เกือบสัปดาห์คนยังตื่นเกลียวคลื่นใต้น้ำ เชื่อเป็นปรากฏการณ์พญานาค

มุกดาหาร-เกือบสัปดาห์ ประชาชนยังคงหลั่งไหลชมพญานาคเนืองแน่น เผยปรากฏการณ์มีเกลียวคลื่นขนาดใหญ่คล้ายกับมีสิ่งมีชีวิตเคลื่อนไหวอยู่ใต้น้ำทำให้เชื่อว่าเป็นการเล่นน้ำของพญานาค


วันนี้ (7 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวมุกดาหารรายว่า ประชาชนจำนวนมากร่วมพิธีบวงสรวงพญานาคที่สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 2 จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งได้มีผู้เชิญร่างทรงเจ้าแม่ 2 นางพี่น้องซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนจังหวัดมุกดาหาร เป็นผู้ทำพิธี ในขณะที่ฝนตกลงมาโปรยปราย หลังจากทำพิธีเสร็จฝนหายไปและมีเกลียวคลื่นขนาดใหญ่คล้ายกับมีสิ่งมีชีวิตเคลื่อนไหวอยู่ใต้น้ำห่างจากตอม่อสะพานต้นที่ 1 ออกไปประมาณ 5 เมตร ท่ามกลางเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจของชาวบ้าน ที่ได้เห็นปรากฏการณ์ดังกล่าวและเชื่อว่าาเป็นพญานาคอย่างกึกก้อง


<TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>


ภายหลังเกิดปรากฏการณ์เกลียวคลื่นบริเวณเสาสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 มุกดาหาร-สะหวันนะเขต ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมืองมุกดาหาร ตั้งแต่คืนวันที่ 31 มกราคม 2553 ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านแตกตื่น เชื่อว่าเป็นปรากฎการณ์ของพญานาคในแม่น้ำโขง และได้มีประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางไปชมเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง

แม้ลวงเลยมาถึง 1 สัปดาห์ก็ยังมีประชาชนเดินทางมาชมปรากฏการณ์พญานาคเล่นน้ำที่จังหวัดมุกดาหารเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ผ่านมา จนถึงวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ ซึ่งตรงกับวันแรม 8 ค่ำ ซึ่งเป็นวันที่ประชาชนในพื้นที่ได้เชิญร่างทรงเจ้าแม่ 2 นางพี่น้อง ซึ่งเป็นที่เคารพสักการบูชา ของชาวจังหวัดมุกดาหาร มาประกอบพีธีบวงสรวงสักการะบูชาและ ขอขมาต่อพญานาค ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า เป็นเทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำโขง ที่ใครจะลบหลู่ดูหมิ่นไม่ได้

ทั้งนี้ เพราะอาจมีอันเป็นไปต่อชีวิต และปัจจุบันก็ยังคงสืบทอดกันต่อมา ท่ามกลางประชาชนจากทุกสารทิศ โดยไม่แบ่งแยกว่าเป็นกลุ่มสีแดง สีน้ำเงิน และสีเหลือง ร่วมในพิธีดังกล่าวและชมปรากฎการณ์พญานาคโผล่ที่สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 2 มุกดาหาร นับหมื่นคน ทำให้บริเวณดังกล่าวคับแคบไปโดยถนัด ประชาชนต้องจอดรถไว้บริเวณรอบนอกแล้วเดินไปร่วมพิธีไม่ต่ำกว่า 1 กิโลเมตร เนื่องจากหาที่จอดรถไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับประชาชนที่จะไปร่วมพิธีและอยากเห็นปรากฎการณ์พญานาคเล่นน้ำครั้งนี้





