ลุงเทวดาประจำตัว (เทวดามาเตือนครั้งที่ ๑-๓)

ฮา ข้อ ๒ มากเลยค่ะ (หน้าไม่ให้เนี้ย) อรก็คล้ายๆกันเลยค่ะ แบบว่า อรสุดโต่ง ทั้ง ๒ ด้าน คือ ภายนอก กะ ภายในน่ะค่ะ

ขอเม้าท์ นิดๆ นะค่ะ ก่อนจะไปทำกรรมฐานรอบบ่าย ซัก 1 ชม.

คนอื่นมักมองว่า คนทำกรรมฐาน ต้องแต่งกายเรียบร้อย ดูแล้วรู้เลยว่า ธรรมะ ธัมโม

พอมาเจอแบบอร แต่งตัวเป็นตัวของตัวเองค่ะสูง..... hiphop , bikini อะไรแบบนี้ใส่หมดค่ะ อาจเพราะเรียนประมงมา ด้วยน่ะค่ะ

บางท่าน คิดว่า คนแต่งตัว แบบนี้ ไม่ใช่คนสนใจศาสนา (มองคนแต่ภายนอก และยึดติดเกินไป)

อรมองว่า อยู่ที่กาลเทศะมากกว่าค่ะ แต่งตัวให้ถูกสถานที่

เรารู้จักกาลเทศะ ไปวัดก็ต้องให้เรียบร้อย มิดชิด

ลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญ ท่านนึง เป็นหญิง แต่งกาย ออกเปรี๊ยวนำสมัย มาก แต่ก็ไม่ได้โป๊ นะค่ะ แต่เราดูสไตล์เค้าออก วันนั้นวันพระ หลวงพ่อจรัญ ท่านนำสวดมนต์ ทำวัตรเย็น ซึ่งทำในช่วงบ่าย จะมีฆราวาส หญิง ชาย มาร่วมสวดมนต์ นั่งฟัง ด้วย

เราตอนนั้น ก็บวชเนกขัมม์อยู่ ก็จะเดินแถวไปร่วมสวดมนต์ กับหลวงพ่อท่านด้วย

ผู้หญิง ท่านนี้ นั่งด้านหน้าเลย ชิดริมๆประตู ที่ศาลาใหญ่ สุธรรมภาวนา
พอหลวงพ่อนำสวดมนต์ นักปฏิบัติกรรมฐาน ชุดขาวทั้งหลาย ต่างเปิดหนังสือท่องกัน

แต่ผู้หญิงท่านนี้ สวดปากเปล่าเลย แม้ไม่ได้มาเข้าบวช เนกชัมม์ เสียงดังฟังชัด ไม่ดังกลบคนอื่น ชัดถ้อยชัดคำ ตั้งแต่ต้นจนจบ

เราก็อนุโมทนาบุญให้เธอเลย ได้สัจธรรม ว่า ห้ามมองคนแต่ภายนอกเด็ดขาด มันเป็นเพียงสิ่งห่อหุ้ม ที่ตาเนื้อเห็น ให้มองที่การกระทำ

ซึ่ง หลวงพ่อเคยแนะว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เหมือนกับเรื่องของ พระอรหันต์จี้กง เป็นต้น

ตอนแรก ที่สวดมนต์ มีแต่คนว่า อร fake ด้วยล่ะค่ะ อิอิ

ผ่านมา ๑๐ ปีกว่าแล้ว ตอนนี้ ใครจะมาหาที่ห้องหลังเลิกงานก็คิดกัน ว่า อรมันกำลังสวดมนต์อยู่ไหมหนอ กลัวจะรบกวน

เวลา จะเป็นตัวบ่งบอก ความจริงเอง และผลที่ได้คุ้มมาก คนที่ดูถูกเราวันนั้น กลับนับถือเรามากๆ ในวันนี้

ปล. ให้สวดมนต์เสียงปกตินะค่ะ ไม่ดังเกินไป หรือเบาเกินไป

 

ฝึกสวดมนต์ในใจสิคะคุณแจ๊ค สวดในใจ ให้ใจเราเองได้ยินเสียงตัวเอง ได้สมาธิด้วยนะคะ ^ ^


