีการที่อาจารย์ใหญ่ได้สอนไว้ ส่วนวิธีการทำสมาธิแบบอื่นก็เป็นรูปแบบที่ผู้เรียนวิธีการนั้นจะต้องปฏิบัติ พวกเราไม่จำเป็นจะต้องเรียนรู้รายละเอียดและไขว้เขวไปกับวิธีการเหล่านั้น ในแต่ละระดับชั้นเรียนของสถาบันวิชาพลังจักรวาลมีวิธีการฝึกสมาธิที่แตกต่างกันออกไป พวกเราจึงไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจกับวิธีการฝึกสมาธิของสำนักอื่นๆ ในแต่ละระดับของวิชาพลังจักรวาลมีวิธีการฝึกที่แตกต่างกันไป พวกเราจำเป็นต้องศึกษาด้วยความระมัดระวัง และไม่ไขว้เขวต้องฝึกปฏิบัติให้ถูกต้องมากที่สุด เพื่อจะได้ประสบความสำเร็จในการเรียนวิชานี้
    <O:p</O:p
    การฝึกสมาธิในระดับต้น ทุกคนต้องหลับตา แต่การฝึกสมาธิในระดับสูงขึ้นทุกคนต้องลืมตา ซึ่งอาจารย์มีเหตุผลและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันมากมาย โดยทั่วไปแล้วมักกล่าวกันว่าการฝึกสมาธินั้นก็เพื่อให้มีความสามารถติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อรับพลังจักรวาล ซึ่งในแต่ละระดับก็จะมีวิธีการฝึกสมาธิแตกต่างกันไป สำหรับผู้ฝึกปฏิบัติในระดับต้นจักระของผู้ฝึกยังเปิดไม่สมบูรณ์ทำให้มีพลังไม่มากพอ ฉะนั้นในการฝึกสมาธิจึงจำเป็นต้องหลับตาเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนจากสภาพแวดล้อมภายนอกด้วยวิธีการดังกล่าวนี้เท่านั้นที่ผู้ฝึกสามารถรับพลังจักรวาลได้ ตั้งแต่ระดับ 4 และระดับสูงขึ้นไปผู้ฝึกปฏิบัติจำเป็นต้องลืมตาทำสมาธิ ซึ่งจะใช้วิธีการดังกล่าวนี้ในการฝึกสมาธิตลอดไป ผู้ฝึกปฏิบัติจะต้องไม่หลับตาขณะฝึกสมาธิเพื่อหลีกเลี่ยงความสนใจ ความสงสัย ความเข้าใจผิด การเยาะเย้ย หรือการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนทั่วไปและการฝึกสมาธิด้วยการลืมตามีประโยชน์จะได้ประสบความสำเร็จในการเรียนวิชานี้มากมาย สามารถจะฝึกที่ใดก็ได้โดยไม่มีใครรู้ ไม่มีใครสนใจ สงสัยหรืออยากรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ แต่มีประเด็นสำคัญที่สุดก็คือ การลืมตาฝึกสมาธินั้นจะทำให้ผู้ฝึกควบคุมจิตวิญญาณของตนเองไว้ได้ การฝึกสมาธิด้วยการหลับตาเป็นระยะเวลานาน เป็นการยากที่จะควบคุมจิตวิญญาณของเราไว้ได้ มีคนจำนวนมากที่มีความเพียรพยายามในการฝึกสมาธิด้วยการหลับตา และเขาเหล่านั้นยังไม่เปิดจักระ เมื่อวิญญาณออกจากร่างวิญญาณเร่ร่อนอื่นก็จะเข้าไปสิงในร่างกายได้ ผลที่ตามมาก็คือ เขาเหล่านั้นมีอาการเสียจริต หรืออาจถูกผีเข้าสิง ซึ่งชาวพลังจักรวาลจะเรียกอาการนี้ว่า “ โรคประสาทปลอม ”
    <O:p</O:p
    พวกเราจะต้องไม่หลับตาในการฝึกสมาธิ และไม่ฝึกสมาธิเป็นเวลานาน ที่สำคัญที่สุดคือเรายังไม่สามารถจะฝึกสมาธิเพื่อทำให้วิญญาณออกจากร่างได้ ผู้ฝึกทุกคนต้องจดจำไว้เสมอว่าขณะฝึกสมาธิจะต้องลืมตาอยู่เสมอ เวลาในการฝึกสมาธิยิ่งสั้นก็ยิ่งดี ผู้ฝึกควรจะระลึกไว้เสมอว่าการฝึกสมาธิเป็นเพียงเครื่องมือเท่านั้น นับตั้งแต่วัตถุประสงค์ของการฝึกสมาธิได้กำหนดให้เป็นเครื่องมือในการติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อรับพลัง