นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น ใช้เครื่องไทม์แมชชีนเดินทางกลับไปหาพระพุทธเจ้า

นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น ใช้เครื่องไทม์แมชชีนเดินทางกลับไปหาพระพุทธเจ้า
เป็นเรื่องราวที่ผมบังเอิญไปได้ข้อมูลมาเมื่อ เกือบ สามสิบปีที่แล้วครับ ตอนนั้นผมยังเด็กอยู่ นั่งเอากระดาษมาทำเป็นว่าวอยู่ ก็บังเอิญไปเห็นหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ลงข่าวต่างประเทศในฉบับนั้นว่า "ทางการอินเดียได้ประกาศว่ามีการขุดค้นพบ ยานรูปร่างคล้ายแคปซูล มีอายุเก่าแก่มาก ภายในยานมี หนังสือพิมพ์ภาษาญี่ปุ่นลงวันที่.....พศ... ผมจำไม่ได้แต่จำได้รางๆว่า ประมาณปี 50 -52 ครับ นอกจากนั้นก็มีหม้อหุงข้าวหนึ่งใบ และตัวเลข ในยาน บอกเป็นปี สมัยพุทธกาลครับ "ตอนนั้นถึงผมยังเด็กแต่ก็นึกรู้ได้เลยว่า จากหนังสือพิมพ์ที่พบในยาน ผู้เดินทางต้องเป็นชาวญี่ปุ่น สถานที่ค้นพบยาน และปีที่ระบุเป้าหมายการเดินทางน่า จะเพื่อเดินทางไปพบพระพุทธเจ้า แน่นอนครับ แต่ที่สำคัญ เขาเดินทางด้วยตั๋วเที่ยวเดียวครับ เพราะไม่สามารถเดินทางกลับสู่ปัจจุบันได้ และเวลานี้น่าจะเป็นเวลาที่เขาใกล้จะออกเดินทางแล้ว ด้วยเทคโนโลยี่ปัจจุบัน เช่น ปฏิสะสาร และเครื่องต้านแรงโน้มถ่วง น่าจะทำให้สร้างไทม์แมชชีนได้แล้วครับ เป็นเรื่องประหลาดที่เล่าสู่กันฟัง และให้ลองไปคิดสนุกๆดูว่า ถ้าคุณสามารถใช้ไทม์แมชชีนได้ ไปพบพระพุทธเจ้าเมื่อยังทรงพระชนม์ชีพได้ แต่ไปแล้วคุณกลับมายังยุคสมัยคุณไม่ได้อีกต่อไป คุณจะออกเดินทางไปหรือไม่ อีกอย่างคือผมให้เพื่อนที่อยู่ญี่ป่นช่วยseach หาข้อมูลเรื่องนี้เพื่อจะได้ส่งแมสเซสให้เขาได้มีกำลังใจว่าเขาทำสำเร็จนะ ผมขอโมทนาด้วยกับความตั้งใจอันแรงกล้าของพวกเขาครับ พวกคนญี่ปุ่นที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนานี่ไม่ธรรมดานะครับ มีกลุ่มนึง ตั้งโครงการยิงเลเซอร์เพื่อซ่อมแซมพระพุทธรูปที่สูงที่สุดในโลกที่ถูกพวกตาลีบันใน แอฟกานิสถาน ระเบิดทำลายขึ้นใหม่ครับ(verygood)

 

มีแบบนี้ด้วยรึคับ...เขาอาจป็นใครสักคน ที่ตอนนี้ที่กำลังทดลองอย่างขมักเขม้น..ผมว่าเจาะเวลาไปอดีต นี่ยากกว่าไปอนาคตหลายๆเท่าเลยนะครับ..แต่แรงศรัทธานี่ซิครับทำอะไรได้ทุกอย่าง..