สำหรับบรรยากาศของการทำพิธี ร่างทรงได้นำเครื่องบรรณาการและเครื่องบูชาต่าง ๆ ที่เป็นรูปพญานาค ซึ่งได้จัดเตรียมมาเป็นอย่างดี ประกอบพีธีตามขั้นตอนของการบูชาและบวงสรวงพญานาค ที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้สืบทอดกันมายาวนาน ซึ่งในขณะที่ทำพีธีดังกล่าวได้มีฝนตกลงมาโปรยปราย แต่หลังจากทำพิธีเสร็จแล้ว ฝนที่ตกก็ก็หายไปพร้อมกับปรากฏเกลียวคลื่นขนาดใหญ่บริเวณเสาสะพานและห่างออกไปจากใต้สะพานลงไปทางใต้ประมาณ 5 เมตร จำนวนหลายครั้ง ทำให้ประชาชนที่เข้าร่วมพิธีบวงสรวง และรอชมปรากฏการณ์พญานาคเล่นน้ำที่จังหวัดมุกดาหารครั้งนี้ส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจ ที่ได้เห็นปรากฎการณ์ดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าเป็นการเคลื่อนตัวของพญานาคที่อยู่ใต้น้ำ

จากการสอบถามประชาชนที่มาชมปรากฏการณ์พญานาคเล่นน้ำที่จังหวัดมุกดาหาร ครั้งนี้หลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เห็นคลื่นขนาดใหญ่จริง แต่ไม่กล้ายืนยันว่าจะเป็นพญานาคหรือไม่ เพราะไม่ได้เห็นลำตัว หรือส่วนหนึ่งส่วนใดอย่างชัดเจน เห็นเพียงเกลียวคลื่นขนาดใหญ่คล้ายลำตัวของสิ่งมีชีวิตเคลื่อนไหวอยู่ใต้น้ำเท่านั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีใครลบหลู่เพราะกลัวมีอันเป็นไปต่อชีวิตของตัวเอง ตามความเชื่อของบรรพบุรุษที่สืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งไม่เฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ตามสองฝั่งแม่น้ำโขงเท่านั้น ประชาชนทั่วไปก็เชื่อเช่นเดียวกัน





ผลจากกระแสตื่นพญานาคดังกล่าวส่งผลให้การท่องเที่ยว และการค้าขายของจังหวัดคึกคักตามไปด้วย หลังจากที่ประชาชนได้เดินทางมาชมปรากฎการณ์พญานาคที่จังหวัดมุกดาหารแล้ว ขากลับได้เดินทางไปเที่ยวชมและเลือกซื้อสินค้าที่ตลาดอินโดจีน ทำให้การค้าการขาย การท่องเที่ยวและธุรกิจที่ต่อเนื่องจากการท่องเที่ยว เช่น ที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก เป็นไปอย่างคึกคัก

จากการที่ได้มีประชาชนเดินทางมาดูปรากฎการณ์พญานาคเล่นน้ำที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 เป็นจำนวนมาก พล.ต.ต. ปราโมทย์ เอี่ยมทัศน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สามารถ แก้วเนตร ผู้กำกับการตำรวจภูธร เมืองมุกดาหาร ให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสายตรวจ และจราจร ไปอำนวยความสะดวกด้านจราจรให้กับประชาชน รวมไปถึงการเฝ้าระวังป้องกันพวกมิจฉาชีพที่แอบแฝงเข้ามา ก่ออาชญากรรมและความเดือดร้อนให้กับประชาชนและ นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปชมปรากฏการณ์พญานาคเล่นน้ำที่สะพานมิตรภาพ 2 ครั้งนี้ด้วย

ในขณะเดียวกัน ได้มีผู้นำภาพถ่ายพญานาคซึ่งมีการถ่ายภาพไว้ก่อนหน้านี้มาจำหน่าย และตั้งตู้รับบริจาคจากประชาชน เพื่อนำเงินที่ได้ไปสร้างพระใหญ่วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งจะมีการวางเสาเอกในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ ตามนิมิตของพระยอดชาย อานันโท ที่บอกกับชาวบ้านถึงปรากฏการณ์พญานาคที่ปรากฎขึ้นที่จังหวัดมุกดาหารครั้งนี้ว่า เพื่อมาช่วยและแสดงความยินดีกับการก่อสร้างพระใหญ่ที่จังหวัดมุกดาหาร



http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000017606

 

ดีครับ กระตุ้นเศรษฐกิจ

 

อืม! แล้วแต่จะพิจารณา

 

ขอให้เจริญในธรรม ต่อๆไปครับ...