เพื่อช่วยตัวเองและผู้อื่น เพื่อเรียนรู้ทางด้านจิตวิญญาณ ปัญญา ความรู้แจ้ง ฯลฯ ซึ่งประเด็นเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เครื่องมือนี้จึงเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่า แต่ก็สามารถจะเปลี่ยนแปลงไปได้ตามกาลเวลาและสถานที่ ดังนั้นพวกเราจึงไม่จำเป็นต้องจริงจังนัก หรือจะต้องกังวลกับวิธีการ สถานการณ์ เวลา สถานที่ที่แตกต่างกันออกไป เพราะยังมีวิธีการต่างๆ ที่จะต้องเรียนรู้อีกมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเมื่อเรียนสูงขึ้นแล้วไม่ต้องฝึกสมาธิอีกต่อไป แต่เป็นเพียงการเปลี่ยนวิธีการฝึกสมาธิเท่านั้น เมื่อพวกเราฝึกปฏิบัติกับปิรามิดก็เป็นวิธีหนึ่งในการฝึกสมาธิ เมื่อส่งพลังรักษาตัวเองหรือผู้อื่นก็ตาม พวกคุณก็ได้ฝึกสมาธิด้วย เมื่อพวกเราได้สอนและเปิดจักระให้นักเรียนก็กำลังฝึกสมาธิเช่นกัน ในชั้นเรียนสูงขึ้นทุกครั้งที่รับพลังจากดวงอาทิตย์ แสงดวงดาว แสงทิพย์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดเถื่องเด๋ ฯลฯ พวกเราก็กำลังฝึกสมาธิ ซึ่งไม่จำเป็นต้องฝึกหายใจ 3 ครั้ง และหลับตาฝึกสมาธิเป็นเวลา 5 นาทีถึง 30 นาที อย่างไรก็ตามวิธีการฝึกสมาธิยังมีความจำเป็นสำหรับนักศึกษาที่เพิ่งเข้ามาเรียนวิชาพลังจักรวาล ในชั้นเรียนต้นๆ สำหรับนักศึกษาที่เรียนอยู่ในระดับสูงแล้วจะมีวิธีการฝึกสมาธิที่แตกต่างออกไป ซึ่งไม่ได้หมายความว่า วิธีการหนึ่งจะดีกว่าอีกวิธีการหนึ่ง แต่ละวิธีการจะมีความเหมาะสมสำหรับบุคคลแต่ละคนในสถานการณ์และเวลาที่แตกต่างกัน
    <O:p</O:p
    จากประสบการณ์อาจารย์พบว่า การสัมมนาทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นระดับต้นหรือระดับสูง พวกเราทุกคนปรารถนาจะได้ฝึกสมาธิร่วมกับอาจารย์เสมอ ในการฝึกสมาธิด้วยกันอาจารย์มักจะขอให้พวกเราทุกคนลืมตาแต่อาจารย์หลับตา เพราะว่าเมื่ออาจารย์ได้พบพวกเราในการสัมมนา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้มาสถิตอยู่เบื้องหน้าอาจารย์เพื่อให้ความช่วยเหลืออาจารย์เสมอ ดังนั้นถ้าอาจารย์ลืมตาทำสมาธิร่วมกับพวกเราเป็นเวลา 3 นาทีถึง 5 นาที พลังจะแรงมากจนพวกเราอาจไม่สามารถรับได้ ด้วยเหตุผลนี้อาจารย์จึงต้องหลับตาในระหว่างที่ทำสมาธิ และอนุญาตให้พวกเราลืมตาเพื่อจะรับพลังได้อย่างเต็มที่
    <O:p</O:p
    ประโยชน์ของการทำสมาธิร่วมกับอาจารย์ระหว่างที่มีการสัมมนา พวกเราจะได้รับพลังโดยตรงจากอาจารย์เป็นจำนวนมาก ในความเป็นจริงไม่ว่าพวกเราจะได้ร่วมทำสมาธิกับอาจารย์หรือไม่ก็ตาม ทุกครั้งที่เข้าร่วมสัมมนาไม่ว่าจะเป็นผู้เรียนหรือมาทบทวนก็ตาม ก็จะได้รับพลังจำนวนมากจากอาจารย์ด้วยคลื่นความถี่ที่แตกต่างกันในชั้นเรียนแต่ละระดับที่อาจารย์สอน คลื่นความถี่เหล่านี้เป็นพลังแห่งจิตวิญญาณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดเถื่องเด๋ ซึ่งพระองค์ได้มอบให้ทุกคนในชั้นเรียน และช่วยให้อาจารย์บรรยายคำสอนแก่พวกเรา ด้วยเหตุดังกล่าวนี้หลังจากจบการสัมมนาทุกครั้ง พวกเราเป็นจำนวนมากจะมีสุขภาพแข็งแรงขึ้นหายจากโรคภัยไข้เจ็บ