คุณอร การแต่งกายบอกสิ่งที่อยู่ภายในไม่ได้หรอกค่ะ ที่ชัดกว่า คือ การกระทำ
แถวบ้านอันน์นะ กระทั่งคนแต่งชุดขาวไปวัดทุกวันพระ ยังโกงเงินหวยลูกค้าตัวเองเลย ทั้งๆ ที่พรีเซนต์ว่าตัวเองเป็นคนธัมมะธัมโมนั่นแหละ และบางคนก็ท่าทางภายนอกเหมือนเป็นคนดี เข้าวัดเข้าวา แต่เอาเข้าจริง ในใจไม่มีธรรมะอะไรเลย สักแต่ว่าทำอะไรก็ได้ ที่ทำแล้วให้คนอื่นคิดหรือชื่นชมว่าตัวเองเป็นคนดี ไอ้เราอ่านเค้าออก ดันทุกข์อีก เพราะเขาพยายามจะวุ่นวายกับเรา ฮา

แถวบ้านแวดล้อมไปด้วยบุคคลเหล่านี้เยอะค่ะ เห็นแล้วเบื่อโลกไปเลยล่ะ ^ ^

 

โห........... มีเยอะเหมือนกันเลย อิอิ

คิดอย่างไร ได้อย่างนั้นเนอะคุณอันน์

อรขอตัวแอบไปทำกรรมฐาน ซัก 1 ชม ก่อนนะค่ะ มีโอกาสแล้ว ไม่คว้าไม่ได้ อิอิ

คุณพระรักษา เทวดาคุ้มครองนะค่ะ

 

ฝึกเองที่บ้านก็ได้นี่ค่ะลองฝึกดูค่ะถ้าไม่มีเวลาไปที่วัด

 

มาตามให้กำลังคุณอรค่ะ

 

อะถูก อิอิ

 

กำลังต้องการกำลังใจอย่างแรง อิอิ

 

ขอความกรุณา ช่วยวิเคราะห์ของผมด้วยคนได้ไหมคับ

อย่าง แรก เลย ผมทำงานที่ต้องคอย ปรนนิบัติ << (ไม่รู้เขียนถูกรึปล่าวนะคับ)คนแปลกหน้า เกือบจะตลอดเวลา นั่นก็คืออาชีพ บริกร หรือ บ๋อยตามโรงแรมดีๆนี่เองคับ ต้องคอยรองรับอารมณ์คนอื่น ตลอดเวลา

อย่างที่ สอง ต้องนำอาหารที่ ทำจากเนื้อ สัตว์ ไปให้ลูกค้า ทาน จะเป็นกรรมเกี่ยวเนื่องกันไหมคับ

อย่างที่สาม ผมอาศัยอยู่กับพ่อแม่ เวลาจะสวดมนต์จะสวดตอนที่ ท่านทั้งสองออกไปทำงานแล้ว คือเวลาประมาณ 8.00 เกือบจะทุกวัน เพราะวันไหนที่คนงานหยุดงาน ทีห้องจะเสียงดังมากๆ ไม่เป็นอันสวดเลย แต่ก็เดือน หนึ่ง แค่ สอง สาม วัน

อย่างที่สี่ ผม ในใจผม ตอนนี้ อยากจะกินเจตลอดชีวิต เพราะว่าผมคิดว่าผมทำงาน เกี่ยวกับอาหาร ต้องมีกรรมเกี่ยวเนื่องกันแน่ เพราะบางวันไม่มีความรู้สึกอยากทานอาหารเลยทั้งวัน ก็อยู่ได้ โดยทานแต่น้ำอย่างเดียว

 

กลัวให้คำตอบผิดจังค่ะ ต้องรบกวนผู้รู้ ตอบด้วยนะค่ะ ^_^


งั้นอรตอบแบบความคิดเห็นส่วนตัวก่อนนะค่ะ
๑ อาชีพ ไม่ได้เป็นอสัมมาอาชีพ และ อยากให้คิดบวก ว่า การที่เราเจอคนแบบนั้น เป็นการฝึกความอดทน ฝึกการควบคุมอารมณ์ของเรานะค่ะ