 

เห็นด้วยครับ

 

ไปดูมาแล้วด้วยตาตัวเองครับ ไม่ทราบเจ้าของกระทู้ไปดูมารึยัง
ผมไปกางเต้นท์นอนรอดูทั้งกลางวัน-กลางคืนเพื่อพิสูจน์ว่าจริง รึ ไม่จริง

แรกเริ่มเดิมที เขาเล่าว่า มีพญานาคปรากฎกลางน้ำโขง แผ่หัวออกมาสวยงาม
ตั้งแต่วันที่ 1 เป็นต้นมา
เมื่อผมได้ข่าว ก็มาพิจารณาว่า มงคลตื่นข่าวรึเปล่า เล่าต่อๆกันมารึเปล่า
เลยไปพิสูจน์ ก็เห็นว่า ที่มงคลตื่นข่าวก็มี เห็นร่างทรงกราบใหว้ ก็ใหว้ตาม(นี่มงคล
ตื่นข่าว) ที่อยากลองดีก็มี(เข้าโรงพยาบาลไปแล้ว 1 คน) ที่ไปดูเฉยๆก็มี

เรื่องของเรื่องครือว่า..
มีพระธุดงค์มาจากประจวบ(ได้คุยกับพระท่านมาเอง) ไม่ใช่มาจากหนองคายนะ
พระนี้ได้นิมิตรว่าจะมีพญานาคมาขึ้นตรงสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว ที่มุกดาหาร
ว่าแล้วก็พระก็เลยมาดูว่าจะจริงใหม เลยเห็นยังกะในภาพนี่ล่ะ แต่พระว่าวันแรกๆ
จะชูหัวขึ้นมาเหนือน้ำบ้างบางครั้ง แต่วันที่ผมไปดูเห็นแต่ใต้น้ำ

จากการที่ผมนั่งรอดูนาน เห็นแค่เงาใต้น้ำว่ายไปว่ายมา ลักษณะเหมือนงูแต่ไม่
โผล่หัวขึ้นเหนือน้ำเลย แต่ส่วนที่เป็นคลื่นใต้น้ำก็มีคับ

และเมื่อไม่เห็นด้วยตาเลยต้องดูด้วยใจ เลยเห็นว่า พญานาคจริง สีเขียว ท่านมาเอา
พระแกะหินทรายสลัก ลักษณะเหมือนพระซุ้มกอองค์ใหญ่พอสมควร เอาหางพันลงเมืองข้างล่าง ส่วนที่ลอยไปลอยมาบนน้ำเป็นเพียงบริวาร ไม่มีหงอน แต่มีเหมือนหนวดปลาดุก
เป็นเคราใต้คาง เหนือกว่างูแต่ยังไม่ใช่พญานาค
แลตรงนั้นมียักษ์ชื่ออินทรลักษณ์(รึอินทรยักษ์) ไม่แน่ใจในชื่อ เพราะตอนถามชื่อท่าน
ท่านบอกออกมาแล้วคุยเรื่องอื่นต่อ เลยไม่เซ้าซี้ถามอีก ท่านยืคร่อมสะพานใว้ แต่จะอยู่ไม่นาน เดี๋ยวก็ไปแล้ว

ตอนนี้งานพญานาคเอาพระลงข้างล่างเสร็จแล้ว ต่อไปก็ไม่มีแล้ว
ส่วนพระหินทรายนั้น แว๊ปหนึ่งเหมือนพระของหลวงปู่ทองทิพย์ที่หนองคาย องค์ที่ปั่นลงดินหายไป ตอนท่านมรณะภาพ ไม่แน่ใจว่าองค์เดียวกันรึเปล่า ขี้เกียจถาม