    <O:p</O:p
    บทสรุป
    พลังจักรวาลเป็นบทเรียนใหม่ อาจารย์เคยกล่าวกับพวกเราเสมอๆ ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจารย์ได้สอนให้กับพวกเรา เป็นเรื่องที่อยู่นอกตำรา สิ่งเหล่านี้ประชาชนไม่เคยได้เรียนรู้มาก่อน สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดเถื่องเด๋ ได้สอนให้กับอาจารย์ การฝึกสมาธิในวิชาพลังจักรวาลเป็นสิ่งที่ได้กำหนดไว้ในวิชานี้ และไม่ได้เป็นวิธีการทำสมาธิแบบโยคะจากสำนักอื่น ดังนั้นพวกเราไม่จำเป็นต้องศึกษาค้นคว้าในตำราใดๆ หรือพยายามทำความเข้าใจเปรียบเทียบทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจารย์สอน กับแนวความคิดหรือวิธีการจากสำนักอื่น เพียงแต่ตั้งใจฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำของอาจารย์ให้ถูกต้องเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ฝึกปฏิบัติตามสิ่งที่พวกเราได้เรียนรู้ในแต่ละระดับของชั้นเรียนที่ได้เรียนมาเท่านั้น ไม่ต้องผสมเทคนิคหรือสร้างวิธีการของตนขึ้นมาใหม่ และไม่ต้องประยุกต์วิธีการตามความคิดของตนเอง เพราะวิธีการเหล่านี้ไม่ใช่ความรู้สึกนึกคิดส่วนตัวของอาจารย์ หากแต่เป็นคำสอนของสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดเถื่องเด๋ ซึ่งพวกเราจะต้องปฏิบัติตามด้วยความรักและให้ความช่วยเหลือครอบครัว ญาติพี่น้องของพวกเรา ให้ความช่วยเหลือและให้ความรักแก่ผู้อื่นแล้วพวกเราจะมีทุกสิ่งทุกอย่างตามที่ปรารถนา เช่น มีสุขภาพดี มีความสุข และมีความรัก เป็นต้น<O:p</O:p
     
  16. where?

    where? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +883
    ปัญญาและความรู้แจ้ง

    คำถามนักเรียน
    เรียนท่านอาจารย์ใหญ่ ในตราสัญลักษณ์และชื่อสำนักเรียนวิชาพลังจักรวาล มีคำว่า “ รู้แจ้ง ” และในหลายชั้นเรียนท่านอาจารย์มักกล่าวถึง “ ปัญญาและความรู้แจ้ง ” พลังจักรวาลเป็นวิธีการรักษาโรค แต่ทำไมเราจึงมักพูดถึงความรู้แจ้งและปัญญา ซึ่งเป็นถ้อยคำที่ใช้กันในวิชาปรัชญาและศาสนา อะไรคือความหมายที่แท้จริงของถ้อยคำเหล่านี้ และมีประโยชน์อะไรต่อวงการแพทย์อย่างเช่นในวิชาพลังจักรวาลของพวกเรา ขอความกรุณาท่านอาจารย์ได้โปรดให้คำแนะนำแก่พวกเราด้วย ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ใหญ่
     
  17. ชื่นชม

    ชื่นชม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +39
    ชีวิตของมนุษย์และสัตว์โลกล้วนมีเหตุและผลของตัวมันเองยิ่งเราสงสัยเรายิ่งค้นพบบางทีสิ่งที่เราพบอาจจะเป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ตลอดชีวิตหรือเราอาจจะไม่รู้อะไรเลยก็ได้ บางทีสิ่งที่เราตามหาทั้งชีวิตก็อยู่กับเรามาทั้งชีวิตโดยที่เราไม่สามารถค้นพบด้วยตัวเราเองเลย
    ฉะนั้นอย่าสงสัย ค้นหาแต่ความเป็นตัวเราจิตของเราโดยยึดความรักความเมตตาที่เราสามารถมีให้กับตัวเราและสรรพสัตว์ทั่วโลกเชื่อมั่นในสิ่งศักสิทธิ์
     
  18. where?