 

เหลือเชื่อ

 

...เอาเลย

กักๆๆ

 

ไทม์แมชชีนของโดเรม่อนหรือป่าว อิอิ

 

ว้าว น่าสนใจๆๆ

 

ไม่ต้องไปสร้างอะไรให้ยุ่งยากหรอกครับ
ฝึกจิตกันดีกว่า ศาสนาพุทธเราทำได้มานานแล้ว
แค่เรื่องไปอดีต อนาคต ปัจจุบัน แม้นรกสวรรค์ยังสามารถไปได้
ญี่ปุ่นยังล้าหลังพระพุทธเจ้า ชนิดตามไม่ติดฝุ่น ไกลกันขนาดหลายอสงไขย

 

อ้อ อีกอย่างนึง ถ้าชาวญี่ปุ่นได้เจอพระพุทธเจ้าจริง ป่านนี้คงนิพพานไปแล้ว เป็นผมๆ ก็อาจไม่กลับครับ

 

ถ้าอย่างนั้น อยากให้ช่วยย้อนเวลาไปบอกพระอานนท์ให้อาราธนาพระพุทธเจ้า ให้ไม่ปลงสังขาร คือยืดอายุการปรินิพพานให้นานกว่าเดิมได้ไหม ?
พระพุทธศาสนาจะได้แผ่ไปไกลและกว้าง ยิ่งขึ้น...
เอาใจช่วยนะ..ครับ..

 

อ่านข่าวแล้ว ก้นับว่า ว่า แปลกดี
ไทม์มาชีนของญี่ปุ่น จริงหรือไม่ เป็นเรื่อง ปกติ

ของไทยมีแล้ว เครื่องที่ว่า มีคนไปมาแล้วเกิน 100 คน
เครื่องอยู่ ที่วัดแก้วฟ้า บางกรวย
มีอยู่สี่สิบ (40 เครื่อง)
จะเลือกกลับไปตอนไหนเพื่อเฝ้าพระพุทธองค์ในขณะใดก็ได้ ในเวลาไม่เกิน 2 นาทีในการเดินทาง

ตั้งแต่ เพิ่ง ประสูตร จนถึงพระนิพพาน
เลือกเอาตอนไหนก็ได้
จะเหมือนเราอยู่ในตอนนั้นๆๆ
ที่ตื่นเต้นและฝังใจมากที่สุด มีอยู่สี่กาล
1. ตอนประสูตรและกลับเข้าวัง เหมือนเรา อยู่ในห้องนั้นด้วย
ได้เห็นได้ยินเสียงอันน่าสรรเสริญ
ที่ ศาสดาผู้ยิ่งใหญ่ได้มาเกิดบนโลก
และ เริ่มต้น ธรรมแบบพุทธ

2. ตอนสรัสรู้ เหมือนเรายืนอยู่หน้าต้นโพธิบัลลังก์นาคปรก
ห็นและซีมซับบรรดากาศ แห่งช่วงกาลแห่งการตรัสรู้
ขลังขนาดใหน ท่ามกลางบรรยากาศที่ ขรึมและขลังแห่งพุทธบารมี
และ เสียง ฝน หล่นเปาะแปะที่เต้นไปพร้อมไปกับหัวใจ

3. กาลแห่งวันมาฆบูชา อันศักดิ์สิทธิ์ ที่ มีพระสงฆ์ 2500 รูปมาชุมนุม เหมือนเราได้ไปอยู่ ณ ที่นั้น และได้ฟัง พระปฐมเทศนา อันเป็นมหามงคลยิ่งนัก

4. กาลแห่งพระนิพพาน ที่สงบนิ่ง เป็นบรรยากาศแห่งความเศร้าที่ มหาพุทธองค์ได้ละสังขารไป และสำเหนียกถึง คำสอนที่ บอกว "ทุกอย่างเป็นอนัตตา" และการพลัดพรากจากที่รักเป็นทุกข์