สรุป..
ด้วยตาเนื้อ เห็นเพียงเหมือนงูว่ายไป-มาใต้น้ำ ไม่ใช่คลื่นน้ำ

ด้วยใจ ก็ อย่างที่บอกไป พญานาคเขาเชิญพระลงไปในเมืองใต้น้ำ ตรงนั้นเป็นที่
ปฎิบัติธรรมของเขา เป็นหินแท่งใหญ่ยาวไปเกือยถึงหนองคาย ตรงสะพานนี้เป็นทางขึ้น-ลง ในส่วนของที่ไม่ใช่ทิพย์ ที่จะเข้าได้ เลยเอาพระมาเข้าทางนี้นั่นเอง

จบข่าวทริปพญานาคที่สะพานมุกดาหาร

 

ปรากฏการณ์เหมือนบั้งไฟพญานาค
พวกพิสูจน์ความจริงก็โดนข้อหาขัดขวางเศรษฐกิจไป
สังคมเราบางส่วนเรื่องหวย ขูดต้นไม้ นางพญาตะเคียนทอง ผุดกลางลำน้ำเพราะมีคนฝันถึงฯลฯ ทำให้คนเชื่อพากันแห่กันไปดู ไปบูชา เศรษฐกิจก็คึกคักขึ้น
เพราะกรณีอย่างนี้ ถ้าถือเป็นเรื่องเศรษฐกิจอย่างเดียว สังคมเราก็จะถูกตราหน้าว่า งมงาย
เหมือนกรณีเขากะลา จานผี
เพราะหลักฐานที่ชัดเจนไม่มี เป็นเรื่องจินตนาการต่างๆนาๆ
พญานาค เขาอยู่ในมิติของเขา ทำไมต้องมาปรากฏกายหยาบในน้ำด้วยเล่า

 

ที่ จ. มุกดาหาร มีเมืองพญานาคใหญ่อยู่ที่นึง หลวงปู่ทองทิพย์ ท่านบอกผมว่า ที่นั่นเป็นเมืองพญานาคใหญ่กว่าคำชะโนด ที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี หลวงปู่ท่านบอกให้ผมไปทำพิธีปล่อยเต่าตั้งแต่สมัยท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่ผมยังไม่ได้ไปสักที และก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน แต่หลวงปู่ท่านบอกว่าเป็นหนองน้ำดูด้วยตาก็ไม่ใหญ่ แต่ภายในใหญ่มาก

ก่อนหลวงปู่ทองทิพย์ท่านมรณภาพ ขณะที่ท่านอาพาธ ท่านได้ให้คนขับรถตู้ไปส่งท่านที่มุกดาหาร ท่านบอกว่า หลวงปู่จะไปโปรดสัตว์และโปรดพญานาคที่นั่น

สำหรับวัตถุศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงปู่ทองทิพย์ ก่อนท่านจะละสังขาร ของศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น ได้เคลื่อนที่ไปอยู่ในที่ต่างๆ บางอย่างเคลื่อนไปอยู่ภูเขาควาย บางอย่างท่านส่งขึ้นไปเบื้องบน บางอย่างก็ไปอยู่เมืองพญานาคตามที่ต่างๆ และหลายอย่างก็รอเคลื่อนเข้าเป็นเครื่องบูชาพระพุทธเจ้าห้าพระองค์เมื่อสร้างเจดีย์และปราสาทเสร็จ ตอนนี้ของหลายอย่างเก็บอยู่เมืองพญานาคด้านล่างวัดหลวงปู่ เขาทำหน้าที่รักษาของศักดิ์สิทธิ์ เมื่อถึงเวลาเขาก็จะนำมาบรรจุบูชาพระพุทธเจ้าห้าพระองค์

 

ผมว่าท่านโกรธนะที่ไปสร้างสะพาน รบกวนท่าน

 

ติงไปเรียนที่มุกดาหาร เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ ศกนี้ มีเพื่อนไปด้วย
เพื่อนไปดูเหมือนกันค่ะ
กลับมาก็เล่าเหมือนที่คุณจิ-โปเล่าค่ะ(ในส่วนที่ดูด้วยตาเนื้อ)

 

อนุโมทนาครับ... จงดูด้วยปัญญา...อย่างมงาย...นะครับ...