    where? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +883
    ท่านอาจารย์ใหญ่
    ในแต่ละระดับชั้นเรียนของวิชาพลังจักรวาล ก็จะมีความแตกต่างทั้งในด้านวิธีการ และระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาโรค ในทุกระดับชั้นเรียนของวิชาพลังจักรวาลจะศึกษาเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติในการรักษาโรค นับตั้งแต่ระดับ 5 ขึ้นไป อาจารย์ได้ย้ำเตือนพวกเราเสมอว่า วิชาพลังจักรวาลเป็นการสอนเกี่ยวกับจิตวิญญาณ และในความเป็นจริงแล้วการรักษาโรคภัยไข้เจ็บนั้นเป็นเพียงเป้าหมายเล็กๆ เท่านั้น และนี่ก็คือเหตุผลว่า ทำไมตราสัญลักษณ์และชื่ออย่างเป็นทางการของพวกเราจึงใช้คำว่า “ มนุษยชาติ – ความรู้แจ้ง – ความรัก ” เราจะไม่พบเห็นคำอธิบายใดๆ อย่างเช่น แพทย์ เภสัช การรักษาโรค ฯลฯ แต่มีคำว่าความรู้แจ้งซึ่งเป็นถ้อยคำทางจิตวิญญาณ
    <O:p</O:p
    จิตวิญญาณมิใช่เรื่องเกี่ยวกับวงการแพทย์ แต่ก็มีเนื้อหาครอบคลุมเรื่องราวของการแพทย์และสาขาวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ทำนองเดียวกับที่จักรวาลครอบคลุมโลก ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว ฯลฯ จักรวาลครอบคลุมทุกๆ สิ่งที่เคลื่อนไหวทั้งเล็กและใหญ่ที่อยู่ภายในจักรวาล พวกเราไม่ได้เรียนเฉพาะการรักษาโรค หากแต่ได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างที่มีความยิ่งใหญ่ในการรักษาโรคซึ่งรวมกับวิชาการทุกสาขาที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับร่างกายมนุษย์และจิตวิญญาณเป็นอย่างมากหรือไม่มีเลยก็ได้ เราไม่ได้เรียนการรักษาโรคเพียงอย่างเดียวแต่เราเรียนเกี่ยวกับจิตวิญญาณด้วย เราไม่ได้เรียนเฉพาะแต่การรักษาโรคเท่านั้น หากแต่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งนั้นก็คือจิตวิญญาณ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องเรียนเกี่ยวกับคำว่าความรู้แจ้ง ซึ่งเป็นสภาวะสูงสุดของจิตวิญญาณ
    <O:p</O:p
    ปัญญา – ความรู้แจ้ง
    ความรู้แจ้ง เป็นคำที่ใช้ในวิชาปรัชญาและศาสนา พระพุทธศาสนามักจะใช้คำว่าความรู้แจ้ง แทนคำว่าเป้าหมายสูงสุดของบรรดาพุทธศาสนิกชน สานุศิษย์บางคนได้เจริญรอยตามบาทวิถีทางจิตวิญญาณ เพื่อที่จะได้บรรลุความรู้แจ้ง ซึ่งหมายความว่าเขาผู้นั้นได้บรรลุความเป็นพุทธะ เป็นพระอรหันต์ เช่นเดียวกับที่เจ้าชายสิทธัตถะ โคตรมะ ได้สำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า เมื่อกว่า 2,500 ปีมาแล้ว คำว่ารู้แจ้งจึงมีความหมายเหมือนกับคำว่า “ พุทธะ ” หรือ “ อรหันต์ ” เราไม่ได้เป็นพุทธศาสนิกชน แต่เราก็สามารถใช้คำว่า รู้แจ้ง ร่วมกับคำว่า ปัญญา ซึ่งอาจารย์ได้เคยกล่าวถึง “ ปัญญาของร่างกายและความรู้แจ้งของจิตวิญญาณ ” ในหลายชั้นเรียนและการบรรยายของอาจารย์ เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงเป้าหมายสูงสุดทางจิตวิญญาณที่พวกเราจำเป็นต้องเรียนรู้ และบรรลุผลสำหรับร่างกายและจิตใจของพวกเราเอง
    <O:p</O:p
    ในอดีตกาล เจ้าชายสิทธัตถะ โคตรมะ ไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความรู้แจ้งจากบุคคลหนึ่งบุคคลใดหรือศาสนาใดๆ เลย พระองค์ได้เคยทรงศึกษาจากอาจารย์หลายท่านซึ่งก็มีวิธีการต่างๆ ที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็ได้ละทิ้งคำสอนต่างๆ นั้นไว้เบื้องหลังจนหมดสิ้น พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญสมาธิใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นเวลา 49 วัน ในที่สุดเจ้าชายสิทธัตถะ โคตรมะ ก็ได้ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลังจากที่พระองค์ทรงสามารถติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ที่มองไม่เห็นได้ภายในเวลาเพียงสั้นๆ และได้เรียนรู้บทเรียนเกี่ยวกับความรู้แจ้ง
    <O:p</O:p