ผมเคยพาผู้คนที่ศรัทราไปเข้า ไทม์มาชีนที่ว่า
มากกว่า 9 กลุ่มผู้คน มากกว่า 120 คน
ทำอยู่นาน แต่มีคนมาขึ้นเวบว่า ผมหลอกเอาคนเข้าวัด
ผมก็เลยเลิกทำ
การไปเข้าไทาชีนที่วัดแก้วฟ้า บางกรวย
ไม่เสียเงิน ยกเว้นจะใส่กล่องทำบุญ ค่าน้ำ ค่าไฟ ให้วัด20-30 บาท แล้วแต่ศรัทรา
ใครว่างน่าจะลองไปเข้าไทม์มาชีนดู
แล้วมาเล่าให้ พวกเราฟัง ว่า เป็นอย่างไร

 

ไปได้จริงเมื่อไหร่ มารับผมไปด้วยแล้วกันนะฮับ

เรื่องเอาเลเซอร์มาซ่อมพระที่บิมิยัน อย่างงี้ไม่ได้เรียกว่าซ่อม เค้าเรียกว่าสเก็ตรูปใหม่เท่านั้นเอง เหมือนเขาชีจจรย์บ้านเรา ไม่ได้สลักหรือหล่อซ่อมแซมใหม่ ต่างกันลิบลับ อย่าพูดให้เขว

เรื่องพุทธะ รูปัง องค์พระที่เป็นวัตถุ ไม่พ้นอนิจจัง ครับ มีความเสื่อมไปเป็น
ธรรมดา ผู้ที่ทำให้เสื่อมก็ได้รับโทษทัณฑ์ ทันตาเห็นไปแล้วครับ

หากจะปฏิสังขรณ์ก็ขอทำโดยศรัทธาเถอะครับ อย่าทำเพื่อวันหน้าจะได้ผูกขาดการจัดทัวร์ให้พุทธศาสนิกชนไปเที่ยวเก็บเงินกันเลยครับ

 

[SIZE=+2]“ย้อนอดีต วัดแก้วฟ้า” [/SIZE][SIZE=+2]อายุ 400 ปีเศษ[/SIZE]
...วัดแก้วฟ้า เป็นวัดโบราณ สันนิษฐานว่ามีอายุในสมัยอยุธยาตอนกลางเนื่องจากได้รับหลักฐานว่าสร้าง พ.ศ.2095 ซึ่งเป็นสมัยรัชกาลสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ.2110 ในรัชสมัยสมเด็จพระธรรมหาราชา หลักฐานนี้สอดคล้องกับการศึกษาค้นคว้าทางด้านโบราณคดี เพราะปรากฏว่าลักษณะอุโบสถ พระพุทธรูป เสมา กำแพงแก้ว ช่องประตูที่กำแพงแก้ว เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองที่มุมกำแพงแก้ว แก้วและเจดีย์หลังอุโบสถ ล้วนมีลักษณะเป็นศิลปกรรมสมัยอยุธยาทั้งสิ้น และเป็นไปได้อย่างมากที่จะมีอายุการก่อสร้างอยู่ในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ เพราะโบราณวัตถุดังกล่าวนั้นมีรูปแบบลักษณะ และการสร้างสรรค์คล้ายกันหรือร่วมสมัยกันเป็นศิลปกรรมในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์อย่างชัดเจน
.....ต่อมา ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ในสมัยรัตนโกสินทร์ และหลักฐานที่สำคัญในสมัยรัตนโกสินทร์ คือ สมุดข่อยเรื่องทศชาติ ชาดก และพระเวสสันดรชาดก และมีศักราชระบุไว้ว่าสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2355 อันเป็นปีที่ 4 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และหลังจากนั้นวัดแก้วฟ้าก็ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์และบำรุงรักษาอย่างดีสืบมาจนถึงปัจจุบัน