หลวพ่อจรัญท่านสอนว่า ใครมาด่าทุกวันดี ให้รู้ไว้ว่า นั่นล่ะ ดี ทำให้เราได้ใช้กรรม

๒ เราทำตามหน้าที่ ที่ต้องเสิร์ฟ อาหารที่เค้าสั่ง อรว่า เราไม่บาป นะค่ะ (อันนี้วิเคราะห์เอาเองนะค่ะ) เราไม่ได้ทานเนื้อสัตว์ ที่เราเอาไปให้ลูกค้า นี่นา

หากเสิร์ฟ
เนื้อสัตว์ ที่เค้าไม่ได้เกิดมาเป็นอาหารมนุษย์โดยตรง เช่น กระทิง ชะมด ตัวนิ่ม (ที่ผิดกฏหมาย) เป็นต้น เราเสิร์ฟ พวกนี้ นอกจากผิดกฏหมาย เราก็รับส่วนแบ่งของกรรม ไปเช่นกัน (สมรู้ร่วมคิด)

๓ ยังไม่เคลียร์ น่ะค่ะ แปลว่า สวดมนต์ ทุกวัน หรือเปล่าค่ะ สวดตอนไหนก็ได้นะค่ะ ตามสะดวกได้เลย

ควรสวดมนต์ทุกวัน ไม่อยากจะ confirm น่ะค่ะ แต่อรสวดมนต์ ตามหลักที่หลวงพ่อจรัญ สอนก็ซึ่งตรงกับที่พระสังฆราชท่านสอนไว้ ๓ เดือนได้อานิสงส์เลยค่ะ อ่านเรื่องคนอื่น ว่าสวดแล้วดีอย่างโน้น อย่างนี้

อรก็ไม่เชื่อหรอกค่ะ แต่พอสวดเอง ถึงรู้ว่า อานิสงส์ของการสวดมนต์ทุกวัน ได้ผลตอบรับคืนในเวลาไม่นานน่ะค่ะ


๔ สะดวกในการทานเจ ตลอดชีวิตไหมอะค่ะ ทำดี อย่าให้เดือดร้อนตนเองนะค่ะ หากสามารถทานได้ตลอดชีวิต อรก็ขออนุโมทนาด้วยนะค่ะ ^_^

อรมีอาการ คล้ายคุณ คนหลงทาง เหมือนกัน บางช่วงก็ไม่ทานเลย เหมือนกินซากศพ อะค่ะ ไม่รู้ทำไมคิดเช่นนั้น ช่วงที่เป็นก็กินเจ แต่ก็ต้องกลับมากินอาหารที่มีเนื้อสัตว์ เพราะ อรต้องบริจาคเลือด ทุก ๓ เดือน อรตั้งปณิธานไว้ ว่า บริจาคเลือด ทุก ๓ เดือน จนอายุ ๖๐ ปีเลยค่ะ (ถ้าไม่หมดลมหายใจไปก่อนน่ะค่ะ) มีครั้งนึง หมอบอกว่า เลือดอร มีฮีโมโกลบิน น้อยมาก เลือดไม่จม บริจาคเลือดไม่ได้ ก็งง อรก็เข้าออก โรงพยาบาล ตลอดอาทิตย์เลย เพื่อจะบริจาคเลือดให้ได้ จนมาค้นพบที่เลือดมีความเข้มข้นของฮีโมโกลบินน้อย เพราะ อาหารเจ ที่อรทานพอดีน่ะค่ะ ไม่ได้ธาตุเหล็กจากเนื้อสัตว์

แต่ลูกพี่ลูกน้องอร เป็นผู้หญิง กะสามีเธอ นี้ทานเจตลอดชีวิตค่ะ แข็งแรง ผิวพรรณดีมากๆ ตอนท้องก็ยังกินเจ ลูกชาย ๒ คนคลอดมาก็ปกติ

อันนี้ขึ้นอยู่กับคนทานนะค่ะ อรเองก็ทานเป็นช่วงๆ แหะแหะ

เรื่องดื่มน้ำอย่างเดียว ดื่มพวกน้ำนมถั่วเหลือง หรือนมงาดำ น่าจะให้พลังงานบ้างนะค่ะ ^_^