    ขณะนี้ผู้เรียนวิชาพลังจักรวาล ถ้าปรารถนาจะเรียนรู้บทเรียนเกี่ยวกับความรู้แจ้งจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เฉกเช่นที่พระพุทธเจ้าได้เรียนรู้ในอดีตกาล พวกเราก็ต้องเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงปฏิบัติในทางจิตวิญญาณเมื่อกว่า 2,500 ปีมาแล้ว แต่พวกเราจะเรียนรู้เกี่ยวกับปัญญาและความรู้แจ้งทางร่างกายและจิตวิญญาณ ด้วยวิธีการใหม่มิใช่วิธีการเก่าๆ ในอดีต วิธีการใหม่นี้เรียบง่ายและรวดเร็วกว่าโดยใช้วิธีการเปิดจักระเพื่อรับพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยตรง เพื่อให้พวกเราสามารถติดต่อกับพระเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดได้ทางจิต ซึ่งเป็นวิธีการของ “ การเปิดจักระและส่งพลัง ” เพื่อจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับบทเรียนเรื่อง “ ปัญญาและความรู้แจ้ง ” สิ่งที่สำคัญก็คือ พวกเราไม่เพียงแต่ได้เรียนรู้ในเรื่องทฤษฏีเท่านั้น หากแต่ยังได้รับความสามารถจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดด้วย แม้พวกเราจะไม่มียศศักดิ์นำหน้านามใดๆ แต่ก็สามารถประกอบภารกิจที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่ได้รับมอบหมายจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ในการรักษาโรคและส่งพลังให้แก่ตนเอง ผู้อื่น ต้นไม้ และช่วยเหลือจิตวิญญาณเร่ร่อนได้
    <O:p</O:p
    ดังนั้นความรู้แจ้งก็คือความเข้าใจเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งมนุษย์สามารถเรียนรู้ได้จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากพระเจ้า จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด เป็นความรู้ที่กว้างขวางครอบจักรวาล ไร้ข้อจำกัดทั้งในเรื่องกาลเวลา และสถานที่ โดยธรรมชาติแล้วเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาเป็นเวลานานหลายพันล้านหรือล้านล้านปีมาแล้ว พระเจ้าได้ทรงสร้างจักรวาลสิ่งมีชีวิตทั้งมวลและมนุษย์ พระเจ้าได้ทรงมอบส่วนเล็กๆ เกี่ยวกับพระจิตและวิญญาณของพระองค์เพียงจำนวนเล็กน้อยให้แก่มนุษย์บนโลกใบนี้
    <O:p</O:p
    ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เราพบว่ามีการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่มีความสามารถในการติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และรู้แจ้งไว้เป็นจำนวนเพียงเล็กน้อยมาก แต่ในยุคปัจจุบันนี้ซึ่งมีประชากรโลกมากกว่า 6 พันล้านคน และอาจเพิ่มเป็นหนึ่งหมื่นล้าน หนึ่งหมื่นห้าพันล้าน สองหมื่นล้านคนในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีความต้องการปัจจัยในการดำรงชีพเพิ่มมากขึ้น เช่น อาหาร การกสิกรรม ภูมิอากาศ น้ำ ที่ดิน การขนส่ง การสื่อสาร ฯลฯ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือมีปัญหาและวิกฤตการณ์ต่างๆ มากมาย เช่น เรื่องทรัพย์สิน ความหิวโหย การต่อสู้แก่งแย่ง สงคราม ความเกลียดชัง ฯลฯ ซึ่งพวกเราย่อมต้องการความช่วยเหลือจากพระเจ้า พระเจ้าจึงได้ตัดสินใจใหม่ที่จะมอบความสุขและวิธีการพัฒนาจิตวิญญาณแก่มนุษยชาติ ด้วยวิถีทางของวิชาพลังจักรวาล ถ้ามนุษย์มีความปรารถนาที่จะให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้ตนมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่างๆ และสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ ซึ่งก็เป็นความปรารถนาที่มนุษยชาติมีความหวังและรอคอยมาเป็นเวลานับล้านปีมาแล้ว
    <O:p</O:p
    ปัญญาและความรู้แจ้งเป็นสภาวะทางจิตวิญญาณสูงสุดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นพวกเราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้โดยตรงจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดเท่านั้นที่จะสอนเรื่องปัญญาและความรู้แจ้งแก่พวกเรา ด้วยการติดต่อทางจิตวิญญาณกับพระองค์โดยตรง แต่การติดต่อทางจิตวิญญาณนี้ พวกเราจะต้องเป็นผู้มีพลังอำนาจและพลังจิตวิญญาณพิเศษขั้นสูง ซึ่งไม่ได้หมายความว่าบุคคลธรรมดาโดยทั่วๆ ไปจะสามารถติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ อาจารย์เป็นคนธรรมดามีความสามารถปานกลางเป็นผู้นำสาส์นของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และด้วยความช่วยเหลือของอาจารย์จึงทำให้พวกเราสามารถติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ เพราะว่าจิตวิญญาณของอาจารย์ได้ถูกส่งลงมาจากเบื้องบน เพื่อช่วยพวกเราและมนุษยชาติให้ได้เรียนรู้และพัฒนาทางด้านปัญญาและความรู้แจ้ง ตลอดจนมอบพลังอำนาจที่สมบูรณ์มาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้แก่พวกเรา เพื่อจะได้มีความสามารถในการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือมนุษยชาติและบุตรหลานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่อไปได้ ( ยังมีต่อ )
     
  19. where?