[SIZE=+2]พระผู้สร้าง “วัดแก้วฟ้า”[/SIZE]
.....เป็นชื่อ… ที่มีความหมายสำคัญอย่างหนึ่ง ด้วยเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ยุคนั้น เรื่องเกี่ยวกับสมเด็จพระเจ้าแก้วฟ้า ซึ่งเป็นเรื่องสะเทือนใจประชาชนอย่างมาก กล่าวคือ สมเด็จพระไชยราชาธิราชครองราชย์อยู่ 13 พรรษา ก็เสด็จสวรรคตกระทันหัน พระราชโอรสองค์ใหญ่ คือ พระเจ้าแก้วฟ้า ซึ่งมีพระชนม์ได้ 11 พรรษา จึงได้รับการอัญเชิญขึ้นครองราชย์ครั้งนั้น พระเทียรราชาเป็นพระอนุชาของพระไชยราชา เห็นภัยจะเกิดขึ้นจึงไปอุปสมบท ณ วัดราชประดิษฐาน สมเด็จพระแก้วฟ้าครองราชย์อยู่ได้ 1 ปีกับ 2 เดือน ก็ถูกขุนวรวงศาธิราชกระทำการปลงพระชนม์ ณ วัดโคกพระยา แล้วสถาปนาตนเองขึ้นครองราชย์ได้ 5 เดือน ต่อมาขุนวรวงศาธิราชถูกขุนพิเรนทรเทพ จับฆ่า และเอาศพไปเสียบประจานไว้ ณ วัดแร้ง แล้วอัญเชิญพระเทียรราชาขึ้นครองราชย์ เป็น สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ และ วัดแก้วฟ้า ก็ได้รับการสร้างขึ้นในสมัยนั้น โดยข้าราชบริพารที่มีความจงรักภักดีต่อพระเจ้าแก้วฟ้า ได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในการรำลึกถึง พระเจ้าแก้วฟ้า สืบมาจนตราบเท่าทุกวันนี้

[SIZE=+2]ศาสนวัตถุที่สำคัญยิ่งควรค่าแก่การเคารพบูชา[/SIZE]
.....หลวงพ่อใหญ่ : เป็นพระประธานประดิษฐานในอุโบสถ ซึ่งสร้างขึ้นมาพร้อมกับอุโบสถหลังเก่าเป็นที่เคารพ ศรัทธา เลื่อมใส ของเหล่าบรรดาพุทธศาสนิกชน ทั้งใกล้และไกลที่มาขอพรจากท่านทำให้ โชคดี ชีวิตพบแต่ความร่มเย็นเป็นสุข จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีอายุ 449 ปี
.....หลวงปู่อินทร์ : เป็นอดีตเจ้าอาวาส ท่านเป็นพระเถระผู้มีวัตรปฏิบัติอันงดงาม มีความเคร่งครัดในพระธรรม วินัย เป็นพระหมอยาที่รักษาโรคได้ชงัดนัก
.....หลวงพ่อยิ้ม : เป็นพระประธานประดิษฐานในอุโบสถหลังใหม่อยู่ทางทิศตะวันออกของอุโบสถหลังเก่า อยู่ ระหว่างกำลังก่อสร้าง ซึ่งในกาลนั้นได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมฯ เป็น ประธานพิธีเททอง พร้อมกับทรงพระราชทานแหวนทองคำในกาลนี้ด้วย

คงจะใช่วัดนี้... วัดแก้วฟ้า อำเภอใหม่บางกรวย ถนนบางกรวย-ไทรน้อย
ใครผ่านแถวนั้นก็ลองแวะไปดู แล้วอย่าลืมมองหาเครื่องไทม์มาชีนด้วยนะครับ...

 

ต้องเป็นโนบีตะแน่ๆ เลย...

 

ประสบการณ์ผู้ที่ได้ไปสัมผัสวัดแก้วฟ้า..เป็นรูปภาพพุทธประวัติสามมิติครับ..