 

"ด้วยแรงกรรม จากเจ้ากรรมนายเวร (ที่เห็น จากที่ท่านสุวานให้ดูบัญชีหนังหมา)

๑ ถึงทำดีทุกวัน สวดมนต์ทุกวัน บุญที่ได้ จะถูก ลดทอนบุญทันที จากอาชีพ ลบบุญออกทุกวัน


วันไหนไม่สร้างบุญเลย ไม่สวดมนต์ ไม่ทำดี บุญในกล่องบุญ ก็หายไป เรียกว่า วันนั้นติดลบ จึงหยุดทำความดีไม่ได้เลย "

บีก็เป็นเหมือนกันค่ะแต่บาปคนละกรณีกับอร เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ สู้ๆ ค่ะ ^^

 

บี (สุวภัทร xxxxxxxx)

เราทำกรรมฐาน เมื่อวานไป ๓ ชม. อรแผ่บุญให้บีแล้วนะ สู้ๆ
สวดมนต์ก็แผ่ให้ตลอด ภาพบี อรได้แล้ว

 

อนุโมทนาคับ จะพยายามปฏิบัติดีให้ยิ่งๆขึ้นไป คับตอนนี้พยายามจะกินอาหาร เพื่ออัตภาพอย่างเดียวแล้วคับ ไม่อยากเน้นรสชาติกลัวติดลิ้นแล้วเพลินหลง

 

ที่คุณอรเขียนเกี่ยวกับพระสังฆราช สอนไว้สวด 3 เดือนได้อานิสงค์ ยังมีข้อมูลอยู่ใหมครับ
อยากอ่านเพื่อเป็นกำลังใจนะครับ( อ้างอิงไม่เป็นครับ..น่าอายจัง)
ตอนนี้ผมก็สวดมนต์เรื่อยๆนะ สวดพอได้ยินคนเดียวเมื่อคืนรู็สึกสงบนิ่งมากกว่าทุกครั้ง
ที่เคยทำมา รู้สึกทั้งตัวประสาทรับความรู้สึกน้อยลง เมื่อยน้อยลง จะขยับก็ได้ปกติ จะคิด เรื่องอะไรก็คิดได้หมด ก็เลยไม่แน่ใจว่ามันสงบหรือมันฟุ้งแบบใหม่ แต่ประเภท ดิ่งลึก ยังไม่เคยครับ ไม่ทราบว่ามีใครเคยมี ประสบการณ์แบบนี้บ้าง

 

ท่านสอนตรงกับ บทสวดมนต์ที่หลวงพ่อจรัญสอน ทุกอย่างค่ะ เรียงตามลำดับเหมือนกันทุกอย่างค่ะ

อรดูในทีวีค่ะ หลายๆๆๆๆปีมาแล้ว หุหุ

 

ได้เข้ามาอ่านเรื่องที่คุณอรเขียนไว้ ได้แง่คิดที่ดีมากเลยนะค่ะ ส่วนเรื่องการสวดมนต์ก็สวดทุกวันค่ะ แต่ยังไม่ค่อยได้ทำกรรมฐาน หรือถ้าทำก็ได้ประมาณ 10-15 นาทีเองค่ะ แต่ได้อ่านเรื่องที่คุณอรเล่ามา ขนาดไม่มีความพร้อม ยังสามารถทำได้ขนาดนี้เลยนะค่ะ แบบนี้เราต้องไปทำบ้างแล้วหละ จะคอยเป็นกำลังใจให้คุณอรนะค่ะ แล้วขอบคุณสำหรับการแบ่งปันประสบการณ์ให้ฟังเพื่อเป็นแนวคิดในการดำเนินชีวิตค่ะ

 

สู้ ๆๆ ค่ะ

 

อนุโมทนา กับทุกท่านนะคับ
พยายาม ทีละนิด ทีละนิด อีก สักหน่อยก็จะกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันเราเอง
เหมือนคนที่ต้องกินข้าวทุกๆวันนั่นแหละคับ

 