    where? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +883
    การเปิดจักระและการทำสมาธิ
    ด้วยภารกิจอันยิ่งใหญ่ อาจารย์จึงได้เปิดจักระ 100% ให้แก่พวกเรา ซึ่งไม่ได้หมายความว่าใครๆ สามารถจะปฏิบัติเช่นนี้ได้เพราะว่าถ้าเขาไม่ได้เป็นผู้นำดำรัสของพระผู้เป็นเจ้ามาแจ้งแก่มนุษย์ เขาก็ไม่สามารถทำได้ อาจารย์ได้อนุญาตให้พวกเราสามารถเปิดจักระให้แก่ผู้อื่นได้ 60% แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะไม่อนุญาตให้พวกเราทำได้ จนกว่าพวกเราจะมีพลังแห่งจิตวิญญาณมากพอ ซึ่งหมายความว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้มอบหมายให้พวกเราเป็นผู้นำสาส์นนั่นเอง
    <O:p</O:p
    การเปิดจักระ 100% เป็นงานที่มีความสำคัญและยุ่งยากมาก ซึ่งไม่เคยปรากฏเลยว่าในประวัติศาสตร์ของโลกเราตั้งแต่ 3 ล้าน 5 ล้านปีมาแล้ว จนกระทั่งปัจจุบันได้มีการเปิดจักระ 100% สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่เคยมอบความสามารถพิเศษให้แก่มนุษย์คนใดมาก่อนเลย การเปิดจักระเป็นงานที่ไม่ง่าย แม้จะเป็นเพียงการวางมือเบาๆ 30 วินาที เพื่อเปิดจักระให้แก่คน 10 คน 100 คน หรือ 1,000 คน ไม่มีคนสามารถจะทำได้ด้วยตนเอง เพราะว่าสิ่งนี้เป็นภารกิจสำคัญที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ทรงมอบหมายให้มาปฏิบัติการแทน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าเพราะเหตุใดเมื่ออาจารย์ได้ส่งพลังให้แก่พวกเราตั้งแต่ระดับต้นจนถึงระดับอื่นๆ ที่สูงขึ้น จึงทำให้พวกเราสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้อย่างง่ายดาย คำว่า “ ส่งพลัง ” แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้ “ เรียบและง่าย ” อย่างที่คิด เป็นงานที่ยุ่งยากมากในความเป็นจริงแล้วต้องใช้ความสามารถระดับสูงสุดของพระผู้เป็นเจ้าไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาสามัญทั่วไป
    <O:p</O:p
    ด้วยวิธีการปฏิบัติง่ายๆ นี้ ก็สามารถทำให้พวกเรามีความสามารถที่จะปฏิบัติภารกิจต่างๆ ได้มากมาย เช่น การรักษาโรคภัยไข้เจ็บ การรักษาชีวิตเพื่อนมนุษย์ ซึ่งพวกเราไม่จำเป็นต้องพึ่งพาวิธีการทางด้านกายภาพ หรือทางเวชภัณฑ์ใดๆ ในระดับต้นๆ พวกเรายังคงต้องวางมือบนคนไข้เพื่อทำการรักษา แต่ในระดับที่สูงขึ้น พวกเราใช้เวลาเพียง 2 – 3 วินาที เพื่อติดต่อทางจิตกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์พวกเราก็สามารถปฏิบัติภารกิจเหล่านี้ได้อย่างมหัศจรรย์ แต่ถ้าปราศจากเสียซึ่งขีดความสามารถของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสียแล้ว พวกเราก็คงจะไม่มีใครสามารถที่จะปฏิบัติภารกิจเหล่านี้ได้แน่นอน แม้แต่พวกพ่อมดที่ได้รับการฝึกฝนมานานก็ไม่สามารถที่จะช่วยอธิษฐานปลดปล่อยวิญญาณเร่ร่อนให้เป็นอิสระหรือกลับชาติไปเกิดใหม่หรือกลับคืนสู่อาณาจักรพระผู้เป็นเจ้าได้
    <O:p</O:p