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=6830

 

เรียน อาจารย์ตาที่ 3 ครับ

...ในกระทู้ห้องไหนไม่แน่ใจครับ..เขาเอาประเด็นที่ว่า พระพุทธเจ้าท่านมีเชื้อสายเดียวกับคนไทยเรานี่แหละครับ จริงหรือเปล่าครับ

และในลิงค์ที่มีในกระทู้นั้น พอผมไปอ่านแล้วก็พบว่าเขาบอกว่าจริงๆแล้วศาสนาพุทธเกิดในไทยนี่แหละครับ ไม่ใช่ที่อินเดีย เพราะหลักฐาน และอะไรต่ออะไรมากมายที่เขาอ้างมา ลองดูในนี้นะครับ
http://www.life-alonguniversity.com/buddhabirthplace/

ดังนั้นในฐานะที่อาจารย์ดูเหตุการณ์ย้อนอดีตได้ อาจารย์อาจจะทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้ว ผมจึงอยากเรียนถามอาจารย์ ให้ช่วยเฉลยได้ไหมครับ ผมถามด้วยความเคารพอาจารย์ และด้วยความอยากรู้จริงๆนะครับ ไม่ได้มีอะไรอื่นแอบแฝงหรอกนะครับ

 

เป็นความเชื่อ และมุมมองของแต่ละคนครับ แต่ถ้าคุณเป็นผู้เดินทางคนนั้น และคุณเลือกได้ที่จะกลับไปยังอดีต คุณจะตัดสินใจทำอย่างเขา หรือคุณจะกลับไปเปลี่ยนอดีตเพื่อประโยชน์ของตัวคุณเองครับ แต่ที่แน่ๆเขาไม่ได้กลับมาแน่นอน และก็ไม่แน่อีกเหมือนกันที่ว่า อาจมีชื่อเขาอยู่ในพระไตรปิฎกด้วยก็ได้ ลองคิดเล่นๆสนุกๆดูครับ

 

ขอเรียนภาษาก่อนนะแล้วจะตามไป

 

เรื่องพระพุทธองค์เกิดที่ไหน
ศาสนาพุทธกำเนิดที่ใด
ดูง่าย โดยใช้ โลจิค ธรรมดา
1. สังเวณียสถาน ทั้งหมดอยู่ในชมภูทวีป โรงเรียนสอนศาสนา นาลันทา ก็อยู่
ที่นั่น
2. พระเจ้าอโศก มหาราช เป็นชาวอินเดีย ที่ ใช้กองทัพธรรมในการเผยแพร่
ศาสนาพุทธ
3. ศาสนา พุทธ มาที่พม่าก่อนไทย มากมาย ประมาณ 2000 ปี
ประเทศไทย มาโดยพระสงฆ์จาก ชมภูทวีปโดย พระอุตตระ และ
พระโสณะ ในยุค ทวาราวดีศรีวิชัย และขึ้นไปเหนือ ในยุค กรุงสุโขทัย/
ศรีสัชนาลัย (ประมาณ 700 ปี)
และ ที่ ลำพูน โดยพระนางจามเทวี

4 พระสงฆ์นุ่งจีวร แทนที่จะนุ่งถกเขมร หรือ นุ่งกระโจงขาสั้นแบบไทยๆโบราณ
จีวรคือ การดัดแปลงประยุคมา จาก การนุ่ง ห่มอย่าง ชาวอินเดียในปัจจุบัน
ดูจากแขกยามแท้ๆก็ได้ ที่ใช้ผ้าพันๆๆรอบตัว ในสไตล์ ส่าหรี่

อย่าไปชาตินิยม ว่า ศาสนาพุทธ เกิด ในสยาม เลยครับ แต่ในอนาคต
ประเทศไทย จะเป็นศูนย์กลางศาสนาพุทธที่สำคัญที่สุดในโลก โดยเฉพาะ
ยุค แห่งพระศรีอาริย์ เพราะ ท่านจะมจุติในไทย