ไม่ใช่ไม่เชื่อนะ... แต่ให้เตือนสติตนเองว่าดูแล้วได้อะไร...

ดูแล้วเราทำความดีมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่... สาธุ สาธุ สาธุ

 

เค้าไม่ได้โกรธหรอกเรื่องที่รบกวนหรือการสร้างสะพาน

แต่เพียงแค่จะออกมาเตือนว่า เมื่อสะพานสร้างเสร็จแล้ว

อย่าได้ทำเอาไปเป็นธุรกิจส่วนตนให้มาก นั้นคือ ต่อไปเมื่อสะพานสร้างเสร็จ จุดตรงนั้น

จะเป็นจุดเชื่อมต่อด้านเศรษฐกิจอีกที่หนึ่ง ซึ่งสิ่งที่ตามมาแน่นอนคือการเอาผลประโยชน์

นาคท่านแค่มาบอกว่า ให้รู้จักความเหมาะสมเท่านั้นเเหละ

แจ้งมาเพื่อทราบ

ป ล หากเห็นแก่ตัวกันมาก ก็อย่าได้มีการสร้างอะไรไว้ตรงนั้นเลย ต่อไปจะไม่มี

 

มี วีดีโอ ปะครับ อยากดูครับ

 

โพสต์ไม่ไปเลยค่ะ net ไม่ค่อยดี

อยากมีจิตสัมผัส ท่านพญานาคราช บ้างเจ้าค่ะ

 

พญานารคเป็นเรื่องคู่กันกับพระพุทธศาสนา ครับ

 

Turbulence flow หรือ Eddy current ครับ

 

ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่พญานาค
แต่สิ่งที่เห็นได้เป็นๆและชัดๆคือ ศรัทธาค่ะ
เรื่องนี้ยอมรับเลยว่า นานาจิตตัง
แม้กระทั่งคุณครูที่โรงเรียนยังพูดเหมือนกับบอกว่าคนที่เชื่อไม่ฉลาด
แต่สำหรับหยี เชื่อมานานก่อนมีเหตุการณ์นี้ เชื่อว่าตลอดเส้นทางที่แม่น้ำโขงพาดผ่านเป็นดินแดนแห่งเหล่านาคราช
คิดเหมือนตาในของคุณจิ-โป ค่ะ คิออยู่ว่าสิ่งที่เกิดอาจเป็นสิ่งที่แทนว่า
มีท่านจริงแต่มาลักษณะของตัวแทน ซึ่งไม่ใช่ท่าน
*ความเห็นส่วนตัวอ่านะคะ
แต่วันที่7ที่ไปรู้สึกดีตรงที่เห็นคนที่ไป หลังจากได้เห็นคลื่นน้ำที่ไม่ใช่คลื่นน้ำธรรมดา
จะพูดว่า "เห็นแล้ว เห็นท่านแล้ว" พร้อมกับสีหน้าที่ยิ้มแย้มแล้วกลับบ้าน
วันนั้นที่หยีไปก็เห็นแต่ไม่แน่ใจ แต่วันนั้นไม่กะไปดูพญานาคนะคะ กะไปดูศรัทธาของคนค่ะ มุกดาหารคือบ้าน แม่น้ำโขงเหมือนแม่ที่เลี้ยงดู

ขอบคุณศรัทธาของมหาชนค่ะ

 

เท่าที่รู้ ในเมืองไทย มีพวกทิพมาเกิดเปนมนุษมาจากหลายเผ่ามาก นาค ครุฑ ยักษ etcพวกเราต่างเกี่ยวข้องกันทั้งนั้น เท่ากับว่า มนุษย์ มีพวกทิพเหล่านี้ เปนทั้งญาตและนายเวร การให้เท่านั้นที่จะเปนการส่งเสริมสังคมทิพ ทำมิตรให้แข็งแกร่ง ทำศัตรูให้เป็นมิตร
ปล. พึ่งอำนาจพระรัตนไตร อย่าพึ่งวัตถุหรือศัตศาสตรใดๆ

 

ดีค่ะทุกอย่างเป็นไปตามสิ่งที่ควรจะเป็นไปค่ะ