    ในชั้นเรียนวิชาพลังจักรวาลระดับต้นๆ ก่อนที่นักเรียนจะติดต่อทางจิตวิญญาณกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อการเรียนรู้ทางด้านปัญญาและความรู้แจ้งนั้น จะต้องทำสมาธิเพื่อขจัดสิ่งรบกวนออกไปจากสมองเพื่อทำจิตใจให้ว่างเปล่าปราศจากสิ่งรบกวนจากภายในและภายนอกทั้งปวง ความหมายและวิธีการทำสมาธิในชั้นเรียนวิชาพลังจักรวาลระดับต้นๆ นั้น อาจมีความหมายหรือวิธีการคล้ายคลึงศาสตร์อื่นๆ แต่อาจารย์ขอทำความเข้าใจว่า มีส่วนเหมือนหรือคล้ายคลึงกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้นไม่ใช่ทั้งหมด วิธีการทำสมาธิในวิชาพลังจักรวาลไม่มีท่านั่งที่ยุ่งยาก เหมือนการทำสมาธิในกลุ่มโยคะและไม่ต้องนั่งสมาธินานเป็นชั่วโมง เพราะรู้สึกเมื่อย การทำสมาธิใช้เวลาสั้นๆ จะดีกว่า เมื่อใดก็ตามที่เราได้รับพลังมากพอก็หยุดทำสมาธิได้ สำหรับผู้เรียนในชั้นต้นใช้เวลาทำสมาธิอย่างน้อย 5 นาที สูงสุดไม่เกิน 30 นาที ถ้าร่างกายของเรารู้สึกร้อนหรืออึดอัดไม่สบายก่อนครบกำหนด 30 นาที ผู้เรียนจะต้องหยุดทำสมาธิทันทีและต้องไม่พยายามหรือปล่อยร่างกายให้รู้สึกอ่อนเพลีย หมดกำลังหรือเจ็บป่วย
    <O:p</O:p
    การทำสมาธิในวิชาพลังจักรวาลจำเป็นต้องผสมผสานกับการเปิดจักระและส่งพลัง มิฉะนั้นจะไม่ได้ผลการทำสมาธิในวิชาพลังจักรวาลเป็นวิธีการที่จะทำให้ผู้เรียนสามารถติดต่อทางจิตกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วิธีการทำสมาธิจะเปลี่ยนแปลงไปตามระดับชั้นเรียนและพลังของผู้เรียน ในระดับสูงสุดผู้เรียนจะใช้เวลาเพียง 2 – 3 วินาที หรือแค่กระพริบตาก็เพียงพอแล้ว ผู้เรียนแค่คิดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น เขาก็สามารถติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถใด จะฝึกหายใจหรือไม่ ไม่ต้องหลับตา ไม่ต้องใช้เวลายาวนาน ไม่ต้องแต่งกายด้วยสัญลักษณ์หรือรูปลักษณ์ที่แตกต่างไปจากคนธรรมดา ผู้เรียนสามารถทำสมาธิได้แม้ขณะกำลังเดินสนทนา รับประทานอาหารหรือกำลังนอนหลับ ด้วยวิธีการทำสมาธิในวิชาพลังจักรวาลผู้เรียนสามารถจะเข้าถึงสภาวะสงบได้ แต่ถ้ายังยึดติดอยู่กับท่านั่งสมาธิ อิริยาบถ ระยะเวลา และสถานที่ เขาก็จะไม่สามารถบรรลุภาวะสูงสุดในการทำสมาธิ ( ยังมีต่อ )
     
  20. where?

    where? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +883
    ความเป็นหนึ่งเดียวของกายและจิตวิญญาณ
    การศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับจิตวิญญาณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดเถื่องเด๋ จำเป็นอย่างยิ่งที่พวกเราจะต้องจำกัดเครื่องพันธนาการทางวัฒนธรรม ประเพณี ความคิด กฎระเบียบของมนุษย์โลกออกไปให้หมด สิ่งนี้เป็นมาตรการข้อแรกสำหรับผู้ที่ต้องการจะศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับปัญญาและความรู้แจ้ง สิ่งนี้เป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะทำได้ เพราะว่าวิธีทางที่จะเข้าถึงซึ่งปัญญาและความรู้แจ้งนั้นทอดยาวออกไปและเต็มไปด้วยขวากหนาม ปัญหาความยุ่งยากนานามากมาย ทั้งในด้านลองผิดลองถูกทางจิต เจตจำนง และใจของเราเอง ฯลฯ พวกเรามีความกล้าหาญมากเพียงพอที่จะเอาชนะต่ออุปสรรค ความผิดพลาดต่างๆ ที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับปัญญาและความรู้แจ้งแล้วหรือยัง?