คุณอรเขียนเรื่องนี้ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกมากเลยค่ะขอบคุณนะค่ะ ขอถามหน่อยนะค่ะฝึกนั่งสมาธิใหม่ๆนี่เราไม่เป็นสมาธิเลยค่ะนั่งนานๆกำหนดยุบหนอพองหนอกำหนดไปกำหนดมารู้สึกวูบๆเหมือนจะหลับแต่ไม่หลับเพราะเรายังกำหนดลมหายใจอยู่เลยอันนี้คือสมาธิหรือเราจะหลับอ่ะค่ะ มีครั้งหนึ่งนั่งอยู่แล้วรู้สึกว่ามีสมาธิมากเลยค่ะไม่คิดเรื่องอะไรเลยรับรู้ลมหายใจอยู่ดีๆเหมือนวูบๆไปอ่ะค่ะด้วยความกลัวก็เลยรีบออกจากสมาธิ ช่วยตอบหน่อยนะค่ะ

 

ขอโทษที่ตอบช้านะค่ะ อรกลับบ้านตรุษจีนอะจ้า เพิ่งกลับมา แหะแหะ
ที่วูบแล้วรู้ว่าไม่ได้เป็นเพราะเราง่วง จะเป็นเพราะจิตเรามีสมาธิมากเกินไปค่ะ เราต้องถอนสมาธิออกมา อันนี้หลวงพ่อจรัญ ท่านเคยสอนไว้ค่ะ เป็นกันหลายคน

ไม่ทราบว่าเดินจงกรมก่อนนั่งสมาธิด้วยไหมค่ะ?

การเดินจงกรม ก่อนนั่งสมาธิ และเดิน และนั่ง ในเวลาอย่างละ 30 นาทีขึ้นไป(ไม่งั้นไม่มีพลังพอจะแผ่บุญให้ใครได้เลย )และต้องเดินนั่ง ในเวลาที่เท่ากัน เช่น

เดิน 30 นาที ก็นั่งสมาธื 30 นาที เป็นอย่างต่ำ
เดิน 45 นาที ก็นั่ง 45 นาที

จะช่วยเรื่อง วูบได้นะค่ะ อรเอง ปัจจุบันก็วูบค่ะ ตัวจะเอียงไปด้านหน้า หน้าก้มจนคางติดคอ พอรู้ตัวก็ ค่อยๆ กำหนดรู้หนอ แล้วเลื่อนตัวให้นั่งตรงๆ ตามเดิม

วิธีแก้ ของอร คือ อรฝึกทำกรรมฐานบ่อยๆ พอห่างๆ ไป ก็มีอาการวูบเช่นเดิมค่ะ

อีกอย่าง อย่าเพิ่งกลัวอะไรนะค่ะ พอเจอเจ้ากรรมนายเวรจริงๆ เราจะลืมความกลัวไปเลย สู้ๆนะค่ะ อรเป็นกำลังใจให้ค่ะ

ความเพียร ความอดทน จะทำให้ได้หัวใจพระกรรมฐานแน่นอน

อันนี้พิสูจน์แล้วจ้า

 

ขอบคุณ คุณอรมากเลยนะค่ะ คือว่านั่งสมาธิอย่างเดียวค่ะไม่ได้เดินจงกรมค่ะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่อ่ะค่ะพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยค่ะ คือที่บ้านมีหลานน่ะค่ะ จะคอยมากวนตลอดต้องหนีขึ้นมาแบบไม่ให้เห็นอ่ะค่ะ คิดว่าจะไปปฎิบัติธรรมที่วัดเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ทราบว่าจะไปที่ไหนดีน่ะค่ะ คุณอรมีสถานที่ๆพอจะแนะนำได้ไหมค่ะ อยู่ จ.พิษณุโลกอ่ะค่ะ (รบกวนถามอีกนิดนะค่ะ ว่าตอนนั่งแล้วเรามีความรู้สึกว่าเหมือนแขนเราหายอ่ะค่ะประมาณว่ามันว่างๆเหมือนเรามีแขนอ่ะค่ะเป็นเพราะอะไรเหรอค่ะ เพิ่งเป็นเมื่อวานนี้เองค่ะ)