    <O:p</O:p
    ในอดีตอาจารย์ได้สอนพวกเราให้พยายามที่จะเรียนรู้ เพื่อให้เกิดปัญญาทางกายและรู้แจ้งทางจิตวิญญาณ และในอนาคตอันใกล้นี้อาจารย์จะสอนให้พวกเรามีความสามารถสูงขึ้น เพื่อจะได้เกิดความรู้แจ้งทางกายและเกิดปัญญาทางจิตวิญญาณซึ่งจะทำให้พวกเราสามารถ “ รวมกายและจิตวิญญาณให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ ” พวกเราจะเป็นผู้ฝึกวิชาพลังจักรวาลชั้นแนวหน้า ที่มีความสามารถเพียงพอ ที่ผ่านมาอาจารย์ได้สอนพวกเรา “ ทั้งทางจิตวิญญาณและวัตถุควบคู่กัน ” ทางวัตถุจะทำให้พวกเราเกิดปัญญาและบนเส้นทางทางวัตถุนี้พวกเราก็จะเกิดความรู้แจ้งด้วย และอีกไม่นานอาจารย์จะสอนให้พวกเรามีความก้าวหน้าขึ้นไปอีกระดับหนึ่งเกี่ยวกับ “ ความเป็นหนึ่งเดียวของจิตวิญญาณและร่างกาย ” เรากล่าวถึงหลักการของ “ คลื่นความถี่รวม ” ก็ต่อเมื่อเราพูดถึงเรื่องพลังงาน และเมื่อเราพูดถึงมนุษย์แต่ละบุคคลเราจะพูดถึงการมีเพศสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณ การรวมเป็นหนึ่งของกายและจิตวิญญาณ
    <O:p</O:p
    ในความเป็นจริงของชีวิตประจำวัน เราจะถูกพันธนาการไว้ด้วยเครื่องผูกมัดของครอบครัว สังคม ประเทศชาติ และปัจจัยอื่นๆ ทั้งที่สามารถสัมผัสได้และไม่สามารถสัมผัสได้ พวกเราต่างก็มีความกลัวต่อเครื่องผูกมัดเหล่านี้ซึ่งครอบงำความคิดและการกระทำของพวกเรา มีวัฒนธรรมและประเพณีต่างๆ มากมายซึ่งเป็นอันตรายต่อกาย จิตวิญญาณและอารมณ์ของเรา สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอันตรายแก่สุขภาพของเราด้วย
    <O:p</O:p
    ถ้าพวกเรามีความเข้าใจในวิถีทางของจิตวิญญาณที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดเถื่องเด๋ ได้ทรงมอบปัญญาและความรู้แจ้งให้แก่พวกเรา เพื่อพวกเราจะได้ระลึกถึงความผิดพลาดเหล่านี้ พวกเราพร้อมหรือยังที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำของพระองค์เพื่อที่จะได้แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ที่ผิดพลาดเหล่านั้นให้ถูกต้องต่อไป ในความเป็นจริงแล้ว พวกเราไม่กล้าที่จะเปิดใจรับความผิดพลาดของเราเองหรือความพลาดพลั้งของผู้อื่น ซึ่งมีหลายสิ่งหลายอย่างที่จำเป็นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ และสังคมของเรา ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นความเคยชินของพวกเรา และได้สร้างความผิดพลาดไว้มากมาย จนเราไม่สามารถจะประเมินได้ ถ้าเราไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงก็จะคงมีแต่ความผิดพลาดเหล่านี้ไว้ต่อไป และสิ่งนี้เองจะเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงในการเรียนรู้และพัฒนาทางด้านปัญญาและความรู้แจ้งของพวกเรา
    <O:p</O:p
    อาจารย์ได้ตอบคำถามของพวกเราในชั้นเรียนต่างๆ หลายครั้ง อาจารย์ได้อธิบายพร้อมยกตัวอย่างให้พวกเราได้ทราบถึงความถูกต้องของวัฒนธรรม ประเพณีและความเชื่อ ซึ่งประชาชนมักกล่าวว่าเป็น “ ความจริงที่เจ็บปวด ” คำสัตย์จริงของอาจารย์จะสามารถปกป้องผู้คนไว้ได้จำนวนมาก แต่อาจารย์จะต้องพูดเช่นนั้นตราบเท่าที่เป็นความจริง เป็นหน้าที่และภารกิจของอาจารย์ซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์เถื่องเด๋ ได้มอบหมายให้อาจารย์นำมามอบให้แก่พวกเรา หลายครั้งแล้วที่อาจารย์ได้บอกแก่พวกเราถึงประเพณี วัฒนธรรม ประเทศชาติ และประชาชนของอาจารย์ เพื่อจะให้พวกเราได้มีโอกาสเรียนรู้ อาจารย์ได้เคยกล่าวถึงพิธีกรรมต่างๆ ที่ยุ่งยากในการทำศพ การตีกลอง การเผาธนบัตรกงเต๊ก เพื่ออุทิศให้แก่คนตาย ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องของความเชื่อผิดๆ แต่ในความเป็นจริงอาจารย์ก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ( ยังมีต่อ )
     

แชร์หน้านี้

Loading...